ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Devils เรื่องนี้ปีศาจครอง!

    ลำดับตอนที่ #3 : Devil I : เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ (จะลงทันฑ์แกเอง (??))

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 105
      2
      25 ก.พ. 58

    Devil I : เจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ (จะลงทัณฑ์แกเอง (??))

     

     ตั้งแต่ประกอบอาชีพนักล่ารับจ้างมา  นี่เป็นครั้งแรกที่ เซเบอร์ซีแลคหรือ เซบต้องมานั่งกลุ้มกุมขมับอยู่หน้าบ้านเพื่อนที่รู้จักอยู่เพียงไม่กี่คน...

    จะว่ายังไงดี?  ปกติเขามักจะทำงานคนเดียวเสมอ  ไม่ว่างานนั้นจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหนเขาก็มักจะผ่านมันไปได้ด้วยตัวเอง  แม้จะทุลักทุเลไปบ้างก็เถอะ  แล้วนี่อยู่ๆก็โดนบอกว่างานนี้เขาทำตัวคนเดียวไม่ได้แน่ๆแบบนี้เขาควรจะรู้สึกยังไง?

    โกรธ?  ไม่  เข้าไม่โกรธเลยซักกะนิด

    ด้อยค่า??  นั่นยิ่งแล้วใหญ่  เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้ไร้ค่าอะไรขนาดนั้น

    โดนเหยียดหยาม???  ก็ไม่อีกนั่นล่ะ  เขาไม่ค่อยจะสนใจคำพูดดูถูกเหยียดหยามอะไรพรรค์นั้นอยู่แล้ว  เจอทีก็ปล่อยให้มันลอยผ่านหูตลอด

    แต่ที่ตอนนี้เขารู้สึกน่ะ...

    กลุ้มใจต่างหาก!!!

    เอาง่ายๆเลย  อย่างเจ้าของบ้านหลังตรงหน้าเขานี่ก็ไม่ใช่ปีศาจพื้นๆ...ไม่สิ  ไม่รู้ว่าจะนับเป็นปีศาจหรือมนุษย์ต่างดาวดีด้วย  แล้วยังมีนิสัยของเจ้าหล่อนที่ถึงเขาจะพอรับได้แต่ก็...นะ...

    “อ้าวเซบ!!! มาหาข้าถึงบ้านเลย มีอะไรล่ะเนี่ย? หรือว่าเจ้าคิดถึงข้า?? เอ...แต่อย่างเจ้าน่าจะแค่ผ่านมามากกว่ามั้ง...ไม่สิๆ เจ้าต้องตั้งใจมาหาข้าแน่  ว่าแต่ มีอะไรเหรอ?”

    “...”

    “เซบ??”

    “เอ่อ...จะว่าไงดี...ขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหม?”

    “เอาสิ เชิญเลยๆ” หญิงสาวเอ่ยทั้งรอยยิ้มก่อนจะหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปด้านในบ้าน

    หญิงสาวปิดประตูตาม  แต่เมื่อเห็นว่าเซบยังคงยืนอยู่ตรงโถงทางเข้าเธอก็หันมาดันหลังเขา “เอ้าๆ! เข้าไปนั่งสิ! มายืนอะไรตรงนี้เล่า!?”

    “โอเคๆ  ไม่ต้องผลักข้าก็ได้น่า  วิเวียน”

    วิเวียนเจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์ที่มีสายเลือดประกาศิต  ออกคำสั่งต่อเหล่าแมลงที่มีความฉลาดในระดับหนึ่งได้  แต่เหมือนเจ้าหล่อนจะชอบออกคำสั่งกับพวกผึ้งเป็นพิเศษน่ะนะ...

    “แล้วสรุปว่าเจ้ามีอะไรถึงมาหาข้าล่ะ??”

    หลังจากจัดการกดร่างของเพื่อนให้นั่งลงที่เก้าอี้ได้สำเร็จ  วิเวียนก็เดินอ้อมไปทางเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ตรงข้ามกันแล้วหย่อนก้นลงนั่งไขว่ห้างอย่างเคยชิน

    “ข้าอยากให้เจ้ามาด้วยกันหน่อย...”

    “หา? จะขอข้าแต่งงานเหรอ!!? ไม่เอาน่าเซบ! ข้ามีคู่หมั้นรออยู่ที่ดวงจันทร์อยู่แล้วนะ!!!

    เอ้า...ไปกันใหญ่ล่ะ  ฟังอีท่าไหนเป็นขอแต่งงานเนี่ย?  ความมโนของวิเวียนสูงเกินไปหรือว่าเขาตามความคิดเจ้าหล่อนไม่ทันกันแน่??

    “ใช่ที่ไหนเล่า!! หัดฟังที่คนอื่นเขาพูดให้จบก่อนเซ่!!!”  พูดจบก็จัดการฟาดสันมือลงบนหัวอีกฝ่ายไปที

     

    “โหดร้ายที่สุด...มาทำกับเจ้าหญิงแบบข้าได้ไง...”

    เป็นคำบ่นจากปากของเจ้าหญิงที่ชอบทารุณกรรมสัตว์เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้หลังจากลากอีกฝ่ายออกมาจากบ้านโดยไม่ถามความสมัครใจของเจ้าตัว  ทำให้เซบอดไม่ได้ที่จะทำตาปะหลับปะเหลือก

    ขอย้อนกลับไปก่อนหน้านี้  หลังจากที่เซบจัดการเฉาะหัววิเวียนไปทีหนึ่งก็ลากเธอออกมาจากบ้านโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำ  กะว่าไว้ค่อยอธิบายกันกลางทาง  แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสให้ได้อธิบายสักทีเพราะเสียงแหลมๆที่มาแว้ดๆอยู่ข้างหูจนเขาเกือบเดินผิดทางไปหลายรอบที่จนป่านนี้ก็ยังไม่หยุด....

    แต่ก็นะ  เขาจะยังคงทนต่อไป...

    “แล้วสรุปว่าเจ้ามีอะไรกันแน่เนี่ย?”

    “ข้าได้งานใหม่มา”

    “แล้วงานใหม่เจ้าเกี่ยวอะไรกับข้า??  ปกติเจ้าไม่เห็นจะเคยมาขอให้ใครช่วยเวลามีเรื่องเกี่ยวกับงานเลยนี่??”

    “ก็ช่วยไม่ได้นี่นา  ผู้ว่าจ้างบอกว่าถ้าไม่อยากตายก่อนจะทำงานนี้เสร็จให้หาเพื่อนร่วมทีมไปด้วย  แล้วข้าจะทำยังไงได้ล่ะ?”

    “เห...นี่เจ้ากลัวตายเหรอเนี่ยเซบ~

    “ใครๆก็กลัวตายกันทั้งนั้นแหละ  อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่กลัวน่ะ?” ถามพลางปรายตามองวิเวียนที่เบือนหน้าไปอีกทางแล้วยักไหล่

    หลังจากนั้นก็เกิดปรากฏการณ์วิเวียนทอร์คที่เซบขอแนะนำว่าให้ฟังแค่ผ่านๆหูก็พอ  เพราะมันไร้สาระ...

    “นี่นะรู้ป่ะ  ป้าข้างๆบ้านข้านะทะเลาะกับสามีอีกแล้วล่ะ  แถมยังให้แมวบ้านตัวเองมาคลอดลูกบ้านข้าด้วย  ฮึ่ย! พูดแล้วของขึ้น!!  ถ้าไม่เห็นว่าลูกแมวตัวนั้นน่ารักนะ  ข้าจะเอาไปปาคืนบ้านป้าแกเลย!!

    “สรุปว่าเจ้าก็เลี้ยงไม่ใช่หรือไง...”

    “ก็เพราะว่ามันน่ารักไงล่ะ!!!

    “...”

    บทสนทนาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเท่านั้น  และกว่าเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซนต์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิเวียนทั้งนั้นที่พูด

    เซบว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนพูดน้อยอะไรนะ  แต่พอมาเจอวิเวียนทีนี่เขากลายเป็นคนพูดน้อยไปเลย...

    “แล้วนี่จะไปหาใครต่อ?”

    “ห...ฮะ?...เอ่อ...”

    หลังจากที่พูดอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระมานาน  อยู่ๆวิเวียนก็ดันวกกลับมาเข้าเรื่องที่เป็นชิ้นเป็นอันจนเซบตามไม่ทัน  ต้องใช้เวลาปรับสภาพสมองอยู่ครู่หนึ่งจึงได้ตอบออกไป

    “คลาร่าละมั้ง”

    “อ้อ...แล้วติดต่อนางไปหรือยัง??”

    “ยัง  ข้ากะว่าจะไปหานางที่รังมังกรเลย”

    “เฮ้ๆ  เจ้าน่าจะติดต่อไปก่อนนะ  เผื่อว่านางจะติดภารกิจกับพ่อพัศดีสามีของนางไง”

    “...ก็ได้...”

    สุดท้ายเซบก็ต้องหยุดพักข้างทางจนได้  เขาเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วเคาะมันสองสามครั้ง  เพียงไม่นานก็ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมานั่งอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ต้นนั้น

    “ขอโทษที  ช่วยติดต่อไปที่ บาคลาร่า  ดรากอส  อันโตนิอุสหน่อยได้หรือเปล่า?”

    “สักครู่”

    หญิงสาวคนนั้นตอบสั้นๆแล้วหายเข้าไปในต้นไม้  อันที่จริงแล้วเธอคือนางไม้ประจำป่า  ในแต่ละพื้นที่จะมีนางไม้อย่างน้อยหนึ่งตนคอยดูแล  ขึ้นอยู่กับว่าพลังของนางไม้ตนนั้นจะมากน้อยขนาดไหน  เมื่อก่อนพวกนางไม้จะมีหน้าที่เพียงคอยดูแลปกปักรักษาเขตพื้นที่ป่าของตนเอง  แต่หลังจากที่สงครามโลกปีศาจสงบลงด้วยสนธิสัญญาระหว่างเผ่าพันธุ์  พวกนางไม้ก็ว่างขึ้นเรื่อยๆจนพวกเธอเบื่อเลยต้องหาอะไรทำ  ด้วยการประกาศว่าพวกเธอจะคอยเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสาร  ขอแค่เอ่ยชื่อและนามสกุลของผู้ที่ต้องการติดต่อให้ถูกต้อง  พวกเธอก็สามารถติดต่อไปยังอีกฝ่ายได้ทั้งนั้น  ขอเพียงแค่หลังจากที่คุยธุระเสร็จจะต้องจ่ายค่าบริการด้วยเหรียญทองแดงสองเหรียญก็แค่นั้น

    จะว่าไปแล้ว  เซบเองก็มีเพื่อนเป็นนางไม้อยู่ตนหนึ่งเหมือนกัน...

    “โฮ่ย! เซบ!!!

    “ฮะ!?”

    เซบที่เผลอตัวเหม่อไปหน่อยสะบัดหน้าควบไปทางวิเวียนที่สะกิดตัวเองยิกๆจนผมสีเงินของตัวเองสะบัดไปตามแรงหัน  ก่อนจะได้เห็นวิเวียนทำปากจู๋  พยักพเยิดไปทางต้นไม้ที่เขาเข้าไปเคาะอยู่เมื่อครู่

    แวร์วูฟหนุ่มเลิกคิ้วก่อนจะหันไปตามที่วิเวียนบอก  ถึงได้เห็นว่าที่ลำต้นของต้นไม้ปรากฏภาพของหญิงสาวผมสีส้มกำลังมองมาทางพวกเขาอย่างงงๆ

    “อ้าว  สวัสดีคลาร่า...” เซบยกมือขึ้นทักตามแบบฉบับโดยพยายามไม่สนใจวิเวียนที่เดินมายืนอยู่ข้างๆตัวเอง  แต่พอเห็นว่าวิเวียนทำท่าจะอ้าปากพูด  เซบก็รีบชิงพูดเรื่องสำคัญเสียก่อน

    “คลาร่า  ช่วงนี้เจ้าว่างไหม??”

    “ว่างสิ!  ว่างมากกกกกกก” เสียงตอบดังออกมาจากภาพที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเวท “คาร์เซลไม่ให้ข้าไปทำอะไรเลยซักกะอย่างอ่ะ  เบื่อสุดๆ  แถมเขายังชอบหื่นใส่ข้าอยู่เรื่อย...”

    พูดไปพลางก็ยกมือขึ้นมาขยับทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าใครสักคน

    แวร์วูฟหนุ่มหัวเราะแห้งๆ  จะพูดว่ายังไงดี  เขาไม่ขอแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนิสัยสามีเพื่อนได้ไหม?

    “เจ้าก็พูดไป! ข้าว่าสามีเจ้ามีเสน่ห์ออก!

    อืม...จะต่างจริงๆก็วิเวียนนี่แหละ...ชอบจังคาร์เซลคนนี้เนี่ย  ทั้งๆที่ก็ไม่เคยเจอคาร์เซลเหมือนกัน  มีแต่ติดต่อกับคลาร่าบ่อยๆ...แน่นอนว่าบ่อยกว่าเขาติดต่อกับคลาร่า  แต่ดูเหมือนจะรู้จักคาร์เซลดีพอๆกับคลาร่าเลยล่ะ...

    “มีเสน่ห์กับผีสิ!  หมอนั่นทั้งหื่นทั้งซาดิสม์  ลองมาเจอตัวจริงก่อนเถอะ  คำชมทั้งหมดหายเกลี้ยงชัวร์!!!

    “ขนาดนั้นเชียว?” วิเวียนอดไม่ได้ที่จะทำหน้าไม่เชื่อออกมา “เท่าที่ดูจากรูปที่เจ้าเคยให้ดูข้าว่าเขาหล่อนะ”

    “...เออ...ไม่เถียงก็ได้...” พูดจบคลาร่าก็ทำปากยื่นเหมือนเด็กๆ  จากนั้นก็หันกลับมาหาเซบ

    “ว่าแต่...เซบ  เจ้ามีอะไรหรือเปล่า??”

    “มีแน่นอน” เซบพยักหน้า  แอบรู้สึกดีใจนิดๆที่บทสนทนาของสองคนนี้ไม่ยืดเยื้อไปกว่านี้ “ข้าอยากขอให้เจ้าช่วยหน่อย”

    “ให้ช่วยเหรอ?  ได้อยู่แล้ว! หนูน้อยขอมาทั้งที!!!

    “...”

    เซบที่ได้ยินคำเรียกของอีกฝ่ายถึงกับคิ้วกระตุก  ถึงจะพยายามเผยยิ้มแต่ก็กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยวเหยเกเหมือนคนท้องผูกมาสักสิบวัน...

    วิเวียนที่เห็นท่าทีนั้นของเซบแอบหลุดหัวเราะพรืด  จากนั้นจึงรับหน้าที่พูดต่อให้

    “พอดีว่าเซบได้งานใหม่มาอ่ะ”

    “อ้าว? ก็ดีแล้วนี่? แล้วเกี่ยวอะไรกับที่จะให้ข้าช่วยล่ะ??”

    “ก็ผู้ว่าจ้างที่หมอนี่รับงานมาบอกว่าถ้าไม่อยากตายระหว่างทำงานหาของสมเป็นหม...อุ๊ย! มนุษย์หมาป่าก็ให้หาเพื่อนมาร่วมเดินทางด้วยน่ะสิ~

    เซบที่จับคำพูดที่หลุดออกมาเพียงครึ่งเดียวได้ค้อนควบเข้าให้  แต่เมื่อเจอรอยยิ้มกลบเกลื่อนของวิเวียนเป็นเชิง อะไรเหรอ?  ข้าเปล่านะก็ทำได้เพียงถอนหายใจพรืดแล้วหันกลับมาหาคลาร่าอีกรอบ

    “แล้วสรุปเจ้าจะเอาไง?”

    “ตกลงอยู่แล้ว! ข้าจะได้ออกไปเที่ยวด้วย~” ว่าพลางยิ้มร่าจนเซบอดที่จะคิดไม่ได้ว่าสรุปนี่เขากำลังชวนเด็กไปเดินเล่นนอกบ้าน  หรือว่ากำลังขอให้เพื่อนร่วมเดินทางไปทำงานด้วยกันแน่??


    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×