ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักใสใส ในเดือน ธันวาคม

    ลำดับตอนที่ #2 : ความสัมพันธ์ที่กำลังกลับมาอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 50


                    จริงอยู่  ที่การทะเลาะกันของพ่อก้วยของอิ๋ว  และพ่อเปรมของบิว  จะมีให้เห็นอยู่เป็นประจำ  จนเป็นอะไรที่ชินตาของทั้งสองครอบครัวนี้ไปแล้ว  แต่การที่บรรดาบุพการีฝ่ายชายของทั้งคู่ทะเลาะกันครั้งล่าสุดตามที่ได้อ้างอิงให้ท่านผู้อ่านได้เข้าไปอยู่เหตุการณ์ด้วยเมื่อสักครู่นั้น  นับเป็นครั้งแรกที่ทะเลาะกันโดยมีบิวและอิ๋วอยู่ในเหตุการณ์ด้วย  ในรอบสามปี  o[]o  จนทำให้  ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันและได้มีการสื่อสารต่อกัน  เพราะตั้งแต่ที่ทั้งคู่ขึ้น ป.ปลายมา  ต่างก็ห่างเหินกัน ไปติดเพื่อนของตนเองที่โรงเรียนมากกว่าเพื่อนที่สนิทกันในวัยเด็กอย่างนี้  หลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นม.ปลายมาแล้ว  เวลาที่ตาก้วยกับตาเปรมทะเลาะกัน ( ถึงแม้ว่าคนจับแยกจะเป็นบรรดาแม่ ๆ ของทั้งสองฝ่ายก็เหอะ ) ทั้งอิ๋ว  และบิวมักจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเพราะมักจะกลับบ้านเย็น  ถึงกลับบ้านมาเร็ว  อีกคนก็กลับเย็นกว่าอยู่ดี  เป็นอย่างนี้อยู่นาน  จนทั้งคู่แทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย  จะเจอก็ต่อเมื่อพบเห็นแบบผ่าน ๆ ที่โรงเรียน  แบบคนหนึ่งเห็นอีกคนไม่เห็น  จนเมื่อทั้งคู่ได้พบหน้ากันได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน  ทำให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า  เพิ่งได้ทำความรู้จักกันใหม่ ๆ กลับมาอีกครั้ง

                    หลังจากวันนั้นมา  เมื่อบิวได้เจออิ๋วที่โรงเรียน  หรือไม่ว่าจะที่ไหนก็มักจะทักทายมากขึ้น  โดยส่วนมากจะเป็นฝ่ายบิวเอง  ที่จะเข้าไปทักก่อน ( นิดนึง ๆ  >///< : บิว ) แต่ถึงแม้ว่า  ทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์ที่คืบหน้ากว่าเดิมขึ้นมาแค่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ก็เหอะ  แต่ทั้งคู่ก็ยังคงไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันนัก  เพราะเรียนกันคนละห้อง  และต่างคนก็ต่างมีจุดหมาย  มีอะไรให้ต้องทำไม่เหมือนกัน  จึงเป็นอะไรที่  ต่างคนต่างอยู่กันกันเหมือนเดิม

     

     

                    ตกค่ำวันหนึ่ง  ในคืนวันพุธ  ท้องฟ้าที่อยู่เหนือหลังคาบ้านของอิ๋ว  เริ่มมืด  ไม่ใช่เพราะว่าฟ้าฝนกำลังจะมาเยือนแต่อย่างใด  แต่เป็นเพราะเป็นตามธรรมชาติของ  เหมันตฤดู  ของเดือนพฤศจิกายน  ที่ได้คืบคานเข้ามาเยี่ยมเยียนได้สองถึงสามอาทิตย์แล้ว  ทำให้ท้องฟ้า  ที่ก่อนหน้านี้เคยมีฝนมืดครึ้ม เมื่อเดือนก่อน  กลับกลายเป็นมืดครึ้มเพราะ  พระอาทิตย์ที่รีบด่วนตกดินเร็วกว่ากำหนด  เหมือนจะลาเจ้านายกลับบ้านไปทำธุระอะไรสักอย่าง  และเข้ามาแทนที่โดยหมู่ดาวมากมาย  ที่แข่งกันแปล่งประกายเหมือนจะรู้สึกว่าออกมาทำงาเร็วขึ้นกว่ากำหนด   ระยิบระยับจนเหลือคณานับ  รายล้อมพระจันทร์ที่เด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง

                    เวลาราว ๆ หนึ่งทุ่มเศษ  ผัดผักถัวฝักยาว  ปลานิลทอดซีอิ้ว  ต้มจืดเต้าหู้ไข่  และน้ำพริกปลาทูทอดร้อน  กำลังถูก 3 แม่ลูกผลัดกันตักกับข้าวเข้าจานข้าวของตนเอง  ที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว  ที่แปลงสภาพมาจากโต๊ะของลูกค้าในยามเปิดร้าน  และกลายเป็นโต๊ะกินข้าวสำหรับครอบครัวในยามปิดร้าน  พลางดูทีวีไป  เพราะละครตอนหัวค่ำสำหรับครอบครัว  กำลังฉายอยู่อย่างเข้มข้น  อิ๋วนั่งบนเก้าอี้และตักข้าวจากจานข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะเข้าปาก  โดยสายตายังคงจับจ้องไปที่  นางเอกที่กำลังทะเลาะอยู่กับนางอิจฉา  โดยมีแม่ของพระเอกมาผสมโรงด้วย  พร้อมกับแม่ของอิ๋วที่นั่งอยู่บนเก้าอี้  ใช้ช้อนกลางตักน้ำพริกใส่จานข้าว  พลางคลุกกับข้าวและเนื้อปลาทูก่อนตักใส่ปาก  เช่นเดียวกัน  สายตายังจับจ้องอยู่ที่ทีวี  มีเพียงตาก้วยเท่านั้น  ที่นั่งยอง ๆ อยู่บนเก้าอี้  ใช้มือซ้ายถือถ้วยข้าว  และใช้มือขวาที่จับตะเกียบ  โกยข้าวเข้าปากอย่างกับจะรีบไปเก็บผ้าเมื่อยามพายุเข้า  โดยไม่สนอะไรจนปากเปรอะเลอะเทอะไปหมด ( อะไรกะพ่อฉันนักหนานี่แก -_-* : อิ๋ว )  ส่วนที่พื้น  ลิตาร์ก็ก้ม ๆ ทำหัวกระด๊ก ๆ กินข้าวขยำกับปลาทูทอดรสโอชาอยู่

                    แม่นิ่มจ๋า  อั๋วขอข้าวอีกพ่อก้วยชายวัยกลางคนเชื้อสายจีนแท้ ๆ ยิ้มแฉ่งพลางยื่นถ้วยข้าว  ให้แม่นิ่มโดยที่บริเวณรอบ ๆ ปากเต็มไปด้วยเม็ดข้าว

                    อาว !! พี่ก้วย  พี่นี่ก็แปลกเนอะ จะรีบกินไปไหนเนี่ย  นั่งกินสบาย ๆ เหมือนคนอื่นเขาก็ไม่ได้แม่นิ่มหญิงวัยกลางคน  เชื้อสายจีนห้าสิบเปอร์เซ็นต์  วางช้อนจากจานข้าวตัวเองก่อนหยับถ้วยสุดรักของสามีมาตักข้าวสวยใส่  จากหม้อข้าวที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ

                    ใช่ ๆ !! ป๊านะ !  ชอบกินมูมมาม  ไม่รู้จะรีบกินไปไหน  ดูสิ  ข้าวเลอะเต็มปากเต็มโต๊ะไปหมดแล้วเนี่ย  ป๊าอย่าลืมสิ  ข้าวมันไม่มีขานะ  มันไม่วิ่งหนีป๊าไปไหนหรอกอิ๋วลูกสาวของทั้งคู่เชื้อสายจีนเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์  บ่นป๊าตัวเองโดยที่สายตายังจับจ้องไปที่ทีวีอย่างตั้งอกตั้งใจ

                    โด่ !!  อิกฉาอั๊วะนะเด่  เมื่อก่องนะ  อั๊วะเคยฝึกวิชากะวักเซ้าหลิง  วิชากิงเร็วปางฟ้าผ่า  เพื่อข่งขวังสะตู !”อาก้วยโม้กับลูกสาวไปพลางรับถ้วยขาวมาจากแม่นิ่ม  มาวางไว้ตรงหน้า  และใช้มือขวาจับตะเกียบที่ถูกวางพักเหนื่อยบนโต๊ะ  ก่อนที่มันจะต้องลุยงานหนักอีก +_+!

                    พอเลย  ป๊าขี้โม้ !!  เมื่อคราวก่อน  ก็เอาแต่ตด  ! พอว่า  ก็บอกว่าฝึกมาจากสำนักง้อไบ้  เพื่อไล่ศัตรู  พอเรอก็บอกว่าฝึกมาจากเขาเจ๋งซาน  ว่าเอาไว้คำรามให้สัตว์ป่ากลัว ! นี่ถ้าป๊าไปยกของหนัก ๆ ได้ไม่บอกว่าได้นั่งไทม์แมชชีนของโดเรมอนไปเข้าร่วมช่วยเขาสร้างกำแพงเมืองจีนเลยเหรออิ๋วเริ่มชายตามาบ่นป๊านิด ๆ ในความขี้โม้ของป๊าตัวเอง

                    ถุกต้องนะค้าบบบ !! อั๊วะกะลังจาหาโอกาก บอกลื้ออยู่  แต่อั๊วะกลัวลื้อม่ายเชื่อตาก้วยเอาตะเกียบจิ้มหน้าอิ๋วมาทีหนึ่ง  จนอิ๋วเกือบกระเด้งหน้าหลบออกมาไม่ทัน  ก่อนจะเอามาคีบข้าวกินต่อ  และก็ต่างคนต่างกินต่อ  ก่อนที่แม่นิ่มจะพูดขึ้น

                    เออนี่  อิ๋ว  เดือนหน้าก็จะถึงวันเกิดแล้วนี่ ปี้นี้อายุเท่าไรแล้วลูกแม่นิ่มเพิ่งสมาธิมาที่ลูกสาว

                    โห !! ม้า  งอนนะเนี่ย  จำวันเกิดลูกตัวเองไม่ได้นะ  ปีนี้ก็สิบแปด แล้ว! ยังสิบเจ็ด ไม่นานมานี่เอง  อิ๋วอดจะงอนไม่ได้ที่แม่ของตัวเองแท้ ๆ ลืมวันเกิดลูกตัวเอง  ก่อนอิ๋วจะอดนึกถึงช่วงเวลาที่ตัวเอง 17 ปีไม่ได้  ว่าทำไมมันเหมือนปานติดจรวดของยานอวกาศอย่างนี้

                    เหรอ ! งั้นก็เท่ากับกว่า  ไอ้เจ้าบิว  มันก็ต้องสิบแปดด้วยนะสิ ! แหม ๆ ว่าแล้วก็ขอแซวหน่อยแม่นิ่มอดทำหน้าเจ้าเล่ห์เอียงคอพลางเหล่ตามาที่ลูกสาวไม่ได้  นี่ดูสิ  พี่ก้วย !! สงสัยจะเป็นเนื้อคู่กับเจ้าบิวมันนะ  อะไรกัน  เกิดวันที่ยี่สิบเจ็ด ธันวาคมแท้ ๆ เจ้าบิวมันก็มาเกิดด้วยใกล้ ๆ กัน  เอาวันที่ ยี่สิบแปดธันวาคมได้แม่หัวเราะเยาะอย่างสนุกสนามเฮฮารื่นเริงเพลินเพลินใจ  ทำเอาอิ๋วโมโห  ลิ้นเฝื่อนกินข้าวไม่อร่อยทันที -_-*

                    อะโด่ !! อย่างเจ้าอิ๋วนะคายเค้าจาอาว  แถมข้าวสารถังนืง  ยังเอาแต่ข้าวสารแต่ไม่เอายายอิ๋วเลยพ่อก้วย  ให้กำลังใจลูกสาวอย่างเจ็บแสบ  ทำเอาอิ๋วโมโหกำลัง 4 อยากที่จะคายข้าวในปากทิ้งทันทีเพราะประสาทรับรู้รสพิการกระทันหัน -_-** 

                    อิ๋วเคียดแค้น  ทั้งป๊าและม๊าตัวเอง  ทำอะไรไม่ถูก  เขินก็เขิน 

                    โห่ !! ม๊ากับป๊านะ  ก็มีคนมาจีบละกันนะ-_-**  อิ๋วอวดอ้างความมีเสน่ห์ของตนเอง  แต่รู้สึกว่าจะนานกาลมาแล้ว 

                    แหม ! ม้าก็แค่ล้อเล่นนะ  แต่ทำไมต้องหน้าแดงด้วยละแม่นิ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ลูกสาว  พลางยิ้มเยาะเย้ยอย่างสนุกฤทัย  ทำเอาอิ๋วอดคิดไม่ได้ว่า  แดงตรงไหนวะ  สงสัยม้าตาบอดสีไปแล้ว 

                    โอย !! อะไรก็ไม่รู้ ! ไปแล้ว !”อิ๋วกินข้าวหมดจานพอดี  ทั้งที่ใจจริงกะจะกินต่อโดยไม่เกรงกลัวว่าจะอ้วนเอย ( เฮ้ย มาต่อยกันเลยดีกว่า  มา -+-* : อิ๋ว )  แต่เมื่อโดนล้อมาก ๆ ก็เลิกกินเดินออกจากโต๊ะดื้อ  ๆ ฮึก  อารมณ์เสีย  เอาจานข้าวไปเก็บในครัว  และรีบมูฟตัวเองขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสองออกมาจากพื้นที่สีแดงซึ่งเป็นจุดเสี่ยงอันตรายให้เร็วที่สุด  โดยเดินตรงเข้ามาหยิบการบ้านวิชาเลขจากกระเป๋าหนังใบโปรดของเธอขึ้นมาทำบนโต๊ะเขียนหนังสือติดริมหน้าต่าง  ก่อนกะว่า  ถ้าทำเสร็จ   ค่อยลงไปอาบน้ำ  แปรงฟัน  และนอนดู  ชิงร้อยชิงล้านให้ฮากันจนฟันหลุดไปข้าง  ^-^ 

                    ด้วยความฮึกเหิมใจว่าหากเสร็จศึกนี้เมื่อไร  เดี๋ยวจะมีหม่ำแท่งโหน่งรออยู่ในจอตู้ที่อยู่ข้างหน้า  อิ๋วจึงเปิดหนังสือคณิตศาสตร์มาพร้อมเปิดสมุดขึ้นมาทำข้าง ๆ หนังสือ  อุปกรณ์เครื่องเขียนจากถุงเก็บปากกาสีฟ้าถูกเปิดไว้พร้อมใช้งาน  ก่อนอิ๋วจะเริ่มลุยการบ้านคณิตศาสตร์อย่างรวดเร็ว 

                    แต่เมื่อทำไปได้ไม่นาน  เอ  แรก ๆ ก็ทำได้นี่หว่า  ทำไมมานยากขึ้นว่ะเนี่ย  เออ ๆ เว้น ๆ ไว้ก่อนละกัน ทำข้ออื่นก่อน  เอ  ทำไมข้อนี้มานยิ่งกว่าอีกวะเนี่ย  ตายแน่ตู  +[]+

                    อิ๋วรู้สึกมึนกับโจทย์ของ  ฟังก์ชั่นเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชั่นลอการิทึม  จนตาลาย +_+!   ฟุบลงไปกับสมุดที่ทำค้างไว้อยู่  ก่อนจะทำให้ฉุกคิดถึง  บิว  ที่เมื่อไม่นานมานี้  ม้าของเธอได้พูดเอาไว้

                    บิวเป็นคนเก่งคณิตศาสตร์มากตอน  ตอนที่อยู่ ม.1 อิ๋วเคยไปบ้านบิว  ให้บิวสอนอยู่ประจำ  ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง  ขณะท้าวคางอยู่กับโต๊ะอย่างหมดเรี่ยวแรง  เพราะพิษของคณิตศาสตร์  นี่ถ้าเรายังสนิทกันแบบเมื่อก่อน  ก็ดีสิ  จะได้ให้นายช่วยสอนการบ้านหน่อย  T-T

              เมื่ออิ๋วเริ่มนึกถึงบิวแล้ว  ทำให้อดที่จะนึกย้อนกลับไปตอนที่เคยจัดงานวันเกิดด้วยกันไม่ได้  เพราะเนื่องจากว่า  มีวันเกิดใกล้กันกับวันเดียวกับตัว  ทำให้ทั้ง 2 บ้านตกลงกันว่า  จะจัดงานวันเกิดร่วมกันในวันเดียวกัน  เป่าเค้กด้วยกันกับบิว  กินเค้กด้วยกันกับบิว  โดนบิวแย่งของเล่นที่เพื่อนแม่ซื้อมาให้เป็นของขวัญ   บิวร้องให้วิ่งไปฟ้องแม่เพราะโดนเธอเอาเค้กไปปะหน้าบิว  เมื่ออิ๋วนึกถึงตอนเป็นเด็ก ๆ ทำให้อดที่จะยิ้มออกมาอย่างลืมตัวไม่ได้  แต่เมื่อทั้งคู่ขึ้น ม.ปลาย  ก็ทำให้ต่างคนต่างเริ่มติดเพื่อนที่โรงเรียน  เพราะระบบการแยกสายเรียนของ ม.ปลายทำให้ทั้งคู่ได้มีเพื่อนใหม่ที่ถูกใจกว่า  และทำให้ต่างคนต่างลืมเลือน  เพื่อนอีกคนทีอยู่ตรงนี้  อยู่ใกล้ ๆ กันนี่  ไม่ได้จากไปไหนเลย  แต่กาลเวลาก็ได้ทำให้หัวใจของคนเปลี่ยนไปได้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวจริง ๆ

     

    ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ก็ดีสิ

     

    ลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาจากนอกหน้าต่าง  ทำให้อิ๋วขนลุกชั่วครู่  ก่อนจะมองออกไปยังที่ ๆ ลมนั้นพัดเข้ามา  เป็นหน้าต่างไม้ของเธอบานเดิม  ที่มองออกไปก็จะเจอกับ  หน้าต่างบานไม้ของอีกบ้านข้าง ๆ ทีเจ้าของก็คือคนที่เธอกำลังนึกถึงอยู่  อิ๋วมองออกไปที่ห้องบิวก็ไม่เห็นอะไรไปมากกว่าทางตันที่สายตาเธอสอดส่องเข้าไป  ไม่ได้เจอเพื่อนของเธอคนนั้นเลย ก่อนที่จะตัดสินใจ  พยุงตัวเองขึ้นและเรียกสติกลับมา  เพราะปลดปล่อยความครานออกมามากพอแล้ว  โดยเธอดึงสติกลับมาอีกครั้ง  เพื่อทุ่มเทแรงกายทำการบ้านคณิตศาสตร์ต่อ

    +-+  แต่เมื่อยิ่งทำ  ยายหมวยของเราก็เหมือนจะยิ่งมึนหนัก  พลางปวดกึกขึ้นมาดื้อ ๆ ก่อนจะนั่งแผ่หลาลงกับเก้าอี้  และถอนหายใจ  อย่างปลงตกกับตัวเองและฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

     

    ถ้าเราไปให้บิวสอนให้ละ

     

    โอย  !! >_< ไม่เอาดีกว่า  ไม่ไหว ๆ อยู่ดี ๆ จะไปให้เขาสอนการบ้านให้ได้ไง  -*-

    แต่ถ้าเกิดปล่อยเอาไว้อย่างนี้  การบ้านไม่เสร็จแน่  ฉานนนน +o+!

     

    อิ๋วยังคงสื่อสารกับตัวเองอยู่ในใจ  ก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย  และเด็ดขาดที่สุด

     

    ค่อยไปลอกเพื่อนเอาพรุ่งนี้ดีกว่า  =_=!  ( แป่ววว )

     

    เช้าวันต่อมานี่เอง  ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี  นักเรียนพากันเดินเข้าโรงเรียน  พร้อมกับสวัสดีคุณครูที่ยืนเป็นครูเวรประจำอยู่หน้าโรงเรียน  เป็นโรงเรียนที่ใหญ่พอตัว  และมีนักเรียนถึงสามพันกว่าคน  เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น ม.1 ม.6 และเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างดัง  สำหรับคนในพื้นที่นี้เองเหมือนกัน 

    บรรดานักเรียนต่างเดินเข้ามาในรั้วโรเรียน  ต่างคนต่างมีจุดหมายของตนที่ต้องทำ  บ้างก็เดินไปเดินมาคุยกับเพื่อน  บ้างก็นั่งคุยเล่นอยู่กับเพื่อน ๆ เพื่อรอเข้าแถวเคารพธงชาติ  บ้างก็เล่นฟุตบอลที่สนามกันแต่เช้า  บ้างก็นั่งทานข้าวกันอยู่ในโรงอาหาร  บ้างก็ยังคงทยอยเดินเข้ามาโรงเรียน  บ้างก็นั่งลอกการบ้านอย่างรีบเร่งเพราะกลัวออดก่อน ( =[]=* แล้วทามมายละย้า : อิ๋ว )

    ที่ปากทางเข้าของโรงเรียน  บิวจับสายสะพายกระเป๋าเป้สีดำตัวเก่งของเขาทั้ง 2 ข้างเพราะความเคยชิน  เดินทอดน่องมาโรงเรียนอย่างสบายใจเฉิบ  เขาเดินมาจนถึงปากทางเข้าโรงเรียน

    หวัดดีครับ   ครูเปลือง ^v^ บิวเดินเข้ามายกมือใหว้  ทักทายอาจารย์เวรหน้าประตูทางเข้าอย่างอารมณ์ดี

    นี่ !!  ต้องพูดว่าสวัสดีครับสิ  เธอนี่  ทำภาษาไทยวิบัติกันหมด ไม่รู้ว่าเด็กสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด  และชื่อฉันนะ  ชื่อพันเรื่อง  ไม่ใช่เปลือง  แหมเธอนี่  สอนไม่รู้จักจำทำไมถึงได้ดื้อด้าน...

    ในขณะที่คุณครูเปลืองของ บิว กำลังเทศนาบิวอยู่อย่างกำลังเมามันปากและไม่มีทีท่าจะแวะพักชมโฆษณาเลย 

                    คร้าบบ  คร้าบ  สวัสดีครับ  คุณครูพันเรื่อง !  อิอิบิว  กวนคุณครูที่แสนสนิทก่อนจยิ้มให้อย่างสดใสและเดินเข้าไปในโรงเรียน

                    บิวเดินผ่านสนามไปก็มองสอดส่องไป  ที่สนามไม่มีไอ้พวก 4 กุมารอยู่เลย  แสดงว่า พวกมันต้องไปนั่งลอกการบ้านกันอยู่ที่ ใต้ต้น  ไทรที่หลังโรงเรียนที่ประจำแน่ ๆ เมื่อบิวนึกถึงที่ประจำของกลุ่มที่จะต้องไปอย่างประจำ  สมองก็สั่งการณ์ลงไปที่ขาให้เดินไปตามทิศทางที่ถูกเม็มเมอรี่ไว้อย่างอัตโนมัติ 

    เมื่อมาถึง  บิวคาดการณ์ไว้ไม่ผิด  ท็อป  แบงค์  และน็อท  ทั้ง 3 คนนั่งลอกการบ้านที่มาจากต้นฉบับเล่มเดียวกัน  ก็คือของต้อม  เด็กแว่น  ผมสั้นเกรียน  ตัวเล็กรีบแห้งเมื่อเทียบกับชุดนักเรียนที่ต้อมใส่อยู่ดูออกจะหลวมโคร่งไปถนัดตา  เมื่อดูจากกล้ามเนื้อแล้ว  เหมือนน้องพี่อ้างยังไงอย่างงั้น  ( ฉากแรกของตู  มันบรรยายซะ -“- : ต้อม ) และเป็นผู้ได้ชื่อว่าเรียนเก่งที่สุดของกลุ่ม  ( งืม ๆ พออภัย : ต้อม ) กำลังนั่งดูดนมเย็นสีเขียวที่ใกล้จะหมดเต็มทีบนโต๊ะที่พวกกลุ่มนี้ลอกการบ้านอยู่นั้นเอง 

                    ขณะที่บิวกำลังเดินตรงปี่เข้าไปที่กลุ่มของเขา  พอดีกับจังหวะที่ 1 ใน 3 คนนั้น  กำลังเงยหน้าสะบัดคอเพราะความเมื่อยนี่เอง  ก็เห็นบิวเดินเข้ามาพอดี 

    โดยนายคนนี้ที่ลักษณะท่าทางดูภูมิฐานหน่อย  หน้าตาคมเข้ม  แต่สีผิวไม่ถึงกับดำ  และผมยาวเพราะได้ขออนุญาตกับทางโรงเรียนให้ไว้ผม  ไปประกวดเดินแบบเพื่อสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนถึงว่าจะตกรอบไปนานแล้ว  แต่ก็ยังคงไว้ผมยาวและอ้างกับทางฝ่ายปกครองได้อยู่ตลอด  นั่นก็คือ  ท็อปนั่นเอง

                    อ่าวเฮ้ย  พระเอก !  เอ๊ย!!  ไอ้บิวมาแล้วเว้ย  ไปเอาการบ้านมันมาลอกดิ  จะได้ไม่ต้องมาแย่งกันลอกเป็นหมารุมแย่งข้าววัดกันอย่างนี้ท็อปตะโกนสั่งเพื่อนที่นั่งรุมลอกอยู่ข้าง ๆ

                    ไหน !! ไอ้บิวมาแล้วเหรอ ! =..= ”อีกคนหนึ่งที่พูดร้องขึ้นมา ก็คือแบงค์นั่นเอง  ด้วยตัวที่ไม่ค่อยจะสูงมากนัก  ตัวก็ไม่ใหญ่  แต่ไม่ถึงกับผอมแห้งอย่างกับต้อม ( เออ!!  ไม่เป็นบ้างให้มันรู้ไป : ต้อม) และด้วยทรงผมที่สั้นเกรียน  แต่เว้นไว้แค่  ให้ตรงกลางหัว  ตั้งตรงเด่ขึ้นไป  ชวนให้นึกถึง  พี่แบงค์วงแคลช  ในอัลบัมก่อนหน้านี้ได้  เป็นทรงผมที่เจ้าคิดว่าแนวแล้ว  และดูท่าจะค่อนข้างภูมิใจมากว่าสามารถดึงดูดสายตาของสาว ๆ ที่เดินผ่านเขาได้  

    ส่วนไอ้ตรงกลางที่ตั้งเด่อยู่ก็กำลังสั่นไหว  เพราะแรงกระเทือนมาจากร่างกายของเจ้าแบงค์  ที่รีบวิ่งตรงดิ่งอ้อมไปด้านหลังบิว  และเปิดดึงซิบกระเป๋าบิวกระชากออกอย่างรวดเร็วพร้อมควานหาสมุดการบ้านภาษาอังกฤษอย่างตั้งอกตั้งใจ บิวได้แค่โยกตัว  โย้ไปเย้มาเพราะแรงสะเทิอนที่ไอ้แบงค์มันล้วงกระเป๋าจากด้านหลัง  พลันมองไปที่อีกคนหนึ่งบนโต๊ะที่กำลังก้มหน้าตี๋ ๆ ตาตี่ ๆ ลอกการบ้านของต้อมอย่างไม่สนใจใครจะทำไม  อะไร  ที่ไหน  เมื่อไหร่  ฟ้าจะถล่ม  ดินจะทะลาย  ใครจะฆ่ากัน  ตรงไหน  ข้าไม่สนใจ  ขอเพียงแค่  พวกแกไปไหน  บอกข้าด้วยนะ  ข้าตามไปด้วย

              อยู่ไหนของแกวะ  ไอ้บิว  อ๋อ !!เจอแล้วเว้ยแบงค์หยิบสมุดการบ้านของแบงค์ขึ้นมาดูก่อนจะรีบวิ่งด้วยความเร็วสูงไปที่  หน้าโรงอาหารทันที  ไปแล้วโว้ย !!โชคดี บิวได้แต่มองตาม  ด้วยอาการปลงตกว่า  นี่เหรอ  เพื่อนเรา  มันยัดเงินให้  ผอ.โรงเรียนไปกี่แสนกัน  มันถึงได้พาสมองกลวง ๆ โล่ง ๆ จนน่าจะเปิดร้านก็วยเตี๋ยวเรือได้  มุงหลังคาไปด้วยผมตรงกลางที่ตั้งเด่มาจนถึง ม.6 ได้ 

                    อ่าวเฮ้ยอะไรวะ !? ไอ้แบงค์ !  ไอ้ซัลเฟต !! เอาไปลอกเนียนคนเดียวเลยท็อปตะโกนด่าโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้คำแปลไล่หลังระยะกระชั้นชิดแบงค์จอมเจ้าเล่ห์  ก่อนจะก้มหน้าลอกการบ้านของต้อมวิชาสังคมต่อ  พร้อมกับน็อท  ผู้ที่หน้าตาไร้ซึ่งความรู้สึกตลอดเวลา ( ........  : น็อท )

                    บิวเดินเข้าไปหาต้อมที่กำลังใช้หลอดเขี่ย ๆ น้ำแข็งเข้าปากอยู่

                    เฮ้ยไอ้ต้อม  อังกฤษแกทำเสร็จยังวะบิวเดินเข้ามาถามคนที่เรียนเก่งที่สุดในกลุ่ม  พลางก้มดู  ท็อปกับน็อทแย่งกันเปิดไปเปิดมา  ลอกการบ้านวิชาสังคม  เพราะลอกกันคนละหน้าแต่เล่มเดียวกัน

                    เออ  เสร็จแล้ว  สังคมแกก็เสร็จแล้วใช่ไหมต้อมวางแก้วก่อน เอามือเช็ดปาก

                    แหม  แกอย่าลืมดิ  ข้าขยันทำการบ้านที่สุดในกลุ่มนะเว้ย !”บิว  ยึดอกแผงอกขึ้นเงยหน้าเหมือนจะ  ปฎิญาณกฎของลูกเสือ 

                    แต่ก็เรียนเก่ง  เป็นรองแค่ข้าคนเดียวว่ะ  !555+ต้อมหัวเราะเยาะ  พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ สร้างพลังแห่งความฉุนเฉียวพลุ่งพล่านให้กับบิวได้เป็นอย่างดี

                    เออ  พ่อคนเก่ง ! เดี๋ยวมานะ  ไปหาไรกินมั่งบิวจิ้มไปที่หน้าผากต้อม  จนกระเด็นเกือบตกโต๊ะแม้จะไม่แรงมาก  แต่เพราะตัวบิวกับต้อมผิดกันเยอะ  ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงอาหาร

                    ภายในโรงอาหารคนเยอะแยะเต็มไปหมด  ตั้งแต่ม.1 ม.6  เมื่อบิวเดินออกมาจากร้านขายน้ำ ก็ได้ชาเย็นมากินหนึ่งแก้ว  จึงเดินดูด  ฉึบ ๆ อย่างสบายใจ  โดยตั้งใจจะออกจากโรงอาหารเพื่อมุ่งหน้าไปยังกลุ่มพวก 3 ก๊กนั่งอยู่ 

              ขณะนั้นเอง  ที่บิวกำลังเดินออกมาจากประตูโรงอาหาร  เขาก็เหลือไปเห็นที่โต๊ะเขียนหนังสือที่จัดวางอยู่เรียงรายประมาณ 10 กว่าโต๊ะได้อยู่หน้าโรงอาหาร  มีที่นั่งโต๊ะละ 4 คน  บางโต๊ะก็มีคน  บางโต๊ะก็ไม่มีคนนั่ง  ที่โต๊ะหนึ่งไม่ไกลจากจุดที่เขายืนนัก  ก็เห็นแบงค์นั่งก้มหน้าก้มตาลอกการบ้านของเขาอยู่  ด้วยอาการขยับข้อมือจรดปากกาเขียนลงบนสมุดอย่างรวดเร็ว  บิวจึงตั้งใจมุ่งหน้าไปดูอากรแบงค์หน่อย  ไม่รู้ว่ามันทำถึงไหนแล้ว 

                    แต่เมื่อบิวเดินเข้าไปใกล้แบงค์นั่นเอง  ที่โต๊ะใกล้ๆ กันนั้น  มีอีกโต๊ะหนึ่ง  ที่ถัดออกไปสามโต๊ะ  มีนักเรียนหญิงระดับชั้น ม.6 ทีเขารู้จักดีนั่งอยู่ 2 คน  ก็คืออิ๋วที่นั่งอยู่นั่นเองใส่เสื้อหนาวแขนยาวมสีเทา  ลายกระต่ายสีแดงอยู่ตรงหน้าอก  เพราะอากาศค่อนข้างเย็นในตอนเช้า   ส่วนอีก 2 ที่นั่งว่างไว้อยู่ 

    ทั้งคู่นั่งหันหน้าออกมาทิศทางที่มองมาที่เขาพอดี  บนโต๊ะเต็มไปด้วยสมุด  แก้วน้ำชาเย็นที่เหลือประมาณครึ่งแก้ว  วางไว้ทางฝั่งอิ๋วด้านขวา  และจานข้าวที่เหลือเพียงแค่เศษ ๆ ข้าวนิด ๆ พร้อมช้อมส้อม  ที่วางอยู่ทางฝั่งของอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ   ส่วนอีกคนก็คือ  อั๋น  สาวหน้าหวาน  ผมยาวสลวยประมาณถึงหลัง มัดผมด้วยโบว์สีกรมท่า  ผิวเหลือง  ร่างกายสมส่วนสำหรับผู้หญิง  ตัวไม่เล็กไม่ใหญ่  หุ่นดีเอาการ  >///<  ผูกผ้าพันคอสีแดงสด  เป็นเพื่อนสนิทของยายอิ๋ว  ที่อยู่กันคนละห้องกับเขาและอิ๋วอีกที  กำลังนั่งเอาหน้าใส ๆ ดูมีน้ำมีนวลเพราะแป้งอ่อน ๆ ปากแดงนิด ๆ ส่องผ่านกระจก  เหมือนจะหาอะไรที่ไม่พิศมัยและพร้อมที่จะจัดการออกไปจากหน้าที่สวยสดของเธอทุกเมื่อ  บิวเห็นดงนั้น  ก็คิดอยู่นาน  ยายอิ๋วนี่นา  เอาไงดี  เข้าไปทัก  ตามประสาเพื่อน  เหมือนเดิมละกัน  ก่อนสมองจะสั่งการณ์ให้เท้านำพาตัวบิวเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิท  สมัยเด็กของเขาที่เมื่อดูท่าทางจากสถานการณ์แล้ว  อิ๋วกำลังลอกการบ้านอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่แน่ ๆ

                    อ่าวไอ้บิว !  มาพอดีเลย  ตรงนี้อ่านลายมือแกไม่ออกว่ะ .....แบงค์เงยหน้าขึ้นมาพอดีเจอเข้ากับบิวที่กำลังเดินตรงเข้าไปมือพร้อมกับ  จะรับแก้วชาเย็นจากมือบิวมากิน  แต่แล้ว  มือก็ถูกยกขึ้นมาเก้อ  เมื่อบิวเดินผ่านแบงค์ไปอย่างหน้าตาเฉย  แบงค์อ้าอปากค้างก่อนมองตาม  ที่ในสายตาบิวตอนนี้  ไม่มีไอ้นี้แม้แต่จะเป็นตัวประกอบในจอรับภาพของเขาเลย

                    บิวเดินมาหยุดอยู่ที่ข้าง ๆ อิ๋วที่กำลังลอกการบ้านอยู่อย่างหน้าตาเคร่งเครียดสุด ๆ ปานว่ากำลังทดลองอะไรสักอย่างทางวิทยาศาสตร์อยู่  ผิดกับอารมณ์ของอั๋นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่กำลังนั่งกรีดกายดูกระจกทำหน้าตาไม่รู้ร้อน  ของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอเลย

                    นี่  ยายอั๋น ! ถ้าแกว่างมากพอ  ฉันว่าเอาเวลา  ที่แกกำลังหาเห็บให้กระจก  มาทำการบ้านเลขให้ฉันดีกว่านะ  แกเองก็เรียนอยู่สายวิทย์  น่าจะเข้าใจได้ถ่องแท้กว่า ! นี่ถ้าฉันไม่มาโรงเรียนเร็วกว่านี้ก็ไม่รู้หรอกเนี่ย  ว่ายังมีการบ้านสังคมอยู่อีก  รู้งี้ ทำสังคมตั้งแต่เมื่อคืนดีกว่าอิ๋วพูดประชด ขณะที่สมาธิเธอยังคงไม่หลุดออกจากสมุดการบ้านสังคมที่เธอกำลังทำอยู่เพราะเพิ่งรู้เมื่อเช้า

                    แหมแกก็พูดตลก  หยังกะสายวิทย์ อังกฤษของแก  มันจะเป็นวิชาลูกเมียน้อย  ที่สอนให้เด็กสายวิทย์ดีกว่าอย่างงั้นแหละ  ก็สอนเหมือน ๆ  กันแหละ เพียงแต่ฉันก็โง่  พอ ๆ กับแกแหละ  ฉะนั้นเรื่องคณิตอย่างมาหวัง  ถ้าสังคมที่แกทำอยู่นะพอช่วยได้นะ  แล้วแกก็ค่อยทำคณิตเอา  เอาไม้ ๆ ?” อั๋นยังคงกรีดกรายดูกระจกไม่หยุด 

                    ToT ดูมัน ๆ พูด  หืม !! ไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสนิท  กับเกรงใจอาจารย์วิชาสังคมละก็  จะฉีกสมุดวิชาสังคม  ให้ละเอียดแล้วจับยัดปากให้มันตาเหลือกสำลักจนพ่นออกเป็นหิมะกระดาษที่ผีเจาะมาให้พูดอะไรไม่สร้างสรรค์เสีย  ถึงแม้ว่ามันจะหวังดีอยากจะช่วยทำก็  นี่ถ้าฉัน  ทำคณิตได้  ฉันก็คงให้แกช่วยทำสังคมให้ฉันแทนแล้วละ  ไม่มานั่งปั่นวิชาสงคมให้หัวฟูเล่นโดยที่ไม่ต้องเข้าร้านดัดหยิกเป็นลอนหรอก  ( เดี๋ยวคนอ่านเข้าใจผิดว่าฉันหัวหยิกนะแก ฮืมม \\‘-*-‘//: อิ๋ว )

     ( ครับ  อิ๋วเป็นคนผนตรงนะคร้าบบบ ^-^! แม่งดุจิง  นางเอกเรื่องนี้)

                    ในขณะนั้นเอง  บิวก็เดินเข้าไปพอดีที่ตรงโต๊ะนั้น  ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม  พลาง  วางแก้วชาเย็นที่เพิ่งซื้อมาวางใว้บนโต๊ะของอิ๋ว

                    หวัดดีอั๋น  หวัดดีอิ๋ว  ทำอะไรกันอยู่เหรอบิวยิ้มแย้มเข้าไปทัก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพวกเธอทำอะไรกันอยู่แต่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าคำถามนี้  ตอนจะเข้าไปเปิดประโยคสนทนาทักทายคนที่ไม่ถึงกับสนิทสนมนัก

                    ดีบิว  ทาแป้งะนะ  ทาด้วยกันไหมอั๋นพูดขณะทาแป้งไปด้วย  โดยที่ไม่ได้คิดว่าพูดอะไรออกไป

                    ก็ทำการบ้านนะสิ  นี่แกเห็นฉันนั่งซักผ้าหรือไง  ทำไมเวลาถามอะไร....ไม่ทันที่อิ๋วจะพูดจบก็มองขึ้นไป   O{}O!  แกะหายแล้ว  อิ๋วลืมตัวจนหลุดอะไรออกไปเยอะ พลางมองใบหน้าบิว  ที่เหวอเล็กน้อยอ้าปากค้าง ( แหม ๆ   แกะหาย   คิดได้ไง -..-) เพราะเธอนึกว่าเพื่อนผู้ชายในห้องเพราะเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำ

              อ๋อ  เรากำลังทำการบ้านอยู่นะบิวอิ๋วตอบกลับไปอย่างมีมารยาท  ถึงแม้ในใจจะคิด  -*- ทอดไข่ดาวอยู่มั้งคะ  พลางหยิบแก้วชาเย็นขึ้นมาดูด  เพื่อลดอาการตึงเครียดกึ่งตื่นเต้น 

                    นี่อิ๋ว

                    หืมอิ๋ววางแก้วชาเย็นลงบนโต๊ะพลางทำตาโต ( เท่าที่จะทำได้ ) มองไปที่บิว  ต้นตอของเสียงพร้อมทำปากอมน้ำชาเย็นที่เพิ่งกินเข้าไปหยก ๆ

                    นั่นมันชาเย็นแก้วเรานะบิวยิ้ม ๆ ตอบ  พลางคิดในใจ  อุ๊ย ๆ กินแก้วเราด้วย  ถ้าอย่างนั้น  ปาก  ก็  >///<

              อิ๋วกลืนลงไปทันที  รู้สึกใจโหวง ๆ เพราะความอายที่เห็นว่าแก้วชาเย็นของตัวเองอยู่ด้านขวา  แต่ดันไปกินแก้วของบิวที่อยู่ด้านซ้าย  จึงทำอะไรไม่ถูก >///< ตอบกลับไปว่า

                    เหรอ  งั้นโทษที  เดี๋ยวเราปลี่ยนหลอดให้นะ  *_*! ”อิ๋วทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะหยิบหลอดของบิวที่ตัวเองเพิ่งดูดไป  ไปใส่ในแก้วของตน  และเอาหลอดในแก้วของตนไปใส่ในแก้วของบิว  อั๋นถึงกับตบหน้าผากตัวเองในความโง่ของเพื่อน >_<!  ก่อนบิวจะหัวเราะแล้วว่า

              ถ้าทำอย่างนั้นมันก็ยิ่งไปกันใหญ่นะสิ  ได้กินน้ำลายของอิ๋วเต็ม ๆ เลยบิวพูดพลางส่ายหัวและหัวเราะไปพูดไป

                    เออ  นั่นดิเนอะ-*-  ด้วยความอายอิ๋วเปลี่ยนหลอดกลับเหมือนเดิม  พร้อมนั่งดูดน้ำของตัวเองไปอย่างเงียบๆ   หมดแล้วฉัน  หมดสิ้นทุกสิ่งทกอย่าง  ทำไมฉันต้องทำอะไรโง่ ๆ เปิ่น ๆ ออกไปขนาดนี้ด้วยเนี่ย T^T และก้มทำการบ้านต่อ

                    บิวมองดูการบ้านที่อิ๋วทำอยู่  ด้วยความรู้ที่ตนพอมีก็พอจะรู้ว่า  อิ๋วกำลังทำการบ้านวิชาสังคมอยู่  ในขณะที่อิ๋วทำการบ้านอยู่  ในใจก็คิดแต่เรื่องเหตุการณ์เมื่อกี้  พลางเหล่ตาไปที่บิวที่ยืนอยู่ข้างๆ อยู่ตลอด  อาจเพราะไม่ค่อยชินที่มีผู้ชายมายืนอยู่ข้าง ๆ อย่างนี้  จึงรู้สึกอะไรบางอย่างอย่างบอกไม่ถูก  จนทำให้รู้สึกประหม่าขึ้นมาได้

                    จะนั่งก่อนก็ได้นะ ?”ด้วยความประหม่าของอิ๋วก็พูดออกมาเหมือนไม่มีเยื่อใย 

                    บิวจึงลงเขานั่งที่ฝั่งตรงข้ามของอิ๋ว  ยิ่งทำให้อิ๋วตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก  อยู่ดี ๆ คำพูดของม้าก็ผุดขึ้นมาหัวอย่างไม่ได้รับเชิญว่า  บิวน่าจะเป็นเนื้อคู่กับอิ๋ว  นี่มันอะไรกันเนี่ย  โอย  อยู่ดี ๆ ก็คิดขึ้นได้ไง  และต้องเป็นประโยคนี้ด้วย  ออกไป!!  >///<

    บิวเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยไปกว่าอิ๋วที่ได้มานั่งอยู่ใกล้ที่สุดในรอบ 3 ปีกันเลยทีเดียว  จึงเกิดอาการประหม่าขึ้นมาบ้าง >///< บิวไม่มีอะไรทำ  จึงไปหยิบเข้ากับ  สมุดของอิ๋วที่วางอยู่ใกล้ ๆ กับสมุดที่เธอทำการบ้านอยู่  และเอาขึ้นมาอ่าน  อิ๋วชะงักนิดหนึ่งก่อนมองตาม  ว่าบิวจะทำอะไร  ก่อนจะก้มหน้าลงมาทำการบ้านต่อ

    นางสาววีรนุช   สหภพโชคสุข  บิวอ่านชื่อของอิ๋วในใจที่ค่อนค้างคุ้นตา  ว่าเคยได้ยินชื่อนี้ เมื่อนานมาแล้ว  แต่ที่รู้สึกเปลี่ยนไปก็ตรงที่คำนำหน้า  จากเด็กหญิง  ที่เขาเคยอ่าน  กลายมาเป็นนางสาวไปเสียแล้ว  ก่อนที่เขาจะปิดสมุดนั้นดูผ่าน ๆ ไม่ได้ดูเนื้อหาอะไรข้างใน  และเอี้ยวสมุดเล่มนั้นไปทางซ้ายเพื่อแอบมองลอดมาที่อิ๋ว  ถึงเป็นผู้หญิงที่ผมสั้น  แต่ผมหน้าก็ยาวลงมาปิดหน้าทั้ง 2 ข้าง  เพราะไม่มีที่คาดผม  ให้เห็นตรงกลางระหว่างปอยผมที่ลงมาปิดเป็นหน้าขาว ๆ ปากแดงๆ เล็ก ๆ ของอิ๋วที่กำลังก้มหน้าจดจ่ออยู่กับการบ้าน  ทำให้เขานึกย้อมกลับไปถึงสมัยวัยเด็ก  ถึงเด็กหญิงวีรนุช  ที่ตัวสูงกว่าเขา  ออกจะไปทางแก่นแก้ว  จนทำให้เขาอดนึกไม่ได้ว่า โตขึ้นยายอิ๋วต้องเป็นทอมแน่ๆ  แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว  เธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงอยู่เหมือนเดิมแต่อาจจะดูห้าวขึ้นตามนิสัยดั่งเดิม 

    อิ๋วทำการบ้านอยู่  พอได้ยินเสียง  หุหุ อยู่ในลำคอลอดออกมา  เธอจึงค่อย ๆ เหล่สายตาขึ้นไปดู  ก็เห็นสมุดปิดหน้าบิวอยู่จนมองหน้าบิวไม่เห็น

    นายขำอะไรนะ  เอามานี่เลย !! -_-*” อิ๋วพลางอารมณ์เสียหยิบสมุดกลับคืนเพราะคิดว่าบิวหัวเราะลายมือของเธอที่มันไม่สวย  ก็ไม่สวยจริง ๆ อะ  อิ๋วเป็นคนลายมือไม่สวย

    เปล่านะ  แค่รู้สึกว่า  เธอก็โตขึ้นมาเป็นนางสาวอย่างผู้หญิงคนหนึ่งแล้วนะไม่รู้อะไรทำให้ฉันพูดออกไปแบบนั้น  บิวพลางคิดในใจ >///< ก่อนจะมารู้สึกตัวอีกที  โอย  อายวะ  แทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี

    อ่าว !!  ก็   ใช่สิ  จะให้ฉันใช้นายนำหน้าเหมือนนายหรือไงละอิ๋วยิ้ม  ด้วยความขาวของหน้า  ทำให้มองเห็นสีแดง ๆ ขึ้นมาบนหน้าอย่างชัดเจน

                    อืมใช่  นี่วิชาคณิตเหรอบิวหยิบสมุดอิ๋ว  จากมือมาดูใหม่อีก  และเปิดดู

                    เมื่อพูดถึงสมุดเลข  O()O  ใช่แล้ว เรายังทำไม่เสร็จนี่หน่า  จะเอาไงดีละ  หมอนี่ก็เก่งเลขซะด้วย จะบอกให้หมอนี่ช่วยสอนดีไหมน้า  เหอะ ๆ ไม่ไหวอะ  ไม่กล้าอะ  แต่เอะ  ไม่เห็นเป็นไรเลย  แค่บอกไปว่าสอนทำเลขหน่อย  เพื่อนกัน  ไม่คิดอะไรหรอก  บอกสิ  บอกเลย >_<!

                    ในขณะที่อิ๋วยังคงสื่อสารกับตัวเองอยู่พลางทำการบ้านสังคมไปพลาง โดยไม่มีทีท่าว่าจะหาข้อสรุปได้อยู่นั่นเอง 

                    นี่ยังเหลืออยู่เลยนี่หน่า  ยังทำไม่เสร็จนี่บิวเปิดสมุดอิ๋วไปมา  ดูหลาย ๆ หน้าว่าเหลืออีกกี่หน้าที่ยังไม่ได้ทำอีก

                    ToT ก็ช่ายนะสี่ค้า  คุณบิว  ยากมากด้วยอะ อิฉันไม่สามารถหรอกค่า  ช่วยกรุณาถามกลับมาสักนิดเถอะนะคะ  ว่าให้ช่วยสอนไหม  นะคะ  ได้โปรด  พีซ ๆ ๆ อิ๋วเกร็งกำลังข้อมือที่กำลังลอกวิชาสังคมอยู่  อย่างลุ้นกับคำตอบที่อยากได้ยินสุด ๆ พลางส่งกระแสจิตตลอดเวลาเพื่อนเป็นตัวเร่งให้ได้ผลยิ่งขึ้น  ( คิดว่านะ )

                    ดูท่าทางอิ๋วจะทำไม่ได้ด้วย  เราก็ว่จะสอนอิ๋วทำนะ  และดูจากเวลาแล้วเราคงสอนอิ๋วไม่ทันแล้วละบิวเปิดไปเปิดมาก่อนวางสมุดของอิ๋วลงกับโต๊ะ  และมองมาที่อิ๋วที่ฝั่งตรงกันข้าม

                    อืม  ไม่เป็นไร  ขอบใจนะ”T[]T แงง  อ้ายบร้าา  และฉันจะทำไงละเนี่ย  ฮือๆ งืม ๆ ไม่เป็นไร ๆ ปล่อยให้ฉันตาย  ลงอยู่  กองสมุดการบ้าน  ตรงนี้  ขอบใจละกันที่เป็นห่วง  แต่นายนี่พึ่งไม่ได้จริง ๆ

                    ขอโทษทีนะอิ๋วบิวทำสายตา  เว้าวอนเหมือนว่าจะขอโทษอิ๋วว่าได้ทำผิดอย่างมหันต์

                    โอยไม่เป็นไร  หรอก  เดี๋ยวค่อยส่งวันหลังก็ได้แง ๆ ตายแน่ ๆ ตูโดนหักจิตพิสัยยับแน่

                    เห็นที  บิวคงต้องทำให้อิ๋วแล้วละ ขอโทษนะที่มันดูเหมือนเป็นการทำร้ายอิ๋วทางอ้อม  ที่ไม่ได้สอนให้ทำ  แต่กลับมาทำให้อย่างนี้  แต่เมื่อดูเวลาแล้วเราทำให้น่าจะเร็วกว่า  จะได้ส่งการบ้านได้ทันบิวรู้สึกเป็นห่วงอิ๋ว  กลัวว่าจะส่งการบ้านคณิตศาสตร์ไม่ทัน  จนต้องตัดสินใจทำการบ้านให้  พลางดึงกระเป๋าเป้ที่สะพายติดหลังอยู่ออกมาหยิบอุปกรณ์เครื่องเขียน  ในใจก็คิด  -*- ยายอิ๋ว จะหาว่าเราไปดูถูกเขาเปล่าหว่า  ที่ไปทำการบ้านให้  ยายนี่ยิ่งหยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่ด้วย  แต่ทำไงได้อะ  มันดูท่าจะไม่ทันแล้วนี่  ความจริงไม่ใช่ไรหรอก  ก็แค่อยากทำให้  เขาจะได้เห็นลายมือเราลงในสมุดการบ้านเขาอ่า  จะได้นึกถึงเราที่ได้เปิดมาเห็นอ่า  >///<

              เหรอ  ไม่เป็นไร  รบกวนด้วยนะอิ๋วยิ้มให้บิว  อย่างจริงใจผ่านตาใส ๆ ให้บิว  โอ  พ่อพระของฉานนน  ใจหายหมด

                    บิวมองหน้าอิ๋วที่กำลังยิ้มให้เขาอย่างหยุดนิ่ง  ก่อนอิ๋วจะหยุดและถาม

                    อะไรเหรอ อิ๋วเลิกยิ้มทันที  ถามกลับด้วยความสงสัย  ประมาณว่าปวดท้องหรือเปล่า

    .               อ๋อ  เปล่า  ไม่มีอะไรบิวหยิบปากกาก้มหน้าก้มตาทำให้อิ๋ว

                    ใช่แล้ว  มีอีกสิ่งหนึ่ง  ที่ไม่มีวันลืม  ไม่ว่าจะตอนเป็นเด็ก  หรือโตมาเป็นนางสาว  นั่นก็คือ  รอยยิ่มของเธอ  ที่ไม่ว่าจะนานเท่าไร  อิ๋วก็เป็นคนยิ้มสวยอย่างไม่เสื่อมคลาย  บิวนั่งยิ้มทำการบ้านของอิ๋ว  ด้วยใจที่ตุ้ม ๆ ต้อม ๆ เมื่อมือได้สัมผัสกับ  สมุดการบ้านของอิ๋ว

                    เช่นเดียวกับอิ๋ว  ที่นั่งทำการบ้านอยู่  ก็แอบเหล่ขึ้นมาที่บิวก่อนแวบหนึ่ง  ทำให้อดตื่นเต้นไม่ได้   ว่านี้เป็นครั้งแรก  ในรอบ 3 ปี  ที่ได้มานั่งใกล้กับบิวขนาดนี้  ทำให้รู้สึกถึงความเป็นผู้ชายของบิว  ด้วยในวัยเด็กนั้น เธอตัวสูงกว่าบิว  แต่จนกระทั้งปัจจุบันนี้บิวโตขึ้นไหล่กว้าง  ทั้งสูงกว่า  และตัวใหญ่กว่า  ดูสมส่วน  ตามประสาผู้ชายทั่วไป

                    ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้มาคุยกันแบบนี้นานมากแล้ว  แต่จากการสนทนาของทั้งคู่  จะสังเกตได้ว่า  ยังคงมีความผูกพันกันอยู่  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คุยกันมานานมาแล้วก็ตาม

     

             

                    เวลาผ่านไปสักชั่วครู่ระยะหนึ่ง  ที่ต่างคนกำลังต่างทำการบ้านอยู่  ถึงแม้ว่าบิวจะไม่ได้ทำการบ้านของตนเอง  ทำด้วยความเต็มใจ  จนกระทั่ง

                    อะ  !! เสร็จแล้วนะบิวยื่นสมุดเลขให้อิ๋วด้วยรอยยิ้มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

              อืม ! เราก็เสร็จวิชาสังคมพอดีเหมือนกันอิ๋วพูดก่อนแผ่หลังพิงไปกับพำนักแล้งกางแขนออกด้วยความเมื่อยพลางถอดหายใจ  และหลับตาเงยหน้าขึ้นฟ้า

                    ขณะนั่งแผ่หลากางแขนออกนั่นเอง  เสื้อกันหนาวของอิ๋วก็ลงมากดทับเสื้อนักเรียนจนลงมาแนบกับหน้าอกอย่างพอดี  เพราะงยหน้าอยู่  ถึงแม้ว่าจะใส่เสื้ออยู่หลายชั้น  ก็ทำให้บิวเห็นเนินหน้าอกเข้าพอดีอย่างเห็นได้ชัด  O[]O เฮือก !!  แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายพอ ( มั้ง >///<  )  จึงหันหน้าไปทางอื่น  ก่อนจะพึมพำในใจ  อืม  อิ๋วโตเป็นสาวแล้วจริง ๆ  =,.=

              นี่เธอ ! ไปเข้าแถวกันได้แล้วอั๋นเดินหน้าใส  มาจากห้องน้ำตัวปลิว ( แหมแก  ลืมฉันก็บอกมาเหอะ : อั๋น )

                    ทั้ง 3 จัดแจงเก็บของใส่ประเป๋า  โดยตอนนี้ไม่เห็นแบงค์แล้วเมื่อบิวมองหาพลางนึก  คงทำเสร็จแล้วและเดินออกไปหาพวก 4 กุมารตอนเรานั่งทำการบ้านให้อิ๋วละมั้ง  ( อย่ามา ๆ ลืมตูอีกคนนะสิ : แบงค์ ) และรีบเดินออกไปที่สนามเพื่อไปเข้าแถวเคารพธงชาติ  อั๋นเดินคุยอยู่กับอิ๋ว โดยมีบิวเดินตามอยู่ข้างหลังพลางดูดชาเย็น  ที่ถึงแม้น้ำแข็งจะละลายแล้ว  แต่ก็บิวก็ยังเอามาดูดอยู่ ( ก็เพราะหลอดเนี่ยแหละ ^w^: บิว )

                    ก่อนอิ๋วจะบ๊ายบายกับอั๋น  เพราะอยู่กันคนละห้องเพื่อไปเข้าแถว

                    ตอนพักกลางวันใครเลิกก่อน  ไปรอที่ห้องคนนั้นนะ !”อิ๋วโบกมือน้อย  หยอย ๆ ให้เพื่อนรัก  ก่อนทิ้งท่ายเป็นคำฟังง่าย ๆ ว่า พักกลางวันเจอกัน  ก่อนจะหันมาที่บิว

                    บิวเดี๋ยวเราจะไปเข้าแถวก่อนนะอิ๋วหันมาโบกมือน้อย  หยอย ๆ อีกครั้ง

                    อืมได้ ๆบิวกำลังจะเดินไปแต่ชะงัก  เหมือนลืมอะไรบางอย่าง  ก่อนจะหันมาหาอิ๋ว  อิ๋ว  !!เดี๋ยวก่อนบิวหันไปชะเง้อคอเรียกขณะอิ๋วกำลังจะเดินลับไป

                    อะหะ  ว่า?”อิ๋วหันมาถาม 

                    มานี่หน่อยดิบิวกวักมือเรียก  หยอย ๆ ทำให้อิ๋ว  หน้าเปลี่ยนสี  ต้องถ่อเดินกลับมาอีก

                    อืม  ว่าไง ?”อิ๋วเงยหน้าส่งสายตาแป๋ว ๆ เพราะตัวเล็กกว่า  จ้องที่ตาของบิว

                    อีกไม่นานจะสอบกลางภาคแล้วนะบิวเริ่มเปิดประเด็น  ในใจนึก  อิอิ  ทำเลขไม่ได้เลยแบบนี้  แกล้งเนียนไปสอนให้ดีกว่า  จะได้ทำข้อสอบได้ไม่ต้องเป็นห่วง  ที่สำคัญ  ได้อยู่ใกล้ ๆ               ด้วย  อิอิ

                    อะหะแล้วไง ?”อิ๋วยังไม่เข้าใจจุดประสงค์พลางนึกในใจ  ใกล้แล้วบ้านแกดิ  เพิ่งเปิดเทอมกลางภาคมา 2 อาทิตย์  อีกตั้งเกือบเดือนครึ่งถึงจะสอบกลางภาค  คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง  -*-

              แล้วจะทำได้ยังไงละ  ทำไม่เป็นไม่ใช่เหรอบิวยิงคำถามสด ๆ เดี๋ยวนั้นเลย

                    อ๋อ  !! อืม นั่นดิ  แต่คงอีกนานนะ  เดี๋ยวเราก็อ่านหนังสือเอาอีกหน่อยก็คงได้แหละอิ๋วางแผนในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในยามจะสอบกลางภาค

                    อ๋อเหรอ อืม ๆ ลองถามดูนะ  ไม่  ก็เห็นอิ๋วทำไม่ได้เลยไง  อืม ๆ พยายามเข้าละ  ไปละบิวเดินไปพลางโบกมือบ๊ายบาย  ในใจคิด  T[]T  อ๊ากกก !!  อะไรของแกเนี่ย  ไอ้บิว  แกอยากจะติวให้เขา  แล้วทำไมแกไม่ยื่นข้อเสนอไปเล่าว่าติวให้ไหม  ไอ้บ้าเอ๊ย !! อายไม่เข้าเรื่อง

                    ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ !?  ว่าจะมีใครมาสอนให้เราหรือเราหรือเปล่า !!”  O-O  บิวชะงักเหมือนโดนสต๊าฟ+แช่แข็งทันที  เมื่อได้ยินคำนี้ออกมาจากปากอิ๋ว  อิ๋วพลางนึกในใจ  โถ่เอ๊ย  อยากมาสอน  ทำไมไม่บอกเล่า  ต้องให้พูดเปิดทางแบบนี้      ^-^

                    งั้นให้เราไปสอนให้เปล่า ? ค่าสอนไม่แพงหรอก  แค่ชั่วโมงละร้อยเองว่าไง ?”บิวดีใจ  จนเล่มมุขฝืด ๆ ออกไป

                    งั้นไม่ต้องเลย  ไปเลยไม่เอาด้วยแล้ว !!”อิ๋วทำทีเป็นตอบรับมุขฝืด ๆ ของบิวกลับไป  เพื่อไม่ให้เจ้าตัวเสียใจ ที่แป๊ก 

                    อะไร ! เราล้อเล่น  ขอแค่ข้าวมันไก่วันละจานก็พอ อิอิบิวล้อเล่นต่อเพื่อกลบความเขิน

                    ชิ  ยังจะเอาอะไรให้ได้อีกนะ  แล้วนายเหอะ  ว่างหรือเปล่า ไม่ว่างก็ไม่ต้องก็ได้นะอิ๋ว  เริ่มรำคาญ  กับมุขไม่เป็นเรื่องของ  บิว

                    ไม่เป็นไร  ว่าง ๆ ๆ งั้นเดี๋ยวเย็นนี้  6  โมงเย็นเราไปสอนให้ที่บ้านเลยนะบิวร้อนใจ  รีบเข้าเรื่องทันที

                    เย็นนี้เลยเหรอ ออ อะได้ ๆ งั้นเดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะ  ไปเข้าแถวก่อน  ไปแล้ว !”อิ๋วทำเป็นตกใจว่ารีบขนาดนี้เลยเหรอ  ทั้งที่ความจริงก็ชอบเหมือนกัน  ที่เขาดูท่าทางเปฌนห่วงเราขนาดนี้  ก่อนจะโบกมือปะลก ๆ และรีบวิ่งไปเข้าแถว 

                    บิวยิ้มส่ายหัว  ยืนดูอิ๋ว  หิ้วกระเป๋าหนัง  วิ่งไปเข้าแถวจนลับตา  ก่อนเขาจะเดินกลับมาที่แถว  พลางดูดน้ำชาเย็นแก้วเดิมต่อ  ที่ยังไม่หมดสักทีเพราะน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และพวก 4 กุมารก็เดินตามมาทันบิวที่กำลังจะเดินไปเข้าแถว

              ไปไหนมาว้ะ !! ไมเพิ่งมาเข้าแถวแบงค์พูดทักบิวที่เดินมาพร้อมกับ  ยื่นสมุดการบ้านที่ยืมไปลอกเมื่อเช้าคืน

                    ก็นั่งทำการบ้านอยู่บิวเดินพูดพลางงับหลอดไม่ปล่อย

                    หา !!ทำการบ้าน  ทำอะไรอีกวะ !? เออช่างมันเหอะ ไหนเอาน้ำมากินบ้างสิท็อปบ่นงึมงำ ๆ ก่อนจะยื่นมือไปขอกิน  ชา+เย็น+น้ำ  ด้วย  ก่อนบิวจะยื่นให้แต่แก้ว  ไม่ได้ยื่นหลอดให้ด้วย

                    อ้าวเห้ย  !!ทำไมไม่ใส่หลอดมาด้วยละวะ  แล้วจะกินยังไง  ?-*- ”ท็อปบ่น  ทำหน้างงจ้องไปที่แก้ว

                    อยากกินก็ยกกินเอา  ไม่ให้หลอดเว้ย  555+บิวหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี  ก่อนคาบหลอดไว้อย่างนั้นไม่ให้ใครยุ่งเป็นอันขาด  ใช่สิ  ก็หลอดนี้  เมื่อสักครู่อิ๋วพลาดมาดูดไปนี่หน่า  จะให้ปากใครมาทับรอยปากของอิ๋วไม่ได้  ต้องเป็นเขาคนเดียว  บิวพูดไปพลางเดินไปที่  แถวด้วยตาปรือ ๆ ทำปากเผยอออกเหมือนกับกำลังเพ้ออะไรอยู่บางอย่าง  สร้างความประหลาดใจให้กับเด็กนักเรียนที่บังเอิญอยู่แถวนั้น

     

     

                    ม๊า !! เดี๋ยวววันนี้ค่ำ ๆ บิวจะมาติวหนังสือให้นะอิ๋วพูดบอกแม่ของตนเอง  พลางลงไปนั่งเล่นกับลิตาร์แมวสุดที่รักของเธอ  ในตอนเวลาราว ๆ สี่โมงครึ่งหลังจากที่เพิ่งกลับบ้านมาสักครู่

                    เหรอ  แล้วเจ้าบิวจะมาทานข้าวที่นี่หรือเปล่า ?”แม่ของอิ๋ว  นั่งดูทีวีรายการลูกทุ่งอยู่  ตาก็จ้องดู  แต่ปากก็ถามอิ๋วกลับมา

                    แหมแม่ ! บ้านบิวมันอยู่แค่  เดิน 2 ก้าวก็ถึง  มันก็คงกินมาจากบ้านมันมาก่อนแล้วแหละ  กว่าจะมาก็ตั้ง 6 โมงอิ๋วพูดขณะเดินไปล้างมือล้างหน้าที่อ่างล้างหน้า  หลังจากเล่นกับเจ้าลิตาร์

              จนกระทั้ง  ถึงเวลา 6 โมง  ในห้องของบิว  ที่กำลังเตรียมอุปกรณ์และหนังสือ  สมุดไว้อย่างเรียบร้อย  เพื่อจะนำไปติวให้กับอิ๋ว  ก่อนจะรวบรวมกำลังใจ  พลางนึก  ทำไมเราต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย  ก็แค่เพื่อนกันสมัยเด็ก  บางทีอาจเป็นเพราะว่าเราไม่ได้เจอกันมานานนะมั้ง 

    เมื่อได้ที่บิวก็หยิบข้าวของอุปกรณ์และจะเดินลงมา  แต่ผ่านกระจกก่อน  จึงส่องดูตัวเองเพื่อความแน่ใจ  วันนี้บิวใส่  เสื้อยืดสีขาว  แถบแดงตัวเก่ง  ที่เขาเอาไว้ใส่ไปเที่ยว  และกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำ  จนมั่นใจว่าดูดีเหมาะสมกาลเทศะแล้ว  ก่อนจะยิ้มให้กระจกหนึ่งทีและเดินลงบันไดฉึบ ๆ ผ่านพ่อเปรมและแม่บัวที่กำลังหัวเราะเพราะดูทีวี  ไปที่บ้านของอิ๋ว 

                    ลุงก้วยหวัดดีค้าบ  ป้านิ่มหวัดดีค้าบบิวเดินเข้ามาไหว้อย่างนอบน้อม  โดยที่อิ๋วนั่งเล่นกับแมวอยู่  เมื่อเห็นอิ๋วทำให้เขาอดรู้สึกประหม่าไม่ได้ 

                    จะหวัดดีกันทำไม  วันละ 2 หนละลูกแม่นิ่ม  พูดแซวความประหม่าของบิว  พลางเดินไปหยิบขนมมาวางไว้ทีโต๊ะ  ก่อนบิวจะนึกขึ้นได้ว่า  เมื่อเย็นก็หวัดดีไปแล้วนี่หว่า 

                    มาเหอะ ๆ มาเริ่ม ๆ กัน ค่ำ ๆ จะได้ดูละครต่ออิ๋วปี่เข้ามานั่งที่เก้าอี้  อิ๋วใส่เสื่อยืดสีน้ำเงินเข้มแขนยาวตัวหนา ๆ   กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน ๆ ที่ไม่สั้นมากจนดูน่าเกลียดแบบที่พวกชอบใส่ล่อตะเข้เขาใส่กัน  ทำให้บิวอดนึกไม่ได้ว่า  ถึงแม้อิ๋วจะแต่งตัวดูธรรมดาแต่ก็มีอะไรมาสะกิดให้รู้สึกว่าอิ๋วแต่งตัวน่ารัก >///<

                    งั้นเดี๋ยวม๊าไปนอนก่อนนะ  ปิดบ้านให้ดีละ  อิ๋วแม่นิ่มเดินขึ้นบันไดบ้านขึ้นตามตาก้วยที่เพิ่งขึ้นไปนอนนำหน้าเมื่อไม่นาน

                    เมื่อแม่นิ่มเดินขึ้นชั้นสองไปแล้ว ก็เหลือแค่  อิ๋วกับบิวแค่สองคนอยู่ในบ้าน  บิวจึงถาม

                    แล้วเราไม่ขึนไปข้างบนบ้างเหรอบิวแกล้งพูด  ก่อนจะโดนอิ๋วตบแขนเบา ๆ ถึงแม้บิว จะโดนตีแขน  แต่ก็รู้สึกดี

                    บ้า !! น่าเกลียด  ขึ้นไปทำไมเล่าอิ๋วสวนกลับ  พลางหาวหวอด ๆ

                    เอา  ก็เขาขึ้นกันหมด  เราก็ขึนบ้างไง  ได้มีสมาธิ  อิอิบิวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

                    นี่ !!”อิ๋วท้าวเอว ทำตาเขียวอั๊ดมองค้อมมาที่บิว  คับคล้ายว่าบิวจะเป็นตะปูให้เธอตอกไปแล้ว

                    โอ๋ ล้อเล่นๆ นะบิวพูดไปพลางเปิดหนังสือไป

                    บิวค่อย ๆ สอนอิ๋ว  ทีละคั้นทีละตอน ค่อย ๆ เป็นค่อยๆ ไป  ไปทีละวรรคทีละประโยค   และก็ลุยโจทย์การบ้าน  ที่อาจารย์สั่งอิ๋วมาทำจนทั้งคู่เริ่มไม่รู้สึกระหม่าต่อกันแล้ว 

    เวลาผ่านไป  ถึงราว ๆ สองทุ่มได้  บิวก็จะลากลับบ้านก่อน

    ทำได้นะ !? ไม่งงนะ !? ถ้างงอะไรถามบิวกำลังเก็บอุปกรณ์และดูทีท่าว่าเป็นห่วงอิ๋วจริงๆ

    ค่า  =”= รู้แล้วค่าอิ๋วเองก็เก็บของ  และนั่งเอาคางเกยวางบนโต๊ะกินข้าว  ที่เพิ่งแปลี่ยนสถานะเป็นขั้นที่สามคือ  โต๊ะติวหนังสือ

    งั้นเรากลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันบิวทำมือบ๊ายบาย  ยิ้มให้อิ๋ว  โดยหวังจะให้อิ๋วตรึงใจกับรอยยิ้มที่เขาฝากไว้ให้ ก่อนจะเดินจากไปเปิดประตูเหล็กที่ถูกปิดไว้อยู่

    อืม  เจอกัน  ฝากปิดตูด้วยอิ๋วทำสะลึมสะลือ  ท้าวคางลงบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยสมุดการบ้านเลขก่อนจะคิดอะไรบางอย่างได้  นำหน้าสติสัมปชัญญะของเธอด้วยสัญชาตญาณที่มีกันทุกคน นี่บิว ! เดี๋ยวก่อน  แปปนึง บิวจะชะงักหันกลับมารมอที่อิ๋ว  ก่อนที่เขาจะ ปิดกระตูเหล็กบ้านอิ๋วจนสนิท  พลางนึกในใจ  จะขอบคุณนะสิ  หุหุ  ^_^

    คือ  เบอร์โทรศัพท์นาย  เบอร์อะไรเหรออิ๋วพูดก่อนยกตัวเองขึ้นมา  หยิบโทรศัพท์เตรียมที่จะเม็มเมอรี่เบอร์ของบิวไว้ในเครื่องถึงแม้ว่า  ดูแล้วไม่น่าที่จะเม็มโทรศัพท์เอาไว้สักเท่าไรก็เหอะ  เรียนก็ที่เดียวกัน  บ้านก็อยู่ติดกัน  มีอะไรก็ตะโกนข้ามบ้านกันก็ได้  ไม่จำเป็จะต้องคุยโทรศัพท์กันหรอก  แต่เหมือนมีอะไรบางอย่าง  ทำให้อิ๋วรู้สึกอยากมีเบอร์โทรศัพท์คนนี้ไว้ในเครื่อง  อาจเพื่อความอื่นใจของตนเองด้วย

    T_T บิวดีใจและปลาบปลื้มใจอยู่มิคลาย  เมื่อได้ยินสิ่งที่อิ๋วพูดออกมา  มันน่าฟังยิ่งกว่าที่ตัวเองจินตนาการไว้อีก  เมื่อเขาลองมาทบทวนดูอีกที  ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่า  ที่เขาไม่เคยขอเบอร์โทรศัพท์อิ๋วไว้เลยนั่นคงเพราะ  คิดไม่ถึงนะมั้ง  อาจคิดได้ว่าบ้านอยู่ใกล้กันมาก  จนไม่ต้องมีเบอร์โทรกันหรอก  แต่มีไว้ก็ดีเหมือนกัน  ไว้ให้อุ่นใจเล่นๆ อิอิ  =_=

    ได้ไง  แลกกันดิบิวยิ้มก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเตรียมเม็มบ้าง

     

    คืนนั้นทั้งคู่ก็แลกเบอร์โทรศัพท์กัน  เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ต่างฝ่ายต่างมีเบอร์โทรศัพท์ของกันและกัน  เพราะหลังจากที่ทั้งคู่ห่างเหินกันตอนขึ้น ม.ปลาย  ทั้งคู่เพิ่งจะเริ่มมีโทรศัพท์มือถือใช้  เลยทำให้ไม่ได้มีเบอร์ของกันและกัน เพราะไม่ได้เจอกัน  และที่สำคัญเพราะว่าทั้งคู่คาดไม่ถึงด้วยว่า  อยู่ใกล้กันไม่รู้จะเอาเบอร์ของกันและกันไว้ทำไม  แต่ในที่นี้เรียกได้ว่า  ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังกลับมาเหมือเดิม  และในตอนนี้อาจมากกว่าเดิมแล้ว  และหลังจากวันนี้มา  บิวก็มาสอนการบ้านวิชาคณิตศาสตร์อิ๋วทุกวัน ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×