คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โอ้ใจเอ๋ย 1/3
โอ้ใจเอ๋ย
(kim do young & ten)
bg musuc - โอ้ใจเอ๋ย , พิจิกา
ps: เป็น ver. ไทยนะคะ ตอนแรกว่าจะเป็นแค่ os 1 ตอน แต่ทำไงก็ไม่จบแฮะ ;_;
เอาจริงๆ ก็คิดว่าไอ้สองประโยคนี้น่ะ จี๊ดเลย
จี๊ดแบบฟังแล้วต้องถลึงตาใส่ ทนไม่ได้ที่จะอยู่ตรงนี้ต่อ แต่คนที่เขาอุตส่าห์ถ่อมาปรึกษานี่สิ กลับไม่สะทบสะท้าน
ซ้ำทำท่ากระชากคอเสื้อกันเอาไว้ ก่อนจะพูดเสียงดังจนอะไรพวกนั้นกระแทกเข้ามาในหู
“ไม่ชอบเขาก็ไม่ต้องไปสนใจสิ”
“เหม็นขี้หน้าแล้วจะไปอยู่ใกล้ทำไมล่ะ”
ซึ่งก็บ้าบอไปกันใหญ่
ใครๆ มันก็มีความย้อนแย้งในตัวเองทั้งนั้น ไม่รู้บ้างเลยหรือไง
และสุดท้าย
ก็ไม่มีใครเข้าใจเต็นเลยสักคน
เธอไม่รับไม่รู้อะไร ไม่เคยเอะใจบ้างเลยเหรอ
เธอไม่รู้ไม่ชี้อะไร ไม่เคยแปลกใจบ้างเลยเหรอ
เรื่องของเรื่องมันเกิดในเช้าของวันอาทิตย์ เต็น ชายหนุ่มวัย 22 ปีที่พึ่งจะเรียนจบมาได้ราวๆ สองเดือนยืนหน้าบึ้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศอุ่นๆ ของพระอาทิตย์พร้อมกับสายยางรดน้ำต้นไม้ในมือหน้าบ้านสวน
ซึ่งอันที่จริง งานรดต้นไม้นี่มันกิจกรรมโปรดของเต็นสุดๆ ไปเลย เขาชอบที่จะตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อมาพบปะกับลูกๆ ที่อุตส่าห์เพาะปลูกเองกับมือมาจนเจริญเติบโตผลิดอกผลิใบอยู่แล้ว ติดก็แค่วันนี้ ที่ดูมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจนทำให้น้องดอกไม้สวย ๆ ต่างพากันหวาดกลัวก็คงจะเป็นเพราะชิงช้าขาวๆ ตรงรั้วข้างบ้านที่มีใครคนหนึ่งกำลังนอนคุยโทรศัพท์เสียงดังรบกวนสมาธินี่แหละ
ไม่สิ เอาจริงๆ คือมันรบกวนทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ขัดลูกหูลูกตา ไหนจะแค่ได้ยินเสียงนี่ก็ถือเป็นมลพิษแล้ว นี่ก็ยัง...
“เอางั้นเหรอคุน”
“ให้เราไปรับไหม เดินทางคนเดียวลำบากออกนะ มีเราจะได้อุ่นใจไง”
“จะเกรงใจทำไมล่ะครับ”
“เต็มใจมากเลยเนี่ย”
แหวะ
แหวะ
แหวะ
เต็นได้แต่ทำหน้าพะอืดพะอมอยู่คนเดียวกับน้ำเสียงนุ่มนวลอะไรแบบนั้น เพราะดูก็รู้ว่า เสแสร้งแกล้งทำชัดๆ
ฮึ รู้ดีแก่ใจเลยล่ะว่าอย่างไอ้บ้านั่นน่ะเหรอจะเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดี เป็นชายในฝันเหมือนที่กำลังแสดงอยู่
บ้าบอ หมอนั่นน่ะชายในฝันร้ายล่ะสิไม่ว่า เต็นถึงได้หันไปทำหน้าอี๋ใส่ พูดจาอะไรชวนอ้วกซะไม่มี นี่ใจจริงก็อยากจะเอาสายยางที่ถืออยู่ในมือจ่อหน้ามันเลยด้วยซ้ำ (ถ้าไม่ติดว่าทำแบบนั้นแล้วจะไม่ถูกคุณแม่ตีก้นให้น่ะนะ) ก่อนจะขัดบทสนทนาหวานเลี่ยนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“นี่!”
“ไร”
แต่ดูสิ ดูสิ่งที่มันทำ หมดคาบไอ้คนที่พูดจาอี๋อ๋อกับคนปลายสายเมื่อกี้ไปเสียสนิท (ถึงได้บอกไงว่าจริงๆ หมอนี่น่ะคือซาตาน) หน้าโคตรกวน กวนโอ้ย กวนมากจนอยากจะกระโดดไปตบบ้องหูเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ซึ่งก็พูดไปงั้นแหละ ไอ้บ้านั่นมันสูงกว่าเต็นตั้งเยอะ นี่แค่มันยื่นแขนมายันหน้าผากไว้เต็นก็สู้อะไรไม่ได้แล้วเลยทำไม่ได้หรอก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้แล้วจะยอมง่ายๆ นะ! แบบนั้นก็ไม่ใช่เต็นน่ะสิ!!
เขาเลยตั้งท่าสู้รบเต็นที่ เชิดหน้าจิกตาขั้นสุด จำได้ว่าสมัยเรียนเคยทำแบบนี้ขู่เด็กปีหนึ่งจนน้ำตาซึมไปเลย นี่ถ้าโดยองไม่กลัวก็ไม่รู้จะยังไงแล้วล่ะทีนี้
“ช่วยมีมารยาทหน่อย คนจะรดน้ำต้นไม้ พูดเสียงดัง น่า -รำ -คาญ!”
“เสียงดังที่ไหน นี่เสียงปกติ”
แต่ทำไมมันไม่กลัวล่ะ!
“อ้อหรอ” คราวนี้เต็นเลยทำเสียงขึ้นจมูก อยากจะปรบมือให้เลยว่า ใช่ พูดถูกเป๊ะ เสียงเมื่อกี้น่ะเบามากๆ เบาสุดๆ ไปเลย “แต่เบามากจนฉันวิ่งไปรดน้ำต้นไม้อยู่ท้ายสวนยังได้ยินเลยไอ้บ้า! กล้าพูดมาได้ หูมีปัญหาหรือไง?”
“งั้นก็คงช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้มายืนรดน้ำต้นไม้ตรงนี้เอง นี่มันที่ประจำของฉันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรนายก็รู้”
“นายก็รู้เหมือนกันนี่ว่าฉันจะมารดน้ำต้นไม้ทุกเช้า! แต่ก็ยังกล้าโผล่หน้ามากวนโมโหอีก!”
“ไม่รู้อ่ะ”
“คิมโดยอง!! อย่ามาหาเรื่อง!!”
“เอ้าพูดจริง ใครมันจะไปจำอะไรแบบนี้ได้ เปลืองพื้นที่ในสมองมาก - มาก”
เต็นจะพ่นไฟแล้วนะ!!! ทำไมปากมันร้ายแบบนี้!! อยากจะวิ่งเข้าไปถีบไอ้เกาหลีนี่กลับประเทศใจจะขาด นึกได้ในวินาทีนั้นเลยว่าทำไมตอนสองขวบที่คุณแม่พามารู้จักกับครอบครัวคิมที่ย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ แทนที่จะวิ่งเข้าไปหอมแก้มดีใจที่มีเพื่อน ทำไมเขาถึงไม่วิ่งไปฉี่ใส่ขามันเลยนะ จะได้ไม่เสียเวลาสนิทกันในช่วงนั้นมาจนถึงมัธยม!
ไม่น่าหลงคบมันเป็นเพื่อนเลย เพราะความเหงาเลยแท้ๆ !
นั่นแหละ ก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าเขากับโดยองเคยสนิทกันมาก มากจนแทบเรียกได้ว่าเป็นคู่ปาท่องโก๋ ซึ่งอาจจะเพราะแถวนี้มีแค่บ้านสวนแค่สองหลังก็ได้ เต็นเลยมีแค่โดยองคนเดียวที่เป็นเพื่อนเล่น ตั้งแต่เล็กจนโต (นิดๆ) โดยองไปไหนเต็นไปด้วย และถ้าเจอเต็นที่ไหน แน่นอนว่าก็ต้องเจอโดยองอยู่ข้างๆ อย่างแน่นอน
ก็เลยเป็นเรื่องปกติไปเลยว่าถ้าวันไหนเต็นจะมาค้างพร้อมกับฝากท้องมือเย็นที่บ้านสวนตระกูลคิม หรือจะเป็นบ้านเต็นเอง ที่บางทีก็มีโดยองมาร่วมโต๊ะอาหารและหลับไปพร้อมๆ กับเต็นบนเตียงเดียวกันในห้องนอนเล็กๆ ที่มองลงไปจากชั้นสองก็จะเห็นแปลงดอกไม้ที่เต็นชอบในทันที
เลยเหมือนจะอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน แม่เต็นเองยังเคยพูดเลยว่าถ้าขาดโดยองไปเต็นคงออกแตกตายแน่
แต่ไม่มีทางซะหรอก
นั่นมันก็แค่เรื่องวัยเด็กนั่นแหละ พอได้เจอสังคมที่กว้างขึ้น ใครมันจะมาสนใจไอ้คนที่เอาแต่สั่งๆ กันล่ะ ตั้งแต่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่จำความได้ โดยองก็งี้เลย เจ้ากี้เจ้าการ ชอบสั่ง! เผด็จการ เต็นไม่ชอบที่สุด ! นี่ยังจำที่มันเคยสั่งให้เต็นโยนขนมของฝากจากชิคาโก้ของพี่จอห์น ป. 5/2 ทิ้งขยะได้อยู่เลยนะ ไอ้คนบ้าไม่มีเหตุผล! (แต่ตอนนั้นเลือกไม่ได้ไง เด็กแบบเต็นมีเพื่อนแถวบ้านอยู่คนเดียวก็เลยต้องทำตามที่สั่งไปเพราะกลัวว่าโดยองจะโกรธตามประสานั่นแหละ) แล้วตัดภาพมาที่ปัจจุบันก็เลยเป็นแบบนี้ เต็นก็ไม่ได้ตัวติดกับโดยองเหมือนอย่างเคยแล้วก็ไม่เห็นจะอกแตกตายเลยสักหน่อย
มีแต่การที่ยังเจอหน้ามันทุกวันนี่แหละ ที่ทำให้เต็นกำลังจะอกแตกตาย
แบบนี้เลย
“เออ!! งั้นแล้วแต่เลย เชิญคุยกับนายกุนเชียงอะไรนั่นให้มดขึ้นปากตายไปเลยนะ เดี๋ยวจะมาเก็บศพ!”
“แล้วกุนเชียงคืออะไรอ่ะ”
“ไม่จำเป็นต้อนรู้!”
“งั้นก็ไปไกลๆ เลยไปเต็น”
มันไล่เต็นอีกแล้ว! ทำอย่างกับเขาอยากอยู่ใกล้ตัวเองตายละไอ้บ้า!!
เลยกลายเป็นว่าวันนี้ต้นไม้ในสวนยังไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเลยด้วยซ้ำ เต็นทิ้งสายยางในมือลงกับพื้นอย่างโมโหขั้นสุด ถ้าเกิดสายยางสุดที่รักมีชีวิตคงได้โอดครวญเลยล่ะว่า เบาๆ สิพี่เต็นจ๋า ก่อนจะเดินกระทืบเท้าไปปิดก๊อกน้ำแต่ก็ไม่วายหยิบเศษกิ่งไม้แถวนั้นขึ้นมาปาใส่คนที่ยังทำหน้าตากวนโมโหกันไม่เลิกอย่างหงุดหงิดใจ
แต่มันยังมาทำหน้าเหนือๆ ใส่เต็นอีก เหมือนจะตอกย้ำให้รู้ว่า
เต็นก็ทำได้แค่นี้แหละ ไม่เห็นจะสะทบสะเทือน
เลยฝากไว้ก่อนเถอะ! หาเรื่องกันอีกทีไม่ตายดีแน่!!
“กระเต็น!! โตจนป่านนี้แล้วแม่บอกว่าอย่าวิ่งขึ้นบันได!!”
“อย่ามาเรียกเต็นว่ากระเต็นนะแม่!!”
“กระเต็น!!”
งอนแม่แล้ว!!! ไม่สิ งอนหมดเลย อารมณ์เสีย!!
ทำไมไม่มีใครได้ดั่งใจสักคน!!!
ใครมาคอยใส่ใจเธอทุกวัน ใครคอยเอาแต่ใจเธอทั้งวัน
เจอทีไรก็ชวนคุย มีอะไรให้คุยกันทั้งวัน
“ยังไงล่ะ ตกลงจะไปกับแม่ไหม หรือจะเฝ้าบ้าน”
“แน่นอนว่าเต็นเลือกอันหลัง”
“งั้นก็ไปอยู่กับโดยอง”
“นั่นแหละ กำลังจะบอกว่า ไม่ขอเอาอันนี้ เต็นจะนอนบ้านตัวเอง ทำไมต้องไปยุ่งกับบ้านนั้นด้วยแม่ ไม่จำเป็นเลย”
“เอ๊ะ! ไอ้ลูกคนนี้ ตอนเด็กล่ะไม่เคยยอมนอนบ้านตัวเอง เอะอะ นี่อ้อนไปนอนกับโดยองลูกเดียว แล้วนี่อะไร”
“นั่นมันก็เด็กไหมล่ะแม่ ตอนนี้เต็นโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วนะ!”
เต็นยู่หน้า ไม่มีทางซะล่ะที่จะไปบ้านญาติกับแม่ เต็นเบื่อจะตายกับการไปตอบคำถามของลุงป้าน้าอาที่เอาแต่อยากรู้อยากเห็นว่าตอนนี้เต็นจบอะไรมาแล้วจะทำงานที่ไหนเงินเดือนเท่าไหร่หรือชีวิตเป็นยังไง แต่จะให้ไปนอนค้างอ้างแรมที่บ้านตระกูลคิมให้ตายเต็นก็ไม่เอาอีกเหมือนกัน นี่เขาอายุ 22 แล้วนะแถมยังเป็นผู้ชายอีก ไม่รู้แม่จะเป็นห่วงอะไรเยอะแยะกับการที่ปล่อยให้เต็นอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีใครกล้ามาปล้นบ้านเราหรอกน่า
“เตี้ยๆ อย่างแกทำไมหมาจะเลียไม่ถึง” แล้วยังมาซ้ำเติมอีก! อยากจะเถียงใจจะขาดว่าเต็นไม่ได้เตี้ยสักหน่อยแม่! เต็นแค่ตัวเล็ก!
“แม่อ่ะ!”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่ไปนอนบ้านโดยองก็ต้องไปกับแม่ เลือกมา เออ หรือจะให้โดยองมานอนบ้านเราก็ได้นะ ถ้าแกอ้อนได้”
“แม่อย่าใช้คำว่าอ้อนได้โปรด” เต็นจะอ้วกแล้วเนี่ย พอนึกสภาพตัวเองต้องไปง้องแง๊งใส่ไอ้บ้านั่นแล้วขนลุกขนพองขึ้นมาในทันที “เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวเต็นโทรตามเพื่อนเต็นมานอนเป็นเพื่อนดีกว่า”
“ใคร”
“พี่ชล สองวันก่อนพี่เขาบอกว่าว่างอยากมาเทียวบ้านเราพอดี เต็นจะได้ชวนเลย”
“เอางั้นเหรอ” แม่ถามด้วยท่าทีเป็นห่วง เพราะจริงๆ ถึงเต็นจะสนิทกับพี่ชลที่เป็นพี่รหัสมากจนแม่ไว้วางใจแต่ตอนนี้พี่เขาก็มีการมีงานทำประจำแล้ว จะมาแวะค้างอ้างแรมที่บ้านเต็นเหมือนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแบบนี้เลยที่อดจะกังวลไม่ได้ “ไม่ลำบากพี่เขานะ”
“ครับ”
“แต่ผมว่าลำบากเปล่าครับแม่” และไม่ นั่นไม่ใช่เสียงเต็น เพราะเสียงเต็นไม่ทุ้มแบบนั้นแน่ จากที่นอนกลิ้งอยู่บนโซฟานุ่มๆ เต็นเลยต้องเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหาที่มาของเสียง ก่อนจะรู้ในตอนนั้นเลย ว่าไอ้หัวส้มนี่มาโผล่ที่บ้านเต็นได้ยังไงน่ะ
“อ่าว มาแล้วเหรอโดยอง” ก่อนที่แม่จะเฉลยด้วยการยิ้มหวานให้มัน จากนั้นก็เชื้อเชิญกันนั่งที่โซฟาตัวข้างๆ เต็น แอบเห็นหรอกนะว่าริมฝีปากนั่นกระตุกยิ้มขึ้น เหมือนจะส่งสัญญาณบางอย่างมาให้เต็นเริ่มรู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ ก่อนจะหันไปยิ้มให้แม่เต็นต่อ “ดื่มน้ำดื่มท่าหน่อยไหม แม่พึ่งคั้นน้ำส้มสดๆ เมื่อเช้าเลย”
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่”
ว่าแต่คุณแม่งั้นเหรอ อี๋ กล้าพูดอ่ะ
“แอ๊บสุภาพขึ้นมาในทันที”
“อย่ามาหาเรื่องโดยองนะ เจ้าลูกคนนี้”
“ก็ปกติมันเป็นแบบนี้ซะที่ไหนอ่ะแม่ โอ๊ย! ตีเต็นทำไมอ่ะ!!”
“มันกับใคร” โหยแม่! เต็นคว่ำปากจนแทบจะเป็นกราฟพาราโบลาแล้วเนี่ย มีความลำเอียงเกิดขึ้นที่บ้านลี้ชัยพรกุลได้ไง เต็นไม่ยอม แต่ก็นั่นแหละ พูดไปงั้น เพราะพอจะฮึดสู้นี่แม่ก็ทำท่าจะตีอีก เต็นเลยต้องทำเป็นยอมๆ ไปก่อนแบบฝากไว้ก่อนเถอะ “พูดเพราะๆ เรียกโดยองดีๆ เดี๋ยวนี้เลย”
“ก็ได้ๆ โดยองๆๆ พอใจคุณนายยังครับ”
“นั่นแหละ พูดดีๆ ตอนเด็กนี่โดยองจ๊ะ โดยองจ๋า พอโตแล้วจะมานิสัยแย่ไม่ได้”
“แล้วทำไมแม่ต้องชอบเอาเรื่องในอดีตมาพูดด้วยเล่า”
“ก็แกมันเถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้ไงล่ะ”
ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกันเลยสักนิดอ่ะ
“ว่าแต่คุณแม่เรียกผมมา มีอะไรหรือครับ”
ก่อนที่การทะเลาะในครอบครัว (?) จะจบลงเพราะคิมโดยองแทรกขึ้นมาได้ถูกจังหวะ เต็นเลยสะบัดหน้าใส่ก่อนจะหนีเข้าไปในครัว เพราะตั้งแต่ตื่นยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิดและความจริงแม้จะยังไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าทนนั่งฟังคิมโดยองทำตัวเป็นชายหนุ่มแสนสุภาพ มารยาทงามกับแม่ล่ะนะ
แต่ก็ใช่ว่าครัวจะห่างไกลจากห้องรับแขก นี่ติดกันเลยด้วยซ้ำ เต็นเลยได้ยินทุกบทสนทนา แถมยังแอบโผล่หน้าออกจากเคาน์เตอร์ไปแทรกเกือบทุกประโยคอีก
“พอดีแม่จะไม่อยู่บ้านราวๆ หนึ่งสัปดาห์จ้ะ เลยอยากจะวานให้โดยองช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเต็นมันหน่อย เพราะแถวบ้านเราตอนกลางคืนมันน่ากลัว”
“แล้วฉันก็บอกแม่แล้วว่าจะให้พีชลมานอนเป็นเพื่อน ไม่รบกวนนายหรอก”
“แต่ก็บอกเหมือนกันนะว่าจะไปรบกวนพี่เขาทำไม”
“ไม่เห็นจะรบกวนตรงไหนเลย” เต็นที่มีชามซีเรียลอยู่ ในมือพร้อมกับนมรสสตอเบอรี่ว่า เพราะอย่างที่บอกไปว่าปกติพี่ชลก็สนิทกับครอบครัวเต็นอยู่แล้ว สมัยเรียนก็มาค้างที่บ้านเต็นออกจะบ่อย แล้วทำไมตอนนี้จะมาไม่ได้
ซึ่งเอาจริงๆ เต็นก็คิดว่าคงต้องถามพี่เขาอีกทีนั่นแหละว่าช่วงนี้จะสะดวกหรือเปล่า แต่ก็บอกแม่ไปก่อน แม่จะได้สบายใจแล้วจะได้ไม่พยายามยัดเยียดให้เต็นไปนอนบ้านตระกูลคิม “พี่ชลมาได้น่ะแม่”
“แล้วพี่เขาไม่มีงานทำหรือไง แม่ก็เกรงใจนะ กลัวจะรบกวนเขาเหมือนกัน”
“มีสิแม่ ก็ออฟฟิสที่อยู่กลางเมืองนั่นไง แต่เต็นจะชวนพี่เขามาเที่ยวบ้าน ถือเป็นการพักผ่อนไง ก็อยู่เป็นเพื่อนเต็นไปในตัว”
“แต่ออฟฟิสใหญ่ขนาดนั้นเขาจะลางานปุ๊บปั๊บได้ไง คุณแม่จะไปวันไหนนะครับ”
แต่ไอ้นี่!
ไอ ้บ้าโดยอง
ทำไมชอบขัดแข้งขัดขาเต็นนักนะ!
เต็นถลึงตาใส่เหมือนจะบอกให้หุบปาก แต่หมอนั่นมันก็ทำเป็นไม่สนใจ ก่อนจะหันไปทำตัวเรียบร้อยกับแม่เต็นต่อ
“วันนี้แหละจ้ะ เดี๋ยวสักพักพ่อเขาก็ขับรถมารับแม่แล้ว”
“งั้นผมว่าพี่เขาคงมาไม่ได้หรอกครับ มันปุบปับเกินไป”
“แม่ก็ว่างั้น”
“แต่เต็นว่าไม่เห็นจะปุบปับเลย”
“ตรงไหน? จะโทรให้พี่เขามาหาตอนนี้เดี๋ยวนี้เลยเหรอ เดี๋ยวคุณแม่ก็ไปแล้ว”
“ก็รอวันต่อไปก็ได้”
“งั้นคืนนี้จะนอนกะใคร” คิมโดยองโผล่งขึ้นมาด้วยคำถาม แต่นั่นมันกวนประสาท เลยนั่นแหละ ตอนนั้นเลยเต็นถึงได้อ้าปากค้าง พยายามเถียง แม้จะดูอึกๆ อักๆ ถึงทางตันมากก็ตามแต่ก็สู้สุดใจ
“กับใครก็ได้ ถามทำไม เกี่ยวไรด้วย”
“เฮ้อ งั้นเอางี้เลย เต็นพอ อย่าพึ่งเถียงแม่หรือเถียงโดยอง เพราะมันอย่างที่โดยองบอกเลย แม่ว่ามันปุบปับไป ยังไงพี่ชลคงมาไม่ได้หรอก กว่าจะลางานนั่นนู้นนี่ต้องใช้เวลา ลำบากเปล่าๆ แล้วคืนนี้เต็นก็ไปนอนบ้านโดยองเถอะ ไม่รบกวนโดยองมากไปใช่ไหมลูก”
“ไม่ครับ”
“แต่เต็นไม่เอา!”
“งั้นไปเก็บกระเป๋าเลย ไปบ้านญาติกับแม่”
เลยต้องยอมแพ้ (ก็ได้วะ)
เต็นหน้างอเป็นตูดเมื่อเห็นแม่หันมาทำหน้าจริงจังใส่ ก่อนจะส่ายศีรษะรัวๆ เหมือนจะบอกว่าไม่ไปบ้านญาติและยอมไปนอนที่บ้านตระกูลคิมก็ได้ โดยมีสายตาของไอ้บ้าคิมโดยองแอบมองมาด้วยความเยาะเย้ยสุดๆ ไม่สิ มันเบะปากใส่เต็นด้วยล่ะ อยากจะพุ่งเข้าไปข่วนหน้าชะมัด แต่ติดที่มีแม่ยังนั่งอยู่ข้างๆ มันอยู่เลยเนี่ย!
นี่มันอะไรก็ไม่รู้ ขัดใจเต็นไปหมดเลย!
“งั้นถ้าโอเคแล้วแม่ไปล่ะ เสียงรถพอมาแล้ว โดยองฝากไอ้แสบมันด้วยนะลูก ถ้าเกินรับมือก็จับตีก้นได้เลยนะ”
แล้วดูแม่พูด
“แม่! เต็นไม่ใช่เด็กอนุบาลนะ”
“แกมันยิ่งกว่าเด็กอนุบาลอีก อย่าซนกับโดยองให้มาก เข้าใจไหม แม่ไปแล้วนะ” จนในที่สุดเต็นก็ยอมถอนหายใจ วางชามซีเรียลในมือลงก่อนจะเดินเตาะแตะไปหาแม่แล้วกอดไว้หลวมๆ ซึ่งก็ไม่ลืมกระซิบอวยพรให้ทั้งสองเดินทางดีๆ แล้วถ้าไปถึงบ้านญาติแล้วก็โทรมาบอกเต็นด้วยจนถูกแม่หอมเหม่งไปหนึ่งที่พร้อมกำชับอีกรอบว่าห้ามทำให้โดยองปวดหัวปวดประสาทเด็ดขาด
และไอ้ตอนแรกก็จะไม่ทำหรอก พอโดนย้ำบ่อยๆ แบบนี้เต็นเลยเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมาเหมือนกัน
เดี๋ยวป่วนให้บ้านตระกูลคิมพังซะเลยนี่!
ซึ่งพอโบกมือลาแม่เรียบร้อยแล้ว พอหันกลับมาก็เห็นว่าไอ้บ้านั่นกำลังมองอยู่ เต็นเลยถลึงตาใส่ อย่างไม่ชอบใจก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงที่โซฟาตัวเดิมก่อนจะหยิบชามซีเรียลที่กินค้างไว้ขึ้นมากินต่อ “อะไร”
“อะไรล่ะ”
“ก็จ้องแบบนั้นทำไม”
“ใครจ้อง ไร้สาระ ไปเก็บของเลยไป ขี้เกียจมาตาม”
เดี๋ยวนะ ก็เมื่อกี้มันจ้องเต็นอ่ะ! แล้วมาพูดแบบนี้หมายความว่าไง ตอนเช้าเนี่ยนะ ใครมันจะไปด้วย บ้าหรือเปล่า
“จะรีบเพื่ออะไร บ้านก็ใกล้กันแค่เนี๊ย เดี๋ยวกลางคืนฉันก็โดดไปบ้านนายเองแหละ ออกจากบ้านไปได้แล้วไป ชิ้วๆ”
“ไม่อ่ะ”
“เอ้ะ!” เต็นแทบจะยกขาถีบเมื่อจู่ๆ มันก็นั่งลงข้างๆ เต็นเฉย แถมยังยื่นหน้าเข้ามาหาเต็น ไม่สิ จริงๆ มันจะมองชามซีเรียลของเต็นนี่แหละ แต่เพราะเต็นถือไว้ระดับอกพอดีมันเลยทำให้ระยะดูใกล้กันแบบแปลกๆ
“มีไรกินบ้าง หิว”
“ไม่มี!! นี่อย่ามาแย่งนะ” แล้วมันก็แย่งไปตักเข้าปากหน้าตาเฉย เต็นเลยถึงกับตาค้าง เพราะไม่คิดว่าไอ้ผู้ชายหัวส้มข้างบ้านนี่จะกล้าถึงขั้นใช้ช้อนคันเดียวกับเต็น เพราะถึงจะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็โตๆ กันแล้ว แถมยังไม่ได้สนิทกันแล้วด้วย จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่กล้าใช้ช้อนเดียวกับมันนี่ตอนป.หกเลยนะ
“ทำไม มีปัญหา?”
แต่ดู แทนที่จะสำนึกกลับมาทำหน้าชวนทะเลาะกับเต็นอีก เต็นเลยได้แต่กำหมัดแน่นๆ เหมือนสะกดอารมณ์แบบเต็มที่
แล้วก็นะ โคตรเกลียดมัน! เกลียดเท่าโลกชุปแป้งทอดเลย ทำไมหมอนี่ถึงกวนประสาท กวนโมโห ทำให้เต็นหงุดหงิดได้มากขนาดนี้ด้วย โอ๊ย! นี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าเจ็ดวันที่แม่ไม่อยู่นี่เต็นจะต้องเอาชีวิตตัวเองไปพัวพันกับมันน่ะเหรอ คนที่จะเป็นประสาทตายแน่ๆ น่ะ มันเต็นแล้วแม่!
“แล้วไม่ชอบช็อตโกแลคแล้วหรือไง”
“มันหมด!”
“อ้อ แต่ก่อน หมดก็ไม่เห็นจะยอมกินรสอื่น”
“ก็ตอนนี้คนมันหิว!” เต็นว่าอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเดินไปเอาช้อนในครัวมาเพิ่มพร้อมกับซีเรียลและนมรสสตอเบอร์รี่ในมือ พอกลับมานั่งได้ เต็นก็เทๆ ทุกอย่างลงในชามที่ไอ้บ้านั่นถือไว้ ก่อนจะถอนหายใจใส่แล้วกลับไปหาน้ำกินในครัว
ซึ่งไม่ได้อะไรนะ
แค่กลัวหิวตายเต็นเลยเอามาเติมให้เฉยๆ หรอก!!
“แล้วก็อีกอย่าง เวลาผ่านไปอะไรก็ต้องเปลี่ยน ตอนนี้อะไรทำให้อิ่มได้ฉันก็กินหมดแหละ”
“งั้นเหรอ”
คนถูกตามพยักหน้าส่งๆ ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิมแล้วคว้ารีโมททีวีออกมากดหาอะไรแก้เบื่อดู
“ตอนเด็กไม่เห็นเป็นแบบนั้น โดยอง เต็นจะกินนั้น เต็นไม่กินนี่ เขี่ยนี่ออกให้เต็นหน่อย นี่อย่ามาแย่งกินของโปรดเต็นนะ”
“โถ่ ว่ามาได้ ตัวเองก็เรื่องมากพอกันแหละ เต็นกินนั่นสิ กินๆๆ เข้าไปเลยนะ คายออกมาจับตีก้นแน่ บ้าอำนาจ!”
“จำได้ด้วยว่าฉันเป็นไง”
พอถูกถามแบบนั้นเต็นเลยเงียบไปนานสองนาน
ก่อนจะกรอกตาไปทางซ้ายทีขวาทีเหมือนกำลังเลใจอะไรสักอย่าง
ค ...ใครจะอยากไปจำ มันก็แค่ มันก็แค่...
โผล่เข้ามาในสมองของเต็นเฉยๆ หรอก
“นายก็จำได้เหมือนกันแหละ” เต็นเลยเลือกที่จะเบี่ยงประเด็น ในตอนนั้นเองที่เผลอเกาจมูกด้วยความประหม่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ได้ยังไงเหมือนกัน จนกระทั่งได้ยินเสียงคนข้างๆ โต้ตอบกลับมานั่นแหละ เต็นถึงได้หลุดออกจากความรู้สึกบ้าๆ นี่ทั้งหมด หยิบหมอนอิงที่ใกล้มือทีสุดขึ้นมาก่อนจะฟาดไปที่ไหล่กว้างๆ นั่นอย่างไม่ออมแรง
“อ๋อเปล่า จำไรไม่ได้เลย พูดขึ้นมาเฉยๆ มันถูกเหรอ?”
“คิมโดยอง!!”
กวนโมโหอีกแล้วนะ!!!
TBC
* ชล สายชล = จีฮันซล
ความคิดเห็น