ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : 16 เทคนิควิเคราะห์การวางช้อยส์...แบบตัวเลข
“เทคนิควิเคราะห์การวางช้อยส์
แบบตัวเลข”
-ช้อยส์ทั้งหลายแหล่ ที่เขาวางมาอะ เขาวางมาอย่างดีเลยแหละ บางที เราคิดผิด ก็มีคำตอบรอไว้เลย ออกมาจากห้องสอบดีใจ มีคำตอบทุกข้อ ทำได้ทุกข้อเลย แต่คะแนนออกมากลับไม่ใช่ ก็เพราะเหตุนี้แหละ
-อย่างที่บอกไปแล้ว ข้อสอบเอนท์เป็นข้อสอบที่มาตรฐาน กรรมการออกข้อสอบจะวางช้อยส์มาเป็นอย่างดี ในบางช้อยส์จึงมีรูปแบบที่น่าสังเกต
-เมื่อเราจนตรอก ให้ลองวิเคราะห์การวางช้อยส์ดี ๆ คิดซะว่า “ถ้าเราเป็นคนออกข้อสอบ จะวางช้อยส์ข้อนี้ยังไง” อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างการวิเคราะห์ช้อยส์นะ ถ้าพอจะเป็นแล้ว ก็ลองไปวิเคราะห์ช้อยส์เองตอนจนตรอกในห้องสอบ
-*ขอย้ำว่าวิชามารไม่สามารถจะนำไปใช้ในการทำข้อสอบได้ทุกข้อนะ เพียงแต่นำไปใช้ในการทำข้อสอบได้หลายข้อเท่านั้น
-วิชามารแบบนี้ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ควรจะใช้การตัดช้อยส์และการเกลี่ยช้อยส์ประกอบกันไปด้วยนะ เพื่อที่จะได้ข้อที่ควรจะเป็นคำตอบมากที่สุด บางทีอาจจะตัดได้จนเหลือช้อยส์เดียวก็ได้นะ ถ้าวิเคราะห์เก่ง ๆ
-วิชามารที่ 4 : ช้อยส์ในลักษณะเลขเรียงตามลำดับเลข
+คณิต ตุลา 46 : เฉลย ข.
ก.9          ข.10          ค.11          ง.12 
-เหตุผลและการวิเคราะห์ : โจทย์พวกนี้ มักจะต้องให้เรานับ เช่น นับจำนวนไอโซเมอร์ นับจำนวนลูกคลื่น จำนวนปฏิบัพ ถ้าเขาวางคำตอบไว้ช้อยส์ตรงกลาง  ๆ หากว่าเด็กนับพลาดไป1 ลูก ก็จะมีช้อยส์รอรับหมดเลย แต่ถ้าวางคำตอบไว้ริม ๆ (ก.หรือง.) ถ้าเด็กคิดพลาด แล้วไม่เจอช้อยส์ ก็จะรู้ตัวว่าคิดผิด วัดไม่ได้ว่ารู้จริงแค่ไหน.....พอเข้าใจมะ
-สรุปเป็นสูตรสำเร็จ : ถ้าเจอการวางช้อยส์ในลักษณะเลขเรียงตามลำดับดังตัวอย่าง ช้อยส์ที่อยู่ตรงกลาง คือ ข. และ ค. ควรจะเป็นคำตอบมากที่สุด
+เคมี ตุลา 44 : โจทย์ให้หาจำนวนไอโซเมอร์ (เปิดข้อสอบเก่าตรวจสอบได้นะ)
ก.5        ข.6        ค.7        ง.8 
อธิบาย : เลขเรียงแบบนี้ ควรตอบช้อยส์กลาง ข. หรือ ค. (เฉลย ค.)
+ วิศวะ ตุลา 46
ก.5.63        ข.6.63        ค.7.63        ง.8.63
อธิบาย : อันนี้ก็เป็นเลขเรียงในอีกลักษณะนึง ควรตอบช้อยส์กลาง (เฉลย ค.)
-วิชามารที่ 5 : ช้อยส์ที่ไล่จากเลขมากไปน้อย
+คณิต1 ตุลา 46 : เฉลย ข.
ก.4        ข.3        ค.2        ง.1
-เหตุผลและการวิเคราะห์ : โดยธรรมชาติมนุษย์ คนออกข้อสอบควรจะวางช้อยส์ไล่จากเลขน้อยไปเลขมากถูกมะ แต่ไหงมันถึงได้ไล่จากเลขมากไปหาเลขน้อยล่ะ น่าสงสัยน่ะ อาจจะเป็นไปได้ว่า มีคำตอบที่ถูกเป็นช้อยส์ ค. และ ง.มากแล้ว คนออกข้อสอบอาจจะต้องการเกลี่ยช้อยส์ ก็เลยกลับช้อยส์เอาเลขมากมาอยู่ข้างหน้า
-สรุปเป็นสูตรสำเร็จ : ถ้าเจอช้อยส์ที่เรียงเลขจากมากไปน้อย ขอแค่เรียงจากมากไปน้อยก็ผิดสังเกตแล้วอ่ะ ช้อยส์ที่ควรจะเป็นคำตอบมากที่สุดคือ เลขมาก ก. หรือ ข. นั้นเอง
+วิศวะ มีนา 45
ก.126            ข.120            ค.114            ง.100
อธิบาย : เลขเรียงจากมากไปน้อยแบบนี้ควรตอบเลขมาก 126 หรือ 120 (เฉลย 120)
+คณิต ตุลา 46
ก.รูท8            ข.รูท7            ค.รูท6            ง.รูท5
อธิบาย : อันนี้ก็เป็นเลขเรียงจากมากไปน้อยในอีกลักษณะนึง ควรตอบ รูท8 หรือ รูท7 (เฉลย รูท7)
-วิชามารที่ 6 : ช้อยส์ที่ลวงไว้เผื่อเด็กคิดเลขผิด
+ฟิสิกส์ มีนา 46 : เฉลย 0.8
ก.0.4            ข.0.6              ค.0.8              ง.1.3 
-เหตุผลและการวิเคราะห์ : ช้อยส์แบบนี้มีเยอะเลยแหละ อย่างที่บอก คิดผิดก็มีคำตอบรออยู่ คนออกข้อสอบเขาจะเผื่อคำตอบที่เด็กอาจจะคิดเลขผิดไว้ก็ได้ เช่น ลืมหาร 2 ในข้อที่ให้หาค่าเฉลี่ย, ลืมคูณในข้อที่หารัศมีได้ แต่ถามเป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง, คิดเลขทศนิยมพลาด ทำให้ได้ทศนิยมที่ผิดตำแหน่ง, ย้ายข้างสมการพลาด ทำให้ได้เศษส่วนที่ผิด เป็นต้น
-สรุปเป็นสูตรสำเร็จ : สังเกตช้อยส์ที่อาจจะถูกวางไว้เป็นหลุมให้เด็กที่คิดเลขผิดตกเล่น เพราะช้อยส์นั้น อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกก็ได้
+เคมี ตุลา 45
ก.2.5            ข.25              ค.75              ง .85
อธิบาย : ข้อนี้เผื่อว่าคิดเลขทศนิยมพลาด ควรตอบ 2.5 หรือ 25 (เฉลย 25)
+วิศวะ ตุลา 46
ก.g                ข.2g            ค.g/2            ง.3g/2
อธิบาย : ข้อนี้เผื่อว่ากลับสมการพลาด ควรตอบ 2g หรือ g/2 (เฉลย g/2) ถึงแม้จะคิดได้ว่าเผื่อลืมหาร 2 แต่ควรจะสังเกตช้อยส์ที่ให้มาเป็นเศษส่วนอยู่หลายช้อยส์ เราน่าจะคิดไปที่เรื่องของสมการและเศษส่วนมากกว่า
***สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้คัดลอกไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความ***
-ช้อยส์ทั้งหลายแหล่ ที่เขาวางมาอะ เขาวางมาอย่างดีเลยแหละ บางที เราคิดผิด ก็มีคำตอบรอไว้เลย ออกมาจากห้องสอบดีใจ มีคำตอบทุกข้อ ทำได้ทุกข้อเลย แต่คะแนนออกมากลับไม่ใช่ ก็เพราะเหตุนี้แหละ
-อย่างที่บอกไปแล้ว ข้อสอบเอนท์เป็นข้อสอบที่มาตรฐาน กรรมการออกข้อสอบจะวางช้อยส์มาเป็นอย่างดี ในบางช้อยส์จึงมีรูปแบบที่น่าสังเกต
-เมื่อเราจนตรอก ให้ลองวิเคราะห์การวางช้อยส์ดี ๆ คิดซะว่า “ถ้าเราเป็นคนออกข้อสอบ จะวางช้อยส์ข้อนี้ยังไง” อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างการวิเคราะห์ช้อยส์นะ ถ้าพอจะเป็นแล้ว ก็ลองไปวิเคราะห์ช้อยส์เองตอนจนตรอกในห้องสอบ
-*ขอย้ำว่าวิชามารไม่สามารถจะนำไปใช้ในการทำข้อสอบได้ทุกข้อนะ เพียงแต่นำไปใช้ในการทำข้อสอบได้หลายข้อเท่านั้น
-วิชามารแบบนี้ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ควรจะใช้การตัดช้อยส์และการเกลี่ยช้อยส์ประกอบกันไปด้วยนะ เพื่อที่จะได้ข้อที่ควรจะเป็นคำตอบมากที่สุด บางทีอาจจะตัดได้จนเหลือช้อยส์เดียวก็ได้นะ ถ้าวิเคราะห์เก่ง ๆ
-วิชามารที่ 4 : ช้อยส์ในลักษณะเลขเรียงตามลำดับเลข
+คณิต ตุลา 46 : เฉลย ข.
ก.9          ข.10          ค.11          ง.12 
-เหตุผลและการวิเคราะห์ : โจทย์พวกนี้ มักจะต้องให้เรานับ เช่น นับจำนวนไอโซเมอร์ นับจำนวนลูกคลื่น จำนวนปฏิบัพ ถ้าเขาวางคำตอบไว้ช้อยส์ตรงกลาง  ๆ หากว่าเด็กนับพลาดไป1 ลูก ก็จะมีช้อยส์รอรับหมดเลย แต่ถ้าวางคำตอบไว้ริม ๆ (ก.หรือง.) ถ้าเด็กคิดพลาด แล้วไม่เจอช้อยส์ ก็จะรู้ตัวว่าคิดผิด วัดไม่ได้ว่ารู้จริงแค่ไหน.....พอเข้าใจมะ
-สรุปเป็นสูตรสำเร็จ : ถ้าเจอการวางช้อยส์ในลักษณะเลขเรียงตามลำดับดังตัวอย่าง ช้อยส์ที่อยู่ตรงกลาง คือ ข. และ ค. ควรจะเป็นคำตอบมากที่สุด
+เคมี ตุลา 44 : โจทย์ให้หาจำนวนไอโซเมอร์ (เปิดข้อสอบเก่าตรวจสอบได้นะ)
ก.5        ข.6        ค.7        ง.8 
อธิบาย : เลขเรียงแบบนี้ ควรตอบช้อยส์กลาง ข. หรือ ค. (เฉลย ค.)
+ วิศวะ ตุลา 46
ก.5.63        ข.6.63        ค.7.63        ง.8.63
อธิบาย : อันนี้ก็เป็นเลขเรียงในอีกลักษณะนึง ควรตอบช้อยส์กลาง (เฉลย ค.)
-วิชามารที่ 5 : ช้อยส์ที่ไล่จากเลขมากไปน้อย
+คณิต1 ตุลา 46 : เฉลย ข.
ก.4        ข.3        ค.2        ง.1
-เหตุผลและการวิเคราะห์ : โดยธรรมชาติมนุษย์ คนออกข้อสอบควรจะวางช้อยส์ไล่จากเลขน้อยไปเลขมากถูกมะ แต่ไหงมันถึงได้ไล่จากเลขมากไปหาเลขน้อยล่ะ น่าสงสัยน่ะ อาจจะเป็นไปได้ว่า มีคำตอบที่ถูกเป็นช้อยส์ ค. และ ง.มากแล้ว คนออกข้อสอบอาจจะต้องการเกลี่ยช้อยส์ ก็เลยกลับช้อยส์เอาเลขมากมาอยู่ข้างหน้า
-สรุปเป็นสูตรสำเร็จ : ถ้าเจอช้อยส์ที่เรียงเลขจากมากไปน้อย ขอแค่เรียงจากมากไปน้อยก็ผิดสังเกตแล้วอ่ะ ช้อยส์ที่ควรจะเป็นคำตอบมากที่สุดคือ เลขมาก ก. หรือ ข. นั้นเอง
+วิศวะ มีนา 45
ก.126            ข.120            ค.114            ง.100
อธิบาย : เลขเรียงจากมากไปน้อยแบบนี้ควรตอบเลขมาก 126 หรือ 120 (เฉลย 120)
+คณิต ตุลา 46
ก.รูท8            ข.รูท7            ค.รูท6            ง.รูท5
อธิบาย : อันนี้ก็เป็นเลขเรียงจากมากไปน้อยในอีกลักษณะนึง ควรตอบ รูท8 หรือ รูท7 (เฉลย รูท7)
-วิชามารที่ 6 : ช้อยส์ที่ลวงไว้เผื่อเด็กคิดเลขผิด
+ฟิสิกส์ มีนา 46 : เฉลย 0.8
ก.0.4            ข.0.6              ค.0.8              ง.1.3 
-เหตุผลและการวิเคราะห์ : ช้อยส์แบบนี้มีเยอะเลยแหละ อย่างที่บอก คิดผิดก็มีคำตอบรออยู่ คนออกข้อสอบเขาจะเผื่อคำตอบที่เด็กอาจจะคิดเลขผิดไว้ก็ได้ เช่น ลืมหาร 2 ในข้อที่ให้หาค่าเฉลี่ย, ลืมคูณในข้อที่หารัศมีได้ แต่ถามเป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง, คิดเลขทศนิยมพลาด ทำให้ได้ทศนิยมที่ผิดตำแหน่ง, ย้ายข้างสมการพลาด ทำให้ได้เศษส่วนที่ผิด เป็นต้น
-สรุปเป็นสูตรสำเร็จ : สังเกตช้อยส์ที่อาจจะถูกวางไว้เป็นหลุมให้เด็กที่คิดเลขผิดตกเล่น เพราะช้อยส์นั้น อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกก็ได้
+เคมี ตุลา 45
ก.2.5            ข.25              ค.75              ง .85
อธิบาย : ข้อนี้เผื่อว่าคิดเลขทศนิยมพลาด ควรตอบ 2.5 หรือ 25 (เฉลย 25)
+วิศวะ ตุลา 46
ก.g                ข.2g            ค.g/2            ง.3g/2
อธิบาย : ข้อนี้เผื่อว่ากลับสมการพลาด ควรตอบ 2g หรือ g/2 (เฉลย g/2) ถึงแม้จะคิดได้ว่าเผื่อลืมหาร 2 แต่ควรจะสังเกตช้อยส์ที่ให้มาเป็นเศษส่วนอยู่หลายช้อยส์ เราน่าจะคิดไปที่เรื่องของสมการและเศษส่วนมากกว่า
***สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้คัดลอกไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความ***
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น