ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Secret ความลับ คน-แลก-เวลา

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 84
      3
      25 มี.ค. 56

     

    ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในป่าที่เงียบสงบ รอบข้างเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้านานาพันธุ์ที่ขึ้นอยู่ในป่าแห่งนี้ ชายวัยกลางคนร่างเล็กกำลังนั่งสเก็ตรูปภาพธรรมชาติที่แสนสวยงามตรงริมแม่น้ำอย่างสบายอารมณ์ สายลมกำลังพัดผ่านเย็นสบายและปราศจากผู้คนพลุกพล่านเป็นสถานที่ที่น่าหลงใหลสำหรับคนที่รักธรรมชาติ

    ช่างเป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ

    ชายร่างเล็กละสายตาจากภาพสเก็ตของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้นกับตัวเองพลางมองไปรอบๆข้างที่มีแต่ป่าไม้ มันเป็นภาพที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้ว ภาพของต้นไม้สีเขียวไม่ใช่ต้นไม้ที่เหลือแต่ตอน้ำตาลๆให้เห็นและน้ำสีใสที่ไม่มีขยะลอยอยู่เกลื่อนกับกลิ่นเหม็นเน่าจากขยะที่ถูกทิ้งลงไปในแม่น้ำ เขารู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดจริงๆที่หนีสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษในเมืองกรุงเทพฯมาที่นี่

                ใช่ไหมล่ะๆ พ่อย้ายมาอยู่ที่นี่กับอาดีกว่าไปอยู่ในเมืองอีกตั้งเยอะตั้งแยะ

                เสียงใสๆของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น เธออายุประมาณสิบห้าถึงห้าหกปี ผมสีน้ำตาลยาวหยักศก ยืนยิ้มให้ผู้เป็นพ่อเมื่อได้ยินเขาเอ่ยชมธรรมชาติของที่นี่และไม่ลืมที่จะชวนให้พ่อของเธอย้ายจากกรุงเทพฯมาอยู่ที่นี่กับอาด้วย เธอรู้ดีว่าพ่อของเธอคงจะปฏิเสธแต่ก็อยากจะชวนให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่

                ไว้พ่อจะคิดดูแล้วกันนะ แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”

                ผู้เป็นพ่อยิ้มน้อยๆให้ลูกสาวที่ชวนเขาให้มาอยู่ด้วยกัน ความจริงแล้วตัวเขาเองก็อยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่แต่เพราะงานที่กรุงเทพฯและรวมถึงปัญหาจุกจิกอีกมากมาย เขาจึงไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่ก็ไม่อยากบอกไปตรงๆเพราะกลัวว่าลูกสาวจะผิดหวังจากคำตอบของเขา เขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว

                มาเดินเล่นค่ะ พ่อล่ะสเก็ตภาพอยู่เหรอคะ?” หญิงสาวตอบเสียงฉะฉาน

                ใช่ พ่ออยากได้ภาพสวยๆติดมือก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯน่ะชายร่างเล็กตอบ

    จริงสิ เมื่อกี้ตอนหนูเดินเล่นเจอของเต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ นี่ไงๆ

                หญิงสาวเหมือนนึกอะไรได้ เธอจึงล้วงหาอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกงของเธอและหยิบออกมาให้พ่อของเธอดู มันคือของต่างๆอย่างเหรียญเงิน พวงกุญแจ แหวน กำไล อยู่ในถุงพลาสติกสีขาว ซึ่งของพวกนี้มักมีคนเอามาทิ้งหรือลืมทิ้งไว้เป็นประจำ หญิงสาวพูดยิ้มๆอย่างดีใจกับของที่เอามาอวดถึงจะไม่มีค่ามากมายอะไรก็ตาม แต่ว่าหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอเหมือนกับเธอเจอขุมทรัพย์ระหว่างเดินเล่นก็ไม่ปาน ผู้เป็นพ่อเองเมื่อเห็นท่าทีดีใจนั้นของลูกสาวก็พลอยยิ้มตามไปด้วย

                แสดงว่ามาหาแถวนี้บ่อยล่ะสิ ว่าแต่ที่นี่ไม่ค่อยมีคนเลยนะชายร่างเล็กพูดขึ้น

                ค่ะ นานๆทีจะเห็นคนเดินมาซักทีหญิงสาวตอบด้วยหน้าตาที่มีความสุข

                แต่พูดยังไม่ทันไรก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาจากทางที่หญิงสาวเพิ่งผ่านมาก่อนมาเจอพ่อของเธอที่นั่งสเก็ตภาพอยู่ตรงนี้ เขาก้มหน้าลงมองทางตลอดแทนที่จะมองวิวทิวทัศน์ทำท่าทำทางเหมือนมองหาอะไรซักอย่างแต่เหมือนว่าแค่มองผ่านๆไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่นั้นก็สร้างความงุนงงไม่น้อยให้สองพ่อลูกที่มองดูอยู่ตั้งแต่เขาเพิ่งเดินมาจนตอนนี้จะเดินชนหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว แต่จู่ๆเด็กหนุ่มคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองมายังทั้งสองคนที่มองเขา

                มองอะไรกัน เด็กหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นสองพ่อลูกที่เอาแต่มองเขาตลอดตั้งแต่เขาเดินมา แถมสีหน้าของพวกเขาก็ดูจะสงสัยกับการกระทำของเขาไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ไม่มีอะไรให้มองแล้วรึไง

    เมื่อไม่มีใครตอบคำถามของเขา เขาจึงเลิกใส่ใจสองคนนั้นแล้วก็เดินผ่านไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไร หญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่นานเดินตามเด็กหนุ่มไป ก่อนจะทักเด็กหนุ่มที่ไม่คิดสนใจเธอเอาแต่มองหาอะไรบนพื้น

                นี่นายหาอะไรอยู่เหรอ? ฉันช่วยหาไหม?”

                หญิงสาวถามด้วยความหวังดีเพราะเธอเห็นว่าเขามองหาอะไรซักอย่างมาตั้งแต่แวบแรกที่เธอเห็นเขาแล้ว ถึงแม้จะดูไม่ค่อยตั้งใจหาซักเท่าไหร่แต่การที่ลงทุนมองหาตามทางแบบนี้แทนที่จะตัดใจเหมือนคนอื่นๆที่ทิ้งของไว้ที่นี่ แสดงว่าของอันนั้นจะต้องมีความสำคัญกับเขาคนนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

    ไม่จำเป็นเด็กหนุ่มตอบโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามอง

                อะไรกันคนอุส่าห์จะช่วยหา หันมาคุยกันดีๆเลยนะนาย

                เมื่อเห็นท่าทีที่เหมือนไม่สนใจในความหวังดีจากเธอของเขา และเขาก็ไม่แม้แต่จะหันมาสบตาคุย ก็ทำให้เธอโมโหไม่น้อยจึงเดินไปจับไหล่ซึ่งสูงกว่าเธอเล็กน้อยให้หันหน้ามาคุยกัน แต่สีหน้าของเขากลับนิ่งเสียจนประหลาดเพราะถ้าเป็นคนอื่นคงจะตวาดใส่เธอไป แล้วจนเธอเริ่มสงสัยในตัวคนๆนี้

     

                อะไรกันหมอนี่ นิ่ง...นิ่งเกินไปแล้วนะ

     

                เขาคนนี้อายุน่าจะประมาณสิบห้าสิบหกเท่าเธอ ร่างกายสมส่วน ตัวสูง ผิวขาว หน้าตาถือได้ว่าหล่อเข้าขั้นเลยทีเดียว ผมสีดำยาวถึงต้นคอ ดวงตาสีเหลืองเป็นประกายคู่นั้นดูมีเสน่ห์แต่แฝงไปด้วยความลึกลับที่น่าค้นหา

     น่ารำคาญจริงๆเลย ก็บอกแล้วว่าไม่จำเป็น ถึงเธอจะยื้อฉันไว้ ฉันก็ไม่คิดจะให้คนไม่รู้จักอย่างเธอมาช่วยหาหรอกน่า น่ารำคาญจริงๆ จู่ๆคนที่เธอไม่คิดว่าจะพูดอะไรมากก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ดูเบื่อๆเซ็งๆ แปรเปลี่ยนความสงสัยกลายมาเป็นความโมโหอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทีที่ดูกวนๆของเขา

                นะ...นายเด็กสาวกำหมัดแน่น

              ถ้าคิดจะมีเรื่องกับฉันล่ะก็...ไม่เอาด้วยหรอก ฉันไม่ชอบทำร้ายผู้หญิง ไม่มีอะไรแล้วสินะเขา พูดสรุปขึ้นเองก่อนจะหันหลังและเดินออกไป เธอมองตามเด็กหนุ่มนั้นจนเขาเดินไปไกลด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ ก่อนที่ความรู้สึกไม่พอใจจะเข้ามาแทนที่

     

                หมอนั่นมันอะไรกัน จู่ๆก็เข้ามาเหมือนอยากหาเรื่องที่เราเผลอไปมอง พอจะมีเรื่องก็บอกไม่สู้กับผู้หญิง แถมยังท่าทีกวนประสาทนั่นอีก อย่าให้ฉันเจอนายอีกก็แล้วกัน

               

                นี่จะเย็นแล้วกลับบ้านกันเถอะลูก พรุ่งนี้เราจะกลับกรุงเทพฯแล้วด้วยถ้าไม่รีบนอนจะตื่นสายนะ

    เสียงของผู้เป็นพ่อดังขึ้นทำให้เด็กสาวหลุดออกจากภวังค์ ยังไม่ทันไรพอมองดูท้องฟ้าอีกทีก็เริ่มจะมืดแล้ว หญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไรพยักหน้าน้อยๆเห็นด้วยและช่วยพ่อของเธอเก็บอุปกรณ์สเก็ตภาพ และเดินออกจากตรงนั้นโดยนั่งรถของพ่อที่จอดอยู่ใกล้ๆนั้นขับกลับไปบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่

     

                พรุ่งนี้ก็กลับกรุงเทพฯแล้วคงไม่ได้เจออีกแล้วล่ะ คนประหลาดอย่างหมอนั่นไม่เจออาจจะดีกว่าก็ได้

     

                ระหว่างทางกลับบ้านเธอก็ยังอดคิดไม่ได้ เธอคงไม่ได้เจอคนแบบนี้อีกแล้วเพราะเธออยู่ที่กรุงเทพฯและกำลังจะกลับไปพรุ่งนี้ ถ้าเกิดว่าจะได้เจอจริงๆก็คงจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์เท่านั้น แต่ว่าเธอก็อดดีใจไม่ได้ที่จะได้แก้แค้นที่เด็กหนุ่มทำเป็นไม่สนใจและทำท่ากวนประสาทใส่เธอในครั้งนี้ถ้าเกิดเจอกันใหม่ และมั่นใจว่าเธอจะเอาคืนให้อย่างสาสมแน่นอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×