ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกฆาตกรรม

    ลำดับตอนที่ #2 : ความคิดที่สวนทาง

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 49


             เธอน่าจะตายแล้ว

             ฉันค่อยๆเดินเข้าไป  พยายามคุมสติให้มั่น  แต่อย่างไรก็ยังรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน  สมอง พยายามคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง

             อย่าตายเลยนะ  อย่าตายๆได้โปรดเถอะ

             แต่คำภาวนาไม่เป็นจริง  ฉันลองตรวจสอบลมหายใจ  เธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ  หน้าอกไม่ไหวกระเพื่อม  ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆ  ทุกอย่างนิ่งสงัด  แม้แต่สายลม

             ฉันถอยหลังกรูดออกมา  นั่งพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง  สมองตีบตัน  ฉันจะทำไงดี  เอ่อ...หนังส่วนมากคนพบศพจะกรีดร้องใช่ไหมนะ  แต่ฉันร้องไม่ออก  ลำคอแห้งผาก  ต่อไปทำไงล่ะ เอ่อ...โทรหาตำรวจ ใช่ๆ โทร มือถืออยู่ไหน

             ฉันลุกลี้ลุกลนหยิบมือถือขึ้นมา  มือฉันสั่งอย่างกับเจ้าเข้า  เอ่อ เบอร์เหตุด่วนเหตุร้าย  191 มั้ง  คงใช่แหละ

             เสียงตู๊ดดังอยู่ 3 ครั้ง  เจ้าหน้าที่ชายเสียงโหดๆรับสาย  เหตุด่วนเหตุร้ายครับ

             เอ่อ คือ เอ่อ ดิฉันพบศพหญิงสาว เอ่อ มัดติดต้นไม้ เอ่อ ค่ะ  ฉันพูดอะไรเนี่ย

             คุณเป็นใครและพบศพที่ไหนครับ

             ฉันชื่อจุฑามณี สายทิพย์ค่ะ พบศพหรือคะ คือ แถวๆ ไม่ใช่ ชายป่าริมถนน a ตรงข้ามหมู่บ้านจัดสรร b ที่ก่อสร้างไม่เสร็จค่ะ  ฉันได้ยินเสียงพิมพ์อะไรต๊อกแต๊ก

             สภาพศพเป็นไงครับ

             ฉันไม่ค่อยรู้หรอกนะคะ  ฉันลุกไปดู  ความกลัวหายไปบ้างแล้ว  เป็นหญิงสาวอายุคงประมาณ 30 เธอถูกรัดคอ  นั่นน่าจะทำให้เธอตายนะคะ  สวมกระโปรงชุดสีขาว เอ่อ ค่ะ

             อะไรรัดครับ

             ฉันไม่กล้าจับเธอหรอกค่ะ เธอก้มอยู่

             วนไปดูหลังต้นไม้สิครับ

             อ๋อ ค่ะ เป็น...น่าจะเส้นเอ็นค่ะ

             มีร่องรอยถูกทำร้ายอื่นไหมครับ

             ด้านหน้านี้ ไม่เห็นเลยค่ะ

             ครับๆผมจะรีบไป

             ดีค่ะ

             ครับ สวัสดี  เขาวางหูโครม  คนอะไรรุนแรงจัง

             ฉันไปนั่งแหมะที่เดิม  ดูดวงตะวันฉายแสงด้านบน...ไม่มีเมฆเลย

             ฉันมองไปที่ศพ  ทำไมเธอถึงถูกฆ่านะ  สงสัยอาจจะเป็นพวกพิศวาสฆาตกร  เพราะเธอเป็นหญิงสาวหุ่นดี  หน้าตาน่าจะสวยสมกับหุ่นละมั้ง  การฆ่าดูโหดเหี้ยมและอ่อนโยน  ทำไมน่ะหรอ  ไม่รู้สิ  มันเป็นความรู้สึก  ฉันจินตนาการถึงตอนที่เธอกำลังจะตาย  คงทรมานน่าดู...น่าสงสารจัง

             วี้ หว่อ วี้ หว่อ วี้ หว่อ

             ตำรวจกรูกันเข้ามา  คนที่ดูน่าจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตเดินมาทางฉัน  ส่วนคนอื่นก็ทำตามหน้าที่ของตนเอง  เช่น  ถ่ายรูปศพ  เดินตรวจหาอาวุธที่อาจตกอยู่แถวนั้น  มีคนหนึ่งใส่แว่นกับถุงมือยาง  ดันหน้าผู้ตายขึ้นมา  น่ากลัวจริงๆ  ใบหน้าเธอเป็นสีเหลืองอมเขียว ตาเหลือกถลน และหวาดกลัว  ปากอ้าค้างเหมือนพยายามนำออกซิเจนเฮือกสุดท้ายเข้าปอด

             สวัสดีครับ คุณคือจุฑามณีใช่ไหม  เขาคงเป็นคนเดียวกับที่รับโทรศัพท์  เสียงเหมือนกันเปี๊ยบ  โหดๆและอูอย่างกับว่ามีรัศมีอำนาจแผ่ออกมา  เขาฉุดฉันให้ยืนขึ้น

             ค่ะ  มือก็ใหญ่และแข็งแรง  เขามีร่างบึกบึน  กำยำ  อันที่จริงเขามีร่างกายที่คล้ายๆเสาปูนทื่อๆต้นโตๆตามตึกร้าง

             คุณพบศพตอนที่โทรฯมาหาเราใช่ไหมครับ

             ใช่ค่ะ  ฉันโทรฯทันที

             คุณเห็นใครบ้างไหมครับ

             ไม่เลยค่ะ

             แล้วเขาก็เดินจากไป  ขณะนี้ศพถูกห่อด้วยผ้าสีขาวแล้ว  เจ้าหน้าที่บางคนเก็บหลักฐาน เช่น เชือก เส้นเอ็น  ฉันเห็นนักสืบมาตงค์  นายจ้างของฉัน  ยืนอยู่กับตำรวจ  ฉันแปลกใจเพียงเล็กน้อย  เพราะสำนักงานนักสืบมาตงค์นั้นดังไม่ใช่เล่น  ฉันเดินตรงเข้าไปหา  ผ่านนักข่าวกลุ่มหนึ่งที่กำลังซักรายละเอียดอย่างกระตือรือร้น  พวกนี้จมูกไวดีจริง

             ครับ ผมยินดีช่วยแน่นอน  นักสืบของฉัน (นี่เป็นสรรพนามที่ฉันใช้เรียกเขาลับหลัง  จริงๆทุกคนต้องเรียกเขาว่า Boss  นั่นเป็นกฎ)  กำลังส่งยิ้มที่ดูดีมีไมตรีจิตมากที่สุดให้นายตำรวจ  (แต่ฉันว่ามันทำให้เขาดูคล้ายหมูอ้วนตาหยี)  เขาเป็นคนร่างอ้วนใหญ่  ชอบใส่หมวก (อยากทำเท่ล่ะซี้)  ไว้หนวดดก  ตาเล็กหยี  ฉันก็ไม่รู้ทำไมเขาเก่งนัก  ทั้งๆที่หน้าตาเขาไม่เห็นเหมือนนักสืบ  (เอ๊ะ! ฉันไม่ควรตัดสินคนที่หน้าตาสิ)

             คุณคิดว่าแรงจูงใจมาจากอะไรครับ  นักสืบของฉันถาม

             อื้ม...เธอเป็นนักธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนะ  อาจมีคู่แข่งทางการค้าอยากจะ...เอิ่ม  ตำรวจนายนั้นเหลือบมาทางฉัน  ที่มายืนข้างหลังคุณนักสืบมาตงค์  เขาหันมามอง  สีหน้าแปลกใจเล็กน้อย

             อ้อ...คุณเป็นคนพบศพนี่...เอ้อ  นี่ลูกน้องผมเองครับ  ประโยคหลังเขาหันไปบอกนายตำรวจ

             ฉันจะฟังด้วยค่ะ

             เอ่อๆ...เอางั้นก็ได้  เห็นได้ชัดว่า  นักสืบของฉันไม่ได้ต้องการอย่างที่พูด  เขาคงอยากตะโกนใส่ฉันว่า  ไปให้พ้น

             ถึงไหนนะ...ใช่  ผมจะบอกว่าขู่แข่งทางการค้าอาจจะอยากให้เธอตาย  ฉันงงนิดๆ  ทำไมต้องรัดคะล่ะ...

             เดี๋ยวนะคะ  ขัดจังหวะนิดนึง  ถ้าเป็นการจ้างวานฆ่าจากคู่แข่ง  ทำไมต้องใช้วิธีรัดคอด้วยคะ  เอาปืนมายิงโป้งเดียวก็เสร็จแล้ว  ทำลายหลักฐาน  แล้วก็บ๊ายบาย  ชายทั้ง 2 มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ  ตอบไม่ถูกงั้นเหรอ

             เธอ...เธอจะไปรู้อะไร  ไปซะ  นั่นไงที่จริงเขาอยากบอกว่า ไปให้พ้น

             งั้นฉันสืบเรื่องนี้เองค่ะ  โทสะพุ่งจี๊ด  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  อาจเพราะข้อสันนิษฐานเล็กๆของฉันไม่ได้เข้าสู่วงสนทนาของนักสืบบิ๊กเบิ้ม แต่หมู่นี้ฉันก็มักจะโมโหง่ายประจำอยู่แล้ว

             เฮอะ...ถ้าเธอทำได้ก็เอา...แม้แต่ชื่อผู้ตายยังไม่รู้เลยใช่ไหมล่ะ  เขาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์  เหมือนฮิปโปโปฯเลย  ฮิปโปฯไว้หนวด

             อีกไม่นานฉันก็จะรู้ค่ะ  แล้วก็เดินจากไป  ฉันต้องทำให้ได้  ลบล้างใบหน้าฉาบยิ้มฮิปโปฯ หมู ช้าง หรือสารพัดสัตว์ ให้ได้  ฉันจะลบคำนินทา  คำว่าพ่ายแพ้  อ่อนแอ  ปวกเปียก  ฉันจะเป็นคนใหม่ที่มีเป้าหมายอะไรสักอย่างในชีวิต

                                                      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×