ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    น้ำแข็งใส กับ ใจปอนปอน

    ลำดับตอนที่ #5 : ~บท เรียน ที่ 5~คารมณ์ คมคาย * ^_^

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 48






    บ ท เ รี ย น ที่ ห้ า >>5++คารมณ์ คมคาย





    ปวดขาชะมัดเลย ไม่เข้าใจเล้ยทำไมโรงเรียนฉันถึงได้งกขนาดนี้เนี่ยไม่ยอมให้นักเรียนใช้ลิฟท์ –-O—





    แล้วโรงยิมก็เล่นอยู่ตั้งชั้น5เชียวนะเฟ้ย เดินจนน่องโตเป็นน่องไก่แล้วนะเนี่ย<นางเอกแอบเวอร์เล็กน้อย- -“>และแล้วก็มาถึงโรงยิมในสภาพอันหดหู่ #_# ฉันเดินต๊อกแต๊กเข้าไปในโรงยิมก็เห็นมีกลุ่มนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นบาสกันอยู่





    เอ๊ะ !! ฉันว่าหนึ่งในกลุ่มนั้นน่าตาคุ้นๆๆนะ





    ใช่แน่ๆเลย มั่นใจร้อยล้าน พันล้านเปอร์เซ็นเลยว่าหนึ่งในกลุ่มนั้นที่ฉันคุ้นหน้า อีตานั่นก็คือ อีตาโรคจิต ซวยแล้วมั้ยหล่ะ ฟ้าใสเอ๊ย





    ฉันพยายามหลบหน้าเขา ขืนให้เขาเห็นหน้าฉันมีหวังเขาต้องหาเรื่องกัดฉันแน่ๆเลย และผลที่ตามมาก็คือเกิดสงครามขนาดย่อยในโรงยิม ดังนั้นฉันจึงรีบไปหยิบตะกร้ารถเข็นในห้องอุปกรณ์กีฬาเพื่อมาเก็บลูกบาส ลูกวอลเล่ย์ที่ระเนระนาดอยู่ทั่วไปตามโรงยิม





    บาส วันนี้หลังเลิกเล่น ไปหาอะไรกินที่ร้านAlwaYSกันป่ะ”





    อะไรนะ ตะกี้มีคนพูดชื่อบาสหรอ เมื่อฉันได้ยินคำว่า”บาส”หูฉันก็ทำงานอย่างรวดเร็วและส่งไปให้สมอง สมองฉันแปรผลออกมาทันทีว่าใครมันคือบาสที่ทำให้ฉันโดนนางสวยแกล้งเมื่อตอนกลางวัน  ฉันรีบหันควับทันทีเพื่อหาว่าใครกันวะที่มันชื่อบาส และฉันก็กระจ่างทันที กระจ่างแบบแจ่มแจ้งแดงแจ๋กับคำตอบที่ได้รับเลยว่าไอคนที่มันชื่อบาส คือ อีตาประธานนักเรียนโรคจิต ปากมอมนั่น





    ท่าทางฉันจะหันไปมองนายนั่นนานไปหน่อย ฉันรู้สึกเหมือนว่าเพื่อนนายโรคจิตจะเห็นฉันเข้าแล้ว





    “ตายแล้ว”ฉันอุทานกับตัวเองเบาๆและรีบหันหน้ากลับมาก้มหน้าเข็นรถเข็นต่อ





    ฉันพยายามนึกว่านายนั่นอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ด้วยรึป่าวแต่คิดเท่าไหร่ สมองปลากัดของฉันก็คิดไม่ออกสักที ถ้านายนั่นอยู่ด้วยเขาต้องจำฉันได้แน่นอน และพอเขาจำฉันได้ เขาก็จะบอกนายโรคจิตและฉัน……..>O< ไม่อยากคิดต่อเลย---O---“





    ฉันพยายามเดินก้มหน้างุดๆเก็บลูกบาสอย่างระวังตัวเพื่อไม่ให้มีพิรุด แต่ระหว่างที่ฉันเดินก็ได้ยินเสียงนายโรคจิตเรียกฉัน ฉันว่าเขารู้แล้วแน่ๆเลยว่าเป็นฉัน





    “เธอ เธอ ”ซวยแล้วมั้ยหล่ะ ฉันไม่อยากเจอนาย ไม่ต้องมาเรียกฉัน ……………..อย่าเรียกดิวะ [-  -”]





    ฉันพยายามเดินเข็นรถให้เร็วขึ้นทำเป็นไม่ได้ยินเสียงที่เขาเรียกแต่นายนั่นเรียกดังขึ้นอีกเป้นสองเท่าและฉันก็ทำเช่นเดิมนั่นก็คือแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงที่เขาเรียกแต่





    “ตุ๊บ!!”





    โอ้แม่เจ้า!!  นายนั่นแม่นชะมัดเลย เขาโยนลูกบาสอัดมือฉันที่จับรถเข็นอย่างเต็มแรงทำให้มือฉันชะงัก หยุดการเข็นทันที  มันเจ็บอะไรเช่นนี้หนอ  ตอนนี้มือฉันชามากๆเลย ทำไมความซวยแต่ละครั้งของฉันมันมาจากนายทั้งนั้นเลยวะเนี่ย สรุปว่าฉันไม่ควรเจอนายเลย





    ถึงตอนนี้ยังไงฉันก็คงต้องหันไปสู้หน้ากับเขาแล้วหล่ะ ก็แหม……เขาเล่นเรียกฉันด้วยวิธีการเป็นมิตรสุดยอด แถมยังเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายม้าก มาก  =O=“





    “นายอีกแล้วหรอ” ฉันแสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นว่าเขาอยู่ที่โรงยิมมาก่อน





    “ฮ่า ฮ่า ^O^” เหมือนเขาจะรู้ทันเลยง่ะ =_=” ว่าฉันแกล้งทำเป็นไม่เห็นเขา





    “นายอัดลูกบาสมาใส่มือฉันทำไม ฉันเจ็บนะโว้ย” ฉันโวยวายใส่เขา





    “แหม……ก็ฉันแค่อยากจะทักเธอเท่านั้นเอง ทำดุไปได้” เขาพูดอย่างหน้าตาย =_=





    สาบานได้เลยคะว่าเขาพูดประโยคนี้





    ให้ตายสิ   พ่อคุณเอ้ย!! ทักด้วยการอัดลูกบาสใส่หน่ะหรอ มันช่างเป็นวิธีการทักคนที่ประเสริฐจริงๆ =_=”





    นายนี่มัน……..เถื่อนลากดินจริงเลยๆ =O=





    “แล้วอีกอย่างนะ ตอนแรกฉันก็เรียกเธอดีๆแล้ว แต่เธอแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเอง” >O<แหน่ะ มีการมาโทษตรูอีก<แต่ที่เขาพูดมามันก้จริงนะ --__-->





    “อะไร ใครบอกฉันแกล้ง” ฉันแกล้งทำหน้าตาเหรอหราแบบว่าไม่รู้เรื่องสุด





    แหม…..ทำไมอีตานี่ถึงรู้ทันฉันไปซะทุกเรื่องเลยวะ #___#





    “ฉันรู้หรอกน่าว่าเธอกลัวฉัน เธอก็เลยแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ”





    “อะไรกัน คนอย่างฉันหรอจะกลัวนาย ไม่เลย ไม่เคย และไม่คิดด้วย”





    “นั่นสินะ คนอย่างเธอ คงไม่กลัวใครหรอกดูจากเรื่องเมื่อวานและเรื่องตอนกลางวัน เป็นต้น เธอออกจะใจกล้า” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะมาทางฉัน





    “นั่นเป็นเพราะนายเป็นต้นเหตุตะหาก ตั้งแต่ฉันเจอนายนะก็มีแต่เรื่องซวยๆเกิดขึ้น นายนั่นแหละตัวซวยขนานแท้เลย” โอ้โห!!ถ้านางสวยมาได้ยินฉันด่าเขาขนาดนี้ ฉันว่าเธอคงไม่ใช่แค่กรี๊ดๆแน่ๆเลย เธอคงจะลงไปชักอยู่กับพื้นแล้วก็พาพวกของเธอมาฆ่าฉันเป็นแน่





    “แต่ฉันว่านะ เธอนั่นแหละชอบทำตัวเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กๆที่ขาดความอบอุ่น” ฉันอึ้งๆกับคำพูดของเขานิดหน่อย อาจเป็นเพราะว่าเขาพูดแทงใจดำฉันก็ได้ ฉันได้แต่เงียบ ไม่ได้พูดอะไรต่อ





    “ฉันไปก่อนดีกว่าไม่อยากจะทะเลาะกับเธอให้เมื่อยปาก” เขาพูดทำลายความเงียบแล้วก็เดินไป





    “เดี๋ยวสิ!! นายไม่คิดจะขอโทษฉันบ้างเลยหรอที่นายตั้งใจอัดลูกบาสมาใส่มือฉันหน่ะ” ฉันทวงคำขอโทษจากปากของเขา แต่จุดประสงค์ที่จริงแล้วฉันอยากให้เขาขอโทษกับประโยคล่าสุดที่เขาพูดมากกว่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนัว่ามันเป็นเพราะอะไร





    “สาวแกร่งอย่างเธอแค่โดนลูกบาสอัดมือหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง จิงมะ” ให้ตายสิ……..นี่หน่ะหรอชายในฝันที่สาวๆในโรงเรียนพากันคลั่งไคล้หลงไหล ปลื้มนักปลื้มหนา ปรารถนาอยากได้เป็นแฟน แหวะ ทุเรศสิ้นดี ฉันอยากจะอ้วก ฉันอยากจะบอกเลยว่านายนี่ป่าเถื่อนสุดๆ อยู่ห่างๆไว้เป็นดีจะได้ไม่เกิดเรื่องซวยๆกับชีวิต สำหรับฉันนะแค่เจอหน้านายก็อยากยกมือบ๊ายบายแล้วกล่าวคำว่าลาก่อน ชาตินี้อย่าได้พบได้เห็นหน้ากันอีกเลยจะดีกว่านะ ไม่สิ ไม่สิ ต้องพูดว่า ไปเล้ย ไปเลย ไปไกลๆ ชิ่ว ชิ่ว <รู้สึกเหมือนไล่หมาเลยง่ะ =_=” >





    “เออใช่…..เกือบลืม…ฝากเก็บลูกบาสด้วยนะ ยายน้ำแข็งใส” เขาหันหน้ามาพูดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยพร้อมกับโยนลูกบาสมาให้ฉัน โชคดีที่ฉันรับลูกบาสไว้ได้ทัน นี่ถ้าฉันรับลูกบาสไม่ทันมีหวังฉันโดนลูกบาสอัดเข้าที่หน้าอกแหงๆเลย





    “หนอยตาบ้าเอ๊ย!! ชื่อบาสหรอ นี่แหน่ะๆๆ ”ฉันทั้งเตะ ทั้งโยนปาเข้ากำแพง ทั้งกระทืบลูกบาสที่เขาโยนมาให้อย่างสนุกสนานเพื่อเป็นการระบาย  





    แหะๆๆ ^__^สงสัยฉันจะเป็นคนเก็บกดเอามากๆเลยนะเนี่ย ก็แหม……มันระบายกับเจ้าตัวเขาไม่ได้นิหน่า  







    ^O^





    เม้นกันด้วยนะ ว่าหนุกหรือไม่หนุก ^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×