ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักใสใส ในเดือน ธันวาคม

    ลำดับตอนที่ #7 : เคาท์ดาวน์

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 51


                    ตุ๊ดๆ ๆ     ตุ๊ด ๆ ๆ   ตุ๊ด ๆ ๆ   ตุ๊ด ๆ ๆ  กริก

                    เสียงสังเคราะห์แบบโพลีโฟนิคดังมาจากนาฬิกาปลุกรูปแม่ไก่ซึ่งวางอยู่บนหัวเตียงของอิ๋วถูกปิดลงด้วยฝ่ามือน้อย ๆ ของอิ๋วที่เหวี่ยงมือตะปบขึ้นมาปิดนาฬิกาโดยไม่หวังว่านาฬิกาจะพังหรือเปล่า 

                    อิ๋วใช้ความพยายามอย่างสูงในการเพิ่งตา  ลืมตา  และดันหัวตัวเองออกมาจากกองผ้าห่ม  พะงกหัวขึ้นเพื่อมองนาฬิกาว่ากี่โมงแล้ว   ก่อนจะฟุบลงไปหลับเหมือนเดิม 

                    เวลาผ่านไปราวเกือบชั่วโมง  อิ๋วรีบพะงกหัวขึ้นโดยไวไปจากกองผ้าห่ม  ใช้สายตามองลอดจากเปลือกตาชั้นเดียวไปที่นาฬิกา  ปรากฏว่าเป็นเวลา เจ็ดโมงครึ่งแล้ว

                    โอ๊ยยยยยยยยยยย  ตายแล้ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆอิ๋วตะโกนลั่นบ้านไม่หยุดพลางรีบวิ่งกูลีกูจอไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วจู้ดไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำโดยไว  ภายในเวลาไม่นานนัก  อิ๋วใช้ความสามารถพิเศษในการแต่งตัวชุดนักเรียนอย่างรวดเร็วโดยที่ชุดนักเรียนที่เธอใส่ไม่สู้เรียบร้อยนัก  รีบวิ่งออกมาสวัสดีพ่อสวัสดีแม่โดยไวและรีบวิ่งออกมาที่หน้าบ้านของบิวซึ่งแน่นอนว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านอิ๋ว

                    ที่หน้าบ้านของบิว  คอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงสี่สิบกว่า ๆ อิ๋วมายืนด้อม ๆ มอง ๆ เข้าไปในร้านขายของชำบ้านของบิว  ขณะนั้นตาเปรมพ่อของบิวกำลังเฝ้าร้านนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่  เมื่อเห็นว่าอิ๋วมายืนด้อม ๆ มอง ๆ เหมือนจะหาอะไรบางอย่างอยู่

                    มาซื้ออะไรละลูก  อิ๋วตาเปรมถามออกมาด้วยความไมตรี

                    อ๋อเปล่าค่ะ  คือตอนนี้  บิวไปโรงเรียนหรือยังคะลุงเปรม

                    อ้อ  เจ้าบิวเหรอ  มันไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่โห่โน้น  ประมาณหกโมงเช้าได้มั้ง  ลุงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไปโรงเรียนเช้าจังเลย  ลองไปหาที่โรงเรียนสิ

                    ออ  ขอบคุณค่ะ  งั้นหนูไปเรียนเลยนะคะ  สวัสดีค่ะลุงเปรม

                    ตาเปรมรับไหว้จากอิ๋วก่อนจะเดินไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ  ส่วนอิ๋วก็ต้องเดินทำหน้าเซ็ง ๆ ไป

    โรงเรียน  อะไรกันเนี่ย  นี่ก็วันที่สามแล้วนะที่บิวไปโงเรียนก่อนนะ  เมื่ออาทิตย์ก่อน ๆ ยังไปเรียนด้วยกันอยู่เลย  เป็นอะไรของเขาน้า  หรือว่าที่บิวทำอย่างนี้ก็เพราะจะหลบหน้าเราหรือเปล่า

     

                    ขณะเดียวกัน  ที่โรงเรียนในยามเช้าซึ่งพลุ่งพล่านไปด้วยเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตาที่เตรียมตัวจะเรียนหนังสือในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  และที่โต๊ะรวมกลุ่มของบิวนั่นเอง

                    แบงค์ยืนทำหน้าเคียดแค้นที่โดนบิวหลอกว่าเป็นแฟนกับอิ๋ว  ทั้ง ๆ ที่บิวไม่ได้เป็นแฟนกับอิ๋วในขณะที่คนอื่น ๆ มีแฟนกันหมดแล้วทำให้เขาต้องเสียพนันเลี้ยงเพื่อน ๆ ในกลุ่มทุกคนเพราะแพ้พนันที่ว่าใครหาแฟนได้ช้าที่สุดต้องเลี้ยงเพื่อน ๆ  โดยตอนนี้แบงค์ยืนยกขาหนึ่งข้างมาวางไว้ที่ม้านั่งที่บิวนั่งอยู่และจ้องมองไปที่บิวด้วยสายตาที่เรียกได้ว่าหากมีกระดาษมาปลิวผ่านสายตาที่แบงค์มองบิวตอนนี้ละก็จะต้องใหม่เกรียมไปด้วยรังสีความแค้นที่แบงค์มองบิวแน่ ๆ

                    อ้ายบิว  แหะ ๆ ฮืมมมม  แก  ทำอะไรกับฉันไว้  รู้ดีนะ  ทำให้ฉันต้องเสียเงินเก็บที่อุตสาห์เก็บมาตั้งเดือนนึง  ฮืมมม  แล้วคราวนี้จะว่ายังไง  มีข้อแก้ตัวอะไรก่อนไหม  เดี๋ยวสวยแน่แบงค์ยืนทะมึงทึงหักนิ้ว  แกบ ๆ

                    บิวที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งข้าง ๆ เท้าของแบงค์ก็หันหน้าเหล่ตาที่ไป  โดยใช้สายตาที่เรียกได้ว่าสามารถฆ่าหั่นศพแบงค์แล้วหมกส้วมได้เลย

                    แบงค์เห็นท่าไม่ดีก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายตัวเองมาบีบไหล่นวดเฟ้นให้บิวพลางยิ้มแหะ ๆ เพราะเกิดอาการรักตัวกลัวตายขึ้นมาทันที  ท็อปเห็นแปลก ๆ จึงลองถามดู

                    เป็นไรวะบิว  หมู่นี้ดูแปลก ๆ มาสองสามวันและ  ทะเลาะกับอิ๋วเหรอ  จะว่าไปก็ไม่เห็นมาโรงเรียนกับอิ๋วมาสองสามวันแล้วนะ  อารมณ์ดีไว้เหอะน่า  พรุ่งนี้ก็วันเคาท์ดาวน์  วันสิ้นปีแล้วน่า ท็อปมานั่งพูดข้าง ๆ พลางตบบ่าให้กำลังใจเพื่อน ๆ

                    ใช่ ๆ ครับเพื่อนบิว  พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเคาท์ดาวน์แล้ว  ที่โรงเรียนเราเริ่มงานตอน 2 ทุ่มนะ  แน่นอนว่าสาว ๆ มีเต็มงานแน่ ๆ มีให้ดูจนลายตาเลยแหละ  ช่างยายอิ๋วเอาเหอะเนอะแบงค์เปลี่ยนสี

                    เนอะ ๆ น็อทพูดเป็นแค่นี้

                    เฮ้ย!!  เลิกพูดถึงเร่องอิ๋วสักทีบิวหันมาแว้งกัดเพื่อน ๆ จนเพื่อน ๆ ต่างแตกฮือพากันวิ่งหนีแทบไม่ทัน

                   

                    เวลาที่แสนจะยาวนานกำลังเดินอย่างเยื่องย่างและล้าช้าเหลือเกินสำหรับบรรดานักเรียนห้องสี่ที่กำลังเรียน  วิชาคณิตศาสตร์  ในตอนบ่าย ๆ กันอยู่  แต่เวลาของอิวเวลานี้กลับไม่สนใจเดือนตะวันไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรืออะไรแล้ว  เพราะเธอกำลังนั่งเหม่อลอยเคว้งไปไกลห้องสามที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง 

                    อิ๋วนึกระคนอยู่ลำพัง  ทำไมบิวถึงไม่รอมาเรียนพร้อมกับเราเหมือนเดิมนะ  จะว่าไปแล้วตั้งแต่งานวันเกิดของเราครานั้นนี่หน่า  และวันนั้นเราได้พูดออกไปอย่างชัดเจนในงานด้วยว่า  ไม่ได้เป็นแฟนกับบิว  บิวโกรธเพราะเรื่องนั้นหรือเปล่านะ  ถ้าโกรธก็แสดงว่า  บิวชอบเรา  และเราหักอกบิวนะสิ  เฮ้ยยยยยยยยยย!!!!  ในตอนนี้เสียงของอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่เป็นเพียงดนตรีประกอบในความคิดของอิ๋วเท่านั้น

                    ไม่นานนักอิ๋วก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรสะกิดแหงก ๆ อยู่ข้าง ๆ จนอิ๋วเริ่มรู้สึกตัวและหันมามองข้าง ๆ เป็น  หวาน  เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ เธอนั่นเองที่สะกิด 

                    เขาเลิกเรียกันแล้วเหอะอิ๋ว  เหม่ออะไรขนาดนั้น  จะนั่งเรียนกับผีเหรอหวานสะกิดอิ๋วในขณะที่ทุกคนพากันอกนอกห้องเพื่อกลับบ้านกันหมดมีเพีงอิ๋วนั่งซึมทะลือสมุดหนังสือคาโต๊ะอยู่คนเดียว  ก่อนหวานจะเดินกลับออกไป  อิ๋วก็เลยปลุกตัวเองและเก็บข้าวเก็บขอสมุดหนังสือกระดาษปากกาดินสอต่าง ๆ เข้ากระเป๋าหนังใบแบน ๆ ใบแก่งของเธอ

                    แหม!!!  เลิกเรียนทีหลังคนอื่นเขาเลยนะ  ขยันเนอะ ฮะ                ๆ ๆ ๆ อั๋นที่เห็นว่าเพื่อนสนิทของเธอยังบไม่มาสักทีจึงเดินมาดูที่หน้าห้องของอิ๋วและเห็นว่าอิ๋วกำลังนั่งงมโข่งเก็บของอยู่คนเดียวในขณะที่เพื่อน ๆ ในห้องของอิ๋วพากันกลับบ้านกันหมดแล้ว

     

                    แดดอุ่น ๆ ในยามเย็นเริ่มหมดลงอยู่เรื่อย ๆ ผู้คนสองข้างทางก็เริ่มที่จะออกมารับลมอยู่หน้าบ้านเช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่พากันออกมาวิ่งเล่นอยู่ทั้งสองข้างทางที่มุ่งหน้าสู่ทางกลับบ้านของอิ๋ว  อิ๋วและอั่นกำลังเดินกลับบ้านอยู่  โดยที่อิ๋วเดินไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเดินคิดอะไรเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ อยู่คนเดียว

                    มีไรก็เล่าให้ฟังได้นะ  สองหัวยังดีกว่าหัวเดียวเพราะจะได้ช่วย ๆ กันเครียด  ถ้าหัวเดียวหัวระเบิดไม่รู้นะอั๋นแซวอิ๋วที่เดินนำหน้าเธออยู่ระคนกับความเป็นห่วงเพื่อนที่ดูไม่เหมือนเดิม

                    โธ่อั๋น  นี่เธอคิดจะรับปรึกษาให้ฉันหรือจะพูดแดกดันกันแน่เนี่ยอิ๋วเริ่มมีน้ำโหและไม่เข้าใจในเจตนาของอั๋นว่าจะสื่อถึงอะไรที่พูดออกมาอย่างนี้  ขณะทั้งคู่กำลังเดินกลับบ้าน

                    โอ๋ ๆ ๆ ๆ ๆ  ล้อเล่นนะ  ก็เห็นเครียด ๆ นะ  แล้วว่าไงอะ  เล่าให้ฟังมั่งดิ  มีไรแน่ ๆ เลยอะอั๋นรีบเดินปี่เข้ามายื่นหน้าถามอิ๋ว

                    อิ๋วหันหน้าไปมองอั๋นด้วยสายตาที่ไม่สู้ไว้วางใจนัก  ก่อนจะนึกได้ว่าควรจะเล่าให้ฟังด้วยดีกว่า  เผื่อว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้

                    ไม่หรอก  ก็เรื่องมันมีอยู่ว่า

                    ว่า.....อั๋นถามซ้ำเพราะอยากรู้

                    ไม่รู้ดิ  ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรนะ  ไม่เอาดีกว่าไม่เอาและ  ไม่มีอะไรหรอกอิ๋วส่ายหน้าเพราะไม่รู้จะเล่ายังไง  เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึกระหว่างบิวกับอิ๋วเท่านั้น   ถ้าเราเล่าให้อั๋นฟังและมานจะรู้เรื่องกับเราเหรอ   ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา  กับบิว

                    เอ้า  อะไรของแกเนี่ย  เอายังไงแน่  เฮ้อ  แกนี่จริง ๆ เลย  เอางี้ ๆ เอาเป็นว่า  ฉันขอเดานะ  เรื่องระหว่างแกกับบิวใช่ปะอั๋นมองเข้าไปนัยน์ตาของอิ๋ว 

                    อิ๋วถึงกับหันมามองที่อั๋นโดยไว  อั๋นเธอนี่เกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนฉันจริง ๆ  นะแหละ  รู้ถึงความทุกข์ใจของฉันเลยนะ  ก่อนอิ๋วจะรู้สึกตัวว่ามีคนที่เข้าใจเธอจริง ๆ แล้วหละและพูดไป งั้นรอให้ถึงบ้านฉันก่อนนะ

                   

                    ที่ในห้องของอิ๋ว  อั๋นหยิบคุกกี้ที่แม่นิ่มของอิ๋วเอามาให้กินอยู่ข้าง ๆ เตียงขณะที่เธอมองลอดหน้าต่างออกไปมองที่หน้าต่างบ้านขอบิวซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ หลังจากที่ได้ฟังอิ๋วซึ่งนั่งอยู่บนเตียง  เล่าเรื่องราวทั้งหมดแล้วตั้งแต่เธอเริ่มรู้สึกจนกระทั่ง  ถึงตอนงานวันเกิดที่อิ๋วพูดออกไปอย่างนั้น  ก่อนที่อั๋นจะหันหน้ากลับมาแล้วเขมิบคุกกี้เข้าไปจนหมดปากก่อนจะพูด

                    อืมมม  เอาความรู้สึกชั้นนะ  ชั้นว่า  บิวชอบแก

                    เท่านั้นเองที่ทำให้หัวใจของอิ๋วตกมาอยู่ตาตุ่ม  เต้นไม่เป็นจังหวะ  นี่เธอก็คิดเหมือนกับฉันเหมือนกันเหรอ  ที่ว่าบิวชอบฉัน  อย่างนี้ฉันก็มีคนคิดเหมือนกับฉันนะสิ  ก่อนจะทำแสแสร้างแกล้งไม่เชื่อพูดออกไป

                    จะเป็นไปได้เหรอ  ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กนะ  และบิวจะมีความรู้สึกอย่างนี้ได้จริง ๆ นะเหรอ

                    แล้วทำไมละ  ถึงเป็นเพื่อนกันแต่ก็ยังเป็นผู้ชายผู้หญิงนี่หน่า  ไม่รู้นะความรู้สึกชั้นว่ามันใช่อะ  และที่บิวเป็นอย่างนี้ก็คงเพราะว่า  แกดันไปบอกซะเด่นชัดขนาดนั้นกลางงานเลยนี่หน่าว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน  ก็คนนะน้ะ  ถึงจะเป็นผู้ชายก็เหอะ  จิตใจก็ต้องสะเทือนเลือนลั่นเป็นธรรมดา  ถ้าบิวมนชอบแกจริงนะน้ะ  แล้วแกคิดไงอะอิ๋ว?  เออ  ว่าแต่พรุ่งนี้ก็เคาท์ดาวน์แล้วนี่  ทีโรงเรียนอะ  เฮ้ย ๆ เราจะแต่งชุดอะไรกันดีละ?อั๋นลงมานั่งข้าง ๆ เตียงและหิบคุกกี้จากจานที่วางบนโต๊ะอยู่ข้าง ๆ เพื่อจะได้ไม่หกบนเตียง

                    ก็   ไม่รู้สิ   เออนี่!! เอาคุกกี้อีกไม้  เดี๋ยวลงไปหยิบมาให้อีก  ชอบละสิกินคนเดียวหมดเลยมา ๆ เดี๋ยวเพิ่มให้  สงสัยเราคงต้องคุยเรื่องนี้กันยาวนะอิ๋วอารมณ์ดีที่อั๋นพูดออกมาอย่างนั้นจนลืมตัวรีบหยิบจานคุกกี้ที่วางกองอยู่ตรงหน้าอั๋น  ลงไปเพิ่มมาให้อีก  บิวชอบเราหรอกเหรอ  อิอิ  ดีใจจัง 

                    โหห  แหม ๆ ไมต้องแล้วแหละ  ขืนกินอีกก็อ้วนกันพอดี  และมายังไงละคราวนี้ปกติมาให้ชั้นแค่จานเดียว  คราวนี้เบิลให้อีก  เอามาอีกอันสองอันก็พอแล้วะนะ  สามสี่อัน  ห้าอันเลยก็ได้  หกอันเลยแล้วกันอั๋นตะโกนไล่หลังอิ๋วไป

     

                    วันต่อมา  วันนี้เป็นวันเสาร์ที่สามสิบเอ็ดธันวาคม  หรือเรียกอีกอย่างว่าวันสิ้นปี  ในหมู่วัยรุ่นจะพากันเรียกว่าวันเคาท์ดาวน์เพราะเป็นวันที่พวกเขาจะได้มารวมกลุ่มกันจัดงานปาร์ตี้เพื่อเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่กันเลย  ตามแบบฉบับของงานเทศกาลของชาวตะวันตกที่บรรดาชาวตะวันออกพากันเห็นดีเห็นงามนำมาเป็นทำกันด้วย  แต่เนื่องจากว่าเป็นงานที่ต้องจัดกันตอนเที่ยงคืนเท่านั้น  และเป็นเทศกาลที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับงานปาร์ตีในคืนเคาท์ดาวน์  ทางโรงเรียนจึงมีนโยบายจัดงานเคาท์ดาวน์ให้แก่นักเรียนเพราะจะได้ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาด้วย  เรียกได้ว่าเป็นงานโรงเรียนที่บรรดาเด็กนักเรียนต่างเห็นดีเห็นงามกันด้วยทั้งโรงเรียน  เมื่อมาถึงวันกิจกรรมนี้ทีไรนักเรียนแทบจะทุกคนก็จะมากันเกือบจะทุกคนถ้าไม่ติดไปต่างจังหวัดเสียก่อน  เพราะในวัยขนดนักเรียนที่มีตั้งแต่สิบสามจนถึงสิบแปด  ที่เทศกลงานโณงเรียนงานนี้แหละคือที่ ๆ พวกเขาจะได้มาเที่ยวกลางคืนกันได้โดยไม่ต้องตรวจบัตร  และอยู่ในสายตาความดูแลของผู้ใหญ่และอาจารย์อีกด้วย

                    เช่นเดียวกับวันนี้เหมือนดั่งทุกปี  เนื่องจากเป็นวันสำคัญวันหนึ่งเยทีเดียว  นักเรียนแต่ละคนจึงอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้มา  เช่นเดียวกับอิ๋ว  ที่วันนี้เธอกะว่าจะลองแต่งตัวให้เต็มที่ไปเลย  วันนี้อิ๋วใส่ชุดแส็กเปิดไหล่สีฟ้าสลับกับสีขาวเป็นกระโปรงคลุ่มยาวมาถึงหัวเข่า  ที่คาดผมสีฟ้าใส่ตุ้มหูสีขาว  ใส่กำไรงใหญ่ ๆ สีขาวที่มือขวาและนาฬิกาสีฟ้าเรือนเล็ก ๆ ลายเรมอนที่ข้อมือแขนซ้าย  โดยอิ๋วแต่งหน้าแบบอ่อน ๆ แก้มชมพูระเรื่อ  ปากสีแดงรับกับคนผิวขาวเผือกแบบอิ๋วมาก ๆ   อิ๋วยืนบิดอยู่หน้ากระจกอยู่สองสามครั้งก่อนถอนหายใจเมื่อมั่นใจในตัวเองดีแล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋าถือสีขาวมาสะพายข้าง ๆ แล้วเดินลงไปข้งล่างทักทายพ่อแม่

                    ไปก่อนป๊า  ม๊า  กลับค่ำ ๆ นะอิ๋วรีบเดินปี่ออกมาข้างนอกเพื่อไม่ให้พ่อและแม่เห็นเพราะกลับโดนแซว  จนสูญเสียความมั่นใจ

                    อืมอย่ากลับค่ำละ  และถ้าเป็นไปได้พาแฟนมาให้ดูด้วยนะแม่นิ่มนอนดูทีวีแต่ปากก็พูดแซวลูกสาวสุดที่รักจนได้  ทำให้อิ๋วรู้สึกอายหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่แม่พูดถึงเรื่องแฟน

                    แฟนเฟินอะไรละแม่  หนูยังไม่มีสักหน่อยอิ๋วตะโกนเข้ามาขณะรีบนั่งใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ข้างนอกหน้าประตูร้าน

                    และที่แต่งตัวสวยขนาดนั้น  ไม่ใช่ว่าจะให้แฟนที่จะไปด้วยวันนี้เห็นและปลาบปลื้มว่าลูกแม่น่ารักหรอกเหรอ ฮะ ๆ  ๆ ๆ ๆ

                    โธ่แม่ไม่ใช่ซะหน่อยอิ๋วหันกลับมามองค้นขณะใส่รองเท้าที่เหลืออยู่อีกข้าง

                    อ่าว ๆ ๆ   งั้งก็สะแลงว่า  ไปหาแฟงเอาที่งางเลยนี่หน่า  แหม่ ๆ ๆ ลูกเสาอั๊วะนี่รั้ยกาก นะ ฮะ ๆ ๆ

    พ่อของอิ๋วก็อดที่แซวเป็นสำเนียงชาวแผ่นดินใหญ่ไม่ได้ขณะกำลังสับไก่อยู่

                    โอยไม่คุยด้วยแล้ว  ป๊ากับม๊านี้  ไปแล้วนะ   บ๊ายบายอิ๋วใส่รองเท้าเสร็จก็รีบเจ้นออกจากหน้าบ้านเพราะไม่อยากโดนกระหน่ำแซวอีก

                    อิ๋วเดินออกมาจากบ้านที่ ๆ เธอกำลังจะมุ่งหน้าไปก็คือ  หน้าบ้านบิว  เอ  บิวจะไปหรือเปล่านะ  และตอนนี้บิวไปหรือยังหนอ  อยากรู้จัก  ก่อนที่จะไปบ้านยัยอั๋น  แวบไปดูนิดนึงก่อนดีกว่า  อะ  เอ๊ะ...........

                    ในขณะที่อิ๋วกำลังเดินไปที่หน้าร้านขายของชำบ้านบิวเพื่อที่ไปแอบดูบิวอยู่นั่นเอง  บิว  ก็เดินออกมาจากร้านของตนเอง  ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบง่าย ๆ และกำลังจะไปนัดเจอกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มเพื่อไปงานโรงเรียนเคาท์ดาวน์พร้อมกัน

                    ขณะที่บิวกำลังจะเดินไปอยู่นั่นเองก็เหลือบมาเห็นอิ๋วเดินมาพอดี  ที่ด้านข้าง  บิวตกอยู่ในภวังค์ใจละลายอยู่พักหนึ่ง  เขารู้สึกว่า  วันนี้อิ๋วน่ารักมาก  จนเกือบจะห้ามใจไม่ไหวอยู่แล้ว 

                    อ่าวอิ๋ว  จะไปโรงเรียนแล้วเหรอบิวลองถามอิ๋วดู  เพราะตอนนี้ในใจอยากที่จะเดินไปโรงเรียนพร้อมกันกับอิ๋ว

                    อืม  แล้วบิวละ  จะไปแล้วเหรอ  อิ๋วใจเต้นสั่นละรัวจนเกือบจะพูดไม่เป็นศัพท์อยู่แล้ว  เพราะเธอกะแค่มาด้อม ๆ มอง ๆ ดูบิวเท่านั้น  เพราะเธอคิดว่ายังไง ๆ  บิวก็คงไม่อยู่แน่ ๆ แต่ปรากฏว่า  บิวมายืนอยู่ตรงหน้าเธอเองแท้ ๆ

                   

                    อืมใช่  นี่ก็ว่าจะไปหาไอ้พวกนั้นที่บ้านของ  ไอ้น็อนะ  คือ  อยากเดินไปโรงเรียนพร้อมกับอิ๋วนะ  ประโยคต่อไป  ฉันจะพูดให้ได้  คอยดูสิ  สู้ ๆ นะไอ้บิว  บิวเรียกความมั่นใจ

                    อ่าวเหรอ  เราก็จะไปที่บ้านอั๋นนะ  และกะว่าจะไปพร้อมกับอั๋นเลย  งั้นเราไม่กวนนะ  แล้วเจอกันที่งานละกันนะ  ไปและ  บายและอิ๋วก็เดินจากไป  ท่ามกลางหัวใจที่แตกสลายของบิว  

                    สุดท้ายแล้วเราก็คงคิดไปเองแหละ  บิวไม่ได้ชอบเราหรอก  หลงตัวเองเกินไปหรือเปล่านะ  ถ้าบิวชอบเราจริงก็น่าจะขอเดินไปพร้อมกับเราสิ  ไม่ใช่มาบอกว่าจะไปรวมตัวกับเพื่อนอย่างนี้  ไม่เป็นหรอก  เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่าเรา  มันคงเป็นไปไม่ได้

                   

                    และแล้วก็ถึงเวลาที่งานเทศกาลจะเริ่มขึ้นคือเวลาสองทุ่มตรง  มีการเริ่มปาร์ตีเฉลิมฉลองกันทั่วโลก  เช่นเดียวกับโรงเรียนแห่งนี้ด้วย  เพราะทำการส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่เข้ามา  ความจริงแล้ววันที่สามสิบเอ็ดและวันที่หนึ่งก็เป็นเพียงวัน ๆ หนึ่งในปฏิทินเท่านั้น  เพียงแต่ว่าเป็นวันที่เกิดขึ้นเพียงปีละหนึ่งหนเท่านั้น  จึงต้องมีการเฉลิมฉลองเพื่อให้เกิดความครึกครื่นและสนุกสนาน  ปลดเปลี่องความทุกข์ไปกับเดือนเก่ากันอีกด้วย

                    ประธานนักเรียนได้ทำการพูดเปิดงานและทำพิธีเริ่มเปิดงานในที่สุด  ในงานมีการแสดงต่าง ๆ ของนักเรียนในโรงเรียนเอง  ทั้งการรำ  ดนตรีไทย  ดนตรีสากล  โชว์ตลก  การแสดงกายกรรม  มายากล  ต่าง ๆ นานา   และผู้ปกครองของบางคนก็มาด้วยทั้งมัธยมหนึ่งสองและสามเพราะยังเป็นเด็กอยู่  พวกวัรุ่นที่โตขึ้นมาหน่อยทั้งมัธยมสี่หาและหกก็มีการจับกลุ่มเพื่อน  คุยกัน  และอาจรวมถึงการพูตัวเพื่อที่จะขอเบอร์และขยับความสัมพันธ์เป็นคนสนิทกันอีกด้วย  เช่นเดียวกับกลุ่มของอิ๋วก็ยืนคุยเช่นกัน

                    แล้วยายอิ๋วก็นั่หลับเหม่ออยู่ตรงนั้นอะยายอั๋น  แกคิดดูสิ  ฮะ ๆ ๆ ๆ ว่าอิ๋วมันโก๊ะขนาดไหนหวานเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ อิ๋ว  ย่างสดอิ๋ว  เผาอิ๋วระยะเผาขนจนขนใหม่ให้กับอั๋นเพื่อนสนิทอิ๋วที่อยู่คนละห้อง   ทำเอาทุกคนในกลุ่มประมาณหกเจ็ดคนฮาตาม ๆ กัน 

                    หน่อยยย !!  น้อย ๆ หน่อยเหอะนะอิ๋วพูดแก้อายก่อนจะยกแก้วน้ำอัดลมมาดื่ม

                    นี่ ๆ แต่ว่าวันนี้อิ๋วเขาเด่นที่สุดในกลุ่มนะให้เขาหน่อย  โน้นดูสิประธานนักเรียนยังมองอยู่ตลอดเลยอะวา  เพื่อนของอิ๋วที่อยู่ในห้องเดี่ยวกันกับอิ๋วก็แซวเมื่อมีหนุ่มมามองเพื่อนของเธอ  ก่อนทุกคนในกลุ่มเช่นเดียวกับอิ๋วก็มองเหมือนกัน  ทุกคนเห็นเหมือนกันหมดคือ  ประธานนักเรียนสูง  หล่อ  ล่ำ  เนียบ  ใส่แว่น  เรียนเก่ง  กำลังมองอิ๋วอยู่ตาไม่กระพริบ  เมื่อเขาเห็นว่าอิ๋วและทุกคนกำลังมองเขาอยู่  เขาจึงหันมามองที่อิ๋วและชูแก้วน้ำขึ้นและยิ้มให้ก่อนจะเอาลงมาดื่ม 

                    ทุกคนกฺยิ้มให้  มีเพียงอิ๋วที่ยกแก้วตอบรับและนำลงมาดื่ม  ทุกตนจึงหันกลับมาเมาท์กันต่อ

                    อุ้ย ๆ ๆ นายอั้มมองมาที่แกจริง ๆ ด้วยอะอิ๋ว  โอ๊ยยยย  หล่อ  เรียนเก่ง  อ้ายยยยย ปลื้ม ๆ  นี่แกเอาดิ ๆ เป็นถึงประธานนักเรียนเลยนะ อ้อน  แอบกรี๊ดไปกับเพื่อนร่วมห้องอย่างอิ๋วด้วยอีกคน

                    นี่ ๆ ไม่ได้ ๆ เพื่อนสนิทชั้นจะมีแฟนไม่ได้  ต้องอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรกับชั้นเท่านั้นยะอั๋นต่างห้องแต่สนิทที่สุดของอิ๋วลั่นวาจา

                    โอ๊ยยย  พวกแก  ไม่มีอะไรหรอก  ชั้นก็แค่ยิ้มให้และก็ชนแก้วกับเขาเท่านั้นเอง  ดูท่าแฟนขลับอย่างพวกแก ๆ จะเยอะเสียด้วยยี้  ไม่เอาหรอก  ถึงจะหล่อก็เถอะ  จะว่าไปเราก็แอบเขินนิดนึงนะ  หนุ่มป็อบของโรงเรียนมามองขนาดนี้   แต่ช่างเถอะ  ถ้าเป็นบิวก็ว่าไปอย่าง  ก่อนที่อิ๋วจะเดินหน้าแดงไปเติมน้ำ นี่ ๆ พวกแกชั้นจะไปเติมน้ำแหละ  ใครจะฝากมั่ง

                    ชั้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆแต่ละต่างฝากแก้วกันเต็มไปหมด  ให้อิ๋วไปเติมให้  ก่อนอิ๋วจะเดินอุ้มแก้วอยู่หกเจ็ดใบเดินประคองไปตลอดทางที่จะไปเติมน้ำ  เพราะกลัวว่าแก้วโรงเรียนจะแตกและตนเองต้องชดใช้  แทนเพื่อน ๆ ก่อนตัดพ่อในใจ  ตูไม่น่าหน้าใหญ่ใจดีเลย  เกิดตกแตกขึ้นมาจะคุ้มไหมเนี่ย  ถึงจะเป็นสนามหญ้าก็เถอะ

                    ทั้งคนก็เยอะ  เบียดเสียดกัน  ทั้งแกวที่อยู่ในอ้อมอกก็แยะ  อิ๋วจึงต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการเคลื่อนย้ายแก้วไปเติมน้ำ  ทันใดนั้นเสียงสวรรค์  สุขุม  นุ่มลึก  ก็ดังขึ้นเดี๋ยวนั้นเอง

                    ขอโทษนะครับ  ให้ผมช่วยนะครับ ประธานนักเรียนรูปหล่อคนนั้นเองที่เข้ามาช่วย

                    อ๋อค่ะ  รบกวนด้วยนะคะอิ๋วก็เลยส่ง ๆ ถ่าย ๆ แก้วให้ประธานนักเรียนคนนี้ช่วยถือ  ทำเอาคนอื่น ๆ ในงานที่แอบปล้มประธานนักเรียนคนนี้ต่างพากันอิจฉาตาร้อนผ่าว ๆ

                    ขณะที่กำลังเติมน้ำกันอยู่สองคนนั้น  ประธานนักเรียนก็พูดขึ้น เราชื่อบั๊กนะ  แล้วเธอชื่อไรเหรอ เขาพูดออกมาอย่างสุภาพ

                    อ๋อ  ชื่ออิ๋วค่ะและอิ๋วรีบ ๆ พูดและรีบ ๆ เทน้ำที่โต๊ะบริการน้ำซึ่งมีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบว่าอยากจะกินอะไร  มีน้ำมากมายให้เลือกตั้งแต่  น้ำเปล่ายั้น ชากาแฟโบราณ

                    ขณะที่อิ๋วกำลังเติมน้ำอยู่นั่นเอง  ที่ตรงหน้าเธอเป็นกลุ่มของบิวที่กำลังยืนคุยกันอยู่และกำลังจะมุ่งหน้ามาทางนี้กันด้วยเพื่อเติมน้ำกัน  ซึ่งอิ๋วก็เห็นและคิดว่าคงจะเดินผ่านไปปกติแน่ ๆ จึงทำเป็นไม่เห็นและก้มหน้าก้มตาเติมนำต่อไป  เมื่อพวกบิวเดินมาถึงโต๊ะบริการน้ำอิ๋วก็เติมน้ำเสร็จพอดี  และเดินไป  พวกบิวก็เข้ามาเติม

                    เฮ้ย  ไอ้บิว  นั้นมันอิ๋วนี่หว่า  เดิมมากับไอ้บั๊ก  ไอ้ตัวขี้เก๊กเกรงขอ  แม่ง  เกลียดหน้ามันชิบ  ทำคะแนนสู้มันไมได้สักทีต้อมแอบตัดพ้อและอิจฉาบั๊กประธานนักเรียน

                    นั่นดิ และทำไมถึงเดินคู่กันกับอิ๋ววะ  ที่สำคัญ  เมื่อกี้ทำไมไม่เข้ามาทักแกวะ  ไอ้บิวท็อปลองเปิดประเด็น 

                    ใช่ ๆ น็อทอยากมีบท

                    เหรอ  ก็ช่างเขาสิบิวเองก็รีบเติมน้ำให้เสร็จ ๆ และรีบ ๆ เดินหนีไปให้ไกลจากลูกตา  เชอะชั้นไม่ได้เป็นแฟนกับเธอสักหน่อย  แล้วทำไมเราต้องทนเห็นไมได้ด้วยนะ  โอ๊ยยยย  ทรมานเหมือนกันแหะ  ที่เห็นเขาอยู่กับคนอื่นแบบนี้  แต่ไอ้เจ้าบั๊กอะไรนี่ก็พร้อมเพรียงทุกอย่างเหมือนกันนี่  แล้วหน้าอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้ละเนี่ย  ก็คงต้องยอมแพ้เท่านั้นแหละนะ  เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่า   มันคงเป็นไปไม่ได้

     

                    เวลานี้  เจ็บแบบอะไรบางอย่างมาเกาะกุมหัวใจของทั้งบิวและอิ๋วอย่างบอกไม่ถูก  มันเป็นความรู้สึกเจ็บแปลบที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิตของทั้งบิวและอิ๋ว   จนดูเหมือนว่าเขาทั้งสองจะไม่มีทางผ่านกำแพงนี้ไปได้แล้ว

     

                    บิวเองก็ยืนมองดูอิ๋วในกลุ่มเพื่อนของเธออยู่ห่าง ๆ  โดยที่มีบั๊ก  ประธานนักเรียนสุดหล่ออยู่ด้วยไม่ห่างกายอิ๋ว  จนกระทั่งบั๊กยืนดูเวลาและเห็นว่าเป็นเวลาที่สมควรแล้ว

                    เดี๋ยวยังไงผมขอขึ้นไป  กล่าวเริ่มการเคาท์ดาวน์บนเวทีก่อนนะครับบั๊กมีงานสำคัญรออยู่  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของงานเลยทีเดียว

                    ในเวลานี้อิ๋วรู้สึกว่า   ไม่อยากจะทำอะไรเลย  ไม่มีกะใจจะทำอะไรต่อไปเลย  งานไม่สนุกแล้ว  ตั้งแต่เห็นบิวเดินเข้ามาเติมน้ำและไม่ทักเธอ

                    อิ๋วครับ  อิ๋วครับ  อิ๋ว  อิ๋วครับ เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมา  ราวกับว่ามาเพ่อกลุกอิ๋วให้ตื่นจากภวังค์

                    ออ  คะ  อะไรนะคะ อิ๋วเริ่มมีสติ  ถามบั๊กกลับไปด้วยความเป็นกันเอง

                    เป็นอะไรหรือเปล่าครับไม่สบายหรือเปล่าบั๊กทำท่าจะจับหน้าผากเพื่อดูว่าไม่สบายหรือเปล่าเห็นอิ๋วเหมื่อลอย  โดยกะจะแตะอั๋งคนที่เขาชอบเป็นนัย ๆ แต่เหมือนไม้นี้จะใช้กับอิ๋วไม่ได้ผล  อิ๋วจึงเอี้ยวตัวหลบเสียทุกครั้ง  ซึ่งตอนนี้พวกเพื่อน ๆ อิ๋วต่างพากันเมาท์แตกไม่สนใจอิ๋วและประธนนักเรียนสุดหล่อแล้ว

                    ไม่เป็นไรหรอกคะ  ง่วง ๆ นิดหน่อย อิ๋วแก้ต่างไปเพื่อรักษาน้ำใจกันและกัน

                    คือ  ไม่มีอะไรหรอกครับ   เราเห็นอิ๋วเหม่อ ๆ นึกว่าไม่สบาย  แต่เดี๋ยวเราจะต้องขอตัวขึ้นเวทีก่อนนะ  เพื่อไปทำพิธีเคาท์ดาวน์แล้วนะ  คือว่า  เราขอเบอร์อิ๋วหน่อยสิ  จะได้โทรคุยกันอะบั๊กเองที่ได้ชื่อว่าป็อบในหมู่สาว ๆ ก็ออกอาการเคอะเขิน  พูดตะกุกตะกักออกไปเหมือนกัน  เมื่อเจอควาน่ารักของอิ๋ววันนี้  พลางหยิบโทรศัพท์มือถือจอสีชนิดแพงเอาเรื่องเหมือนกันขึ้นมาและทำทาเตรียมพร้อมที่จะกดบันทึกเบอร์เมื่ออิ๋วบอกตัวเลขออกมา

                    อ๋อ  คือ  เอาไว้คุยกันที่โรงเรียนจะสะดวกกว่าค่ะอิ๋วตัดสินใจไม่บอกดีกว่า  ถึงจะหล่อ  ถึงจะเก่งแค่ไหน  แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่คนนี้  ครั้นจะเก็บเอาไว้คุยเล่นก็ไม่ใช่นิสัย  มีแต่จะพาลเบื่อและเสียเพื่อนเก่ง ๆ ไปหนึ่งคนเปล่า ๆ

                    ออ ครับ  ไม่เป็นไรครับ  เอาไว้คุยกันที่โรงเรียนก็ได้  งั้นเราขึ้นเวทีก่อนนะบั๊กยังคงงง  ๆ กับตัวเองหลังจากที่โดนปฏิเสธมาชั่วขณะ  ก่อนจะรีบเดินไปหลังเวทีและเดินขึ้นมาบนเวที  ก่อนจะหยิบไมค์มาพูดอย่างคล่องปากเพราะผ่านงานพิธีกรมาอย่างโชกโชน

                ครับ  และตอนนี้ก็จวนจะถึงเวลาที่พวกเรารอคอยกันแล้วนะครับ  นั่นคือการนับเวลาถอยหลังเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่กันอย่างปรีดี  ต่อจากนี้ไปก็จะขอให้ทุกคนยืนนิ่งสงบเพื่อขอให้ความทุกข์ความโศกได้หายไปพร้อมกับปี่เป่านี้ บั๊กพูดประโยคนี้ออกมก็มองมาที่อิ๋ว และอยากได้อะไรก็ขอให้ตั้งจิตอทิษฐาน กันได้เลยครับ  ขอบอกว่า  ขออะไรจะได้จริง ๆ นะครับ  ไม่ได้โม้  ในการอทิษฐานก่อนสิ้นปีนี้  เอาละครับเริ่มกันเลยครับ

                    เมื่อสินเสียงของบั๊กทุกคนก็ต่างพากันก้มหน้าประสานมือไว้ที่หน้าอกและอทิษฐานต่าง ๆ นา

     

                    ท็อป ขอให้เรียนจบมัธยมหกให้ได้โดยไม่ติดงานขาดส่งอาจารย์

                    ต้อม ขอให้เทอมสุดท้ายนีได้คะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของโรงเรียน

                แบงค์ ขอให้ได้อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ตลอดไป

                    น็อท อะไรก็ได้ทีดี ๆ

                    อั๋น ขอให้ได้เจอ  ผู้ชายดี ๆ สักคน  หล่อ ๆ สูง ๆ ขาว ๆ ตี๋ ๆ ด้วยนะ  ชอบ  อิอิ

                   

                    บิว ขอให้อิ๋วกลับมามีใจให้กันกับเราเหมือนเดิม

                    อิ๋ว ขอให้บิวมาชอบเราจริง ๆ อย่างที่คิดไว้ดวยเถิด

     

                    เอาละครับเมื่อทั้งหมดทุกคน  อทิษฐานกันแล้ว  ก็ถึงเวลาสำคัญแล้วครับที่จะได้เคาท์ดาวน์กัน  ขอให้ทุกคนเบียดเข้าใกล้ ๆ หน้าเวทีได้เลยครับ

                    ทุกคนต่างพากันที่จะเบียดเสียดกรูกันเข้ามาเพื่อที่ว่าจะได้เข้าใกล้หน้าเวทีมากที่สุดเพื่อจะได้ฉลองและเห็นนักดนตรีจากแกรมมี่ที่จะมาเล่นได้ชัด ๆ   ทำให้ต่างคนต่างพลัดหลงกันไปหมด  อิ๋วก็พลัดกับเพื่อนเพราะถูกเบียดจนกระเด็นไปรู้ไปไหนต่อไหน  เช่นเดียวกับบิวเองก็โดนเบียดจนพลัดหลงกับเพื่อนเหมือนกัน

                    มานับพร้อมกันนะครับ

                    สิบ

                    เก้า

    แปด

    เจ็ด

    หก

    ห้า

    ทั้งบิวและอิ๋วต่างโดนเบียดกันอย่างเต็มที่  ลำพังบิวไม่เท่าไหร่เพราะเป็นผู้ชายแข็งแรงอยู่แล้ว  แต่อิ๋วเป็นคนตัวเล็กจึงเป็นอะไรที่ทำให้อิ๋วอดที่จะเห็นอกเห็นใจ  พวกปลาซาดีนในปลากระป็องไม่ได้ 

    สี่

    สาม

    หลังจากที่โดนเบียดกันไปเบียดกันมา  มารู้สึกตัวอีกที  ทั้งบิวและอิ๋วก็ต่างโดนเบียดกันจนมาอยู่ติดกันแล้ว  บิวและอิ๋วหันมามองหน้ากัน  ก็ต่างพากันตกใจว่ามายืนอยู่ตรงนี้กันได้ไง  ทั้งสองมองตากันส่งผ่านความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยต่อกัน  ราวกับว่าไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน  ก่อนทั้งคู่จะนึกขึ้นได้ว่า  ยังคงมีฐืถิกันอยู่  การจับจ้องตากันเมื่อสักครู่จึงหายไปกลับกลายเป็นการหันหน้าหนีกันไป

    สอง

    หนึ่ง

    ศูนย์

    เย้  สวัสดีปัใหม่ครับ  ทุกคน  บั๊กทำการเปิดการสวัสดีปีใหม่ และเปิดการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการ  ท่ามกลางเสียงเฮฮาและโห่ร้องที่ตะโกนกู่ก้องกันไปทั่วโลก  ซึ่งก็เกิดขึ้นทีโรงเรียนแห่งนี้เหมือนกัน  เสียงของพลุและดอกไม่ไฟแห่งการเฉลิมฉลองได้ถุกจุดขึ้น  โดยอาจารย์พละของโรงเรียน  ซึ่งดังระคนไปกับเสียงสวัสดีปีใหม่ซึ่งกันและกันของนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้  เทศกาลแห่งความสุข  สัญลักษณ์แก่งการกำเนิดสิ่งใหม่ ๆ ได้กำเนิดขึ้นแล้ว

    หลังจากสิ้นเสียงของพลูแห่งการเฉลิมฉลองได้ไม่นาน  บิวก็ตัดสินใจพูดอะไรออกมาดีกว่าอยุ่นิ่ง ๆ เฉย ๆ เพราะ  เพื่อน ๆ เขาได้หายไปหมดแล้ว  และเผื่อว่า  อะไรบางอย่างจะดีขึ้น  และเป็นบันไดไปสู่เรื่องที่เขาได้อธิฐานตอนเคาท์ดาวน์

    อิ๋วบิวเรียกอิ๋ว  ออกไปแต่หน้าตายังคงมองไปข้างหน้า  ไม่ได้มองอิ๋วที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เลย

    หืม อิ๋วเองก็ทำเป็นถาม  แต่ตาก็มองอยู่ข้างหน้าเหมือนเดิม

    สวัสดีปีใหม่นะเพียงเท่านี้ที่บิวพอจะทำได้ในขณะนี้  ที่เขาจะสามารถทำให้อิ๋ว

    อิ๋วเมื่อดิ้นอย่างนี้ก็ใจละลาย  ทำอะไรไม่ถูกจะทำเป็นนิ่งเฉยต่อคำพูดของบิวก็ทำไม่ได้แล้ว  จนต้องแอบยิ้มออกมาแต่ปากก็พยายามจะหุบและคงคอนเซปของตนเองไว้  ไม่ได้ ๆ เราจะยิ้มให้กับคำพูดเพียงเท่านี้ไม่ได้  เราจะหลงดีใจไปกับคำพูดเท่นี้ไม่ได้  อย่าลมสิ  เขาไม่ได้มีใจอะไรให้เราเลยนะ  โอยยยย  ไม่ไหวแล้ว  อิ๋วตะบะแตกยิ้มออกมาอย่างเต็มที่  ก่อนที่จะหันไปด้านข้างยิ้มให้บิวซึ่งมองออกไปทางด้านหน้าอยู่และพูดออกไปด้วยความเต็มใจ

    สวัสดีปีใหม่  นะคะ  บิวอิ๋วทำเสียงน่ารัก ๆ แบ๊ว ๆ ใส่บิว

    เพียงเท่านี้  กำลังแห่งความทิฐืของบิวก็พังทลายลงแล้ว  ไม่หลงเหลือความโกรธอะไรต่ออิ๋วอีกแล้ว  ทำให้ปากของบิวฉีกออกมาเป็นรอยยิ้มที่ยังหุบไม่ได้ของเขาแทน  ก่อนจะรีบหุบโดยไวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโฒงก่อนที่อิ๋วไม่ยอมทักเขาและเดินคู่ไปกับไอ้ประธานนักเรียนขี้เก๊กหน้าโง่คนนั้น

    อิ๋วจับที่มือของบิวทั้งสองมือ  ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาถาม

    เป็นอะไร  บิวอิ๋ว  ทำเสียงแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยเพราะอยากรู้จริง ๆ ว่าทำอะไรผิดจะได้ปรับปรุงตัวและให้บิวเป็นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด

    ตูมมมมมมมม  เสียงกำแพงแห่งทิฐิของบิวพังทะลายลงแล้วอย่างราบคาบหลังจากที่พยายามก่อขึ้นมาใหม่  เมื่อได้รับการสัมผัสจากมือ  นิ่ม ๆ และกลิ่นน้ำหอม  หอม ๆ จากตัวเด็กสาวเข้ามาใกล้ ๆ อย่างนี้  ทำเอาหัวใจบิวเต็นรัวเป็นกระเดื่องของพี่ชัดบอดีแสลม

    แล้ว  เป็นแฟนกับไอ้ประธานนักเรียนนั่นเหรอ ในเวลานี้บิวอยากรู้คำตอบนี้มากที่สุก  มากกว่าที่เขาอยากรู้ว่าเขาจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคตเสียอีก

    ทำไมต้องเรียกเขาว่าไอ้ด้วยละ  ก็  เปล่า ๆ  ไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย  ก็เอออะ  เขาก็เข้ามาขอเบอร์อะ  แต่ไม่ได้ให้ไปซะหน่อยอิ๋วพูดเหมือนกับว่าป็นแฟนกับบิว  ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันอยู่ ทำไมละ  หึงเหรอ  จิงปะ ๆ อิอิอิ๋วแหย่บิว  ทำบิวอดที่จะหุบยิ้มไม่ได้  จนต้องหันหน้าหนีเพราะอายที่อิ๋วจะเห็นรอยยิ้มของเขา  แต่แล้วสุดท้าย  เขาก็หันมายิ้มให้อิ๋ว  เฉกเช่นเดียวกับอิ๋วที่ยิ้มให้บิวเหมือนกัน  ต่างคนต่างยิ้มให้กัน   สบตากัน  โดยที่ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่เขินอายเลย  โดยที่ทั้งคู่แอบเผยความในใจผ่านทางสายตาไปแล้วว่าในใจคิดอะไรท่ามกลางเสียงพลุแสงพลุสวย ๆ ท่ามกลางความสุขสนุกของทุก ๆ คนในงาน  เป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่อยากให้เวลาหยุดเดินอยู่แค่ตรงนี้เท่านั้น  ไม่อยากให้เวลานี้มันผ่านไปเลย   มือของบิวก็จับมือนิ่ม ๆ น้อย ๆ ของอิ๋วเหมือนกัน  ส่งผ่านความอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาว ๆ ให้แก่กัน  โดยที่ไม่อยากให้มือของทั้งสองแยกจากกันเลย

    แต่แล้วความรู้สึกของบิวก็หยุดวูบลง  เมื่อมือของอิ๋วหลุดออกจากมือของบิว

    นี่ยายอิ๋วเร็วเข้า  หาตัวตั้งนาน  ทางโน้นมีจับสลากกันโน้น  ยายวากำลังจับอยู่เลยไปเร็วไปอั๋นเข้ามาลากมืออิ๋วออกมาจากฝูงชนและมืออีกข้างของบิว  หลังจากที่เดินหาอิ๋วมาจนทั่วงาน

    โอ๊ยยยย  อะไร  ไม่ไปไม่ได้เหรอ  คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม  อุ๊ย  ไม่ใช่ ๆ โอย  เค ๆ ๆอิ๋วตัวน้อย ๆ ที่ดูเหมือนว่าจะเล็กกว่าอั๋นถูกลากตัวไป  ก่อนจะหันหน้ากลับมาทางบิว  แล้วกำมือแต่เหยียดนิ้งโป้งและนิ้วชี้ไว้  ทำสัญญาณมือเป็นรูปโทรศัพท์ทมาแนบไว้ที่หู และพูดว่า  โทร  มา  ด้วย   บิวเมื่อเห็นก็ยิ้ม ๆ และพยักหน้าว่ารู้แล้ว  ก่อนอิ๋วจะโดนลากไป

    ในงานนั้น  หลังจากมีการเคาท์ดาวน์เสร็จแล้วก็มีไฮ ไลท์อยู่สองงานนั่นคือ  งานจับสลาก  และงานคอนเสิร์ตวงดัง ๆ จากแกรมมี  ส่วนมากพวกผู้ชายจะอยู่ที่ซุ้มคอนเสิร์ตกัน  ส่วนพวกผู้หญิงจะไปอยู่กันแถว ๆ หน้าที่จับสลาก  บิวเองมั่นใจว่าไอ้พวกเพื่อน ๆ ในกลุ่มต้องไปกระจุกอยู่หน้าเวทีคอมเสิร์ตแน่ ๆ จึงรีบเดินดุ่ม ๆ หนีออกไปยืนอยู่หน้าห้องน้ำเพื่อที่จะกลับก่อนโดยที่ไม่บอก  เพราะถ้าหากบิวบอกเพื่อน ๆ ละก็  เฮ้อ  ไม่ได้กลับหรอก  เผลอ ๆ อาจจะต้องอยู่กับพวกมันยันสว่างคาตาโน้น  สู้เอาเวลาน้าเดินกลับบ้านกับอิ๋วดีกว่า  จึงโทรหาอิ๋วซึ่งตอนนี้กำลังช่วยเพื่อน ๆ ของเธอลุ้นจับสลากอยู่  เมื่อโทรศัพท์อิ๋วดังขึ้นก็หยิบขึ้นมากดรับ

    จ่ะ  บิว

    อิ๋วกลับยังละ

    ไม่รู้ดิ  ก็อยากกลับแล้วอะ  และบิวจะกลับยังละ

    ก็กำลังอยากกลับอยู่เหมือนกันอะ  กลับบ้านกันเหอะความจริงบิวกะจะชวนอิ๋วมาเที่ยวกันสองต่อสอง  แต่แล้วเมื่อเห็นว่าอิ๋วกำลังอยากกลับบ้านจึงเปลี่ยนมาเป็นทำทีอยากกลับบ้านด้วยเช่นกัน

    เหรออืม ๆ เดี๋ยวกลับและ

    อืม ๆ รออยู่หน้าห้องน้ำนะอิ๋ว  ตอนนี้รออยู่นะ

    จ้า ๆ กลับ ๆ แค่นี้แหละ เดี๋ยวเดินไปหาเลยนะ

    ครับ  บาย บิวเผลอพูดเพราะ ๆ โดยไม่รู้ตัว

    ทางด้านอิ๋วเห็นท่าไม่ดีแน่  ถ้ายังอยู่ต่อเพราะเธออาจโดนดานิสงฆ์โดนพวกนี้รั้งยาวแน่ ๆ จึงขอชิ่งกลับก่อน

    นี่ ๆ อั๋น  ขอกลับก่อนนะ  ป๊าโทรตามนะโทษทีนะอั๋น  ที่ต้องโกหก แต่มันจำเป็น  ถ้าช้าไม่โกหกแกก็คงไม่ให้ชั้นกลับหรอก

    เหรอ  อืม ๆ แล้วกลับได่เปล่าละ  ไปส่งไหมอั๋นเป็นห่วงเพื่อนที่ต้องเดินกลับมืด ๆ ค่ำ ๆ

    ออ  ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวม๊ามารับนะ  เพราะม๊าเขาตัวเมืองพอดีเลยแวะมารับได้  งั้นกลับก่อนนะ  เดี๋ยวม๊ารอ  บายและอิ๋วก็รีบเผ่นทันที  ก่อนที่อั๋นจะเปลี่ยนใจมาเป็น  ขอแค่เดินมาส่งที่รถก็ยังดี

     

     

    ที่ทางกลับบ้าน ในเวลาเที่ยงคืนครึ่งเห็นจะได้  ทางเดินที่มุ่งหน้าสู่บ้านของบิวและอิ๋ว  บ้านทั้งสองข้างทางปิดสนิทและหลับกันหมดแล้ว  แต่ไฟหน้าบ้านยังเปิดกันอยู่ทำให้ตลอดทางที่ทั้งสองเดินกลับบ้านไม่มีความน่ากลัวเลย  มีแต่ความสว่างไสวตลอดทางจนถึงทางกลับบ้าน

    แล้วตั้งแต่นั้นมานะ  ไอ้ต้อมมันก็เลยเกลียดไอ้บึ๊ก  อะไรนั่นใช่ไหมที่เป็นประธานนักเรียนนะบิวเดินเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่ต้อมไม่ชอบหน้าบั๊กประธานนักเรียนขณะเดินกลับบ้านด้วยกัน

    บั๊กเหอะบั๊กอิ๋วแก้ชื่อ

                    นั่นแหละนั่นแหละ  ลืม  อิอิบิวแกล้งลืมชื่อเพราะหมันใส้ที่มาเจาะแจะกับอิ๋ว

                    เออ  ใช่  ก็ตอนแรกอะ  เราไม่รู้หรอก  พวกเพื่อน ๆ มันบอกว่าโดนประธานนักเรียนมองเออ  ก็เลยมอง  มันก็มองเราจริง ๆ แหละ  และก่อนที่เขาจะขึ้นไปยังมาขอเบอร์เราเลย  งงเลย  แต่จะว่าไปเขาอาจแค่ขอเบอร์ไว้คุยเล่นก็ได้ละมั้งนะ  ไม่รู้นะ

                    เหรอ  เหรอจ้าบิวประชด

                    ทามมาย  นี่แนะ ๆอิ๋วบียคอบิว

                    และทั้งคู่ก็หัวเราะด้วยกันไปตลอดทาง  และเมื่อสิ้นเสียงสนทนา  ก็มีเสียงหมาเห่าเข้า  อิ๋วก็ตกใจรีบกระโดดมาเกาะแขนบิว  ให้บิวอยู่ด้านที่หมาเห่า  บิวก็ไล่หมาไป 

                    ไม่ต้องกลัวหรอก  หมานะ  ที่มันเห่านะเพราะว่ามันกลัวเรามันเลยเก่าไล่เราเท่านั้นเองบิวปลอบใจ

                    และรู้ได้ไง  เป็นหมาเหรอ ถึงรู้อิ๋วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ทำหน้าตากวน ๆ   จังหวะที่หมาเห่านั้นเองอิ๋วเลื่อนตัวเข้ามาเกาะแขนบิวใกล้ ๆ ทำให้บิวรู้สึกว่าตัวของอิ๋วแนบชิดกับท่อนแขนของเขามาก ๆ แบบเรียกได้ว่าต้นแขนสัมผัสกับหน้าอกของบิวได้เลย  ทำให้บิวเดินตัวแข็งทื่อไม่พูดไม่จาหน้าแดงตลอดทาง  และถึงแม้หมาจะไม่เห่าแล้ว  อิ๋วก็ยังคงเดินเกาะแขนบิวอยู่อย่างนั้น  เพราะอากาศอันหนาวเหน็บของเดือยธันวาคมนั่นเอง  ทั้งคู่จึงสามารถสัมผัสความอบอุ่นที่ส่งผ่านกันได้  จนอิ๋วเริ่มประโยค

                    ทำไมเดี๋ยวนี้   ไปโรงเรียนไม่รอเลยอะ  ไปก่อนตลอดอะ

                    ทำไมเหรอ  อิ๋วมารอไปพร้อมกับบิวเหรอ

                    อืม  เดินมารอหน้าบ้านทุกวันอะ  ใจร้ายวะ  ไปก่อนตลอด  และไปทำอะไรอะเช้า ๆ แบบนั้น

                    อ๋อ  คือ  ไปลอกการบ้านเพื่อนนะ  บิวตอบ ๆ ปัด ๆ ไป  เพราะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่อิ๋วมารอเขาทุกวัน

                จนกระทั่งถึงบ้านก็ร่ำราและแยกย้ายกันเข้าบ้านกันไป   อิ๋วปลื่มกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้มาก  ส่วนบิวเองก็ปลาบปลื่มกับเรื่องราวในวันนี้ โดยเฉพาะตอนเดินกลับบ้าน ( อิ๋วเกาะแขนแบบแนบชิด ) ด้วยเช่นกัน

     

                    คืนนั้นก่อนจะนอน  หลังจากที่อิ๋วอาบน้ำเสร็จก็มานั่งทาแป้งอาบครีมต่าง ๆ นานา หน้ากระจก  ที่มีเจ้าลิตาร์มาร้องเมี้ยว ๆ อยู่ตรงหน้า  ก่อนจะนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้  เป็นอะไรที่อิ๋วมีความสุขมาก ๆ เหมือนกัน   ก่อนจะเกิดความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างคือ  อิ๋วคิดถึงบิวขึ้นมากะทันหัน  ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจากกันไม่นานแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่อยู่ด้วยกันตลอดแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ติดกันแท้ ๆ กลับคิดถึงกัน  พลางจะหยับเจ้าลิตาร์มากอดมาลูบมาเกาคาง  ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า  ใช่แล้ว  อยู่บ้านใกล้กันแท้ ๆ ไม่รู้ป่านนี้นอนหรือยัง  แค่เห็นหน้าต่างห้องก็ยังดี

                    ว่าแล้วอิ๋วก็ลุกมาเปิดหน้าต่าง  แต่บังเอิญเห็นบิวที่เปิดหน้าต่างอยู่แล้ว  นั่งอ่านนิตยสารอยู่ก็สะดุ้งตกใจ  ไม่นึกว่าบิวจะยังไม่นอน  ก๋เลยนั่งลงข้าง ๆ หน้าต่างเอาลิตาร์มานั่งเล่น  พลางยิ้มให้บิวอย่างเขิน ๆ ก่อนพูด

                    มันร้อนนะ  นอนไม่หลับ  เลยมานั่งเล่นกะลิตาร์ให้ง่วงก่อนแล้วจะไปนอน

                    ร้อนเหรอ  เราหนาวจนต้องใส่เสื้อกันหนาวสองชั้นเลยเนี่ยนะหนาว  ถ้าอิ๋วหนาวมากก็ถาอดเสื้อหนาวออกสิ  ใส่ไปตั้งสามตัวนี่ ฮะ ๆ ๆ บิวหัวเราะเยาะอิ๋วที่ใสเสื้อกันหนาวตั้งสามตัวและบ่นว่าร้อน  โดยที่ไม่รุ้เรื่องเอาเสียเลยว่าที่อิ๋วบ่นว่าร้อนนะเป็นข้ออ้างที่จะเปิดหน้าต่างพื่อมาเจอหน้าแกต่างหาก

                    ชิ  พูดมากนะ  ปีใหม่แล้ว  อย่าทำตัวกวนประสาทนักสิอิ๋วเริ่มฉุน

                    โอ๋  ข้อโทษล้อเล่นนะ  ไม่ใช่ไรหรอก  อิ๋วเปิดหน้าต่างออกมาคุยกันอย่างนี้ทุกวันเลยนะ

    ทำไมเหรอ  อ่อ  คิดถึงนะสิ  อยากเห็นหน้าละสิ  ช่ายมะ  ฮะ ๆ ๆ อิ๋วเล่นมุขหลงตัวเอง

    ใช่บิวตอบอย่างมาดมั่น

    อะ  อิ๋วหน้าแตก  นึกว่าบิวจะตอบแก้

    ใช่แล้วพรุ่งนี้ปีใหม่แล้ว  ไปไหนหรือเปล่านะ

                    เปล่านี่  ทำไมเหรอ

                    ไปเดินเล่นกันนะบิวออกปากชวนเดทอย่างจริงจัง

                    อิ๋วรู้สึกได้ทันที  ว่าตอนนี้บิวชวนเดทแน่ ๆ   เหมือนบิวจะเอ่ยปากจีบอิ๋วอย่างเป็นนัย ๆ แน่แล้ว  ที่พูดออกมาอย่างนี้   เพราะนิสัยของบิวที่อิ๋วรู้  เวลาบิวจะชวนไปไหนจะต้องมีข้ออ้างด้วยว่าไปทำอะไร  แต่คราวนี้พูดออกมาเฉย ๆ ว่าไปเดินเล่น  ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าบิวจีบมาอย่างนี้  อิ๋วจะเล่นด้วยตอบตกลงหรือเปล่า  ถ้าอิ๋วตอบว่าไม่ว่างหรอก  วันหลังแล้วกัน  เหมือนว่าจะเป็นปกติแต่นั่นหมายความเป็นนัย ๆ ว่า  ไม่เล่นด้วยเป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว  แต่หากตกลงทันที  นั่นแปลว่า  อิ๋วเองก็ชอบบิวเหมือนกัน   อย่างที่อธิบายาทั้งหมดนั้น  ไม่จำเป็นที่จะต้องมาพูดให้บิวและอิ๋วเข้าใจ  เพราะตอนนี้แค่ทั้งคู่มมองตากันอยู่เฉกเช่นตอนนี้ก็สามารถสื่อได้แล้ว  ตอนนี้ก็อยู่แค่คำตอบของอิ๋วเท่านั้น  ว่าจะอยู่หรือจะไป  สำหรับคำขอคบของบิวที่พูดอกมาอ้อม ๆ อย่างนี้

     

                    อืม  ไปสิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×