คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : kiss scene.
‘Kiss Scene’
“เด็กๆ วันนี้เราจะเวิร์คช็อปฉากเลิฟซีนกันนะ” พี่กุ๊กไก่ แอคติ้งโค้ชของพวกเราเดินมาหาผมกับโอบที่นั่งเล่นกันอยู่มุมห้อง
“ฉากจูบอะหรอฮะ”
โอบเป็นคนถามขึ้นก่อน ส่วนผมที่ถามไม่ทันก็เลยเงยหน้ามองตามเฉยๆ
“ใช่ พร้อมใช่มั้ย ไม่มีปัญหาอะไรนะ”
“ไม่มีครับ”
“กันล่ะ”
“ไม่มีฮะ” ผมส่ายหน้า บทแปลกๆอย่างในบิทเทอร์สวีทยังเคยเล่นมาแล้ว กับแค่ฉากเลิฟซีน ก็คงไม่น่าจะยากอะไร
โอบลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินไปยังกลางห้องซ้อม แต่ก็ยังไม่ลืมยื่นมือมาช่วยดึงผมให้ลุกขึ้นตามไปด้วย เราสองคนมาร่วมเวิร์คช็อปฉากที่ต้องเข้าด้วยกันหลายรอบแล้ว เลยเริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้น (สนิทกันระดับที่โอบไม่ยอมเรียกผมว่าพี่อะครับ-_-) ผมเอื้อมมือไปจับมือโอบไว้ ทันทีที่สัมผัสมือหนานั่น เจ้าของมือก็คว้ามือผมหมับแล้วดึงขึ้นจนผมแทบปลิวตามแรงดึง
“ตัวเบาจัง”
ยังจะพูดอีก!
“ก็ดึงซะแรงเลย”
“โห แรงแค่นี้เป็นเพื่อนโอบมันยังไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ” โอบหัวเราะจนตาหยี “กันอ่ะตัวเล็กเอง”
“แล้วจะให้ทำไงเล่า”
ผมว่าผมก็ไม่ได้เตี้ยนะ โอบสูงกว่าผมไม่เท่าไหร่(แต่ก็สูงอยู่) แต่ผมผอมกว่าเยอะไงครับ เลยดูตัวเล็กมากถ้ายืนเทียบกัน ผมก็กินปกตินะ ไม่ได้อดข้าวหรือไดเอทอะไรเลย แต่มันไม่อ้วนเองนี่หว่า
“แบบนี้ก็ดีแล้ว”
“ฮะ อะไรนะ”
เพราะมัวแต่สาละวนกับแชทในมือถือเลยไม่ทันได้ยินว่าเมื่อกี้คู่สนทนาพูดว่าอะไร พอเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วเงยหน้าถามอีกรอบ โอบดันไม่ยอมพูดอีกครั้งซะงั้น เอาแต่ยิ้มอยู่นั่น
“เด็กๆ จู๋จี๋อะไรกันจ๊ะ มานี่ได้แล้ว พี่นุชี่มาแล้ว”
“ค้าบ” ร่างสูงตอบ คว้าไหล่ผมไปกอดแล้วลากให้เดินไปกลางห้องที่มีพี่กุ๊กไก่กับพี่นุชี่ผู้กำกับยืนอยู่ด้วยกัน
“คือซีนนี้มันจะเป็นซีนหลังจากที่ภูมิกับตั้มมาเจอกันครั้งแรก จำได้ใช่มะ อีภูมิจะถามน้องตั้มก่อนว่ากลัวมั้ย ตั้มก็บอก ไม่กลัว มองตากันแป๊บนึงแล้วก็จูบเลย” พี่นุชี่หันไปพูดกับโอบ
“ทำไมภูมิเป็นอี แล้วตั้มเป็นน้องล่ะพี่นุชี่ ลำเอียงหรอ”
“แกยังต้องถามอีกหรอ”
“ผู้กำกับใจร้าย”
โอบร้องครางหงุงหงิง ดูแล้วตลกดีที่ผู้ชายตัวใหญ่ๆมาทำหน้าตาแบบนี้ ฮ่าๆๆ แต่ถามว่าพูดแบบนี้แล้วพี่นุชี่จะสงสารมั้ย ก็ไม่นะครับ เพราะโอบมันก็กวนตีนพี่เขาอย่างงี้ประจำ เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน เสร็จแล้วก็โอ๋กัน แล้วก็ทะเลาะกันใหม่ โอบนี่ลูกรักพี่นุชี่เขาเลย
“อะ ลองดู กันพร้อมนะ”
“พร้อมครับ”
“1 2 3 แอคชั่น”
สิ้นคำสั่งผู้กำกับ โอบที่ก้มหน้าทำสมาธิก็เงยหน้าขึ้นมามองผม สีหน้ากับแววตานิ่งๆที่ดูไม่ทะเล้นเหมือนทุกทีทำผมอินตามไปด้วย
“กลัวป่ะ”
ผมชะงักไปเล็กน้อย นึกถึงสภาพโลเคชั่นห้องน้ำเก่าๆที่พวกพี่ทีมงานพาไปสำรวจมาแล้วรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก แต่สุดท้ายตามบทผมก็ต้องส่ายหัวบอกออกไป
“ไม่กลัว”
โอบยิ้มมุมปากหลังจากได้ยินคำตอบของผม คือปกติหน้าโอบจะดูกวนๆโหดๆนิดนึงก็จริง แต่เขาขี้เล่นไง เลยดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มเป็น ‘ภูมิ’ ด้วยคาแรกเตอร์นิ่งๆ ดูลึกลับแล้ว ยิ่งส่งให้หน้ากวนๆของเขามันกวนตีนขึ้นอีกเป็นกอง
โอบจ้องตาผมอยู่ราวๆสองสามวินาทีก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดลงบนผิวแก้ม สองมือของเขาประคองอยู่ที่ใบหน้าผม มันใกล้ซะจนเห็นองค์ประกอบใบหน้าของเขาชัดเจน ทั้งจมูกโด่งๆ และดวงตาคมกริบ และยังไม่ทันที่ผมจะรู้ตัว ริมฝีปากของขาก็ประกบแนบลงกับริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการแตะริมฝีปากค้างไว้เฉยๆ
“หยู้ดดด หยุด!”
“หยุดทำไมคะพี่ หนูว่าน้องก็เล่นดีออก”
ผมกับโอบผละออกจากกันทันทีเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านเราทั้งคู่ โอ๊ย! บ้าชะมัด เมื่อกี้ผมลืมไปหมดเลยว่าต้องทำอะไรต่อ ลืมบท ลืมทุกอย่าง มัน .. มัน .. งงไปหมดเลย เหมือนโดนน็อคด้วยค้อนปอนด์อันใหญ่ ทั้งที่จริงๆแล้วมันก็แค่เอาริมฝีปากแตะกันเฉยๆด้วยซ้ำ ไม่ใช่จูบซะหน่อย!
ตั้งสติหน่อยอรรถพันธ์ T_T
“ถ้าหนังฉันมันเป็นหนังรักใสๆฉันก็จะให้ผ่านอยู่หรอก แต่มันไม่ใช่น่ะสิยะ จะมาเล่นฉากเลิฟซีนใสๆอะไร ฉันรับไม่ได้”
“แล้วพี่นุชี่อยากได้แอคติ้งแบบไหนคะ”
“ก็แบบเหมือนจริงน่ะ ถ้าฉันเป็นพวกเธอป่านนี้ฉันล้วงควัก ใช้ปากกันจนเสร็จไปแล้วย่ะ”
โห แค่คิสเบาๆผมยังจะตายเลย -_-; ถ้ามาทั้งล้วงทั้งควักผมคงตัวระเบิดตายอยู่ตรงนี้แน่ๆ
“พวกแกต้องกล้าๆเล่นกันไปเลย มันจะได้รอบเดียวผ่าน อย่าลืมว่าแกไม่ใช่โอบกับกัน แต่มันคือตั้มกับภูมิ เข้าใจมั้ย”
“งั้นจูบแรก ผมเอาเบอร์แรงแบบมีเซ็กซ์เลยนะ” โอบพูดขึ้นอย่างทะเล้นๆตามสไตล์ แต่ทำเอาผมหน้าร้อนวูบ
โอย จะบ้าตาย พูดอะไรไม่ปรึกษากันเลย!
“เออ ทำให้ได้อย่างที่ปากพูดนะ ไหนลองทำให้ฉันดูสิคะ ไม่ต้องถามแล้วนะว่ากลัวมั้ย จูบเลย”
พี่นุชี่สั่ง โอบหันมามองผมแล้วยิ้มให้ ขยับปากถามแบบไม่มีเสียงว่าพร้อมมั้ย ผมก็ได้แต่พยักหน้าเออๆออๆตามไปทั้งที่ในใจอยากจะขอเบรคใจจะขาด เมื่อคืนก็รู้นะครับว่าวันนี้จะต้องเวิร์คช็อปฉากจูบ ทำใจมาแล้วด้วย แต่พอเจอของจริงนี่บอกเลย ผมสั่นไปหมดแล้ว T_T
ทันทีที่พี่นุชี่บอกว่าแอคชั่น โอบก็ขยับเข้ามาใกล้ผม แววตานิ่งๆจ้องลึกเข้ามาในตาผมจนเหมือนถูกสะกดไม่ให้ขยับไปไหน ร่างสูงยื่นมือเข้ามารั้งท้ายทอยผมให้เข้าไปหาก่อนจะก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกเราชิดกัน แต่ทว่าก่อนที่โอบจะประกบริมฝีปากลงมา และก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมก็ผลักอกอีกฝ่ายออกไปซะแล้ว
“ว้าย ตายแล้ว”
“กันผลักโอบทำไมลูกก”
“แหะๆ .. คือ .. ผม ..” ผม ..อะไรล่ะ! ผมยังไม่รู้เลยว่าผลักโอบออกทำไม มือมันไปเอง T_T “ขอผมพักแป๊บนึงได้มั้ยฮะ”
“ตื่นเต้นหรอ คิกๆ ยังใหม่อยู่นี่เนอะ งั้นแยกย้ายไปทำสมาธิก่อนแล้วกัน”
“ให้เวลาสิบนาทีนะคะเด็กๆ”
“ครับ”
ผมเดินแยกออกมานั่งทำสมาธิที่มุมห้อง ปกติผมเป็นคนมีสมาธิกับการทำงานมากเลยนะ แต่เมื่อกี้เป็นอะไรไม่รู้ อยู่ดีๆก็เครื่องรวนเฉยเลย ผมผลักโอบออกไปก่อนที่ตัวเองจะรู้ตัวซะอีก
“เป็นไรอะ”
“หืม”
ผมเงยหน้ามองโอบที่เพิ่งเดินเข้ามา ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งข้างๆแล้วถาม
“กลัวเราหรอ”
“ป่าว ไม่ได้กลัว”
“เมื่อกี้กันดูตกใจมากเลยนะ”
“นิดหน่อย..” จริงๆก็มากอยู่
“กันไม่เคยเล่นฉากแบบนี้ว่ะ ..มันเลย .. แปลกๆ”
“นี่ก็ครั้งแรกของเราเหมือนกัน” โอบหัวเราะ “ตอนฮอร์โมนก็มีแต่ซีนต่อยกับชาวบ้านเค้า นี่เลิฟซีนกับผู้ชายครั้งแรกเลย”
ผมอยากจะตอบเขาจริงๆว่าเขาดูเชี่ยวมากเกินกว่าจะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกอ่ะ -_-
“แต่ถ้าเรามัวแต่เกร็งๆเขินๆ มันก็ต้องเล่นหลายรอบป่ะ”
“อือ”
“สู้เล่นเต็มที่ไปเทคเดียวให้จบเลยไม่ดีกว่าอ่อ”
“ก็ใช่..” ผมคล้อยตามโอบอย่างว่าง่าย โอบเอื้อมมือมาลูบหัวผมไปมาเบาๆเหมือนลูบหัวแมวแล้วยิ้มหวานให้ตามสไตล์
“กันทำได้อยู่แล้วแหละ เล่นฉากยากกว่านี้มาแล้วตั้งเยอะ”
“อื้อ ขอบใจนะ”
โอบยิ้ม ไม่ตอบอะไร แต่ลุกขึ้นยืนแล้วฉุดมือผมให้ลุกขึ้นตามเหมือนตอนแรก ก่อนที่เขาจะวิ่งไปหาพี่นุชี่กับพี่กุ๊กไก่เพื่อไปบอกว่าเราพร้อมแล้ว ผมเดินตามไปจนกระทั่งถึงกลางห้อง ยืนหันหน้าเข้าหาโอบโดยมีพี่สองคนนั่งมองอยู่ไม่ไกลนัก ห้องทั้งห้องเงียบสงัดจนได้ยินแต่เสียงแอร์ ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นถี่รัวเมื่อพี่นุชี่สั่งแอคชั่น
คราวนี้โอบไม่ทำอย่างช้าๆเหมือนครั้งแรกอีกแล้ว เขารั้งท้ายทอยผมเอาไว้ไม่ให้ขยับหนี ก่อนจะก้มหน้าเข้ามาจูบผมทันทีโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ความตกใจทำให้ผมเผลอเผยอปากออกโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ลิ้นร้อนได้เข้ามาเกี่ยวกระหวัดลิ้นผมอย่างง่ายดาย ผมเกือบจะผลักโอบออกไปอีกครั้งแต่ก็นึกได้ว่าโอบอุตส่าห์เล่นมาขนาดนี้ ถ้าผมมัวแต่เป็นบ้าเป็นบอแบบนี้ให้จูบอีกกี่ร้อยทีพี่นุชี่ก็คงไม่พอใจแน่ สุดท้ายผมก็เลยพยายามจูบเขาตอบกลับไปแบบเก้ๆกังๆ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ทันใจอีกฝ่าย โอบรั้งคอผมเข้าไปใกล้เขามากกว่าเดิมก่อนจะดูดดึงริมฝีปากผมอย่างรุนแรงจนผมแทบเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้น ต้องยกมือขึ้นจับบ่าโอบไว้แน่นเป็นหลักให้ตัวเอง
ริมฝีปากร้อนบดเบียดขบเม้มริมฝีปากผมอย่างเร่าร้อนจนผมเริ่มหายใจไม่ทัน ในหัวโล่งว่างจนลืมไปแล้วว่าเรากำลังอยู่ที่ไหน และทำอะไรกันอยู่ ผมลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองต้องสวมบทตั้ม และคนที่กำลังจูบผมอยู่นี้คือภูมิ
ผมก็คือกัน .. และคนตรงหน้าผมคือโอบ ..นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึก
“อ.. อื้อ..”
ผมครางออกมาเมื่อเริ่มจะรู้สึกว่าหายใจไม่ทันจริงๆแล้ว จนต้องใช้มือที่เคยบีบไหล่โอบเอาไว้เป็นที่ยึดมาดันหน้าอกเขาออกไปเบาๆแทน โอบชะงักเมื่อเห็นถึงปฏิกิริยาของผม เขาเลียริมฝีปากผมอีกครั้งช้าๆก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
และนั่นทำให้ผมหน้าร้อนจนแทบจะไหม้! T//////////T
“.. มายก็อด”
“อ ..โอเคมั้ยคะพี่นุชี่”
เสียงพี่กุ๊กไก่ถามพี่นุชี่ดังผ่านหูผมเข้ามา แต่ผมไม่มีสติพอจะรับรู้อะไรแล้ว มันเบลอไปหมดเลย
“กรี๊ดด ดีมาก ถ่ายจริงฉันเอาแบบนี้เลยนะโอบ”
“ผมให้ได้มากกว่านี้อีก แต่ไม่รู้กันจะไหวมั้ย”
“ไม่รู้แหละ แต่ต้องให้ได้แบบครั้งนี้เป็นอย่างน้อย” พี่นุชี่คว้ากระเป๋าขึ้นมาถือ “วันนี้ฉันพอใจแล้ว โอเค แยกย้ายได้”
พูดจบก็เดินออกไปโดยมีพี่กุ๊กไก่วิ่งตามไปถามเรื่องงาน ในห้องซ้อมก็เลยเหลือเพียงแค่ผมกับโอบเท่านั้น
“กัน”
“ฮ ..ฮะ อะไร”
“เฮ้ย เบลอเลยอ่อ” โอบหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางเบลอๆของผม
“เหอๆ นิดหน่อย”
ผมยกมือเกาแก้มแบบเขินๆ ไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ตรงไหน ก็เมื่อกี้เพิ่งจูบกันมาสดๆร้อนๆจนแทบจะเผาห้องไหม้ไปทั้งแถบ จะให้มายืนคุยกันอย่างสงบเลยมันก็ทำใจยากนี่หว่า
“เรามีอะไรจะบอก”
“หือ อะไร”
โอบยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างไม่น่าไว้ใจแล้วขยับเข้ามาใกล้ผม ยกมือขึ้นมาจับแก้มผมแล้วดึงออกเบาๆก่อนจะพูดยิ้มๆ
“กันก็จูบเก่งเหมือนกันนะ”
โอบ !!!! นิ !!!! ธิ !!!!!!!!!!!!!
END.
งึ่กก เขียนจบจนได้ TwT
เป็นฟิคที่เขียนไปเขินไป จะบ้าตาย 5555555555555 วนดูฉากจูบซ้ำๆไปเป็นร้อยรอบกว่าจะเขียนออกมาได้ ฮือๆ <สาบานได้ว่าดูเพื่อเอามาเขียน ไม่ได้ดูเพื่อความฟินเลย พูดจริงจริ๊ง
เรื่องนี้มโนแบบ based on เกือบ true story นะคะ คือมีทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้างปนกันไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่จริง 55555555 ที่จริงก็เห็นๆกันอยู่โนะ จูบจริง 5555555 /แอร้ เขิน หลายไดอะล็อกก็เอามาจากในเฟสของพี่นุชี่ผู้กำกับ อันนี้ๆ
แล้วก็ที่โอบกันพูดในรายการ gang ment ว่าจูบกันอยู่หลายรอบกว่าจะได้ออกมาแบบนี้ คึคึ ติ่งฟินหนักมาก ยังไงก็ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ อ่านแล้วย้อนไปดูซีนจูบไปด้วยก็จะดีมากเลออ ฮ่า ขอบคุณที่ติดตามกันน้า
ปล.เราอาจจะไม่ได้ลงเป็นเรื่องสั้นแบบนี้บ่อยนัก เพราะหลังจากนี้คงไม่มีเวลา (เรียนหนักขึ้นมาก ฮือๆ) แต่จะพยายามมาลงแบบ line story มุ้งๆมิ้งๆเหมือนตอนที่แล้วให้ได้ตามที่ต่อมมโนจะจินตนาการได้นะ
อ่านตรงนี้กันนิดนึงเนอะ เรามีเรื่องจะถามค่ะ คือเราไม่เคยแต่งฟิคแบบคู่คนไทยเลยอ่ะ(งงป่ะ ปกติแต่งฟิคนักร้องเกาหลีเงี้ย เค้าก็อ่านไทยไม่ออกใช่มั้ยอ่ะ) แต่แบบ โอบกันก็คนไทย โอบรู้ว่ามีแท็ก #ทีมโอบกัน เราไม่รู้ว่าสองคนเค้าจะโอเคมั้ยถ้ามีฟิค บางทีเค้าอาจจะไม่ชอบ555 เราก็เลยคิดว่าถ้าเราลงฟิค เราจะไม่อัพในแท็กดีมั้ย คือโพสบอกในทวิตเราเฉยๆว่าอัพแล้วนะ แต่ไม่ติดแท็ก อ่านเฉพาะคนที่รู้ว่ามีฟิคคู่นี้อยู่บนโลกนี้ก็พอ อะไรแบบนี้ ทุกคนคิดว่ายังไงคะ บอกได้นะ 55555 เหตุผลเดียวของเราคือกลัวโอบกันรู้นี่แหละ ฮา มันแปลกๆมั้ยอ่ะ มีฟิคเป็นของตัวเอง ยังไงก็เม้นบอกกันไว้ได้นะว่าเราทำแบบนี้ดีมั้ย หรืออัพๆใส่แท็กไปดี เราคิดมากไปเองงี้ บอกหน่อยน้า 5555 ; _ ;
ความคิดเห็น