ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Devils เรื่องนี้ปีศาจครอง!

    ลำดับตอนที่ #4 : Devil II : มังกรไฟกินจุกับสามีซาดิสม์(?)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 80
      2
      26 ก.พ. 58

    Devil II : มังกรไฟกินจุกับสามีซาดิสม์(?)

     

    กว่าสองสาวจะคุยกันจบก็ปาเข้าไปมืดพอดี  เซบที่แทบจะนอนรอในที่สุดก็ต้องควักเหรียญทองแดงสองเหรียญให้กับนางไม้ที่ออกมากระดิกนิ้วรอรับเงินตั้งแต่ที่ทั้งสองคนยังคุยกันไม่จบ

    “เอาล่ะ! เดินทางต่อกันเถอะ” แวร์วูฟหนุ่มเอ่ยพลางบิดขี้เกียจ  ยืดเส้นยืดสายจนเรียบร้อย  ขณะที่วิเวียนทำหน้าเบื่อๆแต่ก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี

    “อันที่จริงพวกเราควรจะพักไม่ใช่เหรอเซบ?”

    “พวกเราเป็นปีศาจนะ  ไม่เห็นจำเป็นต้องพักเลย  อีกอย่างข้าว่าเราพักกันมาพอแล้ว”

    “เจ้าพักคนเดียวล่ะสิไม่ว่า...”

    “นั่นเจ้าไม่พักเองต่างหาก”

    “ชิ!

    วิเวียนเบ้หน้าและยอมสงบปากสงบคำแต่โดยดี  แต่ไม่ทันไรเสียงร้องของอะไรบางอย่างก็ทำให้เซบที่เดินนำหน้าอยู่ถึงกับชะงัก

    จ๊อก~

    “...”

    “...”

    “วิเวียน...”

    “ห...หืม?”

    “เจ้าหิวแล้วใช่ไหม?”

    “เอ่อ...แหะๆๆ”

    เป็นอีกครั้งของวันที่เซบถอนหายใจเฮือก  เขามองรอบๆแล้วหาต้นไม้ต้นหนึ่งเพื่อปักหลักพัก

    “รออยู่นี่  เดี๋ยวข้าจะไปหาผลไม้...”

    “ไม่เอาน่า  ขอเนื้อด้วยสิ”

    “...ก็ได้...เนื้อกับผลไม้แล้วก็ฟืนมา..โอเค๊??”

    “โอเคที่สุด!

     

    และสุดท้ายเขาก็เผลอตามใจเจ้าหญิงแห่งผึ้งไปจนได้  นั่นเป็นเหตุให้ในมือของเซบในตอนนี้มีทั้งฟืนและผลไม้  แต่เขาก็ยังไม่กลับไปหาวิเวียนเพราะยังขาดอีกอย่าง...

    ...เนื้อนั่นเอง...

    “ข้าควรจะเอาของพวกนี้กลับไปวางก่อนแล้วค่อยออกมาอีกรอบดีไหมนะ...” เซบก้มลงมองของที่เต็มมือทั้งสองข้าง  แต่ถ้าเขายังหาของที่วิเวียนต้องการจริงๆอย่างเนื้อไม่ได้  ก็มีสิทธิ์ที่อีกฝ่ายจะบ่น...

    เรื่องของเรื่องคือเขาขี้เกียจจะมาฟังอีกฝ่ายบ่นเสียด้วย  สุดท้ายแล้วเขาจึงยังคงหาสัตว์ที่พอจะเป็นอาหารได้ต่อไป...

    แซ่ก...

    หูของมนุษย์หมาป่าที่รับคลื่นเสียงได้ไวของเซบได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบาๆจากพุ่มไม้ที่อยู่ไกลออกไปอีกหลายกิโลเมตร  นัยน์ตาสีทองตวัดควบไปมองทางจุดหมาย  แม้จะมืด  แต่ดวงตาของแวร์วูฟกลับสามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน  เขาเห็นพุ่มไม้ที่ขยับไหวทั้งๆที่ไม่มีลม  ก่อนที่จะปรากฏร่างของเสือสีดำตัวยักษ์ขยับออกมาจากพุ่มไม้

    เซบมองสำรวจในบริเวณใกล้เคียงอย่างระมัดระวัง  หวังว่าจะไม่พบปีศาจนักล่าตนอื่นอยู่ใกล้ๆ  แต่แล้วเขาก็กลับพบศัตรูที่จะมาแย่งเหยื่อจนได้...

    ในจุดที่ห่างออกไปจากเขาอีกหลายเมตร  ปรากฏร่างของแวร์วูฟในร่างหมาป่าขนาดยักษ์อีกตนหนึ่ง  คิดว่าน่าจะเป็นคนละกลุ่มกับเขาเพราะเขาไม่รู้สึกคุ้นหน้าเลยสักนิด

    มันกำลังแยกเขี้ยวแหลมคมที่มีน้ำลายไหลหยดลงมาไม่หยุด  ร่างกายของอีกฝ่ายใหญ่กว่าเซบอีกหลายเท่าตัว  และดูจากท่าทางคิดว่าคงจะกำลังหิวโซเลยทีเดียว....

    จากสถานการณ์ตรงหน้าเขาควรจะถอย  แต่เมื่อลองนึกถึงสภาพที่ตัวเองหูชาเพราะเจอเสียงบ่นของวิเวียน  อยู่ๆเขาก็เกิดเปลี่ยนความคิดของตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือเสียอย่างนั้น...

    เซบตัดสินใจวางของในมือทั้งหมดลง  ย่อตัวลงเตรียมพุ่งเข้าหาสิ่งที่หมายตาไว้  จากนั้น...

    ก็พุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วที่เห็นได้เพียงเงาลวงตา!!!

    เซบเป็นฝ่ายเข้าถึงตัวเสือก่อน  เขาตะปบกรงเล็บลงบนลำคอของเสือตัวนั้น  และขณะที่มันส่งเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดอยู่นั่นเอง  แวร์วูฟอีกตัวก็พุ่งเข้ามากระชากร่างของเซบให้ออกห่างจากเสือที่ยังคงส่งเสียงคำรามลั่น  จากนั้นก็เหวี่ยงร่างของเขาจนปลิวไปหล่นหลังพุ่มไม้ไม่ไกลนัก  ก่อนจะเป็นฝ่ายเข้าขย้ำคอเสือตัวนั้นจนมันลงไปดิ้นพราดๆอยู่ที่พื้น  แต่แม้จะพยายามต่อสู้มันก็ยังไม่อาจรอดพ้นเงื้อมือของแวร์วูฟตนนั้นได้

    ในขณะที่แวร์วูฟสีดำตนนั้นคิดว่าตนสามารถแย่งเหยื่อมาได้สำเร็จแล้วนั่นเอง  หมาป่าสีเงินที่ใหญ่กว่าหมาป่าทั่วไปก็กลับพุ่งออกมาจากพุ่มไม้และใช้เขี้ยวแวววาวของตนเองกัดลงที่ลำตัวของแวร์วูฟที่ยังคงไม่ผละออกจากเหยื่อ  เป็นเหตุให้เลือดสีแดงสดสาดกระจายออกมาจากบาดแผลเหวอะหวะบนร่างของแวร์วูฟตนนั้น  มันส่งเสียงขู่เบาๆแล้ววิ่งหนีหายไปในป่าทันทีเมื่อพบว่าตนไม่อาจสู้ได้อีกในสภาพบาดเจ็บเช่นนี้

    ร่างสีเงินมองร่างที่วิ่งหายเข้าไปในป่าครู่หนึ่ง  ร่างค่อยๆหดกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ที่มีเส้นผมสีเงินและนัยน์ตาสีทอง  เซบนั่นเอง

    แวร์วูฟหนุ่มถอนหายใจเฮือก  เดินไปหยิบเอาเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้ตอนกลายร่างมาสวม  จากนั้นก็จัดการลากซากเสือที่นอนอยู่ตรงหน้าไปหยิบเอาผลไม้และฟืนที่หามา  ก่อนจะเดินกลับไปหาวิเวียน

    แต่เหมือนเขาจะมาช้าไปหน่อย...

    ตอนที่เขากลับมาถึง  เขาก็เห็นวิเวียนนั่งกินไก่งวงที่โดนย่างจนสุกอยู่ก่อนแล้ว  แถมข้างๆยังมีผลไม้อีกสองสามลูกอยู่ด้วย

    “อ้าวเซบ  มาแล้วเหรอ ข้าให้ผึ้งไปหามาให้ล่ะ กินไหม?”

    “ไม่ล่ะ ขอบคุณ...” พูดจบเซบก็ตัดสินใจปล่อยมือที่ลากซากสัตว์ที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป  แล้วเดินเข้ามาหาวิเวียนโดยที่ในมือเหลือเพียงผลไม้และฟืนเท่านั้น

    “ถึงว่าทำไมเจ้าหายไปนาน  นี่เจ้าไปหาผลไม้กับฟืนถึงไหนเนี่ย?”

    “ก็ในป่านั่นล่ะ” พูดจบก็จัดการวางของในมือลง  ก่อนจะทรุดร่างลงนั่งข้างกองไฟพลางขยี้ผมตัวเองเบาๆ  จากนั้นก็หยิบผลไม้ขึ้นมากินไปสองสามลูก  ส่วนที่เหลือ...ก็ให้วิเวียนนั่นล่ะ

    อยากจะบอกว่าอย่าดูถูกวิเวียนเป็นอันขาด  ถึงเธอจะตัวเล็ก  แต่เห็นแบบนี้เธอเป็นสาวกระเพาะเหล็ก  กระเพาะบรรจุอาหารได้มากกว่าแวร์วูฟอย่างเซบเสียอีก  แต่ถ้าให้นับจริงๆ  คนที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็นคนที่พวกเขากำลังไปหามากกว่า...

    บาคลาร่า  ดรากอส  อันโตนิอุส  มังกรไฟผู้มีร่างมนุษย์เป็นหญิงสาวร่างเล็ก  มีความจุกระเพาะอาหารที่เพื่อนๆขอลงความเห็นว่าเธอคือเจ้าของฉายา กระเพาะหลุมดำ สาเหตุก็ไม่ใช่อื่นไกล  เธอเป็นมังกรที่กินมากกว่ามังกรทั่วไปจนใครเห็นใครก็ขยาด  ทั้งยังกินได้เรื่อยๆและชอบบ่นติดปากว่า หิวๆๆ ทั้งๆที่เพิ่งจะกินอาหารตรงหน้าหมดไปแหมบๆ  ทั้งยังมีท่าทางการกินที่...อืม...ขอไม่บรรยายดีกว่า...

    หลังจากที่วิเวียนจัดการของกินจนหมด  ทั้งสองคนก็ตัดสินใจเดินทางกันต่อ  ถึงแม้วิเวียนจะหาเรื่องพูดเรื่องบ่นไปได้ตลอดทาง  แต่ในเวลาที่ในป่ามีเพียงเสียงแมลงกลางคืน  เสียงของวิเวียนกลับดูมีประโยชน์ขึ้นมาทันใด  ถึงแม้ว่าเซบจะยังคงตอบอย่างประหยัดคำพูด  หรือใช้การพยักหน้ามาตอบเหมือนเดิมก็เถอะ

    ระยะทางจากบ้านของวิเวียนไปถึงรังมังกรของคลาร่าไม่ได้ไกลอย่างที่คิด  ใช้เวลาเดินจนถึงเที่ยงวัน  ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน้าถ้ำขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมาย  รังมังกรนั่นเอง

    “เซบบบบบบบบบ~” เสียงที่มาก่อนตัวทำให้เซบขมวดคิ้วนิดหน่อยพลางหันไปทางต้นเสียง  ปรากฏร่างของหญิงสาวผมสีส้มรวบสูงกำลังวิ่งถลาเข้ามาหา  พร้อมกางแขนเตรียมรับเขาเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรัก...ซะเมื่อไหร่ล่ะ!!!

    เซบที่เห็นท่าไม่ดีรีบเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง  เป็นเหตุให้คนที่ถลาเข้ามาไม่อาจหยุดขาได้ทันจนพุ่งเข้าไปหาตัวตายตัวแทน...เอ่อ...คนรับเคราะห์แทนเซบที่เดินตามหลังเขามา

    และหลังจากนั้นก็คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้น  ทั้งคนพุ่งและคนรับเคราะห์ต่างก็ล้มโครมหน้าคะมำลงไปตามๆกัน  แต่เซบที่เห็นภาพนั้นกลับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้  เป็นเหตุให้โดนดวงตาสองคู่ค้อนควบ  ก่อนที่เจ้าของนัยน์ตาสีแดงจะลุกขึ้นเริ่มการวิ่งไล่ที่ใครมาเห็นเข้าก็คงจะพูดว่า เด็กๆเล่นกันน่ารักจังเลยแน่ๆ

    “หยุดหัวเราะนะเซบ! แง่ง!!

    “ฮ่าๆๆ”

    อืม...ถือซะว่านี่เป็นเหตุการณ์ระหว่างเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานสองคนทักทายกันก็แล้วกันนะ

    หลังจากการทักทายเล็กๆน้อยๆจบลงที่เซบถูกข่วนถูกตีที่แขนจนเกิดรอยแดงเป็นปื้นแล้วทั้งสามคนก็เริ่มมานั่งตั้งวงคุยกันตามประสาเพื่อนที่นานๆจะได้มารวมตัวกันที

    “จะว่าไปข้ายังไม่เห็นสามีเจ้าเลยนะ” เซบเอ่ยขึ้นหลังจากที่คุยเรื่องจิปาถะ (วิเวียนกับคลาร่าเม้ากันซะเยอะ)  แล้ว  ก็มันอดไม่ได้จริงๆ  ในบรรดากลุ่มเพื่อนสามคนมีเขาคนเดียวที่ยังไม่เคยเห็นแม้กระทั่งรูปของ คาร์เซล  เด  ทานาทอสสามีของคลาร่าเลยสักครั้ง

    “อ๋อ  ตอนนี้หมอนั่นกำลังทำอาหารอยู่ล่ะ!

    “หา? ทำอาหาร??”

    “คลาร่า  อาหารเสร็จแล้ว” เสียงตะโกนที่ดังมาจากในรังสามารถเรียกความสนใจของเซบและวิเวียนให้หันไปมองได้ทันที

    “แหม...หล่อกว่าในรูปอีกนะเนี่ย...” วิเวียนหันไปกระเซ้าใส่เพื่อนสาวมังกรไฟ

    “เออ  ข้าไม่เถียง...”

    เซบเองก็ไม่มีความคิดเห็นอะไรเป็นพิเศษสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของอีกฝ่ายหรอกนะ  ทั้งรูปร่างหน้าตาแล้วก็การแต่งตัว  แต่เขาเป็นพวกที่เวลารู้จักใครก็ต้องรู้จักลึกๆให้มันรู้นิสัยกันให้แน่ชัดไปเลย  เพราะงั้นเขาจะยังไม่พูดติหรือชมอะไรทั้งนั้นแหละ

    “อ้าว? เพื่อนเจ้ามาแล้วเหรอคลาร่า?”

    “ช่ายยยย  อ้อๆ นี่ๆ คาร์เซล  นี่วิเวียน  เจ้าเคยคุยกับนางแล้วรอบนึง” คลาร่าเอ่ยพลางดึงวิเวียนเข้ามาหาตนเอง  “แล้วก็หมอนั่นคือเซบ  เจ้ากับเขาเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก”

    “ยินดีที่ได้พบตัวจริงนะวิเวียน  แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จัก เซบ” คาร์เซลเอ่ยทั้งใบหน้าเปื้อนยิ้ม “อาหารพร้อมแล้ว  เชิญพวกเจ้าด้วยนะ”

    “ขอบคุณมากๆเลยคาร์เซล!” วิเวียนเอ่ยทั้งหน้าระรื่น  ส่วนเซบทำเพียงแค่ค้อมหัวเบาๆเป็นเชิงขอบคุณ  จากนั้นทั้งเขาและวิเวียนก็โดนคลาร่าลากให้เข้ามาในรังมังกร  แต่เพียงแค่ก้าวเข้ามา  สิ่งที่ประดับอยู่บนผนังถ้ำก็ทำเอาเซบถึงกับคิ้วกระตุก

    ...เดี๋ยว...นั่นอะไร?  โซ่?  แส้??  กระบองหนาม???  เชือก???? แล้วยังมีอะไรอีกก็ไม่รู้สารพัดสารเพที่แสดงถึงความ ซาดิสม์ของเจ้าของ  แต่เท่าที่เขารู้จักมา  คลาร่าไม่ใช่คนที่ชอบกระทำคนอื่น  แต่ชอบถูกกระทำ(?)  งั้นก็แปลว่าของพวกนี้ทั้งหมดคือของคาร์เซล??

    ถ้าใช่  เขาก็คิดว่าสองคนนี้คงจะเป็นคู่ที่เข้ากันได้ที่สุดในสามโลกแล้วจริงๆ...

    การนั่งกินอาหารจบลงที่เซบและคาร์เซลนั่งมองสองสาวกินกันต่อไป  ถึงแม้ว่าวิเวียนจะมีสปีตที่ช้ากว่าและจำนวนอาหารที่กินมีน้อยกว่าคลาร่า  แต่ดูจากท่าทางคงจะยังสามารถอยู่ในสมรภูมิอาหารได้อีกพักใหญ่เลยทีเดียว

    สุดท้ายแล้วเซบและคาร์เซลก็เริ่มคุยกัน

    “เห็นว่าเจ้าเป็นพัศดีเรือนจำหลักของโลกปีศาจ??”

    “ใช่แล้วล่ะ  อุปกรณ์ที่เห็นแขวนอยู่นั่นก็เป็นของที่ใช้ในงาน  ถึงใจจริงจะอยากเอามาใช้กับคุณภรรยาด้วยก็เถอะ” เอ่ยทั้งที่ใบหน้าที่ยังคงรอยยิ้มเอาไว้  แต่เซบแอบเห็นทางหางตาว่าคนที่ถูกพูดถึงถึงกับสำลักของที่กินเข้าไปจนวิเวียนต้องช่วยลูบหลังกันเลยทีเดียว

    หลังจากนั้นเซบก็ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องมาเป็นอาหารที่เพิ่งจะกินกันเสร็จ

    “อาหารที่เจ้าทำอร่อยมาก  ถึงว่าทำไมคลาร่าถึงได้ยอมแต่งงานด้วย”

    “ฮ่าๆๆ  ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก  ข้ากับคลาร่าแค่ชอบอะไรเหมือนๆกันนิดหน่อย  อย่างเช่น...มะเขือเทศละมั้ง?”

    “มะเขือเทศ?”

    “เจ้าสนใจไหม? มะเขือเทศอร่อยนะ  แถมยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้วก็หน้าตาดีด้วย!

    “...” ทำไมอยู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเรื่องที่คุยมันชักจะไม่ใช่แค่สรรพคุณของมะเขือเทศนะ??

    “แล้ว...เจ้าประทับใจคลาร่าตรงไหนถึงยอมแต่งงานด้วยล่ะ??”

    “อืม...หน้าตาละมั้ง?  แล้วก็...” คาร์เซลเว้นระยะไปครู่หนึ่ง  ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนอยู่ข้างหลังคลาร่า  จากนั้นก็ยื่นมือไปจิ้ม...แก้ม...

    “แก้มของคลาร่านิ่มๆแล้วก็ยืดด้วยล่ะ!” ไม่ว่าเปล่ายัง ยืดแก้มของภรรยาตัวเองให้ดูเป็นขวัญตาด้วย

    อืม...ยืดจริง  ไว้คราวหน้าคงต้องลองบ้างแล้วล่ะ...

    ความคิดพิเรนทร์ๆผุดขึ้นมาในหัวของเซบ

    “แล้วก็นอกจากนี้นะพุงก็นิ้มมมม นิ่ม!” พูดจบก็ยื่นมือลงไปตบพุงคลาร่าทีหนึ่งโดยไม่ได้สนใจสีหน้าของคนโดนแกล้งเลยสักนิดว่ากำลังทำหน้าเป็นยักษ์ขมูขีปวดท้องอยู่

    “คึ...” เซบหลุดเสียงแปลกๆออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนตัวเองที่ถมึงทึงเต็มที  รู้สึกว่าเขาจะได้ความรู้เรื่องวิธีแกล้งคลาร่ามาเยอะเลยทีเดียว...

    “อ้ากกกกกกกกก!!!! นี่พวกเจ้าเล่นบ้าอะไรกัน!!!?” คลาร่าที่เห็นท่าทีของเซบลุกขึ้นมาวีนแตกตามวิสัยมังกรไฟความอดทนต่ำ

    คาร์เซลส่งเสียงหัวเราะเบาๆด้วยท่าทีที่เซบขอลงความเห็นว่าเจ้าเล่ห์สุดๆ  จากนั้นก็จัดการดึงตัวคลาร่าเข้าไปใกล้โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของเจ้าตัวเลยสักนิด

    “ข้าคิดว่าคงต้องขอตัวไปทำโทษภรรยาเสียหน่อยแล้วล่ะ  พอจะรอได้ไหมเซบ??”  ไม่ว่าเปล่ายังยกร่างของคลาร่าที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนขึ้นพาดบ่าอย่างสบายๆอีกด้วย  จากนั้นก็จัดการตีก้นคนที่ดิ้นไม่หยุดไปทีจนคนโดนแกล้งหยุดดิ้น  แต่เสียงสิบแปดหลอดก็ยังคงทำงานต่อไป

    “อ่า...ฮะๆๆ...รอได้ๆ”

    “งั้นขอเวลาสักครู่...”

    “ว้ากกกกกกกกกก!!!!

     

    “ข้าอยากจะไปด้วยจริงๆนะ  แต่น่าเสียดาย  งานของข้าไม่เหมาะที่จะออกเดินทาง”

    “ไม่ต้องห่วงคาร์เซล  พวกเราจะช่วยกันคอยดูไม่ให้คลาร่าไปกินอะไรมั่วๆซั่วๆเด็ดขาด”

    “ข้าไม่ใช่หมานะเซบ...”

    “งั้นเหรอ  ถ้างั้นข้าก็สบายใจ  ฝากดูแลคลาร่าด้วยนะ เซบ  วิเวียน”

    “ได้”

    “ไว้ใจวิเวียนได้เลย!

    หลังจากที่ร่ำลากับคาร์เซลกันเรียบร้อย  ในที่สุดทั้งสามคนก็ออกเดินทางกันต่อ  คราวนี้คณะเดินทางที่ประกอบด้วยสามคนสามเผ่าพันธุ์ดูจะมีเสียงความครื้นเครงเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม  และดูท่าทางว่าเรื่องป่วนๆชวนป่วยใจคงจะได้เริ่มประดังประเดเข้ามาหาพวกเขาในเวลาไม่ช้าก็เร็วนี้...


    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×