ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Black Memories

    ลำดับตอนที่ #1 : INTRO -0-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 690
      4
      8 ก.พ. 57

     

    Black Memories

    - 0 -

     

     






    ปัง!

     

    ทันทีที่ลูกตะกั่วสีเงินพุ่งเข้าเจาะร่างโปร่ง ทะลุผ่านฝังลึกเข้าไปในอกข้างซ้าย เพียงนัดเดียวก็สามารถตัดขั่วหัวใจให้สิ้นชีพได้ในทันที 

     

    ไม่ทันได้ร้อง ไม่ทันได้เจ็บปวด ไม่ทันจะได้ล่ำลา ...

     

    เปลือกตาหนาปิดลงช้าๆ พร้อมลมหายใจเฮือกสุดท้าย มีเพียงสีหน้าตกใจสุดขีดของอีกคน คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น คนรัก ของเขาร่ำร้องเรียกเขาให้ฟื้นกลับไป ร้องไห้สะอื้นปานจะขาดใจตายเสียให้ได้ นั้นเป็นภาพสุดท้ายที่เขาสามารถรับรู้เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต

     

    “มะ ไม่!!!!!!!”  

     

    ร่างอวบเล็กเบิกตากว้างกู่ร้องสุดเสียง ถลาเข้าไปโผกอดร่างโปร่งที่แน่นิ่งไป บริเวณบาดแผลเต็มไปด้วยโลหิตสีแดงฉาดไหลทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสาย ลมหายใจที่นิ่งแผ่ว เสียงหัวใจที่แน่นิ่งไม่แพ้กัน ตอกย้ำให้อีกคนรู้ว่า คนรักของตนได้จากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

     

    “ต้องไม่เป็นอย่างนี้ ไม่ ไม่ ต้องไม่เป็นอย่างนี้ ฮึก ฮือ!!!” 

     

    ร่างเล็กดึงคนตัวสูงกว่าที่นอนหมดลมหายใจไปแล้วเข้าสู่อ้อมกอดตนเองแน่น แนบใบหน้าหวานที่เปื้อนเลอะไปด้วยคราบน้ำตา เป็นกอดสุดท้าย กอดแน่นราวกับกลัวคนในอ้อมกอดจะสลายกลายเป็นฟองอากาศหายไป

     

    บอกรักสุดหัวใจ..  ยกมือบางของตัวเองขึ้นมองของเหลวสีแดงข้นบนผ่ามือ ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามาไม่ขาดสาย บทสุดท้ายของความรู้สึกที่ได้รับ

     

    เจ็บปวด

     

    เหมือนถูกกระหน่ำตุบตี เหมือนหัวใจถูกบีบแน่นจนเกือบจะแหลกเหลว เสียงสะอื้นยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าจะหยุดลง  ราวกับพยายามอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า

     

    ได้โปรด...

     

    มอบดวงใจของเขาคืนมา

     

    “พระผู้เป็นเจ้า ...เอาคืนมา เอาเขาคืนมา!!! ได้โปรด...” ตะโกนเว้าวอนสุดเสียงกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ท้ายประโยคอ้อนวอนเสียงแผ่วเบา เพื่อหวังให้พระผู้เป็นเจ้าเห็นใจตน

     

    แต่ทุกอย่างก็ต้องพังคลื่นลงมา เมื่อแขนเล็กถูกผ่ามือใหญ่หนาของบุคคลที่สามกระชากออกมาจนไหล่บางกระเด็นติดกับแผ่นอกแกร่ง ดวงตารีเล็กเต็มไปด้วยม่านน้ำตาเงยมองหน้าบุคคลที่เป็นเจ้าของแรงกระชาก

     

    บุคคลที่มองการตายของคนรักเขาด้วยความเยือกเย็น

     

    มองด้วยสายตาเย้ยหยัน

     

    และเป็นคนคนเดียวกับที่ลั่นไกรปืนดับชีวิตคนรักของเขา!

     

    “อ้อนวอนไปเถอะ มันไม่มีทางฟื้นกลับมาหรอก” น้ำเสียงใหญ่ทุ้มแสนเย็นชาเอยออกมา เหมือนค้อนเหล็กที่ตอกย้ำให้อีกคนสิ้นหวัง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าประกบริมฝีปากอิ่ม ที่ไม่ว่าจะลิ้มลองมันกี่ครั้งก็ทำให้เขาหลงใหลยากจะถอนตัวทุกครั้งไป

     

    สอดแทรกคว้านหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นเล็กถูกชักจูงอย่างตามใจจากเจ้าของร่างสูง มือแกร่งโอบกายบางไว้ไม่ให้ขัดขื่น ร่างบางไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ยืนนิ่งให้อีกคนเก็บเกี่ยวมันไปตามพอใจ ได้เพียงปล่อยให้หยดน้ำตาหลั่งไหลลงไปเพียงเท่านั้น

     

    “ฉันรักนาย รักมากซิ่วหมิน

     

    “ผมรัก เฉิน” เอยออกไปด้วยสายตาเลือนลอย ภาพที่คนตัวสูงล้มลงไปต่อหน้าต่อตายังคงฝังลึกในความทรงจำ ยากที่จะลบมันออกไปได้ และไม่มีทางที่มันจะหายออกไป ไม่มีทาง มือหยาบบีบแน่นเข้าที่ไหล่บางแน่น แต่แววตาที่มองไปยังอีกคนช่างเจ็บปวดเสียเหลือเกิน

     

    แต่มันก็ถูกเจ้าของเนตรข่มกลบความรู้สึกเจ็บปวดให้จ่มมิด ดวงตาคมดุจเยี่ยวจ้องมองใบหน้าที่เขาหลงใหล และไม่มีวันจะยกมันให้ใครเด็ดขาด ข่มเสียงเรียบนิ่งแต่แสนจะทรงอำนาจออกไป

     

    “ลืมมันซะ”

     

    “ผมไม่มีทางลืมเฉิน ไม่มีทาง!” ฟาดเสียงหนักกลับ พยายามบิดกายออกจากการรัดแน่นของอีกฝ่าย แม้รู้ว่ามันจะไร้ผลก็ตาม แต่ก็ยังพยายามที่จะหลุดพ้นไปจากคนตรงหน้า

     

    “หึ! อย่างงั้นหรอ” เพียงรอยยิ้มที่กระตุก ไม่ทันให้อีกคนได้ท้วง ความรู้สึกเจ็บจี๊ด แล่นริ้วไปทั่วกายเล็ก บริเวณที่เป็นจุดความเจ็บแปร๊บเย็นเยือก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่ม ความง่วงเริ่มเข้าครอบงำจนภาพตรงหน้าพล่ามัวอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากเล็กที่อ้าปากจะท้วงคำบางอย่างออกไปแต่เพราะทนฤทธิ์ยาที่พึ่งถูกฉีดเข้าไปไม่ได้จึงล้มพับลงไปในอ้อมกอดของคนตรงหน้า

     

    “หลับไปก่อนเถอะ สัญญา”

     

    “.....”

     

    “พอนายฟื้นขึ้นมา นายจะลืมทุกอย่าง ลืมมัน..ลืมความเจ็บปวดและความรักบ้าๆแบบนี้”

     

    นิ้วแกร่งไล่ตามโครงหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยคราบเลือดจากการกอดแนบของคนตัวเล็ก และคราบน้ำสีใสที่มันพลั่งพรูออกมาจนเอาเองก็ยังตกใจ นิ้วโป้งใหญ่เกลี่ยปัดคราบน้ำตาที่หางตารีเรียวเบาๆ

     

    นายต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น

     

     

     

     

     

     

    INTRO

     

     

     

     

     

    เสียงเครื่องตรวจชีพจรที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ พร้อมกับเส้นขีดที่จะขึ้นสูงตามแรงเต้นของหัวใจ กลิ่นยาและสารเคมีคละคลุ้งไปทั่วห้องกว้าง แม้จะถูกกำจัดเชื้ออย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงทิ้งกลิ่นสารเคมีไว้ให้เวียนหัวอย่างช่วยไม่ได้

     

    สายน้ำเกลือ หรืออะไรก็แล้วแต่มากมาย ระโยงระยางรอบเตียงเดี่ยวสีขาว ร่างบอบบางของใครคนหนึ่งนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เสียงหายใจที่สม่ำเสมอเป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน ไร้การตอบรับ ไร้การเคลื่อนไหว มีเพียงเสียงเครื่องมือแพทย์ และเสียงเครื่องทำความเย็นเท่านั้น ที่ทำลายความเงียบของห้องกว้างนี้

     

    “อื้อ...”

     

    เปลือกตาหนักอึ้ง กระพริบปริบๆเบาๆ  เมื่อชินกับแสงภายนอกที่ไม่ได้ลืมตามองมันมานาน กลอกตามองรอบๆ มีเพียงฝาเพดานสีขาว รวมไปถึงผนังห้องที่เป็นสีครีมขาวเรียบสนิท เปลือกตาเรียวปิดลงอีกครั้งเมื่อรู้สึกเมื่อยล้าเต็มทน คงเพราะไม่ได้ใช้งานมานาน จู่ๆมาใช้งานเลยก็ย่อมล้าเป็นธรรมดา พอทุกอย่างเริ่มชิน เข้าที่เข้าทางเขาจึง ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งกับที่ ดึงที่ช่วยหายใจออกเพราะรู้สึกเกะกะ หันมองรอบๆห้องด้วยแววตาหลากหลาย

     

    แต่เสียงเปิดประตูและการมาของอีกคนเรียกให้ใบหน้ากลมหันไปมองด้วยความสงสัย ชายหนุ่มผู้มาใหม่เมื่อกวาดสายตามองไปยังเตียงขาวชะงักนิ่ง ภาพที่เขาชินตาคือคนตัวเล็กที่นอนหายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียง แต่ตอนนี้กลับลุกขึ้นมานั่งและมองกลับมายังเขาด้วยสายตาเหมือนสงสัยกับอะไรหลายๆอย่างบนโลก  แม้จะอยู่ในท่าทีที่ดูตกใจสุดๆ แต่ใบหน้าที่ดูเพอร์เฟ็คไร้ที่ติ แถมยังอยู่ในชุดสูทสีดำดูดี ร่างกายที่ดูสูงแกร่งสง่า เพียงปราดตามองแวบเดียวก็ผุดคำคำนึ่งขึ้นมาในหัวทันทีอย่างไม่ต้องคิดให้มาก

     

    ดูดี

     

    เมื่อตั้งสติได้คนตัวสูงก็รีบวิ่งเข้ามาโผเข้ากอดอีกคนบนเตียงแน่น ร่างบางที่ยังตกใจอยู่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพียงแค่อยู่นิ่งๆให้อีกฝ่ายกอดตามความพอใจ สายตาเหลือบไปเห็นอีกคนที่เดิมตามมาติดๆ  ใบหน้าติดจะหวานเมื่อมองไปยังคนตัวสูงที่กอดอีกคนบนเตียงก็ชะงักไปชั่วครู่กับภาพที่เห็น ก่อนจะปรับมามองด้วยใบหน้าเรียบเฉย คลี่ยิ้มจางๆส่งมาให้

     

    “ผมอึดอัด”

     

    เพียงเท่านั้นพอรู้ตัวว่าเผลอกอดรัดอีกฝ่ายมากเกินไปคนตัวสูงก็รีบผละออกมาเอยขอโทษโดนเร็ว

     

    “พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย”

     

    “อืม”

     

    ตอบเพียงเท่านั้น ตารีเรียวตวัดหันมองสำรวจรอบๆห้อง ราวกับอีกคนไม่มีตัวตนอยู่ ขาที่จะก้าวหยุดนิ่ง เพราะรู้สึกเจ็บตึงๆบริเวณที่ถูกเข็มแทงเชื่อมกับสายมากมายไว้ ทนความรำคาญไม่ไหว แขนเล็กที่เตรียมจะดึงเจ้าตัวสร้างความรำคาญและเจ็บเบาๆให้เขาออก แต่เสียงทุ้มติดจะดุนิดๆก็ขัดขึ้นอย่างรู้ทัน

     

    “เดี๋ยว จะทำอะไร”

     

    “.....” ละสายตาขึ้นมองแวบเดียวก็ก้มลงสนใจสายที่ระโยงระยางไปหมด มือบางปัดมือแกร่งออก รั้นจะดึงทิ้ง จนคนตัวสูงต้องเอ็ดเสียงใหญ่

     

    มินซอก ถ้าหมอยังไม่บอกให้ถอดนายก็ห้ามถอด มันอันตราย”

     

    “.....” มือบางชะงักไปครู่ คิ้วโค้งสวยขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าเรียวก้มงุดนิ่งไปเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะค่อยๆเงยมองใบหน้าหล่อเหลานั้นช้าๆ สายตาสงสัยถูกส่งไปยังอีกคน และตัดสิ้นใจเอยออกไปเพราะทนความสงสัยไม่ไหว

     

    “ถามอะไรหน่อยสิ”

     

    คนตัวสูงไม่ได้เอยอะไรออกมาเพียงพยักหน้าเล้กน้อยเป็นเชิงให้ถามออกมาได้

     

    “ใครชื่อมินซอก”

     

    “.....”

     

    “ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง พวกนายเป็นใคร? และที่สำคัญ... ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลย?”

     

    “.....” ใบหน้าหล่อเหลาชะงักไปครู่ สีหน้ามีแววตกใจอย่างเห็นได้ชัด  มือแกร่งยกขึ้นจับที่ไหล่บาง เลื่อนลงมากอบกุมมือเล็กทั้งสองไว้แน่น ก่อนจะค่อยดึงร่างเล็กเข้ามากอดแน่น

     

    “นายชื่อมินซอก พี่ชื่ออี้ฟาน

     

    “.....”

     

    “และเราสองคนเป็นคนรักกัน” สิ้นประโยค สายตาที่จะสื่อแทนของความสงสัยมากมายก็ถูกส่งไปยังคนตัวสูงที่ยังกอดเขาไม่ยอมปล่อย ยังไม่ทันอะไรคนตัวสูงกว่าก็ดึงเขากลับไปสู่อ้อมกอดอีกครั้ง


     


     

    TBC.





    ✤✤✤✤
    จบอินโทร บอกแล้วไงว่าเบาสมองนะ {พ่องส์}
    ฮ่าๆ ยังไงก็เม้นท์ โหวต แอดแฟนถ้าชอบให้เค้าด้วยนะตัว
    *ทำตาแบ๊ว*
    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ~

     

     

     

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×