คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Devils X : เกม
Devils X : เกม
อะไรนะ!!!? สัตว์สี่เท้า!!!!!?
ทุกคนในคณะเดินทางหันควบมามองกันเอง ทว่าสิ่งที่เซบเห็นคือแมวตัวอ้วนๆสีส้มตัวหนึ่ง แมวรูปร่างสมส่วนสีน้ำตาลตัวหนึ่ง และสุนัขขนสีเพลิงอีกตัวหนึ่ง...
เดี๋ยวนะ...แล้วเขาล่ะ? ไม่ใช่ว่ากลายเป็นแมวใช่ไหม!? หมาป่ากลายเป็นแมวนี่อนาถเลยนะ!!
เซบรีบก้มลงมองมือ...ไม่สิ ตอนนี้ต้องเป็นฝ่าเท้าหน้าข้างหนึ่งของตนเอง แม้จะเล็กไปบ้าง แต่ลักษณะอุ้งเท้าที่เห็นก็ยังคงเป็นภาพที่คุ้นตา
แต่เพื่อความแน่ใจ ขอเช็คอีกทีเถอะ!
เซบหันไปทางวิเวียน
“ตอนนี้ข้าเป็นไงมั่ง?”
วิเวียนกลอกตามามองทีหนึ่งแล้วอ้าปากหาวพร้อมทั้งยกขาหน้าขึ้นมาปิดปาก จากนั้นจึงเอ่ยตอบ “ปกติอ่ะ”
ได้ยินดังนั้นเซบก็หันไปทางเซย์กีสบ้าง
เซย์กีสมองเซบพลางเอียงหัวน้อยๆ จากนั้นก็ฉีกยิ้ม...น่าจะฉีกยิ้มนะ จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ
“ดูปกติน่า อย่างน้อยก็เป็นหมา”
เซบที่ได้ยินดังนั้นถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก ยกขาหน้าขึ้นลูบที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ
...เหมือนเขาจะลืมอะไรบางอย่างไปแฮะ...?
แฮ่...
ทั้งสี่คนสะดุ้งโหยง เพิ่งรู้ตัวว่ารอบๆตัวพวกเขาถูกศพเดินได้มาล้อมวงจนมืดฟ้ามัวดิน...
อย่างน้อยก็มืดฟ้ามัวดินสำหรับพวกเขาในตอนนี้แหละน่า!
เซบกระโดดหลบมือที่มีเล็บแหลมที่เข้ามาจู่โจม
ไอ้พวกนี้จะไว้เล็บยาวทำไมเนี่ย!!!?
เซบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วสะบัดกรงเล็บออกไปหมายจะเชือดร่างของศพเดินได้ตรงหน้าให้ขาดเป็นสองท่อนเหมือนอย่างทุกที...
ผลที่ได้กลับมาคือเล็บยาวๆของผีดิบตนนั้นหักและสร้างบาดแผลเหมือนเล็บแมวข่วนให้มันเท่านั้น...
เวรล่ะ!!! เขาลืมไปว่าตอนนี้เป็นแค่ ‘ลูกหมา’ !!!!
คิดแล้วเซบก็อยากจะยกมือขึ้นมาแปะบนหน้าตัวเองอย่างรู้สึกชีช้ำกะหล่ำปลี แต่พอมองลงไปที่มือตัวเองแล้วเจอแต่อุ้งเท้าเล็กๆของตัวเองก็จำต้องกล้ำกลืนน้ำตาลูกสุนัข (?) กลับเข้าไปเท่านั้น
ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง ปีศาจก็ไม่มีขึ้นมีแต่ลงกับคงที่เท่านั้นเหมือนกัน...
ภารกิจนี้มันเลวร้ายลงเรื่อยๆชัดๆ! แต่ที่ผิดกว่าคือเขาไม่ควรเอายัยมังกรไฟจอมเพี้ยนที่ชักนำแต่เรื่องน่าปวดหัวมาให้มาด้วย!!!
เสียงหอบของทั้งสี่คนดังก้องห้องโถงอันกว้างขวางที่มีเพียงศพกองระเนระนาดส่งกลิ่งฉุนจมูกที่เซบต้องรีบยกมือ...ขาหน้าขึ้นมาปิดจมูก ใบหน้าที่ปกคลุมด้วยขนสีขาวประกายเงินมู่ทู่จนขนที่มีอยู่ปิดไม่มิด ขณะที่แมวอ้วนตัวสีส้มที่อยู่ใกล้ๆกำลังจามครั้งแล้วครั้งเล่าจนไขมันกระเพื่อมไปมา ชวนให้เซบสยองยังไงก็ไม่รู้
...อันที่จริงมันก็คือผลกรรมของคลาร่าที่กินมื้อเช้ามาเสียเต็มคราบขณะที่คนอื่นๆกินพอให้อิ่ม รวมไปถึงวิเวียนที่กินน้อยผิดปกติด้วย ตอนนี้พอแต่ละคนมาอยู่ในร่างนี้เลยยังมีสภาพพองามไม่เหมือนแม่อดีตกิ้งก่ายักษ์ที่เปลี่ยนสปีชีส์เสียไกลลิบมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อ้วนท้วนจนแทบจะเอาหน้าท้องลงไปไถลกับพื้นทั้งที่ยังยืนอยู่ได้แบบนี้...
รู้ตัวอีกที ห้องทั้งห้องก็เหลือสิ่งมีชีวิตอยู่เพียงคน...ตัว... ส่วนอย่างอื่นที่ควรจะอยู่ในห้องนี้ก็กลับหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ให้ได้อย่างนี้สิ แล้วแบบนี้พวกเขาจะหาทางกลับสู่ร่างเดิมได้ยังไงเนี่ย!!!?
ขณะที่ทุกคนต่างก็คิดหนัก อยู่ๆเสียงดัง ‘กึง!’ ก็ดังขึ้นให้พวกเขาสะดุ้ง จากนั้นร่างของทั้งสี่คนก็รู้สึกถึงแรงลมที่มาจากทางใต้ฝ่าเท้า ภาพรอบด้านเลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็วจนแต่ละคนรีบก้มลงไปมอง จากนั้นเสียงร้องโหยหวนก็ดังก้องไปทั่วก่อนจะค่อยๆหายไป...หายไป...หายไป และถูกปิดท้ายด้วยเสียงดัง ‘กึง!’ อีกครั้ง...
กลับมาทางฝั่งทั้งสี่คนที่ร่วงลงมาจนแทบดิ่งพสุธา
วิเวียนที่อยู่ในร่างของแมวดูเหมือนจะชินกับร่างนี้ก่อนเป็นคนแรก เธอพลิกตัวและลงพื้นได้อย่างสวยงามและไม่บุบสลายแต่ประการใด กลับกัน คลาร่าที่เป็นแมวเหมือนกันกลับลงมาได้ด้วยสภาพที่ไม่น่าดูชมนัก...
ตอนแรกคลาร่าก็ดูเหมือนจะลงได้สวยเพราะเธอพลิกตัวได้ทัน ถ้าไม่ติดว่าน้ำหนักมากเกินไปจนทำให้เสียสูญเลยล้มลงไปนอนแอ้งแม้งเป็นเบาะรับเซบและเซย์ที่ตามลงมาติดๆเสียแทน
“โอย... เซย์กีส เจ้ารีบลุกออกไปเลย หายใจไม่ออกแล้ว...” เซบเอ่ยเสียงอู้อี้ขณะที่ร่างของเขาฝังลงไปกับไขมันของแมวอ้วนเสียครึ่งหนึ่ง ส่วนด้านบนก็มีเซย์กีสที่ทับอยู่จนเซบรู้สึกหายใจลำบาก...
เซย์ที่ได้ยินดังนั้นรับตะกายลุกขึ้นอย่างยากเย็น การปรับตัวเข้ากับร่างกายที่แปลกประหลาดอย่างไม่คาดคิดกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของเซย์กีสที่ปกติจะปราดเปรียวเจ้าเล่ห์ แค่การลุกขึ้นยังทำให้เขาล้มเสียหลายครั้ง กระทืบลงบนหัวกับตัวของเซบและคลาร่าเสียหลายครั้งจนบางครั้งเซบยังเผลอร้องหงิง...
เซบเป็นคนต่อมาที่ต้องรีบตั้งหลักขึ้นมาแล้วกระโดดออกจากตัวของคลาร่าจากนั้นก็ไปนั่งสะบัดหัวที่มึนงงเพราะโดนเท้าของเซย์กระทืบไปเสียหลายทีเพื่อให้เข้าที่เข้าทาง...
บางทีวันนี้คงเป็นวันซวยของเขาจริงๆ...
“เซบบบบบบ ช่วยหน่อยยยยย ข้าลุกไม่ขึ้นนนนนน”
เสียงของคลาร่าทำให้เซบรู้สึกปวกประสาท แต่ก็ยอมลุกขึ้นอย่างมึนๆ ทว่าพอตั้งท่าจะช่วยเขาก็ต้องชะงัก
“เอ่อ...คลาร่า ข้าจะช่วยเจ้ายังไงเนี่ย...”
“...”
ตามที่เซบว่า ตอนนี้คลาร่ากำลังนอนหงายท้องแผ่อ้าซ่าอยู่ตรงหน้า แต่ด้วยสภาพร่างกายที่อ้วนฉุทำให้อดีตมังกรไฟได้แต่ขยับขาที่เหมือนแท่งอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากก้อนเนื้อเผละๆที่กองอยู่บนพื้น...
แล้วแบบนี้เขาจะช่วยยังไง...
“เจ้าพลิกตัวได้ไหม?”
“ไม่อ่ะ” ไม่พูดเปล่ายังพยายามพลิกตัวให้ดูอีกด้วย แต่มันก็ยังไม่ช่วยอะไรเมื่อผลออกมาคือมันยิ่งเหมือนก้อนไขมันกำลังเต้น...
...น่าเกลียดซะไม่มีอ่ะ!!!
เซบรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว ถ้าเป็นแมวเขาคงอยู่ในสภาพขู่ฝ่อ
ฝ่อ...
เอ่อ...มีคนขู่แทนเขาแล้วล่ะ...
“สภาพดูไม่ได้เลยคลาร่า...” เซบเบือนหน้าหนีอย่างเกินทานทน ส่วนเซย์กีสก็มองอย่างแขยงๆ ท่าทางคงไม่กล้ามองหน้าคลาร่าไปอีกพักใหญ่ ไม่อย่างงั้นคงได้เห็นไอ้ก้อนดิ้นๆนี่ขึ้นมาอีกซักวันแน่ๆ
“เอาอย่างนี้ไหม ให้คลาร่าอยู่ที่นี่แล้วเราไปต่อ ถ้ายังมานั่งติดแหงกอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี” เซย์กีสเอ่ยพลางหันหน้ามาทางเซบที่ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย
ก็จะให้ทำยังไงได้ คลาร่าพลิกตัวเองไม่ได้พวกเขาเองก็จนปัญญา แล้วถ้ายังจะดันทุรังอยู่ตรงนี้ต่อไปก็มีแต่เสียเวลา สู้ทิ้งคลาร่าไว้ที่นี่แล้วพวกเขาไปต่อ พอจัดการถอนเวทได้ก็ค่อยกลับมาหาคลาร่า ถึงตอนนั้นนอกจากทุกคนจะอยู่กันครบยังไม่ต้องทนดูก้อนไขมันดิ้นหยึ๋ยๆด้วย
ได้ผลลัพธ์ดีกว่าเห็นๆ!
ทั้งสามหันหลังให้คลาร่าและก้าวต่อไปข้างหน้าโดยเมินเสียงโอกครวญของคลาร่าเพื่อสวัสดิภาพของตาและร่างกายในอนาคต
พวกเขาเดินมาตามอุโมงค์ที่ทอดยาวมาตลอดทาง เมื่ออยู่ในร่างนี้อุโมงค์ใต้ดินนี้ก็ดูสูงใหญ่เกินจำเป็น และพวกเขาเองก็เชื่อว่าถ้าอยู่ในร่างปกติมันก็ใหญ่เกินไปอยู่ดีนั่นแหละ
ยิ่งไปกว่านั้น ตามผนังและเสาในอุโมงค์นี้ก็มีรูปปั้นประดับชวนขนหัวลุกอยู่เต็มไปหมด ลางสังหรณ์ของแต่ละคนส่งเสียงดังกวนใจจนอยู่กันไม่เป็นสุข
เซบขยับตัวเบาๆอย่างอึดอัด แต่ขาของเขาก็ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่รู้เพราะอะไร ตั้งแต่เจอรูปปั้นตนแรกเป็นต้นมา เขาก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา...
พวกเขาคงไม่ซวยขนาดเจอพวกการ์กอยล์หรอกใช่ไหม?
เซบคิดในแง่ดีขณะที่นัยน์ตาสีทองกลอกมองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง ส่วนเซย์และวิเวียนที่เดินอยู่ด้านหลังเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน
แต่เหมือนความหวังของเซบจะริบหรี่ลงทุกที เมื่อยิ่งเดินลึกเข้ามาเท่าไหร่ความรู้สึกเหมือนถูกจ้องนั้นก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีเสียงอะไรบางอย่างตามพวกเขามาตลอดทาง...
เซบชะงักเท้าลงในที่สุด เขาหันไปมองอีกสองคนที่มองมาด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน
เซย์กีสยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่ง ขณะที่วิเวียนดูมีสีหน้ากังวล ตาของเธอลอกแลกไปมาเหมือนระแวดระวังตัวสุดขีด ซึ่งเซบเองก็ไม่ค่อยแปลกใจที่เธอจะเป็นแบบนั้น
“วิเวียน หลบไปก่อน” เซบเอ่ยพลางพยักเพยิดไปทางหลังเสาต้นหนึ่งที่เขาเห็นว่าไม่มีรูปปั้นประดับอยู่บริเวณนั้น
วิเวียนพยักหน้ารับแล้ววิ่งเร็วๆไปหลบอยู่หลังเสาตามที่เซบบอก ส่วนเซบและเซย์กีสก็ตั้งท่า กางขาทั้งสี่ยืนจังก้าให้มั่นพร้อมรับมือกับสิ่งที่กำลังตามมา
แต่กๆๆๆ
เสียงประหลาดดังมาจากด้านบนทำให้เซบต้องอาศัยนัยน์ตาและหูของสุนัขจับตำแหน่ง และเมื่อมองขึ้นไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งก็คือบนเพดานด้านบนที่ห่างจากจุดทีเขายืนอยู่พอสมควร ณ จุดๆนั้นปรากฏร่างของปีศาจรูปร่างประหลาดตนหนึ่ง ผิวของมันเป็นสีเทากลืนไปกับหินรอบด้านที่สร้างเป็นอุโมงค์ ปีกที่คล้ายปีกค้างคาวไม่ได้ดูอ่อนนุ่มเปราะบางเหมือนปีกของปีศาจทั่วไป แต่กลับดูทั้งแข็งและเป็นแพทั้งยังดูกระด้างเหมือนถูกสร้างจากหิน...
มันคือสิ่งที่เซบไม่อยากเจอเป็นที่สุดในสถานที่แบบนี้
เหมือนจะไม่จำกัด แต่เอาจริงๆมันกลับไม่มากพอให้หลบพวกการ์กอลย์...
รูปปั้นปีศาจที่จะมีชีวิตในยามค่ำคืน แม้จะดูเหมือนเป็นช่วงเวลาที่สั้น แต่มันก็มากพอให้พวกมันตามฆ่าล้างทำลายปีศาจได้หลายตน และยิ่งมีมากมายมหาศาลเช่นนี้...
พวกเขาที่มีกันแค่สามคนจะรอดไปได้ไหมนี่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ ไหวพริบ และที่สำคัญที่สุดคือ ‘ดวง’ เท่านั้น....
ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด การ์กอยล์ตรงหน้าพวกเขานี่มีมากกว่าสามสิบตน บางทีอาจจะมีเป็นร้อยแต่พวกเขามองไม่เห็น แต่มันก็มากพอให้พวกเซบรู้สึกขนพองสยองเกล้าด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของการ์กอยล์ที่นอกจากจะแปลกประหลาดยังชวนให้รู้สึกสะพรึงกลัวด้วย
เซบจดจ้องคอยระวังการ์กอยล์ที่ตีวงล้อมมาทั้งทางด้านบน ทางอากาศและทางพื้น ส่วนเซย์กีส เขาบอกเลยจริงๆว่าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรอยู่ แค่ต้องคอยแบ่งสมาธิสังเกตพวกการ์กอยล์ก็ทำให้เขามึนจะตายอยู่แล้ว
และแล้วก็มีการ์กอยล์ตนหนึ่งดีดตัวเข้ามาหาเขาจนได้!
เซบเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆให้โดนจู่โจม เขาใช้กำลังขาดีดตัวขึ้นจากพื้น รวบรวมกำลังให้มากกว่าตอนจัดการกับพวกผีดิบอีกสามเท่าตัวแล้วจึ้งตะหวัดกรงเล็บออกไป!!!
พลังกรงเล็กของเขาโดนเป้าหมายอย่างจัง แต่สิ่งที่ได้เห็นหลังจากเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงแล้วกลับเป็นร่างของการ์กอยล์ที่มีร่องรอยของกรงเล็บเขาอยู่ แต่มันก็ยังไม่มากพอให้มันหยุดการเคลื่อนไหวลงได้...
หลังจากนั้นการ์กอยล์โดยรอบก็พุ่งเข้าหาเซบที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศจนร่างของเขาพุ่งหลาวลงสู่พื้นโดยมีการ์กอยล์ต่อสู้พัวพันมาด้วย
แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการปะทะลงสู่พื้นของเซบทำให้แม้แต่วิเวียนก็ยังสะดุ้ง
เซบรู้สึกทั่วร่างปวดหนึบด้วยแผ่นหลังทั้งหมดกระแทกลงบนพื้นหินโดยแรง ยิ่งตอนนี้ร่างทั้งร่างถูกพวกการ์กอยล์จับยึดตรึงจนติดแน่นกับพื้นเขาจึงยิ่งขยับไม่ได้
ทำไมการ์กอยล์พวกนี้องมารุมเขาคนเดียวด้วยเนี่ย!!!?
กี๊ส!!!
เสียงนั้นพาให้เซบต้องรีบสะบัดหน้าไปมอง ทันเห็นร่างสีเทาๆร่างหนึ่งพุ่งหลาวลงมากระแทกลงสู่พื้นจนเกิดเสียงดังสนั่นประกอบกลุ่มควันฝุ่นที่คลุ้งขึ้นมา
การ์กอยล์ที่อยู่รอบๆเขาส่งเสียงดังแสบแก้วหูแล้ววิ่งเข้าไปหาร่างของการ์กอยล์ที่ร่วงลงมา ส่วนเซบก็รีบอาศัยจังหวะนี้พลิกตัวลุกขึ้นก่อนจะสะบัดหัวด้วยความมึนงงแรงๆเสียทีหนึ่ง
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เสียงเรียบๆที่ดังเข้าใกล้มาทำให้เซบต้องรีบหันไปมองทั้งสภาพหัวเบลอๆจนเขาต้องหรี่ตาลงอย่างช่วยไม่ได้
แต่ก็ยังเห็นได้เพียงว่าเป็นร่างลางๆสีแดงที่มีปีกใหญ่เบ้อเร่ออยู่บนหลัง ไม่เข้ากับขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เซย์...?”
“อ่าฮะ” อีกฝ่ายคล้ายจะพยักหน้าทีหนึ่งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วใช้ศีรษะดันเซบ “รีบไปต่อเถอะ ถ่วงเวลาได้ไม่นานหรอกนะ”
“รู้แล้ว...” เอ่ยจบเซบก็เดินมึนๆไปทางวิเวียนที่รีบกระโดดผลุงออกมาตามด้วยเซย์ที่รีบเก็บปีกเสียมิด
อยากถามจริงๆว่าทำไมไม่ใช้ตั้งแต่แรก...
เซบเลื่อนดวงตามองไปทางเซย์กีสที่พับปีกเก็บและวิ่งอยู่ข้างๆเขาด้วยสายตาคาดโทษ เป็นเหตุให้เซย์กีสต้องหันมา ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นน้อยๆ
“อย่ามองข้าอย่างนั้น ข้าเองก็เพิ่งรู้ว่าร่างนี้ใช้ปีกได้เหมือนกัน”
เอาเถอะ...บางครั้งเขาก็ขี้คร้านจะซักถามให้มากความ เดี๋ยวก็มาหาว่าเขาเรื่องมากอีก...
...อันที่จริงก็....
...กลัวเถียงแพ้นั่นแหละ
เฮ้อ...
เกิดเป็นเซบมันก็เสียเปรียบมันทั้งขึ้นทั้งล่องนั่นแหละ...
_________________________________________________________________________________________________
ไรท์กลับมาอัพตอนที่สิบแล้วค่าหลังจากหายไปเป็นเดือน
สารภาพว่าถ้าเพือ่นไม่ตามไรท์ก็ไม่รีบมาปั่นค่ะเพราะอยู่ในช่วงค่อนข้างตัน ฮ่าๆๆ
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตอนนี้ตัวละครที่เหมือนจะเป็นตัวร้ายนี้ก็คงไม่ต้องเดากันเท่าไหร่แล้วสำหรับคนที่จำตัวละครได้(?)
เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่จำตัวละครไม่ได้ แนะนำให้เปิดหน้าแนะนำตัวละครควบไปกับการอ่านด้วยนะคะ 5555
ต่อมาก็ขอมาฝากเพจอีกครั้งเพื่อความสะดวกในการตามนิยา-----
ความคิดเห็น