คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 7 100%
7
JIN Part
นี่มันก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วตั้งแต่วันนั้น ผมพยายามหลบหน้าเขาตลอด ก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน เวลาอยู่ในห้องผมก็จะเงียบ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร แต่ดูเหมือนจองกุกก็ไม่ค่อยอยากจะพูดกับผมเท่าไหร่
ส่วนเรื่องสอบเต้นเราก็ได้คะแนนเต็มอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทีมที่ผ่านออดิชั่นเป็นทีมที่สิบสี่ เฮ้อ อันที่จริงผมแอบหวังนิดหน่อย ว่าจะได้เป็นเด็กฝึกกับเขาบ้าง แต่คงยาก เพราะผมเต้นไม่ดีเลย
“ เอ่อ... นายผู้จัดการ พอดีว่าประธานอยากพบนาย”
ผมหันหน้าไปมองจองกุกอย่างตกใจ อะไรนะ? ประธานค่ายเขาอยากพบผมงั้นหรอ!? นี่อำกันเล่นรึเปล่าเนี่ย
“ นะ นาย อำฉัน??” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
“ ฉันพูดจริงนะ” จองกุกพูดก่อนจะเอามือถือที่มีข้อความของประธานมายืนยันให้ผมดู ผมมองอย่างไม่เชื่อ แต่เขายังคงยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
“ แล้วประธานนายอยากเจอฉันทำไม? ” ผมลืมเรื่องที่จะหลบหน้าเขาเพียงเพราะความอยากรู้นี่แหละ
จองกุกดูเหมือนจะดีใจที่ผมดูสนใจขนาดนั้น
“ ฉันไม่รู้ วันนี้นายไปกับฉันสิ เดี๋ยวฉันต้องเข้าบริษัทอยู่แล้ว โอเคนะ”
“ อะ อื้อ ” ผมไม่รู้อะไรดลใจตอบตกลง ไม่รู้ว่าเพราะความตื่นเต้นหรือเพราะหน้าใสๆของเขาเวลาที่มองมาแล้วมันชวนให้ใจเต้นแปลกๆก็ไม่รู้
ตอนเย็นผมเดินไปขึ้นรถของจองกุกพร้อมกับเขา ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปหาประธาน ผมกังวลมาตลอดทาง แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะหวังบางอย่าง
ผมเหลือบมองจองกุกเป็นระยะ วันนี้เขาดูอารมณ์ดี เพราะระหว่างทางเขาฮัมเพลงตลอดทางเลย
จองกุกเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าตึก มีแฟนคลับรออยู่ประปราย ทันทีที่เข้าก้าวลงจากรถ ก็มีแฟนคลับเข้ามารุม แต่การ์ดมากั้นได้ไว้ทัน
เขายิ้มให้แฟนคลับ ยื่นมือไปจับบ้าง รับของบ้าง ดูไม่ถือตัวซักนิด ทำให้ผมยิ้มไปกับภาพตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว
ผมเดินตามเขาไปห่างๆ เพราะแฟนคลับที่เบียดเสียด จองกุกหยุดเดิน หันไปดูรอบๆเหมือนทำของหาย ก่อนที่สายตามาหยุดที่ผม ก่อนจะทำสีหน้าโล่งใจ แล้วเดินตรงมาจับมือผมให้เดินตามเขาไปติดๆ เรียกเสียงกรี๊ดให้แฟนคลับที่เห็น
“ กรี๊ด ผู้ชายคนนั้นใครกัน ทำไมหล่อ > <”
“ เพื่อนจองกุกโอป้ารึเปล่านะ กรี๊ดๆ”
ผมยิ้มให้กับแฟนคลับจองกุก เอ่อ.. อันที่จริงผมเขินนะที่มีคนมาชมแบบนี้ มันรู้สึกดีแฮะ
ไม่นานจองกุกก็พาผมขึ้นมาพบประธานทีชั้น 6 จะเรียกได้ว่าเป็นชั้นบนสุดก็ได้
“ มากันแล้วหรอ นั่งก่อนสิ”
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ประธานโฮซอกก็เอ่ยทัก ก่อนจะผายมือเชิญให้นั่งที่โซฟาที่จองกุกเดินไปนั่งโดยแทบจะทันที ผมจึงเดินมานั่งตามอย่างช่วยไม่ได้
“ ประธานให้ผมพาตัวจินมามีอะไรรึเปล่า?” จองกุกเอ่ยปากถามคำถามที่คาใจผมออกมา
“ ใจเย็นสิ ฉันเรียกมาพูดเรื่องนี้แหละ แกนี่ใจร้อนไปได้ คือว่า หลังจากวันที่พวกเธอสอบเต้นแล้ว ฉันเห็นแววในตัวเธอ และฉันเชื่อว่า ฉันสามารถผลักดันเธอให้ไปถึงจุดสูงสุดเหมือนจองกุกได้”
ประธานบ่นจองกุกก่อนจะหันมาคุยกับผมด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจริงๆ ที่ดูไม่ค่อยเข้ากับประธานซักเท่าไหร่
“ เอ่อ... ผมไม่แน่ใจว่าผมจะทำได้ดีรึเปล่า” ผมตะกุกตะกักตอบ
“ ฉันมั่นใจว่านายทำได้ดี นายผู้จัดการ ฉันสอนนายมากับมือ อิอิ ” จองกุกให้กำลังใจผมโดยการเอามือตบบ่าเบาๆ
“ แต่...”
“ ฉันอยากให้เธอลองมาเป็นเด็กฝึกดู มันก็ไม่เสียหายอะไรใช่มั๊ย ในอนาคตที่เธอจะตัดสินใจมันก็เรื่องของเธอ แค่ฉันไม่อยากให้เธอพลาดโอกาสตรงนี้ไป” ประธานพูดน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งทำให้ผมค่อยๆคิดตาม
“... ผมจะลองดูก็ได้ครับ ” ผมตอบประธานอย่างไม่มั่นใจ
“ เอ้านี่ นามบัตรฉัน มีอะไรก็โทรหาได้ตลอดนะ ยกเว้นเรื่องยืมเงิน =..= อีกอย่าง ถ้าไอ่เด็กบ้านี่ ก่อเรื่องอะไรก็โทรมารายงานได้เลยนะ หุหุ พวกเธอออกไปได้ ฉันจะทำงานต่อ”
“ ได้ครับประธาน” ผมรับคำ ก่อนจะลุกออกจากห้อง
“ จะเรียกเมียมาหาก็บอก โด่” จองกุกลุกขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปแซวประธานอย่างหมั่นไส้
“ เออ รู้ดี ไปเลย ชิ่วๆ” เอ่อ.. ประธานก็ไล่อย่างหมั่นไส้เช่นกัน ฮะๆ
“ ไปเถอะ ปล่อยให้คนแก่รอเมียจนเก้อ เดี๋ยวฉันจะพาทัวร์”
ไม่พูดเปล่า จองกุกกอดคอผม พาออกไปทัวร์อย่างที่เขาว่าจริงๆ เริ่มตั้งแต่ห้องประธาน รองประธาน ห้องประชุมต่างๆ ห้องอัดเสียง ทำให้ผมได้เจอศิลปินดังๆ และเด็กฝึกมากมาย ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าจองกุกไม่ได้หยิ่งเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี แถมดูสนิทสนมมากด้วย
“ Ayo ”
“ ว่าไงพรรคพวก”
จองกุกพาผมมาชั้นใต้ดินที่เป็นห้องซ้อมก่อนจะเปิดประตูเข้าไปทักทายอย่างเป็นกันเอง
“ ไม่ว่าไงหละ จะมาแนะนำคนให้รู้จัก” หมอนั่นพูดกับเพื่อนๆที่อยู่ในห้องประมาณ 3-4 คน ก่อนจะดันไหล่ผมไปอยู่ข้างหน้า ประมาณว่าให้แนะนำตัว
“ อะ เอ่อ... สวัสดี ฉันจิน” ผมทักทาย
“ ไฮ พวกเรา The boyz ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ ฉันวี ส่วนไอ่ตี๋นี่จิมิน ไอ่หน้าโหดนั่นแรพมอนส์ อีกคนก็หมอนี่ นายน่าจะรู้จักแล้วนะ” คนที่ชื่อวีแนะนำแต่ละคนให้ผมรู้จัก รวมทั้งคนข้างๆผมด้วย
“ พวกนาย..”
“ พวกเราจะได้เดบิวต์เร็วๆนี้แหละ >< ” จิมินพูดเหมือนรู้ว่าผมจะทันได้ถามอะไร
อ่า.... ถ้าพวกนี้ได้เดบิวต์คงดังระเบิดแน่เลย
“ นี่ นายผู้จัดการ อีกหน่อย ฉันต้องมาซ้อมเต้นนายต้องมากับฉันนะ” จองกุกบอกผม
“ ทำไมฉันต้องมากับนายด้วยหละ” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ก็มันจริงนี่ ผมก็อยากซ้อมของผมบ้างนะ
“ นั่นดิ ทำไมจินต้องมากับแกด้วยห้ะ ไอ่คนดัง” แรพมอนส์ที่เงียบอยู่นายถามอย่างเคลือบแคลงใจ
“ หนึ่ง นายเป็นผู้จัดการของฉัน สอง นายเป็นเด็กฝึกที่นี่ สาม ฉันต้องเป็นคนสอนนายเท่านั้น!”
“ เห้ย จริงดิ จินเป็นเด็กฝึกหรอ..”
“ แถมเป็นผู้จัดการนายด้วยยย” วีพูดก่อนที่จิมินจะพูดตาม ก่อนจะหัวเราะคิกคักกันสองคน นะ..น่าสงสัยสุดๆ
“ เอ่อ ฉันลืมว่ามีงานต้องทำ ฉันกลับก่อนนะ” ผมเอ่ยลาก่อนจะหันหลังออกจากห้องเลย ก็ผมไม่รู้จะอยู่ทำไมนีนา
“ เดี๋ยวดิ นายผู้จัดการ นายจะรีบไปไหนวะ ”
ผมไม่รู้ว่าจองกุกเขาตามผมออกมาเมื่อไหร่ อีกอย่างเขาฝ่าเหล่าแฟนๆมาที่ป้ายรถเมล์ได้ไง แต่ว่าเขาตามผมมาทำไมกันหละ
“ นายมีอะไรรึเปล่า? ” ผมพูดทำลายความเงียบ ก็จองกุกหน่ะสิ เดินมายืนข้างผมโดยที่ไม่พูดตั้งหลายนาที ปกติหมอนี่หยุดพูดได้ที่ไหนกันเล่า
“ นึกว่านายจะไม่ถามแล้ว ฉันเงียบจนเกือบจะบ้าตาย” หมอนั่นหันมาบ่นกระปอดกระแปดใส่ผม
เอ้า สรุปนี่มันความผิดผมหรอ?
“ สรุปนายมีอะไร?”
“ ก็นายหนะสิ จู่ๆ ก็ออกมา ทำไมไม่อยู่คุยกับเพื่อนฉันก่อน เดี๋ยวอีกหน่อยนายต้องมาซ้อมกับพวกฉันนะ ไอ่พวกนั้นถามใหญ่เลยว่านายไม่ชอบพวกมันรึเปล่า นายจะให้ฉันตอบว่าไงหละ”
“ ฉัน..ฉันแค่ต้องกลับบ้าน มีงานค้าง รถเมล์มาแล้วฉันไปหละ” ผมบอกลาก่อนจะวิ่งขึ้นรถเมล์ไป
ผมเดินไปที่เบาะหลัง เพราะมันกว้างและค่อนข้างจะสบายที่สุด บางทีถ้าไม่มีคน ผมอาจจะนอนเหยียดก็ได้นะ ฮะๆ ใครจะไปรู้
“ ทิ้งฉันอีกแล้วนะ นายผู้จัดการ ”
เฮือกก
“ นายยังตามฉันมาอีกหรอ =[]=” ผมมองจองกุกที่ตามผมมาอย่างตกใจ เขาทำหน้าบึ้งเดินมานั่งข้างๆผม
“ ก็แหงสิ เรายังคุยกันไม่จบ ทำไมนายต้องเดินหนี ไม่สิ วิ่งหนีขึ้นรถเมล์มาด้วยนะ รถฉันก็มี ให้ฉันไปส่งก็ได้หนิ”
“ แล้วนายทำไมไปขับรถนายหละ ” ตัวเองเอาแต่บ่นๆ แล้วตามผมมาทำไมกัน
“ ก็ฉันตามนายมาจนลืมว่าจอดรถไว้ที่หน้าตึก กว่าฝ่าแฟนคลับมาได้ก็แทบจะลมจับแล้ว =3= ว่าแต่บ้านนาย..”
“ ลงตรงนี้แหละ” ผมกดกริ่ง เดินลงไปไปจากรถ ชะงักที่ประตูเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะหันมามองจองกุกเป็นทำนองว่าจะลงไปมั๊ย ทำให้หมอนั่นรู้ตัวรีบเดินตามผมมา
ป้ายรถเมล์นี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก แค่เดินเข้าซอยข้างๆไปซัก สี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้ว บ้านผมเป็นบ้านสองชั้นธรรมดา ไม่ได้ใหญ่โตอะไร อันที่จริงผมอยู่กับพ่อแม่ แต่ว่าพวกท่านไปทำงานที่ต่างประเทศ ผมเลยอยู่คนเดียว โชคดีที่บ้านผมไม่ใหญ่ มันเลยทำให้ไม่เหงามาก อีกทั้งเมื่อก่อน จองกุกแวะมาหาผมบ่อยๆด้วยหละมั้ง ฮะๆ
“ นี่ บ้านนายอยู่ไหน เราเดินมาไกลแล้วนะ”
“ อย่าบ่นมากน่า อีกนิดเดียว นายจะตามฉันมาทำไมฮะ กลับบ้านนายไปเซ่ ”
“ ก็ปวดฉี่หงะ จะถึงยัง >0<”
อ่อ ไอ่ที่บ่นหาบ้านคือปวดฉี่หรอ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า ใครจะไปรู้ได้กัน
“ ถึงแล้ว” ผมบอกพร้อมเปิดประตูรั้ว ไม่ทันที่จะได้ก้าวไป จองกุกก็แย่งกุญแจบ้านที่ผมกำลังจะไปไขไปต่อหน้าต่อตา คงปวดมากจริงๆสินะ
วืดด
ขวับ
จู่ๆ ผมรู้สึกว่ามีคนมอง พอหันไปดูกลับไม่พบใครทั้งนั้น สงสัยจะรู้สึกไปเองหละมั้ง
“ นายผู้จัดการ ไม่เข้าบ้านเรอะ!” จองกุกตะโกนเรียกจากในบ้าน ผมส่ายหน้าเบาๆไล่ความงุนงง ก่อนจะเดินเข้าในบ้านไป
แปะ
“ เหม่ออะไรฮะ” ความรู้สึกอุ่นๆจากมือที่หน้าผากที่มาพร้อมกับเสียงที่แสนจะคุ้นเคย ทำให้ผมหันไปมอง
“ เปล่า”
ผมตอบปฏิเสธจองกุก ก่อนจะเบือนหน้าออกนอกหน้าต่าง ตั้งแต่วันที่ผมพาเขาเข้าบ้าน หลังจากที่กินข้าวเย็นที่หมอนั่นคะยั้นคะยอให้ผมทำให้กิน หมอนั่นก็นั่งเล่นกับผมสักพักก่อนที่ผมจะไล่เขากลับบ้านไป เขาเลยต้องจำใจเรียกคนรถที่บ้านมารับ
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ผมรู้สึกแปลกๆว่ามีคนคอยตามผมแต่ก็นั่นแหละ ผมอาจจะแค่คิดมากก็ได้
“ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว วันนี้ต้องเข้าบริษัทไปซ้อมนะรู้มั๊ย”
“ รู้น่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่นายเถอะ เมื่อไหร่จะกลับไปนอนบ้านตัวเองสักทีเนี่ย”
“ นอนบ้านนายก็สบายดีนี่นา”
ฟังไม่ผิดหรอกครับ หลังจากวันนั้นหมอนี่ก็ขออนุญาตคุณแม่มานอนบ้านผม ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวผมเหงา คุณแม่เขาก็ไม่ปฏิเสธ แถมเป็นห่วงผมอีกต่างหาก ไม่ใช่ว่าผมจะรังเกียจหรืออะไรหรอกนะ ดีซะด้วยซ้ำไปที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน แต่มันก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้แฮะ
“ ฉันเหม็นขี้หน้านาย ” ผมหันบอกอย่างหมั่นไส้หน่อยๆ
“ ขอให้พูดจริงเท้อออออ”
ผมไม่ตอบได้แต่แอบอมยิ้ม เหอะ ทำมาเป็นรู้ทันอีก
ติ้ด ติ้ด
เสียงข้อความโทรศัพท์ผมเข้า ทำให้ต้องล้วงออกมาจากกระเป๋าเพื่อมาดู
‘ ถ้าไม่อยากให้ใครต้องเจ็บตัว เลิกยุ่งกับจองกุกซะ! ’
อะไรกัน! เป็นเบอร์ไพรเวทอีกต่างหาก ส่งมาแกล้งแบบนี้ผมไม่ค่อยขำเท่าไหร่ มาขู่เรื่องเจ็บตัวแบบนี้
“ ดูอะไรอยู่ทำหน้าเครียด ไม่กินข้าวหรือไง ” จองกุกที่พึ่งไปซื้อกับข้าวเดินมานั่งตรงข้ามผม
“ อ่อ เปล่า ไม่มีอะไร กินข้าวเถอะ” ผมบอกปฏิเสธ ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป
ชิ้งง
ผมรู้สึกถึงรังสีแปลกๆ เหมือนมีคนจ้อง แต่ผมคงไม่หันไปดูหรอก มันดูโจ่งแจ้งเกินไปที่ผมจะทำเป็นรู้ตัวว่ามีคนมอง
JK Part
ตั้งแต่ช่วงพักกลางวันผมรู้สึกว่าจองกุกดูแปลกๆไป เขาชอบเหม่อ แล้วหันไปมองข้างหลังบ่อยๆอย่างหวาดระแวง พอผมถามก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร
“ จินระวัง! ”
ผมตะโกนบอกก่อนจะคว้าจินเข้ามาหาตัว
เพล้งง
เสียงกระจกแตกดังอยู่ไม่ไกล ลูกบอลที่ลอยมาจากไหนไม่รู้ อัดใส่กระจกจนแตก ถ้าผมไม่ดึงจินเข้ามาไม่แน่สิ่งที่แตกอาจจะเป็นหัวเขา
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“ เอ่อ .... ขอบใจนะ ปล่อยได้แล้ว” จินพูดก่อนจะผลักอกผมออกเบาๆ
เห็นจินหน้าแดงแบบนี้ผมก็ เอ่อ... รู้สึกแปลกๆแฮะ รู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนตอนที่จินอยู่ในอ้อมแขนผม
“ ไม่เป็นไรนะ ” ผมถามอย่างเป็นห่วง
“ อื้อ ไม่เป็นไร ” ถึงจินจะพูดแบบนั้นแต่ดูจากสีหน้าเขายังคงตกใจและกังวลอยู่ไม่น้อย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรผมถึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่เหตุบังเอิญ
จินไม่พูดอะไรระหว่างที่เราเดินขึ้นตึก
ซ่าาาาา
“ จิน!”
ผมหันไปมองจินอย่างตกใจ ตัวเปียกมะล่อกสั้นเทิ้ม ใครกัน! ใครเป็นคนสาดน้ำมา
“ นาย..”
“ ฉันไม่เป็นอะไร ”
ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรออกไป จินก็ชิงพูดตัดหน้า ไม่เป็นอะไรได้ยังไงกัน นี่ถ้ามีคนแกล้งจริงมันก็เกินไปแล้ว
“ ฉันจะกลับบ้านแล้ว บอกบอสให้ทีว่าวันนี้ขอลา” จินพูดเสร็จก็เดินขึ้นห้องโดยไม่รอผม
วันนี้ตอนบ่ายเป็นคาบชุมนุม พวกเราเลยแอบโดดกลับบ้านได้ แต่ผมกับจินมีซ้อมเต้น แต่ถ้าให้จินไปสภาพนี้คงไม่ไหว ปล่อยไว้ซักวันก็แล้วกัน เฮ้อ~
ติ๊ด ติ๊ด
‘ อย่ายุ่งกับจินถ้าไม่อยากให้จินเป็นอะไร : private number ’
!!
ว่าแล้วเชียวต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ แต่มันทำแบบนี้ทำไม! มันต้องการอะไรจากผม! ผมอยู่นิ่งไม่ได้แล้วหละ ทำไมต้องให้ผมเลิกยุ่งกับจินด้วย!
ตรู๊ด ตรู๊ดด
รับเร็วสิจิน รับเร็วสิ!! ให้ตายเถอะ ผมจะเป็นบ้าแล้วนะ!
talk : มาแล้วๆ ตอนที่ 7 > <
ความคิดเห็น