ฟิควาเลนไทน์บารามอส : หัวขโมยแห่งเวนอลกับมงกุฏแห่งเจมิไน - ฟิควาเลนไทน์บารามอส : หัวขโมยแห่งเวนอลกับมงกุฏแห่งเจมิไน นิยาย ฟิควาเลนไทน์บารามอส : หัวขโมยแห่งเวนอลกับมงกุฏแห่งเจมิไน : Dek-D.com - Writer

    ฟิควาเลนไทน์บารามอส : หัวขโมยแห่งเวนอลกับมงกุฏแห่งเจมิไน

    เป็นแฟนฟิคของเรื่องหัวขโมยแห่งบารามอสนะคะ รับวันวาเลนไทน์.....

    ผู้เข้าชมรวม

    2,214

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    2.21K

    ความคิดเห็น


    38

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.พ. 48 / 19:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ชื่อเรื่อง : หัวขโมยแห่งเวนอลกับมงกุฏแห่งเจมิไน

      ประเภท : กึ่งหวาน(มั้ง)

      ช่วงเวลา : ไม่รุอ่า เอาเป็นว่า นอกบทละกัน (เพราะในฉากยังเป็นเจ้าหญิงไม่ใช่จักพรรดินี)

      Note: นึกพล็อตเรื่องตอนไปอยู่ค่าย แต่เพิ่งจะมาเขียนได้ตอนใกล้ลง ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆผู้ สนับสนุนตอนนั่งรถไปค่าย ที่ช่างสร้างความปวดหัวให้เราจนต้องหยิบสมุดขึ้นมาเขียนอันได้แก่ ท่านเซอร์เซนเบอร์นานด์ ท่านเคาท์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ ท่านไวท์เคาท์ชิกสุ (ชื่อเพื่อนๆเราทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องคิดมาก 55+ ที่รร. มันเรียกกันยังงี้แหละ )


      “ รุกฆาต ” เสียงหนึ่งประกาศชัยชนะ

      “ ฮึ…ไม่เล่นแล้ว พี่หญิงเล่นที่เผลอนี่นา ” เสียงเจ้าหญิงคนสวยแห่งเวนอลดังขึ้นอย่างไม่ยอมรับว่าแพ้

      “ อะไรกัน เจ้าหญิงชวนผมเล่นเองนี่ ” หัวขโมยตัวแสบว่าพลางหัวเราะ

      “ ก็หญิงไม่รู้จะทำอะไรนี่นา ” เจ้าหญิงวิเวียนเบ้ปากอย่างเคยนิสัย เวลาถูกขัดใจ

      “ เฮ้อ…..อุตส่าห์มาเอดินเบิร์กทั้งที แทนที่จะไปเดินชมเมือง กลับมาชวนผมเล่นหมากรุกซะนี่ ” หัวขโมยตัวแสบลูบแผลเป็นใต้ตาซ้ายอย่างเคยชิน

      “ ก็หญิงรอ…..”

      “ รอเจ้าชายคนเก่งแห่งเจมิไนมาพาไป…..”  คนชอบแกล้ง ล้อเจ้าหญิงวิเวียนจนสีหน้าแดงเรื่อไปหมด

      “ พี่หญิงบ้า….”  คนถูกรู้ทันบิดผ้าเช็ดหน้าไปมาเสียจนเกือบขาด !

      “แล้วจริงไหมล่ะ…..เฮ้อ พี่โรเวนเนี่ยน้าก็ใจแข็งชะมัด มีสาวสวยมาหาถึงที่ ยังไม่ยอมมาต้อนรับอีก”

               …… ….หลังจากที่เจ้าหญิงวิเวียน   นานาย่า แห่งเวนอล  เสด็จมาเยือนเมืองเอดินเบิร์กอย่างไม่เป็นทางการ ด้วยเหตุผลหลักคือ เป็นทูตเจริญสัมพันธไมตรี และด้วยเหตุผลรองคือ มาหาเจ้าชายคนสำคัญในโรงเรียนพระราชา…….

                           เจ้าหญิงคนงามอุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่อย่างยากลำบาก แต่คนที่อยากพบกลับไม่โผล่มาให้ เห็นหน้าเลยแม้แต่น้อย ดังจงใจจะหลบหน้ายังไงยังงั้น    ฮึ่ม….มันน่านัก….

      “ หญิงไม่ได้มาหาเจ้าพี่ซะหน่อย….”  คนปากแข็งรีบปฏิเสธพัลวันเมื่อถูกพาดพิงไปถึงคนใจแข็ง

      “ เอาน่าเจ้าหญิง ผมเข้าใจ….. ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้ เพื่อความสมานฉันท์แห่งเวนอลและเจมิไน  บารามอสจะยอมเป็นพ่อสื่อให้ละกัน…..” เมื่อพูดจบ เดอะทีฟตัวดีก็วิ่งปรู้ดออกจากห้องไป  โดยไม่ทันได้ดูสีหน้ามะเขือเทศสุกราดซอสเคลือบเฮลบลูบอยด์สีแดงของเจ้าหญิงปากแข็ง…….

      +++++++++++++++++++++++++++

               “ เฮ้…โรเวน มีจดหมายถึงนายแน่ะ ” บุรุษนามไธนอสก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับจดหมายสีขาวหนึ่งฉบับ

      “ อะฮ้า….จดหมายรักจากสาวป้อมไหนล่ะนี่ อีกพรุ่งนี้ก็จะวันวาเลนไทน์แล้วนิ ”  ซาตานหนุ่มแซวยิ้มๆ

      เจ้าชายโรเวนขยับรอยยิ้มเล็กน้อยในการจับจุดกระเซ้าแหย่เขา ‘เฮ้อ….กะล่อนพอกับเฟรินเลย’ โรเวนคิดในใจ  ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบจดหมาย

      “ …….. ”  สีหน้าเจ้าชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที เมื่ออ่านจดหมายจบ เนื้อความในจดหมายมีผลกระทบต่อชีวิตอันสงบสุขของเขาเป็นอันมาก จดหมายประทับตราปราชญ์เลโมธี !
        
      ปราชญ์เลโมธีสั่งให้เขาคอยอารักขาเจ้าหญิงวิเวียนแห่งเวนอล ที่เสด็จมาเยือนเอดินเบิร์ก โดยจะพักร่วมกับนักเรียนในป้อมอัศวินในโรงเรียนพระราชา  ดังนั้น เขาในฐานะรุ่นพี่ของป้อมอัศวิน และเป็นหนึ่งในสภาสูงด้วย  ก็เลยต้องรับเคราะห์ไป

      นอกจากจะคอยอารักขาแล้ว เขายังต้องคอยดูแล เทกแคร์ นำเที่ยว ให้แม่คุณเธออีกด้วย โอ้…! สวรรค์กลั่นแกล้ง

      ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก

      เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่เดอะทีฟตัวแสบจะโผล่หน้าเข้ามาในห้องอย่างไม่รอคำอนุญาต  เจ้าตัวยุ่งเดินตรงเข้ามาหาท่านเสธ.ฝ่ายซ้ายที่นั่งอยู่กลางห้องกับเพื่อนๆร่วมชั้นปี

      “ มีอะไรเหรอเฟรี่ ” เดอะซอเซอร์เรอร์หนุ่มขยับแว่นเล็กน้อย ก่อนจะยกน้ำชาขึ้นมาจิบด้วยรอยยิ้ม

      “ อ๋อ….ผมพาเจ้าหญิงวิเวียนมาส่งให้พี่โรเวนฮะ ” พูดจบเจ้าหัวขโมยตัวแสบก็ชี้ไปที่ประตู

      “ เจ้าหญิงวิเวียน ? ” นักบวชหนุ่มข้างๆเอ่ยทวน

      “ ใช่ฮะ ตามในจดหมายนั่นไง ” เจ้าตัวดีชี้ไปที่จดหมายในมือเดอะเมจิคปรินส์

      ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าต้นเหตุของเรื่องจะมาจากใคร ‘ เดอะ เมจิคทีฟ ออฟ บารามอส ’ นั่นเอง…….

      ++++++++++++++++++++++++++++

      “ ท่านอยากไปที่ใด ” เจ้าชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างเว้นระยะห่าง

      “ ที่ใดก็ได้เพคะ สุดแล้วแต่พระทัย ”  เมื่อเขาทำตัวเหินห่างขนาดนี้ แล้วไย เราจะต้องไปแคร์ด้วยเล่า

      “ ท่านเป็นคนอยากเที่ยว คงต้องแล้วแต่ท่าน หม่อมฉันคงจะไปตัดสินแทนไม่ได้ เพราะหม่อมฉันไม่ใช่ คนสนิท  ของท่าน ”

      ดูสิดู พูดเหมือนกับว่าที่มานำเราเที่ยวนี่ เป็นการฝืนใจเสียเหลือเกิน…….

      เรามันเป็นตัวน่ารังเกียจมากเลยใช่ไหม……..

      ในสายตาของเจ้าพี่  เราเป็นตัวอะไรกันแน่…….

      ไม่ใช่ คนสนิท งั้นเหรอ ใช่สิ…. เรามันไม่ได้ไปสนิทสนมอะไรด้วยนี่นา……

      เลยมาทำเหมือนว่าไม่รู้จักกัน….. งั้นหรือ……

      “ ถ้าเจ้าพี่ไม่อยากนำหญิงเที่ยว ก็บอกมาตรงๆก็ได้ หญิงจะไม่ขอร้องสักคำ ”  เจ้าหญิงคนงามว่า ก่อนจะสะบัดหน้าวิ่งกลับไปที่ห้องของเจ้าของแผนการ  แต่สิ่งที่เจ้าชายคนเก่งไม่ได้เห็นนั้น ก็คือหยาดน้ำตาที่ไหลลงอาบหน้าเจ้าหญิงวิเวียนอย่างสุดจะหักห้าม……..

      ++++++++++++++++++

      “ โอ๋….เงียบซะนะเจ้าหญิง เจ้าชายโรเวนคงพูดออกไปเพราะไม่ได้ตั้งใจมากว่า ” พี่หญิงคนดีกำลังกอดปลอบคนที่เพิ่งถูกกล่าววาจาตัดเยื่อใยมาเมื่อครู่

      “ ไม่จริง เจ้าพี่ลืมหญิงแล้ว เจ้าพี่ไม่เคยเห็นหญิงอยู่ในสายตาเลย ” เจ้าหญิงคนสวยพร่ำพรรณนา ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายฝน

      “ เฮ้อ….รุ่นพี่นี่น้า……. จะทำยังไงต่อดีวะเนี่ย ” เจ้าคนมากแผนการพึมพำอุบอิบ กับแผนของตนที่ ล่มไม่เป็นท่า ซ้ำร้าย น้องสาวคนสวยของเขายังต้องมานั่งร้องไห้พรากๆยังงี้อีก

      “ เอางี้ละกัน ผมจะพาไปพบคนๆนึง รับรองว่าจะต้องช่วยเจ้าหญิงได้แน่….” เฟรินหมายมั่นปั้นมืออย่างมั่นใจ…….

      ++++++++++++++++++++++

      อีกมุมหนึ่ง…………

                      ขอโทษนะ………
      ขอโทษที่ทำให้เสียใจ………………..

      ขอโทษที่ฉันทำท่าทางแบบนั้น…………….

      ฉันรู้…..ว่าคำพูดของฉันทำร้ายจิตใจเธอมากแค่ไหน………….

      แต่ฉันไม่มีทางเลือก….ว่าที่จักพรรดินีแห่งเวนอล………


      ++++++++++++++++++++++++++

      “ จะได้ผลเหรอคะพี่หญิง  คุณเรนอน ”  เจ้าหญิงแห่งเวนอลเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา ในขณะที่มือก็ง่วนอยู่กับการหั่นชอคโกแล็ตก้อน

      “ แน่นอน….เชื่อขนมกินได้  ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็แพ้มารยาหญิง  แค่เอาชอคโกแล็ตนี่ไปให้แล้วออดอ้อนเสียหน่อยนะ รับรองเจ้าชายโรเวนได้ละลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟแน่…..” หัวขโมยผู่ช่ำชองประสบการณ์เอ่ยสอนน้องสาวคนสวย ในขณะที่มือก็ง่วนอยู่กับการจิ๊กเศษชอคโกแล็ตบนเขียงของเจ้าหญิงวิเวียนกิน

      “ ใช่ค่ะ วันวาเลนไทน์นี้ ก็เอาชอคโกแล็ตนี่ไปให้เจ้าชายโรเวนสิคะ ” เจ้าหญิงคนงามแห่งคาโนวาล เอ่ยผสมโรงเข้าไปด้วยทั้งที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว

      “ แต่ถ้าเจ้าพี่ไม่ชอบ……..” เจ้าหญิงแห่งเวนอลหน้าสลดลงอีกครั้ง

      “ ฮื้อ…อย่าตีตนไปก่อนไข้สิ เชื่อผมเหอะน่า เอาเกียรติของหัวขโมยผู้เก่งกาจเป็นเดิมพันเลย ” เฟรินว่าพลางยืดอกกับประโยคปลอบใจ ที่แทรกคำชมตัวเองเข้าไปเฉยเลย

      “ ค่ะ หญิงจะพยายาม……..” เจ้าหญิงคนเก่งฮึดสู้อีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยตบท้ายที่ทำให้หัวขโมยตัวแสบแทบอยากเอาหัวโขกข้างฝา “ แล้วพี่หญิงไม่ทำชอคโกแล็ตให้เจ้าชายคาโล หวานใจพี่หญิงด้วยเหรอคะ…! ”

      +++++++++++++++++++++++++++

      ในวันรุ่งขึ้น……..
                
                            วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันระลึกถึงนักบุญผู้เสียสละ เซนต์วาเลนไทน์………

      ในวันแห่งความรัก  ดอกกุหลาบหลากสีสัน พากันเบ่งบานรับกับอากาศที่สดใส ท้องฟ้าในเช้านี้ช่างเป็นใจยิ่งนัก เมฆลอยบางๆบดบังความร้อนจากดวงอาทิตย์  ท้องฟ้าสีครามทอดกายสงบเคียงข้างสายลมอ่อนๆ นี่แหละ….. บรรยากาศแห่งการจีบสาว……..

      “ นี่ค่ะ ชอคโกแล็ต วีวี่ตั้งใจทำเองสุดฝีมือเลยนะคะ เพื่อรุ่นพี่คนเดียว ” หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มยื่นกล่องรูปหัวใจสีแดงแทบจะถึงตักเจ้าชายคนเก่งแห่งเจมิไน

      “ ขอบคุณ ” เดอะเมจิคปรินส์ขยับรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะวางชอคโกแล็ตกล่องนั้นกองรวมกับกล่องอื่นๆที่เขาได้รับ

      ตั้งแต่เช้า เจ้าชายคนเก่งก็ต้องนั่งอยู่กับที่ คอยรับกล่องชอคโกแล็ตนับไม่ถ้วน จากแม่สาวป้อมต่างๆ ที่ขยันทำมาให้กันซะจริง  พอจะลุกเดินหนี แม่คุณเธอทั้งหลายก็ต้องวิ่งตามส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันให้ แสบแก้วหู  เฮ้อ….ผู้หญิงนี่…….

      “ เป็นไง ทำไมทำหน้ายังงั้นล่ะ ” เดอะวอริเออร์คู่หู   เดินออกมาพร้อมด้วยกาแฟหอมกรุ่นสองแก้ว

      “ ตั้งแต่เช้าฉันยังไม่ได้ลุกไปไหนเลย ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน ” เดอะเมจิคปริ้นส์ตอบพลางยื่นมือไปรับกล่องชอคโกแล็ต จากสาวน้อยปีสี่ปราการปราชญ์

      “ ชอคโกแล็ตนี่ไง  มีตั้งเยอะ ” ท่านเสธ.ฝ่ายขวาบุ้ยใบ้ไปทางกองชอคโลแล็ตที่กองเป็นภูเขาเลากา

      “ ไม่เอาล่ะ ฉันยังไม่อยากเป็นเบาหวานตาย ” เจ้าชายหนุ่มว่าพลางเอื้อมมือไปหยิบกาแฟที่เพื่อนคู่หู อุตส่าห์เอามาให้ ทำให้เขาไม่ต้องทานภูเขาชอคโกแล็ตเป็นอาหาร

      “ แล้วเป็นไง นายได้ชอคโกแล็ตจากแม่สาวคนเมื่อวานรึยัง  ” ไธนอสจิบกาแฟอึกหนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเนือยๆ

      “ นายหมายถึงเจ้าหญิงวิเวียนเหรอ ” โรเวนวางกล่องชอคโกแล็ตล่าสุดก่อนจะหันมาถาม

      “ ใช่….คุณเธอนั่นแหละ เห็นได้ข่าวว่า เมื่อวานวิ่งร้องไห้ไปเลยนิ ” บุรุษนามไธนอสยิ้มขำๆกับสี หน้าปั้นยากของเจ้าชายหนุ่ม

      “ ก็…….ไม่รู้สิ  ” ดูเหมือนท่านเมจิคปรินส์จะนึกคำตอบที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วกระมัง

      “ เอาเถอะ…..นายก็อย่าทำใจแข็งไปเลย สักวันหนึ่งถ้าเค้าไม่อยู่ นายนั่นแหละจะเสียใจ  ” เดอะวอริเออร์หนุ่มพูดสอนก่อนจะหยิบชอคโกแล็ตในกองนั้นขึ้นมากินหน้าตาเฉย

      “ ……… ”

      “ ฉันไปละดีกว่า แล้วก็ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ  ว่าใจแข็งไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย  ” เขากล่าวทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เจ้าชายหนุ่มนั่งคิดอยู่คนเดียว  

      ++++++++++++++++++++++++++++

      อีมุมหนึ่งไม่ไกลจากตรงนั้น………..

      “ เข้าไปสิ เข้าไปเลย แล้วอย่าลืมที่สอนล่ะ ” เดอะทีฟคนเก่งกำลังซักซ้อมแผนการต่างๆอยู่กับเจ้าหญิงแห่งเวนอล

      “ หญิง….หญิงไม่กล้า ” ลูกศิษย์เอกกลับยืนบิดไปบิดมาด้วยความเขินซะนี่ ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเจ้าหล่อนยังบอกว่าทำได้อยู่เลย

      “ ฮื้อ…..กลัวอะไรกัน หรือว่าเจ้าหญิงอยากให้ชอคโกแล็ตนี่เสียเปล่า ”   เจ้าตัวดีเริ่มชักแม่น้ำทั้งหก (ปิง วัง ยม น่าน เจ้าพระยา + ด้วย ป่าสัก ^_^) มาหว่านล้อม

      “ ถ้าเกิดเจ้าพี่ไม่ชอบขึ้นมา……” เจ้าหญิงวิเวียนทำหน้าสลด

      “ จะไปยากอาไร้…..ก็งัดมารยาทั้งหมดที่ซ้อมมานั่นแหละเข้าช่วย มารยาหญิงเค้าว่ากันว่ามีร้อยเล่มเกวียน แต่ไอ้ที่ผมสอนให้น่ะ มันเหนือกว่าน้าน……” หัวขโมยตัวแสบพูดอย่างไม่อายปาก

      “ แต่ว่า……..”

      “ แต่ว่ง แต่ว่าอะไร  เข้าไปเลยสิ ” พูดจบเจ้าหญิงคนเก่งก็ถลาออกไปข้างหน้าด้วยฝีมือพี่หญิงที่แสนดี

      “ วิเวียน….” เดอะเมจิคปรินส์พึมพำอย่างแปลกใจ(ระคนดีใจอ๊ะป่าว)เมื่อเห็นคนตรงหน้า

      “ จ…เจ้าพี่ ค…คือ หญิงเอาช…ชอคโกแล็ต ม…มาให้…. ” เจ้าหญิงคนงามพูดตะกุกตะกักด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ  ก่อนจะยื่นกล่องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่บุภายนอกด้วยผ้าสีน้ำเงิน-ทองให้คนตรงหน้า

      ส่วนคนชักใยแผนการนี้น่ะเหรอ ก็ยืนกุมขมับอยู่ตรงมุมตึกน่ะสิ เวรกรรม !…อุตส่าห์ซ้อมมาซะดิบดี ดันมาตกม้าตายตอนจบ  ผู้หญิงหนอผู้หญิง……..

      “ ขอบพระทัย แต่หากลำบากนัก คราวหลังไม่ต้องก็ได้ ”  เจ้าชายแห่งเจมิไนยื่นมือไปรับก่อนจะวางกองรวมกับชอคโกแล็ตกล่องอื่นๆ (โห…..ดูพี่ท่าน พูดตัดเยื่อใยซะ)

      “ เจ้าพี่….”  เจ้าหญิงวิเวียนอุทานอย่างช้ำใจ ก่อนจะวิ่งจากไปพร้อมน้ำตา………..

      ใจร้าย……

      เจ้าพี่ใจร้ายนัก………

      ทำไมเจ้าชายแห่งเจมิไนถึงได้แล้งน้ำใจเช่นนี้………..

      ทำไมต้องพูดตัดเยื่อใยกันขนาดนี้ด้วย……….

      ทำไม…………

      +++++++++++++++++++++++++++++

            คล้อยหลังจากเจ้าหญิงแห่งเวนอลไปไม่เท่าไหร่ สองคู่หูซาตาน-นักบวช  ก็เดินเข้ามาหาเจ้าชายคนเก่งแห่งเจมิไน พร้อมด้วยใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์  แย้มยิ้ม-บูดบึ้ง

      “ โอ้โห ได้ชอคโกแล็ตเยอะเหมือนกันนี่นา ” ซาตานหนุ่มรี่เข้าไปที่กองชอคโกแล็ตข้างกายเดอะเมจิคปรินส์

      “ ก็….. นี่ล่ะคือปัญหา ” เดอะปรินส์คนเก่งว่าพลางถอนหายใจ

      “ งั้นขอฉันบ้างสิ  ตั้งแต่เช้าได้ไม่กี่กล่องเอง ไม่เหมือนหมอนี่ ได้เป็นสิบ ” ว่าแล้วก็บุ้ยใบ้ไปทางนักบวชหน้าบูดข้างตัว

      “ เอาสิ  เอาไปให้หมดเลย ฉันไม่กินหรอก ” เจ้าชายหนุ่มพูดยิ้มๆก่อนจะดันกองชอคโกแล็ตให้ออกไปไกลตัว

      “ จริงนะ  งั้นก็ดี นายช่วยกันแบกหน่อยสิลอรี่…..”

      เฟี้ยว ฉึก !

      “ ตัวใครตัวมัน ” เดอะพรีสหนุ่มหันมาตีหน้ายักษ์ใส่

      “ ว้า….ใจร้าย งั้นฉันเอาไปละนะ ” ลูคัสว่าพลางเก็บชอคโกแล็ตใส่ถุงที่ไม่รู้ไปเตรียมมาจากไหน

      “ อืม…อ๊ะเดี๋ยว ฉันขออันนี้ไว้ซักอันละกัน ” เดอะเมจิคปรินส์ว่าพลางหยิบชอคโกแล็ตกล่องหนึ่งขึ้นมาจากกอง

      “ หืม….ของใครหว่า…ถ้าเจ้าของรู้คงดีใจตายเลย ” ซาตานหนุ่มว่าพลางมองพิจารณา กล่องชอคโกแล็ตในมือเมจิคปรินส์ รูปทรงก็สี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา สีกล่องก็น้ำเงิน-ทอง ดูเรียบๆ ไม่เห็นจะมี อะไรสะดุดตาเลย

        “ ของคนสำคัญสินะ ” เดอะพรีสหนุ่มที่นิ่งเงียบไปเปรยขึ้น ทั้งที่จริงมันควรจะเป็นหน้าที่ลูคัสเสียมากกว่า

      “ เปล่าหรอก แค่อยากลองกินดูน่ะ ” โรเวนขยับรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะขยับโบว์บนกล่องเล่น

      “ งั้นฉันไปดีกว่า จะไปรอรับดอกกุหลาบจากสาวๆ ” ซาตานหนุ่มแบกถุงพาดไหล่ ก่อนจะเดินจากไปพร้อมรูมเมทคู่หู

      “ นั่นสินะ อาจจะเป็น…..ของคนสำคัญก็ได้ ” เจ้าชายหนุ่มหลุบสายตาลงช้าๆก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้ด้วยจิตใจเลื่อนลอย

      ++++++++++++++++++++++++++++++

      “ เจ้าพี่…เจ้าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับหญิงจริงๆ ฮึก…ฮึก ” เจ้าหญิงแห่งเวนอลร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

      “ โอ๊ย….เวรกรรม อะไรมันจะใจแข็งปานนี้ว้า…. ” เจ้าคนมากแผนการก็ถึงกับต้องเดินกุมขมับอยู่ รอบๆ

      “ หญิง…หญิงไม่เอาแล้ว หญิงจะกลับเวนอล ….ฮือ…..” เจ้าหญิงวิเวียนประกาศด้วยน้ำเสียงที่ฟังดู เหมือนขัดกับใจตนเองเสียนี่

      “ ใจเย็นๆสิเจ้าหญิง จะไปพึ่งใครดีวะ ไอ้คิลก็ไม่ได้เรื่อง ไอ้คาโลยิ่งไม่เป็นสับประรดเข้าไปใหญ่  ” ยิ่งพูดยิ่งพาดพิงไปถึงชาวบ้านเขาอย่างไม่
      รู้ตัว

      “ ไม่รู้แล้วหญิงจะกลับเวนอล ” ส่วนแม่คุณเธอก็ยังยืนยันท่าเดียวว่าจะกลับ

      “ ด…เดี๋ยวสิเจ้าหญิง ” ไอ้คนห้ามนี่ยิ่งแล้วใหญ่  สร้างแต่แผนการชวนปวดหัว ทำตัวเป็นศิราณีรับปรึกษาปัญหาหัวใจ แต่อนิจจา…..สงสัยคงต้องเปลี่ยนงานแล้วล่ะท่าน

      “ หญิงจะกลับเวนอลเย็นนี้ ” เจ้าหญิงแห่งเวนอลประกาศก่อนจะลุกออกจากห้องไปอย่างสุดทัดทาน

      ++++++++++++++++++++++
            
                    เพียงไม่นาน ยามรัตติกาลแห่งวันก็มาเยือน ท้องฟ้ายามราตรีทาทาบไปด้วยสีดำสนิท ดวงจันทร์ในยามนี้ช่างดูหม่นหมอง หากแต่ยังคงมีดวงดาวทอประกายสุกใส ช่วยให้ฟากฟ้าดูน่าพิสมัยยิ่งขึ้น

      เกวียนคันงามแห่งเวนอลเทียมด้วยม้าสายพันธุ์ดีหกตัว ตั้งตระหง่านรอการเสด็จกลับขององค์หญิงผู้ เป็นนายอยู่ในลานตะวันของป้อมอัศวิน  หลังจากที่เจ้าหญิงคนงามแห่งเวนอลก้าวย่างขึ้นสู่ในตัวเกวียนเรียบร้อยแล้ว เกวียนเล่มงามก็พร้อมที่จะออกเดินทางทุกเมื่อ

      “ ลาก่อน…..เจ้าพี่ …….ออกเกวียนได้  ” ประโยคสุดท้ายหันมาสั่งผู้คุมเกวียน หลังจากพึมพำถึงใครบางคน ที่เคยตราหน้าว่าแล้งน้ำใจ

      เกวียนเล่มงามขับเคลื่อนไปยังไม่ทันจะพ้นประตูป้อมดี ก็ปรากฏเงาร่างสูงเข้ามายืนขวางอยู่

      “ ใครน่ะ ” เจ้าหญิงคนงามแห่งเวนอลตรัสถาม ก่อนจะเสด็จลงจากเกวียนมาประทับอยู่ข้างล่าง

      “ เจ้าหญิงวิเวียน ท่านยังไปจากที่นี่ไม่ได้ ” เสียงจากชายหนุ่มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากความมืด ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวออกมาจากความมืด

      \"เจ้าพี่….ทำไมหม่อมฉันถึงไปไม่ได้  ” วิเวียนอุทานก่อนที่ประโยคหลังเริ่มเสียงแข็งขึ้น

      “ เพราะท่านทำผิดกฏของป้อมอัศวิน ข้อหาลักขโมย ! ” เจ้าชายหนุ่มว่าข้อกล่าวหาขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน

      อะไรกัน…………….

      ทำไมมากล่าวหากันอย่างนี้…………

      ทำให้เราช้ำใจไปสองรอบแล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้อีกหรือ……….

      เจ้าหญิงคนสวยแห่งเวนอลถึงกับตะลึงกับข้อกล่าวหา

      “ ทำไมถึงมากล่าวหากันอย่างนี้ หม่อมฉันขโมยอะไรไป ” เจ้าหญิงคนสวยว่าอย่างช้ำใจ น้ำตาที่เริ่มเก็บไว้ไม่อยู่ ก็ทะลักออกมาอย่างช่วยไม่ได้

      นัยน์ตาของเจ้าชายคนเก่งเริ่มทอแสงอ่อนโยน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือทั้งสองของแม่สาวตรงหน้ามากุมเอาไว้  

      “ ท่านขโมย…..หัวใจ ของฉันไป ท่านได้หัวใจไปทั้งดวง หัวใจและความรักทั้งหมดที่มี  ” เจ้าชายคนเก่งกระซิบอย่างแผ่วเบา ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มหู

      “ เจ้าพี่……” เจ้าหญิงวิเวียนพึมพำอย่างตกใจระคนดีใจ ก่อนที่ผิวหน้าขาวๆจะร้อนผ่าวและแดงซ่านไปทั่วใบหน้า

      “ หัวใจที่ได้ไป ฉันไม่ขอคืนนะ แต่อยากจะขอให้ช่วยดูแลรักษามันไว้….ตลอดไป…. ได้ไหม ” เดอะเมจิคปริ้นส์กระซิบที่ข้างหูอีกฝ่าย

      “ พ…เพคะ ” เจ้าหญิงคนงามตอบรับด้วยความเขินอาย

      “ รับนี่ไว้ด้วยนะ ” เจ้าชายหนุ่มว่า ก่อนจะบรรจงสวมสร้อยไข่มุกแสงจันทร์เม็ดงาม เข้าที่คองามระหงของสาวน้อยข้างกาย

      “ ไข่มุกแสงจันทร์นี่……”

      “ ใช่…ของหมั้นจากเจมิไน วันนี้คงได้เพียงเท่านี้ แต่วันหน้า จะเปลี่ยนเป็นมงกุฎของราชินีแห่งเจมิไนแทนละกัน ” เดอะเมจิคปรินส์ทอดน้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น  ด้วยสัตย์สัญญา

      “ หญิง….หญิง….ขอบพระทัยเพคะ ” เจ้าหญิงองค์น้อยโผเข้าสู่อ้อมกอดของคนตัวโต ที่เคยสนิทชิดเชื้อตั้งแต่เยาว์วัย

      “ ถือว่าเป็นของตอบแทนชอคโกแล็ตเมื่อเช้าละกันนะ อร่อยมากเลยล่ะ ” เจ้าชายหนุ่มกระซิบข้างหู เจ้าของชอคโกแล็ต

      “ เจ้าพี่ทานชอคโกแล็ตนั่น ” หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวก็พลันพองโต แผนการของพี่หญิงนี่…..ไม่เสียเปล่าจริงๆ

      “ ใช่ ไม่กินได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อมันเป็นของคนพิเศษนี่…..ของคนพิเศษที่ได้ครอบครองหัวใจของคนๆนี้ไงล่ะ ” เดอะเมจิคปรินส์กระซิบอีกทีที่
      ข้างหู ก่อนจะโน้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากของเจ้าหญิงอันเป็นที่รัก……..

      ใช่…..คนพิเศษ………….

      มีแต่เธอเท่านั้นที่เป็นคนพิเศษ…………

      คนที่จะครอบครองหัวใจของเจ้าชายคนนี้ได้…………….

      คนที่เป็นหนึ่งเดียวในความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันมี…………………

      คนที่……คู่ควรกับมงกุฏราชินีแห่งเจมิไนเท่านั้น…………

      เจ้าหญิงวิเวียน  นานีย่า  หัวขโมยแห่งเวนอล  เก่งกาจถึงขนาดขโมยได้แม้กระทั่งหัวใจของเดอะเมจิคปรินส์คนนี้……………

      ดังนั้น……จึงมีเพียงเธอเท่านั้น ที่ฉันจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้……ด้วยหัวใจของฉันเอง…………..

                                                                                                                     ~ END ~

      --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

      คุยกันนิดนึง
      ก็อย่างที่บอก ว่าเพิ่งเร่งเขียนเมื่อวาน เนื้อเรื่องก็อาจดูแปลกๆไปสักนิด หรืออาจจะดีไม่เท่าคนอื่น แต่ว่าขอฝากเรื่องนี้ไว้สักเรื่องละกันนะคะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×