คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : ซีน่า เซนซีเรียส (Xena Zenzerious)
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์พลังจิตสาย Astral Projection (การถอดจิต
โดยทิ้งร่างเปล่าไว้ และ ท่อง ไปในที่ที่ร่างกายไม่ได้ตามไปด้วย)
ชื่อ-นามสกุล : ซีน่า เซนซีเรียส (Xena Zenzerious)
ชื่อเล่น : ซีน / ซี
อายุ : 20 ปี
(อยู่ในคุกมาไม่ต่ำกว่าห้าปีแล้------)
เพศ : ชาย
ลักษณะภายนอก : ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเพรียว
ใบหน้าเรียวประดับด้วยนัยน์ตาสีทองเรียวคม จมูกโด่งสัน และคิ้วเรียวโก่งสวย
ริมฝีปากบางอิ่ม โดยรวมแล้วเป็นใบหน้าที่สมบูรณ์แบบจนน่าอิจฉา จะมองว่าสวยก็ได้
หล่อก็ดี ถูกล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเหลือบดำซีดที่ถูกมัดด้วยเชือกถักสีทองรวบยาวลงมาถึงบั้นเอว
โดยปกติจะชอบสวมเสื้อผ้าสบายๆ ส่วนใหญ่จึงเป็นเสื้อผ้าที่ผิดไซส์จนใหญ่โพรกเกินตัว
แต่พอต้องทำงานจะใส่ชุดที่รัดกุม มีอะไรห้อยให้น้อยที่สุดคือดี(?)
ชอบ : สัตว์ทุกชนิด
ตั้งแต่สัตว์น่ารักๆอย่างแมว หมา กระต่ายไปยันจิ้งจก ตุ๊กแก หนูและแมลงสาป(?)
เกลียด : ยา
โดยเฉพาะเวลาป่วยจะไม่ยอมกินยา ไม่ว่าจะยาเม็ดยาน้ำ ถ้าถึงขั้นฉีดยา
แนะนำให้ให้เจ้าตัวเห็นเข็มฉีดยาก่อน ไม่งั้นฮีจะดิ้นพราดๆแถมยังร้องเสียงหลงจนฉีดไม่ได้....
เเพ้ / กลัว : แพ้ไม่มี
แต่กลัวเข็มเข้าขั้นรุนแรง เห็นแล้วจะตาเหลือกหงายหลังสลบไปเลย
นิสัย :
มองเผินๆคล้ายจะเป็นคนหยิ่งยโส
ทว่าจริงๆแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนโยนโดยเฉพาะกับสัตว์เล็กๆ
แต่บางครั้งก็พูดจากวนฝ่าเท้าคนอื่นจนน่าถีบเหมือนกัน (แถมเวลาพูดยังกวนตีนยิ้มหน้าตายอีกด้วย)
แต่ด้านนี้จะออกมาให้เฉพาะคนที่ค่อนข้างสนิทและคนที่เขาเกลียดขี้หน้าเห็นเท่านั้น
กับคนอื่นยังคงรักษามาดหยิ่งได้ดีเยี่ยม เห็นแบบนี้หมอนี่เป็นคนยึดติดในศักดิ์ศรี
และมักจะไว้ตัวกับคนที่รู้จักกันเพียงผิวเผินเสมอจนบางครั้งก็แอบถูกมองว่าไม่น่าคบ
บางทีช่วงเวลาที่หมอนี่น่าคบที่สุดคงจะเป็นเวลาที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กับสัตว์ละมั้ง
ก็เล่นอ่อนโยนแต่กับสัตว์อย่างเดียว
แถมเวลาอยู่กับสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ก็อย่างกับหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัว
มีดอกไม้ออกมาลอยวิ้งๆอยู่ในบรรยากาศสีชมพูอะไรทำนองนั้น...
สมองของซีนอยู่ในระดับปานกลาง
ไม่ได้ฉลาดจนโอเวอร์แต่ก็ไม่ได้โง่จนเซ่อ มีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง แอบขี้อายเลยมักจะเอาท่าทีหยิ่งๆมาบังหน้า
ส่วนไอ้อาการกวนนั่นก็เป็นอีกรูปแบบที่เขาใช้บังความขี้อาย
ค่อนข้างจะเข้ากับคนอื่นยากก็เพราะสาเหตุนี้นั่นเอง
เป็นคนที่เกลียดอากาศร้อนสุดๆ
ถ้าอยู่แล้วจะรู้สึกเหมือนตัวเองจะละลาย
ถ้าอากาศร้อนมากๆจะได้เห็นคนที่ปกติจะกระตือรือร้น
ขยันทำงานไปนอนนิ่งๆอยู่บนพื้นหินอ่อนเย็นๆแล้วตากแอร์หรือพัดลม ยิ่งจ่ออยู่หน้าพัดลมหรือแอร์นะ
ฟฟฟ สวรรค์ชัดๆ(?)
ชอบทำเป็นไม่ใส่ใจในความผิดของตัวเอง
แล้วบอกคนอื่นว่าตนเองต้องโทษที่ไม่ได้รุนแรงอะไร
แล้วเขาจะพูดด้วยรอยยิ้มและสีหน้าภาคภูมิใจว่า “ฉันแค่ระเบิดศูนย์วิจัยไปศูนย์นึงเท่านั้นเอง”
จากนั้นก็จะส่งเสียงหัวเราะ ทั้งๆที่ในใจคิดอะไรอยู่คนอื่นก็ไม่อาจรู้ได้
ทว่าเมื่อเขาอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ หรือจะเป็นตอนที่ด้านนี้ของเขาจำเป็นต้องออกมาอย่างการทรมานคน
แม้จะอ่อนโยนสักแค่ไหน ทุกคนก็จงสลัดมันทิ้งไปซะ
ราวกับจิตวิญาณของปีศาจที่แฝงอยู่ในส่วนลึกของเขาได้ตื่นขึ้นมาจนเขากลายเป็นคนละคน
เมื่อเขาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้นิสัยของเขาจะกลายเป็นพวกโหดเหี้ยมอมหิต
ไม่เห็นอินทร์เห็นพรหม สู้ดะทำลายดะ แข็งแกร่งจนไม่น่าเข้าใกล้ราวกับเป็นคนละคน
ใบหน้างดงามของเขาแม้จะยังคงงดงามแต่ก็กลับดูโหดเหี้ยมจนไม่น่าเข้าใกล้
ซีนมีข้อดี (ที่ไม่รู้ว่าจะนับเป็นข้อดีได้มั้ย) อยู่ข้อหนึ่ง
คือซีนเป็นพวก นอนนิ่งมาก นิ่งชนิดที่ว่าหากไม่เห็นหน้าอกอีกฝ่ายกำลังกระเพื่อมขึ้นลงก็คงเข้าใจว่าตายแล้วนั่นล่ะในกรณีแรกคือหลับสนิททันทีภายในสามนาที
แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยฝัน แถมฝันทีก็มักจะเป็นฝันร้ายตลอด
มันอยู่ในกรณีที่สองนี่แหละ เพราะเวลาเขาฝัน ทุกๆครั้งก็มักจะเป็นฝันร้ายที่เรียกได้ว่าเกิดจากบาดแผลภายในจิตใจ
แน่นอนว่าซีนยังไม่มโนเพ้อพกมากพอที่จะมีฝันเป็นแฟนตาซีไซไฟ หรือเป็นแนวผีๆสางๆ
ดังนั้นฝันแต่ละครั้งจึงมักจะเป็นเรื่องในอดีตของเขาเสมอ และก็ใช่ว่าเขาฝันร้ายแล้วนอนสงบหรอก
เพียงแต่ว่าความฝันพวกนั้นมักจะทำให้เขาเกร็งตัวจนขยับไม่ได้
แม้แต่ร้องก็ยังร้องไม่ออกด้วยซ้ำ
อย่างมากก็แค่มีเหงื่อผุดขึ้นมาให้เห็นเท่านั้นล่ะ
ถ้าอยากเห็นซีนละเมอล่ะก็ คงต้องมานั่งสังเกตตอนที่ร่างกายหรือจิตใจของซีนกำลังอ่อนแอ
อย่างเช่นช่วงเวลาที่เขากำลังป่วย หรือบาดเจ็บรุนแรง
หรือแม้แต่ตอนที่จิตใจของเขาถูกกระทบกระเทือน
คราวนี้จะไม่ใช่แค่ละเมอส่งเสียงในลำคอหรือระสับระส่ายธรรมดานะ เขาจะละเมอทำร้ายทั้งตัวเองและคนรอบข้าง
ถึงเวลานั้นต้องใช้คนอย่างน้อยสามคนขึ้นไปถึงจะทำให้เขานอนนิ่งๆได้
แต่ถ้าปล่อยเมื่อไหร่สภาพก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ดังนั้นพอจับได้แล้วก็จัดการมัดเขาซะจะเป็นการดีที่สุด
ลักษณะพลัง : Astral Projection
เป็นพลังจิตชนิดหนึ่งที่เป็นการแยกจิตวิญญาณออกมาจากร่างเนื้อ
สามารถใช้ร่างจิตตรวจสอบในที่ๆร่างเนื้อเข้าไปไม่ได้
และยังสามารถสร้างร่างเนื้ออีกร่างขึ้นมาจากร่างจิตได้โดยที่ร่างจริงอยู่อีกที่หนึ่งได้ด้วย
แต่หลังจากใช้พลังนั้นเขาจะสลบทันทีที่เลิกใช้
และถ้ามีคนมาทำร้ายร่างจริงของเขาร่างจิตก็จะได้รับความกระทบกระเทือน
ขณะเดียวกันถ้าร่างจิตได้รับบาดเจ็บก็จะส่งผลต่อร่างจริงด้วย
ส่วนหากเป็นเพียงการถอดจิตตามปกติจะทำให้หัวของเขาปวดราวกับสมองถูกบีบพร้อมกับถูกเข็มทิ่ม
ที่แย่กว่านั้นคือเขาไม่อาจจะสลบได้เพราะความเคยชินของร่างกาย
ข้อหาที่ถูกจับ : ฆาตกรรมหมู่คนของศูนย์วิจัยย่อยของรัฐบาล
(แต่บอกคนอื่นว่าไปบึ้มแค่ศูนย์วิจัยเขา)
ประวัติ : ชีวิตในช่วงแรกของซีนเป็นเพียงเด็กชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่อยู่กับพ่อและแม่เท่านั้น
เป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใสและเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่หลายๆคน
ในช่วงนั้นพลังจิตของเขามีเพียงเห็นภาพต่างๆระหว่างหลับที่เขาคิดว่าคงเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
แต่พ่อแม่ของเขาก็เป็นห่วงเกินกว่าจะปล่อยไว้จึงได้พาเขาไปหาหมอ
แต่หมอก็บอกว่าเป็นปกติของเด็กวัยนี้ที่จะฝันอะไรออกมาเป็นเรื่องราว
ชีวิตของเขาดำเนินอยู่เช่นนั้นจนถึงอายุห้าปี กระทั่งทั้งพ่อและแม่ของเขาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่
ส่วนซีนถูกญาติที่เขาไม่รู้จักรับไปเลี้ยง
และเป็นวันนั้นเองที่เขาได้เหยียบเข้าไปในศูนย์วิจัยอย่างลับๆของรัฐบาล
เขาถูกจับไปทดลอง
ถูกเอาเข็มแทงเข้าไปในหัวเพื่อที่จะพิสูจน์ถึงพลังของเขา
มันเจ็บจนฝังใจเพราะมันถูกแทงเข้ามาสดๆ ไม่มียาชาหรือยาสลบทั้งยังไม่ได้มีแค่เล่มเดียว
แต่มันถูกแทงเข้ามามากมายจนเขาไม่อยากจะนับ
จะมีก็แต่เพียงยากระตุ้นที่ทำให้สติของเขาตื่นตัวตลอดเวลา ทุกวันๆ เข้าไปในห้องทดลองแต่เช้าตรู่
ออกมาจากห้องทดลองตอนที่ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางศีรษะ
ถูกพาไปไว้ในห้องกระจกที่เขาไม่อาจเห็นอะไรได้นอกจากกำแพงสีขาว
แต่กลับถูกมองอยู่ตลอดเวลาผ่านทางกระจกที่สามารถเห็นภายในได้จากอีกด้านของกระจก
ไม่เคยได้มีเวลาส่วนตัว ที่เลวร้ายกว่านั้นคือแม้จะอยู่ในห้องที่ถูกสังเกตการณ์ตลอดเวลาเขาก็ยังต้องสวมเครื่องวัดคลื่นสมอง
ดีหน่อยที่ไม่ต้องเจ็บตัวหากไม่ทำอะไรที่เหมือนกับจะหนี แต่ยังไม่ทันได้พักเต็มที่เขาก็ต้องตื่นขึ้นมาฝึกทักษะร่างกายก่อนจะถูกพาตัวไปที่ห้องทดลองอยู่ดี
อันที่จริงถึงอยากจะหนีก็หนีไม่ได้
เขารู้ดีว่าห้องนั้นเป็นเพียงตู้กระจก จะมีก็เพียงพื้นที่เป็นหินอ่อนแท้
และด้วยกำลังของเขาก็ไม่อาจจะสร้างได้แม้แต่รอยขีดข่วนด้วยซ้ำ
เขาใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นนานนับปี ความอบอุ่นที่เคยมีในหัวใจหายไป
เหลือเพียงความเย็นเยียบ
เขาไม่เคยได้เห็นท้องฟ้า ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วัน กี่ปี ชีวิตที่เห็นแต่เพียงสีขาวกับนักวิจัยที่สวมชุดกาวน์กลายเป็นสิ่งที่เขาเห็นจนชินตา
พลังของเขาถูกคอมพิวเตอร์พัฒนาและทดลองอยู่ทุกวัน
จนพวกนักวิจัยเห็นว่ามันแข็งแกร่งพอแล้วเขาจึงได้ถูกส่งไปที่ห้องอีกห้องที่เขาไม่เคยย่างกรายเข้าไป
และเป็นช่วงเวลาที่เขาถูกฉีดยาสลบ และไม่มีเครื่องตรวจคลื่นสมองหรืออุปกรณ์อะไรก็ตามสวมอยู่ที่ศีรษะ
ซีนถือโอกาสนั้นสร้างร่างอีกร่างของตนเองขึ้นมาและฆ่านักวิจัยทุกคนที่อยู่ที่นั่น
เพียงคืนเดียว นักวิจัย บอดี้การ์ด ทหาร หมอ
ทุกๆคนที่อยู่ในศูนย์วิจัยตายเรียบ ไม่มีใครเหลือรอด
เหลือก็เพียงซีนที่เกือบจะถูกผ่าตัดฝังแผ่นชิพเข้าไปในสมองเพื่อใช้เป็นอาวุธสงครามให้กับรัฐบาล
เป็นตอนนั้นเองที่รัฐบาลตระหนักถึงความน่ากลัวของผู้มีพลังจิต
แต่ก็ยิ่งเห็นถึงประโยชน์ของผู้มีพลังจิตเช่นกัน ส่วนตัวซีนหลังจากการสังหารหมู่ครั้งนั้น
เมื่อเขาหยุดใช้พลังจิตเขาก็สลบทันที สุดท้ายแล้วซีนจึงถูกจับและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมหมู่
ส่วนศูนย์วิจัยถูกย้ายไปที่อื่น ส่วนที่เดิมถูกทำลายทิ้งไปแล้ว
อาวุธ : ปกติเขาจะใช้ปืนพก แต่ถ้าจำเป็นเขาจะใช้มีดเดินป่า
มีดสั้น หรือมีดผีเสื้อที่เขาถนัดมือกว่า
ความคิดเห็น