ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HD FanFic : Sweet Kisses

    ลำดับตอนที่ #4 : Discover

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 49


    .......................................

                  เสียงของคุณนายนอร์ริสดังขึ้น มันใช้ตาโปนๆจ้องมาทางแฮร์รี่กับมัลฟอยเหมือนจะจับผิดอะไรซักอย่าง ทั้งคู่รีบผละออกจากกันและโดยไม่พูดอะไรเลย ต่างคนต่างก็เดินจ้ำอ้าวไปทางบ้านของตน

                  แฮร์รี่รีบเร่งเดินไปตามทาง เสียงหัวใจยังคงลั่นเหมือนใครไปตีกลองอยู่ในอก

                  เราทำอะไรลงไปนะ   เขาพึมพำกับตัวเองพร้อมลดฝีเท้าลงจนกลายเป็นเดินเอื่อยๆ เหมือนว่าตั้งแต่ตอนที่เราเจอหน้ามัลฟอย จนถึงตอนที่เอ่ออ.....จูบ มีใครซักคนมาควบคุมเขาไว้ เหมือนทุกอย่างที่เขาทำไปไม่ใช่ตัวเขาเลย แต่เด็กหนุ่มผมดำก็รู้ รู้อยู่แก่ใจว่า คนที่ว่านั่นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหัวใจของเขาเอง

                  ดวงตาสีเขียวจ้องมองออกไปยังหมู่ดาวเกลื่อนฟ้า คืนนี้ไม่มีทั้งเมฆและดวงจันทร์มาบดบังรัศมีของมัน  เขาจ้องมองราวกับคำตอบของสิ่งที่เขาทำลงไปคืนนี้จะปรากฏขึ้นท่ามกลางการเรียงตัวของดวงดาว

                  แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก   ผมสีบลอนด์ของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดูโดดเด่นแม้ในที่ที่มีแสงเพียงสลัวๆ   เขาวิ่งสุดแรงเกิดมาจากโถงทางเดินที่เมื่อสักครู่นี้เกิด......เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาอยากจะรู้นักว่าไอ้พอตเตอร์โรคจิตวิปริตวิตถารมันคิดอะไรของมันกันแน่ ถึงได้เข้ามา.....ทำบ้าอะไรของมันวะ

                  โว้ยยยยยยย    เขาร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกไอ้บ้านั่นเป็นโจรขโมยจูบแรก แล้วทำไมเขาเองที่เป็นพรีเฟ็คไม่สั่งกักบริเวณหรืออะไรสักอย่างหนึ่ง ทำไมเขาไม่ผลักพอตเตอร์ออกไป ทำไมเขาไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย ทำไมนะ ทำไม ร่างซีดๆผอมบางทรุดลงตรงบันไดสู่หอพักสลีธิริน เขาไม่คิดจะกลับเข้าไปตอนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ตาสีเทาซีดของมัลฟอยช้อนขึ้นจ้องมองความมืดมิดบนเพดานที่เขารู้ว่ามีอยู่เพียงแต่ตอนนี้มองไม่เห็น

                  สงบสติหน่อย   เด็กหนุ่มคิด ถ้าว่ากันตามจริงละก็ ถ้าเขาสำรวจใจตัวเองดีๆอย่างไม่ลำเอียงหรือพยายามหลอกให้ตัวเองเชื่อเป็นอย่างอื่น เขารู้แน่ว่า

                  .....เขาไม่ต้องการให้คุณนายนอร์ริสเข้ามาขัดจังหวะเลย.....

    .......................................

                  หลายวันผ่านไป ทั้งมัลฟอยและแฮร์รี่ต่างพยายามหลบตากันตลอด แต่ก็แอบเหลือบมองอีกฝ่ายในขณะที่คิดว่าเขาคงไม่รู้ตัว เมื่อไม่มีเศษกระดาษกับรอยปากกาเขียนคำหวานส่งมาให้เหมือนเคย มัลฟอยก็รู้สึกโหวงๆในท้องอย่างประหลาด  ส่วนแฮร์รี่ก็รู้สึกว่าชีวิตช่างจืดชืดสิ้นดี เมื่อเด็กหนุ่มตาสีเทาไม่เข้ามาหาเรื่องอย่างที่เคยทำ

                   แฮร์รี่ได้แต่เหม่อลอยทั้งวัน และบางทีก็จะสะบัดหัวไปมาแล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด  ในหัวสมองของเขามีแต่หน้าและชื่อของมัลฟอยลอยเวียนวน เขาพยายามจะคิดอย่างอื่น แต่ไม่ทันที่ความคิดอย่างอื่นที่ว่าจะได้ประกอบกันเป็นรูปเป็นร่าง หน้ามัลฟอยกับความรู้สึกร้อนผ่าวบนริมฝีปากที่ไม่อาจลบเลือนก็เข้ามาแทนที่ แล้วเขาก็ต้องถอนหายใจยาวอีกครั้ง

                  เขาคิดย้อนไปถึงตอนที่เขาเริ่มส่งกระดาษโน้ตจีบมัลฟอย  รู้สึกว่าที่เขาทำอย่างนั้นเพราะมันน่าเบื่อไม่มีอะไรจะทำ และเพราะโกรธแค้นอัมบริดจ์แต่ไม่รู้จะลงที่ใคร เลยคิดวิธีแกล้งมัลฟอยแบบนี้ขึ้นมาโดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะลุกลามจนเกินไปถึง.....รอยจุมพิต

                  เย็นวันหนึ่ง วันที่ไม่รู้ว่าจะช่วยยุติหรือเริ่มต้นความยุ่งเหยิงกันแน่  เด็กหนุ่มผมดำเดินออกจากปราสาทท่ามกลางลมพายุที่พัดแรง  ท้องฟ้าสีเทาเข้มบ่งบอกว่าฝนกำลังจะมาในไม่ช้า  เขารีบเร่งเดินไปยังเรือนกระจกเพื่อทำการบ้านของศาสตราจารย์สเปราต์  การบ้านที่เขาได้มาเป็นพิเศษเนื่องจากมัวแต่เหม่อจนตอบคำถามที่ง่ายเหลือเชื่อไม่ได้

                  พลั่ก

                  โอ๊ะ ขอโทษที   ร่างสูงเดินชนกับใครไม่รู้ที่หน้าประตูเรือนกระจก แต่ขณะกำลังก้มลงช่วยเก็บของ   เขาถึงเห็นชื่อบนหนังสือว่ามันเป็นของใคร

                  โธ่เอ๊ย ชั้นเป็นพรีเฟ็คนะ ชั้นจะลงโทษนายเพราะว่า....    แต่คำพูดที่เหลือกลืนลงไปในคอของมัลฟอย   เมื่อเขาพบว่าใครกันที่เดินมาชน

                  ทั้งสองสบตากันเนิ่นนานเท่าไรไม่รู้  คนที่ได้สติก่อนคือเจ้าของดวงตาสีเขียวที่หันเหสายตาไปทางอื่นซะ

                  เอ้อ เอ่อ นายมีเศษดินติดที่แก้มน่ะ    และไม่รอช้า  มือที่หยาบกระด้างด้วยการทำงานหนัก  (แน่ละ เหตุก็มาจากพวกเดอสลีย์) เอื้อมออกไปช่วยปัดให้เบาๆ  วินาทีที่เหมือนต้องมนตร์นั้น มือสีขาวซีดกับนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่าย  ก็เอื้อมออกไปลูบใบหน้าของแฮร์รี่  อีกครั้งที่คนสองคนเหมือนตกอยู่ในภวังค์และไม่ได้สติ จูบครั้งนี้เร่าร้อนราวกับจะแสดงให้เห็นว่าอดทนอนกลั้นมานานเพียงใดระหว่างที่ห่างกันไปหลายวัน  แฮร์รี่บดขยี้ริมฝีปากลงไปและไม่น่าเชื่อที่มัลฟอยก็สนองตอบด้วยเหมือนกัน  แต่เพียงแค่เขาใช้ปลายลิ้นพยายามแหย่เข้าไป ร่างบางก็สะดุ้งสุดตัว และ

                  อั้ก

                  มัลฟอยผลักแฮร์รี่จนเขาเสียหลักล้มลงไปกับพื้น  หน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนมะเขือเทศด้วยความเขินอายกับผมบลอนด์ทองหันเหไปทางปราสาท และออกวิ่งอย่างรวดเร็ว  ทิ้งให้ร่างสูงกับผมสีดำนอนเค้เก้คลุกดินอยู่บนพื้นกับม้วนกระดาษการบ้านที่กลายสภาพเป็นสีดำ

    .......................................

                  อ้าว แฮร์รี่ ฉันกำลังสงสัยว่านายหายไปไหน   รอนทักขึ้นเมื่อเขาโผล่จากช่องกลมรูปสุภาพสตรีอ้วนอันเป็นทางลับเข้าสู่หอกริฟฟินดอร์

                  ว่าแต่ แฮร์รี่ ทำไมเธอถึงตัวเปียกโชกอย่างนั้นล่ะ   เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นจากกองม้วนกระดาษที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเป็นอะไรถ้าไม่ใช่การบ้าน 

                  เอ้อ ฉันมัวแต่อยู่ในเรือนกระจกจนไม่ทันสังเกตว่าฝนตก ก็เลยต้องวิ่งฝ่ากลับมาน่ะ   เด็กหนุ่มผมดำพยายามหาข้ออ้าง   ที่จริงคือเขานอนอยู่ตรงที่เดิมตลอดเวลาจนฝนตกนั่นแหละถึงได้รูสึกตัว แล้วค่อยเดินลากขาช้าๆกลับมาในปราสาท   มีคุณนายนอร์ริสวิ่งแจ้นหายไปหลังกำแพง   เดาได้ไม่ยากว่ามันคงเผ่นแน่บไปฟ้องฟิลช์เรื่องเด็กนักเรียนทำโถงทางเดินเลอะเทอะ

                  แฮร์รี่ เธอน่ะมีเวทมนตร์นะ   เด็กสาวผมฟูขมวดคิ้วย่น พูดเน้นหนักตรงคำว่าเวทมนตร์

                  หืม...อ่า...เอ่อ...ช่างเหอะ ชั้นจะไปนอนแล้ว ปวดหัว   เขารีบเดินขึ้นบันไดหอไป   ความรู้สึกที่เป็นอยู่ก็คือ ไม่อยากจะคุยกับใครทั้งนั้น

                  เฮ้ นายสัญญาว่าจะเล่นหมากรุกกับฉันนี่   รอนยังคงส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกตามมา

                  นายยังทำการบ้านไม่เสร็จนะ    เฮอร์ไมโอนี่คว้าหนังสือเวทมนตร์คาถาปี 5 เคาะหัวสีแดงเพลิงอย่างแรง

                  แม้ว่าเขาจะขึ้นไปบนหอนอนแล้ว แต่ว่าตาของเขาก็ยังเบิกโพลงท่ามกลางความมืดสนิท  ม่านรอบเตียงรูดปิดทำให้ดูคล้ายว่าเขาหลับไปแล้ว  จะได้ไม่มีใครมากวนใจอีก

                  เราทำเกินไปจริงๆหรือ  แต่.....ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกไปเอง มัลฟอยจูบตอบจริงๆนี่ แต่ว่าถึงยังไงมันก็ผิดอยู่ดีไม่ใช่หรือ ไม่ใช่รึไง เขาไม่ควรทำอย่างนั้นใช่ไหม

                  แฮร์รี่ก็ไม่รู้จะหาคำตอบสำหรับคำถามนี้อย่างไร เขาไม่รู้ว่าแคร์ความรู้สึกของมัลฟอยไปทำไม แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องหาทางขอโทษเด็กหนุ่มคางแหลมผิวซีดคนนั้น  โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะทำได้ด้วยวิธีไหน หลังจากที่ร่างสูงนอนกระสับกระส่ายพลิกไปพลิกมาอยู่นาน เขาก็หลับไป และเป็นคืนที่เขาไม่ฝันถึงระเบียงทางเดินยาวยืด แต่ฝันว่าเขาบินไปหอสลีธิรินเพื่อกล่าวคำขอโทษใส่หูของมัลฟอยที่หลับสนิทไม่ตอบสนองต่อเสียงใดๆ

    .......................................

                  อีกครั้งที่เขาไม่เข้าใจตัวเองเลย  เขาเหมือนถูกผูกรัดด้วยมนตราอะไรซักอย่าง  เมื่อเห็นหน้าพอตเตอร์เขาจะต้องใจเต้นผิดจังหวะทุกครั้งไป  รอยประทับจูบอีกครั้งของวันนี้ยังคงความรู้สึกเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย (เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่หน้ามัลฟอยจะกลายเป็นสีชมพูทุกครั้ง)  เจ้าชายแห่งบ้านสลีธิรินลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง  เขารูดม่านหน้าต่างออก เผยให้เห็นท้องฟ้าสีน้ำหมึกที่ถูกแต่งแต้มด้วยหยาดฝนพรำ  นานๆครั้งจะมีแสงฟ้าแลบและเสียงครืนครางของหมู่เมฆทะมึน  เขาไม่รู้ว่าจ้องมองอย่างไร้จุดหมายออกไปข้างนอกนานเท่าไหร่  แต่ท้องฟ้ายามนี้ช่างเหมือนกับใจเขาที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรกันแน่  ฝนตกพรำๆไปตลอดคืน เหมือนกับเขาที่นอนไม่หลับตลอดคืนเช่นกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×