ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The gap of heart ' ช่องว่าง...?

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro' The gap of heart

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 56


    intro : The gap of heart ช่องว่าง...?

    비가
      딸어지니까 나도딸어질  겉애….
    เมื่อฝนโปรยปราย ผมคิดว่าตัวผมเองคงหล่นลงมาด้วยเช่นกัน

                                                          

                                                          

                ครื้นน!!  ซ่าาาาาาา!!!!


                ฝนตกเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ลมพัดโชยความหนาวเย็นมาเป็นอย่างมาก ก้อนเมฆขนาด
    ใหญ่ปิดบังดวงอาทิตย์จนแทบไม่เห็นทาง ลมพัดเย็นเยือกโบกต้นไม้ไปตามแรงลมอย่างกระหน่ำ

    ใบไม้ปลิวว่อนเต็มไปหมด ความหนาวเย็นจากฝนแผ่ปกคลุมพื้นที่รอบๆนั้นอย่างรวดเร็ว

                เด็กนักเรียนที่มาสมัครเรียนและออดิชั่นใน Anyang Arts High School  หรือ โรงเรียนศิลปะอันยาง. ต่างวิ่งหาที่กำบังกันอย่างชุลมุนวุ่นวายไปหมด.

    หลังคาที่ยื่นออกมาจากบนตึกนั้น อาจจะช่วยให้ไม่โดนฝนได้บ้างในบางที แต่ ณ ตอนนี้แทบช่วยไม่ได้เลย เพราะลมที่มาพร้อมกับฝน ซัดเข้ามาอย่างแรงและไม่ขาดสาย ..
    ..
    .




    “เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกละเนี่ย” 
                       
                     
                     คนตัวบางลักษณะสูง ผิวขาวดังหิมะ แววตาซุกซนหน้าหวานเข้ารูป จมูกและหูแดงอย่างเห็นได้ชัด ปลายผมมีละอองหยดน้ำเกาะผมสีบลอนที่แทรกไฮไลท์ด้วยสีฟ้าปลายผมด้านหน้า ผมด้านหน้าชี้เล็กน้อย      
                      ..เรียกว่าดูดีเลยที่เดียวล่ะ ยืนมองดูฝนที่ท่าจะไม่มีวันหยุดพร้อมกอดสเก็ดบอทคู่ใจไว้ข้างกายเพื่อไม่ให้โดนฝน พลางยกแขนข้างซ้ายก้มหน้าดูเวลาจากนาฬิกาสีฟ้าสีสุดจ๊าบแสนรักของเขา 


     

                   “ Shit!!! เมื่อไหร่ฮยองจะมาเนี่ย ยังออดิชั่นไม่เสร็จอีกหรอ  เอ๊ะ!หรือว่าออดิชั่นไม่ผ่านเลยชิ่งกลับบ้านไปก่อน-8-

                  ....ไม่น่าเป็นไปได้ - - รอนานแล้วน่ะ ฮยองนี่ใช่ไม่ได้เลยจริงๆ
    ”    

                      จุนฮงส่ายหน้าเล็กน้อย พร้อมบ่นกระปิดกระปรอยพี่ชาย ที่ปล่อยให้ตัวเองรอนานขนาดนี้เป็นเวลากว่าครึ่งชม. เขายืนรอพี่ชายพร้อมกับโดนละอองฝนที่สาดมาโดนเขาไม่ถึงกับมากนัก

                   
                   .... ฝนเริ่มเบาลงแล้ว จุนฮงหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา .. เป็นโทรศัพท์รุ่นยุคบุกเบิกเลยก็ว่าได้ อย่างเดียวที่เขาใช้เป็น คือ หน้าจอขาวดำแบบนี้นี่หละ คือมันทนมากกดเบอร์พี่ชายอย่างรวดเร็ว

     
                  **กึกๆๆตุ๊ดๆๆ แก๊ กๆ** (WT: เสียงกดโทรศัพท์ - - อนาถแท้)
                 
                   .........ตุ๊ดดดด    

                  ........ตุ๊ดดดด 
     

                   *ดับ*  

    “แบตหมดหรออ TvvvvT”     ง่า...ทำไงดี ..


                จุนฮงเขย่าโทรศัพท์ที่ไม่รักดี แล้วทุบที่ด้านหลังโทรศัพท์สองสามทีไปมา เพราะไม่รู้จะทำยัง

                 พลางเม้มปากและกัดปากตัวเองอยู่หลายที ..              
               
                 จุนฮงหันมองคนรอบข้างไปมา ..ว่าใครสักคนที่เขาจจะยืมโทรศัพท์โทรหาพี่ชายได้ แต่เขาไม่รู้จะถามใคร เพราะภาษาเกาหลีเขาไม่แข็งแรงเหมือนพี่ชายเท่าไหร่ 

                  ........อาจจะเป็นเพราะความไม่มั่นใจในการพูดมากกว่า  ..จุนฮงหันไปมองคนข้างๆอีกครั้งที่ดูเป็นมิตรที่สุดและน่าจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษพอรู้เรื่องได้บ้าง


                      คนผมสีไวน์แดงตัดผมซอยสั้นเหมือนผู้ชาย
    (?) เหมือนผู้หญิง(?) อืมม  ..ดูแล้วมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเขาเป็นชายหรือหญิงกันแน่น่ะ ...




                     “Hello , .. อ่า Excuse me .. Can’t  I borrow to Phone from you?” จุนฮงโบกมือทักทายไปมาและพูดไปพลางชี้โทรศัพท์ตัวเอง ..

    คนผมสีไวน์แดงหน้าโค้งได้รูปหันมามองจุนฮงพร้อมขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย  และเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ..

                    “อ่า Yes, I can but you use it ..อะ เอ่อ don’t  long  … เอ่อ -0-  because money in my phone have a little bit - - ; very very very muchhhhh ^^;; You understand???

                จุนฮงพยายามรวบรวมคำพูดของผู้ใจดีตรงหน้าที่ติดๆขัดๆอยู่แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากสักเท่าไหร่นัก.
      เขาหัวเราะเล็กน้อยกับคำว่า
    very very very much และเขาก็พยักหน้าเพื่อสื่อความหมายว่าเขาก็เข้าใจเช่นเดียวกัน

               


                      ผู้ใจดีผมสีไวน์แดงคนนั้นใช้มือข้างซ้ายปาดเหงื่อหยาดเล็กที่เกาะอยู่บนใบหน้าจากอาการตื่นเต้นที่พูดภาษาอังกฤษ พร้อมยิ้มเจื่อนๆเล็กน้อย ที่ดูน่าหลงใหลและพาใจเต้นไปตามๆกันสำหรับคนตรงหน้า และรอบๆกาย  เขายื่นโทรศัพท์ให้จุนฮง
               

    ตู้ดดดด 

     

       

    ตู้ดดดดด    



    ตู้ดดดดดดด ,

               
               (Hello..? เอ่อ ยอโบเซโย??)

                จุนฮงเหลือบมองคนรอบข้างเล็กน้อย ว่าเขาจะตอบภาษาเกาหลีพี่ชายดีหรือเปล่า เพราะถ้าเขาตอบภาษาอังกฤษใส่ เดี๊ยวคงโดนสวดอีกแน่ว่าไม่ให้เกียรติคนแก่กว่า

                 และรวมถึงคำสุภาพของเกาหลีด้วย ถ้าพูดภาษาเกาหลี เขาก็กลัวอายสำเนียงของเขาที่มันแปล่งๆกับคนผมสีไวน์แดง เขารู้ได้เวลาคุยกับพี่ชายนี่หล่ะ อืมม... ถ้าไม่ตอบภาษาเกาหลีมีหวังคืนนี้คงโดนไม้หนีบผ้า หนีบเข้าที่ลิ้นสัก
    3ชม.แน่ๆ...

                เขาคงต้องยอมอายจากสำเนียงอุบาตแสนจะรับไม่ได้ เพราะไอ้ไม้หนีบบ้านั้นหละ ..


                   “เอ่ออ.. ฮยอง ผะ ผ๋ม จุนฮงน่ะ  คื้อว่า.. ฮยองยะ ยะ อยู่ไหนอ่า? = = ;;"

              (หืม..สำเนียงแกแปลกไปน่ะตื่นเต้นไรมา? ฉันพึ่งออดิชั่นเสร็จ อยู่หน้าตึกMELODY นายอยู่ไหน)

                  “ อ่อ ไม่มีไรหรอกครับ ผมรอฮยองตั้งนานแล้วที่หน้าตึกสำนักงาน ทางเข้าโรงเรียนฮ่ะ .. เมื่อกี้ฝนตกนักมากๆเลยละ ฮยองรีบๆมาน่ะ ผมปวดขาแล้ว

               (แกข้ออ้างเยอะนะ ฉันกำลังไปอีก 15นาทีคงถึง..โรงเรียนนี้มันกว้างเป็นบ้า- -  )

               “ครับ”

               

                 จุนฮงกดวางสาย แล้ว ยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า  โค้งหนึ่งครั้งกับคำขอบคุณให้คนตรงหน้า

                   “ไม่เป็นไร ^^เอ่อ ... อะ เอ่อ...”     คนผมสีไวน์แดงทำหน้าสงสัยให้กับจุนฮงกับประโยคสนทนาที่เขาคุยกับคนผู้เป็นพี่ในโทรศัพท์เป็นภาษาเกาหลี ทำให้เขาอดสงสัยเสียไม่ได้

                 “คุณชื่ออะไรหรอครับ?
    ^^; ” จุนฮงถามคนตรงหน้าด้วยภาษาเกาหลี ด้วยเสียงที่คนฟังรู้ได้ว่าเขาไม่ค่อยมั่นใจกับการพูดเท่าไหร่นัก ทำให้คนตรงหน้าพอเดาออกว่าจุนฮงคนพูดเกาหลียังไม่คล่องเท่าไหร่นัก เขายิ้มเล็กน้อยแล้วบอกชื่อออกมา

              

              “ฮยอนซึง จาง ..หน่ะ จาง ฮยอนซึง  นายล่ะ?^^

    “ผะ ผะ ผมชื่อ จุนฮงครับ ชเวจุนฮง -//- ....”    จุนฮงพูดตะกุตะกะ เพราะรอยยิ้มของฮยอนซึงก่อนหน้านี้

    “นายเป็นน้องฉันน่ะหรอ J คิคิ ต้องเรียกฉันว่าฮยองสิน่ะ  ...ผู้ออดิชั่นหมายเลข 0157 สำหรับเกรด 10


    ฮยอนซึงอ่านป้ายที่ติดอยู่บนหน้าอกของจุนฮง พร้อมกับคำหยอกล้อเล็กน้อยกับคนที่เด็กกว่า  ยิ่งรู้ว่าพูดเกาหลีได้อีกฮยอนซึงก็แกล้งได้อย่างสนุกเลยละ คึคึ


    “อะ อ่อ หรอครับ
    ^^ แล้วป้ายบนหน้าอกฮะ ฮยองหละครับ? หายไปแล้วหรอ?”


    “ฉันไม่ได้มาออดิชั่นหรอก ฉันเป็นนักเรียนที่นี่อยู่แล้ว แค่มาช่วยโรงเรียนจัดเอก สำหรับพวกนายที่ออดิชั่นมานี่หละ คนเข้าเยอะชะมัดเลยน่ะ ปีนี้
    = =


    รถสปอร์ตสีดำสนิทจอดข้างฟุตบาทหน้าตึกสำนักงาน  กระจกสีทึบค่อยๆเลื่อนลง ทำให้เห็นคนที่อยู่ในรถได้ แต่ก็ไม่มากนัก เพราะความมืดในรถทำให้มองไม่ชัด

    ....เขา คือ จุนฮยอง  ..  พี่ชายของจุนฮงนั่นเอง


    จุนฮงบอกลาและยิ้มที่สดใสขอบคุณเล็กน้อยให้ฮยอนซึง ฮยอนซึงเหลือบมองไปที่คนในรถเล็กน้อยที่เห็นแค่เพียงเงา   แล้วโบกมือบ๊ายบายให้กับจุนฮง  



    เด็กน้อยที่พึ่งรู้จักกันไม่กี่นาทีนี้ .. แต่ฮยอนซึงก็ไม่รู้ว่าเธอเองก็ทำให้จุนฮงตกหลุมรักเธอได้ไม่กี่วินาทีที่เธอยิ้มเช่นกัน

     

     

    ขณะเดียวกัน..

    จุนฮยองก็มองผู้ชายร่างเล็กนอกรถ ที่เรียกว่าสวยได้เลยทีเดียว ที่ยืนข้างๆน้องชายตนเอง  ด้วยสายตานิ่งๆ และครุ่นคิดบางอย่างในหัวที่ใครก็ไม่สามารถเดาได้เลยในสายตานิ่งๆนี้ 
     


     จนกระทั่งทั้งสองคนบอกลากัน จุนฮยองก็กลับไปสนใจกับทางถนนโรงเรียนตรงข้างหน้าเขาเหมือนเดิม


    .......  ฝีเท้าข้างขวา วางตรงคันเร่ง จนกระทั่งน้องชายมานั่งและรัดเข็มขัดเรียบร้อย เขาก็ค่อยๆเหยียบคันเร่งเพื่อให้รถเคลื่อนตัวออกไปจากโรงเรียน...

     

    “ใคร? จุนฮง”  จุนฮยองถาม  แต่ความสนใจของเขาอยู่ที่ถนนมากกว่า ไม่ได้อยู่ที่คำถามเมื่อสักครู่นี้สักนิด..
     

    การขับรถของจุนฮยองที่โซลที่เกือบจะคุ้นดีแล้วเป็นเวลา 2 เดือนแต่ก็ยังประมาทไม่ได้กับเส้นทางนี้เลย


    “ห๊ะ?? .... ?? อ่อ พี่ฮยอนซึงครับ XD สวยใช่ไหมล่ะ คึคึ ผมจองแล้วพี่ห้ามแย่งน่ะรู้ไหม!!” จุนฮงเอานิ้วชี้ ชี้ส่ายไปมาให้พี่ชาย เพื่อบอกว่าแย่งไม่ได้ขาด
     

     “หึ เชิญนายเถอะ ...”  จุนฮยองคลี่ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
     

     ( จุนฮง : สายตาแบบนั้น กับการยิ้มแบบนี้มันน่ากลัวชะมัดเลย  ยิ้มแบบนี้กับคำพูดนั้นทำให้ไม่หน้าวางใจแม้แต่นิด ฮยองคิดจะทำอะไร  )

    จุนฮงกอดอกแล้วมองพี่ชายด้วยสายตาเคืองเล็กน้อย..

     

     จุนฮยองเหลือบไปมองน้องชาย ที่กำลังเอามือปิดปากที่กำลังหาวอยู่
     

    ..หาวแล้ว
     

    หาวอีก..
     

    ...

     

    ....จนกระทั่งจุนฮยองจะหันไปว่าเขาเพราะเขาหาวหลายรอบและไม่เอามือปิดปากในตอนหลังๆ แต่จุนฮงหลับเอาหัวพิงกระจกไปเสียแล้ว  

     

    ...เหมือนเด็กน้อยที่พอได้แอร์เย็นๆสบายๆก็จะหาวและหลับไปในที่สุด


    “หึ จุนฮง.. นายยังเด็กเกินไป ณ ตอนนั้น และตอนนี้ นายก็เหมือนเดิม นายจำอะไรไม่ค่อยได้ ...  สงสัยฉันคงต้องพานายไปตรวจอะไรเกี่ยวกับสมองแล้วสิน่ะ...นายไม่ค่อยสนใจและสังเกตสิ่งรอบกายนายให้ดีเลยสักนิด.. นายมักสนใจแต่สิ่งที่เข้ามาใหม่เสมอเหมือนเด็กๆ ความคิดของนายก็เช่นกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปแม้แต่นิด ยกเว้นร่างกายของนายที่สูงเกือบเปรตของนายเท่านั้นหละน่ะที่ต่างจากเดิม...  ” 
     

    จุนฮยองบ่นจุนฮง ยาวเหยียด ..จุนฮยองแม้จะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เวลาที่บ่นน้องชายเขาจะพูดเยอะมากๆ จนใครที่ไม่สนิทกับจุนฮยองจะแทบไม่เห็นจุนฮยองในบทพูดมากเลยทีเดียว

    “เฮ้ออออ  ฉันละเหนื่อยใจกับแกจริงๆ”   จุนฮยองถอนหายใจยาวๆอีกหลายครั้งให้กับน้องชายที่หลับไม่รู้เรื่องเลย....

     



     

    อะแฮ่มๆๆ!! Stop !! ขอบคุณทุกคนนที่เข้ามาอ่านน่ะค่ะ ^^ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยไม่ค่อยมั่นใจเเลยจริงๆ TvvT ตอนแต่งใหม่ๆจะให้เพื่อนตัวเองติชมก็รู้สึกแปลกยังไงอยู่ ขนาดเพื่อนอ่านยังอายเพื่อนเลยยยย  ไม่รู้จะอายทำไม  แต่ก็น่ะ ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยน่ะค่ะ ^^ 

    ตอนที่ 1 ยาวมากๆๆ เดี๊ยวจะมาลงให้นะ 
    เค้าทำงานหายไป T T #เขียนใหม่ก่อน -3-



     





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×