ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กับดักรักกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.24K
      64
      21 พ.ย. 63

    ปฐมบท

    ดวงตาคู่สวยของเด็กหญิงในชุดฟูฟ่องมองผ่านถุงขนมที่ถูกยื่นมาให้ไปที่เจ้าของอย่างพิจารณา แม้ว่าคนตรงหน้าจะมีรูปหน้าที่สะสวยน่ามอง จมูกที่ทำการเสริมมาก็ดูดีราวกับสาวเกาหลี ดวงตาและริมฝีปากที่เข้ากับจมูกราวกับเกิดมาเพื่อกันแต่ถ้าได้มองอย่างละเอียดแล้วคำว่า ‘ปลอม’ ก็ล่องลอยมาและเมื่อนึกถึงคำว่าปลอมคำพูดของน้าสาวคนสวยก็ลอยมาในหัวราวกับมีใครมาเปิดสวิตซ์

    “ของปลอมยังไงมันก็คือของปลอม แต่ปลอมหน้าปลอมนมไม่น่ากลัวเท่าปลอมนิสัย เวลาดูคนต้องดูให้ดี ถ้าปลอมแค่นมแค่หน้าคบได้ แต่ถ้าปลอมนิสัยด้วยก็ตัดออกจากวงโคจรไปเลย เพราะคนมันปลอมมันก็ไม่ปรารถนาดีกับเราจริง ๆ หรอก จำไว้นะหวาหวา”

    “หวาหวา หวาหวาคะ?” เสียงเรียกที่ฟังเมื่อไหร่ก็อบอุ่นเสมอสำหรับหนูน้อยดังขึ้นทำให้เด็กหญิงจิรัญญาหรือที่ถูกเรียกว่าหวาหวาต้องสลัดความรู้สึกนึกคิดและยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวส่งให้

    “ใจลอยอะไรอยู่คะลูก ขอบคุณพี่เขาสิคะลูก พี่เขายื่นมาให้หนูนานแล้วนะ” น้ำเสียงอบอุ่นนั้นเอ่ยเตือนเป็นเหตุให้หนูน้อยที่มีชื่อเล่นว่ายี่หวาแต่ชอบให้เรียกว่าหวาหวามากกว่าต้องทำทีเป็นยิ้มไร้เดียงสาส่งให้หญิงสาวที่เธอมั่นใจว่าปลอมทั้งตัวทั้งนิสัยก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณ

    “ขอบคุณพี่สาวคนสวยนะคะที่ซื้อขนมมาฝากยี่หวา แต่อาหนูยิ้มบอกว่าให้ยี่หวาลดของหวานลงสักหน่อยเดี๋ยวจะอ้วน ยี่หวากลัวถูกดุขอไม่รับได้มั้ยคะ?”

    “แต่พี่ซื้อมาฝากแล้วนี่จ้ะ น้องยี่หวาจะไม่รับจริง ๆ เหรอ แบบนี้พี่เสียใจนะจ้ะ” น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนแฝงไปด้วยผิดหวังเอ่ยมาทำเอาหนูน้อยรู้สึกว่าตัวเองเป็นนางร้ายอย่างไรอย่างนั้น เด็กหญิงจิรัญญากลอกตาไปมาราวกับผู้ใหญ่กำลังใช้ความคิดทันทีที่เห็นท่าทีนั้น

    นาวาตรียุทธการ ธนสารโยธิน หรือ ผู้การยักษ์ ผู้บังคับการเรือหนุ่มวัย30ปีหมาด ๆ มองเด็กหญิงจิรัญญาผู้เป็นลูกสาวที่กำลังลังเลก่อนจะนั่งยอง ๆ ลงมองลูกสาว “รับมาก่อนสิคะ ถ้าหนูกินไม่ได้ก็เอาไปให้นาวี หรือไม่ก็หนูพาย หรือถ้านาวีกับหนูพายกินไม่ได้เหมือนกันก็เอาไปฝากอาหนูยิ้มก็ได้ ถ้าหวาหวาไม่รับเสียน้ำใจพี่นับดาวเขาแย่เลยเขาอุตส่าห์พาป๊ามาส่งแล้วยังซื้อขนมมาฝากหนูด้วย”

    “ค่ะ ยี่หวารับไว้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่สาว แล้วเดี๋ยวยี่หวาจะเอาไปให้นาวี แบบนี้ไม่เสียใจแล้วใช่มั้ยคะ?”

    “ไม่เสียใจแล้วจ้ะ แต่ตอนนี้รับไปก่อนมั้ย พี่ยื่นให้นานแล้วนะ เมื่อยมากเลยเนี่ย” พี่สาวคนสวยอย่างนริสาหรือนับดาวเอ่ยบ่นอย่างไม่จริงจัง ท่าทีของเธอหากมีใครมาเห็นคงมองว่าน่ารักและมีอารมณ์ขันแต่เด็กหญิงจิรัญญาที่ถูกสั่งสอนมาอย่างดีและมีเซ้นส์ในการมองคนกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น

    ‘ปลอมมากแม่’

    “ฮะฮ่ะ ยี่หวาลืม” หนูน้อยยี่หวาพูดแล้วก็รับถุงขนมมาและรีบเอาไปวางไว้บนโต๊ะและกลับมาเกาะขาคนเป็นพ่อ “ปะป๊าคงเจ็บมากและอยากพักแล้ว ยี่หวาว่าเราให้ปะป๊าไปพักดีกว่ามั้ยคะ?”

    “แต่ก่อนจะพักพี่ว่าให้ปะป๊าของน้องยี่หวาทานอะไรก่อนดีมั้ยจ้ะจะได้ทานยา” นริสาไม่เพียงพูดแต่ยังโชว์ถุงอีกสองถุงที่ถือมาด้วยให้หนูน้อยได้ดู หนึ่งถุงเป็นถุงยาอีกถุงเป็นถุงกับข้าวที่ดูจะน่ากินไม่น้อยเลย...

    ถ้าไม่ติดว่าปะป๊าของเธอได้รับบาดเจ็บจากการพุ่งเข้าไปช่วยผู้หญิงท้องแก่ที่ถูกคนเมายาจับเป็นตัวประกันจนคุณพี่สาวคนสวยศัลยกรรมนี่ต้องอาสาพามาส่งถึงบ้านแล้วล่ะก็เธอจะตอบว่าไม่…เรื่องอะไรจะยอมให้ผู้หญิงนิสัยปลอมที่หวังจะงาบคุณป๊าเนื้อหอมของเธอเข้ามาวุ่นวายในบ้านกันล่ะ ฝันสักสิบตื่นไปเถอะ

    “ดีค่ะ ว่าแต่พี่สาวว่างมั้ยคะ รีบไปไหนรึเปล่า?”

    “ว่างสิจ้ะ” คนกลายเป็นผู้หญิงนิสัยปลอมของเด็กหญิงจิรัญญาตอบกลับก่อนจะถามด้วยใบหน้าสงสัย “ทำไมเหรอ?”

    “จะว่าอะไรมั้ยคะถ้ายี่หวาจะรบกวนพี่สาวช่วยจัดกับข้าวแล้วก็ยามาให้ปะป๊าหน่อย ยี่หวากลัวจะทำจานกับแก้วแตกน่ะค่ะ” เพราะความเป็นเด็กการพูดอะไรแบบนี้ด้วยใบหน้าไร้เดียงสาทำให้นริสาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรหนูน้อยจิรัญญาเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังตอบรับอย่างยินดีเสียด้วย...ไม่รู้เลยสักนิดว่าโดนหลอกใช้เข้าแล้ว

    “ได้สิจ้ะ แค่นี้เอง งั้นผู้การรอสักหน่อยนะคะเดี๋ยวนับไปจัดกับข้าวให้...น้องยี่หวาคะนำพี่สาวไปห้องครัวหน่อยสิคะ พี่สาวเพิ่งมาที่นี่วันแรกนะไม่รู้ทางหรอก”

    “นั่นสิเนาะ นี่วันแรก” ‘และวันสุดท้ายด้วยค่ะพี่สาว ต่อจากนี้อย่าหวังจะได้เข้ามาเลย’ หนูน้อยอดไม่ได้ที่จะคิดในใจก่อนที่จะนำทางอีกฝ่ายไปด้วยใบหน้าไร้เดียงสา 

    “พี่สาวซื้ออะไรมาบ้างคะ” เพราะไม่อยากให้ภาพลักษณ์ใสซื่อถูกมองออกว่าแสร้งทำหนูน้อยจิรัญญาจึงต้องชวนคุยอย่างช่วยไม่ได้ “มีแค่ของปะป๊าเหรอ?”

    “ไม่ใช่จ้ะมีของพี่แล้วก็ของน้องยี่หวาด้วย วันนี้พี่สาวขอทานข้าวด้วยได้รึเปล่าจ้ะ?”

    “ได้ค่ะ อะ ถึงห้องครัวพอดีเชิญพี่สาวใช้ห้องครัวตามสบายนะคะ ยี่กวาขอไปดูปะป๊าก่อน” เด็กหญิงวัย7ขวบที่ความจริงแล้วฉลาดทันคนจนหลายคนคิดไม่ถึงเอ่ยก่อนจะหายไปจากครรลองสายตาของหญิงสาวอย่างไม่มีพิรุธใด ๆ 

    ดวงตาคู่หวานที่ก่อนนี้มองทุกอย่างด้วยความอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นดวงตาฉายแววร้ายจนน่ากลัวก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง “หึ นังเด็กโง่ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแกฉันไม่มีทางซื้อมาเผื่อแกหรอก คอยดูเถอะฉันได้เป็นแม่เลี้ยงแกเมื่อไหร่แกหัวเน่าแน่”

    “โง่แบบนี้ก็หวานฉันสิ หึ อีกไม่นานหรอกนังเด็กยี่หวา อีกไม่นานฉันจะเข้ามาอยู่บ้านนี้เป็นภรรยาของผู้การยุทธการแทนแม่แกที่ตายไป”

    นริสายิ้มให้กับสิ่งที่คาดหวังไว้ไปพร้อมกับการจัดกับข้าวที่ซื้อมา อาจจะเพราะประมาทหรืออาจจะเพราะหนูน้อยแสดงท่าทีไร้เดียงสาได้แนบเนียนเกินไปก็ไม่อาจจะพูดให้ชัดเจนได้นริสาจึงไม่รู้เลยสักนิดว่าเด็กที่หญิงสาวเรียกว่านังโง่นั้นยืนแอบฟังหญิงสาวอยู่ในมุมอับพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่กำลังอยู่ในโปรแกรมบันทึกเสียง

    ‘เซ้นส์ไม่เคยพลาดเลยหวาหวาเอ้ย เป็นยัยแม่มดจริง ๆ’

     

     

     

    ฝากหวาหวาและเดอะแก็งไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน๊าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×