คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เป็นแฟนกันหรือเปล่า
หลังจากที่บิวได้ซื้อเจ้าไวท์ให้อิ๋ว หรือเจ้าสโนไวท์ เรื่องราวของทั้งบิวและอิ๋วก็ดำเนินไปด้วยดีเรื่อย ๆ เพราะทั้งคู่จะออกไปโรงเรียนพร้อมกันทุกวัน รวมไปถึงกระทั่งเวลาไปไหนมาไหนอีกด้วย ทำเอาเพื่อน ๆ ของบิวในกลุ่มอดที่จะอิจฉาขึ้นมานิด ๆ ไม่ได้ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะพากันมีหวานใจกันหมดแล้ว ก็คงจะมีเพียงแค่แบงค์ที่ตะรู้สึกอิจฉาทุกคนไปเสียหมด ( มันก็เรื่องของตูนะ -“- : แบงค์ )
วันเวลาในเดือนธันวาคมได้ร่วงเลยผ่านไปได้ห้าวันแล้ว ก็ถึงที่ทุก ๆ คนชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีและต่างเฝ้ารอวันนี้กันทุกคน ซึ่งก็คือ วันที่ห้าธันวาคมหรือวันพ่อแห่งชาตินั่นเอง
ณ หน้าบ้านของทั้งบิวและอิ๋ว ตาก้วยและตาเปรมนั่งเก้าอี้นอกบ้านที่ถูกจัดเตรียมไว้เนื่องจากวันพิเศษอย่างหน้าชื่นตาบาน -..- โดยมีแม่บัวและแม่นิ่มยืนอยู่ข้าง ๆ ^-^
บิวและอิ๋ว มานั่งยอง ๆ คุกเข่าตรงหน้าของบิดาของตนเอง แล้วไหว้พ่อของตนเองหนึ่งครั้งและหยิบขันใบเล็ก ๆ ตักน้ำเย็นใส่ด้วยดอกมะลิเพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น ซึ่งถูกจัดเตรียมมาไว้ในขันใบใหญ่แสตนเลสสตีลตรา.... ( ...... ไม่มีคอมเม้นท์ ) ซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ ตัวบิวและอิ๋ว เพื่อที่จะได้ตักได้ง่าย ๆ ทั้งคู่ถือขันที่ใส่ด้วยน้ำใส ๆ กันคนละใบ ก่อน จะรดลงกับมือพ่อของตนเอง ที่นั่งน้ำตาปริ่มประสานมือไว้ที่หน้าตักด้วยความปิติ เมื่อบิวและอิ๋วรดน้ำหมดก็ก้มลงกราบหนึ่งที ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบและอบอวลไปด้วยความอบอุ่น ของครอบครัว จนตาเปรมและตาก้วยต่างน่ำตาไหลโดยไมรู้ตัว T^T
“ฮาฮา นี่แกร้องให้เหรอ ?ไอ้ก้วย ตลกเป็นบ้าฮาฮา!! ฮือฮือ”ตาเปรมหัวเราะเยาะเพื่อนโดยไม่ดูตัวเอง T0T
“อาราย ๆ คายว่าอั๊วะ ร้องห้าย!? ลื้อนั่งแหละ อย่างอั๋วะนา เปงลุกผู้ชายสามศอกนา ฮือฮือ”ตาก้วย แก้ตัวทั้งน้ำตา Y^Y
“อะไร ๆ พูดอย่างนี้หาเรื่องหรือไง!? ฮือฮือ”ตาเปรมอารมณ์ขึ้นทั้งน้ำตา \\T[]T//
“ก็แล้วทามมายละ จะอาหรือยางงาย!? ฮือฮือ”ตาก้วยก็ไม่ยอม \\T[]T//
“ทั้งคู่นั่นแหละ !! พอได้แล้ว”\\-[]-// ทั้งแม่นิ่มและแม่บัวประสานเสียง ก่อนจะส่ายหัวในความมีเกียรตีศักดิ์ศรีของทั้งคู่
บิวและอิ๋วหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะ เพราะตลก และเห็นด้วยกับแม่ ๆ ของทั้งคู่ ๑^-^๑
“รู้ไหมลูก ? เมื่อก่อนนะ ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมแล้วนะ นี่ไงดูรูปสิ”
แม่ของบิวพูดถึงเรื่องราวพ่อ ๆ ของทั้งคู่พลางเดินเอาอัลบัม รูปสมัยตาก้วยและตาเปรมยังหนุ่ม ๆ มาให้บิวและอิ๋วดู ในขณะที่ทังคู่นั่งพักเหนื่อยบนโต๊ะที่อยู่หลังร้านขายของชำ หรือบ้านของบิวนั่นเอง หลังจากที่ทั้งคู่ช่วยกันเอาเก้าอี้มาเก็บที่หลังร้านเมื่อทำพิธีรดน้ำให้กับพ่อ ในวันพ่อแห่งชาติเสร็จแล้ว
ทั้งบิวและอิ๋วนั่งงงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ประหนึ่งว่าไม่น่าเชื่อที่ทั้งคู่จะเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน เมื่อดูจากดีกรีความสนิทชิดเชื้อจากที่ได้ขอบเขตประสบการณ์ของตัวเองสัมผัสมาแล้ว เพราะไม่ว่าจะเจอกันทีไรก็ทะเลาะกันเหมือน....( คงจะนาง
ทันทีที่แม่บัววางอัลบัมรูป บิวรีบหยิบฉวยขึ้นมาดูรูปลักษณ์โดยรวมในทันที ก่อนแม่บัวจะดึงเก้าอี้ข้าง ๆ อิ๋วซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับบิวออกมาอีกตัวลงนั่ง
“ความจริง ทั้งคู่ก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรนักหนาหรอก ตรงกันข้าม กลับรักกันดีอีกต่างหาก เพราะว่าในตอนที่ทั้งคู่เรียนอยู่ด้วยกันนะ ตาก้วยไม่มีเงินเรียนต่อเลย จึงต้องออกไปหางานทำ ก็มีตาเปรมเนี่ยแหละ บอกให้ตาก้วยกลับมาเรียนต่อ โดยเขาจะช่วยตาก้วยทำงานหาเงินมาช่วยด้วยอีกแรงเอง แต่เหตุที่ทังคู่ทะเลาะกันมาตลอดคงเพราะแค่วางฟอร์ม ให้กันเฉย ๆ นั่นแหละ อิอิ” ^-^ แม่บิวพูดเล่าเรื่องราวความบาดหมางของพ่อ ๆ ทั้งสอง ที่ฟังดูแล้วเหมือนว่าจะไมได้บาดหมางอะไรกันนักสักเท่าไหร่ ก่อนที่จะลุกไปทำอะไรบางอย่างในครัวที่อยู่ถัดเข้าไปอีกฟากของสายตา
บิวลองเปิดผ่าน ๆ ดูเห็นรูปของ พ่อ ๆ ตอนหนุ่ม ๆ เยอะแยะมากมายจึงดีใจจนลืมตัว พรวดพราดลุกขึ้นมาจนเก้าอี้ที่นั่งอยู่กระเด็นไปข้างหลังและจับที่ข้อมือของอิ๋ว อิ๋วก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เป็นอะไรของนายเนี่ยตาบิว อยู่ดีดีก็.... >//<
“อิ๋วขึ้นไปดูข้างบนกัน ! ไป”บิวทำหน้าตาจริงจังและลากอิ๋วไปตามแรง ขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง อิ่วก็ได้แต่เดินตามแรงที่โดนดึงไป นี่อะไรของนายเนี่ย จะพาฉันไปไหน และที่บอกว่าไปชั้นสองนะ อะไร!? เดี๋ยวก่อนสิ !!!! ฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ ! เอ๊ะ!! แล้วทำไมเราต้องเตรียมใจละ แค่ไปดูรูปไม่ใช่เหรอ ? =//=
ขณะที่อิ๋วกำลังนึกเขินกับตัวเองอยู่นั่นเอง มารู้สึกตัวเองอีกทีก็ถึงหน้าห้องของบิวแล้ว บิวไม่รอช้าที่จะเปิดประตูลากอิ๋วเข้าห้องของตัวเอง
อิ๋วมองไปรอบ ๆ ห้องของบิว อิ๋วอดที่จะนึกตื่นเต้นไม่ได้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบห้องผู้ชาย ในห้องดูโล่ง ๆ แต่สะอาดไม่เหมือนกับห้องของผู้ชายที่อิ๋วเคยจินตนาการไว้ว่าจะตกรก แน่ ๆ อิ๋วยืนยิ้มเล็กยิ้มน้อย พลางมองไปที่แผ่นหลังของบิวที่กำลังเปิดหน้าต่างห้องของเขาอยู่ ก่อนจะเดินมาที่อิ๋ว
“มานั่งดูรูปกัน”บิวจับมืออิ๋วอีกครั้ง หมายให้ไปนั่งบนเตียง อิ๋วเองก็ออกอาการเคอะเขินอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ขาก้าวไม่ค่อยออกนักเมื่อบิวดึงอิ๋วไป ขณะที่ตัวเขาลงไปนั่งกับเตียงของตัวเองแล้ว บิวก็เอะใจว่าทำไมอิ๋วถึงดูขืน ๆ และไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เดินขึ้นมา ก่อนมีอะไรบางอย่างจี๊ดขึ้นมาที่สมองขนาดอันพอเหมาะของเขา
โอย!! ตายแล้ว +[]+! นี่เราลืมตัวจนลากอิ๋วเข้ามาในห้องนอนของเราเลยเหรอเนี่ย ตาย ๆ เกิดมาไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเข้าห้องมาก่อนเลย Y~Y
“เออ... คือ... ที่เราพาอิ๋วเข้าห้องมานี่เราไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไร! หรือหลอกอิ๋วมาทำอะไรนะ! เราแค่ให้อิ๋วมาดูรูปด้วยกันเฉย ๆ นะ แต่เราดีใจมากที่ได้เห็นรูปพ่อตอนหนุ่ม ๆ เป็นครั้งแรก จนลืมตัว....”บิวบรรยายออกมาจากใจไม่เป็นศัพท์อย่างหน้าแดง ๆ
“เหรอ ! ไมได้เจตนาเหรอ!? แทบจะลากเราขึ้นเตียงเลยเนี่ยนะ แล้วมือนะ ปล่อยได้หรือยัง พ่อคุณ !”อิ๋วทำเสียงแข็งกลับ โดยที่ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร
เอะ! มือ เออใช่ !! เราจับมิออิ๋วขึ้นมานี่หว่า ลืมไป ๆ แต่ นิ่มดีแหะ อิอิ =///= และบิวก็ปลอยมืออิ๋ว ก่อนอิ๋วจะลงมานั่งด้วย ที่เตียงของบิว ในระยะที่ไม่ไกลกันเท่าไรนัก หัวเข่าขวาของบิว และหัวเข่าซ้ายของอิ๋ว ชนกัน ทั้งคู่มองกันนิด ๆ ก่อนจะนั่งเฉย ๆ ไม่ขยับออกแต่อย่างใด เพื่อปล่อยให้หัวเข่าสัมผัสกันอยู่อย่างนั้น แล้วบิวก็เริ่มเปิดหนังสืออัลบัมรูปดู
“โอ้โหนี่ ! สมัยไหนเนี่ย ไปยืนถ่ายกันที่กรุงเทพด้วย”บิวเห็นรูปแรกก็ตกใจในความเก่า
“เหรอ!? อืม สะพานพระรามหกมั้งถ้าจำไม่ผิด โหย! ตอนนั้นพ่อยังหล่ออยู่เลย”
“แล้วตอนนี้ละ”บิวแกล้งถามหยอดมุข พลางเปิดหน้าต่อไป
“ทำไม ตอนนี้ก็ยังหล่อเหมือนเดิมนะแหละ อิอิ”^-^อิ๋วตอบกลับ
“แหม ๆ ไม่ค่อยเลยนะ”
“ก็จะทำไมละ พ่อเราต้องหล่อที่สุดอยู่แล้ว”
“โหนี่ดูสิ รูปเพื่อน ๆ พ่อทั้งนั้นเลย รู้สึกว่าตอนนั้นจะอายุแก่กว่าเราไม่กี่ปีเองมั้ง”
“ไหน ๆ ?ไม่เห็นอะ !? เขยิบมาหน่อยสิ ดูด้วย”
อิ๋วมองไม่เห็นที่บิวบอก จึงพยายามที่จะเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆ บิวเองก็ขยับเข้าใกล้อิ๋ว เพราะกลัวว่า อิ๋วจะมองไม่เห็น จนทำให้ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก ๆ จนบิวได้กลิ่นหอมของยาสระผมที่อิ๋วสระเมื่อเช้าได้อย่างชัดเจน ในขณะที่อิ๋วก้มดูรูปอยู่
“ไหน ๆ?อ๋อ ! เออ ใช่ ๆ ดูเพื่อนพ่อคนนี้ดิตลกเนอะ...”อิ๋วชี้ให้บิวดู พลางเงยหน้าขึ้นมามองที่อิ๋วเป็นเชิงการสนทนากัน
เมื่ออิ๋วเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ่งทำให้ อยู่ในระยะประชิดมาก ๆ ทั้งคู่จ้องตากัน พอดี ก่อนจะก้มหน้าพากันมองไปที่รูปด้วยความเขิน -///- อิ๋วก็เขยิบออกนิด ๆ
“ไม่น่าเชื่อเนอะ? ว่าทั้งคู่จะคบกันมานานขนาดนี้”อิ๋วอิจฉาในมิตรภาพของพ่อ
อิ๋วรู้สึกว่าสายตาที่ได้มองบิวเมื่อสักครู่นี้ รู้สึกดีอย่างไม่ถูก และอยากจะมองบิวอีกครั้ง
“คงเป็นเพราะว่าคบกันมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นนะ ทำให้ ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ น่าอิจฉาในความยืนยงของมิตรภาพเขาเนอะ?”บิวอดที่จะอิจฉาพ่อตัวเองไม่ได้ พลางนึกในใจถึงชั่วขณะที่ได้มองตากัน และอยากที่จะมองอิ๋วอีกครั้ง เพราะเมื่อได้มองหน้าอิ๋วเมื่อสักครู่ บิวรู้สึกใจสั่น ๆ อย่างบอกไม่ถูก ในความน่ารักของอิ๋วในสายตาบิว >.<
ทันใดนั้นเอง ทั้งคู่ต่างมองกันอีกครั้ง ซึ้งต่างคนต่างไม่ได้คิดกันว่า อีกฝ่ายจะมองเหมือนกัน ทำให้ ต่างเขิน หลบตากันแทบไม่ทัน >//<
โอยแย่แล้ว อย่างนี้อีกฝ่ายก็รู้นะสิว่าเรา อยากจะมองหน้าเขา >//< โอย ! อีกฝ่ายต้องรู้แน่ ๆ เลย >//< แต่ก็ช่างมันเถอะ!! นี่คือความคิดของทั้งคู่ ที่บังเอิญมาคิดเหมือนกันอีก ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจ ว่าจะมองอีกฝ่ายให้ชัดเจนไปเลย
ทั้งคู่มองตากันอีกครั้ง ต่างมองลึก ๆ เข้าไปถึงนัยน์ตาของอีกฝ่าย โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้หลบตากัน ทั้ง ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างเขินและอยากที่จะหลบตาจะแย่อยู่แล้ว แต่จิตใต้สำนึกอะไรบางอย่างบอกให้ทังคู่มองกันต่อไป @-@
ก่อนจะมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมาจากปากของบิว เมื่ออิ๋วได้เห็นรอยยิ้มนั้นความรู้สึกดี ๆ ก็ก่อเกิดขึ้นมา หัวใจพองโตขึ้นมาทันที และด้วยสัญชาตญาณทำให้เธอยิ้มตอบ
ตอนนี้ทั้งคู่ไม่สนใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไงแค่ตอนนี้ขอจดจำใบหน้าของอีกฝ่ายไว้ให้นานที่สุด เพราะต่อไปโอกาสที่จะได้มองหน้ากันใกล้ ๆ อย่างนี้อาจจะไม่มีอีกก็เป็นได้
“เอา ๆ มดขึ้นแล้วนะ มองกันตาหวานขนาดนั้น!”เสียงแม่บัวของบิวเดินเข้ามาในห้องพลางเดินถือจานขนมหวาน ทองหยิบทองหยอดเข้ามา ทำให้ทั้งคู่ต้องชะงักออกจากกันและมองไปทีแม่บัว ก่อนแม่บัวจะเอ่ย “เอานี่จ่ะ ขนม ทานกันซะนะ ไม่รู้แม่มารบกวนเวลาหรือเปล่านะ แต่จ้องตากันต่อได้เลยจ่ะ ฮาฮาฮา”^O^ แม่บัวแซวถึงท่าทีของลูกชายเมื่อครู่
“โถ่แม่!! พูดอะไรอย่างนั้น ไม่ใช่ซะหน่อย ! ไม่พูดด้วยแล้ว!! แม่อะ!”บิวทำโมโห ที่ถูกพูดแทงใจดำ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินขนม บรรเทาความโกรธ ส่วนอิ๋วนั่งนิ่งเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร เพราะตอนนี้ หน้าแดงเป็นกวนอูในเรื่องสามก๊กไปแล้ว =///=
ขณะที่นั่งกินขนมกันไป ดูรูปกันไป บิวเองเริ่มที่มั่นใจในตัวเองแล้วว่า ท่าทางฝ่ายอิ๋วต้องมีใจให้เขาแน่ ๆ จากการกระทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ผ่านมา รวมถึงเมื่อสักครู่ด้วย ทำให้เขาอดที่จะวาดฝันในอนาคตอันใกล้นี้ไม่ได้ว่า จะได้เดินจู๋จี๋กับอิ๋ว เฉกเช่นคนเป็นแฟนกัน ส่วนอิ๋วเอง ก็เริ่มมั่นใจแล้วว่า ท่าทีของบิวที่มีต่อเธอ จะต้องชอบเธอแน่ ๆ จะว่าไปแล้วมีแฟนก็ดีเหมือนกัน เพราะอยู่มาจนถึง มัธยมหกเทอมปลายแล้ว และที่ดีกว่านั้นคือได้บิวมาเป็นแฟนด้วย อิอิ ( แหมตัวเองก็ชอบเขาเหมือนกันอะดิ )
วันเวลาผ่านไป เกือบ ๆ สามอาทิตย์ ก็มาจนถึงวันที่ยี่สิบห้าธันวาคม เป็นวันที่ทั่วโลกต่างยินดีปรีดาจัดงานปาร์ตีรื่นเริงต่าง ๆ หน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศไทยก็ออกมาประดับประดาต้นคริสมัสต์กัน จนมีให้เห็นอยู่ไม่ขาดสาย เพราะวันนี้เป็นวันคริสมัสต์ ในทางศาสนาคริสต์คือวันประสูติของพระเยซู แต่ในประเทศไทยอาจจะไม่ได้มีงานเลี้ยงอะไรครึกโครมนัก เพราะเป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จะมีงานเลี้ยงฉลองกันแค่ในโบสถ์ของชาวคริสต์เล็ก ๆ เท่านั้น
ที่โรงเรียนยามเลิกเรียน เด็กนักเรียนต่าง ๆ ที่เคยมาวิ่งเล่นกันที่สนามยามเลิกเรียนก็ดูเบาตาลง โดยเฉพาะเด็กนักเรียนมัธยมปลาย เพราะอาจจะตามกระแสกันสักนิดคือ คนที่มีแฟน ก็มักจะพาหวานใจไปเดินเล่นกันในเมือง เพราะจะมีการประดับประตาต้นคริสต์มัสต์อย่างสวยงาม เช่นเดียวกับกลุ่มของบิว
ในขณะที่กลุ่มของบิวกำลังเดินลงมาจากตึกเรียน หลังจากเลิกเรียนวิชาภาษาไทยที่ได้เรียนเป็นวันสุดท้ายในวันนี้
“เฮ้ย!! กลับบ้านก่อนนะ จะรีบกลับไปแข่งบอลกับคนแถวบ้าน”แบงค์ลาเพื่อน ๆ ขณะยกส้นเท้าขึ้นมาเพื่อสวมเข้าไปในรองเท้าให้เป็นปกติ หลังจากที่เหยียบส้นมาตลอดทั้งวันเพื่อเตรียมตัวจะวิ่งกลับบ้าน
“เออ โชคดี ๆ”ทุกคนในกลุ่มลาแบงค์ต่างโบกไม้โบกมืออำลาตามประสา แล้วแบงค์ก็หนีบประเป๋าหนังไว้ข้างตัวแล้วรีบเดินออกไปที่ประตูโรงเรียน
“เออ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนนะเว้ย รีบไปรับแฟน วันนี้คริสมัสต์ ว่าจะเข้าไปในตัวเมืองหน่อย อิอิ”ท็อปยิ้มอารมณ์ดีที่ได้ทำหน้าที่แฟนอย่างเต็มตัวแล้ว
“เออ โอเค ๆ เที่ยวให้สนุกนะ”ทุกคนลาแบงค์และอวยพรให้ไปดี แล้วแบงค์ก็เดินฉึบ ๆ ไปอีกตึกหนึ่ง เพราะแฟนของแบงค์อยู่คนละห้อง และชั่วโมงสุดท้ายเรียนอยู่ที่ตึกนี้
และทั้งสามก็เดินกันต่อ ก่อนบิวจะชวนเพื่อนอีกสองคนที่เหลือ “เฮ้ย ! ไปหาหวานเย็นกินหลังโรงเรียนเอาเปล่า” ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของน็อทก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล จ้า !ว่าไงจ้ะน้องอ้อมแอ้ม !? อ๋อได้จ่ะๆ เดี๋ยวพี่ไปรอหน้าโรงอาหารจ่ะ งั้นเดี๋ยวแปปหนึ่งนะจ้ะ เออนี่ ! บิว ต้อม ข้าไปก่อนนะเว้ย! พรุ่งนี้เจอกันนะ ฮัลโหลจ่ะ ๆ แล้วมารอนานหรือยัง.....”เสียงของน็อทที่เดินคุยโทรศัพท์ ค่อย ๆ ลาลับออกไปช้า ๆ
“เฮ้ยต้อม! สุดท้ายก็มีเราแค่สองคนเท่านั้นเว้ย ปะ ไปหาไรกินกัน” ^-^ บิวกอดคอต้อมแล้วเดินนำ ก่อนที่บิวต้องมาหยุดชะงักเพราะต้อมไมได้ก้าวเท้าเดินตามด้วย
“ช้าก่อน สหายรัก วันนี้ข้ามีธุระว่ะ ข้านัดน้องเอ๋ไว้ แล้วนายไม่นัดอิ๋วไปเที่ยวบ้างละ โอกาสดีนะเว้ย ที่จะขยับความสัมพันธ์ ให้รักกันมากขึ้น โดยใช้ความโรแมนติกของต้นคริสมัสต์เป็นตัวดึงความสัมพันธ์อันนั้นของเราสองคน วะฮะฮะ”=..+ ต้อมทำหน้าเคลิม ๆ พูดออกมาพลางทำไม้ทำมือ ทำท่าทำทาง ทำเอาบิวรู้สึกสะอิดสะเอียนอยากที่จะอาเจียนเอาข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาวเมื่อกลางวันออกมาเสียจริง
“เออ ๆ ไปเหอะ ๆ”บิวหงุดหงิดขึ้นในบัดดล
“ฮะฮะฮะ เออ งั้นไปก่อนนะ! เจอกัน ๆ”ต้อมโบกมืออำลาเชื่นเดียวกับบิว และต้อมก็เดินผิวปากจากไปอย่างอารมณ์ดีอีกคน
เฮ้อ! ไปกันหมดเลย TwT เพื่อนเรา จะว่าไปก็อยากไปกับแฟนเหมือนกันแหละ และจะไปกับใครกันละ!? ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลย โอย เบื่อยังไม่อยากกลับบ้านเลย
บิวเดินบ่นกับตัวเอง จนเดินออกมาที่สนาม และขึ้นไปนั่งบนสแตนด์อยู่คนเดียว มองอะไรไปเรื่อย ๆ รอบ ๆ ด้วยความเบื่อหน่ายไม่มีอะไรทำ แต่ยังไม่อยากกลับบ้าน พลางนึกถึงท็อป ที่เขาพูดออกมาก่อนจะไปหาแฟนว่า
“ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนนะเว้ย รีบไปรับแฟน วันนี้คริสมัสต์ ว่าจะเข้าไปในตัวเมืองหน่อย”
โถ่เอ๊ย !! น่าอิจฉาไอ้ท็อปชะมัด >[]< ฉันเองก็อยากทำเหมือนายอยู่หรอก ป่านนี้คงเดินสบายใจเฉิบกันในตัวเมืองแล้วมั้งเนี่ย แดดก็เริ่ม ๆ จางลงแล้วด้วย ให้ตายสิ บรรยากาศน่าเดินเล่นกับคนรู้ใจ ( ถ้ามี ) ชะมัด
เวลาผ่านไปในเวลาห้าโมงเย็น บิวนั่งดูเด็กนักเรียนมัธยมต้นเล่นฟุตบอลกันอยู่ที่สนาม จนตัวเองแอบเชียร์ด้วย ขนมที่ซื้อมานั่งกิน ก็หมดราบหายเรียบไปหมด เหลือเพียงแต่ถุงขนมที่เหลืออยู่ตรงหน้า ขณะที่มองอยู่นั่นเอง จึงเหลือบไปเห็นที่ข้างสนาม เหมือนจะคุ้น ๆ ว่าใคร ก่อนจะจี๊ดขึ้นมาว่าเป็นอิ๋วนั่นเองที่ก้มหน้าก้มตาเดินฉึบ ๆ อยู่อย่างไม่มองอะไร คงหมายใจว่าจะรีบกลับบ้านเป็นแน่
เอ๋!? อิ๋วเพิ่งกลับเหรอ นึกว่าจะกลับไปกับอั๋นตั้งแต่ตอนเลิกเรียนแล้วเสียอีก เพราะเลิกเรียนทีไร ยายอั๋นต้องมารอประจำ จนทำให้เราไม่ได้ไปไหนมาไหนกับอิ๋วตอนเลิกเรียนเลย ได้แต่ตอนมาเรียนและเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ว่าแล้วก็เข้าไปทักดีกว่า
“อิ๋ว!!”บิวเดินตรงมาที่อิ๋วพลางสะพายกระเป๋าไปด้วย
“อ่าว แล้วนี่นั่งทำไรละ ยังไม่กลับอีกเหรอ?”อิ่วอดที่จะงงไม่ได้ว่าทำบิวยังอยู่
“ก็เรื่อยเปื่อยนะ ยังไม่อยากกลับบ้านน่าเบื่อ ว่าแต่ตัวเองเถอะ !? ทำไมเพิ่งกลับเอาตอนห้าโมงเนี่ย”
“ก็รอส่งงานวิทยาศาสตร์งานเดี่ยวอะ และคิดดูมีตั้งกี่คนในห้อง กว่าแกจะตรวจหมด เห็นว่านานแลยให้อั๋นกลับไปก่อน”
“เหรอแล้วนี่จะกลับยังละ?”
“ก็กะจะกลับแล้วละ แต่ว่าจะ....”
“ดีเลย!! งั้นเราไปเที่ยวดูต้นคริสมัสต์ในตัวเมืองกันไหม?” แต่ว่าจะไปบ้านอั๋นนนน.....บิวพูดออกมาทันควันด้วยความดีใจ ทำให้ประโยคหลังดังกล่าวอิ๋วต้องพูดในใจเท่านั้น
“เหรอ? อืม.......”อิ๋วยืนคิดก่อนครู่หนึ่ง ว่าเมื่อตอนเย็นที่เธอรอส่งงาน ก็บอกอั๋นแล้วว่าให้กลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวตามไป อิ๋วจึงตอบไปว่า
“ไปสิ!!”
อิ๋วยิ้มแย้มตอบออกมา ^-^ เหมือนว่าจะลืมเรื่องที่เธอนัดกับอั๋นไว้ เรื่องอั๋นเอาไว้ก่อนแล้วกัน
“งั้นไปกัน มาเราถือกระเป๋าให้นะ”^u^ บิวเริ่มที่จะกล้าพูดมากขึ้นแล้ว
“อืม”อิ๋วก็ยื่นกระเป๋าให้แบบเขิน ๆ ตามประสาลูกผู้หญิง ก่อนจะคิด ว่าวันนี้โชคดีจัง เพราะการส่งงานทำให้อั๋นได้กลับบ้านไปก่อน และได้เจอบิวที่นั่งเล่นอยู่ ทั้ง ๆ ที่น่าจะกลับไปแล้ว ทั้งหมดนี่เป็นเหตุบังเอิญหรอกเหรอนี่ ฉะนั้น เมื่อมันบังเอิญขนาดนี้ อั๋น!! เพื่อนเลิฟ ^-^ ขอโทษด้วยนะ ขอทำอะไรตามหัวใจก่อน อิอิ >.<
“ว่าแต่เมื่อกี้จะพูดอะไรเหรอ แต่ว่าจะ ว่าจะอะไร”
“อ๋อเปล่าหรอก อิอิ ช่างมันเหอะ เนี่ย รอส่งงานอาจารย์ตั้งนานเมื่อยอะ และอาจารย์แกก็นัดส่งเอาวันนี้วันเดียวเลยด้วย หิวก็หิว”อิ๋วเริ่มที่จะอยากออดอ้อนบิว
“เหรอ? โอย!! น่าสงสาร ๆ อิอิ งั้นไปหาไรกินในตัวเมืองกัน เราก็หิว”^w^
“อืม ๆ บิว ๆ ไปร้านนั้นนะ ที่ออกข่าวอะ อยู่ซอยใกล้ ๆ กับท่ารถสองแถวเลยนะ...”
บิวและอิ๋วเดินคุยกันไปด้วยกันอย่างมีความสุข ก่อนอิ๋วจะอาศัยจังหวะชุลมุน เดินให้ช้ากว่าบิวนิด ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาอั๋นโดยเร็ว
“เออนี่ อั๋น เมื่อกี้ป๊าโทรมาว่าจะออกไปตัวเมืองอะ ไปกับแม่ ให้เรารีบกลับมาเฝ้าร้าน งั้น วันนี้เราไปบ้านอั๋นไม่ได้แล้วนะ จ้า ๆ โทษที ๆ เจอกัน ๆ บาย”อิ๋ววางโทรศัพท์ยิ้ม ๆ ก่อนจะรีบเดินตามบิวไป
เมื่อเข้าพลบค่ำ จากที่แดดจ้า ก็เปลี่ยนมาเป็นแดดจาง เมื่อแดดจางก็มาเป็นไม่ดีแดด จากที่มี่แดดก็เปลี่ยนมาเป็นพลบค่ำ ตามวิถีของธรรมชาติ วันนี้ในตัวเมืองของจังหวัดชลบุรี ต่างออกมาประดับประดาต้นคริสมัสต์กันอย่างมากมาย ท่ามกลางสองฝั่งถนนที่คนเดินกันขวักไขว่ โดยจะเห็นได้ว่ามากันเป็นคู่ ๆ เสียเป็นส่วนใหญ่เพราะตางที่จะมาชื่นชมความงามของต้นคริสมัสต์ที่ได้จัดตกแต่งเพื่อต้อนรับเทศกาลกัน
บิวและอิ๋วก็เป็นหนึ่งในคู่นั้นที่ได้มาเดินอยู่ที่แห่งนี้เหมือนกัน เมื่อเข้าพลบค่ำพวกห้างร้านต่าง ๆ ก็ทยอยกันออกมาตั้งของขายกันมากมาย
“ว่าแต่ไปรู้มาจากไหนเหรอ ว่ามีร้านอย่างนี้อยู่ที่นี่”บิวเดินถามอิ๋วที่เดินอยู่ข้าง ๆ
“แหม ร้านเขาออกจะดัง ออกข่าวทางทีวีด้วย แล้วเป็นไงละ บิวคิดว่าไง?”
“ก็อร่อยดีอะ ให้เยอะดีด้วย! คนงี้ แน่นร้านเลย ไม่อยากนึกภาพเลยถ้าเรามาช้ากว่านี้ ได้ยืนรอกันใส้กิ่วแน่”
“อืมใช่ เขาให้เยอะมากอะ เรากินไม่หมดเลย”
“อ่าวก็เรากินให้แล้วไง ที่อิ๋วกินไม่หมดอะ อิอิ” บิวนึก มื้อนี้เราคุ้มจริงๆ ^-^
“อืมจ่ะ กินคุ้มเลยนะ”อิ๋วหันมาเหล่ที่บิวซึ่งกำลังยิ้มเยาะอยู่ ทำให้ไปเห็นเข้ากับต้นคริสมัสต์ต้นหนึ่งที่อยู่ออกไปทางด้านข้างฝั่งของบิว
“เดี๋ยว ๆ ก่อน บิว แปปหนึ่ง”อิ๋วบอกให้บิวหยุดก่อน พลางยุดที่ข้อมือของบิวไว้บิวจึงหยุดและมองตามที่สายตาของอิ๋วมองไป
อิ๋วเดินข้ามถนนเข้าไปที่ต้นคริสมัสต์ต้นนั้นที่ตั้งอยู่หน้าสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต้นนี้สูงมาก ๆ ประมาณสะพานลอยในกรุงเทพเลยยังได้ เพราะทางห้างได้ทำการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทำให้ได้ต้นสนที่สูงใหญ่ ลำต้นถูกประดับประดาไปด้วย ถุงเท้าและกล่องของขวัญเล็ก ๆ หลากสี และพันด้วยสายไฟที่ให้แสงระยิบระยับสีแดงสีเหลืองสีเขียวตัดกับสีเขียวสดของต้นสน ที่ยอดของต้น ถูกเสียบด้วยดาวห้าแฉกปักอยู่ปลายยอดสุด แสงสปร์อตไลท์ถูกฉายมาจากด้านล่างของต้นไม้เพิ่มความเด่นชัด ด้วยความสวยงามของต้นคริสมัสต์ต้นนี้ ก็สามารถสะกดให้อิ๋วยืนดูอยู่อย่างนั้นได้ เช่นเดียวกับคู่หนุ่มสาวคู่อื่น ๆ ที่แวะเวียนมายืนดูยู่เนือง ๆ
“โอ้โห สวยจังเนอะ บิว”
“อืม อิ๋วชอบเหรอ”บิวเอ่ยออกมาพลางมองหน้าอิ๋ว
“ชอบ สวยดีอะ”
บิวถือโอกาสที่อิ๋วมองต้นคริสมัสต์อยู่ มองหน้าอิ๋วอยู่อย่างนั้น ก่อนอิ๋วจะเริ่มรู้สีกว่าบิวมองเธออยู่ จึงเหลือบหันมาที่บิว บิวยังคงมองอยู่แล้วเอ่ยออกมา
“อีกสามวันก็จะถึงวันเกิดอิ๋วแล้ว อิ๋วจะไปจัดที่ไหนหรือเปล่า?”
“ก็ยังไม่รู้เลยนะ ยังไม่ได้คิดเลย ยังไม่ได้บอกใครเหมือนกัน ทำไมเหรอ?”อิ๋วเองก็เริ่มพอ ๆ จะเดาออกว่า บิวถามอย่างนี้เพื่ออะไร
“ถ้ายังไม่ได้ไปไหน งั้นวันเกิดของเรา มาจัดด้วยกันนะ”^-^ บิวเชิญชวน
“อืม ไม่รู้สิ ดูก่อนนะ”ถึงปากอิ๋วจะเอ่ยไปอย่างนี้เพราะว่าสามปีให้หลังนี้ไม่ได้จัดงานด้วยกันเลย จึงทำให้ไม่แน่ใจว่าเพื่อน ๆ เธอจะมาจัดงานวันเกิดกับเธอเหมือนสองปีที่ผ่านมาหรือเปล่า แต่ในใจตกลงโอเค จัดการเคลียร์คิวร่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ^-^
เช้าตรู่ของวันที่ยี่สิบแปดซึ่งเป็นวันเกิดของบิว แต่ในวันที่ยี่สิบเจ็ดซึ่งก็คือเมื่อวานเป็นวันเกิดของอิ๋ว แต่อิ๋วไม่ได้จัดงานวันเกิดของตัวเอง แต่ยกยอดมาจัดในวันนี้ซึ่งเป็นวันเดียวกับบิวอย่างที่อิ๋วและบิวได้สัญญากันไว้ ( ไหนว่าคิดดูก่อน )
บิวตักข้าวจากขันสแตนเลสให้กับพระที่ยินเปิดบาตรรับขาวของบิวอยู่ก่อนที่บิวจะใส่กับข้าวและผลไม้ให้เพิ่มเติม เช่นดียวกับแม่บัวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วลงไปนั่งยอง ๆ ประนมมือรับศีลรับพรจากพระสงฆ์เป็นภาษาบาลี
ขณะที่บิวรับพรอยู่ก็แอบเหล่ไปที่บ้านข้าง ๆ ก็มี อิ๋วและแม่นิ่มกำลังนั่งยอง ๆ รับพรจากพระสงฆ์เหมือนกัน หลังจากที่ใส่บาตรพระเสร็จ อิ๋วก็แอบเหล่มามอง บิวก็ยิ้มให้ อิ๋วก็แอบยิ้มมุมปากให้ ก่อนที่แม่นิ่มจะหันมาเห็นขณะนั่งรับพรจากพระอยู่
“รับพรอยู่นะลูก! ตั้งใจหน่อย”อิ๋วโดนแม่นิ่มหันมาเอ็ด ทำให้หงอยไปขณะหนึ่ง
คืนวันนั้น ที่ตรอกข้าง ๆ บ้าน ได้อึกกะทึกครึกครื้นไม่เหมือนกับทุก ๆ วัน ราวกับมีงานคอนเสิร์ตขนาดย่อยมาจัด จนทำให้ละแวกหมู่บ้านแถว ๆ นั้นได้ยินกันหมด ว่าร้านตก้วยและตาเปรมมีงานฉลอง อะไรสักอย่างเป็นงานวันเกิดของบิวและอิ๋วนั่นเอง คนในละแวกนั้นไม่ว่าจะเป็น เพื่อนในสมัยเด็ก เพื่อนแถวบ้าน เพื่อนพ่อเพื่นแม่ หรือเพื่อนที่โรงเรียนก็มาร่วมงานกันหมด หลังจากที่ไม่ได้จัดด้วยกันมานานมากแล้ว
“นี่ยายอิ๋ว ปีนี้คิดยังไง จัดที่บ้านเนี่ย”อั๋นในชุดคลุมยาวสีน้ำตาลผูกด้วยเข็มขัดผ้าสีชมพูใส่รองเทาส้นสูง เดินมาถามอิ๋วขณะที่มือยังถือน้ำอัดลมอยู่ก่อนจะยกขึ้นไปดื่มต่อ
“ก็ไม่รู้สิ แหม ๆ ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศมั่งนะแหละ ไม่ต้องคิดมากน่า”อิ๋วใส่กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืดใส่สร้อยห้อยแหวน ดูเป็นผู้หญิงอาร์ท ๆ แต่งหน้าอ่อน ๆ ด้วย ทำให้ดูเป็นผู้หญิงน่ารักขึ้นมาได้
อิ๋วพูดไม่ทันขาดคำ ก็มีพวกเพื่อน ๆ อิ๋วในห้องประมานห้าถึงหกคนเดินมาหาที่ทางเข้างานพร้อมกับเอาของขวัญให้ อิ๋วก็ขอบคุณและรับของขวัญ ของขวัญ เอ๊ะ!! ซวยแล้ว ยังไม่ได้ซื้อของขวัญให้บิวเลย อิ๋วนึกขึ้นมาได้ จึงรีบเดินไปหาบิว ไม่นานนักก็มีเพื่อนอิ๋วอีกคนเดินมาที่งานอีก
“ดีอั๋น อ้าวอิ๋วไปไหนละ?”เธอคนนั้นเดินมาที่งาน ด้วยชุดคลุมยาวสีชมพู ผมยาว หน้าตาคมเหมือนกัน
“อ้าว ยายน้อมเพิ่งมาเหรอ ยายอิ๋วเพิ่งเดินออกไปไหนไม่รู้เมื่อกี้ ทำไมเหรอ?”อั๋นก็คุยกับเธอ
“ก็ให้อื๋วเซ็นชื่อรับขนมเค้กนะ ขนมมาส่งแล้วนะ”ที่บ้านน้อมรับสั่งทำขนมเค้ก
“อ๋อ งั้นเดี๋ยวฉันไปเรียกให้นะ”อั๋นพูดเสร็จก็เดินไปหาตัวอิ๋วที่กลมกลืนอยู่ในงาน
บิว ตอนนี้กำลังคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่ที่ครัว อิ๋วเดินหาไปจนทั่วจนกระทั้งเจอ
“เออนี่บิว!” อิ๋วเดินปี่เข้าไปหาบิว แทรกเข้าใปในวงตรงกลาง
“ว่าไงอิ๋ว? เค้กมาส่งแล้วเหรอ?”บิว ในชุดเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผาใบสีเขียวเช่นกัน เอ่ยออกมาก่อนวางแก้วน้ำ เพราะคิดว่าเค้กที่สั่งไว้มาส่งแล้ว
“อ๋อ ยังไม่มาหรอก คือ... คือว่า”อิ๋วพยายามทำไม้ทำมือไปด้วย เพื่อช่วยในการพูด
“อืม มีอะไรเหรอ?”
“คือ.... เรายังไม่ได้ซื้อของขวัญให้บิวเลยอะ”อิ๋วหลับตาปี๋พูดออกไป ถึงในงานจะเสียงดังแต่บิวได้ยินคำนี้ชัดเจน
“อ่าวทำไมละ ก็ไหนบอกว่าจะซื้อให้ไง”เหมือนว่าบิวจะอารมณ์เสียขึ้นมา
“ก็รู้แล้ว คือเราลืมอะ ให้ทำไงละ นี่ก็ว่าจะ...”ในขณะที่อิ๋วกำลังพูดต่ออยู่นั่นเอง ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปซื้อมาให้ เพราะตั้งใจเลือกไว้ให้บิวตั้งนาน แล้วแต่ยังไม่ได้ไปซื้อ
“อิ๋ว ๆ มานี่หน่อยเร็ว ๆ ยายน้อมเอาเค้กมาส่งแล้ว ! อ้าวบิว แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ ^-^ ไปเร็วอิ๋ว”อั๋นเดินมาลากอิ๋ว ออกมารับเค้กวันเกิด ก่อนจะทักทายบิวอย่างคนรู้จัก ทำเอาท็อปที่ปลื้มอั๋นอยู่ต้องแอบ ๆ เพราะเขิน ก่อนที่แบงค์จะมาตบหัวท็อปเพื่อสื่อว่า มีแฟนแล้วยังอีก
อิ๋วทำอะไรไม่ถูก จึงเดินไปตามแรงที่อั๋นลากไป
“ก็ไหนบอกว่าสัญญากันแล้วไงละ อิ๋ว!?”บิวอารมณ์เสียออกมาอย่างผิดปกติ เมื่อคำนี้หลุดออกมาจากปากบิว ไล่หลังตาม อิ๋วไป ก็ทำให้ อิ๋วลมขึ้นทันที และหันกลับมาตวาดใส่บิว
“สุดท้ายแล้ว ลูกแมวตัวนั้นมันก็แค่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ได้อยากที่จะให้จริง ๆ สินะ!”เมื่อพูดจบอิ๋วก็สะบัดหน้าเดินนำหน้าอั๋นไป อั๋นก็ยืนงง ๆ ก่อนจะเดินตามอิ๋วไปรับเค้กต้อย ๆ ทำเอาเพื่อน ๆ ของบิวที่อยู่ตรงนั้นก็งงตาม ๆ ประมานว่าสงสัยทะเลาะกันแหง ๆ ( ไม่ต้องสงสัยหรอก ทะเลาะกันจริง ๆ นั่นแหละ )
เมื่ออิ๋วแสดงท่าทีออกมาอย่างนั้น ทำให้บิวรู้สึกหายโกรธขึ้นมาได้สติอีกครั้ง ว่าทำอะไรลงไป ทำไมถึงเดือดดาลออกไปขนาดนั้น
แบงค์ จอมคนหลักแหลมของกลุ่ม เดินเข้ามาจับใหล่และกระซิบกับบิว ว่า
“ผู้หญิงก็อย่างเนี้ยแหละ ไม่มีอะไรหรอก โอ๋เข้าหน่อยก็หายแล้ว ไม่เป็นไร เรื่องนี้เพื่อนบิวปล่อยให้เป็นหน้าที่เพื่อนแบงค์เอง”
“ยังไงว้ะ!?”บิวอดสงสัยไม่ได้ และยอมรับว่าหวาดกลัวนิดๆ กับแผนของแบงค์
จนกระทั่งถึงไคลแมกซ์ของงาน คืองานเป่าเทียน ทั้งคู่ถูกนำตัวมายืนด้วยกันอีกครั้ง แต่ทั้งคู่มองหน้ากันไม่ติดนัก เพราะเรื่องเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“อ่าว พวกเราพร้อมนะ!!”^[]^ แบงค์ตะโกนให้เพื่อน ๆ พร้อมใจกันร้องเพลงและตบมือ “แฮปปิเบิร์ด เดย์ทู้ยู
..” เช่นเดียวกับพ่อแม่ของบิวและอิ๋วที่แอบยืนตบมือร้องเพลงอยู่ห่าง ๆ ด้วย ก่อนจะเดินเข้าบ้านปล่อยให้พวกวัยรุ่นสนุกกันต่อไป
เมื่อทุกคนเข้ามาล้อมวงกัน และร้องเพลงวันเกิดให้อย่างนี้ อิ๋วก็เริ่มยิ้มออก และตบมือตามไปด้วย ทันที่ที่บิวเห็นอิ๋วยิ้ม ความรู้สึกไม่ดีที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ ก็หมดไป และโมโหตัวเองว่าทำอะไรออกไป เพราะเราไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว แต่อาจเป็นเพราะว่า
อยากได้ของขวัญจากมืออิ๋วมากเกินไป
และตอนนี้ อยากที่จะขอโทษอิ๋ว
เมื่อทุกคนร้องเพลงกันจบ ทั้งบิวและอิ๋ว ก็ช่วยกันเป่าเค้กวันเกิดจนดับหมด และแล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ( ถ้าให้ไอ้แบงค์มีแผนอะไรพิเรนทร์ ) เสียงไอ้เจ้าแบงค์ก็ดังขึ้นลั่นงาน
“แหม ช่างยินดีอะไรอย่างนี้ เป็นแฟนกัน แถมวันเกิดยังใกล้กันอีก”แบงค์พูดออกมาเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ทันใดนั้น ทุกคนในงานนิ่งเงียบสนิท ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ว่าทั้งสองคนนี้จะเป็นแฟนกัน เป็นแฟนกันเหรอ? จริงเหรอ? ไม่น่าละ! ถึงเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย! เห็นไปโรงเรียนพร้อมกันด้วยนะ!? เพราะอย่างนี้นี่เอง! เสียงของทุกคนอื้ออึงแซดไปหมด เช่นเดียวกับอั๋น โอย!! เพื่อนฉ้าน เป็นแฟนกับบิวตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง >[]<
มีเพียงแบงค์ที่ยืนยิ้มระรื่นอยู่พลางคิดในใจ ^w^ อิอิ เป็นยังไงแผนของเพื่อนแบงค์ นายเองจะต้องมานึกขอบ อก ขอบใจฉันทีหลังแน่ ๆ เพื่อนบิว เดี๋ยวทุกคนในงานก็จะต้องยินดีและตบมือให้ ส่วนอิ๋วก็จะรู้สึกเขิน และนายก็จะได้โอกาสพูดขอโทษเธอ และแล้วทุกอย่างก็จะแฮปปี้แอนดิ้ง วะฮะฮะ!! ^[]^ เราเองก็หัวดีฉลาดปราดเปรื่องเหมือนกันนี่หน่า แต่ทำไมสอบ ทำไม่ค่อยได้ว้า ^..^ หุหุ
“ไม่จริงค่ะ!! เราไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นเพื่อนกันเฉย ๆ”อิ๋วพูดออกมาสยบเสียงที่ดังอื้ออึงอยู่ ทำเอาแบงค์เหวอไปในบัดดล 0{}0!
ส่วนบิว ตอนนี้รู้สึกสะเทือนใจมาก ที่ได้ยินอย่างนี้จากปากของอิ๋ว ก็จริงอยู่ที่บิวไม่ได้ขออิ๋วเป็นแฟน แต่การที่อิ๋วพูดอกมาอย่างชัดเจนอย่างนี้ เหมือนกับว่าอิ๋วคิดกับเขาเพียงแค่เพื่อนเท่านั้นจริง ๆ
ที่ผ่านมา คิดกับเราพียงแค่เพื่อนเท่านั้น ตื่นเสียที ไอ้บิว
เมื่ออิ๋วพูดจบ ทุกคนในงานก็เข้าใจกันดี แต่ในใจอิ๋วไม่ได้เจตนาดั่งที่พูด เธอคิดเพียงแค่ว่า จะให้เป็นแฟนได้ยังไงละก็เจ้าตัวเขายังไม่ได้ขอเป็นแฟนเลยนี่หน่า แล้วจะให้โมเมเอาบิวเป็นแฟนได้ยังไงละ
ความคิดเห็น