ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กับดักรักกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่13 แค่แมวเฝ้าปลาย่าง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 496
      30
      7 ม.ค. 64

    บทที่13 แค่แมวเฝ้าปลาย่าง

    แววตาปลาบปลื้ม​ระคนหลงใหลปานอยากจะกลืนกินที่ถูกส่งมาไม่ได้ทำให้ร่างที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อรู้สึกเคอะเขินหรือรู้สึกแปลก​ ๆ​ ใดๆทั้งสิ้น​ มันชินชาเสียแล้ว...ก็อีกฝ่ายเล่นมองเขาแบบนี้ทุกครั้งที่เจอเลยนี่นา

    “อะแฮ่ม” คนถูกมองด้วยสายตาแทบจะกลืนกินกระแอมก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายชักจะมองเขานานเกินไปแล้ว​  “ตกลงน้องมะนาวมาทำอะไรแต่เช้าครับ?”   

    น้ำเสียงเข้มๆแต่สุภาพของยุทธการทำให้คนแทะโลมทางสายตาจำต้องเรียกสติกลับมาและเอ่ยตอบออกไป​ “ได้ยินว่าพี่ผู้การเจ็บตัวมา​ วันนี้มะนาวเลยมาเยี่ยมแล้วก็ทำแกงเขียวหวาน​ ผัดกระเพรา​ แล้วก็ไข่ดาวมาให้ค่ะ” 

    “ขอบคุณครับ​ ที่จริงไม่เห็นต้องลำบากเลย​ พี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” 

    “ได้ไงล่ะค่ะ​ มะนาวเป็นห่วงพี่ผู้การนี่​ อะไรพอจะทำเพื่อพี่ผู้การได้มะนาวก็อยากทำ” สาวผู้หิ้วปิ่นโตมาให้อย่างมนสิตาตอบกลับพร้อมกับหลงเคลิ้มไปกับใบหน้านิ่ง​ ๆ​ของชายหนุ่ม​ ยุทธการเป็นคนไม่ค่อยยิ้มหรือหัวเราะ​แต่ก็ยังดูน่าหลงใหล​ ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะกลืนกินผู้ชายคนนี้เข้าไปทั้งตัว​ คนอะไรก็ไม่รู้​ หล่อก็หล่อ​ เข้มก็เข้ม​ หน้าที่การงานก็ดี​ เจอทีไรเธอล่ะแทบจะละลายลงไปทุกที​ นี่ขนาดเคยมีลูกมีเมียมาแล้วนะเนี่ย...น่ากินอ่า

    ขณะที่หนึ่งหนุ่มกำลังยืนนิ่งส่วนหนึ่งสาวกำลังตกอยู่ในห้วงหลงใหล สาวรูปร่างบางที่ตรงปรี่ออกมาจากในบ้านก็ตรงมาหาทั้งคู่ด้วยชุดนอนที่ดูคล้ายกับเสื้อเชิร์ตผู้ชายมากกว่าผู้หญิง...มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เธอใส่ชุดนอนแบบนี้ แต่คงจะมีคนไม่คิดเหมือนเธออยู่

    “มอนิ่ง”  หญิงสาวส่งเสียงขึ้นเมื่อเข้าไปใกล้ ทันทีที่เห็นมนสิตาก็ออกอาการตะลึงและดีดตัวออกห่างจากยุทธการทันทีราวกับชายหนุ่มเป็นของร้อน

    “มะ มอนิ่งค่ะพี่หมอจี๊ด มาแต่เช้าเชียวน๊า”

    “ไม่ได้มาแต่เช้าหรอก พี่มาตั้งแต่คืนวานแล้ว” จิรัชยาตอบกลับก่อนจะขยับเข้าใกล้ชายหนุ่มและยกมือขึ้นคล้องคอยุทธการราวกับคนรักกัน

    “ยักษ์ลุกไปตอนไหนอะ ไม่เห็นปลุกจี๊ดเลยแบบนี้จะโดนทำโทษนะรู้มั้ย”

    “นะ นี่ ๆ นี่พี่หมอจี๊ด อร๊ายยยย” คนที่ทั้งฟังทั้งสังเกตไม่อาจคิดไปในทางอื่นได้เลยนอกจากจิรัชยาอยู่กับยุทธการ...ทั้งสองนอนห้องเดียวกันอย่างนั้นสินะ

    แบบนี้ใครจะไปทนได้ล่ะ...แมวที่เฝ้าปลาย่างไว้ขโมยปลาย่างไปกินเองแบบนี้ได้ไงอะ

    “พะ พี่หมอจี๊ดจะมาคาบพี่ผู้การไปกินเองแบบนี้ไม่ได้นะ”

    “อะไร ทำไมจะไม่ได้ ตำรวจจะจับเหรอ?” คนที่ต้องการให้มนสิตาเข้าใจไปอย่างนั้นถามขึ้นอย่างกวนประสาท

    “ไม่จับหรอก แต่ไม่ได้ มะนาวไม่ยอม”

    “ไม่ยอมแล้วจะทำไม...จะตบเหรอ” หญิงสาวไม่พูดเปล่ายังง้างมือให้มนสิตาเห็นอีกด้วย  มือตบประจำถิ่นที่เคยโดนสอยมาแล้วด้วยฝีมือของคุณหมอผ่าตัดสาวถึงกับขัดใจแต่พูดไม่ออก ในที่สุดจึงทำได้แค่กระทืบเท้าใส่และร้องกรี๊ดกร๊าดชวนให้แสบแก้วหู

    “กรี๊ด!!!”

    “นี่!!! เลิกบ้าได้แล้ว จะเอาไง จะตบมั้ย หรือจะเอาไง”

    “มะนาวไม่ตบ...มะนาวเห็นว่าพี่หมอเป็นคนดีหรอกนะถึงยอมยกพี่ผู้การให้น่ะ ไม่ได้กลัวอะไรเลย” คนกลัวเอ่ยบอกด้วยใบหน้าที่เก๊กว่าไม่กลัวก่อนจะทิ้งท้ายและวิ่งออกไป “คอยดูนะพี่หมอจี๊ด พี่หมอจี๊ดทำให้พี่ผู้การเสียใจเมื่อไหร่มะนาวจะฉกพี่ผู้การให้ดู มะนาวรอโอกาสอยู่”

    “ย่ะ หล่อนรอไปเถอะ” จิรัชยาตะโกนกลับก่อนจะปล่อยมือที่คล้อยแขนชายหนุ่มออกและคิดจะถอยออกห่างทันทีที่ร่างของสาวมือตบหายไปลับตาแต่ทว่าร่างบางกลับถูกรวบไปกอดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

    “อะไรยะ...อย่ามาลามปามย่ะ ละครฉันจบแล้ว” 

    “ขี้หึง”  คนที่อยู่เงียบ ๆ มาตลอดปล่อยให้จิรัชยาทำให้มนสิตาเข้าใจไปผิด ๆ เอ่ยพร้อมกับกอดร่างบางเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น

    “หึง?...จะบ้าเหรอ ใครเขาจะไปหึงคนอย่างนายกันเล่า” คนถูกกล่าวหาว่าขี้หึงโวยวายพร้อมกับพยายามขยับให้หลุดออกจากการกอดรัด อีตาบ้านี่เป็นอะไรไป กินยาลืมเขย่าขวดรึไงกัน 

    “แน่ใจนะ?”

    “อย่าเพ้อเจ้อย่ะ แล้วก็ขอความกรุณาปล่อยด้วย ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าจิรัชยาไม่เตือน” คำพูดที่ดูเหมือนคำเตือนของจิรัชยาไม่ทันจะจบประโยคดีปลายเท้าเล็กแต่นักก็ยกขึ้นหมายจะกระทืบเท้าใส่คนที่มากอด แต่ยุทธการที่ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คนว่ามีความว่องไวเป็นเลิศก็ไม่ใช่จะเจ็บตัวง่าย ๆ ชายหนุ่มขยับเท้าหลบพร้อมกับถอยออกห่างจากคนที่ตนกอดอยู่ก่อนจะหัวเราะในลำคอ

    “หึ...ร้ายนะเรา แต่จะเหยียบเท้าพี่น่ะยังเร็วไปร้อยปีไอ้น้อง” คนหลบทันว่าแล้วก็หมุนตัวเดินไปยังบ้านของนายธงหนุ่มในทันทีโดยไม่สนใจคนที่ยืนงงอยู่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนนี้มองพิจารณาตัวเองที่ตอนนี้เสื้อเปื้อนไปด้วยเหงื่อ...เหงื่อจากตัวยุทธการ

    “ไอ้ยักษ์บ้า!!!”

    “ฮะฮะฮ่า” 

    เสียงหัวเราะไล่หลังของยุทธการบ่งบอกได้อย่างดีว่าชายหนุ่มจงใจที่จะทำ ตาบ้านั่นจงใจกอดเธอเพราะอยากให้ชุดนอนของเธอเปื้อนเหงื่อ...นี่มันชุดนอนตัวโปรดของเธอนะ!!!

    ยุทธการเป็นผู้ชายขี้แกล้ง นั่นคือความจริงที่ไม่มีใครรู้นอกจากจิรัชยา ใช่แล้ว ตานั่นชอบแกล้ง และเหยื่อก็เป็นเธอเสมอ บางครั้งเธอก็พลาดท่าด้วยการแกล้งแปลก ๆ อย่างไอ้เข้ามาประชิดตัวแบบนี้ไงล่ะ

    คิดแล้วมันน่าโมโหนักเชียว

    แม้จะเจ็บใจอยู่บ้างที่โดนแกล้งแต่ลึก ๆ แล้วคนยังคงยืนอยู่ที่เดิมกลับโล่งใจมากกว่าเจ็บใจ ความจริงแล้วหัวใจของเธอมันเต้นแรงไม่ปกติเลยเมื่อต้องอยู่ใกล้ยุทธการ  มันเริ่มขึ้นโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่น้อย

    3ปีก่อน

    นัยน์ตาตระหนกมองไปยังร่างของหนูน้อยจิรัญญาในวัย4ขวบเศษที่นอนหลับไม่ไหวติงอยู่บนเตียงคนไข้ก่อนจะหันไปยังร่างของญาสิตาที่กำลังตรวจอาการอยู่ก่อนที่กุมารแพทย์สาวจะถอนใจโล่งและเอ่ยบอก “อาการทั่วไปไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ นอนพักอยู่โรงพยาบาลสัก3-4วันก็กลับไปซ่าได้แล้ว” 

    “แน่ใจนะ?”

    “แน่ใจค่ะ แต่อาจจะมีผวาหรือฝันร้ายตอนกลางคืนนะเพราะความกลัวที่เพิ่งเจอ กล่อมและปลอบสักหน่อยก็ดีขึ้น” ญาสิตาตอบแล้วก็ขอตัวออกจากห้องเพราะยังมีงานที่ต้องทำ จิรัชยามองกลับมาที่หลานสาวเพียงคนเดียวก่อนจะลูบศีรษะหนูน้อยด้วยความสงสาร

    ยัยหนูต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะซนขัดคำสั่งคุณปู่คุณย่าไปเล่นใกล้สระน้ำจนทำให้พลัดตกลงไปทั้งที่ยังว่ายน้ำไม่เป็น โชคยังดีที่คุณปู่กับคุณย่ามาเห็นทันจึงช่วยขึ้นมาก่อนจะจมน้ำ แม้หนูน้อยจะไม่จมน้ำแต่การตกน้ำครั้งนี้ก็ทำให้หลานสาวทั้งขวัญเสียและไข้ขึ้นสูงจนต้องพามาส่งโรงพยาบาล...ถ้าเปลี่ยนกันได้เธอก็อยากจะเป็นคนเจ็บแทบหลานสาวที่เธอรักราวกับลูกคนนี้จริง ๆ 

    มือบางผละจากศีรษะหลานสาวไม่กี่นาทีร่างจิ๋วก็รู้สึกตัวตื่น สิ่งแรกที่ยัยหนูทำก็คือร้องเรียกหาผู้เป็นพ่อ “ฮึก ปะป๊า ปะป๊า”

    “หวาหวา ไม่ต้องกลัวนะลูกน้าจี๊ดอยู่นี่”

    “ฮึก นะจิด ปะป๊าปายหนาย”

    “ปะป๊าทำงาน แต่เดี๋ยวปะป๊าก็มานะคะ อยู่กับน้าจี๊ดนะ น้าจี๊ดอยู่นี่นะลูก” คนเป็นน้าปลอบหลานสาวและจับมือของหลานสาวไว้ให้รู้ว่าน้าอยู่ตรงนี้ ในใจนึกก่นด่าพ่อของหลานที่ลูกป่วยขนาดนี้ก็ยังคงทำงานไม่มาดูแลทั้งที่เธอก็โทรไปบอกตั้งแต่หลานตกน้ำจนมาที่โรงพยาบาลแต่เขาก็ยังไม่มา...คนคนนั้นราวกับไม่รักหลานสาวเธอสักนิด

    “ขวัญเอ้ยขวัญมานะหวาหวา น้าจี๊ดอยู่นี่นะคะ หนูไม่ต้องกลัวอะไรนะลูก”

    “ฮึก” เสียงสะอึกสะอื้นของตัวแสบน้อยที่ซ่าไม่ออกยังคงดังเป็นระยะส่งผลให้น้าสาวสงสารจับใจจนไม่เป็นอันทำอะไร

    แก๊ก...

    เสียงประตูเปิดออกในนาทีต่อมาจิรัชยาหันไปมองทันทีก่อนจะอ้าปากค้าง “นะ นาย”

    “ปะป๊า” ยัยหนูร้องเรียกคนมาใหม่ทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร ร่างสูงก้าวเข้าไปหาลูกสาวในทันทีขณะที่จิรัชยานั้นยังคงอยู่ในอาการตกตะลึง...ทำไมอดีตพี่เขยถึงได้มาหาลูกสาวในสภาพมีสายน้ำเกลือแบบนี้ล่ะ ไหนว่าไปปฏิบัติภารกิจไง?

    “ปะป๊าอยู่นี่นะลูก ไม่ต้องกลัวนะคะ” น้ำเสียงอ่อนโยนปลอบโยนลูกสาวและลูบศีรษะเล็กเบา ๆ เพียงไม่นานร่างเล็กก็หลับไป

    ประตูห้องพักของหนูน้อยจิรัชยาเปิดขึ้นอีกครั้งด้วยฝีมือของพงษ์รวีก่อนที่ร่างของพงษ์รวีและนฤเมศร์จะเข้ามาภายในห้อง “ไอ้บ้าเอ้ย หมอกับพยาบาลเขาหากันให้วุ่น”

    “เบา ๆ สิวะหวาหลับอยู่ไม่เห็นเหรอ”

    “ก็เอ็งหนีออกมาทำไมเล่า หมอยังไม่อนุญาตให้ขยับตัวยังจะขัดคำสั่งหมออีก” พงษ์รวีว่าแล้วก็ดึงแขนเพื่อนสนิทเพื่อพากลับห้อง “ไป กลับไปพักได้แล้ว เอ็งน่ะหนักกว่ายี่หวาอีก”

    “แต่...”

    “จี๊ดก็อยู่ ลูกไม่เป็นไรหรอก คนที่จะเป็นน่ะมันแก...อย่าดื้อสิไอ้ยักษ์เดี๋ยวข้าก็บอกให้ยัยจี๊ดจับฉีดยาซะหรอก”

    ยุทธการจำต้องคล้อยตามเพื่อน สายตาคู่คมมองร่างเล็กก่อนจะตัดใจเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีที่แทบจะไม่ไหว จิรัชยามองตามด้วยความงุนงงก่อนจะเอ่ย“อะไรเนี่ย?”

    “ถูกยิงน่ะสิ เมื่อคืนวานนี้เอง” นฤเมศร์ชี้แจงเมื่อจิรัชยามีทีท่าสงสัย “มันไม่ให้บอกใครก็เลยไม่ได้บอก”

    “บ้าเหรอไงเนี่ย” จิรัชยาบ่นก่อนจะส่ายหน้า...ไม่คิดว่ายุทธการจะถึงขั้นลุกมาหาลูกสาวทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในชุดคนไข้แบบนี้จริง ๆ 

    ความคิดที่ว่าอดีตพี่เขยไม่รักลูกสาวนั้นมลายหายไปทันที...เขารักยัยหนูมาก มากกว่ารักตัวเองซะอีก

    ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ 

    “คงต้องมองตานี่ใหม่แล้วสินะ”

    ปัจจุบัน..

    พอคิดมาถึงตรงนี้จิรัชยาก็พยายามสะบัดหน้าไม่อยากจะคิดต่อตั้งแต่เธอบอกตัวเองว่าคงต้องมองพ่อของหลานเสียใหม่แล้ว หัวใจของเธอก็เริ่มเต้นแปลก ๆ แบบนี้แทบทุกครั้งที่ได้เฝ้ามองและอยู่ใกล้ยุทธการ...เธอไม่อยากจะให้หัวใจตัวเองมันเกเรไปมากกว่านี้ 

    เรื่องของหัวใจใครจะห้ามได้  จิรัชยาได้แต่ปลงเธอเผลอคันคะยุกคะยิกในหัวใจเวลาเข้าใกล้พ่อของหลานไปแล้วจะให้ทำยังไง

    แต่เธอคือแมวตัวร้ายที่เฝ้าปลาย่างไว้ให้ใครสักคนที่หลานอยากได้มาเป็นแม่ มันจะต้องเป็นอย่างนั้นเธอจะรู้สึกเกินเลยไปกว่านี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด อยู่ห่าง ๆ กันไว้เถอะนะขอล่ะ...จิรัชยาส่ายหน้ากับตัวเองและพยายามทำตัวให้เป็นปกติก่อนจะเดินกลับขึ้นมาบนห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเห็นว่าถ้ามัวยืนอยู่มีหวังทุกคนจะไปทำงานและไปโรงเรียนสายแน่

    “น้าจี๊ด” หนูน้อยจิรัญญาที่มองดูสถานการณ์อยู่ด้านบนเอ่ยเรียกน้าสาวทันทีที่ร่างบางกลับเข้ามาภายในห้องก่อนจะยกนิ้วให้น้าสาวที่เดินมาหา “สุดยอดไปเลยค่ะไล่พี่มะนาวเน่าไปได้แบบไม่ต้องลงแรงเลย...ว่าแต่น้าจี๊ดพูดยังไงกับยัยพี่มะนาวเน่านางถึงได้กรี๊ดกร๊าดไม่พอใจไปแบบนั้นอะคะ”

    น้าสาวของหนูน้อยยิ้มก่อนจะตอบหลานสาวไปตามความเป็นจริง “น้าจี๊ดทำให้นางคิดว่าน้าจี๊ดกุ๊กกิ๊กกับพี่ผู้การของนาง นางก็ขี้มโนอะเนอะก็เลยไม่พอใจออกไปแบบนั้น”

    “ว้าว...น้าจี๊ดของหวาหวาฉลาดที่สุดเลย” 

    “แน่นอนหมอจี๊ดซะอย่าง” คุณน้าผู้ฉลาดหลักแหลมบอกก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำขณะที่หนูน้อยที่ควรจะรอใช้ห้องน้ำกลับเลี่ยงออกมาในจุดที่น้าสาวจะไม่ได้ยินและโทรหาอาสาวอีกครั้งหลังจากที่โทรไปฟ้องเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

    “อาหญิง เรามีลุ้นแล้ว ปะป๊ากอดน้าจี๊ดด้วย”

    “จริงอะ?”

    “จริงที่สุด หวาหวาถ่ายวิดิโอไว้ด้วย” หนูน้อยบอกอาสาวพร้อมกับบิดไปบิดมาราวกับเขินอาย...ก็แหม่เห็นน้าจี๊ดกับปะป๊าแล้วเหมือนยืนดูซีรีส์เกาหลีเลย มันฟินจนจิ้น

    ถ้าสองคนนี้รักกันไว ๆ ก็คงจะดี...อยากให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ แล้วสิ

     

     

    มาต่อกันคร่า หายไปสะนานเลย สวัสดีปีใหม่น๊า

    มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบนะคะ กับดักรักกามเทพจะเปิดให้อ่านถึงตอนที่15 ตอนที่16ขึ้นไปจะเริ่มติดเหรียญนะคะ (แฮร่ น้องแมวไม่มีขนมกินแล้วฮ่า ๆ) 

    ฝากติดตามกันด้วยน๊า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×