ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กับดักรักกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่11 คนเมา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 563
      32
      24 ธ.ค. 63

    บทที่11 คนเมา

    ดวงตาคมหวานมองโซฟาตัวยาวที่ตอนนี้มีร่างหนานอนเหยียดยาวอยู่ก่อนจะถอนใจ กลิ่นที่ลอยมาเตะจมูกทำให้หญิงสาวรู้ได้ในทันทีว่าชายหนุ่มเมามา เมื่อเช้าบอกว่าจะกลับดึกไอ้เราก็นึกว่าจะไปช่วยงานญารินดาและพงษ์รวีอะไรแบบนั้นที่ไหนได้ไปดื่มมาซะอย่างนั้น...นายคนนี้นี่

    “นี่” หญิงสาวส่งเสียงเรียกทว่าชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าตอบกลับจนกระทั่งเสียงไลน์ของชายหนุ่มดังขึ้น จิรัชยามองคนเมาที่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาอ่านข้อความนิ่ง ๆ โดยไม่พูดไม่จารอจนชายหนุ่มเก็บสมาร์ทโฟนแล้วก็หันหลังกลับ

    ทว่าไม่ทันจะได้ก้าวเดินเสียงของคนที่ดูจะเมาไม่น้อยก็ดังขึ้นเสียก่อน  “ใจคอจะปล่อยเจ้าของบ้านให้นอนตากยุงตรงนี้เหรอ?”

    “ตอนมายังมาได้ กะอีแค่เดินขึ้นไปนอนบนห้องเองก็ทำได้หรอกมั้ง”

    “ใครบอกว่าเดินมาเอง ไอ้วากับไอ้พีมหิ้วปีกมาต่างหาก” 

    “แล้วไง?” หญิงสาวถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “ฉันต้องหิ้วนายไปเก็บที่ห้องเหรอ?”

    “ไม่ต้องก็ได้แต่ถ้าพรุ่งนี้หวาหวาเห็นฉันนอนอยู่นี่ก็อย่าว่ากันล่ะถ้าฉันจะบอกหวาหวาตามความจริง”

    “หึย”  แม้จะไม่อยากจะสนใจแต่จิรัชยาก็จำต้องยุ่งเมื่อไอ้คนกระล่อนเอาหลานสาวมาอ้าง...ถ้าไม่ติดว่ากลัวบางคนใส่ร้ายเธอให้หลานสาวฟังนะเธอไม่แยแสหรอก ไอ้คนอ้างงานแต่เอาเวลาไปดื่มไปเมาแบบนี้น่ะ

    “ก็แค่เนี่ย” คนเมาพูดเมื่อร่างบางเข้ามาดึงขึ้นนั่งและพยายามพยุงให้ลุกขึ้นยืน คนร่างสูงยอมให้พยุงแต่โดยดีแต่ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือมากนัก

    “นี่ เดินดี ๆ ได้มั้ย เซอยู่นั่นล่ะ ชาติที่แล้วเป็นปูรึไง?”

    “ไม่รู้สิ” 

    “ไม่ได้ถามย่ะ” 

    “อ้าว ก็อยากตอบอะ” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับส่งยิ้มกวนประสาทให้ จิรัชยาพยายามสูดหายใจเพื่อระงับอารมณ์คันไม้คันมือ...แม่เจ้าเว้ยเมาแล้วกวนประสาทเก่งจริง ๆ  

    เธอไม่เคยเห็นตานี่เมาเลยนะเอาจริง ๆ คันไม้คันมือแถมยังคันหยุกหยิกในใจอีกด้วย แบบนี้ไม่ดีแน่ “อย่ามากวนประสาทนะ เดี๋ยวแม่ก็ทิ้งลงตรงนี้ซะหรอก”

    “ใจร้าย ใจดำ ใจคอโหดเหี้ยม นางมาร ยัยปีศาจ” 

    “เออ ฉันไม่ใช่นางฟ้า ฉันมันยัยปีศาจ รู้แล้วก็หุบปากไม่ต้องพูดมากไม่อย่างนั้นฉันทิ้งไว้นี่จริง ๆ ด้วย

    “เพี้ยนนะเราทะเลาะกับคนเมา” คนเมาว่าให้ก่อนจะยิ้มโดยไม่พูดอะไร ความจริงแล้วยุทธการเป็นผู้ชายที่ยิ้มแล้วน่ามองมาก รอยยิ้มของเขาเคยทำให้รุ่นน้องสมัยมัธยมต้นร่ำไห้ไม่อยากให้ไปเรียนเตรียมทหารเพราะหลงใหลและอยากเห็นทุกวันมาแล้วแต่น้อยครั้งจริง ๆ ที่ยุทธการจะยิ้มออกมาให้ได้เห็น...แต่นี่คงเมามากจริง ๆ ถึงได้ฉีกยิ้มขนาดนี้

    เอ...ทำไมมองแล้วรู้สึกคุ้น ๆ นะ ทำไมเธอรู้สึกว่าเคยเห็นบ่อย ๆ ทั้งที่ไม่ค่อยจะเห็นนะ

    “จี๊ดเลยแล้ว”  เสียงของชายหนุ่มทำให้คนที่เผลอขบคิดรู้สึกตัวอีกครั้งก่อนจะชะงักเมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้วแถมยังเลยมาถึงหน้าห้องของหนูน้อยจิรัญญาแล้วด้วย

    “นะ นอนห้องหวาหวามั้ย”

    “ไม่ล่ะ กลัวหวาหวานอนไม่หลับเพราะกลิ่นเหล้า” ชายหนุ่มปฏิเสธก่อนจะพยายามเดินโซเซย้อนกลับไปที่ห้องโดยมีหญิงสาวคอยจับไว้ ร่างสูงเอียนตัวเซไปพิงผนังและพยายามทำบางสิ่งบางอย่างกับกระดุมเสื้อที่จะทำให้อารมณ์เสียไม่น้อย

    หญิงสาวที่ไม่เข้าใจตั้งแต่อีกฝ่ายหยุดมองอย่างแปลกใจก่อนจะถามออกไป “ทำอะไรล่ะนั้น?”

    “ร้อน อยากถอดเสื้อ ถอดให้หน่อย”

    “อยู่ ๆ ก็หยุดเพื่อจะถอดเสื้อเนี่ยนะ?”

    “ก็มันร้อนนี่ ถอดให้หน่อย มองกระดุมไม่ค่อยเห็นเลย” ชายหนุ่มบอกในเชิงอ้อนก่อนจะส่งสายตาออดอ้อนมาให้ “นะ ถอดให้หน่อย”

    “มะ...”

    “ยักษ์รู้จี๊ดเป็นคนดี จี๊ดต้องช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหรอ ถอดให้หน่อยนะ นะ”

    “เฮ้อ  นี่ไม่ได้บ้ายอหรอกนะ แค่เวทนา” หญิงสาวตอบรับก่อนจะปลดกระดุมให้ชายหนุ่มทีละเม็ดโดยไม่ได้มองเลยว่าสายตาคู่คมกำลังจับจ้องตนอยู่ด้วยความรู้สึกอย่างไร

    มือหนาถอดเสื้อตัวนอกออกจากตัวทันทีที่หญิงสาวปลดกระดุมออกหมด มีเพียงเสื้อกล้ามเท่านั้นที่ปกปิดแผงอกแข็งแรง ดวงตาคู่หวานมองกล้ามแขนที่ใหญ่กว่าแขนเธอหลายเท่าตาปริบ ๆ ก่อนจะพยายามสะบัดหน้า

    ‘ไม่นะจี๊ด ไม่....แกต้องไม่หวั่นไหวกับกล้ามแน่น ๆ นี่ นึกถึงกระดูกข้างในไว้สิ มันไม่ได้น่าหลงใหลเลย คิดสิคิด’

    “ยังไม่หายร้อนเลยแฮะ” คนเมาพูดทว่าไม่ทันให้สมองของหญิงสาวได้ประมวลผลเสื้อกล้ามก็ถูกถอดไปอีกชิ้น กล้ามท้องเป็นลอนงาม ซิกแพคที่สามารถนับได้ชัดเจนทำให้คนพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองมองกล้ามแน่น ๆ ถึงกับเผลอร้องว้าว 

    จิรัชยาไม่ได้บ้าดารานักร้องเหมือนผู้หญิงหลาย ๆ คน แต่หญิงสาวโปรดปรานการมองกล้ามที่แน่นเปี๊ยะเป็นลอนงามเป็นที่สุด...มาเห็นแบบนี้เลือดกำเดาแทบจะพุ่งเลยล่ะ

    ให้ตายสิ เธอไม่ได้ทะลึ่งลามกอะไรนะ แต่เธอชอบมองอะไรแบบนี้ตามคุณลุงนี่น๊า ก็คุณลุงที่ตอนนี้เป็นคุณป้าไปแล้วของเธอน่ะชอบมองผู้ชายกล้ามโต แผงอกและซิกแพคเป็นลอนงามเป็นชีวิตจิตใจแล้วก็ชอบล่อลวงให้เธอติดนิสัยนี้มาจนถึงตอนนี้นี่น๊า

    “จำไว้นะจี๊ด กล้ามโต ๆ เนี่ยอาหารตาชั้นดีเชียวล่ะ แต่ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่จะมาโชว์ให้ดูฟรี ๆ ถ้าไม่มีจุดประสงค์น่ะ หล่อนน่ะมองได้แต่หล่อนห้ามเคลิ้มไม่อย่างนั้นจะโดนฉกหัวใจไปฉันไม่รู้ด้วยนะยะ ผู้หญิงอ่อย และอ้อนน่ะผู้ชายแค่เสียหัวใจ แต่ถ้าผู้ชายอ่อยและอ้อนน่ะผู้หญิงอย่างเรา ๆ เสียทั้งตัวเสียทั้งใจเชียวนะ อย่าเคลิ้มเด็ดขาด” 

    อยู่ ๆ คำพูดของคุณป้าก็ดังขึ้นในหัว...ไอ้ยา ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นมาทำแบบนี้เธอคงคิดว่าโดนอ่อยเข้าให้แล้ว

    แก๊ก

    เสียงเปิดประตูเรียกสติให้คนกำลังจะหน้ามืดตามัวได้สติ หญิงสาวหันไปมองประตูที่ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของคนที่ยังคงพิงผนังอยู่ก่อนจะมีสีหน้าลังเล จะไปส่งให้ถึงที่พรุ่งนี้หมอนี่จะได้ไม่ไปฟ้องหนูน้อยยี่หวาว่าเธอปล่อยปละละเลยได้หรือว่าจะทิ้งไว้ตรงนี้ให้ไปเองดีล่ะ...ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่ไว้ใจแบบนี้เนี่ย

    “ทำไมโลกมันไม่อยู่นิ่ง ๆ เนี่ย”ไม่เพียงแค่เสียงพูดที่ดังออกมาร่างสูงยังล้มลงไปกองกับพื้นด้วย

    “เฮ้อ...ฉันไม่ได้ใจดำฉันเลยช่วยหรอกนะ”

    แม้ว่ายุทธการจะตัวใหญ่และสูงกว่าจิรัชยาพอสมควรแต่หญิงสาวก็ไม่ละความพยายามจนในที่สุดก็ลากชายหนุ่มมาที่เตียงได้...แม้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะถูกทับจนแทบจะแบนก็ตาม

    “เฮ้อ...ไม่น่าเลยจี๊ดเลย” คุณหมอสาวได้แต่พึมพำกับตัวเองเมื่อมองสภาพที่เกิดขึ้น เพราะไม่ระวังและพลาดยังไงก็ไม่รู้ร่างคนที่ควรจะถูกทิ้งลงบนเตียงกลับลงมากองทับเธอที่พลาดล้มลงมาบนเตียงซะได้

    ไอ้แค่ล้มลงมานอนทับน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่นี่ล้มแล้วหลับแล้วมาคิดว่าเธอเป็นหมอนข้างนี่ซิปัญหา...เธอจะลุกออกจากตรงนี้ยังไงล่ะแบบนี้

    “ยักษ์”

    “ฮือ” เสียงตอบกลับที่ดูเหมือนจะรำคาญทำให้หญิงสาวต้องถอนใจ ให้ตายสิ...ทำไมเธอถึงมาเจอเหตุการณ์ชวนหายใจไม่ออกแบบนี้ได้นะ 

    “แล้วฉันจะกลับห้องยังไงล่ะเนี่ย?”

    คนเมาไม่ได้ตอบกลับยังคงหลับและกอดเธอไว้แน่น จิรัชยาได้แต่คิดแล้วคิดอีกว่าจะทำยังไง...ทว่าคิดไปคิดมาก็ยังคิดไม่ออก

    เสียงกรนเบา ๆ และเสียงหายใจสม่ำเสมอข้างหูทำให้คนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากรู้สึกง่วงไปด้วยอย่างห้ามไม่อยู่

    ทำยังไงดีเนี่ย ง่วงจัง

    คนโดนกักไว้ถอนใจพรืด ช่างเถอะ นอนมันซะที่นี่แล้วค่อยรีบตื่นออกจากห้องไปก็ได้...มันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

    “อย่าตื่นก่อนฉันเชียวนะ” น้ำเสียงหวานพึมพำบอกเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลง เธอง่วงจนไม่อยากจะต่อกรด้วยแล้ว ขอนอนก่อนแล้วกัน แต่อย่าตื่นมาก่อนเธอเชียวนะ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแน่

     

     

    มาต่อ ตอนแรกปั่นไปได้เยอะแล้วแต่ไรต์มาเปลี่ยนใจตัดส่วนที่เขียนไปเพราะอยากให้ออกมาในแนวเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบในความสัมพันธ์ก็เลยต้องปั่นกันใหม่ หนทางนี้ยังอีกยาวไกล555

    เอาใจช่วยด้วยน๊า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×