คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Try to say 'Sorry'
เขากำลังเดินไปตามระเบียงที่ทอดสู่ประตูห้องโถง เมื่อโช แชง วิ่งไล่หลังมาและส่งเสียงเรียก
“แฮร์รี่ รอก่อน” เขาหันหลังกลับไปพบกับท่าทางร่าเริงสดใสของโช เช้านี้เธอปล่อยผมดำขลับยาวสยายคลอเคลียอยู่รอบใบหน้ามนได้รูป หัวใจของแฮร์รี่เต้นผิดจังหวะ รู้สึกเหมือนใครพยายามดึงทึ้งกระเพาะของเขาออกมา
“อ่า..เอ้อ..อรุณสวัสดิ์” สมองตื้อจนคิดไม่ออกว่าจะคุยอะไร โชคดีที่เธอเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“เธอกำลังจะไปกินอาหารเช้าหรอ” โชยิ้มบางๆอย่างเคอะเขิน
“อ้อ ใช่แล้ว เธอล่ะ” เขาตอบ
“อืม ฉันก็กำลังจะไป” เธอกวาดสายตาไปรอบๆโถง และมาหยุดที่มือของแฮร์รี่ “นั่นอะไรหรอ” โชทำเสียงว่าสนใจมาก แต่แฮร์รี่พอจะรู้ว่าเธอก็คิดไม่ออกว่าจะคุยอะไรเช่นกัน
“ลูกอมเม็ดทุกรสไงล่ะ เธอเคยกินไหม”
“แน่นอนอยู่แล้ว” โชเลิกคิ้วขึ้นเหมือนจะบอกว่าเขาถามอะไรโง่ๆ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังยิ้มล่ะหน่า เพราะฉะนั้นมันคงไม่ใช่คำถามที่แย่เกินไปนัก แฮร์รี่ปลอบใจตัวเอง
“เธอจะเอาไปให้ใครหรือเปล่า” ผู้คนรอบตัวเดินผ่านไปมา เสียงจ้อกแจ้กเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันจะเอาไปให้เดรโก มัลฟอย น่ะ”
“อ้อ เธอจะให้มัลฟอย” รอยยิ้มของเธอหายไปอย่างรวดเร็ว คิ้วของเธอยิ่งเลิกสูงขึ้นไปอีก หน้าของเธอบ่งบอกว่าไม่พอใจมาก “ฉันนึกว่าเธอจะให้ฉัน”
“คือว่า...ฉันจะขอโทษเขาน่ะ” แฮร์รี่หลบสายตาดุดันของโช
“ไม่ใช่ว่าเธอชอบเขาหรอก ใช่ไหม”
“เปล่าๆๆ ฉันไม่ได้ชอบเขา” แฮร์รี่ปฏิเสธทันควัน แต่อนิจจา มัลฟอยโผล่ออกมาตรงประตูพอดี ดูก็รู้ว่าเขาได้ยินที่เด็กหนุ่มผมดำพูดเมื่อกี้
“อ๋อ นายไม่ได้คิดอะไรกับชั้น แล้วนายจะส่งจดหมายบอกรักชั้นทำไมล่ะ” มัลฟอยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“อะไรนะ เธอส่งจดหมายรักให้มัลฟอยหรือแฮร์รี่” เขาหันกลับมามองโชที่กำลังจะร้องไห้
“คือว่า...เอ่อคือ เดี๋ยวสิโช” โชวิ่งหนีกลับไปตามทางที่เธอมา แฮร์รี่รีบวิ่งตามแต่ยิ่งวิ่งเธอก็ยิ่งอยู่ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายเธอก็มีปีกโผล่ออกมาที่หลังแล้วบินหายลับไป
“เดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวซี่” แฮร์รี่ถอนหายใจยาวเหยียด เขาหันกลับมาพบกับมัลฟอยที่ยังยืนนิ่งเหมือนหินที่เดิม เจ้าของผมสีดำยุ่งๆรีบวิ่งไปหาเด็กหนุ่มบ้านสลีธิริน แต่พอเขาใกล้จะไปถึงมัลฟอยก็มีปีกขนนกงอกออกมาอีกคน
“ไม่ๆๆ อย่า อย่าจากฉันไปอีกคนเลย ได้โปรดเถอะ ขอร้อง” แต่มัลฟอยเพียงทำหน้าเรียบเฉย แล้วบินหายไป
“ม่ายยยยยยย” แฮร์รี่เอื้อมมือออกหมายจะไขว่คว้า
“อะไรๆ แฮร์รี่” หน้าตกกระกับผมสีแดงเพลิงเข้ามาอยู่ในโฟกัสของสายตาแทน และด้วยความอับอายแฮร์รี่เพิ่งรู้ตัวว่าฝันไปรวมทั้งละเมอออกมาซะดังลั่น
“นายส่ายหัวไปมา และยังทั้งเตะทั้งถีบ นายฝันอะไรน่ะ ฝันว่าถูกทำร้ายรึไง” รอนอมยิ้มอย่างขำขัน
“ฉันเปล่า” เขาหลบสายตา “ฉันเพียงแต่....เอ่อ”
โชคดีที่เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงเรียกรอนมาจากข้างล่าง เขาเลยไม่จำเป็นต้องอธิบายความฝันที่ไม่ควรเปิดเผยนั่น แฮร์รี่มองออกไปนอกหน้าต่างที่ถูกเช็ดถูจนใสด้วยฝีมือเอลฟ์ประจำบ้าน แดดเปรี้ยงส่องไปกระทบกับหยาดน้ำใสๆบนใบไม้ใบหญ้า เมื่อคืนฝนคงจะตก เขาคิด แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส เขาก็หวังว่าฝนในใจเขาจะหมดไปเร็วๆและแทนที่ด้วยแสงแดดกับสายรุ้งสีสดสวย
.......................................
“อะไรนะ เธอจะแอบไปฮอกส์มี้ด” เฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่นเมื่อเขาบอกว่าจะทำอะไร
“จุ๊ๆๆ เบาๆหน่อยสิ” เขายกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากเป็นเชิงเตือน
“ท่ามกลางสถานการณ์ที่อัมบริดจ์พร้อมจะไล่เธอออกทุกกรณีเนี่ยนะ” เธอทำหน้าขยะแขยง
“รับรองจะไม่ให้ใครเห็น โธ่ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่ไถลลงไปในรูปปั้นทั้งๆที่เห็นอัมบริดจ์หรือสเนปหรือใครอื่นกำลังเดินมาตามระเบียงหรอกหน่า” เด็กหนุ่มบ้านกริฟฟินตอร์กระวนกระวายเต็มทีแล้ว เขาต้องรีบไปรีบกลับถ้าหากว่ายังจะทำการบ้านให้เสร็จ
“แล้วเวลาเธอถึงที่นั่นล่ะ เธอจะซื้อของยังไง” เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างติเตียน “รวมทั้งการบ้านเธอด้วย เธอยังไม่ได้เริ่มอะไรซักอย่างเลยนะ”
“ปล่อยเขาไปเหอะน่า” รอนที่เงียบอยู่นานขัดขึ้น
“แต่ถ้าใครเห็นเข้า...เธอน่าจะรู้นะ สายลับอัมบริดจ์น่ะต้องมีแน่ๆ”
“ฉันจะกลับมาอย่างปลอดภัย อย่าห่วงเลย” แฮร์รี่ยิ้มอย่างมั่นใจ อะไรบางอย่างทำให้เขาเชื่อเช่นนั้น “ไปล่ะนะ” เด็กชายผู้รอดชีวิตวิ่งจากไปพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เพื่อนๆ
.......................................
ตอนแรกเขากะว่าจะไปขอขนมอร่อยๆจากพวกเอลฟ์ประจำบ้าน แต่ก็พบว่ามันคงเป็นของแทนการขอโทษที่สิ้นคิดเกินไปหน่อย แฮร์รี่ตัดสินใจที่จะซื้อของที่ดีกว่าแม้ว่ามันจะเสี่ยงซักเล็กน้อยในการได้มันมา
ความฝันเมื่อคืนทำให้เขาเกิดความคิด ขนนก เขาจะซื้อปากกาขนนก มันดูดีออกถ้าจะซื้อปากกาขนนกที่สวยสง่าเป็นของขวัญให้มัลฟอย แม้ว่าเด็กหนุ่มตาสีซีดจะมีปากกาขนนกสีทองเหลือบเงินอันที่เขาพร่ำพรรณนาให้ใครที่ยอมฟังว่านายลูเซียสใช้เงินมหาศาลขนาดไหนซื้อมา พรรณนาว่ามันทำจากทองและเงินแท้ๆ และมันยังทำให้เขียนเร็วและสวยงามกว่าปกติด้วย
บัดนี้ปากกาขนนกที่เขาซื้อมานอนอยู่ในกล่องกำมะหยี่อย่างดี แฮร์รี่เปิดมันออกมาชื่นชมปนกังวลใจว่ามัลฟอยจะชอบหรือไม่ เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงบ่นแว่วๆว่าเขาเปิดดูมาเป็นครั้งที่ร้อยแล้วและให้ตั้งใจซ้อมคาถาสงบเสียงเสียที แต่เขาก็ไม่สนใจ ปากกาอันนี้มีขนเป็นสีเขียวเข้มแบบสีของป่าดิบชื้นให้ความรู้สึกเงียบสงบสบายใจ และเวลาที่มันต้องแสงมันจะส่องประกายเป็นสีรุ้งเหลือบเลื่อมไปตลอดความยาวของปากกา คนขายเฝ้าพูดแต่ว่ามันทำมาจากขนหางของนกยูงที่พ่นไฟได้เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณใช้มันจะทำให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นกับงานตรงหน้า แต่เขาว่ามันทำให้เขานึกถึงหน้าคนที่เขาจะให้มากกว่า แฮร์รี่คิดว่ามันคงมีค่าไม่เท่าอันที่พ่อของมัลฟอยซื้อ แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามันเป็นปากกาที่สวยเยี่ยมยอดแล้วกัน
“แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่เรียกเสียงเขียว
“หืม” เขาส่งเสียงตอบอย่างไม่ค่อยสนใจ มือยังคงลูบไล้เส้นขนเนียนนุ่มของปากกา
“ซ้อมคาถาได้แล้ว และเรียงความวิชาปรุงยาของเธอน่ะยังไม่เสร็จเลย”
“อืม รู้แล้วล่ะหน่า” เด็กชายผมดำวางปากกาลงในกล่องอย่างทะนุถนอม เขาเริ่มฝึกซ้อมคาถาอย่างใจลอยทำให้กบของเขายังส่งเสียงร้องต่อไปอย่างสบายอารมณ์ เมื่อหมดกำลังใจแฮร์รี่จึงคว้ากระดาษขึ้นมาเตรียมจรดปลายปากกาเขียนเรียงความของสเนป แต่เขาก็คิดอะไรไม่ออกเช่นเดียวกับรอนที่เงียบไปตั้งนานหลังแผนผังดวงดาวที่ทำไปไม่ถึงครึ่ง ดวงตาสีเขียวคืนสติกลับมาเมื่อคิดได้ว่าเขาควรแนบจดหมายไปด้วยจึงขูดขีดอะไรยุกยิกบนกระดาษเกี่ยวกับปากกาที่เขาซื้อให้ แต่พออ่านดูเขาจึงพบว่ามันปัญญาอ่อนแค่ไหน แฮร์รี่เริ่มใหม่ด้วยการเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่เขาก็ต้องขยำทิ้งเมื่อมันเริ่มชักจะกลายเป็นการโอดครวญ สุดท้ายเขาจึงเขียนเพียงว่า “แทนคำขอโทษ” และม้วนกระดาษวางลงไปในกล่องปากกาเบาๆ
.......................................
“อ๊ะ ปากกาขนนกหรอ สวยจังเลย ใครกันนะที่ส่งมาให้” แพนซี่ พาร์กินสัน ส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดอยู่ข้างหู มัลฟอยพบว่ามันเป็นเรื่องน่ารำคาญมากแต่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจของเธอไว้ เพราะว่าเธอมีอิทธิพลในหมู่ผู้หญิงและยังประจบอาจารย์เก่งพอกันกับเขา เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับการสร้างชื่อเสียงและอำนาจแบบที่พ่อเขาพร่ำสอนมาตลอด
“นกฮูกโรงเรียนมาส่ง แสดงว่าต้องเป็นคนในโรงเรียนเนี่ยแหละ ใครกันนะใครกัน” แพนซี่กำลังยิ้มรื่นเริง แต่พอนึกได้ว่าคนที่ส่งน่าจะคิดอะไรกับชายที่เธอหวังไว้ เธอก็เริ่มหุบยิ้มลง นี่มันคุณชายบ้านสลีธิรินผู้ร่ำรวยด้วยเงินทองและอำนาจนะ ใครกันที่บังอาจมายุ่งกับของที่เธอเล็งไว้ หน้าหงิกๆของแพนซี่ยิ่งบูดหนักขึ้น
“นี่ พวกเธอคิดว่าใครที่บังอาจส่งมาให้เดรโกน่ะ” เด็กสาวที่ได้รับฉายาลับหลังว่าหมาจูหันไปถามเพื่อนๆ
“ไม่รู้สิ แต่ฉันว่าใครคนนั้นน่ะเลือกของเก่งนะ ดูสิ มันสวยขนาดนั้น” เพื่อนของเธอพยักเพยิดไปทางปากกาขนนกที่มัลฟอยลูบไล้อยู่เงียบๆ
“ปัญหามันไม่ใช่สวยหรือไม่สวยย่ะ แต่มันอยู่ที่ว่าใครส่งมาต่างหาก เราต้องช่วยกันตามหา ฉันจะได้จัดการให้แน่ใจว่ามันรู้ซึ้งถึงคำว่า ของต้องห้าม” ตาของแพนซี่ส่องประกายเด็ดเดี่ยว เธอเชื่อมั่นว่าคนส่งปากกามานี่คงจะเป็นเด็กปี 1 ปี 2 ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร และคงจะเป็นพวกขี้กลัวแค่ขู่ไม่นานก็คงจะถอดใจไปเอง
‘ใช่เลย ปัญหามันอยู่ที่ว่า ใครส่งมา’ คุณชายบ้านสลีธิรินถือปากกาตัวสร้างเรื่องไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาเท้าคาง ยากนักที่จะพบภาพแบบนี้ เพราะเขามักจะดูแลบุคลิกภาพให้สง่างามดั่งเจ้าชายเลือดเย็นอยู่เสมอ สายตาของเขาจ้องมองมันอย่างกับว่ามันจะมีปากพูดออกมาว่าใครกันที่ส่งตัวมันมาให้เขา ส่งมาเป็นปากกาโชคร้ายที่ต้องถูกสายตาสีเทาซีดมองอย่างเคลือบแคลงสงสัย
มัลฟอยยกกระดาษโน้ตชิ้นเล็กที่แนบมาด้วยขึ้นมาดูอีกครั้ง
‘แทนคำขอโทษ’
ใครกันที่จะขอโทษเรา มีแต่เรานี่แหละที่ต้องขอโทษใครต่อใคร มัลฟอยคิดอย่างขำๆ เขาใช้มือข้างขวาลูบผมบลอนด์เรียบแปล้นั้น และเหลือบมองข้ามไหล่ไปอย่างไม่ตั้งใจ
แฮร์รี่ พอตเตอร์
พอตเตอร์กำลังมองมาที่เรา เด็กหนุ่มผิวซีดรีบหันกลับมา แต่บัดนี้แก้มของเขาไม่ซีดอีกต่อไป และเมื่อนึกถึงเย็นวันนั้น เขาก็พอจะรู้แล้วว่าใครคืออดีตเจ้าของปากกาขนนกด้ามนี้
.....เขาจะให้อภัยดีไหมนะ.....
รอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปากของมัลฟอย
ปล.ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำติชม^^ หวังว่าจะแวะมาเยี่ยมเยียนกันอีกค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ความคิดเห็น