ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Black Memories

    ลำดับตอนที่ #9 : Memories -8-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 337
      3
      17 มี.ค. 57

     
     
      
         Black Memories

    -8-

     








    ประตูหน้าต่างรถถูกเลื่อนลงเพื่อที่จะให้กลุ่มก้อนควันพิษสีนิลจากปลายแท่งบุหรี่ล่องลอยออกไป ริมฝีปากกระจับสวยดูดกลืนควันสีนิลผ่านช่วงลำคอด้วยใบหน้าเรียบเฉยทำราวกับมันเป็นเพียงอากาศธรรมดาเท่านั้น

    เปลือกตาสองชั้นดูดีที่ใครมากมายหลงใหลช้อนตาขึ้นมองร่างบางที่นอนสลบเหมือดอยู่เบาะหลังส่งผลให้รอยยิ้มร้ายกาจกระตุกขึ้นส่งเสียงหัวเราะเบาๆในลำคออย่างพึงพอใจ ยิ่งสำรวจทั่วโครงหน้าขาวหวานแม้จะไม่ชัดนักเพราะทั้งความมืดและผ่านเลนส์กระจกแต่ก็ไม่ได้ลดความงดงามของร่างเล็กนั้นลงไปได้เลย

    “อืม..” ลู่หานยกนิ้วแกร่งขึ้นลูบใต้คางสากที่ไรหนวดเริ่มขึ้นมาเล็กๆเกิดจากความขี้เกียจของเขาที่ไม่สนใจจะโกนมันให้เรียบร้อยช่างชัดกับใบหน้าหวานนั้นจริงๆ ไปมาอย่างพินิจและสำรวจ สายตากว้างที่แสดงความหื่นกระหายอย่างปิดไม่มิดสำรวจจนทั่วร่างขาวบางที่นอนนิ่งไม่ไหวติงด้วยลมหายใจสม่ำเสมอ

    ริมฝีปากเล็กกระจับสวยสีแดงระเรื่อราวกับลูกเชอรี่สด

    เปลือกตารีที่ซ้อนลูกแก้วกลมสดใส

    ลำคอระหงส์ขาวผ่องนั้น..

     

    “อ่า.. นายมันนี่ เอ็กซ์ จริงๆ”

     

    คิมมินซอก” ก่อนจะตวัดสายตาหันกลับไปสนทางข้างหน้า สตาร์ทรถหรูมุ่งออกจากข้างทางแห่งนี้ทันทีด้วยความเร็วสูง

     

     

    1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

     

    เสียงสีเสียงมากมายดังกระหึมไปทั่วผับหรูมีระดับ บางจังหวะเพลงมันส์ๆจะแผ่วลงเล็กน้อยเมื่อดีเจหนุ่มพูดแทรกขึ้น หรือเพื่อที่จะอ่านเนื้อเพลงที่ขอเข้ามาไม่ได้ขัดบรรยากาศความสนุกสักเท่าไหร่นัก พวกลูกสาวลูกชายคุณหนูที่เมื่อฤทธิ์แอลกอฮอร์เข้าปากก็ดูเหมือนจะไร้สติกันไปเสียหมด เบียดเสียดเต้นกันไม่อายใครหน้าไหนทั้งนั้น

    แม้สถานที่หรูหรานี่จะพึ่งเปิดได้เพียงคืนแรกกลับมีลูกค้ามากมายเบียดเสียดกันจนแทบหากันไม่เจอ ยังชั่วที่มีการ์ดคอยควบคุมสถานที่ไม่ให้วุ่นวายจนเกินไป ทุกคนคล้อยตามไปกับเสียงเพลงและแสงสีเสียงที่นี้แต่ดูเหมือนจะมีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับที่แห่งนี้เลยสักนิดเดียว

    “แม่งอยากลุกขึ้นไปเต้นเลยหว่ะพี่” จื่อเทาส่งเสียงกระซิบใกล้ข้างหูเพราะเสียงที่ดังเลยยิ่งต้องตะโกนพูดคุยจึงจะสามารถได้ยินเสียงกันได้ จะมีก็เพียงสายตานิ่งเย็นที่ดูท่าจะเริ่มร้อนรนเต็มแก่ จื่อเทาส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอเมื่อจ้องมองใบหน้าสวยหวานของอีกคนแต่นิสัยห่ามก็ลบล้างกันได้ดีทีเดียว

    “นี่ร้อนรนเพราะอยากแก้แค้น หรืออยากอะไรกันแน่วะเนี่ย”

    “กูไม่ได้ยิน” เพราะเสียงที่ดังสามารถทำให้ลู่หานแสร้งโกหกหน้าตายออกไปได้ นั้นยิ่งทำให้จื่อเทาหัวเราะชอบใจหนักเข้าไปอีก

    ลู่หานสะบัดหน้าหนีจากรุ่นน้องกวนตีนคนนี้ของเขาอย่างหงุดหงิด

    หงุดหงิดที่มันรู้ทันซะทุกเรื่อง..

    สายตาสวยช้อนขึ้นมองไล่ตั้งแต่รองเท้าส้นสูงสีแดงแปร๊ดตามไปด้วยขาเรียวที่สวมทับด้วยถุงน่องตาข่ายเซ็กซี่ ผ่านเสื้อเกาะอกสีเลือดหมูข้น และหยุดตรงใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีเข้มที่กำลังกระตุกยิ้มหวานมองมายังเขาด้วยสายตาที่รู้ๆกัน  

    “ขอนั่งด้วยนะคะ สุดหล่อ”  เลื่อนเข้ามากระซิบเสียงหวานข้างใบหูที่มีจิวเล็กๆสีดำประดับอยู่นั้นทันทีแม้จะเอยออกมาอย่างนั้นแต่ก็ล้มตัวลงนั่งทันทีไม่ต้องรอให้เจ้าของที่อย่างลู่หานอนุญาตใดใดลู่หานกระตุกยิ้มเหลือบกลับไปมองจื่อเทาที่พยักหน้าเป็นเชิง

    ตามสบาย

    “ไปนั่งต่อกันสองคนที่ห้องน้ำเถอะคนสวย” ใบหน้าดูดีซุกกระซิบข้างลำคอที่หอมฉุนไปด้วยน้ำหอม แม้มันจะทำให้ลู่หานนิ่วหน้าเพราะความฉุนนี้เล็กน้อยก็ตามมือหนาก็ลูบเบาๆที่ต้นขาเรียวนั้นไปพรางอย่างสนุกมือจนกว่าจะถึงเวลานั้น

    หาที่ลงไปพรางก่อนก็แล้วกัน

     

     

    “คุณอี้ฟานครับ ลูกค้ารายใหญ่มาแล้วครับ” ใบหน้าคมเลื่อนออกจากซอกคอขาวหันไปยังผู้มาใหม่ด้วยสายตาติดจะขัดใจเล็กน้อย จะมีก็เพียงร่างเล็กของมินซอกที่รีบอาศัยจังหวะยันตัวลุกขึ้นนั่งลอบแสดงอาการโล่งอกออกมาอย่างปิดไม่มิด แต่ก็รีบกลับไปทำใบหน้านิ่งๆเหมือนเดิม

    “นั้นใคร” สายตาคมมองเลยผ่านบอดี้การ์ดหนุ่มของเขาไปยังร่างพวกการ์ดชุดดำของเขาจะมีก็เพียงอีกสองคนที่ทำให้เขาสะดุดสายตาเนื่องจากทั้งสีผมรวมไปถึงใบหน้าที่ถึงแม้จะสวมแว่นดำปกปิดแต่ก็กลับดูเด่นออกมาจากพวกการ์ดประหลาด

    “การ์ดรักษาความปลอดภัยพึ่งรับเข้ามาใหม่เห็นว่าหน่วยก้านพอใช้ได้เลยจะให้มาคุ้มกันหน้าห้องคุณมินซอกครับ” อี้ชิงเหลือบกลับไปมองคนมาใหม่ที่หยุดยืนอยู่ด้านหลังตนเล็กน้อยแล้วจึงหันกลับมาอธิบายให้อีกคนเข้าใจ เพราะเวลาที่กระชันชิดเข้ามาบวกกับลูกค้ารายใหญ่นี่มีผลค่อยข้างมากกับธุรกิจของเขาจึงทำให้เลือกที่จะพยักหน้าส่งๆ แล้วจึงหันกลับมายังร่างของมินซอก

    “อย่าออกไปจากห้องนี้จนกว่าฉันจะกลับมา เข้าใจใช่มั้ย?”

    “ครับ” เขาขานรับเล็กน้อย ฟันเรียงสวยกันริมฝีปากล่างแน่นเมื่อใบหน้าคมก้มลงสัมผัสริมฝีปากหนาลงบนต้นคอขาวไล้ปลายจมูกตามผิวเนียนอย่างหลงใหล โดยที่ทำเหมือนพวกการ์ดและอี้ชิงไม่มีตัวตนอยู่เลยสักนิด มินซอกหลับตาแน่นไม่กล้าแม้แต่จะผลักหรือมองไปยังคนข้างหลังที่มองมายังพวกเขาอย่างไรก็ไม่ทราบ

    “อ อี้ฟาน.. พอก่อนเถอะ งานสำคัญไม่ใช่หรอเดี๋ยวจะเสียงานนะ” เมื่อความอดทนสิ้นสุดจึงกลั้นใจเอยออกไปพรางออกแรงดันอกแกร่งนั้นออกน้อยๆ

    “แล้วฉันจะรีบกลับมา” ทิ้งท้ายเพียงเท่านี้ ก็ก้าวผละออกจากร่างบางเดินนำหน้าบอดี้การ์ดร่างโปร่งออกไปทันที อี้ชิงเหลือบมองยังใบหน้าที่เคยซีดแต่เริ่มกลับดูสดใสขึ้นบ้างเหมือนจะหายใจหายคอสะดวกเมื่ออี้ฟานออกไป แววตาบางอย่างฉายขึ้นในม่านตาสวยนั้นยามเมื่อจ้องมองเสี้ยวหน้าของมินซอกแต่ก็ไม่มีใครสังเกตมันทัน

    “รักษาความปลอดภัยคุณมินซอกให้ดี เข้าใจมั้ย” เสียงทุ้มนุ่มหันไปสั่งกับพวกที่เหลือ การ์ดหนุ่มยืนเรียงตรงขานรับพร้อมเพียง อี้ชิงพยักหน้าแผ่วเบาแล้วจึงรีบเดินตามร่างอี้ฟานที่หายลับไปแล้วทันทีไม่นานพวกการ์ดจึงกระจายตัวไปประจำหน้าที่ของตนเองอย่างรู้งาน ภายในห้องรับรองสุดหรูจึงเหลือเพียงมินซอกที่นั่งนิ่งเหม่อคิดอะไรคนเดียวเรื่อยเปื่อย

    ความจริงเขาไม่ได้อยากตามอีกคนมายังสถานที่แบบนี้มากนักหรอก แต่หากอยู่แต่บ้านมันก็รู้สึกหดหู่และหวนคิดแต่เรื่องราวในอดีตไม่รู้จักสิ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายๆไปซะ จะมีใครที่หดหู่ได้เท่าเขาอีก.. บางครั้งไอ้อาการรู้สึกรังเกียจร่างกายตัวเองจนแทบอาเจียนออกมาก็ทำให้อยากจะหยิบมีดขึ้นมาจ้วงแทงร่างกายบ้าๆนี้ให้มันตายๆไปซะ

    แต่ก็มีสิทธิ์เพียงแค่คิด

    เพราะนับตั้งแต่วันที่ครอบครัวอี้ฟานรับเขาเข้ามาในตระกูลอู๋แสนยิ่งใหญ่นี้ ร่างกายทุกตารางนิ้วก็ไม่ใช่ของเขาอีกตลอดไป..

     

    ฮึก..”  

    ว่าจะไม่อ่อนแอแล้วเชียว...

    มินซอกซบใบหน้าฝังลงกับผ่ามือเล็กกลั้นก้อนสะอื้นใหญ่ไว้ จึงมีเพียงเสียงเล็กๆที่เล็ดรอดออกมา แต่เพราะเป็นห้องที่เก็บเสียงและมีเพียงเขาอยู่ในนี้เพียงคนเดียวจึงทำให้มันดังก้องจนคนสะอื้นยังสามารถได้ยินเสียงตนเองได้อย่างชัดเจน

     

    เอี๊ยด...

    เสียงผลักบานประตูห้องทำให้มินซอกจำต้องเงยใบหน้าที่ยังเลอะไปด้วยคราบน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้ แต่เมื่อมองแล้วกลับไม่พบว่าควรจะมีร่างผู้เปิดแต่กลับมีเพียงความว่างเปล่า ราวกับมันเปิดเองคนเดียวอย่างงั้นแหล่ะ มินซอกยกมือเช็ดคราบน้ำตาลวกๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินไปยังบานประตูห้องทันทีด้วยความสงสัยที่พุ่งขึ้นสูง

    แต่ภาพหลังบานประตูที่มินซอกได้เห็นกลับทำให้หน้าสวยซีดเผือกขึ้นได้ในทันที ร่างของการ์ดที่ควรจะยืนเฝ้ากลับกลายเป็นนอนเกลื่อนส่งเสียงร้องโอดครวญก่อนจะแน่นิ่งไปทำให้แน่ใจได้ในทันทีว่า

    โดนทำร้ายร่างกาย

    ..

     

     “เฮลโหล คุณหนูมินซอก

     

    น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ลำคอสวยส่งผลให้มินซอกต้องหดคอหนีอัตโนมัติ เมื่อหันกลับไปมองกลับพบร่างสูงโปร่งแต่ชุดที่สวมกลับเป็นชุดเดียวกับพวกการ์ดของเขา แว่นตาดำถูกดึงออกมาเผยใบหน้าคมหล่อเหล่า และผิวสีน้ำผึ้งอันเป็นเอกลักษณ์รอยยิ้มกว้างถูกยกยิ้มจนตายี่

    “นายเป็นใคร” แม้จะรู้คำตอบดีอยู่ในใจแล้วว่าผู้ชายตรงหน้าไม่ใช่คนดีแน่ๆ และอาจเป็นคนเดียวกับที่ทำร้ายพวกการ์ดที่เหลือนี้อย่างแน่นอน ขาเล็กพรางก้าวรนถอยห่างออกจากร่างสูงโปร่งนั้นช้าๆ

    ปึก!

    “จะไปไหนครับ อยู่คุยกับพวกเราก่อนสิ” แต่ดูเหมือนโชคจะไม่ค่อยเข้าข้างเขาสักเท่าไหร่ เมื่อดันถอยหลังไปก็ต้องตกลงไปอยู่ในอ้อมกอดผู้ชายผิวขาวผ่องราวกับน้ำนมนั้น มือแกร่งล็อกโอบรอบลำตัวมินซอกแน่นเพื่อไม่ให้สามารถดิ้นหลุดหนีไปได้

    “ปล่อย!!” มินซอกที่เริ่มควบคุมสติตัวเองไม่ได้ เริ่มออกแรงดีดดิ้นสะบัดกายออกจากท่อนแขนกว้างของอีกคนแต่แรงของเขากลับไม่เป็นผลสักเท่าไหร่นัก นอกจะไม่หลุดกลับสร้างเสียงหัวเราะชอบใจให้ชายหนุ่มทั้งสองได้เป็นอย่างดีทีเดียว

    “พอดูใกล้ๆแล้วแม่ง น่ารักชิบหายเลยว่ะ” คนผิวเข้มหยุดยืนอยู่ใกล้ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจนปลายจมูกเฉียดแก้มกลมนุ่มเนื่องจากมินซอกเบี่ยงหน้าหลบ

    “ตัวก็หอม..” ส่วนคำนี้เป็นของร่างสูงที่กำลังโอบกอดตัวเขาไว้แน่น พรางเลื่อนหน้าฝังซุกลงบนลำคอขาวระหงส์ เพราะสัมผัสรุ่มร่ามจากชายแปลกหน้าทำมินซอกอดเบ้หน้าด้วยความรังเกียจไม่ได้

    “ปล่อย มันน่าขยะแขยง!

    “คนสวยปากร้ายเอาเรื่องเลยว่ะมึง เพราะงี้รึเปล่าว่ะไอ้พี่ลู่ถึงติดใจ” ประโยคนี้เป็นของผู้ชายที่กำลังโอบกายเข้าไว้ ทำเอามินซอกสะบัดหน้ากลับไปมองเพราะชื่อของคนคนหนึ่งที่หลุดออกมา

    ลู่.. หาน!?

     แต่ก็เพียงได้คิดแค่เท่านั้นเมื่อผ้าเช็ดหน้าขาวถูกโป๊ะทับลงบนจมูกเล็กและริมฝีปากจนเผลอสูดกลืนกลิ่นยาบางอย่างที่ชวนแสบจมูกและลำคอลงไปจนเต็มปอด รู้ตัวอีกทีภาพทุกอย่างก็ดูเลือนรางเต็มทน มีเพียงเสียงหัวเราะของชายผิวเข้มและรอยยิ้มของผู้ชายที่รัดเขาก่อนจะเริ่มคลายให้มินซอกเป็นอิสระ มินซอกไม่รอช้ารีบสะบัดกาย ใจอยากจะวิ่งออกไปร้องขอความช่วยเหลือเต็มแก่แต่แค่แรงจะทรงตัวยังไม่มี

    ภาพต่างๆดูบิดเบี้ยวไปหมด เหมือนมีคนกำลังเขย่าโลกจนทุกอย่างมันเละเบี้ยวไม่เป็นทรง เพียงก้าวออกจากพื้นที่ได้เพียงก้าวเดียวก็ถูกกระชากกลับเข้าไปในวงแขนกว้างที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามสมส่วนของผู้ชายผิวเข้มนั้นทันที เปลือกตาบางค่อยๆถูกถ่วงลงให้ปิดแน่นสนิทโดนพลัน  

     

     

    อื้อ.. จั๊กจี้น่า ไม่เอา คิก” น้ำเสียงกระเซาอ่อยอิ่งดังระงมภายในห้องส้วมขนาดคับแคบแต่ก็สามารถบดเบียดกายเข้าไปได้ถึงสองคน และเหมือนจะมีที่ว่างมากพอให้ทำอะไรต่อมิอะไรนอกจากทำธุระส่วนตัวในการปลดทุกข์หรือขับถ่าย แม้ปากจะร้องห้ามแต่ร่างกายกลับแอ่นรับทุกสัมผัสที่กวางป่าอย่างลู่หานกำลังมอบให้

    “อืม” ลู่หานครางก่ำกึ่งกับความพอใจปนสมเพชเล็กๆกับผู้หญิงตรงหน้า ผ่ามือร้อนก็เลื่อนขึ้นแทรกเข้าใต้ยกทรงตัวบางบีบเค้นหน้าอกใหญ่นิ่มมืออย่างรุนแรง ปากก็ขบเม้มซอกคอเล็กไปพราง นิ้วที่ถูกไว้เล็บและทาสีดำขลับเงาลากไล้ทั่วแผ่นอกกว้างสมส่วน ลู่หานผละมืออกจากหน้าอกนิ่มลากไล่ลงมาคลอเคลียที่ต้นขาเรียวอย่างซุกซน

    ใบหน้าอิ่มสวยหลับตาพริ้มเตรียมตัวรอรับสัมผัสร้อนแรงจากผู้ชายหน้าหวานที่พึ่งพบหน้าได้ไม่ถึงชั่วโมง แต่ราวกลับถูกโยนลงจากก้อนเมฆนุ่มเมื่อร่างสูงหยุดทุกสัมผัสพร้อมผละออกห่างเพียงเสียงสั่นเตือนข้อความบางอย่างจากมือถือเครื่องหรู

    “.....” รอยยิ้มแสยะผุดขึ้นมุมปากบางทันทีเมื่ออ่านประโยคสั้นๆ จากหน้าจอขนาดกว้างเสร็จ ไม่รอช้ามือแกร่งจึงผลักเปิดบานประตูออกจากห้องน้ำแคบที่เกือบจะเป็นสวรรค์ของเขา ก้าวหนีออกอย่างไม่ใยดีกับหญิงสาวที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูก

    “ด เดี๋ยวสิ! จะไปไหน” น้ำเสียงแหลมแสบหูไม่ได้ทำให้ลู่หานหยุดนิ่งเท่ากับเธอคนนั้นโผคว้าเข้าที่ต้นแขนแกร่งดึงรั้งแน่น

    “เรายังต่อกันไม่เสร็จเลยนะ”

    “โทษทีนะพี่สาว พอดีฉันมีของเล่นชิ้นสำคัญที่น่าสนุกมากกว่าเธอแล้วละ”

    “.....”

    “แต่ถ้ามันค้างจนทนไม่ไหวจริงๆก็ออกหาผู้ชายแถวนี้แก้อยากไปก่อนเถอะ”

    “.....”

    “ตอนนี้ก็ทางใครทางมันล่ะกันนะครับ บาย” ลู่หานสะบัดออกจากการเกาะกุมทันที ก้าวเดินออกจากประตูห้องน้ำหรูโดยมีใบหน้าสวยที่กำลังอ้าปากเหวอ ก่อนจะหวีดเสียงแหลมดังตามหลังมาติดๆ

    กรี๊ดดด ไอ้เด็กบ้า อีเด็กนรก!!!

    ลู่หานสนซะที่ไหนล่ะ

    เพราะอย่างที่บอก ในเมื่อ ของเล่นชิ้นใหญ่น่าสนุกกว่าของเล่นแบบผู้หญิงพรรค์นั้นตั้งเยอะ และกำลังนอนรอเขาเมื่อไปถึงในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว

     

    “พวกมึงทำเหี้ยอะไรกัน”

    พอเดินออกมาจากผับหรูมุ่งตรงมายังที่จอดรถของพวกเขาใบหน้าที่ติดอารมณ์ดีเมื่อกี้ถูกลำลายลงและแทนที่ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว ปลายคิ้วตรงขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อเห็นไอ้รุ่นน้องตัวดีของเขาทั้งสามคนกำลังแทะเล็มหาเศษหาเลยกับร่างบอกบางที่กำลังหลับใหลไม่รู้ตัวอย่างสนุกสนาน

    “แค่นี้ทำหวง โด่วผมอุตสาห์ทุ้มทุนปลอมตัวเป็นไอ้การ์ดพวกนั้นเพื่อพาตัวคุณน่าฟัดนี่มาเสิร์ฟให้พี่ทั้งที ก็ขอกำไรเล็กๆน้อยๆบ้างเถอะ” น้ำเสียงติดกวนนิดๆของเซฮุนเอยกระแนะกระแหนมกับท่าทางและน้ำเสียงของลู่หานที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างมาก ลู่หานเมื่อรู้ตัวว่าเผลอแสดงอาการเยอะไปจึงดึงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแก้ขัด

    “เหอะ รอกูเอาแม่งจนเบื่อก่อนแล้วจะแบ่งให้พวกมึงทุกตัว” ปากพูดไปอย่างไม่แยแส ตาก็เหลือบมองร่างของมินซอกที่ถูกอุ้มโดยเซฮุน ริมฝีปากบางที่แม้จะอยู่ในที่มืดกลับดูเปล่งปลั่งเนียนนุ่มเสียจนน่าเดินเข้าไปฟัดเสียให้หายหมั่นเขี้ยว

    “บันทึกไว้ล่ะ ถ้าพี่คืนคำล่ะแม่งโคตรหมาเลยนะ” จงอินโชว์โทรศัพท์พร้อมกดรีคอร์ดต่อหน้าลู่หานเพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวจนอีกคนหน้าชาไปนิดๆที่ไม่คิดว่าพวกมันจะจริงจังกับคำพูดทีเล่นทีจริงของเขา เทาและเซฮุนก็พรางกระตุกยิ้มกว้างอย่างชอบใจ

    “ตามนั้นนะ อย่าลืมที่พูดล่ะมีของดีแบบนี้มันก็ต้องเผื่อแผ่น้องๆบ้างสิครับ ผมขอคนแรกนะ” จื่อเทาเอยเสียงจริงจัง นัยน์ตากลมวาวเหลือบมองเสี้ยวหน้าของร่างเล็กที่นอนซบลงบนอกกว้างของเซฮุนพรางใช้มือหยาบลูกคางสากตัวเองไปมาเบาๆ

    “แม่งเหี้ยไปหน่อยป่ะ? งั้นกูคนที่สองก็ได้” จงอินไหวไหล่แม้จะเคืองๆที่จื่อเทามันดันขอก่อนหน้าด้านๆก็ตาม

    “กูคนสุดท้ายก็ได้ พอดีมั่นใจว่าขนานอย่างพวกมึงไม่ทำให้มันหลวมไปสำหรับกูหรอก” คำพูดดูถูกทำให้คนที่เหลือเลือดขึ้นหน้าได้ไม่ยาก แม้จะอยากพุ่งเข้าไปยันโคลมใหญ่แรงๆถ้าไม่ติดว่าเซฮุนกำลังอุ้มร่างบางอยู่หรอกนะ

    “หุบปาก” คำพูดห้วนสั้นๆถูกเอยออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งดับประโยคพวกที่เหลือแทบจะทันที ท่อนบุหรี่ที่ถูกดูดไปแค่ครึ่งเดียวถูกปล่อยทิ้งลงบนพื้นคอนกรีตตามด้วยเท้าที่สวมรองเท้าหนังดำราคาแพงยกขึ้นขยี้เพื่อดับไฟที่กำลังมอด ไม่นานร่างของมินซอกก็ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในอ้อมกอดแสนแข็งแกร่งของลู่หานแทน

    “อย่าลืมคำพูดล่ะ” ขาที่กำลังจะหมุนก้าวเดินไปหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะครางรับเสียงห้วนสั้นด้วยความรำคาญ

    “เออ”

     

    เมื่อลู่หานพาร่างของมินซอกวางบนบนเบาะหลังนุ่ม แล้วจึงเยียบขับออกจากพื้นที่ออกไปทันที ทิ้งให้ทั้งสามชีวิตมองตามท้ายรถไปติดๆ แม้จะยังเสียดายอยู่มากที่ยังกอบโกยเอาจากร่างกายยั่วยวนนั้นของมินซอกไม่หน่ำใจกันสักเท่าไหร่

    “มึงว่าไอ้พี่ลู่จะทำตามที่บอกป่ะว่ะ” เซฮุนเป็นคนเปิดประเด็นขึ้น จงอินเบี่ยงสายตากลับไปมองยังเพื่อนตัวขาวของเขาก่อนจะส่งเสียงครางหึในลำคอเบาๆ ความเงียบโรยตัวเข้าปกคลุมพื้นที่ช้าๆเมื่อไม่มีใครคิดที่จะพูดอะไรกันต่อแต่ประโยคต่อมาของจื่อเทากลับทำให้ทั้งสองแสดงสีหน้าเซ็งสุดชีวิต

    กูว่าคงยาก

     

     

    ร่างของมินซอกถูกโยนลงบนเตียงหรูโดยมีลู่หานที่ยืนมองอยู่ข้างบนด้วยสายตาแพรวพราวจ้องมองดวงหน้าขาวอวบที่รับตาพริ้มไม่รู้เรื่องจึงเอื้อมมือไปสัมผัสที่แก้มกลมก่อนจะแตะเบาๆเพื่อเรียกสติคนที่กำลังนอนหลับเพราะฤทธิ์ยา

    “ตื่นมินซอก คิมมินซอก”

    “.....” ไร้การตอบรับใดใดทั้งสิ้น ลู่หานส่ายหน้าหงุดหงิดดูเหมือนไอ้พวกบ้านั้นมันจะใช้ยาแรงเกินไปหน่อยถึงทำให้มินซอกไม่รู้สึกใดใดทั้งๆที่ก็ผ่านมาเกือบจะชม.แล้ว

    “เหอะ ให้เอากับคนหมดสติแบบนี้แม่งจะสนุกอะไร” กล่าวเสียงเรียบก่อนจะปลดกระดุมเสื้อถอดโยนทิ้งใส่ตะกร้าไม่ไยดีสักเท่าไหร่ ใบหน้าติดหวานเหลือบมองให้แน่ใจอีกครั้งว่ามินซอกสลบจริงหรือแค่แกล้งแต่เพราะลมหายใจที่สม่ำเสมอและร่างกายที่ไม่กระเตื้องใดใดจึงทำให้ถอดใจและเลือกที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป

    ค่อยคิดวิธีปลุกให้ตื่นทีหลังก็แล้วกัน ลู่หานคิดเช่นนั้น

     

    “อึก ..อะไรเนี่ย” ชันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พอเลื่อนสายตาสำรวจรอบกายความหวาดระแวงก็พุ่งเข้ามาสูงสุด สิ่งของแปลกใหม่ที่มินซอกมั่นใจได้ว่า

    นี้ไม่ใช่ห้องของเขา

    ก็พาลให้ใจเล็กสั่นกระสับเต้นระรัวจนแทบทะลุออกมา ใบหน้าขาวซีดเผือกลงรับรู้ได้ถึงอันตรายเสียงน้ำที่กระทบกับพื้นในห้องน้ำไม่ห่างออกไปก็ยิ่งทำให้หวาดกลัว ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมินซอกรีบก้าวลงจากเตียงหรูพุ่งกายออกจากห้องนอนหรูตรงไปยังทางออกด้วยอาการร้อนลน รอยยิ้มบางๆถูกแต่งแต้มขึ้นทันทีเมื่อเจอบานประตูใหญ่มือเล็กที่เอื้อมบิดลูกบิดแต่ใบหน้าหวานก็ต้องกลับมาซีดเผือกอีกครั้งที่มันเปิดไม่ออก ทั้งสั่นทั้งออกแรงจนนิ้วระบมก็ไม่กระเทือนสักนิด

    “ออกสิว่ะ ออก ออก!” ปากว่ามือก็ยังไม่หยุดความพยายามที่ดึงบานประตูนั้นออก แต่แล้วหัวใจเล็กก็ต้องวูบตกหล่นลงไปจนเกือบจะหยุดหายเมื่อเสียงทุ้มที่ดูเย็นจนน่ากลัวดังเรียบขึ้นใกล้ลำคอ รับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดซอกคอ

    เปิดไม่ออกหรอ ให้ฉันช่วยมั้ย?

    “เฮือก.. ล ลู่ หาน..” พอหันกลับมาสบกับเจ้าของเสียงเย็นใบหน้าหวานก็ยิ่งซีดเผือกมากกว่าเก่า เท้าเล็กถอยร่นจนชิดตามมาด้วยใบหน้าหวานที่เบียดตามมาติดๆ ลำแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามค้ำยันล็อกไม่ให้มินซอกหลีกหนีไปได้

    เส้นผมสีทองสว่างถูกย้อมเคลือบจนทั่วศีรษะเปียกลู่ลงตามลำคอยาวขาวผ่องมีหยดน้ำเกาะที่ล่วงไหลลงตามเส้นลามไปถึงหน้าอกแกร่งที่ไม่ได้สวมอะไรปกปิดมีเพียงกางเกงนอนยาวสีดำวาวตัวเดียวที่กำลังปกปิดร่างกายสมสวนของคนหน้าหวานนี้ไว้ มินซอกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกหวาดกลัวกับสายตาแสนเจ้าเล่ห์ที่กำลังวาดสำรวจทั่วกายเขาไปซะทุกสวน

    “ต้องการอะไร”

    “อยากเอานาย” คำพูดสุดโต้งของอีกคนทำเอาใบหน้ากลมขึ้นสีแดงระเรื่อได้ไม่ยาก ลู่หานไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องพูดจาอ้อมค้อมให้มากความ ในเมื่อเขาต้องการมินซอกมันไม่มีอะไรที่มากไปกว่านี้อีกแล้ว

    “เลยไปฉุดฉันมา”

    “ก็ฉลาดนี่” รอยยิ้มเยียดถูกเผยออกมา มินซอกได้เพียงกำหมัดแน่นแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ตราบใดที่เขายังอยู่ในรังของอีกฝ่ายเช่นนี้

    “คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นหรอ ตอนที่นายเอาฉันมาถึงนี้ป่านนี้อี้ฟานก็ให้คนออกตามหาฉันให้วุ่น และบางทีอาจจะรู้ที่แล้วก็ได้ คนที่เดือดร้อนคือนายนะ”

    “แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฉันคงเอานายเสร็จเป็นยกที่ล้านแล้วล่ะ”

    “.....”

    “เอาเถอะ อย่าเสียเวลาเลย ไปสนุกกันได้แล้ว” สิ้นคำลำแขนใหญ่ก็ดึงร่างของมินซอกก่อนจะช้อนตัวขึ้นอุ้มจนใบหน้าหวานเหวอดีดดิ้นหลีกหนีอกแกร่งของอีกคนด้วยใบหน้ารังเกียจ

    “โอ๊ย! ไอ้เหี้ย ฉันเจ็บ” มินซอกสบถคำหยาบออกมาทันทีเมื่อร่างกายตัวเองถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพูดดีด้วยกับคนพรรค์นี้อีกต่อไป

    “พูดไม่เพราะเลยนะ คุณหนูมินซอก”

    “ถ้านายไม่ปล่อยฉันไป อี้ฟานจะต้อง.. อื้อ!!!” ไม่ต้องปล่อยให้พล่ามอะไรเยอะแยะริมฝีปากสีเชอรี่ก็ถูกร่างบนปิดแนบลงมาทันที ดูดเม้นอย่างแรงด้วยความหมั่นเขี้ยวมือแกร่งก็บีบที่แก้มขาวเพื่อที่จะบังคับให้มินซอกเปิดปากออก ทันทีที่ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปกวาดต้อนข้างในโพรงปากนุ่ม ภาพซ้อนทับของอีกคนก็ฉายทับเข้ามาจนมินซอกเบ้หน้าเหยเกด้วยความสะอิดสะเอื้อน ฟันสวยจึงกัดเข้าที่ลิ้นหนาของอีกคนอย่างแรง

    “โอ๊ย ไอ้สัด! ซี๊ด..” ลู่หานสะบัดใบหน้าออกด้วยความเจ็บที่ถูกฟันคมกัดเข้าเต็มแรงจนเลือดไหลซิบๆ มินซอกที่ริมฝีปากเปื้อนไปด้วยเลือดของอีกคนกระเถิบถอยหนีด้วยใบหน้าหวาดกลัว พรางคว้าหมอนนุ่มเหวี่ยงใส่ร่างสูงเพื่อขับไล่

    “ไอ้ระยำ ออกไป ฉันบอกให้ออกไป!

    “ฤทธิ์เยอะนักนะมึง!” แต่ดูเหมือนจะยิ่งสร้างความเดือดดาลให้อีกคนมากกว่าเดิมเสียมากกว่า ลู่หานสะบัดหมอนนุ่มโยนลงบนพื้น ผ่ามือหยาบกร้านกระชากเข้าที่ข้อเท้าเล็กดึงกระชากลงมาใกล้ล็อกข้อมือเล็ก ตวัดผ่ามือลงบนข้างแก้มเนียนเพื่อเป็นการให้อีกคนหยุดพยศ

    เพราะแรงโทสะทำให้ลู่หานฉีกกระชากเสื้อยืดราคาแพงสีสวยจนมันขาดเป็นริ้ว หากแต่ความคิดที่ผิวข้างใต้มันจะขาวผ่องเกลี้ยงเกล่ากลับถูกทับจนมิดกับภาพตรงหน้าที่เห็น ผิวที่น่าจะขาวกลับถูกแต่งแต้มไปด้วยร่องรอยอย่างว่ากระจายจนทั่วแผ่นอกและแผ่นหลัง บางรอยที่ดูเหมือนใกล้หายก็ถูกสร้างทับใหม่อีกครั้งจนมันช้ำห่อเลือด

    “.....” ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยอารมณ์อย่างว่าและแรงโทสะมากมายที่พร้อมขย้ำร่างเล็กให้แหลกคาเตียงกลับเปลี่ยนเป็นนิ่งอึ้ง ยิ่งเห็นน้ำเสียงเล็กหวานร้องสะอื้นอ้อนวอนเสียงสั่นความรู้สึกบางอย่างก็พุ่งขึ้นจนจุกไปหมด

    ฮึก.. พ พอเถอะ หยุดมัน..ขอร้องล่ะ”

    “.....”

    “ขอร้อง.. ร่างกายของฉัน ค.. แค่ผู้ชายคนนั้นแค่คนเดียวมันก็เกินทนแล้ว”

    “.....”

    “อย่า ทำให้ฉันเหมือนตกนรกทั้งเป็นอีกเลย” ใบหน้าที่อาบเลอะไปด้วยคราบน้ำตาของคิมมินซอกเอยอ้อนวอนเสียงสั่นเครือทำให้ลู่หานรับรู้ได้ทันทีว่ามันออกมาจากใจจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่พูดเพื่อจะให้หลุดพ้นจากเขาและความรู้สึกที่มันกำลังประท้วงขึ้นอย่างรุนแรงในตอนนี้ของลู่หาน

    “ได้โปรด..ฮือออ

    แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่มันก็ทำให้เขาหยุดทุกการกระทำและเลือกที่จะเดินผละเข้าห้องน้ำจัดการกับอารมณ์กายที่มันยังไม่หมดไปคนเดียวอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าเล็กที่ยังเลอะด้วยคราบน้ำตามองลู่หานอย่างไม่เชื่อสายตา

    เหอะ อย่าว่าแต่มินซอกเลย

    ขนาดเขาเองยังไม่เข้าใจว่าตัวเองกับลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่

     

     

    ทำงานภาษาอะไรของพวกมึงถึงได้ปล่อยไอ้เหี้ยพวกนั้นพาคนของกูไปได้ ห๊ะ!!!” คำตวาดกร้าวเสียงดังลั่น ใบหน้าเรียวดูดีตอนนี้กำลังแดงสั่นไปด้วยแรงอารมณ์ที่พร้อมระเบิดและขยี้ทุกคนที่เผลอทำอะไรขัดใจเขาแม้แต่นิดเดียวได้อย่างไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น เหล่าการ์ดที่ใบหน้าและร่างกายสะบักสะบอมยืนก้มหน้าจนแทบจะฝังลงกับพื้น ความเงียบแผ่กำลังปกคลุมทั่วห้องหรู มีเพียงอี้ชิงที่เป็นคนเอยขึ้นแม้เสียงจะติดสั่นหน่อยๆก็ตาม

    “ผมว่าใจเย็นก่อนดีกว่าครับ โวยวายไปก็ใช่ว่าคุณจะได้ตัวคุณมินซอกคืนมาเร็วซะเมื่อไหร่” แต่ดูเหมือนอี้ชิงจะคิดผิด สายตาคมวาวโรจน์ตวัดขึ้นมองใบหน้าขาวผ่อง ก่อนจะเอยน้ำเสียงนิ่งเรียบจนคนอื่นๆขนลุกเกรี้ยวไปตามๆกัน

    “ออกไปให้หมด ยกเว้นนาย อี้ชิง” สิ้นคำในเวลาไม่นานภายในห้องหรูจึงเหลือเพียงสองร่างเท่านั้น อี้ฟานก้าวเข้าชิดร่างโปร่งของบอดี้การ์ดหนุ่ม ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวขึ้นเชยคางเรียวของคนเป็นบอดี้การ์ดขึ้นมาตามด้วยแนบริมฝีปากลงมอบจูบที่แสนร้อนแรงและป่าเถื่อนลงไปจนคนโนจู่โจมได้เพียงแต่หลับตาพริ้มรับจูบที่เขาแสนถวิลหามานาน มือเรียวยกขึ้นคล้องคอรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ

    “อืม..ค คุณอี้ฟาน ผม..” เมื่อผละออกมาช้าๆริมฝีปากอิ่มคล้ายต้องการจะเอยบางสิ่งกับคนตัวสูง คำพูมากมายที่เขาต้องการจะเอยออกไป เป็นเวลานานนับตั้งแต่ความทรงจำของมินซอกเริ่มกลับมา

    อี้ฟานก็ไม่เคยข้องแวะกับเขาเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย

    และนี้มันเหมือนพลังที่เติมเต็มให้กับก้อนเนื้อสีแดงข้างอกซ้ายของเขาที่มันเต้นแผ่วลงให้กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่จะรู้สึกดีจนแทบบ้ากับใครได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้เลยตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน

    “ผมรั..”

    “รู้หน้าที่นายใช่มั้ย?” ถ้อยคำถูกกลืนเข้าทันทีเมื่ออีกฝ่ายชิงตัดขึ้นมาเสียก่อน ใบหน้าที่อยู่ห่างกันแค่เอื้อมของร่างสูงแต่มันช่างเหมือนว่าอยู่ไกลแสนไกล

    “ครับ...”

    “ตาม..มินซอกกลับมา ตามคนของฉันกลับมา”

    “.....”

    “อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ไม่อย่างนั้น” ผ่ามือหยาบสอดแทรกขึ้นใต้เนื้อผ้าราคาแพงลากสวนขึ้นวางแหมะลงบนอกซ้ายก่อนจะจิกผ่ามือลงแน่น

    “.....”

    “หัวใจของนาย.. ฉันจะควักมันออกมาช้าๆและยิงมันทิ้งไม่ให้เหลือซาก”

    “.....”

    “เข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย?” ริมฝีปากแนบจรดลงที่ปลายจมูกโด้งลงช้าๆอ่อนโยน ช่างขัดกับน้ำเสียงและการกระทำก่อนหน้านี้สิ้นดี แต่สำหรับอี้ชิงแล้ว..

    ทุกอย่างที่อีกฝ่ายทำมันออกมา

    ไม่ต่างไปจากรอยจูบแสนนุ่มนวลและอ่อนโยนสำหรับเขา

     

    ครับ ผมจะตามคุณมินซอกกลับมา

     

    ต่อให้อีกฝ่ายจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

    ควักหัวใจดวงนี้ของเขาออกมายิงทิ้งให้เป็นจุล

    อี้ชิงผู้นี้ก็ยินดี..

     


     

     


    TBC.








    ✤✤✤

    พี่ลู่นางไปชิงตัวหมินมาแล้ว เห้!-W- #ปริ่ม 5555555
    อยากจะแจ้งนิดนึงนะคะ ว่าอาจจะมาอัพช้าอีกเล็กน้อยกว่าเดิมเนื่องจาก
    รร.ไรท์พึ่งสอบกันอ้ะ ช้ากว่ารร.อื่นมาก คือเขาปิดกันแล้วพึ่งมาสอบงี้อ้ะ-_-
    กิจกรรมเยอะเหลือเกิน งานก็สั่งเอาๆ แต่ดีที่ขยันหน่อยขี้เกียจติด ร. แก้งานใกล้เสร็จแล้ว
    หนักตอนนี้คือสอบ กลัวคะแนนเหลือเกินTwT
    พล่ามพอเป็นพิธี ไปล้ะ>__< #บรั๊ย

    PS. มีคนถามทวิตไรท์ คือมันแปะอยู่หน้าบทความ อยากจิบอกว่าวอรี่จริงๆพึ่งสังเกตว่ามันเข้าไม่ได้
    เนื่องจากไรท์เปลี่ยนชื่อผู้ใช้แล้วดันลืมเปลี่ยนหน้าบทความ ;___; #SORY เจรงๆค่ะ #โค้ง
    55555555555555555555555 555

    Twitter :
    @JN_Kalka

    CRY .q  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×