ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Thump❉Thump [minji♥seungri]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1: First Met: She said the youngest only one there!

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 54



    Chapter 1

    First Met: She said the youngest only one there!






     

                    ครั้งแรกที่เราเจอกัน จุดเริ่มต้นของทั้งหมดคือคำว่า มักเน่

     

                    วันนี้ผมรู้สึกดีเป็นพิเศษเพราะว่าเมื่อคืนนี่จียงฮยองบอกว่าเราจะได้เจอกับเกิลร์กรุ๊ปน้องใหม่ที่กำลังจะเดบิวส์ ทั้งๆที่พวกเธอก็ฝึกอยู่ในตึกเดียวกับพวกเรามาหลายปี แต่ผมไม่ยักกะเคยเจอมาก่อน ประธานเรานี่ช่างมีความลับเยอะเหลือเกินแฮะ

                    ผมได้ข่าวมาสักพักแล้วหล่ะว่าแฟมิลี่เรากำลังจะมีเกิลร์กรุ๊ป นั่นทำให้ผมรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจเป็นพิเศษ ก็ประธานยางของเราหน่ะสิ ออกจะกีดกันพวกเราจากผู้หญิง พวกเราก็มีตารางงานเยะแยะจนไม่มีเวลาได้พบเจอสาวๆเลย แต่ช่วงหลังมานี้ตารางงานพวกเราน้อยลง เป็นช่วงพักของบิ๊กแบง ผมก็มีเวลามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้พบเจอใครสักที จากที่ผมเล่าๆมาคุณก็คงรู้แล้วใช่มั้ยหล่ะว่าผมนิสัยยังไง …. ใช่ผมเป็นประเภทชอบมองผู้หญิงน่ารักๆ แต่ก็ไม่ใคนเจ้าชู้เหมือนจียงฮยองนะฮะ

    ผมเดินตัวปลิวอารมณ์ดีเข้าตึก YG แสนคุ้นเคย ผมส่งเสียงผิวปากไปตามทางเดิน เสยผมเล็กน้อยพอดูดี ก่อนจะหมุนตัวหนึ่งทีที่หน้าลิฟต์ อันที่จริงก็อยากจะโชว์ท่ารูดเป้าแบบไมเคิล แจ็กสันนะ แต่เกรงใจอาจุนม่าที่ยืนรอลิฟต์อยู่ข้างๆ

    ติ้ง..เสียงลิฟต์เปิดออก

    ผมสะบัดมือเป็นการเชิญสุภาพสตรีเข้าไปก่อนตามมารยาท ใครเห็นผมอาจจะคิดว่าบ้า แต่ก็นะผมเป็นคนแบบนี้แหละ ขี้เก็กและหลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง ก็ผมมันหล่อนี่ครับ

    ผมแทบจะมูนวอล์คเข้าลิฟต์ถ้าไม่ติดที่มือเย็นๆทาบลงบนคอของผมตามด้วยน้ำเสียงเย็นๆของคนที่ผมเกรงขามสุดๆ

    “ ซึงรีอ่า นายเป็นไอดอลนะ จะต้องให้ฉันบอกอีกกี่หนกันว่าห้ามทำอะไรโง่ๆ “ ทุกคำพูดที่เสียดแทงนั้นจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากประธานยางกูลแห่ง YG เรานี่เอง

    ผมหันไปมองสีหน้าท่านประธานแต่ประธานดันผมเข้าไปในลิฟต์เสียก่อนผมเลยมองไม่ชัดนัก พอเข้ามาถึงในลิฟต์ผมก็ก้มหน้าก้มตาสำนึกผิดเต็มที แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนโดนรังสีแผดเผาอยู่ดี

    ติ้ง.. เสียงประตูลิฟต์ช่วยชีวิตผมอีกครั้งเมื่อท่านประธานเดินออกจากลิฟต์ไปยังห้องประชุม

    เฮ้อ..ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่โดนทำโทษอะไรก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปทางตรงข้ามกับท่านประธาน ผมเดินมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย ห้องอัดเสียงของเท็ดดี้ฮยองนั่นเอง อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ของฮยองเขาหรอกนะ

                    เพียงแต่ฮยองเขาสิงอยู่ที่นั่นตลอดแทบจะไม่กลับบ้านเลยก็ว่าได้เลยเรียกว่าห้องอัดเสียงเท็ดดี่ฮยอง

                    แอ็ด..

                    ผมแง้มประตูเปิดเข้าไปในห้องด้วยใจระทึก ทันทีที่เสียงภายในห้องลอดผ่านบานประตูที่แง้มเข้าไปทีละนิดสาดเข้าตาสองข้างของผมหัวใจผมยิ่งเต้นเร็วและแรงขึ้น และเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏ….

                    .

    .              

    หลังท็อปฮยองคือภาพที่ผมเห็น ฮยองยืนหันหลังอยู่ใกล้บานประตู นั่นจึงเป็นสิ่งแรกที่ผมเห็น ผมเลยก้าวเข้าไปในห้องสายตาผมมองเห็น..ความสดใส บริสุทธิ ผู้หญิงที่ผมกำลังจ้องอยู่นี้เป็นนางฟ้ารึเปล่าทำไมเธอถึงได้ดูดีขนาดนี้ ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ดูมีราศีเปร่งปลั่งออกมาจากตัวเองขนาดนี้มาก่อน

                    พระเจ้า ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผมช่างมีทุกอย่างเพรียบพร้อม เธอมีใบหน้าขาวใสดวงตากลมโตใสซื่อนั่น ริมฝีปากบางๆที่แต้มสีชมพูจางๆ ตัวเธอดูเล็กบอบบางน่าถนุดถนอม แต่ดูเด็กเกินไปสำหรับผมนะเนี้ย วินาทีนั้นผมคิดว่าเธอคือคนที่เด็กที่สุดในกลุ่ม ที่ได้ยินมาว่าอายุแค่ 15 เท่านั้น ถึงเธอจะยังเด็กอยู่แต่ผมก็ไม่ได้ห่างจากเธอเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับพวกฮยองที่เหลือผมน่าจะมีสิทธิที่สุด

    จึ๊กๆ ผมถูกสะกิดด้วยมือของแดซองฮยองเบาที่สีข้างทำให้รู้สึกตัว

                    ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองอ้าปากค้างจ้องเธอตาเป็นมันอยู่นานแค่ไหน จนฮยองแดซองเขยิบมาใกล้และสะกิดเรียกผมให้หลุดจากผวัง ผมหันไปมองหน้าแดซองฮยองแว่บนึงก็เห็นว่ากำลังมองไปที่เธอคนนั้นแถมยังยิ้มตาหยี โธ่ตัวเองก็เหมือนกันแหละน่า แล้วผมก็รู้สึกร้อนๆที่หลังเลยหันไปทางท็อปฮยองก็พบว่าฮยองกำลังมองพวกเราด้วยสายตาดุๆ

                    เซงชะมัดเลยท็อปฮยองจองอีกแล้วหรอเนี้ย แต่ทำไมไม่ส่งสายตาดุๆให้จียงฮยองบ้างหล่ะ แต่จะว่าไปตอนผมมองไปที่จียงฮยอง ผมรู้สึกเหมือนจียงฮยองจองพี่ดาร่าก่อนท็อปฮยองซะอีก เอ๊ะหรือผมคิดไปเอง เพราะผมเห็นประกายตาที่ดูเหมือนเจอสาวที่ใช่ของจียงฮยองแต่ก็เหมือนกับโมโหอะไรซักอย่างใส่เธอคนนั้น แต่ว่าเธอแค่ 15 ..?

    ผมสาดส่ายสายตามองรอบห้อง ผมเห็นบมมี่นูนาที่พวกเราเคยร่วมงานกันครั้งนึงจากข่าวที่ได้ยินมามีคนอายุเท่าบมมี่นูนาด้วย ถัดมาเป็นผู้หญิงอีกคนที่ดูมีความมั่นใจในตัวเอง เธอดูเข้มแข็ง หน้าตาเธอก็เรียกได้ว่าสวยเลยทีเดียว เพียงแต่เธอคนนั้นดูมีออร่ากว่าเท่านั้น ส่วนอีกคนนึงที่กำลังยืนกอดอกจ้องหน้าผมแถมยักคิ้วให้อีกดูเป็นผู้หญิงซนๆหน่อย อันที่จริงๆผมว่าเธอเหมือนจะท้าทายผมนะ เพราะจากกริยาตรงหน้าที่แสดงออกมา

                    แบร่ :P                                                                                         

                    อยู่ดีๆเธอก็แล่บลิ้นใส่ผมแล้วเดินไปแอบอยู่ข้างหลังผู้หญิงน่ารักคนนั้น ชิ ยัยนี่ชักจะกวนโมโหผมเข้าแล้วสิ

                    มักเน่ เสียงจียงฮยองตะโกนเรียกจากตรงที่เขายืนอยู่ ซึ่งไม่ได้ไกลจากผมเท่าไหร่เลย ทำไมต้องตะโกน (‘_’;)

                    ค่ะ โอปป้า/ครับ พี่จียง เมื่อผมขานรับจียงฮยองก็ดันไปประสานเข้ากับเสียงใสๆเล็กของใครคนหนึ่งเข้า            

    ( -_-) (-_- ) ผมหันหน้าไปเจอกับใบหน้ากวนๆนั่นอีกครั้ง

    สิ่งแรกที่ผมเห็นคือผู้หญิงคนนึงที่ดูแล้วน่าจะอายุมากที่สุดในวงเท่ากับบมมี่นูนา เธอดูเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจสูง จากเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ก็รู้ว่าเธอรักในการเต้นแค่ไหน ดูจากหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟริมนั่นแล้ว เธอคงจะฝึกซ้อมอย่างหนักแน่ๆ เราคงได้คุยเรื่องท่าเต้นกันในอนาคต แต่เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เธอขานรับจียงฮยองพร้อมผม แสดงว่า....

                    เอ่อ อุปป้าเรียกซึงรีหน่ะขอโทษทีนะมินจิ จียงฮยองพูดขึ้นหลังจากเห็นว่าสถานะการณ์ตอนนี้เริ่มมาคุ แต่ตอนนี้ก็สายไปแล้วหล่ะเพราะผมกำลังจ้องหน้าเอาเป็นเอาตายอยู่กับคนตรงหน้า

                    ตกลงเธอคือมักเน่หรอเนี้ย เธอคนนี้เนี้ยนะอายุ 15 และยังมาขานรับชื่อมักเน่ที่ผมถูกเรียกมาตั้ง 3 ปี ก็ผมหน่ะเป็นน้องเล็กของวงบิ๊กแบงนะ ชื่อมักเน่ก็มีแต่คนเรียกผมทั้งนั้น ในแฟมิลี่เราก็เรียกผมมักเน่มาตั้งนานแล้ว จะให้มีมักเน่ถึงสองคนมันเป็นไปไม่ได้หรอก

                    จียงฮยอง! ทำไมชื่อมักเน่ของผมต้องไปซ้ำยัยนี่ด้วยหล่ะ ผมพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ เพราะผมเด็กที่สุดเลยเอาแต่ใจกับพี่ๆในแฟมิลี่ของเรามาแต่ไหนแต่ไร เวลาเจอเรื่องแบบนี้นิสัยเอาฃนะของผมจะกำเริบ ผมแยกเขี้ยวใส่คนตรงหน้า            

     “ ใช่ ค่ะอุปป้า ทำไมต้องชื่อซ้ำกันด้วยมักเน่มีคนเดียวก็เกินพอแล้ว หึ “ เธอหันไปพูดกับจียงฮยองก่อนจะหันกลับมาแยกเขี้ยวใส่ผมเช่นกัน ผมเริ่มรู้สึกโมโหมากขึ้น ก็คนอย่างอีซึงรี ไม่เคยถูกใครกระตุกหนวดเสืออย่างนี้มาก่อน ไม่ว่าใครก็จะต้องคอยตามใจผมทั้งนั้น แต่ยัยนี่เป็นใครกัน ฮึ่มๆ

    “ จียงฮยอง ผมไม่ยอมนะ ผมชื่อมักเน่มา 3 ปีแล้วยัยนี่ไม่มีทางได้ชื่อมักเน่หรอก หน้าก็แก่ไม่เหมาะกับชื่อมักเน่สักนิด “ แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงความโกรธจากคนตรงหน้า นั่นยิ่งทำให้ผมหึกเหิมเข้าไปใหญ่

    “ เป็นเด็กโข่งรึไง อยากเป็นมักเน่อ่ะใครๆเขาก็รู้ว่าฉันอายุน้อยที่สุดต้องได้เป็นมักเน่ นายหน่ะแก่แล้วยังมาว่าคนอื่นอีก ไปส่องกระจกไปจะได้รู้ว่าหน้านายมันโซมจนฉันเรียกปู่แล้ว :P “ เธอก้าวเข้ามายืนประชิดตัวผมก่อนจะ….แลบลิ้นใส่   

    “ ว้ากกกกก เธอยัยเด็ก เด็ก เด็กดื้อด้านไม่รู้จัดเคารพผู้ใหญ่ “ ในที่สุดผมก็รู้สึกเหมือนพ้นไฟได้ ผมระเบิดความโกรธออกมาแทบไม่เป็นคำพูดก่อน

    “ อ้าว ไหนว่าตัวเองเป็นมักเน่ไงแล้วฉันต้องเคารพมักเน่ด้วยหรอ “ เธอทำหน้ากวนประสาทลอยหน้าลอยตาจนผมทนไม่ไหว จะวิ่งเข้าไปจับเธอมาตีให้ก้นลาย แต่เธอรู้ตัวเสียก่อนเลยเริ่มออกตัววิ่งไปหลบหลังพวกฮยองไปๆมาๆ จนตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่หลังผู้หญิงน่ารักคนนั้น

    ตอนนี้ผู้หญิงน่ารักคนนั้นกำลังทำท่ากางแขนออกปกป้องยัยตัวดี แต่ว่าท่าทางแบบนี้มันยิ่งทำให้ผม ผม >///< น่ารักที่สุด ผมมองหน้าเธอแล้วก็เกิดอาการ -0- อ้าปากหวอ เมื่อกี้เธอทำตาโตใส่ผมด้วยหล่ะ ดูแก้มใสๆนั่นสิน่าหยิกจริงๆ

    “ หยุดๆๆ พอแล้วทั้ง 2 คน “ เสียงแทยังฮยองที่สงสัยจะรำคาญกับการวิ่งไล่จับของผมกับยัยนั่น

    “ ซึงรี มินจิอายุน้อยกว่าเรานะให้น้องเขาเป็นมักเน่ “ แทยังฮยองพูดขึ้นนั้นทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้ายัยนั่นทันที
    ตามมาด้วยท่าทางฟึดฟัดไม่ยอมของผม แต่แทยังฮยองก็เดินมาใกล้ผมก่อนจะกระซิบบอก

    “ นายไม่ได้เป็นมักเน่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ ยังไงมักเน่ก็ต้องเคารพฮยองอย่างนายอยู่ดี “ ผมรู้สึกเหมือนผู้ชนะอีกครั้ง รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก ผมเพิ่งจะนึกได้ว่าเมื่อก่อนผมเกลียดการเป็นมักเน่ขนาดไหน การที่ต้องเคารพรุ่นพี่ ถูกรุ่นพี่ใช้งาน ฮึฮึ ได้ในเมื่อผมไม่ได้เป็นมักเน่แล้ว ยัยนั่นที่เป็นมักเน่ก็ต้องเคารพและเชื่อฟังผมฮ่าๆๆ

    “ เอาหล่ะทุกคน เป็นการเป็นงานหน่อยอีก 15 นาทีเราจะเริ่มอัดเสียงกันแล้ว หวังว่าทุกคนจะพร้อมนะ เอ๊ะ พวกเราแนะนำตัวกันรึยัง “ จียงฮยองมองหน้าพวกเราทุกคนในห้อง

                    “ ยังค่ะ / ยังครับ “ ผมกับยัยนั้นขานตอบพร้อมกันอีกละ

                    “ งั้นเริ่มจากฉันก่อนละกัน ควอน จียง เรียกว่าจียงครับ “ จียงฮยองแนะนำตัวเป็นคนแรก แต่ผมว่าดูเหมือนทุกคนจะรู้จักฮยองอยู่แล้วแหละ

                    “ แดซองครับ ^_____^  แดซองฮยองแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มตาหยีไปทางยัยตัวแสบนั่น โธ่แค่หน้าตาคล้ายฮยองก็ออกท่าทางจะรักยัยนั่นมากกว่าผมหรอ ไม่มีทางหรอก ฮึ

                    “ ยองเบ หรือ แทยัง ก็ได้ครับ ^_^ " พี่แทยังหันไปยิ้มให้เธอคนนั้นด้วย อย่าดิฮยองผมก็จองอยู่เหมือนกันนะ

                    “ ท็อปครับ “ ท็อปฮยองรู้สึกจะแนะนำตัวแบบมาคุแฮะ แถมยังมองเธอคนนั้นแล้วหันมาหาพวกเราแบบน่ากลัวด้วย

                     ซึงรีครับ เรียกผมว่า ซึงรีนะครับ “ ผมเดินเข้าไปหาเธอคนนั้นแล้วส่งสายตาหวานเชื่อมให้เธอทันที ฮยองก็ฮยองเหอะคนนี้ผมขอละกัน

                    “ จะทำอะไรนายซึ้งนึ่งข้าวเหนียว “  อะ..อะไรนะ ซึ้งนึ่งข้าวเหนียวอย่างนั้นหรอ ชิ มันจะมากไปแล้วนะ ยัยนั้นเดินออกมายืนระหว่างผมกับเธอคนนั้น

                    “ ฮะ เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ ?_? “ ผมมองหน้าเธอแล้วแยกเขี้ยว แต่คราวนี้ยัยนั่นกลับแยกเขี้ยวกลับใส่ผมอีกต่างหาก โอ๊ยๆๆ ตรงขมับผมมันเต้นตุบๆเลยหล่ะ

                    “ นายซึ้งนึ่งข้าวเหนียว -_- “ ผมมองหน้าเธอแบบไม่สบอารมณ์สุดๆ

                    “ อุ๊บ อ่ะ ฮ่าฮ่า อุ๊บ คิก “ เสียงแดซองฮยองกำลังกลั้นหัวเราะเอาไว้ ทำให้ผมหันควับไปมองแดซองฮยองแบบเคืองๆ

                    “ แดซองฮยองขำอะไรฮะ “ ผมหันไปมองตาขวางใส่แดซองฮยอง แต่แดซองฮยองโบกมือไม่รู้ไม่ชี้แต่ตัวเองกับเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะต่อไป

                    “ ก็ขำนาย ซึ้ง นึ่ง ข้าวเหนียวไง คิกคิก “ ยัยนั่นเน้นแต่ละคำช้าใส่หน้าผม กร๊าซ! อีซึงรึทนไม่ได้

                    “ พอๆๆ ต่อไปใครแนะนำตัวฮะ เดี๋ยวเราจะรีบอัดเสียงนะ ซึงรีมานั่ง " แต่จียงฮยองก็สั่งเสียงเข้มซะก่อน

                    “ ปาร์ค บม หรือ บมมี่ ค่ะ ^/ / /^ “ เสียงใสๆของบอมมี่นูนาดังขึ้น แตกต่างจากตอนร้องเพลงมาก ผมยังรู้สึกคนลุกอยู่เลยเวลสนูนาร้องเพลงเสียงทรงพลังนั่น ผมยังได้ยินก้องอยู่ในหัว เป็นเสียงที่ไพเราะจริงๆ

                    “ แชริน หรือ CL ค่ะ “ ยัยแชรินแค่แนะนำตัวก็ยังเท่แฮะ

                    “ ซานดาร่าค่ะ ^__^ ” เสียงนี่น่ารักกว่าบอมมี่นูนาเสียอีก ในที่สุดก็รู้ชื่อแล้ว ซานดาร่า ซานดาร่า

    “ มักเน่มินจิค่ะ “ และในที่สุดผมก็รู้ชื่อยัยตัวดี มินจิงั้นสินะ ยัยมินจิโค้งหัวให้ทุกคนแต่พอถึงผม กลับเงยหัวทันที ฮึ่มๆ

                    “ ก่อนอื่น ต้องบอกว่าที่นี่เราต้องเคารพรุ่นพี่เพราะฉะนั้น มักเน่ต้องเชื่อฟังรุ่นพี่เข้าใจมั้ย ^_^ " ผมพูดขึ้นก่อนที่ทุกคนจะเข้าห้องอัด แถมรอยยิ้มอาฆาต 1 ทีไปให้ยัยมินจิตัวแสบ


    เอาหล่ะทุกคน ทำงานได้ ท็อปฮยองอัดเสียงคนแรก ตามด้วยป้านะ แล้วก็ซึงรีมินจิ ยองเบ บราๆๆๆ เสียงจียงฮยองสั่งให้พวกเราเริ่มทำงาน ทำให้ผมรู้สึกกระตอรือร้นขึ้นมา อันที่จริงๆผมกรตือรือร้นเพราะคำสั่งว่าผมเข้าไปอัดเสียงก่อนยัยมินจิตัวแสบนั่นต่างหากหล่ะ

                    ในหัวผมกำลังคิดหาแผนการในการกลั่นแกล้งยัยนี่สารพัด เพราะที่แน่ๆตอนมเดินออกจากห้องอัดยัยนั้นจะต้องเตรียมตัวรอเข้าไป ช่วงเวลานั้นจะมีแค่เราที่อยู่ข้างห้องอัด แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ฮึฮึ


    Author Say hi!

    สวัสดีค่ะทุกคน ไรเตอร์คนเดิมกลับมาแล้ว
    มาพร้อมกับฟิคเรื่องใหม่ล่าสุด
    สำหรับใครที่รักมักเน่คู่นี้ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า
    คุณจะยิ่งรักพวกเขาขึ้นไปอีกถ้าอ่านเรื่องนี้ คึคึ
    ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ

    Author by.Kwon JIsun
    Chapter 1 update [TUE]. August 23, 2011(17:34PM)





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×