คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เหตุเกิดจากไอ้แบงค์
“เฮ้ยรู้แล้ว !!” แบงค์ตะโกนอย่างลืมตัวเมื่อมีอะไรบางอย่างพุ่งจี๊ดเข้าในสมอง ทำให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มทั้งสี่ต่างมองมาที่เขาโดยมิได้นัดหมายรวมทั้งบิวด้วย หลังจากที่เลิกเรียนและกำลังพากันเดินลงมาที่ชั้นหนึ่งของตึกเรียนในบ่ายแก่ ๆ วันหนึ่ง
“อะไร ! เรียกซะเหมือน ลืมปิดแก๊สไว้เมื่อเช้าแล้วมาเรียนงั้นละ”ท็อปพูดประชดเพราะตกใจในท่าทีที่พฤติกรรมแบงค์เรื่องการตื่นตูมของแบงค์ที่มักจะแสดงออกมาบ่อย ๆ ให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มตกใจประจำโดยไม่มีทีท่าว่าจะชินไปกับอาการของมันสักที
“โห ! ไอ้ท็อป ! ถ้าลืมปิดแก๊สไว้เมื่อเช้า ป่านนี้ไม่เหลือถังแก๊สให้กลับไปปิดพร้อมบ้านทั้งหลังด้วยหรอก ป่านนี้กลายเป็นบ้านย่างบาบีคิวกระทะร้อนไปเมื่อตอนสาย ๆ แล้ว”บิวเอ่ยพลางอดขำไม่ได้กับมุขของท็อปพร้อมช่วยตบมุขให้เสร็จสับ ขณะที่ทั้งห้าคนกำลังเดินออกจากตึกและกำลังมุ่งหน้าไปสนามหญ้าของโรงเรียน
“เดี๋ยวสิ แล้วพวกแกรู้แล้วเหรอ ว่าไอ้แบงค์มันรู้อะไร ?”ต้อมพูดออกมาอย่างสงสัยทำให้ทุกคนฉุกคิดตามได้ว่าลืมจุดประสงค์หลักไป
“รู้แล้วเว้ย !! ข้าว่าวันนี้พวกเรางดเล่นบอลสักวันละกัน !” แบงค์พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เหมือนว่ากำลังมีอะไรบางอย่างอยู่ในหัวอันเจ้าเล่ห์ของมันอยู่
“อ่าวเฮ้ยได้ไง !วันนี้มีอะไรแผลง ๆ อีกละ ? นี่รวมตังค์ซื้อบอลกันแล้วนะโว้ย !!”บิวพูดก่อนทำหน้าสงสัย เพราะทุกวัน ๆ หลังเลิกเรียนแล้วพวกเขาทั้งห้า จะต้องไปที่สนามเพื่อเล่นฟุตบอลด้วยกันทุกวันกับเพื่อนในห้องหรือไม่ก็เล่นกับเพื่อนห้องอื่นเป็นประจำ
“ข้าว่าวันนี้ไปเล่น ฟุตบอลในตู้ดีกว่า เหอะ ๆ ว่าไงพวกเรา !? ไปเล่นวินนิ่งบ้านไอ้บิวกัน”แบงค์ทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะเสนอสิ่งที่กลั่นออกมาจากสมองน้อยๆ ของมัน ว่าอยากจะไปเล่นเกมส์ฟุตบอลที่ฮิตที่สุดเกมส์หนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ในเครื่องเล่นเกมส์เพลย์สเตชั่นทู
แหะ ๆ -_-* มันเอาเข้าแล้วไหมละ ไอ้แบงค์ ไอ้เวรระกำส้มตำน้ำตก บิวพลางคิดในใจ ว่าคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่ซื้อเพลย์ทู ฯ มาเล่นในตอนเข้าม.6ใหม่ ๆ และไปเที่ยวป่าวประกาศโฆษณากับเพื่อน ๆ ว่าว่าง ๆ ก็มาเล่นกันได้นะอย่างใจบุญสุนทาน ไม่คิดว่าความเอื้อเฝื่อความใจดีของตนเองจะกลับมาทำร้ายเขาอย่างนี้ เอาแล้วไงละ และตอนหกโมงเย็นเราต้องไปติววิชาคณิตให้อิ๋วด้วย และจะทำไงละเนี่ย ตู T[]T ความจริงบอกยกเลิกอิ๋วไปวันหนึ่งก็ได้ แต่ไม่อยากหยุดไปสอนอิ๋วแม้แต่วันเดียวอะ >///<
“จะดีเหรอ ? ดูท่าทางคนอื่นเขาก็อยากเล่นบอลที่สนามกันนะ ข้านะไม่อะไรหรอก แต่ถามคนส่วนมากดูก่อนดีกว่า -*- ” บิวพยายามปกปิดพิรุธให้แนบเนียนที่สุด-_-!
แต่เมื่อบิวดูทีท่าของคนอื่น แต่ละคนก็มองมาที่บิวกันหมดและทำท่าครุนคิด เหมือมกำลังสังเกตอะไรในตัวบิวอยู่
“ไปเล่นวินนิ่งบ้านบิวเหรอ ก็เข้าท่านะ”ท็อปยืนท้าวคางคิ้วขมวดครุนคิด นั่นเอาแล้วไหมละ
“จะว่าไป พวกเราก็ไม่ได้เล่นวินนิ่งด้วยกันนานแล้วนะ”ต้อมยิ้มแย้ม เมื่อนึกถึงบรรยากาศเมื่อเดือนก่อน ที่ได้ไปเล่นวินนิ่งบ้านบิว อย่างสนุกสนาน นั่นไงมาอีกคนแล้ว
“เห็นมะ ๆ ฉันบอกแล้ว ที่สำคัญ คราวก่อนที่ฉันแพ้แกนะท็อป ฉันแค่ลองเชิงหรอก 555+”แบงค์หัวเราะร่า เพราะแผนการโน้มน้าวเพื่อนของเขาได้ผล
“เออ คือ ...... T0T”บิวนึก อะไรของพวกนี้มันว้ะเนี้ย สาบานได้ไหมว่าไอ้พวกนี้ไม่ได้นัดเตี้ยมกันมา ทำไมไอ้แบงค์มันถึงมีความสามารถการจับจุดของคนอื่นด้วยเนี่ย !?
“.............” น็อท
“เอาละ !! งั้นตกลงตามนี้ เดินไปกันก่อนเลย เดี๋ยวฉันไปบอกไอ้พวกที่รออยู่ที่สนามก่อน ว่าวันนี้พวกเราไม่เล่น แต่จะไปเล่นในทีวีแทน 555+”แบงค์ไม่รอช้า รีบวิ่งไปบอกเพื่อน ๆ คนอื่นทันที โดยทีไม่ได้สังเกตทีท่าของบิวเลย ว่ากำลังจะลงไปดิ้นชักน้ำลายฟูมปากแล้ว
“เฮ้ !!แต่ฉันว่า วันนี้มีการบ้านนะ พวกแกจำไม่ได้แล้วเหรอ ? เมื่อชั่วโมงที่สามนะ ที่อาจารย์ขนบธรรมเนียมประเพณี สั่งรายงานเดี่ยวภาษาไทยนะ” ( ฉันชื่อขนบเนียมจะ เดี๋ยวเหอะ ๆ เล่นไม่รู้เรื่อง : อ. ขนบเนียม ) บิวพยายามยกแม่น้ำทั้งห้าหกเจ็ดยันแปดถจำเป็นมารั้งเอาไว้ให้จงได้ เปรียบเสมือนตนเองเป็นขุนศึกนำทัพตั้งรับข้าศึก จนทัพของตัวเองแตกย่อยยับ แต่ก็นำกำลังเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่น้อยนิด ออกสู้กับข้าศึกต่อ มิให้เข้ามาย่ำยีแผ่นดินของตนเองได้ ก่อนต้อมจะเดินเข้ามากอดคอ และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ
“รายงานนะ ส่งเดือนหน้า จะรีบร้อนขยันอะไรวันนี้ ฉันว่าที่นายหาข้ออ้างอย่างนี้ ก็เพราะกลัวฉันจะย้ำแค้น แกเมื่อคราวก่อนใช่ไหม ที่ฉันชนะแกไปนะ ! หืม !?” เฮือก !! สติของบิวขาดผึงเหมือนโดนใครมาเหยียบหน้าแล้วหันมาเยาะเย้ยแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งหนีจากไป
“หนอยแกไอ้ต้อม !!ชนะครั้งหนึ่งทำคุยใหญ่ เดี๋ยวพอไปถึง แกมาเจอกับฉันคู่แรกก่อนเลยนะ จะสอนให้รู้ใครหมู่ใครจ่าใครสารวัติใครผู้กำกับ และใครผู้บัญชาการตำรวจสูงสุด !!”บิวยกมาทั้งกรมพูดอะไรออกไปไม่รู้ตัว ก่อนจะมารู้สึกตัวอีกที ทัพที่ตนเองยกไป แม้มีกำลังน้อยนิดแต่ก็ใจสู้ ตอนนี้วิ่งทะเลอทะล้าออกไป โดนธนูจากลูกจ๊อกยิงเจาะกบาลตายตั้งแต่ยังไม่สู้แล้ว
ในขณะที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปบ้านของบิว แต่ละคนก็คุยกันอย่างสนุกสนาน ต่างพูดข่มขวัญก่อนเกมส์กันถ้วนหน้า มีเพียงบิวที่เดินอมทุกข์อยู่ท้ายขบวนอยู่คนเดียว T^T แงง !! แล้วเราจะไปติวให้บิวยังไงละเนี่ย จะปฏิเสธไอ้เจ้าพวกนี้ก็ไม้กล้าด้วย มารู้สึกตัวอีกทีก็หลงคารม เดินต้อย ๆ ตามพวกมันมาแล้ว เหอะ ๆ ไม่ได้การณ์แล้วอย่างนี้
“นี่ ๆ พวกนาย แล้วจะกลับกันกี่โมงเหรอ”บิวใจไม่ดี ถามเพื่อน ๆ ทั้งที่เกรงใจเพื่อนๆ และอยากไปติววิชาคณิตให้อิ๋วพร้อมกัน ๆ
ทุกคนในกลุ่มมองหน้ากันก่อน จะยิ้มให้ ทำเอาบิวอดเสียวสันหลังไม่ได้ เอะ พวกมันยิ้ม มีอะไรหรือเปล่า ไม่นะ อย่าบอกนะว่า.... ไม่นะ ไม่ ( ไอ้นี่คิดคนเดียวแท้ ๆ -“- ) และแบงค์ก็เดินลดขบวนลงมาที่บิวและเข้ามากอดคอบิว
“หลังจากที่พวกเราเดินมา ก็คุยกันไป ต่าง ๆ นานา จึงรู้ว่า ดูท่าทางวันนี้นายไม่ค่อยสะดวกเท่าไร พวกเราเลยกะว่า เล่นกันแค่ถึงห้าโมงเย็นกันก็พอนะ”
“พวกแก
T~T”บิวน้ำตาเอ่อล้นออกมาปริ่มใสเป็นประกาย แหม ในที่สุดก็ไม่มีใครในโลกนี้ ที่เข้าใจฉันได้ถ่องแท้เท่ากับพวกแกนะสินะ
“และพวกเราก็คุยกันอีกว่า ในกลุ่มนี้ แก ! ไอ้บิว แกฝีมืออ่อนที่สุดในกลุ่ม ฉะนั้นพวกเราจะให้แกเล่นทุกเกมส์ !! และพวกเราจะเปลี่ยนกัน เพื่อยำแกทีละคน ๆ 555+”แบงค์หัวเราะร่วน น้ำตาไหล เช่นเดียวกับทุกคนที่เมื่อแบงค์พูดจบก็หัวเราะเยาะบิวกันบ้าง
ไอ้พวกบ้า เอ๊ย ฮืม ๆ !! -_-* ขอถอนคำพูดได้ไหม จะซึ้งเพื่อนซะหน่อย แต่ช่างเถอะ จะอะไรก็แล้วแต่ตอนนี้ไม่สนใจเท่ากับว่าพวกนี้ยอมกลับก่อนตอนห้าโมงเย็น อย่างนี้เราจะได้มีเวลาเตรียมตัวไปสอนอิ๋วตอนหกโมง หุหุ ^..^ ว่าแล้วบิวก็แอบยิ้มต่อหลังจากที่ทำท่าทำทางโมโหใส่เพื่อนเสร็จแล้ว
เมื่อมาถึงบ้าน หลังจากที่บิวเดินไปสวัสดีพ่อแม่ของอิ๋วเฉกเช่นทุกวันแล้ว เพื่อน ๆ แต่ละคนก็เข้าไปสวัสดีทักทายแม่และพ่อของบิวตามธรรมเนียมโดยที่ไม่ต้องบอก ทั้งพ่อและแม่ก็รับไหว้กันมือเป็นประวิง ก่อนบิวจะพาขึ้นห้องของตน ไม่รอช้าแบงค์รีบมาเปิดเครื่องเพลย์สเตชั่นและทีวีในห้องของบิวเหมือนกับว่าเป็นของตนเอง ดูมัน ๆ ดูพวกมันค่อนข้างจะมั่นใจในการเล่นกับบิวเหลือเกิน ว่าแล้วก็อดนึกน้อยใจไม่ได้ ที่บิวคิดว่าเล่นอยู่เป็นประจำแต่ทำไม ยังสู้พวกมันไม่ได้อยู่ดี T-T
ขณะเดียวกันที่บ้านของอั๋น ที่อยู่คนละซอยแต่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของอิ๋วนัก อิ๋วมักจะมาบ้านของอั๋น เพื่อนสนิทของเธอบ่อย ๆ เช่นเดียวกันกับวันนี้
อั๋นนอนฟังเพลง และร้องเพลงตามอยู่บนเตียงอย่างไม่อายใครเพราะอยู่กับอิ๋วแค่สองคน และอิ๋วเองก็ชินแล้วเช่นกัน ในห้องของอั๋นถูกประดับประดาไปด้วย โปสเตอร์ของดาราและนักร้องอยู่เต็มไปหมด เพราะอั๋นเป็นผู้ที่ค่อนข้างเรียกได้ว่าบ้าดาราพอควร ตามประสาวัยรุ่นสิบเจ็ดสิบแปดจะเป็น ส่วนตัวอิ๋วนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของอั๋น กำลังนั่งทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์อยู่
“ทำอะไรของแกอยู่วะอิ๋ว ?”อั๋น นอนดูปกซีดีที่กางออกมา พลางคิ้วขมวดเพราะนอนอ่าน ก่อนถามเพื่อนสนิท ที่ดูทีท่าว่า กำลังนั่งทำอะไรอยู่ที่โต๊ะตัวเก่งของเธอ
“อ๋อ ! ทำวิทย์อยู่นะ แกไม่ทำเหรอ ?”อิ๋วเอียงคอไปถามอั๋นก่อนชั่วครู่หนึ่งก่อนจะทำต่อ
“เออ ๆ ทำเหอะ ๆ แต่ทำไมแกมาขยันอะไรเอาตอนนี้ละ ? ไปทำที่บ้านก็ได้นี่”อั๋นลองถามกลับเพราะไม่เข้าใจว่าทำไม อิ๋วต้องมาขยันอะไรเอาตอนนี้ด้วยอย่างกับอาจารย์นัดส่งการบ้านตอนหกโมงเย็นที่บ้านอย่างนั่นแหละ >///< ( หมายเหตุ = อาจารย์สอนวิทย์หล่อนิดนึง : อั๋น )
อิ๋วนิ่งก่อนพักหนึ่ง เพราะที่เธอนำการบ้านมาทำเอาตอนนี้ก็ไม่ได้จะหลงอาจารย์อย่างที่อั๋นเป็นหรอก ถึงแม้ว่าจะหล่ออย่างที่อั๋นบอกก็จริง แต่ก็เพราะเพื่อที่จะได้ทำให้เสร็จ ๆ และจะได้เอาเวลาที่เหลืออยู่ตอนเย็นไปให้บิวสอนวิชาคณิตให้ ก่อนจะทำโมเมตอบไปอย่างเป็นทำนองข้ออ้าง
“ก็ ทำให้มันเสร็จ ๆ ไปนะ ตอนเย็นจะได้ มีเวลาดูทีวีไม่ต้องพะวงอะไร”จากที่ฟังดู คำตอบของอิ๋วค่อนข้างเป็นอะไรที่ น่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
“ออ อืม ๆ”ก่อนอั๋นจะนิ่งไปต่อพร้อมกับหลับตาร้องเพลงออกมาเหมือนเดิม อั๋นก็นึกขึ้นอะไรมาได้ จึงลืมตาเหลียวตามามองร้องถามอิ๋วไปอีก “แล้วตอนนี้กลับมาสนิทกับบิวแล้วเหรอ”อั๋นถามพลางมองอิ๋วที่กำลังหันหลังให้เพราะนั่งอยู่บนโต๊ะทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของอิ๋วที่สะดุ้งเล็กน้อยเพราะอั๋นถามถึงบิวเอาตอนที่เธอนึกถึงบิวอยู่พอดี
“ก็ ไม่เชิงนะ ก็แค่เพิ่งเริ่มคุยกันเอง ที่เห็นตอนทำการบ้านนั่นก็ คุยกันครั้งแรกเลยนะ”อิ๋วตอบ ๆ ไป พลางตีไม้บรรทัดขีดเส้นใต้การบ้านด้วยปากกาแดงของเธอ
“อ๋อเหรอ ! อืม ๆ ก็เห็นเคยบอก เคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่าไม่ได้ คุยกันแล้ว”อั๋นพูดถึงสิ่งที่ยังสงสัยเรื่องที่ว่า อิ๋วเคยเล่าให้ฟังว่าไม่ได้คุยอะไรกับบิวมานานแล้ว แต่ที่เธอเห็นเหมือนกับรู้สึกว่าสนิทสนมกันดี พลางนอนดูปกซีดีต่อ
และแล้วก็เป็นไปตามผลโพลที่ออกมาอย่างเป็นเอกฉันท์ บิวโดนเพื่อนรุมถล่มอย่างย่อยยับไปทีละคน ตามคาด
“เรียบร้อยครับ จบแมทย์ โดนอีกแล้วนะไอ้บิว ฮาฮาฮา”ท็อปนั่ง เยอะเย้ยอย่างสบายใจ อยู่ข้าง ๆ บิวที่นั่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ หลังจากที่น็อท เล่นยิงถล่ม ไป 5 - 0 ก็เออ ใช่สิข้ามันไม่เก่งเท่าคุณพ่อเทพบุตรนี่
“เออ รู้ว่าเก่ง ๆ ไหน ๆ ใครยังไม่ได้ยำข้าให้หนำพระทัยอีก !? เข้ามาเลย เดี๋ยวพ่อเตะเข้าประตูตัวเองให้ !”บิวเริ่มน้อยใจ เพราะเล่นมาได้แค่ สามคู่ ก็โดน ต้อม 4 - 1 โดน ท็อป 3-0 และล่าสุดโดนน็อทไป 5 - 0 เป็นอันจบพิธี
“มา ๆ เหลือข้านะเว้ย ! ไอ้บิว มา ๆ เดี๋ยวข้าจะประนีประนอมนะไม่ยิงแกหรอก แต่ข้าจะเลี้ยงเข้าโกลแกไปเลย ฮาฮาฮา”แบงค์เดินเข้ามาหยิบจอยต่อจากน็อท เมื่อทุกคนได้ยินแบงค์สบประมาทก็พากันหัวเราะตาม ๆ กัน เพราะการโดนเลี้ยงบอลเข้าประตูเป็นอะไรที่ หยามศักดิ์ศรีมาก ๆ ในวงการเปมส์วินนิ่ง
“เออ !เอาไงก็เอา !! หมดแล้ว ตู หมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง T^T”บิวพูดพลางเลือกทีมไปมา เพราะไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปให้มันยำดี เพราะทีมที่คิดว่าเจ๋ง ๆ และถนัดก็เล่นไปหมดแล้ว และโดนยิ่งถล่มต้อนรับกลับมาทุกนัด ขอไม่บอกชื่อทีมนะ เดี๋ยวจะเสื่อมเสียเพราะไอ้บิว ฮาฮาฮา ( แกก็มาร่วมวงล้อเลียนกับเขาด้วยเหรอ : บิว )
ในขณะที่แบงค์รับจอยจากน็อท เพื่อมารับช่วงยำบิวต่อนั้นเอง ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้แบงค์และบิวที่กำลังจะเข้าเกมส์เล่นต้องชะงักก่อนชั่วครู่หนึ่ง เช่นเดียวกับท็อปและต้อม ทุกคนต่างพร้อมใจกันงงว่าเป็นเสียงโทรศัพท์ใคร เพราะไม่มีใครคุ้นหูกับเสียงเพลงที่ได้ยินมาก่อนเลย ก่อนที่ข้อสงสัยของทุกคนจะมาหยุดชะงักและเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เมื่อน็อทที่เพิ่งเล่นเกมส์เสร็จเมื่อสักครู่ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมา ซึ่งเป็นต้นเสียงโทรศัพท์ที่พวกเขาสงสัยอยู่นั่นเองจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนข้างขวาขึ้นมาดูเบอร์ก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่มอย่างมีลับลมคมใน และเดินนำสายตาของเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คนไปที่หน้าต่างที่ไว้วางโต๊ะหนังเขียนหนังสือของบิว พลางยื่นหน้าออกนอกหน้าต่างไปตรงทิศทางหน้าต่างห้องของอิ๋วที่ถูกปิดอยู่และยืนยิ้มก่อนจะกดรับโทรศัพท์ขึ้นมาพูด อย่างอารมณ์ดี
“จ้า ๆ ว่าไงจ๊ะ หืม ? อ๋อ วันนี้น็อทมาเล่นเกมส์บ้านเพื่อนนะ เลยไม่ได้โทรไปหาเหมือนเช่นทุกวัน ตอนแรกน็อทก็กะจะโทรไปบอกอ้อมแอ้มเหมือนกันแหละนะ แต่ว่าน็อทลืม อิอิ ขอโทษที หา !? เปล่านะ ๆ !ไม่ได้โกหกจริง ๆ แหม !! น็อทก็มีแต่อ้อมแอ้มคนเดียวนะแหละจริง ๆ สาบานได้ ขอให้หัวใจของน็อทที่มีแต่อ้อมแอ้มคนเดียวหยุดเต้นไปตอนนี้เลยก็ยังได้นะ จริง ๆสิจ้า งั้นเดี๋ยวน็อทขอไปเล่นเกมส์กับเพื่อนก่อนนะ โอ๋ ๆ ๆ !! อย่าโกรธนะ คือตอนนี้น็อทอยู่กับเพื่อนอยู่นะ เดี๋ยวกลับบ้านไปแล้วน็อทจะโทรไปหาทันทีนะ จริง ๆ สัญญาเลย ! จ้านะจ้ะ จ้าคิดถึงจะ อะโอ๋ ๆ ๆ !! รักด้วย ๆ จุ๊บ ๆ แค่นี้ก่อนนะจ้ะ จ้าบ๊ายบายจ้า จุ๊บ ๆ ! ”เมื่อพูดเสร็จก็วางหูไปโดยที่รอยยิ้มจากหน้าตี๋ ๆ ของน็อทยังไม่เสื่อมคลาย แต่เมื่อน็อทหันมา O[]O !! นี่คือสภาพหน้าของทุกคน เพราะว่าไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เห็นสิ่งทีได้ยินตรงหน้ากันสักคน ก่อนน็อทจะมองกวาดเพื่อน ๆ ไปรอบ ๆ ด้วยสายตาตี่ ๆ พลางเก่าหัว “.............ไร....เหรอ =..=”
“มานี่เลยไอ้น็อท ! ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไร ไม่บอกกันมาเลย แหมพวกเราก็เห็นเงียบ ๆ ทำซุ่ม ๆ มานี่เลย มาตบกะโหลกเลย !!”ท็อปรีบ กระโดดขึ้นไปล็อกคอน็อท และโน้มคอลงมาใช้ฝ่ามือที่หนาและใหญ่ตบไปที่ด้านหลังของศีรษะด้วยความหมั่นใส ปนอิจฉา ชื่อน่ารักด้วย สงสัยตัวจริงต้องน่ารักแน่ ๆ ฮึม อิจฉาโว้ย เสียงที่ได้ยินจากแรงกระทบระหว่างฝ่ามือกับหัวไอ้น็อทออกมาดังกังวานดีนักแล สร้างแรงดึงดูดให้กับเพื่อน ๆ เข้ามาลง ประชาทัณฑ์ เพราะหมันไส้กันเป็นแถว
ในขณะเดียวกัน ที่บ้านของอั๋น อิ๋วก็ทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์จนเสร็จ โดยที่อั๋นยังคงนอนเกลือกกลิ้งบนที่นอนดูนิตยสารดาราอยู่
“เสร็จแล้ว !! เย้ ๆ !! นี่เธอไม่เอามาทำบ้างหรือไง !? ยายอั๋น”อิ๋วดีใจ ที่ว่าเย็นนี้จะได้ไม่ต้องมีงานค้าง จะได้ติววิชาคณิตได้เต็ม ๆ พลางเก็บสมุดและหนังสือรวมทั้งเครื่องเขียนใส่กระเป๋าและถามเพื่อนเพื่อแสดงความเป็นห่วง
“อ๋อ ฉันเหรอ เดี๋ยวค่อย เฮ้ย ๆ ๆ ๆ !!! นี่ไง ๆ ยายอิ๋ว !!”อั๋นร้องออกมาเมื่อเจอเข้ากับอะไรบางอย่างในหนังสือนิตยสารดารา พลางทำตาโตหยิบหนังสือขึ้นมาดูใกล้ ๆ
“เออ อะไร ๆ ก็พูดมาดิ ฉันจะไปรู้อะไรด้วยไหมละ !?” อิ๋วพูดพลางเอี้ยวตัว กันไปดูว่ายายอั๋นเป็นอะไร
“นี่ไง ๆ !ไอ้ปอมห้องหนึ่งไง ที่ได้เป็นดาราหนังดาวรุ่งนะ ได้ลงหนังสือด้วย ! มาดูดิ”อั๋นเก็บอาการไม่อยู่เมื่อได้เห็นดาราที่ชื่นชอบ ที่สำคัญอยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเธอทั้งคู่ทำให้อดที่จะรู้สึกใกล้ชิดกับดาราคนนี้ไม่ได้ แต่อยู่คนละห้อง อั๋นเอ่ยพลางรีบกระโดดจากเตียงนอนเอาเข้ามาให้อิ๋วดู
“เหรอ ไหน ๆ ? เออ น่ารักดีอะ แต่เมื่อวานก็เห็นตัวจริงอยู่นะ แวบ ๆ ในโรงอาหาร ตัวจริงก็หล่อดีเหมือนกันนะ แต่รู้สึกในหนังสือจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตัวจริง”อิ๋วชะเง้อดูรูปดาราจากหนังสือของอั๋น ที่อยู่สถาบันเดียวกับตน และอดที่จะหลุดอาการของผู้หญิงทั่วไปไม่ได้
“ใช่ ๆ นี่ ๆ พูดจะหาว่าคุย ฉันได้ลายเซ็นเขามาแล้วนะ นี่ไง !!”เธอเอ่ยออกมาพลางก้มลงไปที่ลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือที่อิ๋วนั่งอยู่ ก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษที่ถูกเขียนด้วยปากกาเมจิก ตัวใหญ่ ๆ ดูยังไงก็อ่านไม่ออก อิ๋วเดาได้ทันทีว่าต้องเป็นลายเซ็นแน่ ๆ อ่านออกแต่ข้อความที่อยู่ใต้ลายเซ็นนั้นว่า มอบให้แก่อั๋นครับ อั๋นภูมิใจเสนอหยิบขึ้นมายื่นให้อิ๋วดูเต็ม ๆ โดยที่อิ๋วรู้สึกว่าดูอั๋นค่อนข้างภูมิใจที่ได้ลายเซ็นของปอมมาเหลือเกินก่อนอั๋นจะพูดเสริมขึ้นว่า “ที่สำคัญตัวจริงยังไม่มีแฟนด้วยนะ ^.^”
“จริงเหรอ !ไปถามเขามาแล้วเหรอ ? ถึงรู้นะ” อิ๋วลองถามแบบทำหน้าเจ้าเล่ห์ ปรพมาณว่ายายนี้ไปรู้มาได้ไง ทั้ง ๆ ที่อยู่กับฉันมาตลอด แต่ถึงแม้จะแวบไปถามก็น่าจะเล่าให้ฟังนานแล้ว
“เปล่าหรอก ฉันสังเกตดูนะ บ้า !! ใครเขาจะเข้าไปถามตรง ๆ กันละ !? โถ่เอ๊ย ! อยากเรียนห้องหนึ่งชะมัด เผื่อฉันจะมีโอกาสฟลุกบ้าง อิอิ” อั๋นทำหน้าเคลิบเคลิ้ม
“เหรอ จ้า =”= ”อิ๋วทำตาแป๋ว ใส่ พลางยิ้มหวานให้เหมือนกับเยาะเย้ยกับความฝันของอั๋น
“บ้า ! ฉันก็พูดเล่นไปงั้นแหละ ฉันยังไม่อยากมีแฟนอะไรตอนนี้หรอก”อั๋นเปลี่ยนอารมณ์ก่อนจะเดินไปปล่อยตัวให้ล้มลงนอนที่เตียงอ่านหนังสือต่อ
อิ๋วส่ายหัวก่อน จะหันมานั่งเอาคางไปเกยกับโต๊ะ และมองออกไปนอกหน้าต่างพลางดูท้องฟ้า และนึกถึงอั๋นว่า จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่เธอคบกับอั๋นมาตั้งแต่ม.1 ที่ได้อยู่ห้องเดี่ยวกัน ถึงแม้ตอนม.ปลายจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแล้ว แต่ก็สนิทกันอยู่ตลอดอิ๋วจึงรู้สึกว่า อั๋นไม่เคยมีแฟนเลย เช่นเดียวกันกับตนเอง ที่ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน เอ ดูท่าทางคนที่เขามีแฟนกัน ดูค่อนค้างจะมีความสุขแหะ
“จะว่าไปแล้ว เราสองคน ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ก็ไม่เคยมีแฟนกันเลยเนอะ !?”อิ๋วเกยคางกับโต๊ะพลางเอ่ยออกมาเสียงอ่อย
“อืมใช่ ๆ แล้ว ?” อั๋นนอนคว่ำหน้าอ่านหนังสือบนเตียงนอน กระดกเท้าเล่นอย่างสบายอกสบายใจ
“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันนะ ?ว่าคนที่เขามีแฟนจะเป็นยังไง ? ชักเริ่มอยากมีแฟนบ้างแล้วสิ”อิ๋วนั่งเหม่อตาลอยออกไปนอกหน้าต่างเหมือนว่ากำลังพูดอะไรออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว
“ไม่ได้นะ !!!” อั๋นปิดหนังสือนิตยสารทันที ตะโกเสียงแข็งพลางกระเด้งตัวลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถจากนอนมานั่งทันทีทันใดแล้วทำตาเขี้ยวปั๊ดมองไปที่อิ๋ว ทำให้อิ๋วสะดุ้ง หลุดจากภวังค์ทันที หันมามองอั๋นอย่างหวดกลัวพลางคิดในใจ ตายแล้ว ไปไรไปแล้วเพื่อนฉัน ไม่ได้อยู่หน้าร้อนซะหน่อย ทำไมอยู่ดี ๆ เป็นโรคบ้าขึ้นมา ประมาณว่าเป็นอะไรของมัน อยู่ดี ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา จะทำอะไรเราหรือเปล่าเนี่ย -_-!
“จะมามีแฟนอะไรตอนนี้ไม่ได้นะ !! ยังไม่สมควรมีอะไรตอนนี้หรอก ฉันเห็นพวกที่หมดอนาคตเอาดื้อ ๆ เพราะหลงผิดไปคิดมีแฟนในวัยนี้มาเยอะแล้วนะ !!”อั๋นเปลี่ยนอารมณ์ในบัดดล หันมานั่งทำหน้าจริงจังพร้อมยกตัวอย่าง อย่างมีเหตุผล
“อืม ๆ ก็รู้แล้ว ฉันก็พูดไปอย่างงั้นนะแหละ อย่าคิดมาก”ด้วยความกลัว อิ๋วก็บอกปัด ไปก่อน ว่าเพราะอะไร ทำไม ยายอั๋น ถึงเดือดดาลออกมาได้ขนาดนี้
ในขณะที่ แบงค์กำลังยิงปิดท้าย ลูกที่แปด ให้ตัวเองชนะบิวไปอย่างสบายมือ ในห้องนอนของบิวที่นั่งกันอยู่ด้วยกันทั้งห้าคน
“วะฮะฮะฮะ !! บิวเอ๊ยเป็นข้าเลิกเล่นเลยนะเนี่ย !โดนขนาดเนี้ย ประมาณว่ากลัวเข็ดขยาดวินนิ่งกันไปแลย ฮา ๆ ๆ!!”แบงค์ได้ทีเยาะเย้ยต่อ
“เออ ๆ เอาเหอะ เฮ้ย !!ห้าโมงแล้ว ! กลับกันได้แล้ว ! ฉันจะได้ นั่งหลบมุมถ่ายมิวสิค ร้องให้คนเดียวว่าโดนเพื่อน ๆ ไล่ยิงเละแบบนี้”บิวพูดพลางน้อยใจ
“แหม ! มันก็เป็นแค่เกมส์คอมพิวเตอร์น่าบิว แต่ข้าว่านะ แกเลิกเล่นเหอะ ฮา ๆ ๆ !!” ต้อมอดไม่ได้ที่จะมาเยาะเย้ยต่อ พลางลุกขึ้นมายึดเส้นยึดสายเพราะนั่งลุ้นนั่งเล่นอยู่กับที่มาเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน !! ไอ้น็อท!!แกยังไปไหนไม่ได้ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน แกแอบไปมีแฟนมาตั้งแต่เมื่อไรวะ !?” ท็อปเอ่ยอย่างสงสัยเป็นตัวปลุกความคิดที่อยู่จิตใต้สำนึกของทุกคนว่ามีคำถามนี้ค้างคาอยู่ในกันอยู่ ซึ่งภายในวันนี้ต้องการรู้คำตอบกันให้ได้
“........แล้วใครบอกว่าฉันแอบละ พวกนายไม่ได้สังเกตกันเองต่างหาก ก็คบมาได้สองเดือนแล้ว -///- น็อทพูดพลางทำหน้ายิ้มอย่างเขินอาย
“โห ! อิจฉาเว่ย ๆ”ท็อปบ่นน็อทไปก่อนนึก เออ ก็จริงของมัน เห็นมันนิ่ง ๆ เงียบๆ เหมือนจะไม่คิดอะไร เลยทำให้เราไม่ได้สนใจอะไรมันเลย เผลอ ๆ บางครั้งมองไมเห็นมันอยู่ในกลุ่มเลยด้วยซ้ำเพราะความเงียบของมันพลางเก็บกระเป่าสะพายของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวสะพายกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านกันอยุ่นั่นเอง แบงค์หัวใส และเจ้าเล่ห์ก็คิดแผนอะไรบางอย่างออก อิอิ ตอนนี้เรามีแผนดี ๆแล้ว หาผลประโยชน์ใส่ตัวเองดีกว่า หุหุ
“เฮ้ !!โยว !ทุกคน ฟังทางนี้ก่อน !!”แบงค์ยืนทำท่าชูไม้ชูกางแขนอยู่ในห้อง เหมือนพวกที่กำลังจะโชว์ปาหี่กลางถนนตามเมืองนอกแต่ก็ได้ผลเป็นอย่างดี ทำเอาทุกคนในห้องที่กำลังจเดินออกจาห้องของบิว ต่างมองกันมาเป็นตาเดียวไปกันที่แบงค์ ว่าหมอนี่มันมีอะไรมาเล่นกับเพื่อนอีก
“เอาอย่างนี้กันดีไหม ? เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่เบื่องลึกในจิตใจของทุกคนเรามาแข่งเกมส์อะไรสนุก ๆ กันดีกว่า ! กติกาไม่ยากขอให้ตั้งใจฟัง โดยกติกามีอยู่ว่า ในกลุ่มเรามีทั้งหมดห้าคน ทุกคนในกลุ่มจะต้องหาแฟนและมาอวดเพื่อนกันให้ได้เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีตัวตนกันจริง ๆ ใครที่หาไม่ได้และเหลือคนสุดท้ายเมื่อไหร่ ! จะต้องโดนเพื่อนๆในกลุ่มลงประชาทัฌฑ์ตบหัวรอบวง !! ฮาฮาฮา ! และเท่านั้นยังไม่พอผู้แพ้จะต้องเลี้ยงข้าว เพื่อน ๆ ในกลุ่มด้วย ! ต้องเลี้ยงทุกวันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ !! โดยเกมส์นี้เราจะยกผลประโยชน์ให้จำเลยไป เพราะน็อทมีไปก่อนแล้ว จึงถือว่าน็อทมีแฟนไปแล้วคนแรกก็ถือสิทธิ์ไม่ต้องเล่นเกมส์นี้ไป ที่เหลือจะต้องหาแฟนกันมาให้ได้ ! ว่ายังไงทุกคน !! ฮะ ๆ ๆ!!”แบงค์หัวเราะร่วนอย่างสะใจ พลางคิดในใจ หน้าตาอย่างเรา ทรงผมอย่างเรา รวมไปทังคารมณ์อย่างเรา จะมีแฟนไม่ใช่เรื่องยากอะไรอยู่แล้ว ฮะๆ ๆ หาเรื่องกินฟรีได้อีกเรา ฮะ ๆ ๆ \ \^{}^/ /
“อะไรของแกไอ้แบงค์ !? คนที่หาแฟนไม่ได้ต้องโดนตบหัวและเลี้ยงข้าวฟรีอย่างนั้นหรอ !ปัญญาอ่อนวะ!”ท็อปส่ายหัวในความไร้สาระ ของแบงค์ -*- แต่ก็คิดอยู่ในใจ จีบผู้หญิงเหรอ สำหรับเราไม่ได้เป็นเรืองยากอะไรอยู่แล้ว โอกาสชนะมีสูงมากๆ เพราะหาแค่ผู้แพ้ไม่ได้หาผู้ชนะ ใครสามารถหาได้ก่อนไม่มีผลต่อเกมส์ แค่มีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว หุหุหุ โอกาสการกินข้าวฟรีมาแล้ว ถึงปากจะบอกไปว่าไร้สาระ แต่เมื่อคิดอย่างนี้ เจ้าตัวก็คงเอาด้วยแหละ
ส่วนน็อทก็ “..........( ตูเนียน ลอยตัว หิหิ ).......”
“นี่นี่ !!ฉันขอถอนตัวได้ไหมละ เพราะตั้งแต่เกิดมาฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอยู่ตลอด ไม่เคยมีแฟน !ไม่เคยจีบผู้หญิงเลยนะ !! ถ้าฉันเล่นด้วย ก็เท่ากับว่า ฉันต้องโดนพวกนายตบหัวและเลี้ยงข้าวพวกนายมาแต่เริ่มแล้ว” ต้อมบอกถึงความคับแค้นใจ
“ไม่ได้ !!”แบงค์ ท็อป น็อท หันมาประสานเสียงกันตะคอกเสียงแข็งพลางทำสายตาที่อบอวลไปด้วยไอแห่งความอำมหิต เพราะต้อมถือเป็นตัวกินนิ่มหรือตัวเต็งเลี้ยงข้าวของทุกคน จะปล่อยให้เลิกเล่นไม่ได้ ทำให้ต้อมต้อมกลัวหงอ หน้าหดเหลืออยู่สองนิ้ว ก่อนที่ทั้งแบงค์และน็อทจะหันมามองที่ต้อมพลางทำสายตา =[]=! แกก็ด้วยไม่ใช่เหรอ ที่เมื่อสักครู่บอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ก่อนต้อมจะทำสายตา -+- มองไปที่ทั้งคู่เป็นสื่อว่า เออเอานะเลยตามเลย
บิวคิด นี่มันอะไรกันเนี้ย ดูท่าทางทุกคนจะเห็นดีเห็นงามไปกับไอ้เกมส์ไร้สาระของ ไอ้แบงค์กันหมดเลย เอาวะ !! ทุกคนเอาด้วยกันหมดเลย ก็เหมือนกับการบังคับอยู่กราย ๆ แหละว่าเราต้องเล่นด้วย แต่ก็อดคิดไม่ตกว่า จะหาใครละทีนี้ตู ไม่เคยจีบผู้หญิงด้วย ( มั้ง ) เพราะไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียที ได้แต่คุยแบบผ่าน ๆ และก็ผ่านไป เพราะไม่กล้าจีบเขา เอานะ ไว้ไปตายเอาดาบหน้าละกัน -*-
หลังจากที่ต่างคนต่างชุลมุนกับแผนการพิเรนท์ ๆ ของไอ้แบงค์ได้สักครู่ บิวก็เดินออกมาจากบ้านเพื่อมาส่งเพื่อนที่ปากซอยซึ่งกำลังเดินนำหน้าบิวและหันมาคุยกันในกลุ่มอย่างสนุกสนาน บิวก็ดูนาฬิกาข้อมือที่ยังไม่ได้ถอดออก เป็นเวลา ห้าโมงสิบห้า จึงกะไว้ว่า เมื่อไปส่งเจ้าพวกนี้ที่ปากซอยเสร็จเมื่อไหร่ จะรีบกลับมาอาบน้ำแต่งตัวทันที เพื่อไปเตรียมตัวสอนอิ๋วทำคณิตในไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมื่อเขากำลังวางแผนอะไรไปพลาง ๆ อย่างมีขั้นมีตอนอยู่นั่นเอง ก็เห็นอิ๋วที่กำลังนึกถึงอยู่พอดีมาแต่ไกลโดยนั่งซ้อนท้ายจักรยานอั๋นซึ่งอั๋นขับมาส่งอิ๋วที่บ้านให้ เพราะบ้านอั๋นอยู่ไม่ไกลนักอย่างที่เคยอ้างอิงให้ฟังในตอนต้น เธอจึงปั่นจักรยานไปมาหากันได้สะดวก
อั๋นปั่นจักรยาน มาจนถึงกลุ่มของบิว ที่กำลังเดินสวนออกไปเพื่อจะแยกย้ายกันกลับบ้านอยู่นั่นเอง ทุกคนในกลุ่มก็เหลียวหลังหันมามองตามรถจักรยานของอั๋น ซึ่งเป็นปกติของสัญชาตญาณลูกผู้ชายที่จะต้องมองผู้หญิงเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม
เมื่อจักรยานถูกขับผ่านกลุ่มของ แบงค์ น็อท ท็อป และต้อมก่อนที่จะขับผ่านบิว เพราะบิวเดินอยู่ท้ายขบวนสุด บิวก็มองไปที่อิ๋วซึ่งซ้อนท้ายจักรยานอยู่ ส่วนอิ๋วก็มองมาที่บิวซึ่งเดินอยู่ข้างทาง ทั้งคู่มองหน้ากันพอดีและก็ต่างยิ้มให้กันตามมารยาทของคนรู้จักที่มาค้ำคออยู่ ก่อนอิ๋วจะถามย้อนมา
“ไปไหนบิว !?”อิ๋วถามขณะหันหลังกลับมามองที่บิวซึ่งกำเดินสวนเธอไป อั๋นเป็นคนขับจักรยานไม่เร็วนัก ทำให้บิวได้ยินเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ของอิ๋วอย่างชัดเจน
“อ๋อ !!ไปส่งเพื่อนแป็ปนึง”บิวตอบไปแบบยิ้มที่มุมปาก พลางทำมือชี้ไปที่ปากซอยอย่างไม่รู้ตัว
“รีบมาละ !! รอ !”อิ๋วพูดดังขึ้นเพราะรถถูกขับผ่านหน้าบิวไปไกลแล้ว เป็นการจบประโยค ก่อนจะหันหน้ากลับมาเหมือนเดิม
บิวเองก็มองตามอิ๋วที่ซ้อนท้ายจักรยานของอั๋น ค่อย ๆ ขับเข้าไปในซอยบ้านซึ่งเขาเพิ่งจะเดินออกมาเพื่อไปส่งเพื่อน ๆ ทั้งสี่จนค่อยๆ ลับตา โดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่า เพื่อน ๆ เขาได้มายืนล้อมบิวอยู่กันหมดแล้ว และทำตาละห้อยมองไปที่จักรยานคันนั้นเหมือนบิว
“เฮ้ยใครวะ ? น่ารักวะ!!”ท็อปกระซิบกับบิว
“อืมน่ารักดีเนอะ !? ชื่ออิ๋วนะ อยู่ห้องสี่ บ้านอยู่ข้าง ๆ บ้านข้าเองนะเว้ย !! ใครจะจีบห้าม !!”บิวยังคงยิ้มอย่างภูมิใจเพราะอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทราบสาเหตุว่าจะภูมิใจทำไม แต่ก็ดักคอเพื่อน ๆ ไว้หมดแล้ว
“ไม่ใช่เว้ย ! หมายถึงคนขับนะ”ท็อปเบรกบิว บิวหน้าแตก แบบหมอปิดร้านหนี ไม่รับปะรับเย็บ
“อ่าว ! อ๋อ !! ชื่ออั๋นนะ อยู่ห้องสองนะ ทำไมเหรอ ชอบนะดิ !”บิวเปลี่ยนกลับมาแซวท็อปกลับบ้าง พลางเดินไปกันต่อ หนทางออกสู่ถนนใหญ่ออกนอกหมู่บ้านอยู่อีกไม่ไกลนัก
“เฮ้ยเปล่า ๆ ! ข้าแค่รู้สึกว่าเขาน่ารักดีเท่านั้นเอง แกเหอะ ๆ ไอ้บิว แหม !! เมื่อกี้ถึงกับพร่ำเพ้อเชียวนะแหม ๆ เอาดิ ๆ ๆ อิ๋วก็น่ารักดีนะบ้านอยู่ใกล้ ๆ ด้วย”ท็อปเองก็ไม่ยอมแพ้ พลิกกลับมาเป็นผู้คุมเกมส์เหนือกว่าอย่างหน้าด้าน ๆ
“โอย !! ไอ้บ้า เป็นเพื่อนกัน ไม่หรอก”บิวเองก็แอบเขินเหมือนกัน ๑-_-๑ แต่ทำฮึกเหิมปกปิดว่าไม่คิดอะไร ก่อนที่ท็อปจะเข้ามาใกล้ ๆ กอดคอบิวแล้วมาพูดข้าง ๆ บิว
“นี่ ๆ อย่าพูดไปละ ! เอาอย่างนี้เอาเปล่า เดี๋ยวแกจีบคนอิ๋วไป ส่วนฉันจะจีบคนที่ชื่ออั๋นโดยนายคอยเป็นพ่อสื่อเรื่องอั๋นให้ฉัน ส่วนฉันจะคอยสอนวิธีให้นาย เพราะเห็นว่านายไม่เคยคบกับใครมาก่อนนี่ จะต้องจีบไม่เป็นอยู่แล้ว !! ถ้าจีบได้แล้วนะเราสองคนก็แท็กทีมกันมีแฟน และรอกินข้าวฟรีอย่างสบาย ๆ เลยนะ !! ฮาฮา ! ว่าไง เห็นด้วยไหม ? ข้อเสนอฉัน หืม !? สนเปล่า ๆ ?” ท็อปยื่นข้อเสนอดี ๆ ให้ ทำเอาบิวถึงกับคิดหนัก เอ ที่ท็อปพูดมาก็น่าสนใจแหะ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเลย จะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเลี้ยงข้าวคนอื่น และที่สำคัญได้คบกับอิ๋วด้วย โฮะ ๆ ๆ ^[]^ เอ จะตกลงกับข้อเสนอนี้ดีไหมนะ ขณะที่บิวกำลังทำท่าครุนคิดอยู่นั้นเอง
“วะ ฮะ ๆ ๆ !! เฮ้ย ไอ้บิว !! ล้อเล่นหรอกนะ ! ฉันแค่จะดูอาการของแกเห็นปากบอกมาว่าไม่ชอบ ๆ ที่แท้นี่แกก็ชอบเขาจริง ๆ ด้วย แหม ! เอาไปคิดใหญ่เลยนะ ไอ้คนปากแข็ง ชอบเขาก็บอกมาเหอะ ฮะ ๆ ๆ !!เฮ้ยพวกเรา มีอะไรจะบอกเกี่ยวกับไอ้บิวแหละ !! ไอ้บิวมัน....”ท็อป สะใจหลังจากหักหลังเพื่อนได้สำเร็จ และกำลังจะเล่าเรืองราวนี้ให้ทุกคนฟังกลบเกลื่อนเรื่องของตัวเอง ให้เป็นคำถามต่อไปว่าคิดอะไรกับอั๋นอยู่หรือเปล่า
“เฮ้ย!! นี่แก ! อย่านะเว้ย !ไอ้ตัวแสบ !!”บิวพูดไปแบบอายสุด ๆ พลางเอามืออุดปากเพื่อนเอาไว้ทัน เพราะเสียรู้และเกือบเคลิ้มตอบตกลงไปตามแผนไอ้ท็อปซะแล้ว นี่มันน่าจับมาหั่นศพแล้วโยนบ่อจระเข้โยนกรงเสือและเอาบางส่วนไปขุดหลุมฝังและไปโยนทะเล ให้ตำรวจหาชิ้นส่วนไม่เจอเวลาขึ้นศาลเสียจริง !! ( โห ไอ้นี่ อำมหิตวะ !! )
นาทีนั้นเอง ก็ทำให้บิวฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ก็จริงอยู่ ว่าคิดอยู่เหมือนกันเรื่องอิ๋วนะ แต่จะทำยังไงละ ยายอิ๋วคงไม่เล่นด้วยแน่ ๆ เพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วจะเป็นแฟนกันได้ยังไงละ อยู่ดี ๆ จะให้เป็นแฟนกัน คงโดนด่า ๆ ๆ บ่น ๆ ๆ ก่อนจะตอบปฏิเสธตามประสาอิ๋แน่ ๆ -*-! แต่จะว่าไปแล้ว แฟนคนแรกของเรา ถ้าได้อิ๋วมาเป็นแฟนก็ดีนะสิ หุหุหุ ๑^_^๑
ความคิดเห็น