ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักวุ่นๆกับคุณ(อดีต)สามี​

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่8 เดินหน้า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.66K
      545
      10 ก.ย. 63

    บทที่8 เดินหน้า

    ปัจจุบัน

    ทุกจุดเริ่มต้นย่อมนำพามาซึ่งเรื่องราวมากมาย คริษฐาหลับตาลงนึกย้อนถึงจุดเริ่มต้นและเรื่องราวที่ผ่านพ้นมาแล้วก็ได้แต่ปลงตก ระยะเวลาเกือบ2เดือนที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอทั้งเรื่องงาน เรื่องเพื่อน เรื่องการจากลา และการทำอะไรที่ไม่เคยคิดจะทำอย่างต่อยคนนิสัยไม่ดี 

    นัยย์ตาหวานลืมขึ้นอีกครั้งพลางยกมือขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีเจ้าตัวเล็กมาแอบซุกซ่อนอยู่อย่างตัดสินใจ... โชคชะตาคงกำหนดให้เธอท้องตอนไม่มีสามีนี่ล่ะ เธอคงฝืนไม่ได้หรอก

    “เจ้าตัวเล็ก แม่ขอโทษนะลูก แม่ถอยกลับไปไม่ได้แล้ว เราเดินไปข้างหน้าพร้อมกันนะคะ ถ้าแม่สั่งสอนพ่อหนูไม่สำเร็จ เราอยู่กันสองแม่ลูกก็ได้เนาะ” 

    “สองแม่ลูกอะไร ทึกทัก พี่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มเลยว่าคนเดียว” รันจนาที่ยังคงอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลคนที่นิ่งคิดถึงอดีตไปพักใหญ่ทักท้วงขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาวางบนท้องแบนราบ “ยังไม่ชัวร์นะ แต่พี่คิดว่ามีมากกว่า1อยู่ในนี้” 

    “แฝด?”

    “ยังไม่ชัวร์ แต่ก็เป็นไปได้มากเลยล่ะ ถ้าท้องแก่กว่านี้อีกนิดน่าจะชัวร์” 

    คำพูดของแฟนพี่ชายค่อยข้างจะสร้างความหวั่นวิตกให้สถาปนิกสาวไม่ใช่น้อย อดไม่ได้จริง ๆที่จะนึกไปถึงเรื่องราวช่วงหนึ่งก่อนที่จะหย่า

    2เดือนก่อน 

    นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยสงสัยจ้องไปยังโหลที่มีน้ำสีแปลก ๆ บรรจุอยู่ก่อนจะถามออกไปอย่างใคร่รู้ “นี่มันอะไรคะเนี่ยคุณแม่”

    “ยาบำรุงไงล่ะจ้ะ” คุณนายนรินเอ่ยพร้อมกับเปิดฝาให้ลูกสะใภ้ได้ดม ด้วยกลิ่นสมุนไพรและยาจีนที่ค่อนข้างฉุนทำให้คนได้กลิ่นจัง ๆ อย่างคริษฐาต้องยกมือปิดจมูก แม้แต่คีรินทร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ยังไอแค็ก ๆ  

    “เขาว่าสูตรนี้สูตรเด็ดเลยนะ  รับรองติดแถมมีโอกาสได้แฝดด้วยนะ” 

    “แม่ก็ช่างไปสรรหาซะจริงนะ” คีรินทร์บ่นให้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนเป็นแม่หาอะไรแบบนี้มาให้ กำลังช้างสาร ม้ากระทืบโรง อะไรต่าง ๆ ก็สรรหามาบำรุงเขากับคริษฐาตลอดเพื่อหวังจะให้มีหลานให้อุ้มสักที

    “ไม่ต้องพูดมาก กินเลย คนละแก้ว นี่คือคำสั่งไม่ใช่คำขอ”

    “เดี๋ยวนะ...ทำไมขนาดแก้วมันต่างกันขนาดนี้ล่ะแม่” มองแก้วทั้งสองเปรียบเทียบกันด้วยตาเปล่าไม่ต้องวัดต้องชั่งก็รู้ว่าแก้วที่ถูกยื่นมาให้ชายหนุ่มนั้นมากกว่าของหญิงสาวถึง2เท่า

    “ก็แกเป็นผู้ชาย ต้องกินมากกว่าจะได้แข็งแรง อึด ทึก พร้อมสู้ศึก ไม่ต้องถามมากนา ให้กินก็กินไปเถอะ”

    “อะ ๆ กินก็กิน” ชายหนุ่มรับคำทั้งที่ปกติปฏิเสธที่จะกินหรือไม่ก็หาทางหลีกเลี่ยงทุกวิถีทางเพราะเกลียดกลิ่นฉุน ๆ ของมัน ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดก่อนจะวางแก้วและเอื้อมมือไปคว้ากุญแจรถ “ไปนะ”

    “เดี๋ยว แกจะไปไหน”

    “ไปทำงานดิ แม่บอกพร้อมสู้ศึกไง วันนี้คงคึกวิ่งไล่ยิงกับคนร้ายได้ทั้งวันแน่เลย ไปนะ” 

    “ไอ้ ไอ้ลูกบ้า ฉันหายามาบำรุงให้ได้มีหลานเร็ว ๆ ไม่ใช่บำรุงให้แกมีแรงไปสู้กับคนร้าย ปัดโธ่เอ้ย” คุณนายนรินได้แต่ด่าตามไล่หลังที่ลูกชายมาทำหน้าซื่อแต่กลับกวนส่งท้าย คีรินทร์เป็นอย่างนี้ล่ะ ภายนอกคล้ายจะเงียบ ๆ แต่เวลาอยู่ในบ้านขี้แกล้งเป็นที่1เลย กวนประสาทเองก็ไม่เป็นสองรองใคร ชอบแกล้งให้ความหวังคนเป็นแม่แล้วก็ชิ่งหนีแบบนี้ประจำนั่นล่ะ

    หลายชั่วโมงต่อจากนั้น

    ก๊อก ๆ ๆ 

    เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นเรียกให้ร่างบางที่กำลังนั่งหาอะไรสนุก ๆ ดูผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน​อยู่ต้องรีบหยุดคลิปและถอดหูฟัง รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก สงสัยว่าเจ้าตัวเล็กที่คุณย่าล่อลวงไปนอนด้วยจะคิดถึงแม่เคทเสียแล้วละมั้ง

    “เปิดแล้วจ้ะ เปิดละ…อ้าว”  เสียงอ่อนโยนที่ใช้กับลูกชายบุญธรรมแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแสดงความตกใจเมื่อคนอยู่หน้าประตูไม่ใช่เจ้าตัวเล็กอุ้มตุ๊กตาแต่เป็นเด็กโข่งที่เมื่อเช้าแกล้งยั่วโมโหบุพการีและชิ่งหนีไปทำงานทิ้งให้เธอนั่งรับชะตากรรมนั่งฟังคุณนายนรินบ่นลูกชายให้ฟังเป็นวรรคเป็นเวรจนเธอรู้สึกหลอนนอนไม่หลับจนต้องพึ่งพาแอพที่คนพากันฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองเพื่อให้หลุดจากเสียงบ่นที่ดังมุ้งมิ้งอยู่ในหัว

    “นึกว่าจะไปนอนที่ทำงานซะอีก”

    “ได้ไง คุณนายรินอุตส่าห์พาเจ้าตัวหวงแม่ไปนอนด้วยทั้งที ไม่กลับบ้านจะให้ไปไหน” คนที่ก่อเรื่องไว้แล้วก็หนีไปทำงานบอกก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวมองตามคนอายุมากกว่าเพียง1ปีที่เวลาอยู่ข้างนอกมักจะทำตัวขรึม ๆ เป็นผู้ใหญ่กว่าอายุแต่เวลาอยู่ในบ้านกลับเป็นไปอีกแบบหนึ่งนั้นไม่ได้เดินตรงนัก…ดื่มมาไม่ผิดแน่

    “ดื่มมาเหรอ” 

    “พอดีเลิกงานแล้วรุ่นพี่ที่มาช่วยงานชวนไปดื่มต่อนิดหน่อย ขัดไม่ได้ “ 

    “ขัดไม่ได้ หึ รู้หรอกว่าไม่ขัดไม่ใช่ขัดไม่ได้  อย่างเฮียคีย์ขาโหดน่ะหรือไม่กล้าขัดใจคน นอกจากเฮียเสือกับเฮียคิวแล้วคีย์กล้าขัดหมดนั่นล่ะ”  คริษฐามักจะรู้ทันคีรินทร์และมองออกอยู่เสมอนั่นล่ะ คีรินทร์ทำหน้าเซ็งน้อย ๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ก็อยากจะเมาจริง ๆ นั่นล่ะจะได้ไม่ต้องกลับบ้านมานอนง๊าว เพราะไอ้ตัวแสบกอดแม่บุญธรรมไว้แน่นปิดทุกช่องทางที่เขาจะได้ใกล้คนขึ้นชื่อว่าเมีย 

    “จะเมาแล้วกลับมาทำไม?”

    “ก็แม่โทรไปบอกว่าเอาเจ้าตัวหวงแม่ไปนอนด้วย เคทอยู่คนเดียว ให้เฮียรีบกลับบ้านมาอยู่เป็นเพื่อน”  เกือบจะเมาแล้วล่ะถ้าคุณนายแม่ไม่โทรไปบอกว่าวันนี้เอาเจ้าตัวป่วนไปนอนด้วยที่บ้านซึ่งอยู่หลังข้าง ๆ ให้เขาอย่ากลับดึกนักเพราะคริษฐาอยู่คนเดียว...โอกาสแบบนี้หาง่ายที่ไหนล่ะ

    เจ้าตัวแสบหวงแม่คนนั้นยอมปล่อยแม่แล้วนอนกับคุณปู่คุณย่าบ่อยที่ไหนล่ะ นาน ๆทีล่ะถึงจะทำ

    “คำก็ตัวแสบ สองคำก็เจ้าตัวหวงแม่ รอดูเถอะน้องคิลไม่อยู่ขัดใจแล้วจะเหงา” 

    “ใครจะปล่อยให้ตัวเองเหงาล่ะ ถ้าเจ้าคิลไม่อยู่ขัดใจก็ ‘ทำ’ เจ้าตัวขัดใจมาสักคน”

    “พูดเป็นเล่นไป ไม่เห็นจะทำได้อย่างที่พูด” 

    “ใครว่าเฮียทำไม่ได้...​เฮียทำได้โดยไม่ต้องพึ่งไอ้ยาบำรุงของคุณนายรินเลย เพียงแต่เจ้าตัวแสบไม่เปิดโอกาสให้เฮียแสดงฝีมือเท่านั้นเอง นี่ถ้าไม่อยากแกล้งคุณนายนะจะบอกเลยว่าแทนที่จะไปสรรหายากลิ่นเหม็น ๆ นั่นมาให้กินน่ะเอาเจ้าคิลแยกออกจากแม่จะเวิร์คกว่า” 

    แม้คำพูดของคีรินทร์คล้ายจะโอ้อวดแต่ก็มีส่วนจริงไม่น้อย ไม่ใช่ว่าร่างกายของเธอและเขาผิดปกติหรือไม่แข็งแรงเจ้าตัวเล็กจึงไม่มาเกิดสักทีทั้งที่ตลอด6ปีมานี้เธอกับเขาก็ไม่ได้นอนหันหลังให้กันเหมือนพระนางที่ถูกจับคลุมถุงชนในนิยายแต่เป็นเพราะไม่ค่อยได้มีเวลาสานสัมพันธ์​กันมากพอต่างหาก 

    ที่เป็นแบบนั้นเป็นเพราะอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากเจ้าหนูคีรกูรนั่นล่ะ ตอนเด็ก ๆ แค่คีรินทร์เข้ามาใกล้เธอก็ร้องไห้จ้างอแงให้อุ้มแล้ว พอรู้เรื่องสักหน่อยก็ไม่ยอมแยกห้องนอนทั้งที่ผู้ใหญ่พูดเรื่องห้องนอนส่วนตัวอยู่บ่อยครั้ง ตาหนูก็ยังยืนยันจะนอนกับแม่เคทและพ่อคีย์อยู่เหมือนเดิม แม้มีบ้างที่เจ้าตัวเล็กจะไปนอนบ้านคุณปู่คุณย่า แต่ก็น้อยครั้งซ้ำบางครั้งก็เลือกไปในวันที่คนเป็นพ่อติดงานอีกต่างหาก...แบบนี้น้องจะมาได้ยังไงกันล่ะ

    “เมาแล้วขี้โม้... ไปอาบน้ำล้างหน้าโน่นเลยไปจะได้สร่าง” 

    “ไม่อาบ... จะนอน”  คนเป็นสามีบอกแล้วก็นั่งลงบนที่ปลายเตียงไม่ทำตามที่คนเป็นภรรยาบอก

    “ตามใจ อยากนอนแบบนี้ก็นอนไป ไม่รู้ไม่ชี้ด้วยแล้ว” คริษฐาไม่ใช่ผู้หญิง​จู้จี้​มากความ เธอจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้นถ้าคู่สนทนาไม่ทำตามก็ไม่คิดจะรบเร้าเซ้าซี้​ แน่นอนว่าคีรินทร์รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะต้องอิกมาประมาณ​นี้ มือหนาเอื้อมมารวบร่างบางที่กำลังจะเดินผ่านไปเพื่อจะอ้อมไปนอนในที่ของตนลงมานั่งแมะลงบนตัก

    “คิดว่าเฮียจะนอนจริง ๆ เหรอ?” 

    “ให้ตอบแบบไหนดี? เอาตรง ๆ หรือเอาแบบรักษา​น้ำใจดีล่ะ” 

    “ถ้ารักษา​น้ำใจจะตอบเฮียว่าไงล่ะ?” 

    “ถ้าตอบแบบรักษาน้ำใจ ก็จะตอบว่า คีย์เหนื่อยมาทั้งวันคงจะนอนจริง ๆ” 

    “แล้วถ้าตอบแบบตรง ๆล่ะ” 

    “แบบตรง ๆ น่ะเหรอ” หญิงสาวทวนคำก่อนจะทำหน้าเหม็นเบื่อและตอบออกไป “ดูหน้าก็รู้แล้วว่าหื่นกาม น้องคิลไม่อยู่แบบนี้ถ้าเฮียนอนจริง ๆ คงไม่ใช่คีย์ตัวจริงแล้วล่ะ” 

    “ก็ไม่ได้ไปหื่นข้างนอกนะ หื่นกับคนของตัวเองในบ้านตัวเอง ไม่ผิดหรอก” 

    “หึ เคทล่ะอยากให้คนที่คิดว่าคีย์นิ่ง ๆ ขรึม ๆ และตายด้านมาเห็นมุมที่เคทเห็นจริง ๆ” 

    “ข้างนอกเฮียต้องรักษาภาพลักษณ์​ ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง เฮียเก็บกดนะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้” เขาเอ่ยขณะที่มือหนานั้นเลื่อนมาปลดกระดุมเชิร์ตนอนของเธอจนเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวด้านใน

    “เก็บกดเลยมากดคนอื่น หึ ทำอะไรไม่ได้ตรงไหนกันล่ะ คนทำอะไรไม่ได้อะไรมือไม้ไวซะจริง” 

    “รู้ว่าเฮียเก็บกด ก็ให้กดซะดี ๆ อย่ามาทำบ่น” คีรินทร์บอกก่อนที่จะยื่นริมฝีปากเข้ามาจูบหญิงสาวบนตัก มือบางเลื่อนมาคล้องคอร่างสูงไว้ขณะที่ถูกบดจูบอย่างอ่อนโยน 

    การคล้องคอบ่งบอกถึงความยินยอมกลาย ๆ แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้ตอบรับระหว่างเธอกับเขาแม้จะไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรักแต่ก็ไม่มีส่วนไหนต้องปกปิดกันมานานแล้วตั้งแต่ที่คนที่เธอเรียกว่าเฮียมาโดยตลอดบอกว่าเขาจะไม่แต่งงานมาเพื่อเลี้ยงเด็กชายคีรกูรแต่ต่างคนต่างอยู่กับคนเป็นเมียเหมือนในนิยายเด็ดขาด ถ้าไม่พร้อมจะเป็นเมียเขาทั้งนิตินัยและพฤตินัยก็ไม่แต่งซะดีกว่าเพราะคงสร้างครอบครัวที่อบอุ่นให้หนูน้อยไม่ได้ถ้ายังต่างคนต่างอยู่นั่นล่ะ

    ตอนนั้นคริษฐาไม่รู้หรอกว่าเธอเลือกยอมรับแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามที่วาดหวังหรือไม่และระหว่างเธอและคีรินทร์จะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ยิ่งได้ใกล้และยิ่งได้สัมผัสเธอก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทางนี้ได้อีกเลย...เธอชอบที่มีคีรินทร์อยู่ข้าง ๆ แม้ว่าเฮียคีย์จะชอบลวนลามเธอต่างจากตอนเป็นพี่น้องกันอยู่มากก็ตาม

    คีรินทร์ไม่ได้แสดงออกแบบนี้กับใครหรือผู้หญิงคนไหน ตลอด6ปีไม่เคยมีเรื่องนอกใจหลุดรอดเข้าหู การจะยอมตามใจคนหื่นบ้างสักนิดสักหน่อยเพื่อเป็นการตอบแทนที่ไม่นอกใจกันมันจะเป็นไรไปล่ะ

    “คิลไม่อยู่จนถึงเย็นพรุ่งนี้...มาทำน้องให้ตัวแสบกันจริง ๆจัง ๆดีกว่านะแม่เคท” 

    ปัจจุบัน

    คืนที่เด็กชายคีรกูรไม่อยู่กับยาบำรุงที่ถูดยัดเยียดให้กินคงจะทำพิษเสียแล้ว...​คืนนั้นคีรินทร์ไม่ได้พูดเล่นแต่ตั้งอกตั้งใจทำน้องให้เด็กชายคีรกูรจริง ๆ 

    แล้วยังไงล่ะตอนนี้ เจ้าตัวแสบก็ไปอยู่กับพ่อแม่แท้ ๆ คนทำก็ก่อเรื่องจนชีวิตคู่ดำเนินมาถึงตรงนี้...คิดแล้วอยากจะต่อยคนคิดบ้า ๆ อีกสักที

    “เออ เคท คนที่พาเคทมาส่งยังไม่กลับนะ นั่งกันอยู่ทั้งสองคนเลย”  เสียงของแพทย์หญิงรันจนาเรียกสติคนอยากจะต่อยปากอดีตสามีอีกครั้งให้กลับมายังปัจจุบัน หญิงสาวทบทวนความจำก่อนจะนึกขึ้นได้

    วันนี้หลังจากไปพบลูกค้ากับนนทกรเรียบร้อยแล้วเธอก็แยกมาที่ไซต์งานของปวิน แต่ก่อนจะเข้าไปที่ไซต์งานก็เห็นร้านน้ำปั่นเข้าซะก่อนจึงลองแวะไปและก็ได้เจอกับร้อยตำรวจตรีอติรัตน์​หรือหมวดต้นรุ่นน้องร่วมทีมของคีรินทร์ที่กลายมาเป็นเจ้าของร้านและก็ได้พูดคุยกัน…

    “ทำไมหมวดมา...”

    “ผมลาออกจากราชการแล้วครับ” อดีตผู้หมวดหนุ่มประจำกองบัญชาการ​ตำรวจปราบปรามยาเสพติด​เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าเศร้า ซ้ำยังหลบสายตาจนคริษฐารับรู้ได้ 

    “ลาออกเหรอคะ?”

    “ครับ จะสองเดือนได้แล้วล่ะครับ” 

    คำตอบที่เหมือนจะถามคำตอบคำถูกตอบมาทำให้คริษฐารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายแปลกไป “หมวดรักงานมาก ทำไมอยู่ ๆ ถึง...”

    “แฟนผมใฝ่ฝันอยากเปิดร้านเครื่องดื่ม  ผมเลยมาสานฝันให้เธอน่ะ” 

    “อย่างนี้เอง ออกมาสร้างฝันกับแฟนนี่เอง แล้วคุณนิอยู่ไหนล่ะคะเนี่ย ไม่ได้เจอตั้งนานแหน่ะ” หญิงสาวถามถึงแฟนอีกฝ่ายทว่าอติรัตน์​กลับชะงักนิ่งไป มือที่กำลังปิดฝาแก้วโกโก้ถึงกับหยุดนิ่งทว่าก็เพียงครู่เดียวเท่านั้นชายหนุ่มก็กลั​บมานิ่งได้สมกับที่เคยทำงานเสี่ยงอันตราย​

    “คุณนายไม่ทราบเหรอครับ?

    “ทราบอะไรเหรอคะ?”

    “นิตายไป... เกือบ2เดือนแล้ว ให้ตายสิ นี่ผู้กองไม่ได้เล่าให้คุณนายฟังเลยเหรอ?” 

    “คะ คุณนิ คุณนิน่ะเหรอคะ?” สิ่งที่ได้รู้ทำให้คริษฐาตกใจและไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองอยู่ไม่น้อย... เธอคนนั้นนะเหรอเสียชีวิตไปแล้ว? 

    “ครับ นิถูกลอบยิงเมื่อเกือบ2เดือนก่อน ตอนนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้”

    “เกิดขึ้นได้ยังไงเนี่ย”

    “ผมพูดมากไม่ได้หรอก แต่ฝากไปบอกผู้กองด้วย ถ้าเขากับคนอื่นยังไม่เลิกยุ่งกับคดีนั้นรายต่อไปอาจเป็นญาติพี่น้องของคนที่ยังไม่หยุด หรืออาจจะเป็นคุณนายก็เป็นไปได้ นี่โกโก้ครับ ทั้งหมด…คุณนาย”     

    นั่นคือเสียงสุดท้ายที่คริษฐาได้ยินก่อนที่จะรู้สึกวูบไป  ความจริงแล้วที่เธอได้มาอยู่โรงพยาบาลก็เพราะช็อคเรื่องที่ได้ยินบวกกับอากาศที่ร้อนจัดนั่นล่ะ เดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนพาเธอมาส่งโรงพยาบาล ต้องเป็นอติรัตน์อยู่แล้ว…แต่รันจนาบอกว่าสองคน หมายความว่ายังไงกัน?

    “2คนเหรอคะ?” 

    “ใช่ สองคน คนนึงก็หมวดต้น อีกคนนึงหน้าหล่อ ๆ เขาบอกว่าเป็นเจ้านายของเคท”  คำบอกเล่าของหมอรันจนาทำให้หญิงสาวนิ่งไปอย่างใช้ความคิด เจ้านายเหรอ ? นนทกรอย่างนั้นเหรอ

    “พี่หมอได้บอกพวกเขามั้ยคะว่าเคทเป็นอะไร?”

    “ยังไม่ได้บอก”  

    “ขอบคุณค่ะที่ยังไม่ได้บอกใคร งั้นเคทขอพี่หมอสักเรื่องนะคะ อย่าเพิ่งบอกใครเรื่องนี้ นะคะ” นัยต์ตาคู่หวานมองอย่างออดอ้อนทำให้คนขี้ใจอ่อนอยู่แล้วจำต้องถอนใจและพยักหน้ารับแต่ก็ไม่ลืมที่จะตักเตือน

    “คิดจะทำอะไรก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว พี่จะไม่บอกคีย์หรือใครแต่พี่หวังว่าน้องเคทจะบอกทุกคนในเร็ว ๆ นี้” 

    “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแสดงสีหน้าที่มุ่งมั่น การตัดสินใจครั้งนี้แม้จะทำให้โดนตำหนิจากผู้ใหญ่ได้ แต่เธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าต่อไป...เพื่อเธอเองและเพื่อเจ้าตัวเล็กด้วย

    เจ้าตัวเล็กจะต้องมีพ่อที่ไม่ตัดสินใตทำอะไรตามลำพังโดยไม่ปรึกษาครอบครัวแบบนี้…เธอต้องสอนให้คีรินทร์รู้คุณค่าของเธอให้ได้

     

     

    ทุกอย่างเพิ่งเริ่มจ้า

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×