ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักใสใส ในเดือน ธันวาคม

    ลำดับตอนที่ #5 : ธันวาคม

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 50


              พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า  ความมืดมิดกำลังเข้ามาแทนที่  เช่นเดียวกับพระจันทร์ครึ่งใบก็กำลังปรากฏกายฉายแสงซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพระอาทิตย์  ทุก ๆ บ้านก็กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของครอบครัว

    บิว  ชายหนุ่มหน้ามนต์  คิ้วเข้ม  หน้ารูปไข่  ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนา ๆ กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับการบ้านวิชา  คณิตศาสตร์ที่เจ้าตัวรู้สึกว่า  เป็นอะไรที่ช่างหวานหมูของเขาเสียเหลือเกิน ^..^  อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเก่งของเขาที่อยู่ติดริมหน้าต่างภายใต้แสงสีเหลืองส้มอ่อน ๆ ที่มาจากโคมไฟตัวโปรดตัวเล็ก ๆ ของบิว  ซึ่งบงบอกรสนิยมได้ว่า  บิวชอบแสงไฟจากโคมไฟมากกว่าแสงนีออนหลอดยาว ๆ บนเพดาน   ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่หกโมงเย็นเท่านั้น  แต่เพราะว่าได้รับอิทธิพลมาจากฤดูหนาวทำให้ท้องฟ้ามืดมิดราวกับยามสองทุ่มของช่วงหน้าร้อน

     

                    ในความเงียบสงบของห้อง  อันมาจากสมาธิที่แน่วแน่ของบิวซึ่งเพ่งอยู่กับงานที่อยู่ตรงหน้าราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนี้  จะมีก็แค่เสียงดังของทีวีจากชั้นล่างที่พ่อและแม่กำลังนั่งดูละครช่วงหัวค่ำด้วยกันอย่างสนุกสนานจนลืมว่าลูกชายทำการบ้านอยู่ชั้นบน  ในวันนี้เป็นวันเสาร์  ทำให้บิวไม่ได้ไปติววิชาคณิตศาสตร์ให้กับอิ๋ว  เพื่อนที่อยู่ข้างบ้าน  เหมือนกับที่ได้ไปติวให้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ 

    แต่แล้วเวลานั้นเองอยู่ดี ๆ บิวก็เหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแว่ว ๆ มา

     

                    ฮือ ๆ!!”

    o..o บิวชะงักขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง  เหมือนว่าจะแว่ว ๆ อะไรมาเข้าที่หู  เพราะความเงียบทำให้บิวได้ยินอย่างชัดเจน  แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดไปว่า  คงมาจากทีวีข้างล่างที่พ่อกับแม่ดูอยู่นั่นแหละ  แต่เสียงเหมือนผีชะมัดเลยแหะ =”=  อิอิ  บิวอดยิ้มให้กับความฟุ้งซ่านของตัวเองไม่ได้

     

                    ฮือ ๆ!!”

              0..0 เฮ้ย!!  อะไรวะ!? ทำไมมีเสียงนี้อีกแล้วว้ะ  ก็แค่เสียงแว่วไม่มใช่เหรอ  เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน  เราคงฟุ้งซ่านไปเองไม่มีไรหรอก  ^[]^!  ( ปลอบใจตัวเองสิคับ  งานนี้ : บิว )

     

                    ฮือ ๆ

                    O..O แกะหายแล้ว!!  ตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยเห็นผี  เจอของจริงก็คราวนี้ละว้า  ฮือ ๆ T{}T อย่ามาหลอกมาหลอนสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันเลย  ทางใครก็ทางมันเถิด! >.<!

     

                    บิวนั่ง บริกรรมคาถาในใจและข่มใจทำการบ้านต่อไป  ไม่ให้ตัวเองกลัวพลางนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง  เสียงร้องให้อันโหยหวนนี้ทำให้บิวรู้สึกว่าเป็นเสียงของผู้หญิง  แสดงว่าต้องเป็นผู้หญิงที่กำลังสาวอยู่แน่  เพราะท่าทางเสียง  เล็ก ๆ หวาน ๆ ไพเราะในระดับหนึ่ง >//< ( กับผีนะเนี่ยแก )  และดูท่ากำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย  ที่สำคัญดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง  ซึ่งลอดเข้ามาทางหน้าต่าง  ทำให้บิวไม่อยากจะคิดภาพว่า ที่ชั้นหนึ่งนอกบ้าน  ถ้าชะเง้อคอดู  ต้องเจอกับสิ่งลี้ลับอะไรบางอย่างแน่ ๆ YwY

     

                    ฮือ ๆ!!”

                    เสียงผีสาวเจ้ากรรม ( ในความคิดของบิว ) ยังคงดังอยู่จนบิวไม่มีสมาธิเป็นอันทำ  เพราะระหว่างทำจะได้ยินเสียงนี้เข้ามารบกวนโสตประสาตของบิวอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าบิวจะพยายามข่มใจไม่ให้ไคว่เขวก็ตามแต่ TwT   และในที่สุด

                   

    เอาว้ะ!!  สักครั้งหนึ่งในชีวิต  มันจะน่ากลัวสักเท่าไหร่กันเชียว -_-! บิวพูดกับตัวเองขึ้นมาเพื่อนเรียกกำลังใจ  ที่จะทำการรวบรวมความกล้าชะเง้อคออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองให้เห็นกับตาว่า  เธอมาขอส่วนบุญหรือจะเอาอะไร

     

                    ภาพที่ส่งสัญญาณแล้วแปลความหมายไปที่สมองของบิวตอนนี้คือ  ภาพของหน้าต่างยามพลบค่ำที่ใกล้จะเป็นยามค่ำคืนทุกที ๆ   ซึ่งเมื่อมองตรงไปก็จะเห็นห้องของอิ๋วอยางชัดเจน  ตอนนี้เขากำลังนำลูกตาสองลูกของเขาไปพบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ลูกตาสองลูกนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน  เขากำลังจะได้เห็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนเรียกว่าผีเป็นครั้งแรกและตอนนี้ ร่างกายของบิวก็ค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้  เพื่อจะชะเง้อคอออกมานอกหน้าต่างในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า  ให้รู้กันไปเลย  ว่าอะไรเป็นอะไร

                    เมื่อบิวชะเง้อ ออกมาเรื่อย ๆ ภาพที่ม่านตาก็มืดลงเรื่อย ๆ จนมืดสนิทเพราะ  บิวหลับตาปี๋ >[]<! เมื่อชะเง้อออกพ้นนอกหน้าต่าง  ตอนนี้คอของบิวได้ออกมาอยู่นอกชายคาของตัวบ้านแล้ว  ก่อนที่บิวจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรับภาพอะไรบางอย่าง  ที่รออยู่ตรงหน้า

                    ยังไม่ทันที่จะลืมตาได้สุด  เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้บิวต้องตะลึงตาโตแบบไม่รู้สึกตัว  เพราะภาพที่บิวเห็นคือ  มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ผมสั้น ๆ นั่งกอดเข่าร้องให้  ใส่เสื้อยืดสีชมพู  ที่แขนเสื้อเปื่อนอะไรบางอย่าง  คล้าย ๆ กับโคลน  ที่เพิ่งลุกขึ้นมาจากหลุมศพ  ( คิดว่างั้นนะ -_-! : บิว ) ใส่กางเกงสีฟ้าขาสั้น  นั่งเอาหลังพิงบ้านของอิ๋วอยู่

    ตึงงงงง !!!!.....  เหมือนเสียงที่จะดังออกมาตอนที่ตัวละครในหนังเจอเข้ากับผี  ตามแบบหนังผีหน้าขาวของเกาหลีญี่ปุ่นดังขึ้นมาในหัวของบิว  โอ้!!  แม่เจ้า Y[]Y  นี่เราเจอเข้ากับผีผู้หญิง  ตัวเล็กผมสั้นหรือเนี่ย  โอ้!! อะไรกันเนี่ย  เรากำลังโดนผีตัวเล็กผมสั้นหลอก  ผีตัวเล็กผมสั้น  ผีตัวเล็กผมสั้น  ฮือ TuT  ผีตัวเล็กผมสั้น  เอ๊ะ!?  เดี๋ยวก่อน  ตัวเล็กผมสั้น  นั่งกอดเข่าร้องให้อยู่  นั่นมันยายอิ๋วนี่หน่า  แล้วทำไมมานั่งร้องให้กอดเข่าอยู่ตรงนั้นละ  ( ฮืม เป็นผีเนอะฉากนี้  แหมแก  เปิดตัวตอนใหม่ของฉันซะ -_-* : อิ๋ว )

     

                    สรุปว่าผีที่บิวเห็นนั่นก็คืออิ๋วนั่นเอง  เธอกำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อยู่นอกบ้านนั่งเอาหลังพิงผนังบ้านของเธอจากข้างนอกอยู่  บิวถอดใจใหญ่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะหัวเราะกับตัวเอง  ไม่ใช่หัวเราะเยาะอิ๋ว  แต่หัวเราะเยาะตัวเอง  ประหนึ่งสมน้ำหน้าตัวเองว่าเวลาว่างมากหรือไงขนาดนั่งทำการบ้านจนหัวแทบระเบิดแล้วยังจะอุตส่าห์เอาภาระมาให้สมองน้อย ๆ มานั่งคิดว่าผีผู้หญิงมาหลอกอีก   ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนแท้ ๆ ก่อนบิวจะลุกจากเก้าอี้  เพื่อเดินลงไปข้างล่าง  เพื่ออยากจะรู้ว่าอิ๋วเป็นอะไร  เผื่อจะช่วยอะไรอิ๋วได้

                    อิ๋ว  นั่งกอดเข่าร้องให้สะอึกสะอื้นเหมือนจะเสียของรักอะไรบางอย่างไป  เสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยโคลน  นั่งอยู่ข้างนอกบ้าน  ท่ามกลางอากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ บิวก็เดินลงมาอยู่ตรงหน้าของอิ๋วที่ไม่รู้ว่าบิวมายืนอยู่

     

                    เป็นอะไร?  อิ๋วบิวลากเสียงยาวถาม  พลาง ซุกมือเข้าในกระเป๋าของเสื้อหนาว  ก่อน อิ๋วจะเงยหน้าขึ้นมาจากวงแขนของตัวเอง  ทำตาแดง ๆ เงยหน้ามองไปที่บิว

     

                    ก็ลิตาร์อะ  มันตายแล้วอะ  นี่ก็เพิ่งจะไปฝังกับป๊ามาเมื่อกี้เนี่ย  ตัวเลอะโคลนไปหมดเลย อิ๋วสะอึกสะอื้นบอกไป

     

                    หา!!  แมวเธอตายแล้วมานั่งร้องไห้ ง้องแง้งอย่างเนี้ย อะนะ  ฮาฮาฮา ^O^  ตลกเป็นบ้า  นี่อิ๋วรักแมวขนาดนี้เลยเหรอ ?”บิวอดที่จะหัวเราะเยาะเย้ยอิ๋วไม่ได้

     

                    นี่นายตลกมากไหม Y~Y* หืม!?  ชีวิตหนึ่งชีวิตเลยนะ!!”อิ๋วเดือดดาลรีบลุกพรวดขึ้มมา  มองตาบิวตาเขียวปั๊ด

     

                    แหมๆ มันก็แค่  แมวตัวนึงน่า  อิ๋ว  ทำเป็นโมโหไปได้  อิอิ”^-^ บิวยังคงขำอยู่  ในความอ่อนโยนของอิ๋ว

     

              อิ๋วเลือดขึ้นหน้ารู้สึกตัวว่าโมโหมาก  นี่นายไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียของรักไปเลยหรือไง  ถึงมันจะเป็นแค่แมว  แต่มันก็เป็นหนึ่งชีวิตนะเฟ้ย T{}T  โอ้ย ไม่คุยด้วยแล้ว!  อิ๋วอึดอัดเพราะความโมโห  ก่อนจะผลักอกบิวจนกระเด็นถอยไปหนึ่งก้าว  และเดินเช็ดน้ำตางอนตุ๊บป่องจะเข้าบ้าน  บิวก็ยังไม่วายที่จะอดขำท่าทางของอิ๋วตอนงอนไม่ได้  ตาก้วยพ่อของอิ๋วเดินออกมาทิ้งขยะพอดี  เดินสวนกับอิ๋วที่กำลังเดินเข้าบ้านพอดี

                    อ้าว  ลือเปงอาราย  อาหมวย? ” -*- ตาก้วยถามลูกสาวเพราะเห็นว่ากำลังร้องให้

                    ไม่รู้  ไม่ชี้อิ๋วเดินเช็ดน้ำตา  งอแงงอนเข้าบ้านไป

                    ตาก้วยก็งง ๆ และก็ไม่สนใจ  เดินหิ้วถุงขยะออกมาเพื่อจะออกมาทิ้ง  ก็มาเจอเข้ากับบิวที่ยืนขำอยู่ข้างนอก 

     

                    ตาก้วยคิดในใจ  -*- บิวยืนขำ  อิ๋วเดินร้องให้เข้าบ้าน  เอ๊ะ!? -_-*

    ก่อนที่บิวจะมองไปที่ตาก้วย  และนึกใจใจอุ๊ย!!  ซวยแล้วตู ^_^!  เรากำลังยืนขำยายอิ๋ว   ยายอิ๋วงอนเดินเข้าบ้าน  ตาก้วยเขาต้องคิดว่าไปทำอะไรมิดีมิร้าย  ยายอิ๋วแน่เลย  บิวก็ยิ้มแห้ง ๆ ให้กับตาก้วยที่ยืนขมวดคิ้วทำตาเขียวปั๊ดมองมาอยู่  ก่อนบิวจะเคลื่อนย้ายตัวเองวิ่งเข้าบ้านโดยเร็วไว

     

                    เมื่อบิวเดินขึ้นมาในห้อง  ก็ตรงเข้าที่โต๊ะเขียนหนังสือ  เพื่อที่จะทำการบ้านคณิตศาสตร์ต่อให้เสร็จ  หลังจากที่ไร้สาระมาเยอะแล้ว ( ก็แกเพ้อเจ้อ เองแท้ ๆ -*-! ) เมื่อบิว หยิบปากกาขึ้น  แล้วนั่งครุนคิดดูก็รู้สึกว่า  สงสารอิ๋วเหมือนกันแหะ  และทำให้บิวนึกย้อนไปถึงตอนที่อิ๋วมาอยู่ใหม่ ๆ อิ๋วยังนั่งเล่นกับลูกแมวตัวนี้อยู่เลย  คิด ๆ แล้วก็น่าใจหายเหมือนกัน  เพราะอยู่เป็นเพื่อนเล่นยามเหงากับอิ๋วมานาน  ก็ต้องรู้สึกเสียใจบ้างเป็นธรรมดา  ที่หน้าต่างของบ้านอิ๋ว  บิวเห็นอิ๋วเดินหยิบผาเช็ดตัวเพื่อที่จะลงไปอาบน้ำอยู่พอดี  หลังจากที่ตัวเปื่อนโคลนไปหมดเพราะไปฝั่งเจ้าลิตาร์  แมวตัวโปรดของอิ๋วเมื่อเย็นมา  บิวจึงตัดสินใจตะโกนออกไป

     

                    อิ๋ว.... อิ๋ว บิวยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง  เรียกอิ๋วที่บ้านอยู่ติดกัน  ทำให้เห็นกันได้พอดี  ก่อนอิ๋วจะเดินมาชะเง้อหน้าออกมาดูบิว พรุ่งนี้วันอาทิตย์  ไปซื้อแมวตัวใหม่กันไหม  ที่ตลาดนัด  ตัวเมืองนะ ?”^-^

     

                    อิ๋วเอวก็นึกประหลาดใจก่อนชั่วครู่หนึ่ง  เพราะร้อยวันพันปีบิวไม่เคยชวนเธอไปไหนเลยแต่ด้วยสัญชาตญาณอะไรบางอย่าง  หรือความรู้สึกลึก ๆ อะไรบางอย่างที่มีให้ต่อบิว  จึงร้องตอบไปแบบที่ยังคิดไม่ทันเสร็จ

     

                    พรุ่งนี้เหรอ   อืม!!” อิ๋วตอบเสร็จตอบออกมาด้วยใบหน้าที่เริ่มมีรอยยิ้มหลังจากที่เปื้อนมอมแมมไปด้วยคลาบโคลนและคราบน้ำตา

     

                    บิวรู้สึกตื่นเต้น  ดีใจอย่างบอกไม่ถูก  จนแสดงอาการ  สั่น ๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว  สายตกลอกแลก  เกิดอาการริมฝีปากแห้งขึ้นมาทันที  ทำให้ต้องเลยริมฝีปากบ่อยขึ้น  ก่อนสมองจะสั่งการณ์มาว่า  อยากจะคุยกับเธอต่อ  แต่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับเธอดี

                    ได้ ๆ  ^_^  แล้วง่วงนอนยัง  จะนอนยัง?  รีบนอนได้แล้ว  เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปเลือกแมวไม่ไหวนะ บิวทำอาการเป็นห่วงขึ้นมา  เพราะจิตใต้สำนึกสั่งออกมาว่า  รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่ทรู้

     

                    ทำไมละ  จะมาปลุกไปซื้อตั้งแต่ตีห้าหรือไงเธออิ๋วพูดเล่นกลับไป

                   

                    เออ  นั่นสิเนอะ  บิวรู้สึกว่า  ใช่สิ  เราพูดอะไรออกไปเนี่ย =”=

     

                    อืม  งั้นเดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ  เดี๋ยวหนาว  ไปและ  ฝันดีอิ๋วพูดเสร็จก็ปิดม่านลง  และเดินออกไปจากหน้าต่าง  ส่วนบิวหลังจากที่ยิ้มให้และโบกมือหยอย ๆ ให้อิ๋วเสร็จก็นั่งลงทำการบ้านต่อโดยที่หน้าตายังคงสดใสและเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ 

     

                    คืนนั้น  ไฟจากแสงนีออนได้ดับลงไปราว ๆ ครึ่งชั่วโมงได้แล้ว  ในห้องของอิ๋ว  อิ๋วนอน พลิกไปพลิกมาใต้ผ้าห่ม  ทั้ง ๆ ที่ร่างกายอ่อนเพลียมาจากการออกแรงขุดหลุมฝังเจ้าลิตาร์กับพ่อเก้วยของเธอ  และอากาศก็ดี  อาจจะเพลียอยู่บ้างแต่อิ๋วกลับไม่รู้สึกง่วงเลย  จึงทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน  ที่พรุ่งนี้  บิวจะพาไปซื้อลูกแมวตัวใหม่  ที่ตลาดตัวเมือง

     

                    จะว่าไปแล้ว  บิวคิดอะไรกับเราหรือเปล่านะ  ตั้งแต่กลับมาคบกันใหม่แล้ว รู้สึกบิวจะค่อนข้างเอาใจใส่เราเป็นพิเศษนะ  ตั้งแต่  ยอมมาสอนคณิตศาสตร์ให้ทุกเย็น  เล่นบาสก็มาแอบดูเราเล่น  และนี่ก็จะพาเราไปซื้อลูกแมวอีก  โถ่ ๆ จะพาเราไปเดิน เดทนะสิ อิอิ  >///<  รู้นะ ๆ และอิ๋วก็นึกจินตนาการอะไรบาอย่างได้ขึ้นมา

                   

                    ที่ตลาดตัวเมือง  เราเดินอยู่กับบิว  สองคน  กำลังอุ้มลูกแมวตัวใหม่  น่ารัก ๆ อยู่

                    บิว  นายอยากให้เจ้าลูกแมวตัวนี้ชื่ออะไรเหรอฉันจิกตาเยิ้มถามไปที่บิว

     

              อ๋อ  ก็แล้วแต่อิ๋วเลยครับ  ว่าอิ๋วอยากจะให้ตั้งชื่อว่าอะไรบิวทำหน้าหล่อตาเยิ้มมองมาที่ฉัน  โอ้  ช่างน่ารักจริง ๆ >///<

     

              เอ๋  จะให้ชื่ออะไรดีน้าฉันทำเป็นคิด   เพราะอยากให้บิวลองเอ่ย ลอย ๆ ออกมาเพื่อจะได้ตอบอกไปทันควันว่า  อืม เพราะดีนะ  งั้นเอาชื่อนี้ที่บิวพูดออกมาก็แล้วกัน

     

                    เอ่อ  คือ  อิ๋วครับ  เรื่องตั่งชื่อแมวเอาไว้ก่อนเถอะครับคือว่า  ผมมีอะไรบางอย่าง  อยากจะบอกครับ  อยากให้คุณอิ๋วรับรู้ไว้บิวทำสายตาจริงจังมาที่ฉัน

     

              มีอะไรเหรอคะ  บิว”@-@ ฉันทำตาปริบ ๆ มองกลับไป  เหมือนจะไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไร

     

                    คือ  ช่วยรับผมเป็นแฟนกับ  คุณอิ๋วด้วยนะครับ  โปรดรับความรักจากผมด้วยนะครับ  ผมสัญญาครับว่าจะไม่ทำให้คุณอิ๋วต้องผิดหวังเลยบิวก้มหน้าก้มตาพูดออกมาที่ฉัน  เป็นที่รู้กันว่าอาย

             

              โอ๊ย !!  อะไรของฉันเนี่ย >..<  คิดอะไรออกมา  นอนดีกว่า ( แหม  ทำเป็นคิดมาก  แอบมีใจเหมือนกันนะสิ )  แต่ถ้าเกิดว่า  บิวเกิดขอเราเป็นแฟนจริง ๆ ละก็  ลองคบดูก็คไม่เสียหายอไรแหละมั้ง >.<

     

                    และแล้ววันต่อมาก็มาถึงซึ่งเป็นวันพักผ่อนอีกวันหนึ่ง  ของหลาย ๆ บ้าน และเป็นวันพักผ่อนวันสุดท้ายของทุกคนในรอบอาทิตย์  ก่อนที่จะถึงวันจันทร์  วันแห่งความน่าเบื่อ   ในสายตาของหลาย ๆ คน  วันนี้ทั้งบิวและอิ๋วตกลงกันว่าจะออกจากบ้านประมาณ บ่าย สอง 

                   

    อิ๋วเองก็เป็นเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไป  ยังคงยืนลองชุดอยู่ต่างๆ นา ๆ โดยไม่ได้ดั่งใจสีกที >.< จนได้กางเกงยีนส์ขาสั้นสีฟ้าที่นาน ๆ ทีอิ๋วจะใส่  เพราะอิ๋วรู้สึกกางเกงค่อนข้างสั้น  จะเอาไว้ใส่หน้าร้อนเสียมากกว่า  แต่วันนี้ >///<  ให้ฝ่ายขายเขาได้เห็น  ขาขาว ๆ บ้างก็ดี  ^-^  กับเสื้อยืดสีเหลืองที่พอดีกับตัว  พร้อมกับแต่งหน้าบาง ๆ เพื่อไม่ให้ดูจืดจนเกินไป  แต่ไม่แรงจนเกินอายุ  และจัดผมหวีให้ดูเรียบร้อยติดกิ๊บสีเหลืองอีก 2 ตัว  ที่ด้านขวา  อิ๋วยืนส่องกระจก  หันซ้ายหันขวา พลางนึกในใจ  ทำไมเราน่ารักอย่างนี้เนี่ย ๑^[]^  คอยดูนะ  บิว  ถ้านายเห็น  นายจะต้องบอกว่า  โอ๊ย!!  อิ๋วน่ารักจังเลย  แน่ ๆ โฮะ ๆ  ^[]^  แต่ฉันรู้นะ  ว่านายไม่กล้าพูดออกมาหรอก  ได้แต่แอบคิดอยู่ในใจอย่างนั้น อิอิ  กลัวเสียฟอร์มใช่ม้า  อิอิ >///< ( แหะ ๆ หลงเข้าไปสิ  ตัวเองนะ )

     

              อิ๋ว !! บิวมารอตั้งนานแล้วนะ  ขึ้นไปตั้งแต่บ่ายโมง  นี่บ่ายสองโมงกว่าแล้วนะ  เสียงของแม่นิ่มดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่งเพื่อกระตุ้นลูกสาวตัวเอง  ให้เร็วขึ้นกว่านี่หน่อย

     

                    จ้า ๆ แม่!! เสร็จแล้ว อิ๋วตะโกนตอบลงไป  พลางหยิบกระเป๋าสะพายข้างสีขาว  และใส่นาฬิกาพลาสติกสีเหลืองเรือนใหญ่ ๆ เดินลงมาที่หน้าประตูบ้าน  ก็สามารถทำให้ลูกค้าข้าวมันไก่รุ่นไล่เลี่ยกัน  ส่งสายตามองตามได้  @[]@  อิ๋วเดินออกมานอกบ้าน  ก็เห็นบิวยืนผิวปากฟังเพลง  จากไอพอท ยืนผิวปากอยู่คนเดียว  วันนี้บิวใส่เสื้อยืดสีแดงลายแทบขวางสีดำ  กางเกงสามส่วนสีดำมีกระเป๋าเยอะหน่อย  นาฬิกาสีดำ  เท่านี้อิ๋วเองก็ทำให้รู้สึกประหม่าขึ้นมาได้ว่า  วันนี้จะได้เดินเที่ยวกับผู้ชายน่ารัก ๆ  สักที  อิอิ >///< ก่อนจะร้องเสียงดังออกมา

     

                    ไปกันยาง?  ยืนสะรึมทึม  อยู่นั่นแหละ”-*- อิ๋วทำคิ้วขมวดเหมือนกับว่าตัวเองรอบิวมานาน

     

                    อ่าว  มาแล้วเหรอ?  แหม  ตัวเองช้าเอง  ยังจะมา  บ่นคนอื่นอีก  ไปกัน ๆบิวเรียกอิ๋วให้เริ่มออกเดินทางกัน  และทั้งคู่ก็เดินคู่กัน  โดยรักษาระยะห่างเอาไว้  เพราะไม่ค่อยที่จะกล้าเดินใกล้กันมาก 

    ทั้งคู่  เดินออกไปตามถนนเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรนัก  เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกันดี  อิ๋วก็ไม่กล้าเริ่มพูดก่อนเพราะบิวเดินฟังไอพอทอยู่  เลยไม่อยากรบกวนเวลาของบิว  ส่วนบิวเองก็ไม่กล้าเริ่มพูดกับอิ๋วก่อนเหมือนกัน  แต่ไม่รู้จะทำยังไงเลยฟังไอพอทอยู่อย่างนั้น

     

    แล้วตานี่มันจะฟังเพลงของมันอีกนานไหมเนี่ย  อย่าว่าแต่แค่แอบชมเราในใจเลย  จะเหล่สักนิดก็ไม่มีเชยตามามองกันเลย  ตาบ้าเอ๊ย   อุตส่าห์วาดฝันไว้ว่าจะมาเที่ยวด้วยกัน   สนุก ๆ แล้วเชียว -*-  ก่อนทั้งคู่จะขึ้นไปนั่งบนรถสองแถวตรงหน้าปากซอยเพื่ออกไปยังตลาดนัดในตัวเมือง  เพราะว่าเป็นต้นสาย ทำให้รถจอดรอนานหน่อย   คนก็มาขึ้นกันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่บิวและอิ๋วเดินมา  คนก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  มีที่ว่างพอดี  บิวจึงว่า

    ว่างที่นึง  อิ๋วเข้าไปนั่งสิบิวให้อิ๋วเข้าไปนั่ง  อิ๋วก็เดินไปนั่งเพราะอยู่ข้างในลึกสุด  และแทนที่บิวจะมายืนคัยกับเธอตรงหน้า  บิวกลับออกไปยืนโหนตรงท้ายรถเสียอีก  ยังคงยืนผิวปากฟังไอพอทหน้าตาเฉย  เมื่อมีคนมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆจนเมื่ออิ๋วมองออกไปอีกทีก็ไม่เห็นบิวแล้ว

     

                    ที่ตลาดนัดในตัวเมืองของจังหวัดชลบุรี  เพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์  ทำให้คนค่อนข้างที่จะเนื่องแน่นกันขนัดตา  จะว่าไปแล้วก็คล้าย ๆ กับ  ตลาดนัดจตุจักรของกรุงเทพเนี่ยแหละ  ทางด้านหลังของตลาดจึงมีการเอาสัตว์มาตั้งร้านขายกันอยู่เกลื่อนกราดมากมาย 

                    บิวและอิ๋วเดินดูของอะไรต่อมิอะไรมาเรื่อย ๆ  เหมือนกับว่าต่างคนต่างเดินเสียมากกว่าจะมาเที่ยวด้วยกัน  เพราะต่างคนต่างมองอะไรไม่เหมือนกัน  เดินก็ห่างกันนิดหนึ่ง  และก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันมากมายนักเหมือนเดิม  ต่างถามคำก็ตอบคำ  บิวรู้สึกว่า หากเป็นอย่างนี้ไม่ดีแน่  ต้องชวนคุย  แต่ก็ไม่รู้ว่าจะชวน อิ๋วคุยเรื่องอะไรดี  จึงพูดออกมาว่า

     

                    แล้วยายอั๋นไม่มาด้วยเหรอ?”บิวลองถามถึงเพื่อนสนิทของอิ๋วดู  เพื่อลดความตึงเครียดให้กับตัวเอง

                    จากที่อิ๋วหงุดหงิดอารมณ์เสียเพราะการมาเที่ยวด้วยกันครั้งนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด  ทำให้อิ๋วลมขึ้นทันที  สวนกลับไปทันควัน

                    โถ่เอ๊ย!! ที่ชวนมาซื้อแมวกันนี่  เพราะอยากจะให้อั๋นมาด้วยนะสิ  นี่จะใช้ให้ฉันเป็นสะพานทอดไปหายายอั๋นใช่ไหมละอิ๋วทำเป็นพูดแบบไม่รู้สึกกระทบกระเทือนต่อคำพูดของบิว  แต่มันเป็นอะไรที่ทรมานใจมาก Y^Y

     

                    ไม่ใช่อย่างนั้น .. ก็เห็นว่า  เป็นเพื่อนสนิทกัน  จนตัวแทบจะติดกันไปไหนมาไหน  ก็เลยลองถามดูนะ”^_^! บิวรู้สึกหมดความมั่นใจไปกับคำถามแรกเสียแล้ว

     

              จากการที่บิวตัดสินใจเริ่มเป็นฝ่ายพูดก่อนก็ยิ่งทำให้  บรรยากาศ  ยิ่งย่ำแย่ไปกว่าที่ไม่ได้พูดเสียอีก  ทั้งคู่เดินเงียบกันอยู่อย่างนั้นมาตลอดทาง  จนกระทั้งทั้งคู่เดินมาจนถึงจุดขายสัตว์  เมื่ออิ๋วเห็นเข้ากับจุดที่เขาขายลูกแมว  ตาก็ลุกวาวและรีบเดินตรงเข้าไปตรงนั้นพอดี  จนบิวถึงกับต้องวิ่งตามต้อย ๆ

                    อุ๊ย ๆ ตัวนั้นน่ารักอะ!  ตัวสีเหลืองอะ!”อิ๋วพูดออกมาอย่างลืมตัว  ตาลุกวาวมองไปที่ตัวสีเหลือง  เป็นตัวที่ตาใสแป๋ว  เดินต๊อก ๆ มาเล่นกับอิ๋วด้วย  เมื่ออิ๋วก้มลงเล่นกับแมวตัวนี้

     

                    อืม  น่ารักดีนะ  ว่าแต่ อิ๋วชอบสีเหลืองเหรอ ? เห็นแต่งตัวก็สีเหลืองนะบิวจึงทำเนียนเหมือนว่าชั่วครูที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเริ่มต้นเปิดประโยคสนทนาใหม่  และดูเหมือนว่าจะไปได้ด้วยดีเสียด้วย

     

              อืม  เราชอบ  ก็มีสีอื่นด้วยแหละที่ชอบ  แต่นี่ ๆ มานั่งนี่เร็ว  มาช่วยดูหน่อย  ไอ้ตัวนี้ก็สวยอะ  สีสวาทอะ  ตัวนี้ก็ขี้อ้อนดีนะ  บิวว่าแมะ?” อิ๋วเรียกให้บิวลงมานั่งข้าง ๆ บิวก็ยิ้ม ๆ พลางสายหัวว่า  อะไรกัน  เมื่อกี้ยังยืนเงียบอยู่เลย  ตอนนี้เรียกเราเข้ามาช่วยเลือกแมวเสียแล้ว อิอิ ^//^ และบิวก็นั่งลงพลางช่วยเลือก

              ขณะอิ๋วกำลังเลือกดูลูกแมวอยุ่กับบิวอย่างลายตาไปหมด ไม่รู้ว่าจะเอาตัวไหนดี  มีลูกแมวอยู่ตัวหนึ่ง ตัวเล็กมาก ตาใส  ขนสวย  ตัวสีขาว  ตาและปากสีแดง  เดินเข้ามาเอาขาหน้ามาสะกิดมืออิ๋วที่อยู่ในกะบะ  แล้วร้องเหมียว ๆ เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ อิ๋วจึงหยิบขึ้นมาดู  ก็รู้สึกว่าน่ารักดี  ก่อนอิ๋ว จะเหล่ไปที่บิว  และก็ยกขึ้นมาสองตัว  ตัวสีส้ม  กับตัวสีขาว ขึ้นมาทำท่าครุนคิด  ก่อนจะเหล่ ๆ ไปทางบิวและตัดสินใจถามบิว

                    นายว่าตัวไหน  น่ารักกว่ากันละ?”อิ๋วลองถามความเห็นบิว

     

                    อ่าว  อิ๋วเลี้ยงอิ๋วก็เลือกเองสิ!!  เราไม่ได้เลี้ยงด้วยซะหน่อยบิวตอบอย่างมีเหตุผล

                    อิ๋วทำหน้าเซ็ง  แบบหมดอาลัยตายอยาก  โธ่เอ๊ย  นี่ตูอุตส่าห์ถามนาย  ให้นายเลือกให้ฉันนะเนี่ย  ตาทึมเอ๊ย -*- โถ่  อุตส่าห์ถามความเห็น อิ๋วอดหงุดหงิดไม่ได้  ที่บิวไม่เข้าใจ  ว่าในตอนนี้  เธอพร้อมที่จะเลือกตามที่บิวชอบแล้ว

     

                    เอาตัวสีขาวก็ได้นะ   น่ารักดี   ตาสีแดงด้วย  ดูท่าทางอยากจะมาให้อิ๋วเลี้ยงบิวพูดส่ง ๆ ไป  อาจน่ารักจริงอยู่บ้าง  แต่ไม่อยากให้อิ๋วโกรธมากกว่านี้  ก็ตอบ ๆ ไป

     

                    เหรอ  สีขาวเหรอ  แต่ว่า  สีส้มก็สวยนะอิ๋วเริ่มลังเล

     

                    อืม  นั่นแหละ  สีส้มก็ได้

     

                    โธ่ ! บิว  เต็มใจเลือกหน่อยสิ  =”=  งั้น  เอาตัวนี้แหละค่ะอิ๋ว  ยื่นตัวสีขาว  ที่บิวบอกว่าน่ารักในตอนแรกให้กับคนขายเพื่อคิดเงิน  อิ๋วทำทีหยิบประเป๋าตังค์  เมื่อได้ทีบิวก็ทำหน้าที่รีบควักกระเป๋าจ่ายเงินให้ตัดหน้า  เพราะเป็นคนบอกเมื่อวานเองว่าจะพาอิ๋วมาซื้อ 

     

                    และแล้วอิ๋วก็ได้ลูกแมวตัวใหม่สีขาว  มาอุ้มเดินเล่นกับบิวไปทั่วทั้งตลาด  แสดงอาการว่าไม่ค่อยจะเห่อสักเท่าไร  บิวเห็นอาการที่อิ๋ว  เล่นกับลูกแมวตัวนั้นด้วยความรักและทะนุถนอม  จึงพูดออกไปว่า

    นี่เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าที่จะมาถึงในวันที่ 27 นี้นะ”^-^

     

    คำพูดของบิวเมื่อชั่วครู่  ทำให้อิ๋วรู้สึกหวิว ๆ หน้าแดงขึ้นมาทันที   ที่บิวยังจำวันเกิดของอิ๋วได้  ก็แอบยิ้มขึ้นมามุมปาก

    นี่  บิวจำวันเกิดเราได้เหรอ?”>///< อิ๋วทำก้มหน้าเล่นกับแมว  เพราะกลัวบิวจะเห็นว่าเธอหน้าแดง

     

    แหม !! ใครจะไปลืมได้ละ  ก็เกิดหน้าเราหนึ่งวันนิ ฮาฮาฮา”^[]^

     

    โอยยย  ไอ้บิวบ้า  แกนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ  แกต้องรับผิดชอบกับความรู้สึกของลูกผู้หญิง  ที่ฉันรู้สึกดีด้วยในตอนเมื่อกี้เดี๋ยวนี้นะ  อิ๋วแอบเคืองเล็กน้อย

    ว่าแต่ของขวัญของเราละ  เมื่อไหร่จะได้  ซื้อให้ด้วยนะ  แลกกันไงบิวพูดออกมาเพราะลืทมตัว  กึ่ง ๆ อยากได้ของขวัญวันเกิดจากมือของอิ๋วเหมือนกัน  จึงแกล้งเอาเรื่องวันเกิดมาบังหน้า  เท่านั้นแหละ  ทำให้อิ๋วหยุดเดิน  ยืนนิ่งอยู่กับที่  บิวที่เดินเหลื่อมนำหน้าไปตัวครึ่งก็ชะงัก  หันกลับมามอง  อิ๋วทำตาขวางจ้องมาที่บิวทันที 

    โธ่เอ๊ย!!  ที่แท้ที่พามานี่ก็แค่อยากได้ของขวัญวันเกิดของตัวเอง  มาซื้อให้เป็นบุญคุณเป็นนะสิอิ๋วรู้สึกตัวเองว่า  ทำไมเรารู้สึกโกรธออกมามากมายขนาดนี้นะ

     

    เฮ้ย!!  อิ๋ว  เข้าใจผิดใหญ่แล้ว  มันไม่ใช่อย่างนั้นบิวพยายามอธิบาย  ก่อนอิ๋วจะรีบเดินฉึบ ๆ ไปแบบไม่รอ  ก่อนบิวจะพูดอะไรบางอย่างออกมาจนทำให้อิ๋วรู้สึกตัวได้

     

    ทำไมอิ๋วชอบมองเราในแง่ร้ายนักละบิวเองก็เริ่มรู้สึกงอนอิ๋วบ้างแล้ว

     

    ทำให้อิ๋วชะงักคิดขึ้นมาทันที  เอ๊ะ  นั่นสิ  ทำไมเราต้องมองบิวในแง่ร้ายเกินไปด้วยหรือว่า  เรากลัวว่าบิวจะคิดว่า  ที่เรามาในวันนี้ด้วยเพราะเราอยากมาเดินเที่ยวกับบิว  ไม่ได้อยากมาเพราะอยากได้แมว  จนทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองไป  อิ๋วสื่อสารกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังเอ่ยไปว่า 

    ก็เอาไว้วันเกิดบิวก่อนสิ

     

    เวลาผ่านไป  ทั้งคู่เดินเล่นด้วยกรันจนทั่ว  จนกระทั้งถึงตอนเย็นก็ทำให้ทั้งคู่เสียเงินช็อปมากมาย  ได้เสื้อผ้าต่าง ๆ ที่ตัวเองชอบติดไม้ติดมือมาพอสมควร  จึงตกลงกันว่าจะกลับ  เพราะฟ้าเริ่มมึดแล้ว  ทั้ง ๆ ที่แค่เพียงหกโมงเย็นเท่านั้นทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถสองแถวประจำทาง  เช่นเดียวกับขามา  เพราะว่าเป็นต้นสายทำให้รถยังโล่งอยู่  บิวรู้สึกโชคดีตรงที่ว่ารถคันนี้เพิ่งมาจอดรับคนทำให้ยังไม่มีใครขึ้มาเลย  อิ๋วจึงเข้าไปนั่งที่ข้างในสุดส่วนบิวก็เข้าไปนั่งใกล้ ๆ ข้าง ๆ

     

                    รถสองแถว กำลังมุ่งหน้าไปตามทางที่ได้เคยขับผ่านอยู่ประจำ  โดยเป้าหมายสุดสายนั้นอยู่ที่ซอยเข้าบ้าน ของ บิวและอิ๋วนั่นเอง  อิ๋วยังคงนั่งเล่นลูกแมวอยู่  เมื่อเธอหยุดเล่น ก็พบว่า  ตอนนี้ร่างกายด้านซ้ายของเธอกำลังนั่งติดกันกับบิว  จึงแอบเหล่ไปทางบิวหน่อย ๆ บิวก็ยังคงนั่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร  เธอจึงแกล้งนั่งเฉย ๆ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง  ไม่ได้ว่าอะไร  เพราะกลัวบิวเขยิบออกไป  ทั้ง ๆ ที่ข้าง ๆ บิวเป็นที่โล่งไปหมด  ไม่ค่อยมาคนนั่ง

                    เช่นเดียวกันกับบิว  ก็รู้สึกตัวเช่นเดียวกันว่า  ตอนนี้กำลังสัมผัสกับท่อมแขน  และสะโพกด้านข้างซ้ายของอิ๋วอยู่  นี่เป็นการถูกตัวครั้งแรกของวันนี้  และไม่ได้ถูกตัวอิ๋วมานานแล้วด้วย    ทำไมมันรู้สึกดีอย่างนี้  นิ่มไปหมด ^///^  อิ๋วก็ยังนั่งนิ่งเหมือนเดิมนี่หน่า  สงสัยจะยังไม่รู้ตัว  ขอให้เป็นอย่างนี้จนนถึงบ้านเถอะ

                    ทั้งคู่นั่งนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นเพราะ  ไม่อยากที่จะกระเถิบออกไป  อาจเป็นเพราะอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ด้วย  ทำให้ทั้งคู่ไม่คิดที่จะขยับตัวห่างออกจากกันเลย

     

                    วันแห่งความสุขของทุก ๆ ครอบครัวกำลังจะจบลง  เพื่อที่จะเข้าสู่วันแห่งการทำงานในวันพรุ่งนี้  เมื่อรถสองแถว มาจนถึงสุดสาย  ก็เป็นจุดหมายของทั้งคู่พอดี 

                    โห ! วันนี้ช็อปเยอะเลยนี่หน่าบิวแซวอิ๋ว ได้อย่างไม่เขินแล้ว เพื่อทำลายความเงียบ

     

                    อะไร ๆ ตัวเองเหอะ  เยอะแยะไปหมด  มาว่าคนอื่น

     

                    ไม่ได้ว่า  แค่พูดถึงเฉย ๆ มั่วแล้วอิ๋วบิวแซวอิ๋วต่อ

     

                    อืมจ่ะ  เอาเถอะจ่ะ  ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว  เถียงไปก็ไม่ชนะ-*- อิ๋วทำหน้าบุ้ยใส่

                    บิวสังเกตเห็นว่าอิ๋วถือของเยอะพอควร  เท่า ๆ กันกับเขา  แต่ดูท่าทางแล้ว  คงไม่หนักอะไรมาก  จึงมีความรู้สึกขึ้นมาว่ากลัวว่าอิ๋วจะหนัก

     

                    อิ๋ว  ของนะ  เราถือให้ไหมบิวลองถามไปดู  โดยไม่รู้ว่าเธอจะยื่นมาให้ถือหรือเปล่า

     

                    อืม  เราได้จะเล่นกับน้องแมว”^-^ อิ๋วยื่นให้บิว   จังหวะส่งของให้บิว  มือบิวก็ไปจับเข้ากับมืออิ๋ว  บิวรู้สึกถึงความเย็นของมืออิ๋ว  และนิ่มมากด้วย  >{}<

     

              อิ๋ว  หยิบแมว  ที่เธอใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายข้างของเธอออกมา  ตอนอยู่บนรถหลังจากที่อิ๋วเล่นกับแมวเสร็จก็เอาใส่ไว้ในกระเป๋า  โดยให้ยื่นหัวออกมา  ขณะเล่นกับลูกแมวอยุ่นั่นเอง  ทำให้  นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่อิ๋วคิด  แล้วอดที่จะขำให้กับตัวเองไม่ได้  ว่าฟุ้งซ่านอะไรออกมา ^///^

     

                    ว่าแต่  อิ๋วจะตั้งชื่อแมวตัวนี้ว่าอะไรละ?”บิวถามอิ๋ว ขณะกำลังเดินทอดน่องกันอยู่ 

     

              อุ๊ย ๆ ไม่จริง ๆ บิวรู้ความคิดเราได้ยังไงเนี่ย  นายเป็นพ่อมดสามมารถอ่านใจคนอื่นได้ยังไง ( บังเอิญเหอะ -*- ) นี่พูดออกมาตอนที่เราคิดอยุ่พอดีเลยนเนี่ย  หรือว่า  ความคิดของเราเมื่อคืน  จะเป็นจริง  โอ้วววว !!! >///<

     

                    ไม่รู้ดิ  ยังไม่ได้คิดเลยอะ  ตอนแรกก็ว่าจะตั้งชื่อว่าลิตาร์เหมือนดิม  แต่มันไม่ใช่ตัวเดิมแล้วอะอิ๋วก้มหน้าเล่นกับลูกแมวตัวใหม่ 

     

                    ใช่ ๆ มันเป็นคนละตัวกัน  สีก็ไม่เหมือนกันด้วย

     

                    แล้ว....?”

     

                    อะไรเหรอ ?”

     

                    บิวอยากให้ชื่อว่าอะไรละ  คือ  ลอง ๆ บอกมาแหละ  เผื่อจะได้เป็นไอเดียที่จะตั้งชื่อนะอิ๋วออกจะอายนิด ๆ ที่อยากจะตั้งชื่ออย่างที่บิวบอกอย่าในความคิดเมอคืน  แต่ทำเป็นพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อน  -///-

     

                    ไม่รู้ดิ  เราก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกันแหละ  ตัวนี้ตัวสีขาว  จะให้ตั้งชื่อว่าอะไรดีละ? ”บิวนึกในใจว่า  เลี้ยงเองก็ตั้งชื่อเองสิคับ  แต่ถ้าตอบไปอย่างนี้  โดนงอนกลับมาอีกแน่  -_-!

     

                    ลอง  ว่า ๆ มาดิอิ๋วอดที่จะหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่ได้  ว่าหากเป็นอย่างที่ตัวเองคิดจะตอบออกไปว่าอย่างไรดี

     

                    อืม  เริ่มเลี้ยงตอนหน้าหนาวอย่างนี้  ตัวสีขาวอยู่ด้วย  เออ!!..  สโนไวท์!! ไปเลย  ตัวเมียด้วยนิ  อิอิ”^.^บิวตอบส่ง ๆ ไป

     

                    โห !! เชยมาก  คิดได้ไงสโนไวท์ !? ชื่อไวท์ก็แล้วกันนะ  สั้น ๆ ง่ายดี  ตัวสีขาวด้วย  เพราะดีออก  เนอะ  ว่าไม้ ๆ ?เจ้าไวท์อิ๋วตัดบทพูดออกมาเอง  บิวทำหน้าเจื๋อน ๆ ( เหอะ ๆ ไวท์ เชยกว่าสโนไวท์อีกนั่น : บิว )

     

                    ความจริงอิ๋วเองก็อยากจะให้ตั้งชื่อว่าสโนไวท์เหมือนกัน  แต่  กลัวว่าบิว  จะคิดว่า  ตั้งชื่อตามที่บิวบอก  จึงเปลี่ยนมาเรียกไวท์แทน  ทำเป็นว่าอิ๋วคิดชื่อนี้เอง  และตัดสินใจว่า  ต่อหน้าบิวก็จะเรียกว่าไวท์  แต่ถ้าอยู่บ้านก็จะเรียก  สโนไวท์

              บิวเองก็รู้สึกดีมาก   ที่ได้พูดคุยและเดินด้วยกันกับอิ๋วอย่างนี้  จึงคิดออกมาว่า  จะทำยังไง  ให้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างนี้มากกว่าเดิมนะ  ถ้าได้ไปโรงเรียนด้วยกัน กลับบ้านด้วยกันก็ดีนะสิ  แต่ถ้าเราพูดออกไปแล้ว  อิ๋วจะรู้สึกยังไงนะ  ต้องรู้ความในใจเราแน่เลย  ว่าเราเริ่มคิด ๆ กับอิ๋วแล้ว

                   

                    จนกระทั้งฟ้ามืดสนิท  ทั้งคู่ก็เดินมาจนถึงหน้าบ้าน  มาหยุดอยู่ตรงกลางถนนระหว่างบ้านทั้งสอง  บิวมองหน้าอิ๋ว  เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างจะค้างคา เช่นเดียวกับอิ๋วที่เงยหน้าขึ้นไปมองบิวเหมือนกันพอดี  ทำให้อิ๋วต้องรีบก้มหน้า 

                    เอ๊ะ  มีอะไรนะ  จะพูดอะไรหรือเปล่า  ทำท่าอย่างนั้น  หรือ  หรือว่า  จะเป็นอย่างทีเราคิดไว้แบบเมื่อคืน  >[]<  โอ้ว !! ไม่นะ  ฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลย  เดี๋ยวก่อน  ขอเวลาเตรียมใจก่อน

                    อืม  งั้นเราเข้าบ้านก่อนนะ  บ๊ายบายนะ  ฝันดี ๆบิวโบกมือปะลก ๆ บ๊ายบายอิ๋ว  ( O[]O! อ่าว : อิ๋ว )

    บิวหันหลัง  กำลังเดินเข้าบ้าน  ในตัวเองเหมือนว่าขัดแย้งอะไรบางอย่าง  โธ่เอ๊ย  ในที่สุดก็ไม่กล้าพูดอีก  มาถึงขั้นนี้แล้ว  ก็พูด ๆ ออกไปเลย  ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว  ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่จะได้เริ่มสักทีละ บิวกำลังรวบรวม  ความกล้าที่จะพูดอะไรบางอย่าง

     

                    อืม  บาย!”อิ๋วพูดห้วน ๆ ทำโบกมือบ๊ายบายบิวคืน  -..- เฮ้อ  นึกว่าจะเป็นแบบที่เราคิดเสียอีก  แต่แอบใจหายนิด ๆ นะ 

     

    คำพูดบอกลาของอิ๋วที่พูดออกมา  ทำให้บิวหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มว่า  ซวยแล้วตู T{}T ดูท่าสาวจ้าวไม่ได้คิดอะไรกับเราเลยด้วย

                    และต่างคนก็ต่างแยกย้ายเดินกันไปที่หน้าประตูบ้านของตัวเอง   เรื่องราวของทั้งสองคนในวันนี้ก็จะจบลงด้วย  และเริ่มวันใหม่  เป็นบิวและอิ๋งเหมือนเดิม  แต่..... 

     

                    บิวอิ๋วย้อนออกมาเรียกบิว

     

                    หืม !? บิวเอะใจ  อิ๋วเรียกเรานี่หน่า  มีอะไรนะ?  แล้วบิวก็หันกลับไปดู

                    ขอบใจนะ  ที่ซื้อลูกแมวให้  เราจะดูแลมันให้ดีเลย  ไปนอนแล้วนะ  บ๊ายบายจ่ะ  ฝันดีนะคะบิว”^-^ อิ๋วพูดขอบคุณตามมารยาทด้วยน้ำเสียง  หวาน ๆ   บิวก็เคลิมตาลอย  ไปยันไหนต่อไหน  ก่อนจะหลุดจากภวังค์  และตัดสินใจพูดออกมา

     

                    เดี๋ยวก่อนอิ๋ว  แปปหนึ่งบิวพูดเรียกอิ๋วให้หันมา

     

                    หืม  อะไรเหรอ ?” อิ๋วหันมาทำตาโต  ว่ามีอะไรจะบอกกับเธออีก  เอ๊ะ  หรือว่า ?

                    เอาแล้วไงละ  บอกเลย  บอกไปเลย  มาถึงขั้นนี้แล้ว  แค่พูดออกไปเท่านั้น   และเป็นการเริ่มต้น  ที่จะ   จีบ  อิ๋วอย่างเต็มตัวด้วย  ให้อิ๋วรู้ไปเลยว่าเรากำลังจีบอยู่  เพราะถึงยังไง   สักวันอิ๋วต้องรู้อยู่แล้ว  เพราะเรารู้สึกแล้วว่า  เราชอบอิ๋ว

     

                    อิ๋ว  คือ...  เราอยากรู้อะไรหน่อยนะ

     

                    อาหะ  ว่าไง ?”อิ๋วก็อยากจะรู้ว่าบิวจะถามอะไร  เอาแล้ว ๆ >~<

     

                    เราอยากรู้อะ ว่า  อิ๋วมีแฟนหรือยังเหรอ ?”บิวรู้สึกทึ่งในตัวเอง  ที่พูดออกมาได้แล้ว  โอย  ตายแน่ ๆ อิ๋วรู้แล้วแน่ ๆ ว่าเราคิดยังไงอยู่  แต่อีกใจก็กลัวคำตอบจะออกมาไม่เป็นอย่างที่บิวคิด

     

                    อืม ๆ  ก็  ยังไม่มีอิ๋วออกจะหน้าแดงนิด ๆ ที่ถูกถามอย่านี้ 

     

                    เหรอ  อืม ๆ ถ้างั้น  พรุ่งนี้ไปเรียน  รอเราด้วยนะ  ไปโรงเรียนพร้อมกันนะมันเป็นคำพูดที่ดูเหมือนไม่มีอะไรที่นัดอิ๋วไปโรงเรียนด้วย  แต่บิวกลับรู้สึกว่าคำพูดเมื่อกี้  มันเปรียบเสมือนกับ  การได้  ประกาศจีบอิ๋วแล้ว 

     

                    อ๋อ!  อืม  ได้”^-^  อิ๋วยิ้มให้

     

                    อะ  โอเค ๆ งั้น !! พรุ่งนี้เจอกันนะ  บ๊ายบายครับบิวดีใจ  จนพูดครับออกมาไม่รู้ตัว

     

                    อืม  โอเค  เจอกัน ๆ ฝันดีนะอิ๋วพูดออกมาด้วยใบหนาที่ยิ้มแย้มก่อนเดินเข้าบ้าน 

                    ฝันดีนะ  คำพูดนี้เหมือนจะไม่มีอะไร  แต่บิวกลับรู้สึกว่า  รู้สึกดีชะมัดที่อิ๋วพูดออกมาอย่างนี้ 

     

    จนกระทั้งถึงวันรุ่งเช้า  ที่บ้านของบิว  เวลาราว ๆ เจ็ดโมงเช้า

                   

              ลุงเปรม สวัสดีค่ะ  ป้าบัวสวัสดีค่ะอิ๋ว ในคราบชุดนักเรียนมัธยมปลาย  เดินเข้า มาไหว้พ่อแม่ของบิว เฉกเช่นทุกวันหลังจากที่ไหว้พ่อแม่ของตัวเองที่บ้านเสร็จแล้วแล้ว

     

                    อ่าว  มาแล้วเหรอลูก ? เจ้าบิวมันยังไม่เสร็จเลย  แม่ปลุกตั้งแต่เช้าแล้ว  มันตื่นสายซะชินแล้วนะ”^-^ แม่บัวของบิวเผาลูกตัวเอง ก่อนจะกล่าวต่อ จะว่าไปแล้ว  บ้านเราสองคนก็อยู่ใกล้ ๆ กันก็น่าจะไปด้วยกันตั้งนานแล้วนะ  แล้วนี่ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงอยากไปโรงเรียนด้วยกันละ  หืม?  เห็นไม่ได้ไปเรียนด้วยกันมานานแล้วนี่  เมื่อคืนนี้  บิวมันมาบอกว่า  พรุ่งนี้ให้ปลุกด้วยจะไปเรียนกับอิ๋ว  แม่ยังงงอยู่เลยนะ  อิอิ  แสดงว่า  เมื่อวานไปเที่ยวด้วยกัน  แอบคุยความลับอะไรกันหรือเปล่านะ  อิอิแม่บัว ของบิวลองย้อน แซวถามดู  อิ๋วทำได้แค่  ยืนกัดปากบิดไปมา  กำที่จับกระเป๋าหนังของตัวองไว้แน่น  ก่อนจะอมยิ้ม  ก้มหน้าก้มตาเพราะไม่กล้าตอบออกไป ^///^

    แหมแม่ก็  พูดเกินไปน่า  เรื่องของหนุ่มสาวเราอย่าไปยุ่งเลยน่า  เดี๋ยวอิ๋วจะเขินเปล่า ๆ เนอะ  หนูอิ๋วเนอะ ฮาฮาฮาพ่อเปรมของบิวกำลังเปิดร้านอยู่  ก็ร่วมวงแซวอิ๋วด้วย

    แหม!! พ่อก็ ว่าแต่คนอื่น!”ก่อนแม่บัวจะตะโกนขึ้นไปที่ชั้นสอง บิวยังไม่เสร็จอีกเหรอ อิ๋วมารอแล้วนะ....

                    ครับ  เสร็จแล้วแม่แม่ของบิวพูดยังไม่ทันขาดคำ  เสียงบิวก็สวนลงมาพร้อมกับตัวของบิวในสภาพชุดนักเรียนรีบวิ่งลงบันไดลงมา แอบนินทาอะไรบิว  ให้อิ๋วฟังเปล่าเนี่ยแม่

                    เปล่าหรอก  ถ้าไม่บอกแม่  ตั้งแต่เมื่อคืนว่าวันนี้จะไปโรงเรียนกับอิ๋ว  แม่ก็ไม่บอกให้รีบ หรอกแม่บัวพูดสั่งสอนก่อนจะเข้ามากระซิบเข้าข้างหูบิว นัดสาวแล้ว  คราวหลังอย่าให้สาวเขารออีกนะ  รู้ไหม ฮาฮาฮา ^[]^  บิวหน้าแดงขึ้นมาในบัดดล  รีบผละตัวออกจากแม่ 

                    โอ๊ย แม่  ไม่ขนาดนั้นหรอก  งั้นบิวไปแล้วนะ  แม่หวัดดี  พ่อหวัดดีบิวรีบใหว้แม่ที่อยู่ใกล้ ๆ และพ่อที่อยู่หน้าร้านกำลังเปิดร้าน  เพราะไม่อยากให้อิ๋วรอนาน

     

                    ไปได้ยังเนี่ยอิ๋วทำหน้าเซ็ง ๆ ที่วันแรกก็ให้รอเสียแล้ว

     

                    โอ๋  ขอโทษนะ ๆ ไปกันบิว  เดินนำอิ๋ว  เชิงเชื้อเชิญให้อิ๋วเดินตาม  ก่อนจะเดินไปไหว้สวัสดี  พ่อก้วยและแม่นิ่มของอิ๋ว  ก่อนจะเดินทางไปโรงเรียนกันสองคน

     

                    นี่เป็นวันแรกที่บิวและอิ๋วเดินไปโรงเรียนด้วยกัน  ทั้งคู่คิดเหมือกันว่า  ถ้าใครที่โรงเรียนมาเห็นเข้า  ต้องนึกว่าเป็นแฟนกันแน่ ๆ อิ๋วก็คิดไปว่า   ถ้ายายอั๋มมาเห็นจะทำยังไงนะ  จะบอกว่าอะไรดี   แล้วเราจะมามัวคิดอะไรละก็เรา  ตกลงมากับเขาเองนี่หน่า -_-!  ส่วนบิวก็คิดได้ว่า วันนี้ได้เดินมาโรงเรียนกับผู้หญิงเสียด้วย  น่ารักอีกต่างหาก  อิอิ  ^///^  เป็นครั้งแรกเลยแฮะ  แท่ห์เหมือนกัน  คนอื่นต้องนึกว่าเป็นแฟนเราแน่ ๆ แต่จะว่าไปแล้ว  ถ้าเราได้อิ๋วเป็นแฟนคนแรก  ก็ดีนะสิ  อิอิ 

     

                    แล้ววันนี้ไม่ได้ไปเรียนกับอั๋นเหรอบิวลองถามถึงอิ๋วดู 

    เปล่า  เราไม่เคยไปเรียนกับอั๋นนะ  เจอกันที่โรงเรียนมากกว่านะ  แค่กลับบ้านด้วยกันเฉย ๆ

                    อ๋อ  อืม ๆจะว่าไปแล้ว  บิวก็ไม่เคยได้ไปโรงเรียนกับอิ๋วเหมือนกันจึงไม่รู้  ทำให้เขามีโอกาสที่จะได้ไปโรงเรียนพร้อมกัน  ทุก ๆ วัน

     

                    ทันใดนั้นเอง  บิวและอิ๋วซึ่งเดินคุยกันอยู่  ในถนนฝั่งตรงข้าม  มีนักเรียนชายหญิงคู่หนึ่งเดินตีคู่มาด้วยกันกับอิ๋วและบิวที่ฝั่งตรงข้าม  ผู้ชายถือกระเป๋าให้ผู้หญิงและเดินกระหนุงกระหนิงกัน  บิวจึงเกิดไอเดียขึ้นมาบางอย่าง O-O  หันเหล่ไปที่อิ๋วซึ่งเดินอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดออกไป  ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่พูดออกไปนี้  จะต้องทำให้อิ๋ว  แน่ใจแน่ ๆ ว่าเขา  กำลังจีบอิ๋ว  แล้วอิ๋วจะตอบกลับมาว่าอะไร  จะอยู่หรือจะไป  จะได้รู้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

     

                    อิ๋ว  เราถือกระเป๋าให้เอาไหม ?”-///- บิวทำหน้าเขิน ๆ ถามไป

                    อิ๋วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าบิวก่อนนิดหนึ่ง  ก่อนจะก้มหน้าลงมาเหมือนเดิม -///- เพื่อไม่ให้บิวรู้ว่าเขินอยู่  ก่อนจะหลบสายตาพูดออกไป

                    อืม! หนักนะ!?”อิ๋วพูดพล่าง  ยื่นให้  บิวก็รีบฉวยมาถือให้ทันที  ชั่วครู่หนึ่งก็เชิญอิ๋วคุยต่อ

     

              นี่  ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วนะ  เรื่องคณิตศาสตร์นะ  รู้เรื่องบ้างไหมเนี่ย!? ”บิวทำเสียงเข้ม  ที่เจ้าอิ๋วตัวดี  ทำท่าหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่องเลย

     

                    ก็พอรู้เรื่องบ้างแล้ว  ทำได้บ้างแล้วนะ  กว่าจะสอบก็ทำได้พอดีแหละ  ทำไมเป็นห่วงเราเหรอ !?”อิ๋วลองหยอดถามเป็น  ทำทีว่าแกล้งพูดเล่น  แต่อิ๋วคิดจริง

     

                    บิวยิ้มไม่พูดอะไร  มองตรงไปข้างหน้าแล้วเดินต่อ  ก่อนจะพูดออกมา

                    มั้ง!!” ^///^

     

                    ทั้งคู่เดินคุยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ กันอยู่  จนกระทั้งมาจนเกือบจะถึงทางเข้าของโรงเรียนแล้วนั่นเอง  ทางอีกฝั่งหนึ่ง  ก็กำลังุ่งหน้าเดินเข้าโรงเรียนเหมือนกัน  มีแบงค์  ท็อป  ต้อม  น็อทเดินมากันพอดี  จึงเห็นเข้ากับที่บิวและอิ๋วเดินคุยกันเข้าไปในโรงเรียน  ทั้งหมดยืนแข็งตะลึงกันอยู่  ว่าบิว หาแฟนได้แล้วเหรอ  ตอนนี้แบงค์  หน้าซีดกว่าใครทุกคน  ก็ตะลึง  ไม่สิ ไม่มั้ง  บิวไม่เคยมีแฟนนี่หน่า  ซวยแล้วตู  ประมาทมันไปหน่อย -[]-

     

                    ในขณะนั้นเอง  ที่บิวเดินเข้าโรงเรียน   จึงเห็นเข้ากับพวกเพื่อน ๆ กำลังเดินมุ่งหน้าเข้าโรงเรียนเหมือนกับเขาจากอีกทางหนึ่ง  อิ๋วเดินล่วงหน้าบิวเข้าไปแล้ว  บิวชะงักนิดหนึ่ง  ก่อนโบกมือทักเพื่อน ๆ และชี้นิ้วไปที่อิ๋วทีเดินเข้าไปก่อนแล้ว  และพูดออกมาไม่มีเสียง  มีแต่ลมว่า 

                    แฟน   ตู   เอง!!!”บิวป้องปากพูดออกมาแต่ลม  ก่อนชูมือที่ถือกระเป๋าอิ๋วขึ้นมาให้ดู  แล้วเดิน  อารมณฺดีเข้าไปหาอิ๋วต่อ

     

                    อะไรเหรอ  บิว?”อิ๋วเห็นบิวเดินตามมาช้า  จึงถาม

                    อ๋อ  ไม่มีอะไรหรอก  นี่ ๆ หิวข้าวไหม  ไปกินข้าวกัน  เดี๋ยวเลี้ยงบิวเปิดเกมส์รุก  อย่างเต็มตัว

                    เหรอ  จิงอะ ? ไปดิ!!” ^..^ อิ๋วเดินยิ้ม  ตามต้อย ๆ

     

                    แต่ว่าต้องอยู่กันแค่สองคนนะ  ไม่มีอั๋นนะบิวขอความเป็นส่วนตัว

                    ทำไมต้องไม่มีอั๋นละ  มีอะไรหรือเปล่าเนี่ยอิ๋ว  ดึงใหล่บิวโน้นให้ถอยมา

                    อ๋อ  เปล่า ไม่มีอะไร  ไปกันได้แล้ว หิวแล้วบิวเดินถือกระเป๋าของอิ๋วเดินล่วงหน้า

                    เฮ้ย  เดี๋ยวก่อน  มาบอกก่อน  เดี๋ยวนี้เลยอิ๋วรีบเดินตามเพื่อถามบิว  ว่าอะไรกันแน่  คิดอะไรแน่ถึงพูดมาอย่างนี้  หรือคิดเหมือนอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า   อิอิ ^-^

     

                    ขณะเดียวกัน  ทางฝั่งกลุ่มของเพื่อน ๆ บิว  แบงค์กำลังตกอยู่ในความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต  ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น  T~T ตอนนี้บิวมีแฟนไปแล้ว  งั้นแสดงว่า   เกมส์นี้ตูตกเป็นฝ่ายแพ้นะสิ  โอ้  แม่เจ้า  ไม่จริง  นี่ฉันแพ้เกมส์ที่ตัวเองเป็นคนตั้งเหรอ เนี่ย  โอ้  ไม่จริง T[]T

                    ในขณะนี้แบงค์รู้สึกอ่อนแอมาก ๆ เพราะรับไม่ได้ที่ราชาแห่งการจีบผู้หญิงอย่างเขา  ( เห็นเจ้าตัวเขาว่าอย่างนั้น  ในตอนแรก  -_- ) ต้องมาแพ้ในเกมส์การจีบผู้หญิง  เมื่อได้สติก็พบว่า  เพื่อน ๆ ในกลุ่ม  กำลังยืนล้อมรอบแบงค์อยู่แผ่รังสี ออร่าออกมาแทบทุกคน   ก่อน ท็อปจะเป็นตัวแทนในพิธีกล่าวนำของทุกคน   เอ่ยออกมาว่า

     

                    แบงค์  นายเองคงรู้ชะตากรรมสินะ  ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาย!? ”ท็อปพูดด้วยสายตาเย็นชา -_-

                    เกมส์นี้นายเป็นคนกำหนดขึ้น  และเกมส์นี้นายเป็นผู้แพ้เสียเอง  และสิ่งที่ต้องทำโทษแก่ผู้ที่แพ้  นายก็ได้กำหนดเอาไว้แล้ว!?” ต้อมทำสายตาเย็นชาออกมาอีกคน  ลอดผ่านแว่นออกมาที่แบงค์ 0-0

                    .....................น็อท  ทำสายตาเย็นชามั่ง  ( -_-! : น็อท )

     

                    พวกเรา  สำเร็จโทษ  รุมตบหัวมัน  ส่วนไอ้บิว  ค่อยให้มันทำพิธีปิดทีหลัง  ลุย!!!”ท็อปกล่าวเปิด

     

                    ทั้ง 3 ก็รุมเข้ามาตบหัวกัน  จนมันส์มือ  ตาม ๆ กัน  โดยกะจะให้บิวผู้ที่ไม่ได้มาตบด้วย  ทำพิธีปิดในตอนหลังตอนกลางวัน  ซึ่งแบงค์จะต้องเลี้ยงข้าวเพื่อน ๆ ด้วย  เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ด้วยกัน

     

                    ทางฝั่งของอั๋น  ที่ตอนนี้มายืนหนาวขาแข็งอยู่หน้าเสาธง  เพราะทุกเช้าอิ๋วและอั๋นจะต้องมานัดเจอกันตรงนี้ทุกเช้า  อั๋นรออยู่นานแล้ว  ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ไม่เห็นวี่แววแม้แต่เงาเพื่อนรักของเธอเลย เมื่ออั๋นโทรไปก็ไม่ติด

     

                    อีบ้าอิ๋ว  แบตมาหมดอารายตอนเช้าย่ะ  ทำไมเมื่อกลางค่ำกลางคืนไม่รู้จักชาทแบ็ตให้เรียบร้อยยะ” T[]T อั๋นบ่นกับตัวเองขณะโทรหาอิ๋ว  ไม่ว่าจะโทรเท่าไรก็ไม่ติด  เพราะอิ๋วแอบปิดเครื่องกันไม่ให้อั๋นโทรมาหาตามที่บิวสั่ง >///<  เพราะเธอกำลังนั่งกินข้าวกับบิวอย่างมีความสุข

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×