คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Devil I : เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ (จะลงทันฑ์แกเอง (??))
Devil I : เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ (จะลงทัณฑ์แกเอง (??))
ตั้งแต่ประกอบอาชีพนักล่ารับจ้างมา นี่เป็นครั้งแรกที่ ‘เซเบอร์ซีแลค’ หรือ ‘เซบ’ ต้องมานั่งกลุ้มกุมขมับอยู่หน้าบ้านเพื่อนที่รู้จักอยู่เพียงไม่กี่คน...
จะว่ายังไงดี? ปกติเขามักจะทำงานคนเดียวเสมอ ไม่ว่างานนั้นจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหนเขาก็มักจะผ่านมันไปได้ด้วยตัวเอง แม้จะทุลักทุเลไปบ้างก็เถอะ แล้วนี่อยู่ๆก็โดนบอกว่างานนี้เขาทำตัวคนเดียวไม่ได้แน่ๆแบบนี้เขาควรจะรู้สึกยังไง?
โกรธ? ไม่ เข้าไม่โกรธเลยซักกะนิด
ด้อยค่า?? นั่นยิ่งแล้วใหญ่ เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้ไร้ค่าอะไรขนาดนั้น
โดนเหยียดหยาม??? ก็ไม่อีกนั่นล่ะ เขาไม่ค่อยจะสนใจคำพูดดูถูกเหยียดหยามอะไรพรรค์นั้นอยู่แล้ว เจอทีก็ปล่อยให้มันลอยผ่านหูตลอด
แต่ที่ตอนนี้เขารู้สึกน่ะ...
กลุ้มใจต่างหาก!!!
เอาง่ายๆเลย อย่างเจ้าของบ้านหลังตรงหน้าเขานี่ก็ไม่ใช่ปีศาจพื้นๆ...ไม่สิ ไม่รู้ว่าจะนับเป็นปีศาจหรือมนุษย์ต่างดาวดีด้วย แล้วยังมีนิสัยของเจ้าหล่อนที่ถึงเขาจะพอรับได้แต่ก็...นะ...
“อ้าวเซบ!!! มาหาข้าถึงบ้านเลย มีอะไรล่ะเนี่ย? หรือว่าเจ้าคิดถึงข้า?? เอ...แต่อย่างเจ้าน่าจะแค่ผ่านมามากกว่ามั้ง...ไม่สิๆ เจ้าต้องตั้งใจมาหาข้าแน่ ว่าแต่ มีอะไรเหรอ?”
“...”
“เซบ??”
“เอ่อ...จะว่าไงดี...ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหม?”
“เอาสิ เชิญเลยๆ” หญิงสาวเอ่ยทั้งรอยยิ้มก่อนจะหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปด้านในบ้าน
หญิงสาวปิดประตูตาม แต่เมื่อเห็นว่าเซบยังคงยืนอยู่ตรงโถงทางเข้าเธอก็หันมาดันหลังเขา “เอ้าๆ! เข้าไปนั่งสิ! มายืนอะไรตรงนี้เล่า!?”
“โอเคๆ ไม่ต้องผลักข้าก็ได้น่า วิเวียน”
‘วิเวียน’ เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ที่มีสายเลือดประกาศิต ออกคำสั่งต่อเหล่าแมลงที่มีความฉลาดในระดับหนึ่งได้ แต่เหมือนเจ้าหล่อนจะชอบออกคำสั่งกับพวกผึ้งเป็นพิเศษน่ะนะ...
“แล้วสรุปว่าเจ้ามีอะไรถึงมาหาข้าล่ะ??”
หลังจากจัดการกดร่างของเพื่อนให้นั่งลงที่เก้าอี้ได้สำเร็จ วิเวียนก็เดินอ้อมไปทางเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ตรงข้ามกันแล้วหย่อนก้นลงนั่งไขว่ห้างอย่างเคยชิน
“ข้าอยากให้เจ้ามาด้วยกันหน่อย...”
“หา? จะขอข้าแต่งงานเหรอ!!? ไม่เอาน่าเซบ! ข้ามีคู่หมั้นรออยู่ที่ดวงจันทร์อยู่แล้วนะ!!!”
เอ้า...ไปกันใหญ่ล่ะ ฟังอีท่าไหนเป็นขอแต่งงานเนี่ย? ความมโนของวิเวียนสูงเกินไปหรือว่าเขาตามความคิดเจ้าหล่อนไม่ทันกันแน่??
“ใช่ที่ไหนเล่า!! หัดฟังที่คนอื่นเขาพูดให้จบก่อนเซ่!!!” พูดจบก็จัดการฟาดสันมือลงบนหัวอีกฝ่ายไปที
“โหดร้ายที่สุด...มาทำกับเจ้าหญิงแบบข้าได้ไง...”
เป็นคำบ่นจากปากของเจ้าหญิงที่ชอบทารุณกรรมสัตว์เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้หลังจากลากอีกฝ่ายออกมาจากบ้านโดยไม่ถามความสมัครใจของเจ้าตัว ทำให้เซบอดไม่ได้ที่จะทำตาปะหลับปะเหลือก
ขอย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่เซบจัดการเฉาะหัววิเวียนไปทีหนึ่งก็ลากเธอออกมาจากบ้านโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำ กะว่าไว้ค่อยอธิบายกันกลางทาง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสให้ได้อธิบายสักทีเพราะเสียงแหลมๆที่มาแว้ดๆอยู่ข้างหูจนเขาเกือบเดินผิดทางไปหลายรอบที่จนป่านนี้ก็ยังไม่หยุด....
แต่ก็นะ เขาจะยังคงทนต่อไป...
“แล้วสรุปว่าเจ้ามีอะไรกันแน่เนี่ย?”
“ข้าได้งานใหม่มา”
“แล้วงานใหม่เจ้าเกี่ยวอะไรกับข้า?? ปกติเจ้าไม่เห็นจะเคยมาขอให้ใครช่วยเวลามีเรื่องเกี่ยวกับงานเลยนี่??”
“ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ผู้ว่าจ้างบอกว่าถ้าไม่อยากตายก่อนจะทำงานนี้เสร็จให้หาเพื่อนร่วมทีมไปด้วย แล้วข้าจะทำยังไงได้ล่ะ?”
“เห...นี่เจ้ากลัวตายเหรอเนี่ยเซบ~”
“ใครๆก็กลัวตายกันทั้งนั้นแหละ อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่กลัวน่ะ?” ถามพลางปรายตามองวิเวียนที่เบือนหน้าไปอีกทางแล้วยักไหล่
หลังจากนั้นก็เกิดปรากฏการณ์วิเวียนทอร์คที่เซบขอแนะนำว่าให้ฟังแค่ผ่านๆหูก็พอ เพราะมันไร้สาระ...
“นี่นะรู้ป่ะ ป้าข้างๆบ้านข้านะทะเลาะกับสามีอีกแล้วล่ะ แถมยังให้แมวบ้านตัวเองมาคลอดลูกบ้านข้าด้วย ฮึ่ย! พูดแล้วของขึ้น!! ถ้าไม่เห็นว่าลูกแมวตัวนั้นน่ารักนะ ข้าจะเอาไปปาคืนบ้านป้าแกเลย!!”
“สรุปว่าเจ้าก็เลี้ยงไม่ใช่หรือไง...”
“ก็เพราะว่ามันน่ารักไงล่ะ!!!”
“...”
บทสนทนาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเท่านั้น และกว่าเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซนต์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิเวียนทั้งนั้นที่พูด
เซบว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนพูดน้อยอะไรนะ แต่พอมาเจอวิเวียนทีนี่เขากลายเป็นคนพูดน้อยไปเลย...
“แล้วนี่จะไปหาใครต่อ?”
“ห...ฮะ?...เอ่อ...”
หลังจากที่พูดอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระมานาน อยู่ๆวิเวียนก็ดันวกกลับมาเข้าเรื่องที่เป็นชิ้นเป็นอันจนเซบตามไม่ทัน ต้องใช้เวลาปรับสภาพสมองอยู่ครู่หนึ่งจึงได้ตอบออกไป
“คลาร่าละมั้ง”
“อ้อ...แล้วติดต่อนางไปหรือยัง??”
“ยัง ข้ากะว่าจะไปหานางที่รังมังกรเลย”
“เฮ้ๆ เจ้าน่าจะติดต่อไปก่อนนะ เผื่อว่านางจะติดภารกิจกับพ่อพัศดีสามีของนางไง”
“...ก็ได้...”
สุดท้ายเซบก็ต้องหยุดพักข้างทางจนได้ เขาเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วเคาะมันสองสามครั้ง เพียงไม่นานก็ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมานั่งอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ต้นนั้น
“ขอโทษที ช่วยติดต่อไปที่ ‘บาคลาร่า ดรากอส อันโตนิอุส’ หน่อยได้หรือเปล่า?”
“สักครู่”
หญิงสาวคนนั้นตอบสั้นๆแล้วหายเข้าไปในต้นไม้ อันที่จริงแล้วเธอคือนางไม้ประจำป่า ในแต่ละพื้นที่จะมีนางไม้อย่างน้อยหนึ่งตนคอยดูแล ขึ้นอยู่กับว่าพลังของนางไม้ตนนั้นจะมากน้อยขนาดไหน เมื่อก่อนพวกนางไม้จะมีหน้าที่เพียงคอยดูแลปกปักรักษาเขตพื้นที่ป่าของตนเอง แต่หลังจากที่สงครามโลกปีศาจสงบลงด้วยสนธิสัญญาระหว่างเผ่าพันธุ์ พวกนางไม้ก็ว่างขึ้นเรื่อยๆจนพวกเธอเบื่อเลยต้องหาอะไรทำ ด้วยการประกาศว่าพวกเธอจะคอยเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสาร ขอแค่เอ่ยชื่อและนามสกุลของผู้ที่ต้องการติดต่อให้ถูกต้อง พวกเธอก็สามารถติดต่อไปยังอีกฝ่ายได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่หลังจากที่คุยธุระเสร็จจะต้องจ่ายค่าบริการด้วยเหรียญทองแดงสองเหรียญก็แค่นั้น
จะว่าไปแล้ว เซบเองก็มีเพื่อนเป็นนางไม้อยู่ตนหนึ่งเหมือนกัน...
“โฮ่ย! เซบ!!!”
“ฮะ!?”
เซบที่เผลอตัวเหม่อไปหน่อยสะบัดหน้าควบไปทางวิเวียนที่สะกิดตัวเองยิกๆจนผมสีเงินของตัวเองสะบัดไปตามแรงหัน ก่อนจะได้เห็นวิเวียนทำปากจู๋ พยักพเยิดไปทางต้นไม้ที่เขาเข้าไปเคาะอยู่เมื่อครู่
แวร์วูฟหนุ่มเลิกคิ้วก่อนจะหันไปตามที่วิเวียนบอก ถึงได้เห็นว่าที่ลำต้นของต้นไม้ปรากฏภาพของหญิงสาวผมสีส้มกำลังมองมาทางพวกเขาอย่างงงๆ
“อ้าว สวัสดีคลาร่า...” เซบยกมือขึ้นทักตามแบบฉบับโดยพยายามไม่สนใจวิเวียนที่เดินมายืนอยู่ข้างๆตัวเอง แต่พอเห็นว่าวิเวียนทำท่าจะอ้าปากพูด เซบก็รีบชิงพูดเรื่องสำคัญเสียก่อน
“คลาร่า ช่วงนี้เจ้าว่างไหม??”
“ว่างสิ! ว่างมากกกกกกก” เสียงตอบดังออกมาจากภาพที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเวท “คาร์เซลไม่ให้ข้าไปทำอะไรเลยซักกะอย่างอ่ะ เบื่อสุดๆ แถมเขายังชอบหื่นใส่ข้าอยู่เรื่อย...”
พูดไปพลางก็ยกมือขึ้นมาขยับทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าใครสักคน
แวร์วูฟหนุ่มหัวเราะแห้งๆ จะพูดว่ายังไงดี เขาไม่ขอแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนิสัยสามีเพื่อนได้ไหม?
“เจ้าก็พูดไป! ข้าว่าสามีเจ้ามีเสน่ห์ออก!”
อืม...จะต่างจริงๆก็วิเวียนนี่แหละ...ชอบจังคาร์เซลคนนี้เนี่ย ทั้งๆที่ก็ไม่เคยเจอคาร์เซลเหมือนกัน มีแต่ติดต่อกับคลาร่าบ่อยๆ...แน่นอนว่าบ่อยกว่าเขาติดต่อกับคลาร่า แต่ดูเหมือนจะรู้จักคาร์เซลดีพอๆกับคลาร่าเลยล่ะ...
“มีเสน่ห์กับผีสิ! หมอนั่นทั้งหื่นทั้งซาดิสม์ ลองมาเจอตัวจริงก่อนเถอะ คำชมทั้งหมดหายเกลี้ยงชัวร์!!!”
“ขนาดนั้นเชียว?” วิเวียนอดไม่ได้ที่จะทำหน้าไม่เชื่อออกมา “เท่าที่ดูจากรูปที่เจ้าเคยให้ดูข้าว่าเขาหล่อนะ”
“...เออ...ไม่เถียงก็ได้...” พูดจบคลาร่าก็ทำปากยื่นเหมือนเด็กๆ จากนั้นก็หันกลับมาหาเซบ
“ว่าแต่...เซบ เจ้ามีอะไรหรือเปล่า??”
“มีแน่นอน” เซบพยักหน้า แอบรู้สึกดีใจนิดๆที่บทสนทนาของสองคนนี้ไม่ยืดเยื้อไปกว่านี้ “ข้าอยากขอให้เจ้าช่วยหน่อย”
“ให้ช่วยเหรอ? ได้อยู่แล้ว! หนูน้อยขอมาทั้งที!!!”
“...”
เซบที่ได้ยินคำเรียกของอีกฝ่ายถึงกับคิ้วกระตุก ถึงจะพยายามเผยยิ้มแต่ก็กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยวเหยเกเหมือนคนท้องผูกมาสักสิบวัน...
วิเวียนที่เห็นท่าทีนั้นของเซบแอบหลุดหัวเราะพรืด จากนั้นจึงรับหน้าที่พูดต่อให้
“พอดีว่าเซบได้งานใหม่มาอ่ะ”
“อ้าว? ก็ดีแล้วนี่? แล้วเกี่ยวอะไรกับที่จะให้ข้าช่วยล่ะ??”
“ก็ผู้ว่าจ้างที่หมอนี่รับงานมาบอกว่าถ้าไม่อยากตายระหว่างทำงานหาของสมเป็นหม...อุ๊ย! มนุษย์หมาป่าก็ให้หาเพื่อนมาร่วมเดินทางด้วยน่ะสิ~”
เซบที่จับคำพูดที่หลุดออกมาเพียงครึ่งเดียวได้ค้อนควบเข้าให้ แต่เมื่อเจอรอยยิ้มกลบเกลื่อนของวิเวียนเป็นเชิง ‘อะไรเหรอ? ข้าเปล่านะ’ ก็ทำได้เพียงถอนหายใจพรืดแล้วหันกลับมาหาคลาร่าอีกรอบ
“แล้วสรุปเจ้าจะเอาไง?”
“ตกลงอยู่แล้ว! ข้าจะได้ออกไปเที่ยวด้วย~” ว่าพลางยิ้มร่าจนเซบอดที่จะคิดไม่ได้ว่าสรุปนี่เขากำลังชวนเด็กไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือว่ากำลังขอให้เพื่อนร่วมเดินทางไปทำงานด้วยกันแน่??
B B
ความคิดเห็น