คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ธันวาคม
พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ความมืดมิดกำลังเข้ามาแทนที่ เช่นเดียวกับพระจันทร์ครึ่งใบก็กำลังปรากฏกายฉายแสงซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพระอาทิตย์ ทุก ๆ บ้านก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของครอบครัว
บิว ชายหนุ่มหน้ามนต์ คิ้วเข้ม หน้ารูปไข่ ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนา ๆ กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับการบ้านวิชา คณิตศาสตร์ที่เจ้าตัวรู้สึกว่า เป็นอะไรที่ช่างหวานหมูของเขาเสียเหลือเกิน ^..^ อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเก่งของเขาที่อยู่ติดริมหน้าต่างภายใต้แสงสีเหลืองส้มอ่อน ๆ ที่มาจากโคมไฟตัวโปรดตัวเล็ก ๆ ของบิว ซึ่งบงบอกรสนิยมได้ว่า บิวชอบแสงไฟจากโคมไฟมากกว่าแสงนีออนหลอดยาว ๆ บนเพดาน ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่หกโมงเย็นเท่านั้น แต่เพราะว่าได้รับอิทธิพลมาจากฤดูหนาวทำให้ท้องฟ้ามืดมิดราวกับยามสองทุ่มของช่วงหน้าร้อน
ในความเงียบสงบของห้อง อันมาจากสมาธิที่แน่วแน่ของบิวซึ่งเพ่งอยู่กับงานที่อยู่ตรงหน้าราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนี้ จะมีก็แค่เสียงดังของทีวีจากชั้นล่างที่พ่อและแม่กำลังนั่งดูละครช่วงหัวค่ำด้วยกันอย่างสนุกสนานจนลืมว่าลูกชายทำการบ้านอยู่ชั้นบน ในวันนี้เป็นวันเสาร์ ทำให้บิวไม่ได้ไปติววิชาคณิตศาสตร์ให้กับอิ๋ว เพื่อนที่อยู่ข้างบ้าน เหมือนกับที่ได้ไปติวให้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์
แต่แล้วเวลานั้นเองอยู่ดี ๆ บิวก็เหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแว่ว ๆ มา
“ฮือ ๆ!!”
o..o บิวชะงักขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง เหมือนว่าจะแว่ว ๆ อะไรมาเข้าที่หู เพราะความเงียบทำให้บิวได้ยินอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดไปว่า คงมาจากทีวีข้างล่างที่พ่อกับแม่ดูอยู่นั่นแหละ แต่เสียงเหมือนผีชะมัดเลยแหะ =”= อิอิ บิวอดยิ้มให้กับความฟุ้งซ่านของตัวเองไม่ได้
“ฮือ ๆ!!”
0..0 เฮ้ย!! อะไรวะ!? ทำไมมีเสียงนี้อีกแล้วว้ะ ก็แค่เสียงแว่วไม่มใช่เหรอ เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน เราคงฟุ้งซ่านไปเองไม่มีไรหรอก ^[]^! ( ปลอบใจตัวเองสิคับ งานนี้ : บิว )
“ฮือ ๆ”
O..O แกะหายแล้ว!! ตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยเห็นผี เจอของจริงก็คราวนี้ละว้า ฮือ ๆ T{}T อย่ามาหลอกมาหลอนสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันเลย ทางใครก็ทางมันเถิด! >.<!
บิวนั่ง บริกรรมคาถาในใจและข่มใจทำการบ้านต่อไป ไม่ให้ตัวเองกลัวพลางนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง เสียงร้องให้อันโหยหวนนี้ทำให้บิวรู้สึกว่าเป็นเสียงของผู้หญิง แสดงว่าต้องเป็นผู้หญิงที่กำลังสาวอยู่แน่ เพราะท่าทางเสียง เล็ก ๆ หวาน ๆ ไพเราะในระดับหนึ่ง >//< ( กับผีนะเนี่ยแก ) และดูท่ากำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ที่สำคัญดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง ซึ่งลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้บิวไม่อยากจะคิดภาพว่า ที่ชั้นหนึ่งนอกบ้าน ถ้าชะเง้อคอดู ต้องเจอกับสิ่งลี้ลับอะไรบางอย่างแน่ ๆ YwY
“ฮือ ๆ!!”
เสียงผีสาวเจ้ากรรม ( ในความคิดของบิว ) ยังคงดังอยู่จนบิวไม่มีสมาธิเป็นอันทำ เพราะระหว่างทำจะได้ยินเสียงนี้เข้ามารบกวนโสตประสาตของบิวอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าบิวจะพยายามข่มใจไม่ให้ไคว่เขวก็ตามแต่ TwT และในที่สุด
“เอาว้ะ!! สักครั้งหนึ่งในชีวิต มันจะน่ากลัวสักเท่าไหร่กันเชียว” -_-! บิวพูดกับตัวเองขึ้นมาเพื่อนเรียกกำลังใจ ที่จะทำการรวบรวมความกล้าชะเง้อคออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองให้เห็นกับตาว่า เธอมาขอส่วนบุญหรือจะเอาอะไร
ภาพที่ส่งสัญญาณแล้วแปลความหมายไปที่สมองของบิวตอนนี้คือ ภาพของหน้าต่างยามพลบค่ำที่ใกล้จะเป็นยามค่ำคืนทุกที ๆ ซึ่งเมื่อมองตรงไปก็จะเห็นห้องของอิ๋วอยางชัดเจน ตอนนี้เขากำลังนำลูกตาสองลูกของเขาไปพบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ลูกตาสองลูกนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน เขากำลังจะได้เห็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนเรียกว่าผีเป็นครั้งแรกและตอนนี้ ร่างกายของบิวก็ค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้ เพื่อจะชะเง้อคอออกมานอกหน้าต่างในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ให้รู้กันไปเลย ว่าอะไรเป็นอะไร
เมื่อบิวชะเง้อ ออกมาเรื่อย ๆ ภาพที่ม่านตาก็มืดลงเรื่อย ๆ จนมืดสนิทเพราะ บิวหลับตาปี๋ >[]<! เมื่อชะเง้อออกพ้นนอกหน้าต่าง ตอนนี้คอของบิวได้ออกมาอยู่นอกชายคาของตัวบ้านแล้ว ก่อนที่บิวจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรับภาพอะไรบางอย่าง ที่รออยู่ตรงหน้า
ยังไม่ทันที่จะลืมตาได้สุด เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้บิวต้องตะลึงตาโตแบบไม่รู้สึกตัว เพราะภาพที่บิวเห็นคือ มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ผมสั้น ๆ นั่งกอดเข่าร้องให้ ใส่เสื้อยืดสีชมพู ที่แขนเสื้อเปื่อนอะไรบางอย่าง คล้าย ๆ กับโคลน ที่เพิ่งลุกขึ้นมาจากหลุมศพ ( คิดว่างั้นนะ -_-! : บิว ) ใส่กางเกงสีฟ้าขาสั้น นั่งเอาหลังพิงบ้านของอิ๋วอยู่
ตึงงงงง !!!!..... เหมือนเสียงที่จะดังออกมาตอนที่ตัวละครในหนังเจอเข้ากับผี ตามแบบหนังผีหน้าขาวของเกาหลีญี่ปุ่นดังขึ้นมาในหัวของบิว โอ้!! แม่เจ้า Y[]Y นี่เราเจอเข้ากับผีผู้หญิง ตัวเล็กผมสั้นหรือเนี่ย โอ้!! อะไรกันเนี่ย เรากำลังโดนผีตัวเล็กผมสั้นหลอก ผีตัวเล็กผมสั้น ผีตัวเล็กผมสั้น ฮือ TuT ผีตัวเล็กผมสั้น เอ๊ะ!? เดี๋ยวก่อน ตัวเล็กผมสั้น นั่งกอดเข่าร้องให้อยู่ นั่นมันยายอิ๋วนี่หน่า แล้วทำไมมานั่งร้องให้กอดเข่าอยู่ตรงนั้นละ ( ฮืม เป็นผีเนอะฉากนี้ แหมแก เปิดตัวตอนใหม่ของฉันซะ -_-* : อิ๋ว )
สรุปว่าผีที่บิวเห็นนั่นก็คืออิ๋วนั่นเอง เธอกำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อยู่นอกบ้านนั่งเอาหลังพิงผนังบ้านของเธอจากข้างนอกอยู่ บิวถอดใจใหญ่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะกับตัวเอง ไม่ใช่หัวเราะเยาะอิ๋ว แต่หัวเราะเยาะตัวเอง ประหนึ่งสมน้ำหน้าตัวเองว่าเวลาว่างมากหรือไงขนาดนั่งทำการบ้านจนหัวแทบระเบิดแล้วยังจะอุตส่าห์เอาภาระมาให้สมองน้อย ๆ มานั่งคิดว่าผีผู้หญิงมาหลอกอีก ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนแท้ ๆ ก่อนบิวจะลุกจากเก้าอี้ เพื่อเดินลงไปข้างล่าง เพื่ออยากจะรู้ว่าอิ๋วเป็นอะไร เผื่อจะช่วยอะไรอิ๋วได้
อิ๋ว นั่งกอดเข่าร้องให้สะอึกสะอื้นเหมือนจะเสียของรักอะไรบางอย่างไป เสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยโคลน นั่งอยู่ข้างนอกบ้าน ท่ามกลางอากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ บิวก็เดินลงมาอยู่ตรงหน้าของอิ๋วที่ไม่รู้ว่าบิวมายืนอยู่
“เป็นอะไร? อิ๋ว”บิวลากเสียงยาวถาม พลาง ซุกมือเข้าในกระเป๋าของเสื้อหนาว ก่อน อิ๋วจะเงยหน้าขึ้นมาจากวงแขนของตัวเอง ทำตาแดง ๆ เงยหน้ามองไปที่บิว
“ก็ลิตาร์อะ มันตายแล้วอะ นี่ก็เพิ่งจะไปฝังกับป๊ามาเมื่อกี้เนี่ย ตัวเลอะโคลนไปหมดเลย ”อิ๋วสะอึกสะอื้นบอกไป
“หา!! แมวเธอตายแล้วมานั่งร้องไห้ ง้องแง้งอย่างเนี้ย อะนะ ฮาฮาฮา ^O^ ตลกเป็นบ้า นี่อิ๋วรักแมวขนาดนี้เลยเหรอ ?”บิวอดที่จะหัวเราะเยาะเย้ยอิ๋วไม่ได้
“นี่นายตลกมากไหม Y~Y* หืม!? ชีวิตหนึ่งชีวิตเลยนะ!!”อิ๋วเดือดดาลรีบลุกพรวดขึ้มมา มองตาบิวตาเขียวปั๊ด
“แหมๆ มันก็แค่ แมวตัวนึงน่า อิ๋ว ทำเป็นโมโหไปได้ อิอิ”^-^ บิวยังคงขำอยู่ ในความอ่อนโยนของอิ๋ว
อิ๋วเลือดขึ้นหน้ารู้สึกตัวว่าโมโหมาก นี่นายไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียของรักไปเลยหรือไง ถึงมันจะเป็นแค่แมว แต่มันก็เป็นหนึ่งชีวิตนะเฟ้ย T{}T โอ้ย ไม่คุยด้วยแล้ว! อิ๋วอึดอัดเพราะความโมโห ก่อนจะผลักอกบิวจนกระเด็นถอยไปหนึ่งก้าว และเดินเช็ดน้ำตางอนตุ๊บป่องจะเข้าบ้าน บิวก็ยังไม่วายที่จะอดขำท่าทางของอิ๋วตอนงอนไม่ได้ ตาก้วยพ่อของอิ๋วเดินออกมาทิ้งขยะพอดี เดินสวนกับอิ๋วที่กำลังเดินเข้าบ้านพอดี
“อ้าว ลือเปงอาราย อาหมวย? ” -*- ตาก้วยถามลูกสาวเพราะเห็นว่ากำลังร้องให้
“ไม่รู้ ไม่ชี้”อิ๋วเดินเช็ดน้ำตา งอแงงอนเข้าบ้านไป
ตาก้วยก็งง ๆ และก็ไม่สนใจ เดินหิ้วถุงขยะออกมาเพื่อจะออกมาทิ้ง ก็มาเจอเข้ากับบิวที่ยืนขำอยู่ข้างนอก
ตาก้วยคิดในใจ -*- บิวยืนขำ อิ๋วเดินร้องให้เข้าบ้าน เอ๊ะ!? -_-*
ก่อนที่บิวจะมองไปที่ตาก้วย และนึกใจใจอุ๊ย!! ซวยแล้วตู ^_^! เรากำลังยืนขำยายอิ๋ว ยายอิ๋วงอนเดินเข้าบ้าน ตาก้วยเขาต้องคิดว่าไปทำอะไรมิดีมิร้าย ยายอิ๋วแน่เลย บิวก็ยิ้มแห้ง ๆ ให้กับตาก้วยที่ยืนขมวดคิ้วทำตาเขียวปั๊ดมองมาอยู่ ก่อนบิวจะเคลื่อนย้ายตัวเองวิ่งเข้าบ้านโดยเร็วไว
เมื่อบิวเดินขึ้นมาในห้อง ก็ตรงเข้าที่โต๊ะเขียนหนังสือ เพื่อที่จะทำการบ้านคณิตศาสตร์ต่อให้เสร็จ หลังจากที่ไร้สาระมาเยอะแล้ว ( ก็แกเพ้อเจ้อ เองแท้ ๆ -*-! ) เมื่อบิว หยิบปากกาขึ้น แล้วนั่งครุนคิดดูก็รู้สึกว่า สงสารอิ๋วเหมือนกันแหะ และทำให้บิวนึกย้อนไปถึงตอนที่อิ๋วมาอยู่ใหม่ ๆ อิ๋วยังนั่งเล่นกับลูกแมวตัวนี้อยู่เลย คิด ๆ แล้วก็น่าใจหายเหมือนกัน เพราะอยู่เป็นเพื่อนเล่นยามเหงากับอิ๋วมานาน ก็ต้องรู้สึกเสียใจบ้างเป็นธรรมดา ที่หน้าต่างของบ้านอิ๋ว บิวเห็นอิ๋วเดินหยิบผาเช็ดตัวเพื่อที่จะลงไปอาบน้ำอยู่พอดี หลังจากที่ตัวเปื่อนโคลนไปหมดเพราะไปฝั่งเจ้าลิตาร์ แมวตัวโปรดของอิ๋วเมื่อเย็นมา บิวจึงตัดสินใจตะโกนออกไป
“อิ๋ว.... อิ๋ว” บิวยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง เรียกอิ๋วที่บ้านอยู่ติดกัน ทำให้เห็นกันได้พอดี ก่อนอิ๋วจะเดินมาชะเง้อหน้าออกมาดูบิว “พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไปซื้อแมวตัวใหม่กันไหม ที่ตลาดนัด ตัวเมืองนะ ?”^-^
อิ๋วเอวก็นึกประหลาดใจก่อนชั่วครู่หนึ่ง เพราะร้อยวันพันปีบิวไม่เคยชวนเธอไปไหนเลยแต่ด้วยสัญชาตญาณอะไรบางอย่าง หรือความรู้สึกลึก ๆ อะไรบางอย่างที่มีให้ต่อบิว จึงร้องตอบไปแบบที่ยังคิดไม่ทันเสร็จ
“พรุ่งนี้เหรอ อืม!!” อิ๋วตอบเสร็จตอบออกมาด้วยใบหน้าที่เริ่มมีรอยยิ้มหลังจากที่เปื้อนมอมแมมไปด้วยคลาบโคลนและคราบน้ำตา
บิวรู้สึกตื่นเต้น ดีใจอย่างบอกไม่ถูก จนแสดงอาการ สั่น ๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว สายตกลอกแลก เกิดอาการริมฝีปากแห้งขึ้นมาทันที ทำให้ต้องเลยริมฝีปากบ่อยขึ้น ก่อนสมองจะสั่งการณ์มาว่า อยากจะคุยกับเธอต่อ แต่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับเธอดี
“ได้ ๆ ^_^ แล้วง่วงนอนยัง จะนอนยัง? รีบนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปเลือกแมวไม่ไหวนะ” บิวทำอาการเป็นห่วงขึ้นมา เพราะจิตใต้สำนึกสั่งออกมาว่า รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่ทรู้
“ทำไมละ จะมาปลุกไปซื้อตั้งแต่ตีห้าหรือไงเธอ”อิ๋วพูดเล่นกลับไป
“เออ นั่นสิเนอะ” บิวรู้สึกว่า ใช่สิ เราพูดอะไรออกไปเนี่ย =”=
“อืม งั้นเดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวหนาว ไปและ ฝันดี”อิ๋วพูดเสร็จก็ปิดม่านลง และเดินออกไปจากหน้าต่าง ส่วนบิวหลังจากที่ยิ้มให้และโบกมือหยอย ๆ ให้อิ๋วเสร็จก็นั่งลงทำการบ้านต่อโดยที่หน้าตายังคงสดใสและเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ
คืนนั้น ไฟจากแสงนีออนได้ดับลงไปราว ๆ ครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ในห้องของอิ๋ว อิ๋วนอน พลิกไปพลิกมาใต้ผ้าห่ม ทั้ง ๆ ที่ร่างกายอ่อนเพลียมาจากการออกแรงขุดหลุมฝังเจ้าลิตาร์กับพ่อเก้วยของเธอ และอากาศก็ดี อาจจะเพลียอยู่บ้างแต่อิ๋วกลับไม่รู้สึกง่วงเลย จึงทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ที่พรุ่งนี้ บิวจะพาไปซื้อลูกแมวตัวใหม่ ที่ตลาดตัวเมือง
จะว่าไปแล้ว บิวคิดอะไรกับเราหรือเปล่านะ ตั้งแต่กลับมาคบกันใหม่แล้ว รู้สึกบิวจะค่อนข้างเอาใจใส่เราเป็นพิเศษนะ ตั้งแต่ ยอมมาสอนคณิตศาสตร์ให้ทุกเย็น เล่นบาสก็มาแอบดูเราเล่น และนี่ก็จะพาเราไปซื้อลูกแมวอีก โถ่ ๆ จะพาเราไปเดิน เดทนะสิ อิอิ >///< รู้นะ ๆ และอิ๋วก็นึกจินตนาการอะไรบาอย่างได้ขึ้นมา
ที่ตลาดตัวเมือง เราเดินอยู่กับบิว สองคน กำลังอุ้มลูกแมวตัวใหม่ น่ารัก ๆ อยู่
“บิว นายอยากให้เจ้าลูกแมวตัวนี้ชื่ออะไรเหรอ”ฉันจิกตาเยิ้มถามไปที่บิว
“อ๋อ ก็แล้วแต่อิ๋วเลยครับ ว่าอิ๋วอยากจะให้ตั้งชื่อว่าอะไร”บิวทำหน้าหล่อตาเยิ้มมองมาที่ฉัน โอ้ ช่างน่ารักจริง ๆ >///<
“เอ๋ จะให้ชื่ออะไรดีน้า”ฉันทำเป็นคิด เพราะอยากให้บิวลองเอ่ย ลอย ๆ ออกมาเพื่อจะได้ตอบอกไปทันควันว่า อืม เพราะดีนะ งั้นเอาชื่อนี้ที่บิวพูดออกมาก็แล้วกัน
“เอ่อ คือ อิ๋วครับ เรื่องตั่งชื่อแมวเอาไว้ก่อนเถอะครับคือว่า ผมมีอะไรบางอย่าง อยากจะบอกครับ อยากให้คุณอิ๋วรับรู้ไว้”บิวทำสายตาจริงจังมาที่ฉัน
“มีอะไรเหรอคะ บิว”@-@ ฉันทำตาปริบ ๆ มองกลับไป เหมือนจะไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไร
“คือ ช่วยรับผมเป็นแฟนกับ คุณอิ๋วด้วยนะครับ โปรดรับความรักจากผมด้วยนะครับ ผมสัญญาครับว่าจะไม่ทำให้คุณอิ๋วต้องผิดหวังเลย”บิวก้มหน้าก้มตาพูดออกมาที่ฉัน เป็นที่รู้กันว่าอาย
โอ๊ย !! อะไรของฉันเนี่ย >..< คิดอะไรออกมา นอนดีกว่า ( แหม ทำเป็นคิดมาก แอบมีใจเหมือนกันนะสิ ) แต่ถ้าเกิดว่า บิวเกิดขอเราเป็นแฟนจริง ๆ ละก็ ลองคบดูก็คไม่เสียหายอไรแหละมั้ง >.<
และแล้ววันต่อมาก็มาถึงซึ่งเป็นวันพักผ่อนอีกวันหนึ่ง ของหลาย ๆ บ้าน และเป็นวันพักผ่อนวันสุดท้ายของทุกคนในรอบอาทิตย์ ก่อนที่จะถึงวันจันทร์ วันแห่งความน่าเบื่อ ในสายตาของหลาย ๆ คน วันนี้ทั้งบิวและอิ๋วตกลงกันว่าจะออกจากบ้านประมาณ บ่าย สอง
อิ๋วเองก็เป็นเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไป ยังคงยืนลองชุดอยู่ต่างๆ นา ๆ โดยไม่ได้ดั่งใจสีกที >.< จนได้กางเกงยีนส์ขาสั้นสีฟ้าที่นาน ๆ ทีอิ๋วจะใส่ เพราะอิ๋วรู้สึกกางเกงค่อนข้างสั้น จะเอาไว้ใส่หน้าร้อนเสียมากกว่า แต่วันนี้ >///< ให้ฝ่ายขายเขาได้เห็น ขาขาว ๆ บ้างก็ดี ๑^-^๑ กับเสื้อยืดสีเหลืองที่พอดีกับตัว พร้อมกับแต่งหน้าบาง ๆ เพื่อไม่ให้ดูจืดจนเกินไป แต่ไม่แรงจนเกินอายุ และจัดผมหวีให้ดูเรียบร้อยติดกิ๊บสีเหลืองอีก 2 ตัว ที่ด้านขวา อิ๋วยืนส่องกระจก หันซ้ายหันขวา พลางนึกในใจ ทำไมเราน่ารักอย่างนี้เนี่ย ๑^[]^๑ คอยดูนะ บิว ถ้านายเห็น นายจะต้องบอกว่า โอ๊ย!! อิ๋วน่ารักจังเลย แน่ ๆ โฮะ ๆ ^[]^ แต่ฉันรู้นะ ว่านายไม่กล้าพูดออกมาหรอก ได้แต่แอบคิดอยู่ในใจอย่างนั้น อิอิ กลัวเสียฟอร์มใช่ม้า อิอิ >///< ( แหะ ๆ หลงเข้าไปสิ ตัวเองนะ )
“อิ๋ว !! บิวมารอตั้งนานแล้วนะ ขึ้นไปตั้งแต่บ่ายโมง นี่บ่ายสองโมงกว่าแล้วนะ” เสียงของแม่นิ่มดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่งเพื่อกระตุ้นลูกสาวตัวเอง ให้เร็วขึ้นกว่านี่หน่อย
“จ้า ๆ แม่!! เสร็จแล้ว ๆ ” อิ๋วตะโกนตอบลงไป พลางหยิบกระเป๋าสะพายข้างสีขาว และใส่นาฬิกาพลาสติกสีเหลืองเรือนใหญ่ ๆ เดินลงมาที่หน้าประตูบ้าน ก็สามารถทำให้ลูกค้าข้าวมันไก่รุ่นไล่เลี่ยกัน ส่งสายตามองตามได้ @[]@ อิ๋วเดินออกมานอกบ้าน ก็เห็นบิวยืนผิวปากฟังเพลง จากไอพอท ยืนผิวปากอยู่คนเดียว วันนี้บิวใส่เสื้อยืดสีแดงลายแทบขวางสีดำ กางเกงสามส่วนสีดำมีกระเป๋าเยอะหน่อย นาฬิกาสีดำ เท่านี้อิ๋วเองก็ทำให้รู้สึกประหม่าขึ้นมาได้ว่า วันนี้จะได้เดินเที่ยวกับผู้ชายน่ารัก ๆ สักที อิอิ >///< ก่อนจะร้องเสียงดังออกมา
“ไปกันยาง? ยืนสะรึมทึม อยู่นั่นแหละ”-*- อิ๋วทำคิ้วขมวดเหมือนกับว่าตัวเองรอบิวมานาน
“อ่าว มาแล้วเหรอ? แหม ตัวเองช้าเอง ยังจะมา บ่นคนอื่นอีก ไปกัน ๆ”บิวเรียกอิ๋วให้เริ่มออกเดินทางกัน และทั้งคู่ก็เดินคู่กัน โดยรักษาระยะห่างเอาไว้ เพราะไม่ค่อยที่จะกล้าเดินใกล้กันมาก
ทั้งคู่ เดินออกไปตามถนนเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรนัก เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกันดี อิ๋วก็ไม่กล้าเริ่มพูดก่อนเพราะบิวเดินฟังไอพอทอยู่ เลยไม่อยากรบกวนเวลาของบิว ส่วนบิวเองก็ไม่กล้าเริ่มพูดกับอิ๋วก่อนเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำยังไงเลยฟังไอพอทอยู่อย่างนั้น
แล้วตานี่มันจะฟังเพลงของมันอีกนานไหมเนี่ย อย่าว่าแต่แค่แอบชมเราในใจเลย จะเหล่สักนิดก็ไม่มีเชยตามามองกันเลย ตาบ้าเอ๊ย อุตส่าห์วาดฝันไว้ว่าจะมาเที่ยวด้วยกัน สนุก ๆ แล้วเชียว -*- ก่อนทั้งคู่จะขึ้นไปนั่งบนรถสองแถวตรงหน้าปากซอยเพื่ออกไปยังตลาดนัดในตัวเมือง เพราะว่าเป็นต้นสาย ทำให้รถจอดรอนานหน่อย คนก็มาขึ้นกันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่บิวและอิ๋วเดินมา คนก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว มีที่ว่างพอดี บิวจึงว่า
“ว่างที่นึง อิ๋วเข้าไปนั่งสิ”บิวให้อิ๋วเข้าไปนั่ง อิ๋วก็เดินไปนั่งเพราะอยู่ข้างในลึกสุด และแทนที่บิวจะมายืนคัยกับเธอตรงหน้า บิวกลับออกไปยืนโหนตรงท้ายรถเสียอีก ยังคงยืนผิวปากฟังไอพอทหน้าตาเฉย เมื่อมีคนมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆจนเมื่ออิ๋วมองออกไปอีกทีก็ไม่เห็นบิวแล้ว
ที่ตลาดนัดในตัวเมืองของจังหวัดชลบุรี เพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทำให้คนค่อนข้างที่จะเนื่องแน่นกันขนัดตา จะว่าไปแล้วก็คล้าย ๆ กับ ตลาดนัดจตุจักรของกรุงเทพเนี่ยแหละ ทางด้านหลังของตลาดจึงมีการเอาสัตว์มาตั้งร้านขายกันอยู่เกลื่อนกราดมากมาย
บิวและอิ๋วเดินดูของอะไรต่อมิอะไรมาเรื่อย ๆ เหมือนกับว่าต่างคนต่างเดินเสียมากกว่าจะมาเที่ยวด้วยกัน เพราะต่างคนต่างมองอะไรไม่เหมือนกัน เดินก็ห่างกันนิดหนึ่ง และก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันมากมายนักเหมือนเดิม ต่างถามคำก็ตอบคำ บิวรู้สึกว่า หากเป็นอย่างนี้ไม่ดีแน่ ต้องชวนคุย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะชวน อิ๋วคุยเรื่องอะไรดี จึงพูดออกมาว่า
“แล้วยายอั๋นไม่มาด้วยเหรอ?”บิวลองถามถึงเพื่อนสนิทของอิ๋วดู เพื่อลดความตึงเครียดให้กับตัวเอง
จากที่อิ๋วหงุดหงิดอารมณ์เสียเพราะการมาเที่ยวด้วยกันครั้งนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ทำให้อิ๋วลมขึ้นทันที สวนกลับไปทันควัน
“โถ่เอ๊ย!! ที่ชวนมาซื้อแมวกันนี่ เพราะอยากจะให้อั๋นมาด้วยนะสิ นี่จะใช้ให้ฉันเป็นสะพานทอดไปหายายอั๋นใช่ไหมละ”อิ๋วทำเป็นพูดแบบไม่รู้สึกกระทบกระเทือนต่อคำพูดของบิว แต่มันเป็นอะไรที่ทรมานใจมาก Y^Y
“ไม่ใช่อย่างนั้น .. ก็เห็นว่า เป็นเพื่อนสนิทกัน จนตัวแทบจะติดกันไปไหนมาไหน ก็เลยลองถามดูนะ”^_^! บิวรู้สึกหมดความมั่นใจไปกับคำถามแรกเสียแล้ว
จากการที่บิวตัดสินใจเริ่มเป็นฝ่ายพูดก่อนก็ยิ่งทำให้ บรรยากาศ ยิ่งย่ำแย่ไปกว่าที่ไม่ได้พูดเสียอีก ทั้งคู่เดินเงียบกันอยู่อย่างนั้นมาตลอดทาง จนกระทั้งทั้งคู่เดินมาจนถึงจุดขายสัตว์ เมื่ออิ๋วเห็นเข้ากับจุดที่เขาขายลูกแมว ตาก็ลุกวาวและรีบเดินตรงเข้าไปตรงนั้นพอดี จนบิวถึงกับต้องวิ่งตามต้อย ๆ
“อุ๊ย ๆ ตัวนั้นน่ารักอะ! ตัวสีเหลืองอะ!”อิ๋วพูดออกมาอย่างลืมตัว ตาลุกวาวมองไปที่ตัวสีเหลือง เป็นตัวที่ตาใสแป๋ว เดินต๊อก ๆ มาเล่นกับอิ๋วด้วย เมื่ออิ๋วก้มลงเล่นกับแมวตัวนี้
“อืม น่ารักดีนะ ว่าแต่ อิ๋วชอบสีเหลืองเหรอ ? เห็นแต่งตัวก็สีเหลืองนะ”บิวจึงทำเนียนเหมือนว่าชั่วครูที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเริ่มต้นเปิดประโยคสนทนาใหม่ และดูเหมือนว่าจะไปได้ด้วยดีเสียด้วย
“อืม เราชอบ ก็มีสีอื่นด้วยแหละที่ชอบ แต่นี่ ๆ มานั่งนี่เร็ว มาช่วยดูหน่อย ไอ้ตัวนี้ก็สวยอะ สีสวาทอะ ตัวนี้ก็ขี้อ้อนดีนะ บิวว่าแมะ?” อิ๋วเรียกให้บิวลงมานั่งข้าง ๆ บิวก็ยิ้ม ๆ พลางสายหัวว่า อะไรกัน เมื่อกี้ยังยืนเงียบอยู่เลย ตอนนี้เรียกเราเข้ามาช่วยเลือกแมวเสียแล้ว อิอิ ^//^ และบิวก็นั่งลงพลางช่วยเลือก
ขณะอิ๋วกำลังเลือกดูลูกแมวอยุ่กับบิวอย่างลายตาไปหมด ไม่รู้ว่าจะเอาตัวไหนดี มีลูกแมวอยู่ตัวหนึ่ง ตัวเล็กมาก ตาใส ขนสวย ตัวสีขาว ตาและปากสีแดง เดินเข้ามาเอาขาหน้ามาสะกิดมืออิ๋วที่อยู่ในกะบะ แล้วร้องเหมียว ๆ เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ อิ๋วจึงหยิบขึ้นมาดู ก็รู้สึกว่าน่ารักดี ก่อนอิ๋ว จะเหล่ไปที่บิว และก็ยกขึ้นมาสองตัว ตัวสีส้ม กับตัวสีขาว ขึ้นมาทำท่าครุนคิด ก่อนจะเหล่ ๆ ไปทางบิวและตัดสินใจถามบิว
“นายว่าตัวไหน น่ารักกว่ากันละ?”อิ๋วลองถามความเห็นบิว
“อ่าว อิ๋วเลี้ยงอิ๋วก็เลือกเองสิ!! เราไม่ได้เลี้ยงด้วยซะหน่อย”บิวตอบอย่างมีเหตุผล
อิ๋วทำหน้าเซ็ง แบบหมดอาลัยตายอยาก โธ่เอ๊ย นี่ตูอุตส่าห์ถามนาย ให้นายเลือกให้ฉันนะเนี่ย ตาทึมเอ๊ย -*- “โถ่ อุตส่าห์ถามความเห็น” อิ๋วอดหงุดหงิดไม่ได้ ที่บิวไม่เข้าใจ ว่าในตอนนี้ เธอพร้อมที่จะเลือกตามที่บิวชอบแล้ว
“เอาตัวสีขาวก็ได้นะ น่ารักดี ตาสีแดงด้วย ดูท่าทางอยากจะมาให้อิ๋วเลี้ยง”บิวพูดส่ง ๆ ไป อาจน่ารักจริงอยู่บ้าง แต่ไม่อยากให้อิ๋วโกรธมากกว่านี้ ก็ตอบ ๆ ไป
“เหรอ สีขาวเหรอ แต่ว่า สีส้มก็สวยนะ”อิ๋วเริ่มลังเล
“อืม นั่นแหละ สีส้มก็ได้”
“โธ่ ! บิว เต็มใจเลือกหน่อยสิ =”= งั้น เอาตัวนี้แหละค่ะ”อิ๋ว ยื่นตัวสีขาว ที่บิวบอกว่าน่ารักในตอนแรกให้กับคนขายเพื่อคิดเงิน อิ๋วทำทีหยิบประเป๋าตังค์ เมื่อได้ทีบิวก็ทำหน้าที่รีบควักกระเป๋าจ่ายเงินให้ตัดหน้า เพราะเป็นคนบอกเมื่อวานเองว่าจะพาอิ๋วมาซื้อ
และแล้วอิ๋วก็ได้ลูกแมวตัวใหม่สีขาว มาอุ้มเดินเล่นกับบิวไปทั่วทั้งตลาด แสดงอาการว่าไม่ค่อยจะเห่อสักเท่าไร บิวเห็นอาการที่อิ๋ว เล่นกับลูกแมวตัวนั้นด้วยความรักและทะนุถนอม จึงพูดออกไปว่า
“นี่เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าที่จะมาถึงในวันที่ 27 นี้นะ”^-^
คำพูดของบิวเมื่อชั่วครู่ ทำให้อิ๋วรู้สึกหวิว ๆ หน้าแดงขึ้นมาทันที ที่บิวยังจำวันเกิดของอิ๋วได้ ก็แอบยิ้มขึ้นมามุมปาก
“นี่ บิวจำวันเกิดเราได้เหรอ?”>///< อิ๋วทำก้มหน้าเล่นกับแมว เพราะกลัวบิวจะเห็นว่าเธอหน้าแดง
“แหม !! ใครจะไปลืมได้ละ ก็เกิดหน้าเราหนึ่งวันนิ ฮาฮาฮา”^[]^
โอยยย ไอ้บิวบ้า แกนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ แกต้องรับผิดชอบกับความรู้สึกของลูกผู้หญิง ที่ฉันรู้สึกดีด้วยในตอนเมื่อกี้เดี๋ยวนี้นะ อิ๋วแอบเคืองเล็กน้อย
“ว่าแต่ของขวัญของเราละ เมื่อไหร่จะได้ ซื้อให้ด้วยนะ แลกกันไง”บิวพูดออกมาเพราะลืทมตัว กึ่ง ๆ อยากได้ของขวัญวันเกิดจากมือของอิ๋วเหมือนกัน จึงแกล้งเอาเรื่องวันเกิดมาบังหน้า เท่านั้นแหละ ทำให้อิ๋วหยุดเดิน ยืนนิ่งอยู่กับที่ บิวที่เดินเหลื่อมนำหน้าไปตัวครึ่งก็ชะงัก หันกลับมามอง อิ๋วทำตาขวางจ้องมาที่บิวทันที
“โธ่เอ๊ย!! ที่แท้ที่พามานี่ก็แค่อยากได้ของขวัญวันเกิดของตัวเอง มาซื้อให้เป็นบุญคุณเป็นนะสิ”อิ๋วรู้สึกตัวเองว่า ทำไมเรารู้สึกโกรธออกมามากมายขนาดนี้นะ
“เฮ้ย!! อิ๋ว เข้าใจผิดใหญ่แล้ว มันไม่ใช่อย่างนั้น”บิวพยายามอธิบาย ก่อนอิ๋วจะรีบเดินฉึบ ๆ ไปแบบไม่รอ ก่อนบิวจะพูดอะไรบางอย่างออกมาจนทำให้อิ๋วรู้สึกตัวได้
“ทำไมอิ๋วชอบมองเราในแง่ร้ายนักละ”บิวเองก็เริ่มรู้สึกงอนอิ๋วบ้างแล้ว
ทำให้อิ๋วชะงักคิดขึ้นมาทันที เอ๊ะ นั่นสิ ทำไมเราต้องมองบิวในแง่ร้ายเกินไปด้วยหรือว่า เรากลัวว่าบิวจะคิดว่า ที่เรามาในวันนี้ด้วยเพราะเราอยากมาเดินเที่ยวกับบิว ไม่ได้อยากมาเพราะอยากได้แมว จนทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองไป อิ๋วสื่อสารกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังเอ่ยไปว่า
“ก็เอาไว้วันเกิดบิวก่อนสิ”
เวลาผ่านไป ทั้งคู่เดินเล่นด้วยกรันจนทั่ว จนกระทั้งถึงตอนเย็นก็ทำให้ทั้งคู่เสียเงินช็อปมากมาย ได้เสื้อผ้าต่าง ๆ ที่ตัวเองชอบติดไม้ติดมือมาพอสมควร จึงตกลงกันว่าจะกลับ เพราะฟ้าเริ่มมึดแล้ว ทั้ง ๆ ที่แค่เพียงหกโมงเย็นเท่านั้นทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถสองแถวประจำทาง เช่นเดียวกับขามา เพราะว่าเป็นต้นสายทำให้รถยังโล่งอยู่ บิวรู้สึกโชคดีตรงที่ว่ารถคันนี้เพิ่งมาจอดรับคนทำให้ยังไม่มีใครขึ้มาเลย อิ๋วจึงเข้าไปนั่งที่ข้างในสุดส่วนบิวก็เข้าไปนั่งใกล้ ๆ ข้าง ๆ
รถสองแถว กำลังมุ่งหน้าไปตามทางที่ได้เคยขับผ่านอยู่ประจำ โดยเป้าหมายสุดสายนั้นอยู่ที่ซอยเข้าบ้าน ของ บิวและอิ๋วนั่นเอง อิ๋วยังคงนั่งเล่นลูกแมวอยู่ เมื่อเธอหยุดเล่น ก็พบว่า ตอนนี้ร่างกายด้านซ้ายของเธอกำลังนั่งติดกันกับบิว จึงแอบเหล่ไปทางบิวหน่อย ๆ บิวก็ยังคงนั่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เธอจึงแกล้งนั่งเฉย ๆ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ว่าอะไร เพราะกลัวบิวเขยิบออกไป ทั้ง ๆ ที่ข้าง ๆ บิวเป็นที่โล่งไปหมด ไม่ค่อยมาคนนั่ง
เช่นเดียวกันกับบิว ก็รู้สึกตัวเช่นเดียวกันว่า ตอนนี้กำลังสัมผัสกับท่อมแขน และสะโพกด้านข้างซ้ายของอิ๋วอยู่ นี่เป็นการถูกตัวครั้งแรกของวันนี้ และไม่ได้ถูกตัวอิ๋วมานานแล้วด้วย ทำไมมันรู้สึกดีอย่างนี้ นิ่มไปหมด ^///^ อิ๋วก็ยังนั่งนิ่งเหมือนเดิมนี่หน่า สงสัยจะยังไม่รู้ตัว ขอให้เป็นอย่างนี้จนนถึงบ้านเถอะ
ทั้งคู่นั่งนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นเพราะ ไม่อยากที่จะกระเถิบออกไป อาจเป็นเพราะอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ด้วย ทำให้ทั้งคู่ไม่คิดที่จะขยับตัวห่างออกจากกันเลย
วันแห่งความสุขของทุก ๆ ครอบครัวกำลังจะจบลง เพื่อที่จะเข้าสู่วันแห่งการทำงานในวันพรุ่งนี้ เมื่อรถสองแถว มาจนถึงสุดสาย ก็เป็นจุดหมายของทั้งคู่พอดี
“โห ! วันนี้ช็อปเยอะเลยนี่หน่า”บิวแซวอิ๋ว ได้อย่างไม่เขินแล้ว เพื่อทำลายความเงียบ
“อะไร ๆ ตัวเองเหอะ เยอะแยะไปหมด มาว่าคนอื่น”
“ไม่ได้ว่า แค่พูดถึงเฉย ๆ มั่วแล้วอิ๋ว”บิวแซวอิ๋วต่อ
“อืมจ่ะ เอาเถอะจ่ะ ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว เถียงไปก็ไม่ชนะ”-*- อิ๋วทำหน้าบุ้ยใส่
บิวสังเกตเห็นว่าอิ๋วถือของเยอะพอควร เท่า ๆ กันกับเขา แต่ดูท่าทางแล้ว คงไม่หนักอะไรมาก จึงมีความรู้สึกขึ้นมาว่ากลัวว่าอิ๋วจะหนัก
“อิ๋ว ของนะ เราถือให้ไหม”บิวลองถามไปดู โดยไม่รู้ว่าเธอจะยื่นมาให้ถือหรือเปล่า
“อืม เราได้จะเล่นกับน้องแมว”^-^ อิ๋วยื่นให้บิว จังหวะส่งของให้บิว มือบิวก็ไปจับเข้ากับมืออิ๋ว บิวรู้สึกถึงความเย็นของมืออิ๋ว และนิ่มมากด้วย >{}<
อิ๋ว หยิบแมว ที่เธอใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายข้างของเธอออกมา ตอนอยู่บนรถหลังจากที่อิ๋วเล่นกับแมวเสร็จก็เอาใส่ไว้ในกระเป๋า โดยให้ยื่นหัวออกมา ขณะเล่นกับลูกแมวอยุ่นั่นเอง ทำให้ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่อิ๋วคิด แล้วอดที่จะขำให้กับตัวเองไม่ได้ ว่าฟุ้งซ่านอะไรออกมา ^///^
“ว่าแต่ อิ๋วจะตั้งชื่อแมวตัวนี้ว่าอะไรละ?”บิวถามอิ๋ว ขณะกำลังเดินทอดน่องกันอยู่
อุ๊ย ๆ ไม่จริง ๆ บิวรู้ความคิดเราได้ยังไงเนี่ย นายเป็นพ่อมดสามมารถอ่านใจคนอื่นได้ยังไง ( บังเอิญเหอะ -*- ) นี่พูดออกมาตอนที่เราคิดอยุ่พอดีเลยนเนี่ย หรือว่า ความคิดของเราเมื่อคืน จะเป็นจริง โอ้วววว !!! >///<
“ไม่รู้ดิ ยังไม่ได้คิดเลยอะ ตอนแรกก็ว่าจะตั้งชื่อว่าลิตาร์เหมือนดิม แต่มันไม่ใช่ตัวเดิมแล้วอะ”อิ๋วก้มหน้าเล่นกับลูกแมวตัวใหม่
“ใช่ ๆ มันเป็นคนละตัวกัน สีก็ไม่เหมือนกันด้วย”
“แล้ว....?”
“อะไรเหรอ ?”
“บิวอยากให้ชื่อว่าอะไรละ คือ ลอง ๆ บอกมาแหละ เผื่อจะได้เป็นไอเดียที่จะตั้งชื่อนะ”อิ๋วออกจะอายนิด ๆ ที่อยากจะตั้งชื่ออย่างที่บิวบอกอย่าในความคิดเมอคืน แต่ทำเป็นพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อน -///-
“ไม่รู้ดิ เราก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกันแหละ ตัวนี้ตัวสีขาว จะให้ตั้งชื่อว่าอะไรดีละ? ”บิวนึกในใจว่า เลี้ยงเองก็ตั้งชื่อเองสิคับ แต่ถ้าตอบไปอย่างนี้ โดนงอนกลับมาอีกแน่ -_-!
“ลอง ว่า ๆ มาดิ”อิ๋วอดที่จะหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่ได้ ว่าหากเป็นอย่างที่ตัวเองคิดจะตอบออกไปว่าอย่างไรดี
“อืม เริ่มเลี้ยงตอนหน้าหนาวอย่างนี้ ตัวสีขาวอยู่ด้วย เออ!!.. สโนไวท์!! ไปเลย ตัวเมียด้วยนิ อิอิ”^.^บิวตอบส่ง ๆ ไป
“โห !! เชยมาก คิดได้ไงสโนไวท์ !? ชื่อไวท์ก็แล้วกันนะ สั้น ๆ ง่ายดี ตัวสีขาวด้วย เพราะดีออก เนอะ ว่าไม้ ๆ ?เจ้าไวท์”อิ๋วตัดบทพูดออกมาเอง บิวทำหน้าเจื๋อน ๆ ( เหอะ ๆ ไวท์ เชยกว่าสโนไวท์อีกนั่น : บิว )
ความจริงอิ๋วเองก็อยากจะให้ตั้งชื่อว่าสโนไวท์เหมือนกัน แต่ กลัวว่าบิว จะคิดว่า ตั้งชื่อตามที่บิวบอก จึงเปลี่ยนมาเรียกไวท์แทน ทำเป็นว่าอิ๋วคิดชื่อนี้เอง และตัดสินใจว่า ต่อหน้าบิวก็จะเรียกว่าไวท์ แต่ถ้าอยู่บ้านก็จะเรียก สโนไวท์
บิวเองก็รู้สึกดีมาก ที่ได้พูดคุยและเดินด้วยกันกับอิ๋วอย่างนี้ จึงคิดออกมาว่า จะทำยังไง ให้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างนี้มากกว่าเดิมนะ ถ้าได้ไปโรงเรียนด้วยกัน กลับบ้านด้วยกันก็ดีนะสิ แต่ถ้าเราพูดออกไปแล้ว อิ๋วจะรู้สึกยังไงนะ ต้องรู้ความในใจเราแน่เลย ว่าเราเริ่มคิด ๆ กับอิ๋วแล้ว
จนกระทั้งฟ้ามืดสนิท ทั้งคู่ก็เดินมาจนถึงหน้าบ้าน มาหยุดอยู่ตรงกลางถนนระหว่างบ้านทั้งสอง บิวมองหน้าอิ๋ว เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างจะค้างคา เช่นเดียวกับอิ๋วที่เงยหน้าขึ้นไปมองบิวเหมือนกันพอดี ทำให้อิ๋วต้องรีบก้มหน้า
เอ๊ะ มีอะไรนะ จะพูดอะไรหรือเปล่า ทำท่าอย่างนั้น หรือ หรือว่า จะเป็นอย่างทีเราคิดไว้แบบเมื่อคืน >[]< โอ้ว !! ไม่นะ ฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลย เดี๋ยวก่อน ขอเวลาเตรียมใจก่อน
“อืม งั้นเราเข้าบ้านก่อนนะ บ๊ายบายนะ ฝันดี ๆ”บิวโบกมือปะลก ๆ บ๊ายบายอิ๋ว ( O[]O! อ่าว : อิ๋ว )
บิวหันหลัง กำลังเดินเข้าบ้าน ในตัวเองเหมือนว่าขัดแย้งอะไรบางอย่าง โธ่เอ๊ย ในที่สุดก็ไม่กล้าพูดอีก มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็พูด ๆ ออกไปเลย ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่จะได้เริ่มสักทีละ บิวกำลังรวบรวม ความกล้าที่จะพูดอะไรบางอย่าง
“อืม บาย!”อิ๋วพูดห้วน ๆ ทำโบกมือบ๊ายบายบิวคืน -..- เฮ้อ นึกว่าจะเป็นแบบที่เราคิดเสียอีก แต่แอบใจหายนิด ๆ นะ
คำพูดบอกลาของอิ๋วที่พูดออกมา ทำให้บิวหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มว่า ซวยแล้วตู T{}T ดูท่าสาวจ้าวไม่ได้คิดอะไรกับเราเลยด้วย
และต่างคนก็ต่างแยกย้ายเดินกันไปที่หน้าประตูบ้านของตัวเอง เรื่องราวของทั้งสองคนในวันนี้ก็จะจบลงด้วย และเริ่มวันใหม่ เป็นบิวและอิ๋งเหมือนเดิม แต่.....
“บิว”อิ๋วย้อนออกมาเรียกบิว
หืม !? บิวเอะใจ อิ๋วเรียกเรานี่หน่า มีอะไรนะ? แล้วบิวก็หันกลับไปดู
“ขอบใจนะ ที่ซื้อลูกแมวให้ เราจะดูแลมันให้ดีเลย ไปนอนแล้วนะ บ๊ายบายจ่ะ ฝันดีนะคะบิว”^-^ อิ๋วพูดขอบคุณตามมารยาทด้วยน้ำเสียง หวาน ๆ บิวก็เคลิมตาลอย ไปยันไหนต่อไหน ก่อนจะหลุดจากภวังค์ และตัดสินใจพูดออกมา
“เดี๋ยวก่อนอิ๋ว แปปหนึ่ง”บิวพูดเรียกอิ๋วให้หันมา
“หืม อะไรเหรอ ?” อิ๋วหันมาทำตาโต ว่ามีอะไรจะบอกกับเธออีก เอ๊ะ หรือว่า ?
เอาแล้วไงละ บอกเลย บอกไปเลย มาถึงขั้นนี้แล้ว แค่พูดออกไปเท่านั้น และเป็นการเริ่มต้น ที่จะ จีบ อิ๋วอย่างเต็มตัวด้วย ให้อิ๋วรู้ไปเลยว่าเรากำลังจีบอยู่ เพราะถึงยังไง สักวันอิ๋วต้องรู้อยู่แล้ว เพราะเรารู้สึกแล้วว่า เราชอบอิ๋ว
“อิ๋ว คือ... เราอยากรู้อะไรหน่อยนะ”
“อาหะ ว่าไง ?”อิ๋วก็อยากจะรู้ว่าบิวจะถามอะไร เอาแล้ว ๆ >~<
“เราอยากรู้อะ ว่า อิ๋วมีแฟนหรือยังเหรอ ?”บิวรู้สึกทึ่งในตัวเอง ที่พูดออกมาได้แล้ว โอย ตายแน่ ๆ อิ๋วรู้แล้วแน่ ๆ ว่าเราคิดยังไงอยู่ แต่อีกใจก็กลัวคำตอบจะออกมาไม่เป็นอย่างที่บิวคิด
“อืม ๆ ก็ ยังไม่มี”อิ๋วออกจะหน้าแดงนิด ๆ ที่ถูกถามอย่านี้
“เหรอ อืม ๆ ถ้างั้น พรุ่งนี้ไปเรียน รอเราด้วยนะ ไปโรงเรียนพร้อมกันนะ”มันเป็นคำพูดที่ดูเหมือนไม่มีอะไรที่นัดอิ๋วไปโรงเรียนด้วย แต่บิวกลับรู้สึกว่าคำพูดเมื่อกี้ มันเปรียบเสมือนกับ การได้ ประกาศจีบอิ๋วแล้ว
“อ๋อ! อืม ได้”^-^ อิ๋วยิ้มให้
“อะ โอเค ๆ งั้น !! พรุ่งนี้เจอกันนะ บ๊ายบายครับ”บิวดีใจ จนพูดครับออกมาไม่รู้ตัว
“อืม โอเค เจอกัน ๆ ฝันดีนะ”อิ๋วพูดออกมาด้วยใบหนาที่ยิ้มแย้มก่อนเดินเข้าบ้าน
ฝันดีนะ คำพูดนี้เหมือนจะไม่มีอะไร แต่บิวกลับรู้สึกว่า รู้สึกดีชะมัดที่อิ๋วพูดออกมาอย่างนี้
จนกระทั้งถึงวันรุ่งเช้า ที่บ้านของบิว เวลาราว ๆ เจ็ดโมงเช้า
“ลุงเปรม สวัสดีค่ะ ป้าบัวสวัสดีค่ะ”อิ๋ว ในคราบชุดนักเรียนมัธยมปลาย เดินเข้า มาไหว้พ่อแม่ของบิว เฉกเช่นทุกวันหลังจากที่ไหว้พ่อแม่ของตัวเองที่บ้านเสร็จแล้วแล้ว
“อ่าว มาแล้วเหรอลูก ? เจ้าบิวมันยังไม่เสร็จเลย แม่ปลุกตั้งแต่เช้าแล้ว มันตื่นสายซะชินแล้วนะ”^-^ แม่บัวของบิวเผาลูกตัวเอง ก่อนจะกล่าวต่อ “จะว่าไปแล้ว บ้านเราสองคนก็อยู่ใกล้ ๆ กันก็น่าจะไปด้วยกันตั้งนานแล้วนะ แล้วนี่ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงอยากไปโรงเรียนด้วยกันละ หืม? เห็นไม่ได้ไปเรียนด้วยกันมานานแล้วนี่ เมื่อคืนนี้ บิวมันมาบอกว่า พรุ่งนี้ให้ปลุกด้วยจะไปเรียนกับอิ๋ว แม่ยังงงอยู่เลยนะ อิอิ แสดงว่า เมื่อวานไปเที่ยวด้วยกัน แอบคุยความลับอะไรกันหรือเปล่านะ อิอิ”แม่บัว ของบิวลองย้อน แซวถามดู อิ๋วทำได้แค่ ยืนกัดปากบิดไปมา กำที่จับกระเป๋าหนังของตัวองไว้แน่น ก่อนจะอมยิ้ม ก้มหน้าก้มตาเพราะไม่กล้าตอบออกไป ^///^
“แหมแม่ก็ พูดเกินไปน่า เรื่องของหนุ่มสาวเราอย่าไปยุ่งเลยน่า เดี๋ยวอิ๋วจะเขินเปล่า ๆ เนอะ หนูอิ๋วเนอะ ฮาฮาฮา”พ่อเปรมของบิวกำลังเปิดร้านอยู่ ก็ร่วมวงแซวอิ๋วด้วย
“แหม!! พ่อก็ ว่าแต่คนอื่น!”ก่อนแม่บัวจะตะโกนขึ้นไปที่ชั้นสอง “บิวยังไม่เสร็จอีกเหรอ อิ๋วมารอแล้วนะ....”
“ครับ เสร็จแล้วแม่”แม่ของบิวพูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงบิวก็สวนลงมาพร้อมกับตัวของบิวในสภาพชุดนักเรียนรีบวิ่งลงบันไดลงมา “แอบนินทาอะไรบิว ให้อิ๋วฟังเปล่าเนี่ยแม่”
“เปล่าหรอก ถ้าไม่บอกแม่ ตั้งแต่เมื่อคืนว่าวันนี้จะไปโรงเรียนกับอิ๋ว แม่ก็ไม่บอกให้รีบ หรอก”แม่บัวพูดสั่งสอนก่อนจะเข้ามากระซิบเข้าข้างหูบิว “นัดสาวแล้ว คราวหลังอย่าให้สาวเขารออีกนะ รู้ไหม ฮาฮาฮา” ^[]^ บิวหน้าแดงขึ้นมาในบัดดล รีบผละตัวออกจากแม่
“โอ๊ย แม่ ไม่ขนาดนั้นหรอก งั้นบิวไปแล้วนะ แม่หวัดดี พ่อหวัดดี”บิวรีบใหว้แม่ที่อยู่ใกล้ ๆ และพ่อที่อยู่หน้าร้านกำลังเปิดร้าน เพราะไม่อยากให้อิ๋วรอนาน
“ไปได้ยังเนี่ย”อิ๋วทำหน้าเซ็ง ๆ ที่วันแรกก็ให้รอเสียแล้ว
“โอ๋ ขอโทษนะ ๆ ไปกัน”บิว เดินนำอิ๋ว เชิงเชื้อเชิญให้อิ๋วเดินตาม ก่อนจะเดินไปไหว้สวัสดี พ่อก้วยและแม่นิ่มของอิ๋ว ก่อนจะเดินทางไปโรงเรียนกันสองคน
นี่เป็นวันแรกที่บิวและอิ๋วเดินไปโรงเรียนด้วยกัน ทั้งคู่คิดเหมือกันว่า ถ้าใครที่โรงเรียนมาเห็นเข้า ต้องนึกว่าเป็นแฟนกันแน่ ๆ อิ๋วก็คิดไปว่า ถ้ายายอั๋มมาเห็นจะทำยังไงนะ จะบอกว่าอะไรดี แล้วเราจะมามัวคิดอะไรละก็เรา ตกลงมากับเขาเองนี่หน่า -_-! ส่วนบิวก็คิดได้ว่า วันนี้ได้เดินมาโรงเรียนกับผู้หญิงเสียด้วย น่ารักอีกต่างหาก อิอิ ^///^ เป็นครั้งแรกเลยแฮะ แท่ห์เหมือนกัน คนอื่นต้องนึกว่าเป็นแฟนเราแน่ ๆ แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าเราได้อิ๋วเป็นแฟนคนแรก ก็ดีนะสิ อิอิ
“แล้ววันนี้ไม่ได้ไปเรียนกับอั๋นเหรอ”บิวลองถามถึงอิ๋วดู
“เปล่า เราไม่เคยไปเรียนกับอั๋นนะ เจอกันที่โรงเรียนมากกว่านะ แค่กลับบ้านด้วยกันเฉย ๆ”
“อ๋อ อืม ๆ”จะว่าไปแล้ว บิวก็ไม่เคยได้ไปโรงเรียนกับอิ๋วเหมือนกันจึงไม่รู้ ทำให้เขามีโอกาสที่จะได้ไปโรงเรียนพร้อมกัน ทุก ๆ วัน
ทันใดนั้นเอง บิวและอิ๋วซึ่งเดินคุยกันอยู่ ในถนนฝั่งตรงข้าม มีนักเรียนชายหญิงคู่หนึ่งเดินตีคู่มาด้วยกันกับอิ๋วและบิวที่ฝั่งตรงข้าม ผู้ชายถือกระเป๋าให้ผู้หญิงและเดินกระหนุงกระหนิงกัน บิวจึงเกิดไอเดียขึ้นมาบางอย่าง O-O หันเหล่ไปที่อิ๋วซึ่งเดินอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดออกไป ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่พูดออกไปนี้ จะต้องทำให้อิ๋ว แน่ใจแน่ ๆ ว่าเขา กำลังจีบอิ๋ว แล้วอิ๋วจะตอบกลับมาว่าอะไร จะอยู่หรือจะไป จะได้รู้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
“อิ๋ว เราถือกระเป๋าให้เอาไหม ?”-///- บิวทำหน้าเขิน ๆ ถามไป
อิ๋วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าบิวก่อนนิดหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงมาเหมือนเดิม -///- เพื่อไม่ให้บิวรู้ว่าเขินอยู่ ก่อนจะหลบสายตาพูดออกไป
“อืม! หนักนะ!?”อิ๋วพูดพล่าง ยื่นให้ บิวก็รีบฉวยมาถือให้ทันที ชั่วครู่หนึ่งก็เชิญอิ๋วคุยต่อ
“นี่ ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วนะ เรื่องคณิตศาสตร์นะ รู้เรื่องบ้างไหมเนี่ย!? ”บิวทำเสียงเข้ม ที่เจ้าอิ๋วตัวดี ทำท่าหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่องเลย
“ก็พอรู้เรื่องบ้างแล้ว ทำได้บ้างแล้วนะ กว่าจะสอบก็ทำได้พอดีแหละ ทำไมเป็นห่วงเราเหรอ !?”อิ๋วลองหยอดถามเป็น ทำทีว่าแกล้งพูดเล่น แต่อิ๋วคิดจริง
บิวยิ้มไม่พูดอะไร มองตรงไปข้างหน้าแล้วเดินต่อ ก่อนจะพูดออกมา
“มั้ง!!” ^///^
ทั้งคู่เดินคุยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ กันอยู่ จนกระทั้งมาจนเกือบจะถึงทางเข้าของโรงเรียนแล้วนั่นเอง ทางอีกฝั่งหนึ่ง ก็กำลังุ่งหน้าเดินเข้าโรงเรียนเหมือนกัน มีแบงค์ ท็อป ต้อม น็อทเดินมากันพอดี จึงเห็นเข้ากับที่บิวและอิ๋วเดินคุยกันเข้าไปในโรงเรียน ทั้งหมดยืนแข็งตะลึงกันอยู่ ว่าบิว หาแฟนได้แล้วเหรอ ตอนนี้แบงค์ หน้าซีดกว่าใครทุกคน ก็ตะลึง ไม่สิ ไม่มั้ง บิวไม่เคยมีแฟนนี่หน่า ซวยแล้วตู ประมาทมันไปหน่อย -[]-
ในขณะนั้นเอง ที่บิวเดินเข้าโรงเรียน จึงเห็นเข้ากับพวกเพื่อน ๆ กำลังเดินมุ่งหน้าเข้าโรงเรียนเหมือนกับเขาจากอีกทางหนึ่ง อิ๋วเดินล่วงหน้าบิวเข้าไปแล้ว บิวชะงักนิดหนึ่ง ก่อนโบกมือทักเพื่อน ๆ และชี้นิ้วไปที่อิ๋วทีเดินเข้าไปก่อนแล้ว และพูดออกมาไม่มีเสียง มีแต่ลมว่า
“แฟน ตู เอง!!!”บิวป้องปากพูดออกมาแต่ลม ก่อนชูมือที่ถือกระเป๋าอิ๋วขึ้นมาให้ดู แล้วเดิน อารมณฺดีเข้าไปหาอิ๋วต่อ
“อะไรเหรอ บิว?”อิ๋วเห็นบิวเดินตามมาช้า จึงถาม
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก นี่ ๆ หิวข้าวไหม ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวเลี้ยง”บิวเปิดเกมส์รุก อย่างเต็มตัว
“เหรอ จิงอะ ? ไปดิ!!” ^..^ อิ๋วเดินยิ้ม ตามต้อย ๆ
“แต่ว่าต้องอยู่กันแค่สองคนนะ ไม่มีอั๋นนะ”บิวขอความเป็นส่วนตัว
“ทำไมต้องไม่มีอั๋นละ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย”อิ๋ว ดึงใหล่บิวโน้นให้ถอยมา
“อ๋อ เปล่า ไม่มีอะไร ไปกันได้แล้ว หิวแล้ว”บิวเดินถือกระเป๋าของอิ๋วเดินล่วงหน้า
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน มาบอกก่อน เดี๋ยวนี้เลย”อิ๋วรีบเดินตามเพื่อถามบิว ว่าอะไรกันแน่ คิดอะไรแน่ถึงพูดมาอย่างนี้ หรือคิดเหมือนอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า อิอิ ^-^
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งกลุ่มของเพื่อน ๆ บิว แบงค์กำลังตกอยู่ในความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น T~T ตอนนี้บิวมีแฟนไปแล้ว งั้นแสดงว่า เกมส์นี้ตูตกเป็นฝ่ายแพ้นะสิ โอ้ แม่เจ้า ไม่จริง นี่ฉันแพ้เกมส์ที่ตัวเองเป็นคนตั้งเหรอ เนี่ย โอ้ ไม่จริง T[]T
ในขณะนี้แบงค์รู้สึกอ่อนแอมาก ๆ เพราะรับไม่ได้ที่ราชาแห่งการจีบผู้หญิงอย่างเขา ( เห็นเจ้าตัวเขาว่าอย่างนั้น ในตอนแรก -_- ) ต้องมาแพ้ในเกมส์การจีบผู้หญิง เมื่อได้สติก็พบว่า เพื่อน ๆ ในกลุ่ม กำลังยืนล้อมรอบแบงค์อยู่แผ่รังสี ออร่าออกมาแทบทุกคน ก่อน ท็อปจะเป็นตัวแทนในพิธีกล่าวนำของทุกคน เอ่ยออกมาว่า
“แบงค์ นายเองคงรู้ชะตากรรมสินะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาย!? ”ท็อปพูดด้วยสายตาเย็นชา -_-
“เกมส์นี้นายเป็นคนกำหนดขึ้น และเกมส์นี้นายเป็นผู้แพ้เสียเอง และสิ่งที่ต้องทำโทษแก่ผู้ที่แพ้ นายก็ได้กำหนดเอาไว้แล้ว!?” ต้อมทำสายตาเย็นชาออกมาอีกคน ลอดผ่านแว่นออกมาที่แบงค์ 0-0
“.....................”น็อท ทำสายตาเย็นชามั่ง ( -_-! : น็อท )
“พวกเรา สำเร็จโทษ รุมตบหัวมัน ส่วนไอ้บิว ค่อยให้มันทำพิธีปิดทีหลัง ลุย!!!”ท็อปกล่าวเปิด
ทั้ง 3 ก็รุมเข้ามาตบหัวกัน จนมันส์มือ ตาม ๆ กัน โดยกะจะให้บิวผู้ที่ไม่ได้มาตบด้วย ทำพิธีปิดในตอนหลังตอนกลางวัน ซึ่งแบงค์จะต้องเลี้ยงข้าวเพื่อน ๆ ด้วย เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ด้วยกัน
ทางฝั่งของอั๋น ที่ตอนนี้มายืนหนาวขาแข็งอยู่หน้าเสาธง เพราะทุกเช้าอิ๋วและอั๋นจะต้องมานัดเจอกันตรงนี้ทุกเช้า อั๋นรออยู่นานแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เห็นวี่แววแม้แต่เงาเพื่อนรักของเธอเลย เมื่ออั๋นโทรไปก็ไม่ติด
“อีบ้าอิ๋ว แบตมาหมดอารายตอนเช้าย่ะ ทำไมเมื่อกลางค่ำกลางคืนไม่รู้จักชาทแบ็ตให้เรียบร้อยยะ” T[]T อั๋นบ่นกับตัวเองขณะโทรหาอิ๋ว ไม่ว่าจะโทรเท่าไรก็ไม่ติด เพราะอิ๋วแอบปิดเครื่องกันไม่ให้อั๋นโทรมาหาตามที่บิวสั่ง >///< เพราะเธอกำลังนั่งกินข้าวกับบิวอย่างมีความสุข
ความคิดเห็น