คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 6 100%
6
JIN Part
“ อื้อออ ”
นี่มันที่ไหนอีกหละครับเนี่ย
ช่วงนี้ผมตื่นมาแต่ละครั้งมักจะไม่ใช่ห้องนอนของตัวเองซักทีเลย ผมจำได้ว่าเมื่อวานผมอยู่ที่บ้านของจองกุก ใช่แล้ว จองกุก
ผมหันมองไปรอบๆห้อง อ่า นี่มันห้องของจองกุกนี่นา ดูที่รูปติดผนังนั่นสิ เป็นรูปเขาทั้งนั้น แต่ว่า....
“ ฉันมานอนบนเตียงหมอนั่นได้ยังไงกัน ก็เมื่อคืน...”
เมื่อคืนผมขอตัวออกมาตอนที่ทานอาหาร ผมรู้ว่าค่อนข้างเสียมารยาท แต่จะให้ผมทำยังไงหละครับ ถ้าผมนั่งอยู่ตรงนั้น น้ำตาผมต้องไหลออกมาแน่ๆ
จองกุกเล่าเรื่องของผมให้พ่อแม่เขาฟัง ผมก็นั่งฟังโดยไม่ได้ติดใจอะไร แต่จู่ๆ ผมก็คิดถึงอดีตทั้งตอนที่เจอจองกุกคนนี้และจองกุกที่เป็นแฟนเก่าผม ผมเลยต้องลุกออกไปห้องน้ำเพราะกลัวจะร้องไห้ต่อหน้าพ่อและแม่เขา อีกอย่างเขาบอกว่าจองกุกเป็นเพื่อนของผม ไม่ใช่แฟน มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
หลังจากที่ผมไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำแล้ว ผมก็เดินไปที่ห้องซ้อมเลย ผมคงไม่มีกะจิตกะใจไปนั่งมองหน้าจองกุกให้เศร้าใจเล่นหรอกครับ
ผมซ้อมหลายรอบ จนมานั่งพักเหนื่อยที่โซฟา แล้วผมก็เผลอหลับไป
แต่ตอนนี้..
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
“ อ่า นี่มันตีห้ากว่าแล้วนี่นา”
เสียงนาฬิกาปลุกผมดังขั้น ทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้มันค่อนข้างจะสายสำหรับผมแล้ว ว่าแต่จองกุกอยู่ไหนกันนะ? ผมต้องรีบไปปลุกเขาก่อนที่เราจะไปโรงเรียนสาย
“ หมอนั่นคงไม่ได้อยู่ซ้อมจนเช้าหรอกนะ”
ผมหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะซ้อมถึงเช้ารึเปล่า แต่ที่ผมมั่นใจคือหมอนั่นเจ็บข้อเท้าชัวร์ เพราะตอนกลางวันที่ล้มข้อเท้าเขาบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ อต่ผมเลือกที่จะเงียบไว้ ถ้ายิ่งเขารู้ว่าผมรู้ หมอนั่นก็คงยิ่งกังวลไปอีก
ผมเดินออกจากห้องนอนไปที่โถงทางเดิน แล้วผมก็พบว่าห้องนอนของเขาอยู่ห่างจากห้องซ้อมแค่สองห้องเอง
ครืดดด
ผมเปิดประตูห้องซ้อมเข้าไป พบว่าจองกุกนอนหลบอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่ผมเผลอหลับเมื่อคืน
“ นี่นาย ตื่นได้แล้วนะ”
ผมเรียกของกุกหวังให้เขาตื่น แต่หมอนี่ก็ไม่ยอมตื่น ผมเลยต้องเขย่าตัวเขาดู
“ นี่ นาย ตื่นได้แล้วนะ เราต้องไปโรงเรียนกันนะ” ผมเขย่าตัวเขาแรขึ้นและเรียกเสียงดังขึ้น แต่หมอนี่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย
“ ย๊า จอน จอง กุก ถ้านายไม่ยอมตื่นฉันจะกลับบ้านแล้วนะ!” ผมตะโกนใส่หูเขาอย่างเหลืออด
“ ตื่นแล้วๆ หูย นี่กะจะเอาให้หูบอดเลยหรือไงกันฮะ คุณผู้จัดการ”
“ ฉันก็แค่ปลุกนายตามหน้าที่ผู้จัดการแค่นั้นแหละ อีกอย่าง หูหนะ”
“ หูอะไร??”
“ เขาใช้คำว่าหูหนวก ไม่ใช่หูบอด รู้ไว้ด้วยนะ ซุปเปอร์สตาร์ ถ้าไม่อยากขายหน้าคนอื่นเรื่องภาษา”
ผมเหน็บแหนมจองกุกเล็กน้อย ก็แหม เขามาเหน็บผมเรื่องผู้จัดการก่อนเองนี่
“ โอเคๆ ยอมละ ว่าแต่นายไม่อาบน้ำแต่งตัวหรอ?”
“ แน่สิ ฉันจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า งั้นเจอกันที่โรงเรียนก็แล้วกัน”
“ เดี๋ยว รอฉันก่อน ”
ไม่ทันที่ผมจะได้เดินพ้นขอบประตูออกไป จองกุกก็เรียกผมไว้
เรียกทำไมอีกหละเนี่ย เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนช้าหรอก
“ จะให้ฉันรออะไรอีก ? ”
“ เดี๋ยวไปพร้อมกันเลยจะได้ไม่เสียเวลา นายลงไปรอข้างล่างเลย เดี๋ยวฉันตามไป”
ไม่ให้ผมได้ค้านอะไร จองกุกก็วิ่งออกจากห้องซ้อมไป ทำให้ผมต้องยืนปลงในความเอาแต่ใจของเขาอยู่สักพัก ค่อยเดินลงไปรอข้างล่างตามคำขอเขา
ไม่นานจองกุกก็วิ่งลงมาพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่
เอิ่ม... จะย้ายบ้านหรือไงกันนะ
“ นี่ นายจะย้ายบ้านหรือไงฮะ” ผมถามอย่างสงสัย
“ ถ้านายอนุญาต ฉันก็ไม่ปฏิเสธนะ ฮะๆ” หมอนั่นพูดก่อนจะกระโจนขึ้นรถ
“ นายฝันอยู่หรอ!”
ผมเอ็ดเขาเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถตามไป
ผมบอกทางมาบ้านผมให้จองกุก หมอนี่ไม่เคยมาเลยซักครั้ง เพราะผมขึ้นรถเมลกลับมาตลอดตั้งแต่ที่ไปซ้อมที่บ้านเขา หรือไม่ก็ให้เขาส่งที่ไกลๆจากบ้าน ไม่ใช่ว่าผมอายที่บ้านเล็กหรืออะไรหรอกนะ แค่ผม...ช่างเถอะครับ
แต่ว่ากว่าเราจะมาโรงเรียนได้นี่เกือบเจ็ดโมงเลยนะ ใครจะไปรู้ว่าจองกุกจะอาบน้ำนานเป็นบ้า ผมว่าผมอาบนานแล้วนะ เจอหมอนี่เข้าไปนี่ยิ่งกว่า สำอางสุดๆเลยหละครับ พวกดาราดังจะอาบน้ำนานเหมือนกันทุกคนมั๊ยนะ
หลังอาบน้ำแต่ตัวเสร็จ เราก็ไม่มีเวลามาทำอาหารเช้ากินเองหรอก ผมสั่งให้จองกุกรีบขับรถมาโรงเรียนทันที มากินที่โรงเรียนออกจะสะดวกกว่าเยอะ
ไม่นานหลังจากที่จองกุกขับรถเข้ามาในเขตโรงเรียน ก็ตกเป็นเป้าสายตาอีกตามเคย มันจะดีมากถ้าไม่ได้มองมาที่ผมด้วย ถึงผมจะค่อนข้างชิน แต่ว่าแบบนี้มันมากเกินไป สายตาทุกคู่ต่างมองมาที่ผม ก่อนจะซุบซิบนินทา หาว่าผมคิดจะคบกับหมอนี่เพราะเหมือนแฟนเก่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับ
“นายไปกินข้าวเถอะ ฉันไม่หิว ” ผมบอกจองกุก ก่อนจะเดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์เสีย
“ อ่าวเฮ้ย ไปด้วยกันสิจิน”
ผมไม่สนจองกุกที่ตะโกนไล่หลังมา
50%
จินเดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์เสีย ปล่อยให้จองกุกมองตามไปอย่างงงๆ
“ นี่ฉันไปทำอะไรให้โกรธรึเปล่าเนี่ย?”
จองกุกพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปโรงอาหารท่ามกลางสายตาของทุกคู่ ที่มองอย่างเคลือบแคลงใจในความสัมพันธ์ของเขากับจิน
“ หมอนั่นไม่กินเพราะไม่หิวจริงๆหนะหรอ?”
เขาคิดกับตัวเองหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อแซนวิชกับนมไปให้จิน เผื่อว่าจินจะหิว
“ นายผู้จัดการ ฉันมาแล้ว อะ อ่าว”
จองกุกเดินเข้าห้องมาหาจินอย่างอารมณ์ดีปรากฏว่าไม่มีคนที่เขาตามหาอยู่ในห้อง
“ เอ่อ.. เห็นจินมั๊ย?”
จองกุกถามนักเรียนหญิงที่นั่งอยู่หลังจิน แต่เธอบอกว่าเห็นจินเอากระเป๋าเข้ามาเก็บก่อนจะเดินออกไปเลย
“ ไปไหนของเขานะ ”
จองกุกถามตัวเองก่อนที่เตรียมจะเดินออกห้องไปตามหาจิน แต่ต้องกลับเข้าที่เพราะอาจารย์ได้เข้ามาสอนคาบแรกแล้ว
“ อ่าว จินไปไหนหละ”
“ จินออก...”
“ หมอนั่นไม่ค่อยสบายครับ เลยนอนพักอยู่ห้องพยาบาล” เขาพูดแทรกก่อนที่เพื่อนร่วมห้องคนนึงจะได้พูดจบ ขืนบอกว่าออกไปไหนไม่รู้คงโดนหักคะแนนแน่ บอกไปว่าไม่สบายซะยังดีกว่า เพราะจินรักคะแนนซะขนาดนั้น
เพื่อนร่วมชั้นมองจองกุกอย่างไม่เข้าใจ ก็เมื่อเช้า เขาเป็นคนถามเองนี่นาว่าจินอยู่ไหน แต่ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าอยู่ห้องพยาบาลได้หละ
ตลอดภาคเช้า จินไม่ลงมาเรียนเลย ช่วงพักจองกุกมีเวลาออกไปตามหา แต่หาได้ไม่นานก็หมดช่วงพัก โทรหาจิน เขาก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ
“ หรือว่ากลับบ้านไปแล้วนะ ”
จองกุกพูดขณะกำลังเดินออกจากห้องไปกินข้าวเที่ยง
ไม่ทันที่จองกุกจะได้สงสัยอะไรอีก จินก็เดินเข้าห้องเรียนมา หลังจากที่หายไปนาน
“ นี่ นายหายไปไหนมาหา! โทรไปก็ไม่รับ ”
จองกุกคว้าแขนจินที่กำลังเดินผ่านเขาไป
เสียงที่ดังของจองกุกทำให้ทั้งคู่เป็นที่สนใจของคนในห้องอีกครั้ง
จินหันมองดูเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่มีท่าทีสนใจ ก่อนจะสะบัดแขนออกจากการจับกุมของจองกุก ตรงไปยังโต๊ะเรียนเพื่อหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ในกระเป๋านักเรียนออกไป
“ เดี๋ยวสินายผู้จัดการ รอก่อน”
จองกุกรีบเดินตามจินไป ระหว่างทาง ทั้งคู่ยังตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งโรงเรียน ยิ่งทำให้ข่าวซุบซิบแพร่เร็วยิ่งกว่าไวรัส ถึงหูใครบางคน....
JK part
จินหายไปไหนมาไม่รู้ฮะ ตั้งแต่คาบแรก ผมโทรไปก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ กลับบ้านไปแล้วคงไม่ใช่ เพราะกระเป๋านักเรียนยังอยู่ที่โต๊ะ
พอหมดคาบเช้าขณะที่ผมกำลังจะออกไปกินข้าว จินก็เดินสวนเข้าห้องมา หน้าตางี้บูดเชียวแหละ
“ นี่ นายหายไปไหนมาหา! โทรไปก็ไม่รับ ”
ผมคว้ามแขนจินเพื่อถาม แต่เอ่อ.. ผมว่าผมเสียงดังไปหน่อย
หมอนี่แทบจะไม่มองหน้าผมเลย หันไปมองรอบๆแล้วสะบัดแขนหนีผมเฉย
ไปโกรธใครมารึเปล่าเนี่ย หรือว่าโกรธผม
“ เดี๋ยวสินายผู้จัดการ รอก่อน”
ผมรีบเดินตามไปเมื่อเห็นว่าจินเดินออกห้องไปแล้ว
“ นี่ เป็นอะไรไป โกรธฉันหรอ?”
“ เห้ อย่าเงียบแบบนี้สิ ”
“ หรือว่านายโกรธที่ฉันอาบน้ำช้า? ”
“ พูดกับฉันหน่อยสิ นี่มันจะถึงโรงอาหารแล้วนะ”
“ จิน!!”
ผมพยายามถามจินตลอด ระหว่างที่เราเดินไปโรงอาหาร แต่หมอนี่ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลย จนผมแทบทนไม่ไหว ตะโกนเรียกชื่อจินกลางโรงอาหารเลยแหละ
ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ผม ทุกคนสนใจผมยกเว้น จิน ไม่เคยมีใครไม่สนใจผมได้ขนาดนี้เลย
“ นี่ นายโกรธอะไรฉัน อย่าลืมนะตอนบ่ายเรามีสอบเต้น ถ้าเกิดนายโดด นายก็ไม่ผ่านวิชานี้นะ เพราะฉะนั้นถ้าจะโกรธ ไว้หลังวันนี้ก็แล้วกัน”
ยิ่งผมพูดก็เหมือนจะยิ่งโกรธไปใหญ่ เดินไปซื้อข้าวเฉยเลย ผมก็ได้แต่เดินตามต้อยๆ ไปกินข้าว
“ นี่ แก ดูสิ ขนาดจองกุกตามต้อยๆ รุ่นพี่ยังไม่สนใจเลยอะ” หญิงหนึ่ง
“ นั่นดิ สงคนนี้ เป็นอะไรกันรึเปล่า” หญิงสอง
“ ถ้าเกิดยัยนั่นรู้เข้าหละก็...” หญิงสาม
“ บรึ๋ยย ”
สามสาวโต๊ะตรงข้ามซุบซิบนินทาผม ไม่ใช่แค่ทั้งสาม แต่แทบจะทุกคนที่ผมเดินผ่าน ว่าจินบ้างหละว่าผมบ้างหละ แต่ผมไม่สนใจหรอก จินก็คงจะ..ไม่สนใจ.... หรอก(มั้ง)
“ จินคร้าบ คุยกันก่อนได้...มั๊ย”
ผมตั้งใจจะพูดกับจินอีกครั้งแต่หมอนี่ก็ลุกหนีผมไปดื้อๆ ทำให้ผมที่ยังกินข้าวไม่เสร็จต้องรีบตามไป
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องสอบเต้นแล้ว พวกเราทยอยเดินไปทีห้องดนตรี จินก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลังจากที่ขึ้นห้องมา หมอนี่ก็มัวแต่อ่านหนังสือ ไม่ก็ฟังเพลงเท่านั้นแหละครับ
“ เอาหละ วันนี้ทุกคนรู้ใช่มั๊ยว่าเป็นวันอะไร”
“ คร้าบบบ/ค่า”
“ ถ้ารู้ก็ดี นั่งเป็นคู่แล้วส่งตัวแทนออกมาจับฉลากเลือกอันดับ เราจะทำเหมือนกำลังจะออดิชั่น เพราะว่า..เรามีคณะกรรมการจากค่ายเพลงมาดูด้วย”
“ โห จารย์ทำไมไม่บอกล่วงหน้าครับ”
“ นั่นสิคะ พวกเราจะได้เตรียมตัวมาดีกว่านี้”
“ แหม แสดงว่าพวกเธอไม่ได้ตั้งใจสอบหละสิ เอาหละ ขอแนะนำ คุณโฮซอกและคุณยุนกิ ”
คุณครูแนะนำให้พวกเรารู้จักกรรมการที่จะมาออดิชั่น เอ่อ... ประธานค่ายผมเองฮะ แต่ผมพึ่งรู้วันนี้เหมือนกันว่าจะมีออดิชั่นผ่านการสอบนี่ ประธานชอบเซอร์ไพร์สอะไรแบบนี้ตลอดแหละ
ผมเหลือบมองจินที่นั่งข้างๆ ดูเหมือนจะตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ แต่ก็แสดงออกไม่มาก
“ เราได้ที่เท่าไหร่? ”
“ เรา เอ่อ... ที่ 9 ”
ผมบอกจินที่หันมาถามลำดับการสอบ นี่เป็นประโยคแรกเลยนะเนี่ยที่จินยอมพูดกับผม ถ้าไม่มีเรื่องให้ถามเลยไม่พูดใช่มั๊ย
“ นั่นประธาน ส่วนนั่นรองประธานเป็นหัวหน้าประธาน ”
ผมชี้ให้จินดูประธานโฮซอกกับรองยุนกิ
จินหันหน้ามามอง พยักหน้า ทำท่าอึกอักเหมือนจะพูด แต่ก็เงียบไป
“ รองประธานยุนกิเป็นแฟนกับประธานหนะ ฮะๆ”
จินนพยักหน้า ผมเลยเล่าเรื่องของประธานให้จินฟัง
ประธานกับรอง ทั้งคู่เริ่มจากการเป็นศิลปินคู่ดูโอ้ เริ่มทำเพลงเองเรื่อยๆ จนเริ่มก่อร่างสร้างตัวตั้งบริษัทขึ้น ที่แรกเป็นบริษัทเล็กๆ ปั้นศิลปินคนนึงขึ้น จนตอนนี้โด่งดังไปทั่วโลก ค่ายก็เริ่มรับเด็กเทรนมากขึ้นๆ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ประธานจะคอยมาดูและสอนเทคนิคต่างๆ ส่วนรองก็ใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ทำให้เรารู้ว่าเราความจะปรับตรงไหน เน้นตรงไหน
“ สวัสดีนะทุกคน อ่า คงตกใจกันนิดหน่อยหละสิที่ฉันมาวันนี้ ฉันเห็นว่าเด็กโรงเรียนนี้มีความสามารถ ฉันเลยอยากมาเห็นกับตา อ๋อ อีกอย่างนะ ฉันอยากจะมาดูเด็กในสังกัดของฉันว่าไม่ได้อู้ มาเรียนแล้วไม่ขยันซ้อมอะนะ จองกุก ”
ประธานพูดกับนักเรียนก่อนจะหันมาเหน็บผมเบาๆ เรียกเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นได้เป็นอย่างดี
“ แน่นอนอยู่แล้วน่า ใครกันแน่ที่อู้ ” ผมพูดเบาๆกับตัวเอง
“ เอาหละ ใครได้หมายเลขหนึ่งออกมาเลย ”
คุณครูเรียกหมายเลขหนึ่งออกไป เป็นคู่ชายหญิง ผมว่าสองคนนี้มันต้องมีอะไรกันแน่ๆหละ เพลงที่เลือกก็เป็นเพลงแนวคู่รัก ท่าเต้นด้วย
แต่ละคู่ที่ออกมาก็ค่อนข้างจะซ้ำๆ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ออกแนวสดใสหน่อยๆ ถ้าชายคู่ก็เป็นพวกฮิพฮอพแข็งๆ แมนๆ
“ ว้าวว นี่ผ่านมาแล้วแปดคู่ โรงเรียนนี้มีนักเต้นที่ไม่ใช่เลยๆเลยนะครับเนี่ย ” รองยุนกิชม
“ ลำดับที่เก้าออกมาได้ ”
เมื่อครูประกาศลำดับ ผมกับจินมองหน้ากันก่อนจะลุกขี้น
“ คู่นี้เป็นที่หน้าจับตามองจริงๆ ” ประธานพูดก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผม ผมเลยยกไหล่กลับไปให้อย่างกวนๆ
“ พร้อมนะ ”
“ อื้อ ”
ผมหันหน้าถามจิน หมอนั่นพยักหน้าก่อนจะพูดเสียงแผ่ว คงจะกังวลไม่น้อย ผมเอื้อมมือไปบีบไหล่จินเบาๆให้กำลังใจ
เสียงเพลงดังขึ้น ผมค่อยๆขยับร่างกายตามจังหวะ รวมทั้งจินด้วย
Yes I do I do do I do
Yes I do I do อุอู่
ทุกคนต่างตกใจที่ผมกับจินเลือกเพลงนี้ ก็แน่หละครับ เพลงที่ผมเลือกเป็นเพลงผู้หญิงนี่นา คนก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา แต่ผมแอบเห็นประธานหัวเราะด้วยแหละ ทุกคนกำลังคิดว่าพวกเราเต้นท่าผู้หญิงอยู่หละสิ บอกไว้เลยว่าคุณคิดผิด ผมเอาท่ามาดัดแปลงนิดหน่อย ทำให้เป็นท่าที่ผู้ชายเต้นได้แบบไม่น่าเกลียดอะนะ
ในช่วงสุดท้ายผมเกิดเสียหลักในท่าหมุนตัวเพราะข้อเท้ายังไม่หายดี ชนจินจนล้มลง กลายเป็นว่าท่าจบของพวกเรากลายเป็นว่าผมล้มตัวลงครอบจินอยู่ซะได้
หน้าของเราห่างกันเพียงไม่ถึงคืบทำให้ผมมองหน้าจินได้อย่างชัดเจนรวามทั้งริมฝีปากรู้กระจับที่แสนยั่วยวนนั่นแล้ว อึก ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเพียงเพราะร่างกายแนบชิดกับคนตรงหน้า..
“ เป็นอะไรที่พวกเราคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ไม่คิดว่าจองกุกจะมาเต้นเพลงผู้หญิงแบบนี้ ”
เสียงประธานเรียกสติผมให้กลับมา ผมลุกขึ้นโดยไม่ลืมที่จะดึงจินขึ้นมาด้วย สัมผัสเมื่อกี้คงทำให้ผมทำตัวไม่ถูกไปอีกนาน สับสนจริงๆ โว้ย!
talk : อัพแล้วๆ อย่าหายไปไหนกันน้ารีดเดอร์ มีอะไรติชม เม้นได้เลยน้า > <
ความคิดเห็น