ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    B.O.G Online (ภาค 1) : ศึกมหายุทธ อสุรสัตว์

    ลำดับตอนที่ #8 : ....................

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 56


     

    พรบทที่  8             ผลึกมนุษย์

    .................................................................

     

                วิ้งงงงงงง.......แซดๆๆๆๆ

     

                สำแสงเลเซอร์สีแดงขนาดเท่านิ้วก้อย วิ่งเจาะเข้าหาก้อนหินปริศนาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นวงกลมรอบๆก้อนหิน เหมือนเราเอามีดกรีดผลแตงโมโดยรอบ แต่เป็นช่วงระยะด้านบนซึ่งอยู่เหนือเส้นรอบวงกึ่งกลาง ขึ้นไปเล็กน้อย      ในที่สุด ก้อนหินก็โดนแสงเลเซอร์ตัดขาดออกจากกัน ฝาก้อนหินด้านบนถูกสว่านขนาดใหญ่เจาะและยกออกมาวางเอาไว้ด้านข้าง

     

                ทันทีที่ ฝาหินถูกยกขึ้นมาเล็กน้อย ปรากฏแสงสว่างสีมรกตเจิดจ้าส่องประกายลอดช่องว่างออกมาจนทำให้ห้องทดลองของ จูลีอิน โดนย้อมจนเป็นสีเขียว และยิ่งช่องว่างกว้างมากขึ้นจากการยกเท่าใด แสงสีเขียวมรกตยิ่งเข้มข้นและมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อฝาหินถูกวางไว้แล้ว ทั่วทั้งห้องทดลองก็เป็นสีเขียวมรกตเข้มข้นทุกตารางนิ้วไปเสียแล้ว

     

                ความมหัศจรรย์นี้ ทำเอาทั้งสองบุรุษได้แต่ยืนปากอ้า ตาค้าง ตัวแข็งไปโดยปริยาย หากแม้นว่าเกิดมีสิ่งของพลัดตกจากโต๊ะลงสู่พื้นแล้วเกิดเสียงดังกระจาย ก็คงไม่สามารถเรียกสติของ สองหนุ่มคู่ซี้ ให้คืนมาได้

     

                แสงสีมรกตนี้ส่องประกายสว่างอยู่ไม่นานนัก ก็พลันสลายหายไป.......ทันทีที่แสงมรกตเข้มหายไปสองหนุ่มพลันได้สติขึ้นมาพร้อมกัน  ทั้งสองสาวเท้าเข้าหาก้อนหินที่โดนผ่าออกมาแล้วโดยไม่รู้สึกขลาดกลัวว่าข้างในนั้นจะมีสิ่งอันตรายที่สามารถทำร้ายเอาได้ อากัปกิริยาของทั้งสองเหมือนโดนสั่งการจากสมองโดยตรงซึ่งเป็นไปโดยอัตโนมัติ

     

                ทั้งสองมาถึงและหยุดเท้ากันอย่างพร้อมเพรียง สายตาสองคู่จ้องมองลงไปยังภายใน สิ่งที่ปรากฏให้สายตาเห็นทำเอาทั้งสองคนตกตะลึงตาค้างยิ่งไปกว่าตอนแสงสีเขียวสาดประกายออกมาซะอีก สิ่งที่ทั้งสองเห็นนั่นคือภาพของบุรุษหนุ่มรูปร่างสมส่วนคนหนึ่งนอนหลับอยู่ภายในอย่างสงบ เค้าหน้าหรือสีผิวหรือรายละเอียดอย่างอื่นไม่สามารถมองให้เห็นชัดเจนได้ เนื่องจากบุรุษหนุ่มผู้นั้นนอนอยู่ในก้อนน้ำแข็งสีเขียว เช่นดั่งโดนแช่แข็งเอาไว้ รอบร่างกายปรากฏวัตถุขนาดเล็กสีเขียวเหมือนดั่งเศษกิ่งไม้ใบหญ้าเต็มไปหมด

     

                นี่   นี่   นี่   มัน.....มัน    มนุษย์นี่นา      เสียงตะกุกตะกักของ ชูอาวานดังขึ้น  พลางเอามือที่สั่นระริกชี้ไปยังร่างเบื้องหน้า

     

                เหอ    เหอะ   เหอะ.....มัน   มัน   เป็นไปได้อย่างไรกันนี่   จูลีอิง  ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

     

                ก่อนที่ทั้งสอง จะมีอาการหรือพูดอะไรออกมามากกว่านี้ เสียง  เอวิต้า ก็ ดังขึ้น      ขณะนี้  เวลาเที่ยงคืน แล้วค่ะด๊อกเตอร์

     

    ..........................................................

     

                แสงจันทร์วันเพ็ญเต็มดวง เต็มที่แล้ว แต่ใยดาวคู่ขนานถึงยังไม่ส่องประกายสุกปลั่งเหมือนควรจะเป็นเล่า        จอมเทพเอ่ยออกมาอย่างฉงน ต่อเหตุการณ์        นี่ ก็ตรงกำหนดเพ ลา    9 นาทีแล้ว  หรือคำทำนายจะผิดเพี้ยนพลาดผิดไปเสียแล้วกันเล่า

     

                GIL-BE-TO (: กิลแบร์โต้) เจ้าจงนำ คัมภีร์พระเวทย์ มาให้กับเรา  เราจักตรวจดูคำนายเสียใหม่ ว่ามีข้อผิดพลาดอันใด        จอมเทพสั่งให้ กิลแบร์โต้  เอไอ ส่วนตัวนำคัมภีร์ที่เก็บไว้อย่างดี เพื่อที่เขาจะได้ตรวจพิสูจน์ดูคำนายเสียใหม่ ซึ่งบัดนี้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดการผิดพลาดหรือไม่ตรงกับคำทำนายดังกล่าวแล้ว   ขณะนั้น พื้นตรงด้านหน้าบัลลังค์ของจอมเทพได้ปูดนูนขึ้นมาเหมือน ด้านบนกลมดังลูกฟุตบอล มันค่อยๆปูดนูนสูงขึ้นๆ ทีละนิดๆ จนในที่สุด ลูกกลมๆก็สูงเสมอกับระดับสายตาของจอมเทพ จึงได้หยุดลง ส่วนที่ปูดนูนตามขึ้นมาพลันยุบหายไปกับพื้นจนหมดสิ้น เหลือเพียงลูกกลมๆลอยนิ่งอยู่กับที่ 

     

                จอมเทพ ยกมือขวาขึ้นสัมผัสมันเบาๆ  ทันทีที่โดนสัมผัส แสงสีเหลืองพลันส่องประกายออกมารอบด้าน แต่ไม่นานก็หายไปจนหมดสิ้น  เมื่อแสงจางหายไปแล้วก็ปรากฏหนังสือเก่าๆเล่มนึง เข้ามาแทนที่เจ้าลูกกลมๆนั้น ขนาดของมันใหญ่กว่าหนังสือที่เห็นกันปกติโดยทั่วไปประมาณ  30%   สภาพอันเก่าคร่ำคร่าของมัน บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ผ่านช่วงระยะเวลาอันนานมามากมาย ยาวไกลเพียงไร เหมือนดั่งกับว่า หากเอามือไปแตะมัน มันจะยุ่ยสลายเป็นผุยผง ถึงแม้มันจะทำมาจากหนังสัตว์ที่ทนทานก็เถอะ  หน้าปกนั้นจารึกไว้ด้วยอักขระโบราณตัวใหญ่สีดำสนิท

     

                ในนามแห่งข้า........ผู้เป็นดั่งจอมเทพเบื้องบนผู้ยิ่งใหญ่ คำทำนายที่ 1 จงปรากฏออกมา ณ บัดดล     จอมเทพกล่าวพลางพลิกหงายฝ่ามือลูบไปยังหน้าปกหนังสือทันที

     

                สิ้นเสียงของจอมเทพ เกิดลมพัดโบกสะบัดไปทั่วบริเวณห้องโถง โดยไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาล่วงหน้า สายลมทั้งหมดพัดโชยกระหน่ำไปยังหนังสือเก่าแก่เล่มนั้นเป็นจุดเดียวกัน หน้าปกหนังสือที่โดนลมกระหน่ำ ค่อยๆเผยอเปิดขึ้น จนในที่สุดก็อ้าออกมาจนหมดสิ้น และพลันที่หน้าปกหนังสืออ้าออกจนสุดนั้น ตัวหนังสือสีแดงพากันวิ่งวนออกมาจากในหนังสือ บ้างวิ่งเป็นเส้นตรง บ้างวิ่งเป็นเส้นโค้ง และบ้างวิ่งออกมาเป็นเกลียว สลับกันไปมาอย่างน่าอัศจรรย์     และในที่สุด ตัวหนังสือดังกล่าวก็ลอยเด่นเรียงเป็นแถว อยู่ด้านหน้าจอมเทพจนหมดสิ้น

    .................................................................

     

                เอวิต้า ช่วยปรับระบบปรบอากาศเพิ่มให้หน่อยสิ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า อากาศมันร้อนขึ้นมาก            จูลีอิน กล่าวกับเอวิต้า  ตอนนี้ไม่เฉพาะใบหน้าของเขาเท่านั้นที่มีเหงื่อผุดขึ้นมา แต่ที่แผ่นหลังก็เปียกไปด้วยเหงื่อเช่นกัน   แต่ไม่เฉพาะเขาเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ เพื่อนซี้อย่างนายพล ชูอาวาน สภาพไม่ได้แตกต่างจากเขาเลย  ถึงแม้ว่าระบบปรับอากาศจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาอย่างอัตโนมัติอยู่แล้ว  แต่ทั้งจูลีอิน และ ชูอาวาน ก็ยังรู้สึกร้อนอย่างแปลกประหลาด

     

                เอ่อออ   ถ้าจะกรุณาอ่ะนะ    เอวิต้าช่วยเพิ่มระบบดูดและกรองอากาศให้ด้วย ก็จะดีมากเลยครับ เอาแบบมีลมพัดอ่อนๆ แต่พอเย็น อ่ะครับ       ชูอาวานเห็นด้วยกับด๊อกเตอร์ จึงบอกเพิ่มเติมต่อเอวิต้า

     

                ได้ค่ะด๊อกเตอร์......ยินดีค่ะท่านนายพล

     

                ชั่วไม่ถึงอึดใจ ภายในห้องวิจัย ก็ปรากฏกระแสลมอ่อนๆ โดยหาที่มาที่ไปไม่ได้ แต่ทั้งสองกลับไม่สนใจต่อประการนั้น เนื่องจากขณะนี้รู้สึกเย็นสบายเป็นอย่างยิ่ง

     

                ไอ่นายพลขี้หลี  นายดูสิ  มันเป็นสิ่งที่แปลกและมหัศจรรย์มากเลย มีมนุษย์ ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากยุคไหน นอนอยู่ภายในก้อนนำแข็งที่เป็นผลึก ช่างเหลือเชื่อจริงๆ         จูลีอิน  กล่าวกับ ชูอาวาน อย่างไม่คลายความตื่นเต้นระคนสงสัย พลางยื่นมือขวาไปสัมผัสกับผลึกสีเขียว

     

    ช่วงเวลานั้น สายลมอ่อนในห้องได้พัดมากระทบยังก้อนหินที่มีผลึกมนุษย์อยู่ภายใน พร้อมกับที่ฝ่ามือ ของจูลีอิน จะสัมผัสกับผลึก ไม่ทันที่ฝ่ามือจะกระทบ ภายในผลึกได้มีแสงขาวพุ่งออกมาจากตรงกลางหน้าอกของผู้ที่หลับอยู่ ทะลุชั้นผลึกออกมาจนทำให้ส่วนที่เป็นผลึกนั้นเว้าแหว่งเป็นรู อย่างเห็นได้ชัด ส่วนที่เป็นผลึกได้ระเหยกลายเป็นไอรวมกันจนเกิดเป็นกลุ่มควันสีเขียวขนาดย่อม   จูลีอิน ชักมือกลับแล้วกระโดดถอยห่างออกไปด้วยความตกใจ

     

    ทันใดนั้น กระแสลมที่พัดอย่างอ่อนๆ ได้เริ่มพัดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเสื้อผ้าของทั้งสองพลิ้วปลิวสะบัดส่งเสียงดัง พึ่บ  พับ  ไม่หยุด      สายสมที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร มาจากไหน ได้พัดมารวมกันบริเวณที่ผลึกตรงหน้าอกหายไป ก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นอย่างรุนแรงจนผลึกสีเขียวที่มีร่างปริศนานอนหลับอยู่ ค่อยๆลอยขึ้นสูงทีละนิดๆ และสักครู่ก็หยุดลงเหมือนโดนแขวนเอาไว้ด้วยเชือกที่มองไม่เห็น  ต่อจากนั้น ผลึกดังกล่าวได้เกิดการระเหยในทุกส่วน ก่อเกิดเป็นกลุ่มควันสีเขียวขนาดใหญ่ปกปิดผลึกทั้งก้อนเอาไว้ จนมองไม่เห็นเค้าทรงเดิมของมันเลย

     

    ๑..........................................................................๑

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×