ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {exo} รักเมียที่สุดในโลก - KRiSYEOl ft. EXO

    ลำดับตอนที่ #7 : คาถาบูชาเมีย บทที่๖ : รักเมียอย่าอ่อนเพลีย คนรักเมียต้องแข็งแรง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.3K
      14
      2 ต.ค. 56

    คาถาบูชาเมียบทที่๖ : รักเมียอย่าอ่อนเพลีย คนรักเมียต้องแข็งแรง

     

    “ชานยอล ..”


    “...”


    “ชานยอลครับ”


    “.. อืออ”


    “เป็นอะไรครับ ลุกไม่ไหวหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม สอดตัวเองขึ้นนั่งบนเตียงกว้างที่มีร่างบางนอนหลับอยู่


    “ปวดหัว”


    เสียงแหบสนิทพึมพำเบาๆจนแทบไม่ได้ยิน คริสเลยได้ขยับตัวเข้าไปไกลก่อนจะดึงร่างบอบบางให้เข้ามาใกล้ตัว แล้วก็ต้องตกใจเหมือนอุณหภูมิบนร่างกายอีกฝ่ายนั้นร้อนจนสัมผัสได้ ฝ่ามือหนาทาบลงบนหน้าผากมนก่อนจะขมวดคิ้วออกมาเมื่อพบว่ามันร้อนจนไม่แปลกที่เจ้าตัวจะบ่นว่าปวดหัว คริสได้แต่นึกหาสาเหตุที่ทำให้ชานยอลไข้ขึ้นแบบนี้ ..


    .. และก็พบว่ามีแค่ 2 สาเหตุง่ายๆเท่านั้นแหละที่ทำให้สุดที่รักเขาเป็นแบบนี้ได้ 1.เมื่อคืนโดนมอมเหล้ามา และ 2. เขาจัดหนักไปหน่อย ..


    “พี่คริสจะไปไหน”


    ร่างบางที่ขยับมาหนุนตักพี่ร้องถามอ้อนๆพลางซบหน้าลงกับตักอุ่น


    “จะไปเรียนครับ” ร่างสูงตอบ ลูบหัวทุยเบาๆอย่างรักใคร่ “แต่ตอนนี้ไม่ไปแล้ว”


    “อืออ ทำไมล่ะ”


    “ชานยอลป่วยอย่างนี้พี่จะไปไหนได้ล่ะ หืม”


    “ผมอยู่ได้” เสียงแหบห้าวพึมพำเบาๆ แต่ยังคงแนบหน้าลงกับตักคริสอยู่แบบนั้น


    คริสหัวเราะเบาๆพลางลูบหัวลูกหมาน้อยตัวโตไปด้วย ชานยอลเป็นพวกป่วยยาก นานๆจะป่วยที แต่ถ้าป่วยขึ้นมาล่ะก็ต้องนอนซมหลายวันกว่าจะหาย แถมอาการแทรกซ้อนของอาการป่วยของชานยอลคืออาการอ้อนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็รักษาไม่หายซะที เวลาปกติว่าอ้อนแล้ว แต่ตอนป่วยนั้นอ้อนยิ่งกว่าหลายเท่า


    “ถ้าพี่ปล่อยเราให้นอนอยู่คนเดียวในห้องแบบนี้ ด่าพี่ว่าหน้าตัวเมียดีกว่า -_-


    “แต่พี่คริสมีเรียนนี่” ชานยอลงึมงำโดยที่ตายังแทบลืมไม่ขึ้น


    “เลิกพูดได้แล้วเด็กดื้อ อย่าเพิ่งหลับนะ เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้ทานก่อน”


    “ไม่หิวอ่า”


    “ไม่หิวก็ต้องกิน” คริสยิ้ม รั้งร่างบางขึ้นมานอนพิงหัวเตียงเอาไว้ก่อนจะเอามือแนบแก้มขาวที่แดงระเรื่อเพราะพิษไข้ “จะได้กินยาแล้วนอนพัก”


    “อื้อ” ชานยอลรับคำ ช้อนตาขึ้นมองพี่ด้วยสายตาออดอ้อนเพราะพิษไข้ “เร็วๆนะฮะ”


    คริสมองคนรักที่มองเขาตาเชื่อมด้วยความเป็นห่วงก่อนจะถอดเสื้อนักศึกษาที่เพิ่งใส่ได้ไม่นานออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อกล้ามที่ใส่อยู่ในห้องเป็นปกติแทน มือเรียวคว้ามือถือคู่ใจขึ้นมากดโทรหาเพื่อนสนิทในขณะที่มืออีกข้างก็วุ่นอยู่กับการเตรียมอาหารเบาๆสำหรับคนป่วย


    (ไอ้คริส อยู่ไหนแล้ววะ เมื่อไหร่จะมา สายแล้วนะเว้ย ‘จารย์วิชานี้โหดมึงก็รู้) เสียงจากปลายสายดังรัวทันทีที่มีคนกดรับโดยไม่ต้องให้เขาทักทายให้เสียเวลา


    “โทษที มึงเข้าไปเรียนกันเลย กูไม่ไปแล้วว่ะ”


    (อ้าว ไมวะ)


    “ชานยอลไม่สบาย”


    คริสตอบเรียบๆ พลางหยิบซองโจ๊กสำเร็จรูปออกมาจัดการทำให้มันเป็นรูปเป็นร่าง เพราะถ้าหากให้เขาโชว์ฝีมือเองแล้วครัวคงได้ไหม้กันไปข้าง ทักษะด้านการทำอาหารของเขาต่ำต้อยพอๆกับทักษะด้านการวาดรูปนั่นแหละ


    (อ้าว ไม่สบายเลยหรอวะ เมื่อคืนเห็นลากน้องออกไป .. นี่มึง ...)


    “เงียบน่า” ร่างสูงขมวดคิ้ว แม้อีกฝ่ายจะไม่เห็นก็ตาม “เอาเป็นว่ากูไม่ไป บอกคนอื่นด้วยแล้วกัน”


    (เออ ดูแลน้องดีๆล่ะ)


    “รู้แล้วน่า แค่นี้แหละ”


    พูดจบก็กดตัดสายทิ้งก่อนจะกดโทรออกหาใครอีกคน ในขณะที่โจ๊กสำเร็จรูปในหม้อค่อยๆมีสารร่างเป็นโจ๊กที่ท่าทางจะกินได้ขึ้นมา ร่างสูงหนีบโทรศัพท์ไว้กับหูก่อนจะเปิดตู้เย็นที่มักจะมีของสดเล็กๆน้อยๆติดไว้แล้วหยิบเนื้อสัตว์ออกมาใส่ลงไปเท่าที่มีอยู่ เนื่องจากเขาทำอาหารไม่เป็น ของสดพวกนี้ก็จะเป็นของชานยอลที่มักจะทำอะไรทานเองเวลาขี้เกียจออกไปข้างนอก ถึงจะไม่เก่งอะไรมากมาย แต่หากทำให้เขาทานคริสก็รู้สึกว่ามันเป็นอาหารมื้อที่พิเศษที่สุดในโลก


    “ฮัลโหล”


    (โทรมาไมแต่เช้าเนี่ย) เสียงใสอันเป็นเอกลักษณ์ดังมาตามสาย พร้อมเสียงหัวเราะกวนประสาทของเจ้าตัวที่คริสคิดว่าหากอยู่ใกล้ๆคงจะโบกหัวกลมๆนั่นสักทีสองทีให้หายเตี้ย


    “มีเรียนกี่โมง”


    (เอ๊า ทำไมไม่ถามชานยอล)


    “ตอบมาเถอะน่าเตี้ย”


    (สิบเอ็ดโมง)


    ตาคมเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือโดยไม่พูดอะไร เพราะนี่เพิ่งแปดโมงเช้า ไม่แปลกที่แบคฮยอนจอมโวยวายจะยังไม่ตื่นและหงุดหงิดเพราะเขาโทรไปปลุก ร่างสูงเทโจ๊กร้อนๆหอมกรุ่นลงถ้วยใบสวย ปากก็สนทนากับคนในสายไปด้วย


    “วันนี้ชานยอลหยุดนะ”


    (ห้ะ อ้าว หยุดทำไมอ่า)


    “ไม่สบาย” คริสตอบสั้นๆพลางเดินถือถ้วยโจ๊กไปที่ห้องนอน


    (เอ๊ยยย ไม่สบายหรอ เป็นอะไร เป็นมากมั้ย แล้วใครดูแล แล้ว .. แล้ว ..)


    “จะตีโพยตีพายทำไมเนี่ยเตี้ย” คริสหัวเราะหึ “ผัวเค้าอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกังวลนะครับคุณเพื่อนเมีย”


    (กล้าพูดว่ะ)


    “เออ ไปนอนต่อไป จะโทรมาบอกเฉยๆว่าชานยอลไม่ไปมหาลัย”


    (อืม ดูแลเพื่อนผมดีๆนะ!)


    “รู้แล้วล่ะน่า ไปนอนไป”


    (ครับพี่ครับ ไปแล้วครับ)


    คริสส่ายหัวอย่างปลงๆกับนิสัยกวนประสาทของเพื่อนรักของแฟน ก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโซฟานอกห้องนอน ส่วนตัวเขาก็เดินถือถ้วยโจ๊กเข้ามาในห้อง และก็พบว่าชานยอลตัวแสบของเขาหลับคอพับไปแล้วทั้งที่ยังนั่งหลังพิงเตียงนอนอยู่แบบนั้น

                มือเรียววางถ้วยใบสวยไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะเขย่าไหล่เล็กเบาๆให้ตื่น แต่ชานยอลจอมขี้เซาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่ายๆ


    “ชานยอล ตื่นก่อน”


    “อือออ”


    “ชานยอลครับ ตื่นมาทานข้าวก่อนนะ เดี๋ยวค่อยนอนต่อ”


    “ไม่เอา ไม่หิว”


    “ไม่หิวก็ต้องทาน ตื่นเร็วครับ” คริสดึงแก้มป่องๆของคนรักให้ยืดออกด้วยความหมั่นเขี้ยว ในที่สุดชานยอลก็ยอมลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากใช้เวลาปลุกอยู่ร่วมห้านาที


                ร่างบางลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงด้วยสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ผมสีน้ำตาลอ่อนชี้ไปชี้มาดูไม่เป็นทรง เสื้อนอนตัวโคร่งที่เป็นของคริสแต่ชานยอลชอบยึดไปใส่ด้วยเหตุผลว่ามันสบายดีตกลงมาอยู่ที่ไหล่เผยให้เห็นรอยรักเป็นจ้ำรอบคอ บวกด้วยสายตาเชื่อมๆจากคนป่วยยิ่งทำให้ชานยอลตอนนี้ดูยั่วยวนกว่าปกติเป็นสิบเท่า คริสกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะนั่งยองๆกับพื้นเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับชานยอลที่นั่งอยู่บนเตียง


    “กินเองได้มั้ย หรือจะให้พี่ป้อน”


    “พี่ป้อนได้มั้ย หรือจะให้กินเอง” เสียงแหบห้าวทวนคำอย่างออดอ้อน เรียกเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอจากคริสได้เป็นอย่างดี มือใหญ่ขยี้กลุ่มผมนิ่มเบาๆกอ่นจะลงมือป้อนโจ๊กอุ่นๆเข้าปากคนรักอย่างห่วงใย


    เพียงไม่นานหลังจากกินโจ๊กฝีมือคุณชายคริสไป ชานยอลก็เริ่มทำท่าจะหลับแหล่มิหลับแหล่อีกครั้ง


    “อิ่มแล้วหรอ”


    “อื้อ”


    “ทานไปนิดเดียวเองนะ”


    “เจ็บคอง่า” ชานยอลร้องท้วงเบาๆ


    “ดื่มน้ำก่อนแล้วกัน”


    ร่างสูงส่งแก้วน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ให้คนรักดื่ม ก่อนจะหันไปหยิบยาแก้ไข้ออกมาเตรียมไว้


    “ถ้าอิ่มแล้วก็กินยา”


    “ไม่กินได้มั้ย” ลูกหมาน้อยส่งเสียงแง้วๆ “ไม่อยากกินเลย”


    “ไม่กินก็ไม่หายสิเบบี๋”


    “ก็ไม่อยากกินนี่ ..”


    “อย่าดื้อสิครับ”


    “งั้น .. พี่ป้อนได้มั้ย” ตากลมเชื่อมเพราะพิษไข้ช้อนมองสบตาคนรักอย่างออดอ้อน ชานยอลไม่ถูกโรคกับยาเม็ดมาแต่ไหนแต่ไร จะกินยากันทีก็ต้องหาวิธีมากมายมาหลอกล่อเป็นเด็กๆจนคริสเริ่มจะชินเสียแล้ว


    “หึ ไอ้เด็กขี้อ้อนเอ๊ย”


    คริสโยกหัวกลมไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดู ก่อนจะจับยาเข้าปากตัวเองก่อนจะรั้งร่างเล็กลงมาประกบปากแผ่วเบาโดยที่อีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ลิ้นร้อนดันยาเม็ดเล็กเข้าปากอีกฝ่ายช้าๆพร้อมไล้เล็มริมฝีปากเล็กที่แดงเรื่อเพราะพิษไข้จนร่างเล็กต้องจิกไหล่หนาเบาๆเพื่อเป็นการปรามให้หยุด คริสถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะส่งน้ำให้อีกฝ่ายรับไปดื่มตามหลัง โดยที่ชานยอลก็รับไปดื่มแต่โดยดี หลังจากนั้นร่างเล็กก็มุดตัวเองลงไปในผ้าห่มที่พันอยู่รอบตัวจนเหมือนดักแด้สีขาว


    “หนาวหรอ”


    “ครับ”


    “พี่ปิดแอร์มั้ย?”


    “ไม่เอา..”


    “ทำไมล่ะ?”


    “เดี๋ยวพี่คริสร้อน..”


    “เด็กบ้า” คริสจับแก้มป่องที่แดงเรื่อแล้วบีบเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว “พี่ไม่ร้อนหรอกน่า ตกลงปิดมั้ย?”


    “ไม่ต้องปิดหรอกฮะ”


    “ไม่หนาวแน่นะ?”


    “ถ้าพี่กอดผม .. หนาวแค่ไหนก็อุ่นอยู่ดี”


    ผมบอกแล้วใช่มั้ยครับทุกคน ..

    ว่าถ้าชานยอลป่วย .. อาการอ้อนมันจะมากกว่าปกติไม่รู้กี่เท่า

    แค่อ้อนระดับปกติผมก็ใจอ่อนจะแย่ แล้วเล่นกันแบบนี้ .. คิดว่าผมจะไปไหนรอดครับ?


    “ขี้อ้อนจริงนะเรา” คริสบ่นเบาๆอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนชานยอลก็ส่งยิ้มตาหยีกลับมาแบบไม่เกรงกลัว


    “งั้นนอนไปก่อนครับ เดี๋ยวพี่มา”


    “ไปไหนอ่า..”


    “เดี๋ยวมาครับ แป๊บนึง”


    ว่าแล้วคริสก็เดินหายออกไปจากห้องนอน สักพักใหญ่ถึงกลับมาพร้อมกะละมังใบเล็กที่ไม่รู้ไปขุดมาจากไหน และผ้าขนหนูผืนเล็กที่ถูกชุบน้ำมาหมาดๆ

    มือใหญ่จับผ้าขนหนูนั่นเช็ดเบาๆตามซอกคอ แขนขา และข้อพับอย่างอ่อนโยนเพื่อบรรเทาความร้อนภายในร่างกายร่างเล็กออกมาบ้าง จากนั้นก็ใช้ผ้าอีกผืนที่ถูกชุบน้ำจนเย็นมาวางแปะไว้บนหน้าผากมนเพื่อบรรเทาความร้อนอีกทาง


    “ผมจะหลับแล้วนา..” ชานยอลส่งเสียงยานคางขึ้นมา ตากลมใกล้จะปิดลงทุกที คริสเลยต้องวางอุปกรณ์ทุกอย่างไว้ข้างเตียงแล้วสอดตัวเองลงในผ้าห่มผืนเดียวกันก่อนที่ชานยอลจะขยับตัวเข้ามากอดแล้วซุกเข้าหาเขาด้วยความเคยชิน วงแขนแกร่งวาดกอดร่างเล็กเอาไว้ก่อนจะจุมพิตลงบนเปลือกตาบางเบาๆอย่างรักใคร่


    “นอนนะครับ” พูดจบก็หอมแก้มนิ่มอีกที “แล้วก็หายไวๆด้วยนะ ป่วยแบบนี้พี่ใจไม่ดีเลย”


    ร่างเล็กไม่ตอบอะไร เพียงแต่ขยับเข้าหาอีกฝ่ายมากขึ้น ส่วนมือเล็กก็กำชายเสื้ออีกคนเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปก่อนจะพึมพำเบาๆ



    “กำลังใจดีแบบนี้ หายเร็วแน่เลยฮะ ...”

     

    -----------------------

    เอ่อ ... ชื่อตอน .. สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องตรงไหน!!!!!!!! 55555555555

    อย่าสนใจเลยค่ะ ชื่อตอนมันมาเป็นแบบนี้ แต่อยากแต่งให้พี่คริสดูแลน้องบ้าง เห็นทุกคนหมั่นไส้พี่คริสกันเหลือเกิน เลยอยากลองเปลี่ยนมุมให้ดูพี่คริสอ่อนโยนดูบ้าง (จะได้ไม่แปลกใจว่าทำไมชานยอลถึงรักพี่คริสขนาดนี้ เนอะ - .-)

    ชอบไม่ชอบยังไงติชมกันได้เหมือนเดิมนะคะ หรือจะส่วนตัว เมนชั่นมาที่ทวิตคนเขียนก็ได้ หรือจะแท็ก #รักเมียที่สุดในโลก ก็ได้ค่ะ อ่านทุกคอมเม้นแน่นอน ~ ^^

    ปล. ตอบคอมเม้นหน่อย มีหลายเม้นถามว่าคนเขียนใช่คนเดียวกับที่แต่งฟิค FANBOY ในบ้าน The11KY หรือเปล่า ตอบตรงนี้เลยว่า คนเดียวกันค่ะ แต่ไม่ได้เอาแฟนบอยมาลงที่นี่ (แต่คิดไว้แล้วว่าถ้าเรื่องนี้จบ จะเอาแฟนบอยมาลงแน่นอนค่ะ) ฝากติดตามด้วยนะคะ

    ขอบคุณทุกความสนใจเหมือนเดิมค่ะ
    >_< 




    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×