ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แซสเทิลไวท์ ไฟนอล

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 48


                       \" โช ซูฮาร์ล เยบปราโด้ ยาดิมเดย์ โอม คัสติโอ้ปารากามัวร์ วิมมัสซู เมลาเมอร์ มัวเลอร์บรองห์ วิมลัส ซาร์ เบธามัวร์ โซลูฮันยา มาร์ตี โอม...\"

                       เสียงสวดร่ายมนต์พึมพำฟังดูช่างลึกลับน่ากลัวดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่บ่งบอกถึงความทุกข์ร้อนของเจ้าของน้ำเสียง

                       \" คาซาฟ ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย ชีวิตข้าอยู่ในกำมือเจ้าแล้ว ผู้ลิขิตชะตาแห่งอนาคตคือเจ้าแล้วคาซาฟ ช่วยข้าด้วย!!! ”

                       เสียงแหบแห้งพร่าลงทุกขณะ แต่กระนั้นก็ยังแฝงไว้ซึ่งศักดิ์และอำนาจที่คงความลึกลับน่ากลัว ดังมาจากบุรุษปริศนาในชุดขาวอันเลอะเทอะเกรอะกรังด้วยฝุ่นดินและคราบเลือด เจ้าของร่างสูงใหญ่สง่างาม หากทว่าใบหน้านั้นเต็มไปด้วยหนวดเครา และผมเผ้าที่ดูรุงรัง เร้นใบหน้าเอาไว้จนยากคาดเดาว่าคือใคร ร่างของเขากำลังโงนเงนอย่างจวนจะหมดแรง แต่เพราะการผูกกระหวัดรัดกุมของเส้นแสงสีดำที่คอยเปล่งรัศมีอำมหฤตและมีพลานุอันร้ายแรง ประดุจดังเชือกที่พันธนาการแขนขาให้ตรึงติดที่คอยยึดร่างเอาไว้จึงทำให้ให้เขายืนอย่างทรมานอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุ ซึ่งดูเหมือนจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

                       ณ ย่านชานเมืองโซไนท์ตี้……...ภายในห้องสี่เหลี่ยมอันคร่ำครึของบ้านปูนสมัยโบราณที่ดูเก่าแก่ทรุดโทรมคล้ายจะบอกถึงร่องรอยของการผ่านวันเวลามานานเนิ่น บนผ้านวมปูนอนอันแสนเก่า นาธานกำลังนอนพลิกตัวไปมาอย่างรุนแรง เสื้อผ้า เศษกระดาษ…และสิ่งของต่างๆ รอบตัวเด็กหนุ่มกำลังปลิวพัดกระจัดกระจายราวกับเกิดพายุลูกย่อมๆขึ้นพร้อมกับการเกิดเปลวแสงสีฟ้าใสโชติช่วงทว่ามันกลับร้อนระอุยิ่งกว่าความร้อนจากเปลวเพลิงซึ่งแสงนั้นกำลังวนล้อมรอบตัวเด็กหนุ่มอยู่ ดูเหมือนมันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น จนบัดนี้เปลวไฟสีฟ้ากำลังลุกลามไปทั่วเกือบทั้งบ้านและคงไม่สงบลงง่ายๆหากไม่หมดสิ้นซึ่งเชื้อเพลิง

                       ทันใดนั้นแสงสว่างจ้าก็เกิดขึ้นจากทางด้ามมุมหนึ่งของห้องพร้อมกับการปรากฎตัวของบุคคลสามคนในชุดรัดรูปสีดำ

                       “ แอลโซบาเรียไคล์ !”

                       เสียงที่ฟังดูกังวานหวานใสดังขึ้นพร้อมกับการเกิดม่านมนต์แสงสีขาวเข้าห้อมล้อมบุคคลทั้งสามขึ้นทันที ทั้งยังทำให้เกิดสายลมเบาๆ ระบายเอาความร้อนออกไป

                       “ ยิปซี ไปช่วยแม่เฒ่าไว้ก่อน ”

                       เสียงของบุคคลหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นอย่างรีบร้อน

                       “ ได้ เฮกเตอร์ ”

                       หญิงสาวเจ้าของชื่อรับคำสั่งก่อนที่จะวิ่งทะลุกำแพงไปอีกห้อง

                       “ ราล์ฟนายรีบปลุกเด็กนั่นเร็วเข้า ”

                       “ เฮ้ย! ไงต้องเป็นชั้น แกก็ทำเองบ้างสิวะ ”

                       ยังไม่ทันที่ชายรูปร่างเล็กจะได้อุทธรณ์ใดๆต่อก็ต้องรีบปฏิบัติตามทันทีเมื่อเห็นประกายตาเหี้ยมร้ายฉายชัดขึ้นบนดวงหน้าของผู้ที่สั่งเขา

                       “ กะ… ก็ได้วะ ”

                       เขาพูดเสียงอ่อยแต่ก็ไม่วายที่จะวางฟอร์ม ก่อนผละออกไป

                       \" อควาร์เฟรซ ”

                       กระแสคลื่นพลังน้ำที่ส่องแสงเป็นประกายก่องเก็จดุจอัญมณีระยิยระยับพุ่งมาจากฝ่ามือราล์ฟ มันวนเวียนอยู่รอบตัวเด็กหนุ่มชั่วครู่ก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงพุ่งดิ่งไปปะทะเปลวไฟสีฟ้านั่น

                       บรรยากาศเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เปลวแสงที่ห้อมล้อมรอบตัวนาธานดับลงพร้อมกับการสลายตัวไปของคลื่นน้ำ เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นจากห้วงแห่งฝันอันแปลกประหลาด แล้วต้องตะลึงงันทันทีกับภาพที่ปรากฏต่อสายตาเบื้องหน้า ไม่ทันที่เขาจะสามารถสรรหาถ้อยคำมาพูดได้ทันหญิงสาวแปลกหน้าอีกคนหนึ่งก็วิ่งนำวัตถุสีขาวลักษณะแบนยาวที่ประคองไว้ในมือวิ่งมาทางเขาอย่างรีบเร่งซะก่อนแต่เมื่อเด็กหนุ่มเห็นสิ่งที่อยู่ในมือเรียวงามคู่นั้นก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจระคนหวาดกลัวต่อบุคคลทั้งสามในทันที

                       “ ย่า! ย่าเป็นอะไรครับ ย่า! ย่า! ย่า! นี่มันเกิดอะไรขึ้นย่าผมเป็นไรไป ทำไมร่างกายท่านจึง….! ”

                       เด็กหนุ่มตวาดใส่บุคคลเบื้องหน้าอย่างเดือดดาลด้วยความสงสัยที่เห็นร่างกายย่าเขาเล็กลงแต่ไม่อาจสรรหาคำใดมาถามได้จึงหยุดคำพูดค้างไว้แค่นั้น ตอนนี้ความกลัวได้หายไปจากใจเขาแล้ว แต่ความโมโห โกรธแค้น และเสียใจระคนปนเปขึ้นมาแทนที่

                       “ นี่ ฟังชั้นให้ดีนะหนุ่มน้อยนี่คือมนต์ย่อส่วน ย่าเธอน่ะท่านยังมีชีวิตอยู่แต่อาการสาหัสมากเราต้องรีบพาท่านไปด้วยเดี๋ยวนี้ โธ่! เชื่อใจ ชั้นเถอะน่า ”

                       หญิงสาวผู้ที่อุ้มย่าเขาไว้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความร้อนรน ก่อนจะเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นแววตาไร้สิ้นซึ่งความเชื่อใจของนาธานเข้า

                       “ คุณจะบ้าเหรอ! มนต์เมินบ้าบออะไรกันผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะที่จะมาต้มกันได้”

                       อารมณ์อันครุกรุ่นและความไม่เชื่อทำให้นาธานตะคอกใส่หญิงสาวอีกครั้ง

                       “ โอีย! มนุษย์โลก ชั้นจะบ้าตายจริงๆ ”

                       “ อิเล็คตริก โบลท์ ”

                       ยิปซีอุทานด้วยความโมโห ก่อนจะร่ายมนต์บทหนึ่งก่อให้เกิดกระแสไฟเส้นเล็กๆผ่าลงมาตรงเบื้องหน้าเด็กหนุ่มทันที ทำให้เขาต้องกระโดดถอยหลังล้มลงไปนอนคว่ำด้วยอาการช็อก

                       “ นั่นสิ เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้นะเฮกเตอร์นายก็รู้ ”

                       ราล์ฟพูดพลางหันมาส่งสายตาเป็นนัยให้เฮกเตอร์

                       สถาการณ์และประโยคการสนทนาเมื่อครู่ของกลุ่มคนแปลกหน้านั้นทำให้นาธานเริ่มกดดันมากขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มรับรู้และยอมรับความจริงได้อีกครั้ง

                       “ ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วซินะ ”

                       เด็กหนุ่มพึมพำขึ้นกับตัวเองเบาๆ

                       “ ก็ได้ ผมจะไปกับพวกคุณ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าหากคุณคิดร้ายกับผมและย่าเมื่อไรล่ะก้อไม่ว่าผลจะแพ้หรือชนะอย่างไรผมก็จะสู้กับคุณแน่ ”

                       นาธานโพล่งขัดออกมาในระหว่างกลุ่มคนปริศนาเบื้องหน้ากำลังปรึกษากันอยู่และยังกล่าวขู่สำทับไว้ด้วย

                       “ ดีมากหนุ่มน้อย แล้วนี่เฮกเตอร์ฝากท่านแม่เฒ่าด้วย ”

                       ยิปซีหันมาส่งยิ้มให้เขาก่อนจะส่งร่างย่าของเขาไปไว้ในอ้อมแขนของชายที่ชื่อเฮกเตอร์ด้วยความนุ่มนวล

                       “ ทุกคน!  เตรียมตัวพร้อมนะ ส่วนเธอจับมือฉันมา ”

                       หญิงสาวพูดกับผู้ร่วมคณะก่อนเดินมาจับมือนาธานไว้แน่น

                       “ เอาล่ะ ฉันจะเปิดประตูมิติล่ะนะ ”

                       “ ไอดาร์ลา ฟาร์เมอัสสสซ์… ”

                       สิ้นเสียงมหามายามนต์ ก็บังเกิดวงกลมสีน้ำเงินเข้มขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาและเธอ วงกลมนั้นแผ่ขยายออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนมีรูปร่างเป็นโพลงขึ้น

                       “เฮกเตอร์นายพาแม่เฒ่าไปก่อน”

                       หญิงสาวหันไปสั่งเจ้าของชื่อทันที

                       “ โครม ครืน..ๆๆ! ”

                       “ เสียงอะไรน่ะ? ”

                       เด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยท่าทางตกใจพร้อมกับเกิดการสั่นสะเทือนของอาคารขึ้น ชายรูปร่างเล็กเจ้าของชื่อราล์ฟ รีบวิ่งไปชะโงกหน้ามองที่หน้าต่างทันที

                       “ ยิปซี มันมากันแล้ว! เร็วเข้า!!! เธอรีบพาเขาไปฉันจะคอยคุ้มกันเอง”

                       ราล์ฟสั่งด้วยสีหน้าหวั่นวิตก

                       “ แต่ว่า…”

                       หญิงสาวขัดขึ้นด้วยความห่วงใยผู้ร่วมทีม

                       “ ไปก่อนพาเขาไปก่อน

                       นั่นคือประโยคสุดท้ายที่นาธานได้ยินก่อนที่เขาจะรู้สึกเหมือนโดนฉีกกระชากอยู่ในอุโมงค์สีน้ำเงินเข้มที่มืดมิดจนคล้ายสีดำนั่น มือเขาเริ่มหลุดออกจากการเกาะกุมของหญิงสาวด้วยแรงเหวี่ยง

                       “ อ๊ากกก…!!! ”

                       เด็กหนุ่มร้องขึ้นด้วยความหวาดเสียวระคนเจ็บปวดก่อนหมดสติไป



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×