คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : STORY1 : นิยาย
ในนิยายรักใคร่ปรัมปราของเจ้าชายรูปงามและเจ้าหญิงผู้เลอโฉม..
พวกเขาเป็นเหมือนคู่ที่พระเจ้ารังสรรค์ให้อย่างงดงาม..
เจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่รอคอยเจ้าชายมาจุมพิตเพื่อให้ตื่นจากนิทรา..
เจ้าชายรูปงามผู้กล้าหาญที่ฟันเจ้ามังกรตัวร้ายจนสิ้นซากเพื่อขึ้นไปมอบจุมพิตให้เจ้าหญิงที่รอคอย..
เมื่อขึ้นไปถึงเจ้าชายก็มอบจุมพิตอันหอมหวานเพื่อให้เจ้าหญิงตื่นจากนิทรา..
และเจ้าชายรูปงามและเจ้าหญิงผู้เลอโฉมก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป..
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่แสนโหดร้ายเจ้าหญิงและเจ้าชายไม่มีวันที่จะได้เจอกันอีกตลอดไป..
ในบ้านหลังเล็กมีชายแก่อายุราวเจ็ดสิบนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โยกที่ใกล้ถึงอายุไขเต็มทีแต่มันก็ยังทำหน้าที่ให้เจ้าของที่นั่งมันได้อย่างไม่มีปัญหาแค่ก็มีเสียงดังเอี้ยดอ้าดตามประสาเก้าอี้แก่แต่เจ้าของที่นั่งมันกลับได้สนใจไม่ เขากลับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างล่องลอย เมื่อเวลาผ่านไปชายแก่คนนั้นก็หยิบกรอบรูปที่เป็นสิ่งของที่สะอาดแค่อย่างเดียวในบ้านขึ้นมาดู..
ข้างในเป็นรูปเด็กผู้ชายอายุยี่สิบกว่าๆยิ้มอย่างมีความสุขท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นอันสวยงาม..
“กี่ปีแล้ว..”
“กี่ปีแล้วที่นายจากฉันไป..”
“คิมจินฮวาน”
40ปีก่อน..
“ไอ้เชี่ย! เอาคืนมาเลยนะเว้ย! ขวดนั้นแม่งแพงด้วยของกูสัส! ”
ผู้ชายวัยรุ่นสองคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ในผับที่มีคนพลุ่งพล่าน เบียดเสียดจนบางคนแขยงที่เหยียบย่างเข้าไปแต่ไม่ใช่กับเด็กวัยรุ่นวัยสรรงสรรค์แบบพวกเขา..
‘คิมฮันบิน’
หัวโจกของแก๊งอันธพาลที่ดังมากในมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งจนถูกขนานนามจากผู้คนในมหาลัยว่า
‘เขี้ยวสิงห์’
ใครห้ามยุ่งและไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วยเพราะเขาผู้นี้คือลูกอธิบดีของมหาลัยชื่อดัง ใครแหยมบอกได้เลยว่าอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งวัน และคิมฮันบินกับผองเพื่อนก็กำลังนั่งกินไวน์และเหล้าราคาแพงที่ใช้เงินพ่อแม่ซื้อทั้งหมด..
“ เห้ยมึง.. กูได้ข่าวว่าแม่งเด็กมหาลัยเราแม่งทำงานอยู่นี้ว่ะ.. น่ารักด้วยเว้ย!”
เสียงของ ‘จีวอน’ หนุ่มเพลย์บอยขั้นเทพที่ได้ทั้งหญิงชาย แน่นอนว่าใครอยู่ใกล้เป็นได้สลบเหมือบเรียงราย ซึ่งไอ้จีวอนที่ว่ากำลังเมาแอ๋กับเด็กนั่งดริ๊งค์สองคนที่ขนาบทั้งซ้ายขวาที่อายุไม่เกินสิบแปด ไม่น่ามาทำอะไรแบบนี้เลยจริงๆ..
“เด็กมหาลัยเรา ปีไหนวะ? หญิงชาย?”
คิมฮันบินถามในขณะที่ไม่มีเด็กนั่งดริ๊งเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่กลับนั่งอยู่คนเดียวเพราะไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องเนื้อตัวถ้าไม่สนิทจริงๆ แน่นอนอย่างที่ว่าไม่สนิทจริงห้ามแตะไม่งั้นกบาลแตก..
“ ปี 3 ว่ะ น่าจะชายนะถ้ากูจำไม่ผิด”
“ถ้าชายงั้นกูขอผ่าน”
โบกมือไปมาก่อนจะยกแก้วที่มีไวน์อยู่ขึ้นจิบอย่างไม่แยแส ผมไม่รักไม้ป่าเดียวกันหรอกนะครับ
แค่คิดก็จะอ้วกละ
“เหยมึงอย่าพึ่งพูดงั้น น้องเขาแม่งถึงจะเป็นผู้ชายแต่น่ารักกว่าผู้หญิงบางคนอีกนะเว้ย”
พอไอ้จีวอนพูดจบก็ได้สีหน้าเจื่อนๆของผู้หญิงทั้งโต๊ะมาให้เป็นรางวัลในความปากมากของมัน จนไอ้จีวอนต้องขอโทษแบบเร็วๆ
“น่ารักไงกูก็ไม่นิยมดุ้นเด่หรอกนะเว้ย”
“แล้วมึงจะรู้สึก..”
จีวอนพูดอย่างอาคาดแค้นแล้วจับมือของน้องหนูทั้งสองคนออกจากกิจกรรมนัวเนียก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ที่อยู่ห่างพอสมควรเพราะแน่นอนอีกแล้วว่าคิมฮันบินไม่ชอบที่ที่เสียงดังและอึดอัดเลยจัดห้องวีไอพีระดับคลาสห้าที่บรรยากาศดีสุดยอดมาซะหนึ่ง..
ซักพักจีวอนก็เปิดห้องเข้ามาพร้อมพร้อมกับเด็กเสริฟ์หรือบาร์เทนเดอร์ที่ถือถาดแก้วไวน์เข้ามาแล้วก้มหน้าก้มตา สงสัยคงกลัว
“อ่ะ ทำความรู้จักรุ่นพี่มึงไว้จะได้เจริญในหน้าที่การศึกษา”
ไอ้จีวอนพูดเชิญแกนบังคับใส่น้องคนนั้นแล้วน้องคนนั้นก็พยักหน้าขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วมันก็ทำให้คิมฮันบินอึ้งกิมกี่..
เด็กผู้ชายอายุน่าจะไม่เกินยี่สิบกับหน้าขาวอมชมพูบวกกันปากสีส้มอ่อนที่น่าจะทาลิปกลอสเพื่อให้มันชุ่มชื้น จมูกโด่งคมเป็นสันกับตาตี่ที่เจ้าของมันกำลังบังคับให้หลุบลงเพราะการจ้องของคนทั้งห้องและแก้มอมชมพูน่าสัมผัส..
ใช่เลย..
“อ้าวเป็นไรไปครับคุณคิมฮันบินลูกเจ้าของมหาวิทยาลัย.. เห็นแค่นี้ถึงกลับน้ำลายยืดเลยหรอคร้าบ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะคิกคักของคนทั้งห้องดังขึ้นทำให้คิมฮันบินหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองแล้วหันไปจ้องไอ้จีวอนอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เดี๋ยวพ่อจับเฉือนให้หมดเลยหนิ”
พอพูดเสร็จก็ลากไอ้เด็กที่พึ่งเข้ามาออกไปจากห้องทันทีทำคนในห้องงงกันเป็นแถว..
“ไอ้คิมฮันบิน.. ไม่ชอบไม้ป่าเดียวกันวันนี้แหละมึงจะได้ปลูกอีกต้น..”
“อย่ามาให้กูเห็นอีก!”
คิมฮันบินตะโกนใส่เด็กน้อยไม่รู้อิโหน่อิเหน่เสียงดัง ทำเอา ‘คิมจินฮวาน’ สะดุ้งโหยงก่อนจะก้มหัวให้เก้าสิบองศาแล้ววิ่งออกมาแต่ก็โดนคนที่พึ่งตะโกนใส่ดึงแขนให้เจ้าของให้เข้ามาหา
ตัวเองก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้..
“แต่กูก็ยังไม่ได้พูดว่าตอนไหนนี้เนอะ”
พอพูดเสร็จคิมฮันบินก็ยื่นหน้าเข้าไปสูดความหอมจากแก้มของอีกฝ่ายเข้าจังๆ จนคนโดนหอมถึงกับหน้าแดงไปถึงหู หอมจริงๆด้วย..
“จากนี้มึงต้องมาเป็นแฟนกูจนกว่ากูจะบอกเลิกมึงเอง”
เด็กน้อยสะดุ้งเมื่อได้ยินประโยคที่หลุดออกมาจากปากของคนตรงหน้าจนจะอ้าปากเถียงแต่ก็โดนปิดปากไว้ซะก่อน
“เป็นคำสั่งของลูกเจ้าของมหาลัยนะครับ”
“วิ้วว พี่ฮันเราจะขุดทองแล้วว่ะ รีบทำความรู้จักเร็วเว้ย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
เมื่อเสียงโห่แซวดังขึ้นจากทางห้องวีไอพีจินฮวานก็ผลักฮันบินออกแล้ววิ่งหนีไปอีกทางทันที
ฮันบินหันไปยักไหล่ใส่พวกจีวอนอย่างไม่แยแสใส่ก่อนจะเดินตามไปแบบใจเย็นไม่รีบร้อน
KIMJINHWN PART:
สวัสดีครับผม ‘คิมจินฮวาน’ เรียนอยู่ที่มหาลัยชื่อดังอายุย่างสิบแปดที่ใช้เงินตัวเองเข้าล้วนๆ เพราะอะไรน่ะหรอ? ผมมันเด็กกำพร้าที่โดนพ่อแม่ทิ้งให้อยู่สถานเด็กกำพร้าที่ใกลจากบ้านเกิดของผมมาก พออายุย่างหกปีก็มีครอบครัวครอบครัวนึงรับผมไปเลี้ยงตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้มีครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ แต่ชีวิตของผมมันก็เหมือนโดนสาบตลอดเวลาที่อยู่ในครอบครัวนี้มาห้าปีก็โดนลูกชายสองคนของครอบครัวนั้นคอยกลั่นแกล้งแต่ผมก็ทนมาตลอดจนครั้งนั้นที่มัน..
“จินฮวานอ่า..”
ไอ้พี่คนโตที่เป็นหัวหน้าคอยแกล้งผมเดินเข้ามาในห้องขณะที่ผมกำลังทำการบ้านที่พึ่งได้มาวันนี้อย่างขยันขันแข็งแต่เสียงที่ดังขึ้นเมื่อกี้ก็ทำให้ผมตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนอะไรมากนักเพราะผมก็แค่คิดว่า จะมาแกล้งอีกแล้วสินะ
สิ่งที่ผมทำได้คือแค่นั่งอยู่เฉยๆทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปซะ
“พี่ไม่ได้มาแกล้งน้องนะ วันนี้แค่อยากจะมาขอโทษ”
ผมหยุดชะงักสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าแล้วหันไปมองด้วยหางตาแล้วเอ่ยเสียงเบาตามประสาคนที่ไม่สนิทเลยซักนิด
“อะไร? ผีเข้าหรือไง?”
ผมพูดแล้วลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับ ‘ซงมิโน’ คนที่ผมอธิบายความจังไ..ของมันที่มันเป็นหัวโจกคอยแกล้งผมทั้งที่บ้านและทุกที่ที่ผมกับมันไปเจอกันโดยบังเอิญ(?)
มันทำหน้าหยั่งกับหมาโดนสาดน้ำแล้วเดินเข้ามาจนเท้าเกือบจะยื่นเข้ามาในห้องจนผมต้องรีบไปถีบออกอย่างรวดเร็ว
“อย่าคิดว่าจะเอาตีนสกปรกๆ ของมึงเข้ามาในห้องกู”
มันแสยะยิ้มพร้อมหัวเราะออกมาเหมือนคนที่สมเพชใครอีกคนนึงก่อนจะเงยหน้าขึ้น.. แล้วปั้นหน้าให้กลายเป็นหมาหงอยเหมือนเดิม แม่งตอแ..ล
“ก็ได้ๆ พี่ไม่เข้าไปก็ได้แต่วันนี้พี่จะมาขอโทษที่ทำไม่ดีกับน้องจินฮวานมาตลอด”
ปั้นเสียงให้ดูเหมือนคนสำนึกผิดเท่าที่น้ำหน้าแบบมันจะทำได้แล้วมองผมด้วยสายตารู้สึกผิดแต่ผมมองแค่แวบเดียวก็รู้ ‘เสแสร้ง’
“จะพูดเหี้.. ไรก็พูดกูรีบ เสียเวลา..”
พูดก่อนจะกอดอกหลวมๆ แล้วจ้องอย่างคาดคั้นว่ามันต้องการอะไรในวันนี้อีก..
“ก็อย่างที่พูดพี่อยากมาขอโทษน่ะ ไปที่ห้องพี่หน่อยสิ พี่มีอะไรจะให้.. ถือว่าเป็นของขวัญไถ่โทษแล้วกันนะ”
“มึงยังคิดว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมามึงยังจะขอให้กูให้อภัยมึงอีกหรอ? ทั้งเอาน้ำเยี่ยวสาดกู ทั้งยังไปบอกที่โรงเรียนกูว่ากูมันเด็กกำพร้า มึงรู้มั้ยว่าตอนนี้กูโดนเหี้.. อะไรบ้าง? มึงรู้มั้ย!?”
ผมตะโกนใส่มันเต็มเสียงพอที่จะได้ยินไปถึงข้างล่างได้แล้วกลับมาทำเสียงปกติเหมือนเดิม..
“นั้นแหละพี่เลยอยากขอให้น้องจินฮวานมาที่ห้องพี่ไง..”
มันพูดออกมาอีกครั้งเหมือนไม่สะท้านกับคำด่าและเสียงตะโกนเมื่อกี้เลยซักนิด มึงมันเชี่.. เกินกว่าที่กูจะสรรหาคำมาด่าจริงๆ
“กูไม่ไป..”
ผมพูดออกไปและทำท่าจะปิดประตูใส่หน้ามันแต่กลับโดนมันดันประตูไว้ก่อนแล้ว ‘ไอ้ซึงฮุน’ เป็นน้องของมิโนก็เดินออกมาจากข้างๆ แล้วยิ้มเยาะ..
“งั้นก็ให้ของขวัญอยู่นี้แล้วกันเนอะพี่ชาย”
มันหันไปพูดกับพี่ชายของมันก่อนจะหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่สายตาที่มันมองมันไม่ใช่สายตาที่คนธรรมดามองกัน ผมรู้แล้วว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับผมจากนาทีนี้ไป..
ผมพยามเอามือของไอ้มิโนออกเพื่อที่จะได้ปิดประตูและล็อคห้องเพื่อความปลอดภัยของตัวเองแต่มันก็สายไปเสียแล้ว..
“ได้เลยไอ้น้องชาย”
ไอ้มิโนดันผมให้เข้าไปในห้องและตามด้วยไอ้ซึงฮุนที่ตามมาปิดประตูและล็อคห้องอย่างรู้งานของมันก่อนจะเดินเข้ามาสมทบอีกคน ผมโดนไอ้มิโนผลักลงกับเตียงแล้วมันก็ขึ้นมาคร่อมผมไว้
“ปล่อยกูนะ!”
“ใครจะไปปล่อยง่ายๆวะ.. ไอ้ฮุนถอดดิ”
“ครับพี่ชาย..”
และวันนั้นใช่..ผมโดนข่มขืน..
ใครมันจะไปคิดว่าจะโดนแกล้งไม่ใช่สิ.. โดนลงแขกในห้องของตัวเองแถมห้องที่ตัวเองอยู่ก็อยู่ใต้ห้องของพ่อและแม่บุญธรรมอีก..
พอเช้าวันถัดมาผมตื่นด้วยเวลาเช้าตรู่ ผมลุกขึ้นจากเตียงและเท่านั้นแหละผมก็ลงไปกองกับพื้นห้องอย่างรวดเร็ว เหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สะโพกปวดร้าวเหมือนโดนมีดเฉือน
ไอ้พวกเหี้..
ผมตัดสินใจใช้กำลังทั้งหมดเพื่อลุกขึ้นต่อสู้กับความปวดร้าวของตัวเองแล้วไปอาบน้ำก่อนจะเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดในห้อง ของใช้ทั้งหมดที่มีอยู่ในห้องก็ยัดเข้าไปในเป้สองใบก่อนจะเขียนโน้ต
แปะไว้ในห้อง..
‘พ่อแม่ครับผมจะออกจากที่นี้แล้ว ขอบคุณที่เลี้ยงผมจนผมโตมาจนถึงขนาดนี้พวกท่านช่างดีกับผมเหลือเกิน ผมสัญญาว่าผมจะกลับมาตอบแทนบุณคุณของท่านทั้งสองแน่นอน.. และฝากบอกลูกชายของท่านทั้งสองด้วยว่า อย่าไปทำพฤติกรรมจังไรแบบนี้กับใครอีก ลาก่อนครับ
ด้วยรักจาก คิมจินฮวาน’
และการต่อสู้กับชีวิตที่โหดร้ายของผมก็ได้เริ่มขึ้น..
แต่ตอนนี้ผมก็เกือบจะประสบความสำเร็จแล้วตอนนี้ผมได้งานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ผับดังแห่งหนึ่ง ผมอยู่คนเดียวมาตลอดจนถึงวันนี้..
“จากนี้มึงต้องมาเป็นแฟนกูจนกว่ากูจะบอกเลิกมึงเอง”
ผมรู้ได้แน่นอนเลยว่านี้คือ ‘คิมฮันบิน’ ลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยที่ผมกำลังเรียนอยู๋และเป็นหัวโจกของแก๊งอันธพาลอันดับหนึ่งในมหาวิทยาลัยชื่อดัง..
ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี้ นี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมผมถึงโดนอันธพาลกอด แล้วทำไมกูถึงโดนหอมแล้วทำไมกูต้องหน้าแดงด้วยวะ..
ผมกำลังจะอ้าปากเถียงสิ่งที่ไอ้หน้าหล่อนี้พูดออกมาแต่ก็โดนมันขัดคอกับประโยคที่ใครใครได้ยินก็คงจะคิดเหมือนผม
“เป็นคำสั่งของลูกเจ้าของมหาลัยนะครับ”
บ้าอำนาจ..
ผมวิ่งออกมาเพราะตกใจมากกับการกระทำทั้งหมดของคนตรงหน้าและเพื่อนของฮันบินจนต้องวิ่งออกมาจากกลุ่มแล้วเข้ามาในห้องล็อกเกอรก่อนจะเก็บของทั้งหมดออกจากล็อกเกอรแล้ววิ่งออกมาแบบรวดเร็วแต่ก็โดนคนที่พึ่งหอมแก้มผมมาดักหน้าห้อง
“จะไปไหนล่ะครับ? ไม่รอกลับบ้านพร้อมแฟนล่ะครับ?”
มันพูดแบบไม่สนฟ้าดินแล้วยิ้มกว้างแบบเด็กๆ เหอะ.. นี้หรอลูกอธิการบดีคิมแจคัง เด็กชะมัด..
“ไม่เป็นไรหอกครับ.. ผมขอตัวนะครับ”
โค้งตัวเก้าสิบองศาอีกครั้งแล้วเบียดตัวออกมาจากคนที่ขวางประตูอยู่แต่ก็โดนจับตัวไว้อีกครั้ง
“กลับกับผมแล้วกันนะครับ.. เดี๋ยวผมไปส่ง”
พูดแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงมันดึงกระชากรากถูผมจนมาถึงหน้าผันก่อนจะหยิบดุญแจรถก่อนจะปลดล็อครถจากัวร์ราคาแพงอย่างเร็วและเปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ.. ผมกลับเองได้ อย่าลำบากเลย..”
คิมฮันบินดึงตัวผมให้เข้าไปในที่นั่งข้างคนขับแล้วตัวเองก็เดินไปที่นั่งคนขับทันที..
“เอาน่า.. ถือว่าแฟนทำให้แล้วกันนะครับ”
“แต่ผมไม่ใช่แฟนคุณนะ อีกอย่างผมก็ไม่อยากเป็นแฟนคุณด้วย..”
ท่อนหลังผมพูดเสียงเบาหวิวแล้วเมินหน้าไปอีกทางอย่างกลัวคนข้างหน้าจะด่าผมเหมือนที่ทำตอนนั้น..
“งั้นผมจะรอนะครับ..”
“ฮะ? รอ?”
หัวคิ้วทั้งสองข้างที่ตอนนี้อยู่ติดกันจนจะผสมรวมกันอยู่แล้วเพราะประโยคของคนข้างๆ
“ผมจะรอคุณตอบตกลงผม”
ประโยคข้างต้นทำให้ผมหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ อะไรกันเล่า.. เจอกันครั้งแรกก็ขอเป็นแฟนแล้ว มันไม่เร็วไปหน่อยหรือไงเล่า..
“ลืมเรื่องนั้นไปก่อนเถอะครับ.. ผมขอเบอร์หน่อยได้มั้ย?”
ผมหันไปหาคนด้านข้างอีกครั้งก่อนจะอ้าปากปฏิเสธแต่คนที่ผมกำลังปฏิเสธก็ดันดึงโทรศัพท์ผมออกไปจากมือแล้วกดเบอร์นึงอย่างรวดเร็วแล้วโทรออกก่อนที่โทรศัพท์ของฮันบินจะดังขึ้น ทำให้รู้ได้เลยว่าฮันบินเอาเบอร์ของผมไปเรียบร้อยแล้ว
“นี้มันขอหรอ?”
พูดออกไปอย่างลืมตัวแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง
“ขอโทษแล้วกันๆ งั้นผมจะไม่โทรไปกวนแล้วกันนะครับ”
ฮันบินพูดขึ้นก่อนจะยิ้มแอคแทคละลายหัวใจสาวๆไปอีกครั้งแล้วสตารท์รถก่อนจะขับออกมาจากลานจอดรถทันที
ระหว่างทางไม่มีเสียงสนทนาใดๆ มีแค่เสียงแอร์ที่ทำงานให้ความเย็นในรถอย่างดีเยี่ยมและเสียงบอกทางกลับบ้านของผมแค่นั้น แต่สองอย่างนี้มันไม่พอที่จะทำให้ไอ้ความอึดอัดของผมจางหายไปมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ให้ตาย.. ไม่น่าหลวมตัวเลยจริงๆ
และในที่สุด..
“ข้างหน้านี้แหละเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว..”
ฮันบินพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบแล้วเลี้ยวขวาตรงซอยข้างหน้าตามที่ผมบอกแล้วก็มาจอดหน้าหอผมตามเป้าหมาย อึดอัดจ๋า บายน่า คิคิ
“ขอบคุณมากครับที่มาส่ง..”
ผมพยักหน้าลงเบาๆ เพราะพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับการโค้งเก้าสิบองศาที่ทำอยู่เป็นประจำ
ยื่นมือไปตรงที่ดึงหวังจะเปิดออกและเดินเข้าหอไปแบบเร็วๆ แต่ก็โดนมือปลาหมึกเข้ามาแทนที่เป้าหมายและนั้นก็พอที่จะทำให้ผมตกใจและหันไปหาอีกคนได้แต่ผมคงจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่เพราะตอนนี้หน้าของผมกับหน้าของรุ่นพี่ฮันบินห่างกันแค่ลมหายใจกลั้น
ปากได้รูปสีธรรมชาติน่าสัมผัสกำลังเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ จนประกบเข้ากับปากของผมอย่างจัง
ทำไมผมถึงไม่ขัดขืน? ทำไมกันนะ?..
ไม่ถึงนาทีผมก็เป็นฝ่ายผละออกและรีบเปิดประตูเดินออกมาจากเขตอันตรายอย่างรวดเร็ว
โค้งให้คนที่เป็นต้นเหตุแค่สี่สิบห้าองศาก่อนจะวิ่งเข้ามาในหอ
“หัวใจบ้าทำไมต้องเต้นแรงด้วยนะ..”
END KIMJINHWAN PART:
หลังจากวันนั้นคิมฮันบินก็เปลี่ยนไปจากคิมฮันบินที่เย็นชา ไม่แยแสใคร บ้าอำนาจ วางท่า
ก็กลับกลายเป็นคิมฉํนบินผู้อ่อนโยน ไม่ใช่แค่นั้นคิมจินฮวานผู้ที่เป็นคนเปลี่ยนเสือให้กลายกระต่ายก็โดนกระต่ายคิมมารับมาส่งทุกวันและโดนทำดีด้วยจนวันนึง..
“คิมฮันบินอ่า.. เค้ารู้คำตอบของการรอของฮันแล้วนะ”
คิมฮันบินที่กำลังเพลิดเพลินกับการนั่งดูทีวีในห้องของจินฮวานหยุดชะงักเหมือนมีคนมากดปุ่ม Pause ในหัวของฮันบินคิดแค่ว่า จะเลิกเป็นพี่น้องกัน จะฏิเสธเราใช่มั้ย?..
“คบกันก็ได้..”
และหลังจากคำนั้นสองคิมก็มีความสุขด้วยกันมาจนถึงวันหนึ่งที่เขาทั้งคู่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น..
2 ปีต่อมา..
“ฮันบินอ่า! ไปทะเลกัน ผมอยากไปป ><”
จินฮวานที่วิ่งเข้ามากอดแขนของฮันบินที่ตอนนี้ก็เรียนจบแล้วส่วนจินฮวานก็เหลือปีสุดท้ายในการศึกษา พวกเขาทั้งสองดูเหมือนกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันแต่หารู้ไม่ว่าทั้งคู่คบกันมาจนเจ้าบ่าวจะได้ไปสู่ขอเจ้าสาวอยู่แล้ว..
ฮันบินยิ้มแล้วลูบหัวเด็กน้อยที่ขี้อ้อนมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่าแต่ก่อนก็ขี้อ้อนอยู่เหมือนกันแต่ก็ติดตรงที่ว่าอายเขินไม่กล้าทำอะไรแบบนั้น แต่ดูตอนนี้นี้ยิ่งกว่าลูกแมวอีกนะ อ้อนได้อ้อนดีเดี๋ยวพ่อจับกินทั้งตัวเลยคอยดู -. –
“ใกล้สอบแล้วนะเรา.. ไปเที่ยวเล่นเดี๋ยวก็ได้เรียนซ้ำหรอก”
ฮันบินพูดพร้อมโยกหัวเด็กน้อยไปมาราวกับพ่อสอนลูก เรียกใบหน้าบึ้งๆของเด็กน้อยคิมจินฮวานได้เป็นอย่างดี..
“น่า.. ฮันบินฮยองน่า ถ้าพาไปเดี๋ยวเค้ามีโปรโมชั่นนวดหลังให้เลย! เอาป่าวว ของดีๆ ไม่ได้มีมาให้ได้ง่ายๆ นะคร้าบบ ขอบอกก”
เสียงอ้อนหวานๆ ของเด็กน้อยทำให้คิมฮันบินนึกสนุกอยากแกล้งคนตัวเล็กขึ้นมาซะอย่างงั้น..
“เปลี่ยนเป็นนวดอย่างอื่นได้ป่าวครับ..”
พูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนขี้อ้อนจนได้หน้าแดงๆกลับมาเป็นรางวัลทันที น่ารักซะ..
“ไอ้บ้า! ลามกที่สุด วันๆจะคิดแต่เรื่องนี้ช้ะ?”
“ก็คิดอยู่กับคนเดียวแหละ”
“ย๊า! ไปเลย โกรธแล่ว ง้อด้วยยย”
เด็กน้อยผละออกจากอ้อมกอดแล้วกันหน้าไปอีกทางกอดอกแน่นเหมือนผู้หญิงเมนส์มาไม่ปกติ(?) ฮันบินเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับถือบัตรบางอย่างออกมาแล้วเข้าไปสวมกอดเด็กน้อยจากข้างหลังแล้วยื่นบัตรนั้นขึ้นมาตรงหน้าเด็กน้อย..
“งั้นเค้าง้อด้วยนี้ได้ป่าวอะ?”
บัตรทองวีไอพีของรีสอรท์ห้าดาวริมทะเลทำให้เด็กน้อยที่เมื่อกี้หน้าบึ้งเหมือนตูดตอนนี้ยิ้มแก้มแถวฉีกแล้วหันมากอดแฟนผู้น่ารักอย่างแน่น
“ไปพรุ่งนี้เลยนะๆๆ ><”
“ครับเมีย”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง..
“เย้! ทะเลลลล!”
เสียงของคนอายุยี่สิบที่เหมือนเด็กน้อยอายุสองขวบดังขึ้นเสียงดังก้องไปทั่วเกาะตามด้วยสายตาของคนทั่วเกาะที่มีไม่มากเพราะมีแต่พวกคนรวยมากถึงมากที่สุดที่จะได้มาเหยียบเกาะนี้ ซึ่งสายตาที่มองเด็กน้อยคิมจินฮวานก็คือสายตาที่มองเด็กโวยวายคนหนึ่ง
“ชู่ว..อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวก็โดนคนยิงหรอก..”
ประโยคข้างต้นเรียกหน้าเหวอของคนที่เพิ่งร่าเริงได้อย่างเร็ว
“เห้ยๆ ทำไมอ่ะ? ขนาดนั้นเลยหรอ?”
“แน่นอนดิ.. พวกคนรวยสมัยนี้มีแต่จะรำคาญพวกที่ไม่สบอารมณ์แล้วสั่งฆ่าทิ้งให้ตัวเองไม่รำคาญใจ เป็นสังคมคนรวยช่างน่าขยะแขยงสิ้นดี”
“เอาน่าๆ ไปกันเหอะจองห้องไว้แล้วนี้ ป่ะๆ”
เด็กน้อยลากคนแก่ให้เข้าไปในโรงแรมที่จองไว้ ห้องที่ฮันบินจองไว้คือห้องวีไอพีสุดหรูที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมห้าดาว เด็กน้อยจินฮวานวิ่งเข้าหาเตียงนอนคิงไซส์อย่างรวดเร็ว
“ฮ่า.. สบายจุงเบยย”
คิมจินฮวานดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนเตียงซักพักก็เหนื่อยจนอยู่นิ่งๆ แล้วนั้นก็เป็นโอกาสทองของเสือที่จะได้ตะครุบกวางน้อยได้อย่างไม่มีปัญหา และเสือก็กระโจนทับกวางน้อยทันที
“ย๊า! ออกไปเลยนะ จะไปเล่นน้ำแล้วว”
“ขอรอบนึงนะ..”
“ไอ้บ้าไม่เอา อื้อ..”
และเสือก็ได้กินกวางสมใจอยาก..
“เห็นมั้ยยยยยยย! ไม่ได้ไปเล่นทะเลเลย TT^TT”
จินฮวานทุบแขนฮันบินเป็นว่าเล่นเพราะตั้งแต่เข้ามาที่นี้ถึงตอนนี้ก็อยู่บนห้องด้วยกันตลอดจนเวลาเลยจนถึงค่ำ ให้ตายเหอะ! ไม่น่ายอมมันเล้ย TT^TT คิมจินฮวานเสียใจ .______.
“อ่ะๆๆ ยอมแล้ว งั้นไปเล่นทะเลกลางคืนกัน ที่นี้กลางคืนสวยมากนะเว้ย”
“จริง? งั้นไป นาวๆ”
และผมก็โดนลากอีกรอบคือตอนนี้แขนแทบขาดแล้ว - - จินฮวานลากผมมาที่ทะเลยามค่ำคืนที่ไม่มีแม้แต่หมาซักตัวอยู่ แต่มีแค่ทะเลที่กลายเป็นสีดำเพราะฝีมือของแสงกลางคืน และดวงดาวเต็มท้องฟ้า..
“สวยจริงๆด้วย! มาแบบนี้อีกนะๆ”
“ค้าบบ ไปเล่นสิเดี๋ยวรออยู่นี้แหละ”
“ไม่อาวว มาเล่นด้วยกัน!!”
อ่ะ ดึงเข้าไปดึงให้แขนมันขาดเลยก็ได้นะเด็กน้อย -.-
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่ค่อยสบายอ่ะ เดี๋ยวจะดูอยู่ตรงนี้แหละโอเคมั้ย?”
“ถ้าพูดงั้นก็ อื้อ!”
เด็กน้อยที่ปล่อยมือจากแขนของแฟนแล้ววิ่งเข้าหาทะเลสวยงามกว้างใหญ่..
“สนุกจังเลยยย”
เสียงเย้ยของคิมจินฮวานที่ลงไปเล่นในน้ำที่ตื้นเท่าเข่าดังขึ้มาเหมือนจะเยาะคนบนฝั่งให้ลงมาเล่นด้วยกัน
“เชิญ..”
เสียงอ่อยของผมที่เกิดเพราะความอ่อนเพลียเพราะเมื่อตอนเที่ยงทำให้เขาต้องการจะเพิ่มความตาสว่างด้วยการนอนสักงีบ..
“ฮันบินอ่า! คิมฮันบิน!! ฉันรักนายนะ!!!!”
และนั้นก็เป็นเสียงสุดท้ายที่คิมฮันบินได้ยิน..
แสงยามเช้าที่ส่องเข้ามากระทบม่านตาทำให้ผมลุกขึ้นและมองหาเด็กน้อยของผมที่ไปเล่นทะเลตอนกลางคืน เห้ย! นี้ผมหลับ!!?
“จินฮวานอ่า!!”
ผมเอาแต่ร้องเรียกจินฮวานไปทั่วหาดแต่ก็ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับของใครแม้สักคน น้ำตาที่เริ่มไหลรินออกมาจากดวงตาที่แห้งเหือด จินฮวานหายไปไหน?
และผมก็ได้รู้เมื่อแจ้งตำรวจและในที่สุดผมก็ได้เจอเขาในสภาพที่ไม่ใช่คน..
“จินฮวานอ่า!! ทำไมนายทิ้งฉันไปแบบนี้!!”
“ฉันยังไม่ได้บอกเลิกนายเลยนะ!! ขี้โกงที่สุด..”
ผมเอาแต่ตร่ำครวญและเรียกหาแต่คนรักที่จากไปเพราะความสะเพร่าของตัวเอง ถ้าผมไม่ยอมให้มาทะเลล่ะก็.. ถ้าผมไม่ยอมพามาเที่ยวทะเลล่ะก็.. ถ้าผมไม่ทำแบบนั้น..
“ย๊า! อะไรของมึงอีกเนี่ยฮะแก่จนจะตายยังจะมาแช่งให้กูไปตายอีก”
“แหมขอแต่งหน่อยไม่ได้หรอครับเมีย นิดเดียวนะๆ”
“ไม่เว้ยยยยยย!”
เสียงเจี้ยวจ้าวของผู้ชายสองคนในบ้านหลังเล็กที่คงจะเป็นที่คุ้นหูและคุ้นตาไปซะแล้วสำหรับคนใกล้บ้านเคียงกัน ‘คิมฮันบิน’ นักเขียนผู้โด่งดังในผลงานที่โดดเด่นของเขาและ ‘คิมจินฮวาน’ ศิลปินวาดภาพมือฉมังที่เป็นที่รู้จักด้วยผลงานอันทรงคุณค่าและเป็นคู่รักศิลปินที่โด่งดังอีกเช่นกัน คิมฮันบินชอบที่จะเขียนเรื่องราวและแต่งเรื่องราวของพวกเราขึ้นมา.. ส่วนคิมจินฮวานก็ชอบวาดเรื่องราวและแต่งเรื่องราวของพวกเราขึ้นมา.. และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา..
END(?)
ความคิดเห็น