คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เคาท์ดาวน์
ตุ๊ดๆ ๆ ตุ๊ด ๆ ๆ ตุ๊ด ๆ ๆ ตุ๊ด ๆ ๆ กริก
เสียงสังเคราะห์แบบโพลีโฟนิคดังมาจากนาฬิกาปลุกรูปแม่ไก่ซึ่งวางอยู่บนหัวเตียงของอิ๋วถูกปิดลงด้วยฝ่ามือน้อย ๆ ของอิ๋วที่เหวี่ยงมือตะปบขึ้นมาปิดนาฬิกาโดยไม่หวังว่านาฬิกาจะพังหรือเปล่า
อิ๋วใช้ความพยายามอย่างสูงในการเพิ่งตา ลืมตา และดันหัวตัวเองออกมาจากกองผ้าห่ม พะงกหัวขึ้นเพื่อมองนาฬิกาว่ากี่โมงแล้ว ก่อนจะฟุบลงไปหลับเหมือนเดิม
เวลาผ่านไปราวเกือบชั่วโมง อิ๋วรีบพะงกหัวขึ้นโดยไวไปจากกองผ้าห่ม ใช้สายตามองลอดจากเปลือกตาชั้นเดียวไปที่นาฬิกา ปรากฏว่าเป็นเวลา เจ็ดโมงครึ่งแล้ว
“โอ๊ยยยยยยยยยยย ตายแล้ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”อิ๋วตะโกนลั่นบ้านไม่หยุดพลางรีบวิ่งกูลีกูจอไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วจู้ดไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำโดยไว ภายในเวลาไม่นานนัก อิ๋วใช้ความสามารถพิเศษในการแต่งตัวชุดนักเรียนอย่างรวดเร็วโดยที่ชุดนักเรียนที่เธอใส่ไม่สู้เรียบร้อยนัก รีบวิ่งออกมาสวัสดีพ่อสวัสดีแม่โดยไวและรีบวิ่งออกมาที่หน้าบ้านของบิวซึ่งแน่นอนว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านอิ๋ว
ที่หน้าบ้านของบิว คอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงสี่สิบกว่า ๆ อิ๋วมายืนด้อม ๆ มอง ๆ เข้าไปในร้านขายของชำบ้านของบิว ขณะนั้นตาเปรมพ่อของบิวกำลังเฝ้าร้านนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เมื่อเห็นว่าอิ๋วมายืนด้อม ๆ มอง ๆ เหมือนจะหาอะไรบางอย่างอยู่
“มาซื้ออะไรละลูก อิ๋ว”ตาเปรมถามออกมาด้วยความไมตรี
“อ๋อเปล่าค่ะ คือตอนนี้ บิวไปโรงเรียนหรือยังคะลุงเปรม”
“อ้อ เจ้าบิวเหรอ มันไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่โห่โน้น ประมาณหกโมงเช้าได้มั้ง ลุงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไปโรงเรียนเช้าจังเลย ลองไปหาที่โรงเรียนสิ”
“ออ ขอบคุณค่ะ งั้นหนูไปเรียนเลยนะคะ สวัสดีค่ะลุงเปรม”
ตาเปรมรับไหว้จากอิ๋วก่อนจะเดินไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ส่วนอิ๋วก็ต้องเดินทำหน้าเซ็ง ๆ ไป
โรงเรียน อะไรกันเนี่ย นี่ก็วันที่สามแล้วนะที่บิวไปโงเรียนก่อนนะ เมื่ออาทิตย์ก่อน ๆ ยังไปเรียนด้วยกันอยู่เลย เป็นอะไรของเขาน้า หรือว่าที่บิวทำอย่างนี้ก็เพราะจะหลบหน้าเราหรือเปล่า
ขณะเดียวกัน ที่โรงเรียนในยามเช้าซึ่งพลุ่งพล่านไปด้วยเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตาที่เตรียมตัวจะเรียนหนังสือในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า และที่โต๊ะรวมกลุ่มของบิวนั่นเอง
แบงค์ยืนทำหน้าเคียดแค้นที่โดนบิวหลอกว่าเป็นแฟนกับอิ๋ว ทั้ง ๆ ที่บิวไม่ได้เป็นแฟนกับอิ๋วในขณะที่คนอื่น ๆ มีแฟนกันหมดแล้วทำให้เขาต้องเสียพนันเลี้ยงเพื่อน ๆ ในกลุ่มทุกคนเพราะแพ้พนันที่ว่าใครหาแฟนได้ช้าที่สุดต้องเลี้ยงเพื่อน ๆ โดยตอนนี้แบงค์ยืนยกขาหนึ่งข้างมาวางไว้ที่ม้านั่งที่บิวนั่งอยู่และจ้องมองไปที่บิวด้วยสายตาที่เรียกได้ว่าหากมีกระดาษมาปลิวผ่านสายตาที่แบงค์มองบิวตอนนี้ละก็จะต้องใหม่เกรียมไปด้วยรังสีความแค้นที่แบงค์มองบิวแน่ ๆ
“อ้ายบิว แหะ ๆ ฮืมมมม แก ทำอะไรกับฉันไว้ รู้ดีนะ ทำให้ฉันต้องเสียเงินเก็บที่อุตสาห์เก็บมาตั้งเดือนนึง ฮืมมม แล้วคราวนี้จะว่ายังไง มีข้อแก้ตัวอะไรก่อนไหม เดี๋ยวสวยแน่”แบงค์ยืนทะมึงทึงหักนิ้ว แกบ ๆ
บิวที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งข้าง ๆ เท้าของแบงค์ก็หันหน้าเหล่ตาที่ไป โดยใช้สายตาที่เรียกได้ว่าสามารถฆ่าหั่นศพแบงค์แล้วหมกส้วมได้เลย
แบงค์เห็นท่าไม่ดีก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายตัวเองมาบีบไหล่นวดเฟ้นให้บิวพลางยิ้มแหะ ๆ เพราะเกิดอาการรักตัวกลัวตายขึ้นมาทันที ท็อปเห็นแปลก ๆ จึงลองถามดู
“เป็นไรวะบิว หมู่นี้ดูแปลก ๆ มาสองสามวันและ ทะเลาะกับอิ๋วเหรอ จะว่าไปก็ไม่เห็นมาโรงเรียนกับอิ๋วมาสองสามวันแล้วนะ อารมณ์ดีไว้เหอะน่า พรุ่งนี้ก็วันเคาท์ดาวน์ วันสิ้นปีแล้วน่า” ท็อปมานั่งพูดข้าง ๆ พลางตบบ่าให้กำลังใจเพื่อน ๆ
“ใช่ ๆ ครับเพื่อนบิว พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเคาท์ดาวน์แล้ว ที่โรงเรียนเราเริ่มงานตอน 2 ทุ่มนะ แน่นอนว่าสาว ๆ มีเต็มงานแน่ ๆ มีให้ดูจนลายตาเลยแหละ ช่างยายอิ๋วเอาเหอะเนอะ”แบงค์เปลี่ยนสี
“เนอะ ๆ” น็อทพูดเป็นแค่นี้
“เฮ้ย!! เลิกพูดถึงเร่องอิ๋วสักที”บิวหันมาแว้งกัดเพื่อน ๆ จนเพื่อน ๆ ต่างแตกฮือพากันวิ่งหนีแทบไม่ทัน
เวลาที่แสนจะยาวนานกำลังเดินอย่างเยื่องย่างและล้าช้าเหลือเกินสำหรับบรรดานักเรียนห้องสี่ที่กำลังเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ในตอนบ่าย ๆ กันอยู่ แต่เวลาของอิวเวลานี้กลับไม่สนใจเดือนตะวันไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรืออะไรแล้ว เพราะเธอกำลังนั่งเหม่อลอยเคว้งไปไกลห้องสามที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง
อิ๋วนึกระคนอยู่ลำพัง ทำไมบิวถึงไม่รอมาเรียนพร้อมกับเราเหมือนเดิมนะ จะว่าไปแล้วตั้งแต่งานวันเกิดของเราครานั้นนี่หน่า และวันนั้นเราได้พูดออกไปอย่างชัดเจนในงานด้วยว่า ไม่ได้เป็นแฟนกับบิว บิวโกรธเพราะเรื่องนั้นหรือเปล่านะ ถ้าโกรธก็แสดงว่า บิวชอบเรา และเราหักอกบิวนะสิ เฮ้ยยยยยยยยยย!!!! ในตอนนี้เสียงของอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่เป็นเพียงดนตรีประกอบในความคิดของอิ๋วเท่านั้น
ไม่นานนักอิ๋วก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรสะกิดแหงก ๆ อยู่ข้าง ๆ จนอิ๋วเริ่มรู้สึกตัวและหันมามองข้าง ๆ เป็น หวาน เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ เธอนั่นเองที่สะกิด
“เขาเลิกเรียกันแล้วเหอะอิ๋ว เหม่ออะไรขนาดนั้น จะนั่งเรียนกับผีเหรอ”หวานสะกิดอิ๋วในขณะที่ทุกคนพากันอกนอกห้องเพื่อกลับบ้านกันหมดมีเพีงอิ๋วนั่งซึมทะลือสมุดหนังสือคาโต๊ะอยู่คนเดียว ก่อนหวานจะเดินกลับออกไป อิ๋วก็เลยปลุกตัวเองและเก็บข้าวเก็บขอสมุดหนังสือกระดาษปากกาดินสอต่าง ๆ เข้ากระเป๋าหนังใบแบน ๆ ใบแก่งของเธอ
“ แหม!!! เลิกเรียนทีหลังคนอื่นเขาเลยนะ ขยันเนอะ ฮะ ๆ ๆ ๆ” อั๋นที่เห็นว่าเพื่อนสนิทของเธอยังบไม่มาสักทีจึงเดินมาดูที่หน้าห้องของอิ๋วและเห็นว่าอิ๋วกำลังนั่งงมโข่งเก็บของอยู่คนเดียวในขณะที่เพื่อน ๆ ในห้องของอิ๋วพากันกลับบ้านกันหมดแล้ว
แดดอุ่น ๆ ในยามเย็นเริ่มหมดลงอยู่เรื่อย ๆ ผู้คนสองข้างทางก็เริ่มที่จะออกมารับลมอยู่หน้าบ้านเช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่พากันออกมาวิ่งเล่นอยู่ทั้งสองข้างทางที่มุ่งหน้าสู่ทางกลับบ้านของอิ๋ว อิ๋วและอั่นกำลังเดินกลับบ้านอยู่ โดยที่อิ๋วเดินไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเดินคิดอะไรเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ อยู่คนเดียว
“มีไรก็เล่าให้ฟังได้นะ สองหัวยังดีกว่าหัวเดียวเพราะจะได้ช่วย ๆ กันเครียด ถ้าหัวเดียวหัวระเบิดไม่รู้นะ”อั๋นแซวอิ๋วที่เดินนำหน้าเธออยู่ระคนกับความเป็นห่วงเพื่อนที่ดูไม่เหมือนเดิม
“โธ่อั๋น นี่เธอคิดจะรับปรึกษาให้ฉันหรือจะพูดแดกดันกันแน่เนี่ย”อิ๋วเริ่มมีน้ำโหและไม่เข้าใจในเจตนาของอั๋นว่าจะสื่อถึงอะไรที่พูดออกมาอย่างนี้ ขณะทั้งคู่กำลังเดินกลับบ้าน
“โอ๋ ๆ ๆ ๆ ๆ ล้อเล่นนะ ก็เห็นเครียด ๆ นะ แล้วว่าไงอะ เล่าให้ฟังมั่งดิ มีไรแน่ ๆ เลยอะ”อั๋นรีบเดินปี่เข้ามายื่นหน้าถามอิ๋ว
อิ๋วหันหน้าไปมองอั๋นด้วยสายตาที่ไม่สู้ไว้วางใจนัก ก่อนจะนึกได้ว่าควรจะเล่าให้ฟังด้วยดีกว่า เผื่อว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้
“ไม่หรอก ก็เรื่องมันมีอยู่ว่า”
“ว่า.....”อั๋นถามซ้ำเพราะอยากรู้
“ไม่รู้ดิ ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรนะ ไม่เอาดีกว่าไม่เอาและ ไม่มีอะไรหรอก”อิ๋วส่ายหน้าเพราะไม่รู้จะเล่ายังไง เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึกระหว่างบิวกับอิ๋วเท่านั้น ถ้าเราเล่าให้อั๋นฟังและมานจะรู้เรื่องกับเราเหรอ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา กับบิว
“เอ้า อะไรของแกเนี่ย เอายังไงแน่ เฮ้อ แกนี่จริง ๆ เลย เอางี้ ๆ เอาเป็นว่า ฉันขอเดานะ เรื่องระหว่างแกกับบิวใช่ปะ”อั๋นมองเข้าไปนัยน์ตาของอิ๋ว
อิ๋วถึงกับหันมามองที่อั๋นโดยไว อั๋นเธอนี่เกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนฉันจริง ๆ นะแหละ รู้ถึงความทุกข์ใจของฉันเลยนะ ก่อนอิ๋วจะรู้สึกตัวว่ามีคนที่เข้าใจเธอจริง ๆ แล้วหละและพูดไป “งั้นรอให้ถึงบ้านฉันก่อนนะ”
ที่ในห้องของอิ๋ว อั๋นหยิบคุกกี้ที่แม่นิ่มของอิ๋วเอามาให้กินอยู่ข้าง ๆ เตียงขณะที่เธอมองลอดหน้าต่างออกไปมองที่หน้าต่างบ้านขอบิวซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ หลังจากที่ได้ฟังอิ๋วซึ่งนั่งอยู่บนเตียง เล่าเรื่องราวทั้งหมดแล้วตั้งแต่เธอเริ่มรู้สึกจนกระทั่ง ถึงตอนงานวันเกิดที่อิ๋วพูดออกไปอย่างนั้น ก่อนที่อั๋นจะหันหน้ากลับมาแล้วเขมิบคุกกี้เข้าไปจนหมดปากก่อนจะพูด
“อืมมม เอาความรู้สึกชั้นนะ ชั้นว่า บิวชอบแก”
เท่านั้นเองที่ทำให้หัวใจของอิ๋วตกมาอยู่ตาตุ่ม เต้นไม่เป็นจังหวะ นี่เธอก็คิดเหมือนกับฉันเหมือนกันเหรอ ที่ว่าบิวชอบฉัน อย่างนี้ฉันก็มีคนคิดเหมือนกับฉันนะสิ ก่อนจะทำแสแสร้างแกล้งไม่เชื่อพูดออกไป
“จะเป็นไปได้เหรอ ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กนะ และบิวจะมีความรู้สึกอย่างนี้ได้จริง ๆ นะเหรอ”
“แล้วทำไมละ ถึงเป็นเพื่อนกันแต่ก็ยังเป็นผู้ชายผู้หญิงนี่หน่า ไม่รู้นะความรู้สึกชั้นว่ามันใช่อะ และที่บิวเป็นอย่างนี้ก็คงเพราะว่า แกดันไปบอกซะเด่นชัดขนาดนั้นกลางงานเลยนี่หน่าว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน ก็คนนะน้ะ ถึงจะเป็นผู้ชายก็เหอะ จิตใจก็ต้องสะเทือนเลือนลั่นเป็นธรรมดา ถ้าบิวมนชอบแกจริงนะน้ะ แล้วแกคิดไงอะอิ๋ว? เออ ว่าแต่พรุ่งนี้ก็เคาท์ดาวน์แล้วนี่ ทีโรงเรียนอะ เฮ้ย ๆ เราจะแต่งชุดอะไรกันดีละ?”อั๋นลงมานั่งข้าง ๆ เตียงและหิบคุกกี้จากจานที่วางบนโต๊ะอยู่ข้าง ๆ เพื่อจะได้ไม่หกบนเตียง
“ก็ ไม่รู้สิ เออนี่!! เอาคุกกี้อีกไม้ เดี๋ยวลงไปหยิบมาให้อีก ชอบละสิกินคนเดียวหมดเลยมา ๆ เดี๋ยวเพิ่มให้ สงสัยเราคงต้องคุยเรื่องนี้กันยาวนะ”อิ๋วอารมณ์ดีที่อั๋นพูดออกมาอย่างนั้นจนลืมตัวรีบหยิบจานคุกกี้ที่วางกองอยู่ตรงหน้าอั๋น ลงไปเพิ่มมาให้อีก บิวชอบเราหรอกเหรอ อิอิ ดีใจจัง
“โหห แหม ๆ ไมต้องแล้วแหละ ขืนกินอีกก็อ้วนกันพอดี และมายังไงละคราวนี้ปกติมาให้ชั้นแค่จานเดียว คราวนี้เบิลให้อีก เอามาอีกอันสองอันก็พอแล้วะนะ สามสี่อัน ห้าอันเลยก็ได้ หกอันเลยแล้วกัน”อั๋นตะโกนไล่หลังอิ๋วไป
วันต่อมา วันนี้เป็นวันเสาร์ที่สามสิบเอ็ดธันวาคม หรือเรียกอีกอย่างว่าวันสิ้นปี ในหมู่วัยรุ่นจะพากันเรียกว่าวันเคาท์ดาวน์เพราะเป็นวันที่พวกเขาจะได้มารวมกลุ่มกันจัดงานปาร์ตี้เพื่อเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่กันเลย ตามแบบฉบับของงานเทศกาลของชาวตะวันตกที่บรรดาชาวตะวันออกพากันเห็นดีเห็นงามนำมาเป็นทำกันด้วย แต่เนื่องจากว่าเป็นงานที่ต้องจัดกันตอนเที่ยงคืนเท่านั้น และเป็นเทศกาลที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับงานปาร์ตีในคืนเคาท์ดาวน์ ทางโรงเรียนจึงมีนโยบายจัดงานเคาท์ดาวน์ให้แก่นักเรียนเพราะจะได้ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาด้วย เรียกได้ว่าเป็นงานโรงเรียนที่บรรดาเด็กนักเรียนต่างเห็นดีเห็นงามกันด้วยทั้งโรงเรียน เมื่อมาถึงวันกิจกรรมนี้ทีไรนักเรียนแทบจะทุกคนก็จะมากันเกือบจะทุกคนถ้าไม่ติดไปต่างจังหวัดเสียก่อน เพราะในวัยขนดนักเรียนที่มีตั้งแต่สิบสามจนถึงสิบแปด ที่เทศกลงานโณงเรียนงานนี้แหละคือที่ ๆ พวกเขาจะได้มาเที่ยวกลางคืนกันได้โดยไม่ต้องตรวจบัตร และอยู่ในสายตาความดูแลของผู้ใหญ่และอาจารย์อีกด้วย
เช่นเดียวกับวันนี้เหมือนดั่งทุกปี เนื่องจากเป็นวันสำคัญวันหนึ่งเยทีเดียว นักเรียนแต่ละคนจึงอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้มา เช่นเดียวกับอิ๋ว ที่วันนี้เธอกะว่าจะลองแต่งตัวให้เต็มที่ไปเลย วันนี้อิ๋วใส่ชุดแส็กเปิดไหล่สีฟ้าสลับกับสีขาวเป็นกระโปรงคลุ่มยาวมาถึงหัวเข่า ที่คาดผมสีฟ้าใส่ตุ้มหูสีขาว ใส่กำไรงใหญ่ ๆ สีขาวที่มือขวาและนาฬิกาสีฟ้าเรือนเล็ก ๆ ลายเรมอนที่ข้อมือแขนซ้าย โดยอิ๋วแต่งหน้าแบบอ่อน ๆ แก้มชมพูระเรื่อ ปากสีแดงรับกับคนผิวขาวเผือกแบบอิ๋วมาก ๆ อิ๋วยืนบิดอยู่หน้ากระจกอยู่สองสามครั้งก่อนถอนหายใจเมื่อมั่นใจในตัวเองดีแล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋าถือสีขาวมาสะพายข้าง ๆ แล้วเดินลงไปข้งล่างทักทายพ่อแม่
“ไปก่อนป๊า ม๊า กลับค่ำ ๆ นะ”อิ๋วรีบเดินปี่ออกมาข้างนอกเพื่อไม่ให้พ่อและแม่เห็นเพราะกลับโดนแซว จนสูญเสียความมั่นใจ
“อืมอย่ากลับค่ำละ และถ้าเป็นไปได้พาแฟนมาให้ดูด้วยนะ”แม่นิ่มนอนดูทีวีแต่ปากก็พูดแซวลูกสาวสุดที่รักจนได้ ทำให้อิ๋วรู้สึกอายหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่แม่พูดถึงเรื่องแฟน
“แฟนเฟินอะไรละแม่ หนูยังไม่มีสักหน่อย”อิ๋วตะโกนเข้ามาขณะรีบนั่งใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ข้างนอกหน้าประตูร้าน
“และที่แต่งตัวสวยขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าจะให้แฟนที่จะไปด้วยวันนี้เห็นและปลาบปลื้มว่าลูกแม่น่ารักหรอกเหรอ ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ”
“โธ่แม่ไม่ใช่ซะหน่อย”อิ๋วหันกลับมามองค้นขณะใส่รองเท้าที่เหลืออยู่อีกข้าง
“อ่าว ๆ ๆ งั้งก็สะแลงว่า ไปหาแฟงเอาที่งางเลยนี่หน่า แหม่ ๆ ๆ ลูกเสาอั๊วะนี่รั้ยกาก นะ ฮะ ๆ ๆ”
พ่อของอิ๋วก็อดที่แซวเป็นสำเนียงชาวแผ่นดินใหญ่ไม่ได้ขณะกำลังสับไก่อยู่
“โอยไม่คุยด้วยแล้ว ป๊ากับม๊านี้ ไปแล้วนะ บ๊ายบาย”อิ๋วใส่รองเท้าเสร็จก็รีบเจ้นออกจากหน้าบ้านเพราะไม่อยากโดนกระหน่ำแซวอีก
อิ๋วเดินออกมาจากบ้านที่ ๆ เธอกำลังจะมุ่งหน้าไปก็คือ หน้าบ้านบิว เอ บิวจะไปหรือเปล่านะ และตอนนี้บิวไปหรือยังหนอ อยากรู้จัก ก่อนที่จะไปบ้านยัยอั๋น แวบไปดูนิดนึงก่อนดีกว่า อะ เอ๊ะ...........
ในขณะที่อิ๋วกำลังเดินไปที่หน้าร้านขายของชำบ้านบิวเพื่อที่ไปแอบดูบิวอยู่นั่นเอง บิว ก็เดินออกมาจากร้านของตนเอง ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบง่าย ๆ และกำลังจะไปนัดเจอกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มเพื่อไปงานโรงเรียนเคาท์ดาวน์พร้อมกัน
ขณะที่บิวกำลังจะเดินไปอยู่นั่นเองก็เหลือบมาเห็นอิ๋วเดินมาพอดี ที่ด้านข้าง บิวตกอยู่ในภวังค์ใจละลายอยู่พักหนึ่ง เขารู้สึกว่า วันนี้อิ๋วน่ารักมาก จนเกือบจะห้ามใจไม่ไหวอยู่แล้ว
“อ่าวอิ๋ว จะไปโรงเรียนแล้วเหรอ”บิวลองถามอิ๋วดู เพราะตอนนี้ในใจอยากที่จะเดินไปโรงเรียนพร้อมกันกับอิ๋ว
“อืม แล้วบิวละ จะไปแล้วเหรอ” อิ๋วใจเต้นสั่นละรัวจนเกือบจะพูดไม่เป็นศัพท์อยู่แล้ว เพราะเธอกะแค่มาด้อม ๆ มอง ๆ ดูบิวเท่านั้น เพราะเธอคิดว่ายังไง ๆ บิวก็คงไม่อยู่แน่ ๆ แต่ปรากฏว่า บิวมายืนอยู่ตรงหน้าเธอเองแท้ ๆ
“อืมใช่ นี่ก็ว่าจะไปหาไอ้พวกนั้นที่บ้านของ ไอ้น็อนะ” คือ อยากเดินไปโรงเรียนพร้อมกับอิ๋วนะ ประโยคต่อไป ฉันจะพูดให้ได้ คอยดูสิ สู้ ๆ นะไอ้บิว บิวเรียกความมั่นใจ
“อ่าวเหรอ เราก็จะไปที่บ้านอั๋นนะ และกะว่าจะไปพร้อมกับอั๋นเลย งั้นเราไม่กวนนะ แล้วเจอกันที่งานละกันนะ ไปและ บาย”และอิ๋วก็เดินจากไป ท่ามกลางหัวใจที่แตกสลายของบิว
สุดท้ายแล้วเราก็คงคิดไปเองแหละ บิวไม่ได้ชอบเราหรอก หลงตัวเองเกินไปหรือเปล่านะ ถ้าบิวชอบเราจริงก็น่าจะขอเดินไปพร้อมกับเราสิ ไม่ใช่มาบอกว่าจะไปรวมตัวกับเพื่อนอย่างนี้ ไม่เป็นหรอก เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่าเรา มันคงเป็นไปไม่ได้
และแล้วก็ถึงเวลาที่งานเทศกาลจะเริ่มขึ้นคือเวลาสองทุ่มตรง มีการเริ่มปาร์ตีเฉลิมฉลองกันทั่วโลก เช่นเดียวกับโรงเรียนแห่งนี้ด้วย เพราะทำการส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่เข้ามา ความจริงแล้ววันที่สามสิบเอ็ดและวันที่หนึ่งก็เป็นเพียงวัน ๆ หนึ่งในปฏิทินเท่านั้น เพียงแต่ว่าเป็นวันที่เกิดขึ้นเพียงปีละหนึ่งหนเท่านั้น จึงต้องมีการเฉลิมฉลองเพื่อให้เกิดความครึกครื่นและสนุกสนาน ปลดเปลี่องความทุกข์ไปกับเดือนเก่ากันอีกด้วย
ประธานนักเรียนได้ทำการพูดเปิดงานและทำพิธีเริ่มเปิดงานในที่สุด ในงานมีการแสดงต่าง ๆ ของนักเรียนในโรงเรียนเอง ทั้งการรำ ดนตรีไทย ดนตรีสากล โชว์ตลก การแสดงกายกรรม มายากล ต่าง ๆ นานา และผู้ปกครองของบางคนก็มาด้วยทั้งมัธยมหนึ่งสองและสามเพราะยังเป็นเด็กอยู่ พวกวัรุ่นที่โตขึ้นมาหน่อยทั้งมัธยมสี่หาและหกก็มีการจับกลุ่มเพื่อน คุยกัน และอาจรวมถึงการพูตัวเพื่อที่จะขอเบอร์และขยับความสัมพันธ์เป็นคนสนิทกันอีกด้วย เช่นเดียวกับกลุ่มของอิ๋วก็ยืนคุยเช่นกัน
“แล้วยายอิ๋วก็นั่หลับเหม่ออยู่ตรงนั้นอะยายอั๋น แกคิดดูสิ ฮะ ๆ ๆ ๆ ว่าอิ๋วมันโก๊ะขนาดไหน”หวานเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ อิ๋ว ย่างสดอิ๋ว เผาอิ๋วระยะเผาขนจนขนใหม่ให้กับอั๋นเพื่อนสนิทอิ๋วที่อยู่คนละห้อง ทำเอาทุกคนในกลุ่มประมาณหกเจ็ดคนฮาตาม ๆ กัน
“หน่อยยย !! น้อย ๆ หน่อยเหอะนะ”อิ๋วพูดแก้อายก่อนจะยกแก้วน้ำอัดลมมาดื่ม
“นี่ ๆ แต่ว่าวันนี้อิ๋วเขาเด่นที่สุดในกลุ่มนะให้เขาหน่อย โน้นดูสิประธานนักเรียนยังมองอยู่ตลอดเลยอะ”วา เพื่อนของอิ๋วที่อยู่ในห้องเดี่ยวกันกับอิ๋วก็แซวเมื่อมีหนุ่มมามองเพื่อนของเธอ ก่อนทุกคนในกลุ่มเช่นเดียวกับอิ๋วก็มองเหมือนกัน ทุกคนเห็นเหมือนกันหมดคือ ประธานนักเรียนสูง หล่อ ล่ำ เนียบ ใส่แว่น เรียนเก่ง กำลังมองอิ๋วอยู่ตาไม่กระพริบ เมื่อเขาเห็นว่าอิ๋วและทุกคนกำลังมองเขาอยู่ เขาจึงหันมามองที่อิ๋วและชูแก้วน้ำขึ้นและยิ้มให้ก่อนจะเอาลงมาดื่ม
ทุกคนกฺยิ้มให้ มีเพียงอิ๋วที่ยกแก้วตอบรับและนำลงมาดื่ม ทุกตนจึงหันกลับมาเมาท์กันต่อ
“อุ้ย ๆ ๆ นายอั้มมองมาที่แกจริง ๆ ด้วยอะอิ๋ว โอ๊ยยยย หล่อ เรียนเก่ง อ้ายยยยย ปลื้ม ๆ นี่แกเอาดิ ๆ เป็นถึงประธานนักเรียนเลยนะ” อ้อน แอบกรี๊ดไปกับเพื่อนร่วมห้องอย่างอิ๋วด้วยอีกคน
“นี่ ๆ ไม่ได้ ๆ เพื่อนสนิทชั้นจะมีแฟนไม่ได้ ต้องอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรกับชั้นเท่านั้นยะ”อั๋นต่างห้องแต่สนิทที่สุดของอิ๋วลั่นวาจา
“โอ๊ยยย พวกแก ไม่มีอะไรหรอก ชั้นก็แค่ยิ้มให้และก็ชนแก้วกับเขาเท่านั้นเอง ดูท่าแฟนขลับอย่างพวกแก ๆ จะเยอะเสียด้วยยี้ ไม่เอาหรอก ถึงจะหล่อก็เถอะ” จะว่าไปเราก็แอบเขินนิดนึงนะ หนุ่มป็อบของโรงเรียนมามองขนาดนี้ แต่ช่างเถอะ ถ้าเป็นบิวก็ว่าไปอย่าง ก่อนที่อิ๋วจะเดินหน้าแดงไปเติมน้ำ “นี่ ๆ พวกแกชั้นจะไปเติมน้ำแหละ ใครจะฝากมั่ง”
“ชั้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”แต่ละต่างฝากแก้วกันเต็มไปหมด ให้อิ๋วไปเติมให้ ก่อนอิ๋วจะเดินอุ้มแก้วอยู่หกเจ็ดใบเดินประคองไปตลอดทางที่จะไปเติมน้ำ เพราะกลัวว่าแก้วโรงเรียนจะแตกและตนเองต้องชดใช้ แทนเพื่อน ๆ ก่อนตัดพ่อในใจ ตูไม่น่าหน้าใหญ่ใจดีเลย เกิดตกแตกขึ้นมาจะคุ้มไหมเนี่ย ถึงจะเป็นสนามหญ้าก็เถอะ
ทั้งคนก็เยอะ เบียดเสียดกัน ทั้งแกวที่อยู่ในอ้อมอกก็แยะ อิ๋วจึงต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการเคลื่อนย้ายแก้วไปเติมน้ำ ทันใดนั้นเสียงสวรรค์ สุขุม นุ่มลึก ก็ดังขึ้นเดี๋ยวนั้นเอง
“ขอโทษนะครับ ให้ผมช่วยนะครับ ”ประธานนักเรียนรูปหล่อคนนั้นเองที่เข้ามาช่วย
“อ๋อค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”อิ๋วก็เลยส่ง ๆ ถ่าย ๆ แก้วให้ประธานนักเรียนคนนี้ช่วยถือ ทำเอาคนอื่น ๆ ในงานที่แอบปล้มประธานนักเรียนคนนี้ต่างพากันอิจฉาตาร้อนผ่าว ๆ
ขณะที่กำลังเติมน้ำกันอยู่สองคนนั้น ประธานนักเรียนก็พูดขึ้น “เราชื่อบั๊กนะ แล้วเธอชื่อไรเหรอ” เขาพูดออกมาอย่างสุภาพ
“อ๋อ ชื่ออิ๋วค่ะ”และอิ๋วรีบ ๆ พูดและรีบ ๆ เทน้ำที่โต๊ะบริการน้ำซึ่งมีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบว่าอยากจะกินอะไร มีน้ำมากมายให้เลือกตั้งแต่ น้ำเปล่ายั้น ชากาแฟโบราณ
ขณะที่อิ๋วกำลังเติมน้ำอยู่นั่นเอง ที่ตรงหน้าเธอเป็นกลุ่มของบิวที่กำลังยืนคุยกันอยู่และกำลังจะมุ่งหน้ามาทางนี้กันด้วยเพื่อเติมน้ำกัน ซึ่งอิ๋วก็เห็นและคิดว่าคงจะเดินผ่านไปปกติแน่ ๆ จึงทำเป็นไม่เห็นและก้มหน้าก้มตาเติมนำต่อไป เมื่อพวกบิวเดินมาถึงโต๊ะบริการน้ำอิ๋วก็เติมน้ำเสร็จพอดี และเดินไป พวกบิวก็เข้ามาเติม
“เฮ้ย ไอ้บิว นั้นมันอิ๋วนี่หว่า เดิมมากับไอ้บั๊ก ไอ้ตัวขี้เก๊กเกรงขอ แม่ง เกลียดหน้ามันชิบ ทำคะแนนสู้มันไมได้สักที”ต้อมแอบตัดพ้อและอิจฉาบั๊กประธานนักเรียน
“นั่นดิ และทำไมถึงเดินคู่กันกับอิ๋ววะ ที่สำคัญ เมื่อกี้ทำไมไม่เข้ามาทักแกวะ ไอ้บิว”ท็อปลองเปิดประเด็น
“ใช่ ๆ” น็อทอยากมีบท
“เหรอ ก็ช่างเขาสิ”บิวเองก็รีบเติมน้ำให้เสร็จ ๆ และรีบ ๆ เดินหนีไปให้ไกลจากลูกตา เชอะชั้นไม่ได้เป็นแฟนกับเธอสักหน่อย แล้วทำไมเราต้องทนเห็นไมได้ด้วยนะ โอ๊ยยยย ทรมานเหมือนกันแหะ ที่เห็นเขาอยู่กับคนอื่นแบบนี้ แต่ไอ้เจ้าบั๊กอะไรนี่ก็พร้อมเพรียงทุกอย่างเหมือนกันนี่ แล้วหน้าอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้ละเนี่ย ก็คงต้องยอมแพ้เท่านั้นแหละนะ เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่า มันคงเป็นไปไม่ได้
เวลานี้ เจ็บแบบอะไรบางอย่างมาเกาะกุมหัวใจของทั้งบิวและอิ๋วอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกเจ็บแปลบที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิตของทั้งบิวและอิ๋ว จนดูเหมือนว่าเขาทั้งสองจะไม่มีทางผ่านกำแพงนี้ไปได้แล้ว
บิวเองก็ยืนมองดูอิ๋วในกลุ่มเพื่อนของเธออยู่ห่าง ๆ โดยที่มีบั๊ก ประธานนักเรียนสุดหล่ออยู่ด้วยไม่ห่างกายอิ๋ว จนกระทั่งบั๊กยืนดูเวลาและเห็นว่าเป็นเวลาที่สมควรแล้ว
“เดี๋ยวยังไงผมขอขึ้นไป กล่าวเริ่มการเคาท์ดาวน์บนเวทีก่อนนะครับ”บั๊กมีงานสำคัญรออยู่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของงานเลยทีเดียว
ในเวลานี้อิ๋วรู้สึกว่า ไม่อยากจะทำอะไรเลย ไม่มีกะใจจะทำอะไรต่อไปเลย งานไม่สนุกแล้ว ตั้งแต่เห็นบิวเดินเข้ามาเติมน้ำและไม่ทักเธอ
“อิ๋วครับ อิ๋วครับ อิ๋ว อิ๋วครับ” เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมา ราวกับว่ามาเพ่อกลุกอิ๋วให้ตื่นจากภวังค์
“ออ คะ อะไรนะคะ” อิ๋วเริ่มมีสติ ถามบั๊กกลับไปด้วยความเป็นกันเอง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับไม่สบายหรือเปล่า”บั๊กทำท่าจะจับหน้าผากเพื่อดูว่าไม่สบายหรือเปล่าเห็นอิ๋วเหมื่อลอย โดยกะจะแตะอั๋งคนที่เขาชอบเป็นนัย ๆ แต่เหมือนไม้นี้จะใช้กับอิ๋วไม่ได้ผล อิ๋วจึงเอี้ยวตัวหลบเสียทุกครั้ง ซึ่งตอนนี้พวกเพื่อน ๆ อิ๋วต่างพากันเมาท์แตกไม่สนใจอิ๋วและประธนนักเรียนสุดหล่อแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกคะ ง่วง ๆ นิดหน่อย” อิ๋วแก้ต่างไปเพื่อรักษาน้ำใจกันและกัน
“คือ ไม่มีอะไรหรอกครับ เราเห็นอิ๋วเหม่อ ๆ นึกว่าไม่สบาย แต่เดี๋ยวเราจะต้องขอตัวขึ้นเวทีก่อนนะ เพื่อไปทำพิธีเคาท์ดาวน์แล้วนะ คือว่า เราขอเบอร์อิ๋วหน่อยสิ จะได้โทรคุยกันอะ”บั๊กเองที่ได้ชื่อว่าป็อบในหมู่สาว ๆ ก็ออกอาการเคอะเขิน พูดตะกุกตะกักออกไปเหมือนกัน เมื่อเจอควาน่ารักของอิ๋ววันนี้ พลางหยิบโทรศัพท์มือถือจอสีชนิดแพงเอาเรื่องเหมือนกันขึ้นมาและทำทาเตรียมพร้อมที่จะกดบันทึกเบอร์เมื่ออิ๋วบอกตัวเลขออกมา
“อ๋อ คือ เอาไว้คุยกันที่โรงเรียนจะสะดวกกว่าค่ะ”อิ๋วตัดสินใจไม่บอกดีกว่า ถึงจะหล่อ ถึงจะเก่งแค่ไหน แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่คนนี้ ครั้นจะเก็บเอาไว้คุยเล่นก็ไม่ใช่นิสัย มีแต่จะพาลเบื่อและเสียเพื่อนเก่ง ๆ ไปหนึ่งคนเปล่า ๆ
“ออ ครับ ไม่เป็นไรครับ เอาไว้คุยกันที่โรงเรียนก็ได้ งั้นเราขึ้นเวทีก่อนนะ”บั๊กยังคงงง ๆ กับตัวเองหลังจากที่โดนปฏิเสธมาชั่วขณะ ก่อนจะรีบเดินไปหลังเวทีและเดินขึ้นมาบนเวที ก่อนจะหยิบไมค์มาพูดอย่างคล่องปากเพราะผ่านงานพิธีกรมาอย่างโชกโชน
“ครับ และตอนนี้ก็จวนจะถึงเวลาที่พวกเรารอคอยกันแล้วนะครับ นั่นคือการนับเวลาถอยหลังเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่กันอย่างปรีดี ต่อจากนี้ไปก็จะขอให้ทุกคนยืนนิ่งสงบเพื่อขอให้ความทุกข์ความโศกได้หายไปพร้อมกับปี่เป่านี้” บั๊กพูดประโยคนี้ออกมก็มองมาที่อิ๋ว “และอยากได้อะไรก็ขอให้ตั้งจิตอทิษฐาน กันได้เลยครับ ขอบอกว่า ขออะไรจะได้จริง ๆ นะครับ ไม่ได้โม้ ในการอทิษฐานก่อนสิ้นปีนี้ เอาละครับเริ่มกันเลยครับ”
เมื่อสินเสียงของบั๊กทุกคนก็ต่างพากันก้มหน้าประสานมือไว้ที่หน้าอกและอทิษฐานต่าง ๆ นา
ท็อป ขอให้เรียนจบมัธยมหกให้ได้โดยไม่ติดงานขาดส่งอาจารย์
ต้อม ขอให้เทอมสุดท้ายนีได้คะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของโรงเรียน
แบงค์ ขอให้ได้อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ตลอดไป
น็อท อะไรก็ได้ทีดี ๆ
อั๋น ขอให้ได้เจอ ผู้ชายดี ๆ สักคน หล่อ ๆ สูง ๆ ขาว ๆ ตี๋ ๆ ด้วยนะ ชอบ อิอิ
บิว ขอให้อิ๋วกลับมามีใจให้กันกับเราเหมือนเดิม
อิ๋ว ขอให้บิวมาชอบเราจริง ๆ อย่างที่คิดไว้ดวยเถิด
“เอาละครับเมื่อทั้งหมดทุกคน อทิษฐานกันแล้ว ก็ถึงเวลาสำคัญแล้วครับที่จะได้เคาท์ดาวน์กัน ขอให้ทุกคนเบียดเข้าใกล้ ๆ หน้าเวทีได้เลยครับ”
ทุกคนต่างพากันที่จะเบียดเสียดกรูกันเข้ามาเพื่อที่ว่าจะได้เข้าใกล้หน้าเวทีมากที่สุดเพื่อจะได้ฉลองและเห็นนักดนตรีจากแกรมมี่ที่จะมาเล่นได้ชัด ๆ ทำให้ต่างคนต่างพลัดหลงกันไปหมด อิ๋วก็พลัดกับเพื่อนเพราะถูกเบียดจนกระเด็นไปรู้ไปไหนต่อไหน เช่นเดียวกับบิวเองก็โดนเบียดจนพลัดหลงกับเพื่อนเหมือนกัน
“มานับพร้อมกันนะครับ
สิบ
เก้า
แปด
เจ็ด
หก
ห้า
ทั้งบิวและอิ๋วต่างโดนเบียดกันอย่างเต็มที่ ลำพังบิวไม่เท่าไหร่เพราะเป็นผู้ชายแข็งแรงอยู่แล้ว แต่อิ๋วเป็นคนตัวเล็กจึงเป็นอะไรที่ทำให้อิ๋วอดที่จะเห็นอกเห็นใจ พวกปลาซาดีนในปลากระป็องไม่ได้
สี่
สาม
หลังจากที่โดนเบียดกันไปเบียดกันมา มารู้สึกตัวอีกที ทั้งบิวและอิ๋วก็ต่างโดนเบียดกันจนมาอยู่ติดกันแล้ว บิวและอิ๋วหันมามองหน้ากัน ก็ต่างพากันตกใจว่ามายืนอยู่ตรงนี้กันได้ไง ทั้งสองมองตากันส่งผ่านความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยต่อกัน ราวกับว่าไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน ก่อนทั้งคู่จะนึกขึ้นได้ว่า ยังคงมีฐืถิกันอยู่ การจับจ้องตากันเมื่อสักครู่จึงหายไปกลับกลายเป็นการหันหน้าหนีกันไป
สอง
หนึ่ง
ศูนย์
เย้ สวัสดีปัใหม่ครับ ทุกคน” บั๊กทำการเปิดการสวัสดีปีใหม่ และเปิดการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงเฮฮาและโห่ร้องที่ตะโกนกู่ก้องกันไปทั่วโลก ซึ่งก็เกิดขึ้นทีโรงเรียนแห่งนี้เหมือนกัน เสียงของพลุและดอกไม่ไฟแห่งการเฉลิมฉลองได้ถุกจุดขึ้น โดยอาจารย์พละของโรงเรียน ซึ่งดังระคนไปกับเสียงสวัสดีปีใหม่ซึ่งกันและกันของนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ เทศกาลแห่งความสุข สัญลักษณ์แก่งการกำเนิดสิ่งใหม่ ๆ ได้กำเนิดขึ้นแล้ว
หลังจากสิ้นเสียงของพลูแห่งการเฉลิมฉลองได้ไม่นาน บิวก็ตัดสินใจพูดอะไรออกมาดีกว่าอยุ่นิ่ง ๆ เฉย ๆ เพราะ เพื่อน ๆ เขาได้หายไปหมดแล้ว และเผื่อว่า อะไรบางอย่างจะดีขึ้น และเป็นบันไดไปสู่เรื่องที่เขาได้อธิฐานตอนเคาท์ดาวน์
“อิ๋ว”บิวเรียกอิ๋ว ออกไปแต่หน้าตายังคงมองไปข้างหน้า ไม่ได้มองอิ๋วที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เลย
“หืม” อิ๋วเองก็ทำเป็นถาม แต่ตาก็มองอยู่ข้างหน้าเหมือนเดิม
“สวัสดีปีใหม่นะ”เพียงเท่านี้ที่บิวพอจะทำได้ในขณะนี้ ที่เขาจะสามารถทำให้อิ๋ว
อิ๋วเมื่อดิ้นอย่างนี้ก็ใจละลาย ทำอะไรไม่ถูกจะทำเป็นนิ่งเฉยต่อคำพูดของบิวก็ทำไม่ได้แล้ว จนต้องแอบยิ้มออกมาแต่ปากก็พยายามจะหุบและคงคอนเซปของตนเองไว้ ไม่ได้ ๆ เราจะยิ้มให้กับคำพูดเพียงเท่านี้ไม่ได้ เราจะหลงดีใจไปกับคำพูดเท่นี้ไม่ได้ อย่าลมสิ เขาไม่ได้มีใจอะไรให้เราเลยนะ โอยยยย ไม่ไหวแล้ว อิ๋วตะบะแตกยิ้มออกมาอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะหันไปด้านข้างยิ้มให้บิวซึ่งมองออกไปทางด้านหน้าอยู่และพูดออกไปด้วยความเต็มใจ
“สวัสดีปีใหม่ นะคะ บิว”อิ๋วทำเสียงน่ารัก ๆ แบ๊ว ๆ ใส่บิว
เพียงเท่านี้ กำลังแห่งความทิฐืของบิวก็พังทลายลงแล้ว ไม่หลงเหลือความโกรธอะไรต่ออิ๋วอีกแล้ว ทำให้ปากของบิวฉีกออกมาเป็นรอยยิ้มที่ยังหุบไม่ได้ของเขาแทน ก่อนจะรีบหุบโดยไวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโฒงก่อนที่อิ๋วไม่ยอมทักเขาและเดินคู่ไปกับไอ้ประธานนักเรียนขี้เก๊กหน้าโง่คนนั้น
อิ๋วจับที่มือของบิวทั้งสองมือ ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาถาม
“เป็นอะไร บิว”อิ๋ว ทำเสียงแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยเพราะอยากรู้จริง ๆ ว่าทำอะไรผิดจะได้ปรับปรุงตัวและให้บิวเป็นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด
ตูมมมมมมมม เสียงกำแพงแห่งทิฐิของบิวพังทะลายลงแล้วอย่างราบคาบหลังจากที่พยายามก่อขึ้นมาใหม่ เมื่อได้รับการสัมผัสจากมือ นิ่ม ๆ และกลิ่นน้ำหอม หอม ๆ จากตัวเด็กสาวเข้ามาใกล้ ๆ อย่างนี้ ทำเอาหัวใจบิวเต็นรัวเป็นกระเดื่องของพี่ชัดบอดีแสลม
“แล้ว เป็นแฟนกับไอ้ประธานนักเรียนนั่นเหรอ” ในเวลานี้บิวอยากรู้คำตอบนี้มากที่สุก มากกว่าที่เขาอยากรู้ว่าเขาจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคตเสียอีก
“ทำไมต้องเรียกเขาว่าไอ้ด้วยละ ก็ เปล่า ๆ ไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย ก็เอออะ เขาก็เข้ามาขอเบอร์อะ แต่ไม่ได้ให้ไปซะหน่อย”อิ๋วพูดเหมือนกับว่าป็นแฟนกับบิว ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันอยู่ “ทำไมละ หึงเหรอ จิงปะ ๆ อิอิ”อิ๋วแหย่บิว ทำบิวอดที่จะหุบยิ้มไม่ได้ จนต้องหันหน้าหนีเพราะอายที่อิ๋วจะเห็นรอยยิ้มของเขา แต่แล้วสุดท้าย เขาก็หันมายิ้มให้อิ๋ว เฉกเช่นเดียวกับอิ๋วที่ยิ้มให้บิวเหมือนกัน ต่างคนต่างยิ้มให้กัน สบตากัน โดยที่ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่เขินอายเลย โดยที่ทั้งคู่แอบเผยความในใจผ่านทางสายตาไปแล้วว่าในใจคิดอะไรท่ามกลางเสียงพลุแสงพลุสวย ๆ ท่ามกลางความสุขสนุกของทุก ๆ คนในงาน เป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่อยากให้เวลาหยุดเดินอยู่แค่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อยากให้เวลานี้มันผ่านไปเลย มือของบิวก็จับมือนิ่ม ๆ น้อย ๆ ของอิ๋วเหมือนกัน ส่งผ่านความอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาว ๆ ให้แก่กัน โดยที่ไม่อยากให้มือของทั้งสองแยกจากกันเลย
แต่แล้วความรู้สึกของบิวก็หยุดวูบลง เมื่อมือของอิ๋วหลุดออกจากมือของบิว
“นี่ยายอิ๋วเร็วเข้า หาตัวตั้งนาน ทางโน้นมีจับสลากกันโน้น ยายวากำลังจับอยู่เลยไปเร็วไป”อั๋นเข้ามาลากมืออิ๋วออกมาจากฝูงชนและมืออีกข้างของบิว หลังจากที่เดินหาอิ๋วมาจนทั่วงาน
“โอ๊ยยยย อะไร ไม่ไปไม่ได้เหรอ คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม อุ๊ย ไม่ใช่ ๆ โอย เค ๆ ๆ”อิ๋วตัวน้อย ๆ ที่ดูเหมือนว่าจะเล็กกว่าอั๋นถูกลากตัวไป ก่อนจะหันหน้ากลับมาทางบิว แล้วกำมือแต่เหยียดนิ้งโป้งและนิ้วชี้ไว้ ทำสัญญาณมือเป็นรูปโทรศัพท์ทมาแนบไว้ที่หู และพูดว่า โทร มา ด้วย บิวเมื่อเห็นก็ยิ้ม ๆ และพยักหน้าว่ารู้แล้ว ก่อนอิ๋วจะโดนลากไป
ในงานนั้น หลังจากมีการเคาท์ดาวน์เสร็จแล้วก็มีไฮ ไลท์อยู่สองงานนั่นคือ งานจับสลาก และงานคอนเสิร์ตวงดัง ๆ จากแกรมมี ส่วนมากพวกผู้ชายจะอยู่ที่ซุ้มคอนเสิร์ตกัน ส่วนพวกผู้หญิงจะไปอยู่กันแถว ๆ หน้าที่จับสลาก บิวเองมั่นใจว่าไอ้พวกเพื่อน ๆ ในกลุ่มต้องไปกระจุกอยู่หน้าเวทีคอมเสิร์ตแน่ ๆ จึงรีบเดินดุ่ม ๆ หนีออกไปยืนอยู่หน้าห้องน้ำเพื่อที่จะกลับก่อนโดยที่ไม่บอก เพราะถ้าหากบิวบอกเพื่อน ๆ ละก็ เฮ้อ ไม่ได้กลับหรอก เผลอ ๆ อาจจะต้องอยู่กับพวกมันยันสว่างคาตาโน้น สู้เอาเวลาน้าเดินกลับบ้านกับอิ๋วดีกว่า จึงโทรหาอิ๋วซึ่งตอนนี้กำลังช่วยเพื่อน ๆ ของเธอลุ้นจับสลากอยู่ เมื่อโทรศัพท์อิ๋วดังขึ้นก็หยิบขึ้นมากดรับ
“จ่ะ บิว”
“อิ๋วกลับยังละ”
“ไม่รู้ดิ ก็อยากกลับแล้วอะ และบิวจะกลับยังละ”
“ก็กำลังอยากกลับอยู่เหมือนกันอะ กลับบ้านกันเหอะ” ความจริงบิวกะจะชวนอิ๋วมาเที่ยวกันสองต่อสอง แต่แล้วเมื่อเห็นว่าอิ๋วกำลังอยากกลับบ้านจึงเปลี่ยนมาเป็นทำทีอยากกลับบ้านด้วยเช่นกัน
“เหรออืม ๆ เดี๋ยวกลับและ”
“อืม ๆ รออยู่หน้าห้องน้ำนะอิ๋ว ตอนนี้รออยู่นะ”
“จ้า ๆ กลับ ๆ แค่นี้แหละ เดี๋ยวเดินไปหาเลยนะ”
“ครับ บาย” บิวเผลอพูดเพราะ ๆ โดยไม่รู้ตัว
ทางด้านอิ๋วเห็นท่าไม่ดีแน่ ถ้ายังอยู่ต่อเพราะเธออาจโดนดานิสงฆ์โดนพวกนี้รั้งยาวแน่ ๆ จึงขอชิ่งกลับก่อน
“นี่ ๆ อั๋น ขอกลับก่อนนะ ป๊าโทรตามนะ”โทษทีนะอั๋น ที่ต้องโกหก แต่มันจำเป็น ถ้าช้าไม่โกหกแกก็คงไม่ให้ชั้นกลับหรอก
“เหรอ อืม ๆ แล้วกลับได่เปล่าละ ไปส่งไหม”อั๋นเป็นห่วงเพื่อนที่ต้องเดินกลับมืด ๆ ค่ำ ๆ
“ออ ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวม๊ามารับนะ เพราะม๊าเขาตัวเมืองพอดีเลยแวะมารับได้ งั้นกลับก่อนนะ เดี๋ยวม๊ารอ บาย”และอิ๋วก็รีบเผ่นทันที ก่อนที่อั๋นจะเปลี่ยนใจมาเป็น ขอแค่เดินมาส่งที่รถก็ยังดี
ที่ทางกลับบ้าน ในเวลาเที่ยงคืนครึ่งเห็นจะได้ ทางเดินที่มุ่งหน้าสู่บ้านของบิวและอิ๋ว บ้านทั้งสองข้างทางปิดสนิทและหลับกันหมดแล้ว แต่ไฟหน้าบ้านยังเปิดกันอยู่ทำให้ตลอดทางที่ทั้งสองเดินกลับบ้านไม่มีความน่ากลัวเลย มีแต่ความสว่างไสวตลอดทางจนถึงทางกลับบ้าน
“แล้วตั้งแต่นั้นมานะ ไอ้ต้อมมันก็เลยเกลียดไอ้บึ๊ก อะไรนั่นใช่ไหมที่เป็นประธานนักเรียนนะ”บิวเดินเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่ต้อมไม่ชอบหน้าบั๊กประธานนักเรียนขณะเดินกลับบ้านด้วยกัน
“บั๊กเหอะบั๊ก”อิ๋วแก้ชื่อ
“นั่นแหละนั่นแหละ ลืม อิอิ”บิวแกล้งลืมชื่อเพราะหมันใส้ที่มาเจาะแจะกับอิ๋ว
“เออ ใช่ ก็ตอนแรกอะ เราไม่รู้หรอก พวกเพื่อน ๆ มันบอกว่าโดนประธานนักเรียนมองเออ ก็เลยมอง มันก็มองเราจริง ๆ แหละ และก่อนที่เขาจะขึ้นไปยังมาขอเบอร์เราเลย งงเลย แต่จะว่าไปเขาอาจแค่ขอเบอร์ไว้คุยเล่นก็ได้ละมั้งนะ ไม่รู้นะ”
“เหรอ เหรอจ้า”บิวประชด
“ทามมาย นี่แนะ ๆ”อิ๋วบียคอบิว
และทั้งคู่ก็หัวเราะด้วยกันไปตลอดทาง และเมื่อสิ้นเสียงสนทนา ก็มีเสียงหมาเห่าเข้า อิ๋วก็ตกใจรีบกระโดดมาเกาะแขนบิว ให้บิวอยู่ด้านที่หมาเห่า บิวก็ไล่หมาไป
“ไม่ต้องกลัวหรอก หมานะ ที่มันเห่านะเพราะว่ามันกลัวเรามันเลยเก่าไล่เราเท่านั้นเอง”บิวปลอบใจ
“และรู้ได้ไง เป็นหมาเหรอ ถึงรู้”อิ๋วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ทำหน้าตากวน ๆ จังหวะที่หมาเห่านั้นเองอิ๋วเลื่อนตัวเข้ามาเกาะแขนบิวใกล้ ๆ ทำให้บิวรู้สึกว่าตัวของอิ๋วแนบชิดกับท่อนแขนของเขามาก ๆ แบบเรียกได้ว่าต้นแขนสัมผัสกับหน้าอกของบิวได้เลย ทำให้บิวเดินตัวแข็งทื่อไม่พูดไม่จาหน้าแดงตลอดทาง และถึงแม้หมาจะไม่เห่าแล้ว อิ๋วก็ยังคงเดินเกาะแขนบิวอยู่อย่างนั้น เพราะอากาศอันหนาวเหน็บของเดือยธันวาคมนั่นเอง ทั้งคู่จึงสามารถสัมผัสความอบอุ่นที่ส่งผ่านกันได้ จนอิ๋วเริ่มประโยค
“ทำไมเดี๋ยวนี้ ไปโรงเรียนไม่รอเลยอะ ไปก่อนตลอดอะ”
“ทำไมเหรอ อิ๋วมารอไปพร้อมกับบิวเหรอ”
“อืม เดินมารอหน้าบ้านทุกวันอะ ใจร้ายวะ ไปก่อนตลอด และไปทำอะไรอะเช้า ๆ แบบนั้น”
“อ๋อ คือ ไปลอกการบ้านเพื่อนนะ” บิวตอบ ๆ ปัด ๆ ไป เพราะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่อิ๋วมารอเขาทุกวัน
จนกระทั่งถึงบ้านก็ร่ำราและแยกย้ายกันเข้าบ้านกันไป อิ๋วปลื่มกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้มาก ส่วนบิวเองก็ปลาบปลื่มกับเรื่องราวในวันนี้ โดยเฉพาะตอนเดินกลับบ้าน ( อิ๋วเกาะแขนแบบแนบชิด ) ด้วยเช่นกัน
คืนนั้นก่อนจะนอน หลังจากที่อิ๋วอาบน้ำเสร็จก็มานั่งทาแป้งอาบครีมต่าง ๆ นานา หน้ากระจก ที่มีเจ้าลิตาร์มาร้องเมี้ยว ๆ อยู่ตรงหน้า ก่อนจะนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นอะไรที่อิ๋วมีความสุขมาก ๆ เหมือนกัน ก่อนจะเกิดความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างคือ อิ๋วคิดถึงบิวขึ้นมากะทันหัน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจากกันไม่นานแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่อยู่ด้วยกันตลอดแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ติดกันแท้ ๆ กลับคิดถึงกัน พลางจะหยับเจ้าลิตาร์มากอดมาลูบมาเกาคาง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ใช่แล้ว อยู่บ้านใกล้กันแท้ ๆ ไม่รู้ป่านนี้นอนหรือยัง แค่เห็นหน้าต่างห้องก็ยังดี
ว่าแล้วอิ๋วก็ลุกมาเปิดหน้าต่าง แต่บังเอิญเห็นบิวที่เปิดหน้าต่างอยู่แล้ว นั่งอ่านนิตยสารอยู่ก็สะดุ้งตกใจ ไม่นึกว่าบิวจะยังไม่นอน ก๋เลยนั่งลงข้าง ๆ หน้าต่างเอาลิตาร์มานั่งเล่น พลางยิ้มให้บิวอย่างเขิน ๆ ก่อนพูด
“มันร้อนนะ นอนไม่หลับ เลยมานั่งเล่นกะลิตาร์ให้ง่วงก่อนแล้วจะไปนอน”
“ร้อนเหรอ เราหนาวจนต้องใส่เสื้อกันหนาวสองชั้นเลยเนี่ยนะหนาว ถ้าอิ๋วหนาวมากก็ถาอดเสื้อหนาวออกสิ ใส่ไปตั้งสามตัวนี่ ฮะ ๆ ๆ “บิวหัวเราะเยาะอิ๋วที่ใสเสื้อกันหนาวตั้งสามตัวและบ่นว่าร้อน โดยที่ไม่รุ้เรื่องเอาเสียเลยว่าที่อิ๋วบ่นว่าร้อนนะเป็นข้ออ้างที่จะเปิดหน้าต่างพื่อมาเจอหน้าแกต่างหาก
“ชิ พูดมากนะ ปีใหม่แล้ว อย่าทำตัวกวนประสาทนักสิ”อิ๋วเริ่มฉุน
“โอ๋ ข้อโทษล้อเล่นนะ ไม่ใช่ไรหรอก อิ๋วเปิดหน้าต่างออกมาคุยกันอย่างนี้ทุกวันเลยนะ”
“ทำไมเหรอ อ่อ คิดถึงนะสิ อยากเห็นหน้าละสิ ช่ายมะ ฮะ ๆ ๆ” อิ๋วเล่นมุขหลงตัวเอง
“ใช่”บิวตอบอย่างมาดมั่น
“อะ” อิ๋วหน้าแตก นึกว่าบิวจะตอบแก้
“ใช่แล้วพรุ่งนี้ปีใหม่แล้ว ไปไหนหรือเปล่านะ”
“เปล่านี่ ทำไมเหรอ”
“ไปเดินเล่นกันนะ”บิวออกปากชวนเดทอย่างจริงจัง
อิ๋วรู้สึกได้ทันที ว่าตอนนี้บิวชวนเดทแน่ ๆ เหมือนบิวจะเอ่ยปากจีบอิ๋วอย่างเป็นนัย ๆ แน่แล้ว ที่พูดออกมาอย่างนี้ เพราะนิสัยของบิวที่อิ๋วรู้ เวลาบิวจะชวนไปไหนจะต้องมีข้ออ้างด้วยว่าไปทำอะไร แต่คราวนี้พูดออกมาเฉย ๆ ว่าไปเดินเล่น ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าบิวจีบมาอย่างนี้ อิ๋วจะเล่นด้วยตอบตกลงหรือเปล่า ถ้าอิ๋วตอบว่าไม่ว่างหรอก วันหลังแล้วกัน เหมือนว่าจะเป็นปกติแต่นั่นหมายความเป็นนัย ๆ ว่า ไม่เล่นด้วยเป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว แต่หากตกลงทันที นั่นแปลว่า อิ๋วเองก็ชอบบิวเหมือนกัน อย่างที่อธิบายาทั้งหมดนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมาพูดให้บิวและอิ๋วเข้าใจ เพราะตอนนี้แค่ทั้งคู่มมองตากันอยู่เฉกเช่นตอนนี้ก็สามารถสื่อได้แล้ว ตอนนี้ก็อยู่แค่คำตอบของอิ๋วเท่านั้น ว่าจะอยู่หรือจะไป สำหรับคำขอคบของบิวที่พูดอกมาอ้อม ๆ อย่างนี้
“อืม ไปสิ”
ความคิดเห็น