คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่3 ซบไหล่กันซะงั้น
บทที่3 ซบไหล่กันซะงั้น
“แกนี่มันไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้เสือกระดาษ”
อริสาเอ่ยตะคอกใส่ศารทูลด้วยความโมโห
“เธอก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกันนั่นแหละยัยเอเลี่ยน”
ศารทูลที่เป็นประเภทแรงมาแรงไปสวนกลับทันที
“ไอ้ปีศาจ”
“ยัยแม่มด”
ทั้งสองต่างมองหน้ากันราวจะกินเลือดกินเนื้อแต่ก่อนที่ “ไอ้ปีศาจอย่างศารทูล” กับ
“ยัยแม่มดอย่างอริสา” จะเปิดฉากทะเลาะกันกลางสนามบินให้ได้อายปริมาก็รีบห้ามทัพกันท่าไว้ก่อนเธอกลัวจะไปไม่ถึงภูเก็ตน่ะสิ
“พอแล้ว ๆ พวกแกเห็นป่ะเนี่ยนี่มันกลางสนามบินนะแกแยกเลยยัยคะนิ้ง
หมอสิงห์ ก่อนที่ทริปภูเก็ตฉันจะเป็นหม้าย” ปริมาเอ่ยบอกนลินญาและสีหราช
“ยัยแว่นเอายัยอลินไปทางโน่นเลย” สีหราชเอ่ยบอกหญิงสาวในดวงใจด้วยน้ำเสียงเฉยชาที่เขาเป็นกับเธอแค่คนเดียวพร้อมกับดึงแฝดผู้พี่มามายืนข้างเจษฏา
ด้านนลินญาเธอส่งค้อนวงใหญ่ให้หมอหนุ่มก่อนจะดึงอริสามายืนข้างอนิกา
เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาโกรธเกลียดอะไรเธอถึงได้เฉยชานักทั้งที่พูดดีและกระล่อนกับทุกคนแต่กับเธอสีหราชมักพูดจริงจังและชอบเรียกเธอว่ายัยแว่น
“ใจเย็นไว้ยัยอลินโกรธคือโง่โมโหคือบ้าทั้งโกรธและโมโหคือโง่และบ้านะแก”
สาวแว่นแสนสวยเอ่ยบอก อริสามองเพื่อนสาวที่เป็นกลางที่สุดในกลุ่มก่อนจะสะบัดหน้าหนีศารทูล
ปริมาที่เห็นท่าไม่ดีรีบเอ่ยเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมกลางสนามบิน
‘ดับอนาถคู่ปรับตลอดกาลก่อเหตุวิวาทคนตายเกลื่อนกลางสนามบิน’
ขืนปล่อยให้ทะเลาะกันต่อนอกจากภูเก็ตไม่ได้ไปแล้วพรุ่งนี้อาจลงข่าวหน้าหนึ่งสุดอนาถ
“ขุ่นแม่ขาหนูปริมอยากเอาหน้าซุกซิกแพกสารวัตรค่ะ”
ปริมาเอ่ยบอกแพนธีราทุกคนในกลุ่มรู้ดีว่าถ้าสัตวแพทย์สาวเรียก “ขุ่นแม่ขา”
นั้นหมายถึงแพนธีราสาเหตุเพราะเวลาปริมาส่องผู้ชายแพนธีรามักห้ามปรามเสมอ
“นอโพล่แล้วคุณลูกขา” แพนธีรารับมุกของปริมาอย่างรู้กัน
“แหม่ขุ่นแม่นอไม่โพล่เลย สามีไม่มามองไอ้เสือตาเป็นมันเชียว
นายสองคนเนี่ยไม่ธรรมดาจริงจริ้ง”
อติกาเอ่ยขึ้นก่อนที่อนิกาจะใช้มือตีแขนน้องสาวดังเปียะ
“สองคนนี้มันต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วขวัญใจมหาชนประจำโรงเรียนซะอย่าง”
อนิกาเอ่ยขึ้น
“ไม่ธรรมดาว่ะ
มาถึงไม่ถึง5นาทีสาวๆที่มองพวกฉันอยู่ดี ๆ หันไปจ้องพวกแกแทน
เฮ้อเซ็งเป็นที่ต้องการของตลาดแต่ไม่ใช่ระดับยอดนิยม”
ตติยะเอ่ยขึ้นเขารู้ว่าหล่อก่อนที่ศารทูลและสีหราชจะมาสาวๆละแวกนี้มองพวกเขา4หนุ่มอย่างหลงใหลแต่พอทั้งคู่ปรากฏตัวเท่านั้นแหละสาวๆเกือบครึ่งสนามบินมองอย่างคลั่งไคล้และหลงใหลแถมมีบางคนที่กรีดร้องเหมือนเจอดาราเกาหลีก็ไม่ปาน
“นั่นดิวะเซ็งชะมัด ไอ้พวกขโมยซีน
ไอ้หล่อไม่แบ่งปัน” เจษฏาเอ่ยเสริมคำพูดของตติยะ
“พอเหอะจะหล่อน้อยหล่อมากหรือใครขโมยซีนตอนนี้พับเก็บไว้ก่อนเขาเรียกแล้วไปขึ้นเครื่องกัน”
ปรัชชาวีเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำไป ตามด้วยสีหราชที่รีบดึงศารทูลไปก่อนจะมีเรื่องกับอริสาอีกรอบ
บนเครื่องบิน
“นี่มันอะไรกันทำไมที่นั่งฉันถึงเป็นที่ข้างๆมัน”
อริสาเอ่ยถามในขณะที่ทุกคนพอใจกับที่นั่งแต่อริสากับศารทูลยังคงออกอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน
“คือตอนจองมันเป็นแบบนี้อ่ะแกนั่งๆไปเถอะนะ
นะ” ปริมาเอ่ยบอกในใจอยากร้องไห้เธอให้น้องชายจองตั๋วให้เพราะน้องชายทำงานกับสายการบินนี้แต่ไม่นึกว่าแจ็กพอตจะแตกคู่ปรับจะต้องนั่งข้างกันพลางคิดในใจ
‘ดับอนาถเครื่องบินสายการบินxxx แอรไลน์ตกทราบสาเหตุเกิดจากสองหนุ่มสาวคู่อริเปิดฉากวิวาทบนเครื่องบิน’
คงเป็นข่าวหน้าหนึ่งพรุ่งนี้ปริมาอยากเป็นลม
“นั่งๆไปเถอะนะไม่กี่ชั่วโมงเองถือว่าเห็นแก่พวกเรานะ”
ปริมาเอ่ยบอกพลางหน้าเหมือนจะร้องไห้จนศารทูลและอริสาอดสงสารไม่ได้
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิแก เอาเป็นว่าฉันนั่งนี่ก็ได้นั่งเฉยๆนั่งเงียบๆแต่มันก็ต้องเงียบด้วย”
อริสาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปสั่งศารทูล
“อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยปริม เอาเป็นว่าเราสองคนจะต่างคนต่างอยู่จนถึงภูเก็ตเลย”
ศารทูลเอ่ยบอก ปริมายิ้มอย่างดีใจก่อนจะไปนั่งที่ตัวเอง ส่วนศารทูลและอริสาก็นั่งลงกับที่และหันหน้าไปคนละทาง
หลายนาทีต่อมา
เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาอริสาเฝ้าคิดถึงแต่เรื่องของนภิตราและตฤณกันตทำให้หญิงสาวนอนไม่หลับเมื่อขึ้นเครื่องได้ไม่นานก็เผลอหลับไปเช่นเดียวกับศารทูลที่นำทีมลูกน้องบุกจับแก็งค้ายาเสพติดจนถึงรุ่งสางกว่าจะจับหัวหน้าแก็งได้พอกลับมาถึงก็ได้นอนแค่งีบเดียวสีหราชก็มาเคาะประตูห้องทำให้ชายหนุ่มหลับไปเพราะความเพลียก่อนหน้าหญิงสาวไม่นานภาพที่ปรากฏในสายตาของคนรอบข้างตอนนี้ดูคล้ายกับฉากในละครที่นางเอกเผลอหลับซบไหล่พระเอกส่วนพระเอกก็เผลอหลับใช้หัวนางเอกแทนหมอนแม้แต่แอร์ฮอสเตรสสาวที่เดินผ่านมายังยิ้มและคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่รักด้วยซ้ำ
“ดูมันดิ มีที่ไหนเกลียดกันแทบตายสุดท้ายมานอนซบไหล่กันซะงั้น”
ตติยะที่นั่งฝั่งขวาของทั้งสองถึงกับส่ายหน้าเอ่ยบอกสีหราชและนลินญาที่นั่งข้างๆ
ส่วนเจษฏา บุญภัทรและปรัชชาวีที่หน้าข้างหน้าของศารทูลและอริสาก็หันกลับมามอง
เช่นเดียวกับแพนธีรา อนิกาและอติกาที่นั่งด้านหน้าของพวกเจษฏา
“อย่างกับในละครเลยคุณแม่”
ปริมาที่นั่งข้างๆอริสาและศารทูลเอ่ยพร้อมยิ้มกว้าง
เวลาสองคนนี้ไม่ทะเลาะกันเคมีความเหมาะสมกันมันพุ่งพล่านจนเธออดคิดไม่ได้ว่าถ้าสองคนนี้รักกันมันจะดีแค่ไหนและดูเป็นคู่ที่น่าอิจฉาแค่ไหน
“เวลาสองคนนี้ไม่ทะเลาะกันมันน่ารักนะ
จับคู่ให้ดีมั้ยเนี่ย” แพนธีราเอ่ยบอกในใจคิดอะไรบางอย่างแล้วยิ้มอย่างมีนัยยะ
“คุณแม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาส
และพรหมลิขิตไปเถอะ ถ้าสองคนนี้เป็นเนื้อคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันหรอก”
อนิกาเอ่ยขึ้นหลายคนในกลุ่มเคยรำคาญทั้งคู่จนเชียร์ให้รักกันจะได้เลิกวิวาทซะทีแต่แผนการของพวกเขาไม่เคยสำเร็จเลยจนนึกท้อใจปล่อยไปตามบุญวาสนาของทั้งคู่
“นั่นดิวะ
อย่าเพิ่งคิดจับคู่เล้ยให้มันพูดกันดี ๆ เกิน5นาทีก่อนเถอะ” บุญภัทรเอ่ยบอก อย่าคิดจับคู่สองคนนี้เลยแค่มาร่วมทริปเดียวกันก็ทำให้ทริปภูเก็ตเกือบล่มไม่เป็นท่าตั้งแต่เครื่องยังไม่ขึ้นแล้ว
“ก็จริงเนอะลูกๆขาขุ่นแม่ง่วงนอนดีกว่า”
เพราะความรักเพื่อนยิ่งชีพของแพนธีราทำให้เพื่อนในกลุ่มเรียกเธอว่าคุณแม่เพราะเธอทั้งรักและดูแลปกป้องดั่งเพื่อนๆเป็นลูกๆของเธอจึงไม่แปลกที่จะมีการหยอกล้อแบบนี้
“คร๊าบคุณแม่/คร๊าคุณแม่” เพื่อนๆตอบกลับอย่างพร้อมเพียงแต่ไม่ได้ดังจนรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น
ๆก่อนจะเลิกสนใจอริสาและศารทูล
เวลาต่อมา
“เสือ อลิน ตื่น ถึงแล้ว” นลินญาเอ่ยปลุกสองคู่กัดหลังจากเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยด้านคนถูกปลุกทั้งสองก็งัวเงียลืมตาขึ้นมาก่อนจะสะดุ้งตัวออกห่างกันอย่างกับโดนของร้อน
“ยัยเอเลี่ยนใครอนุญาตให้เธอมาซบไหล่ฉันห๊า”
ศารทูลเอ่ยขึ้นก่อน
“ใครซบ แกมากกว่าที่บังอาจมาพิงหัวฉัน”
อริสาสวนกลับทั้งที่ตนอาจผิดแต่เรื่องอะไรจะยอมรับไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย
“ใครกันแน่ยัยบ้าไม่รู้ทำน้ำลายไหลใส่เสื้อฉันรึเปล่า”
ศารทูลเอ่ยพร้อมใช้มือปัดไปมาที่ไหลข้างที่อริสาซบ
“นิไอ้สกังห์โอหัง
ฉันไม่ใช่พวกนอนน้ำลายยืดซะหน่อย” อริสาเอ่ยเถียงอย่างโมโหเธอไม่ได้เป็นคนที่นอนน้ำไหลยืดซะหน่อย
ทำงี้ได้ไงกัน
“พอแล้ว รีบลงไปกันเถอะคนอื่นลงไปหมดแล้วพวกยัยปริมลงไปรอแล้ว”
สีหราชที่ถูกสั่งให้ช่วยนลินญาปลุกพี่ชายฝาแฝดกับเพื่อนสาวถึงกับเซ็ง
‘ให้ตายเหอะตอนหลับนอนซบอย่างกับในละครตื่นมาจะฆ่ากันอีกแล้ว’ สูตินารีแพทย์หนุ่มได้แต่คิดในใจก่อนหันไปมองนลินญาที่มีอาการไม่ต่างกันเท่าไหร่แล้วลากพี่ชายเดินไปที่ทางออก
“ไปกันเถอะยัยอลิน”
สาวแว่นแสนสวยเอ่ยบอกแม้ดูเหมือนแพนธีราจะอยู่ใกล้อริสาที่สุดแต่เพื่อนสนิทที่สุดที่สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องก็คือนลินญาเพราะเธอมักวางตัวเป็นกลางที่สุดในกลุ่มและเป็นที่ปรึกษาให้กับทุกคนในกลุ่ม
“ไปสิแก หายไปไหนตั้งสามเดือนโทรไปก็ปิดเครื่อง
ไลน์ก็ไม่ตอบน้อยใจนะ” อริสาเอ่ยถามพร้อมทำท่างอนๆในบรรดาเพื่อนนอกจากแพนธีราที่เจอหน้าเกือบทุกวันแล้วคนอื่นก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหรเพราะเวลาต่างไม่ตรงกันแต่กับนลินญาทั้งสองมักจะติดต่อกันเสมอแม้ไม่ได้เจอกัน
“พอดีที่บ้านมีเรื่องอ่ะแก รู้มั้ยว่าพ่อที่แม่บอกว่าตายไปแล้วจริง
ๆเขายังอยู่แต่แค่มีอีกครอบครัวและยังเป็นครอบครัวที่ถูกต้องตามกฎหมายอีกต่างหาก” นลินญาเอ่ยบอกโดยไม่รู้เลยว่าสูตินารีแพทย์หนุ่มที่เดินนำหน้าแกล้งเดินช้าเพื่อฟังเรื่องราวของเธอ
เขาอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเธอที่ผ่านมาตลอดหนึ่งปีที่ไม่ค่อยได้เจอ ศารทูลที่รู้ใจน้องชายเหมือนสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องพูดได้แต่เดินไปช้า
ๆแกล้งงัวเงียบ้าง
“อย่าคิดมากดิแกแล้ววันนั้นที่ว่าอกหักมันยังไงห๊ะ
แกมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร” อริสาเอ่ยถาม ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าสีหราชคิดอย่างไรกับเพื่อนสาวเพราะตลอดเวลาที่เรียนด้วยกันเธอมักจะสนิทกับเขาพอๆกับนลินญาและเหตุผลหลักคือล้วงความลับจากฝาแฝดของคู่ปรับตามที่โบราณว่า
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง นอกจากจะได้ความลับของศารทูลแล้วยังได้รับรู้ความรู้สึกของสีหราชที่มีต่อสาวแว่นด้วยเมื่อเห็นว่าสีหราชแกล้งเดินช้าเธอจึงไม่พลาดที่จะสอบถามเรื่องราวจากเพื่อนสาวให้สีหราชได้ยิน
“ก็ไม่เรียกแฟนหรอกเขาเป็นลูกเลี้ยงของพ่อนะเรามีน้องร่วมกันสองคนตอนเจอครั้งแรกก็ชอบเลยแต่เขาไม่ค่อยชอบหน้าฉัน
คงคิดว่าฉันมาแย่งความรักน้อง ๆ เขามั้งแถมยังมองว่าฉันเป็นผู้หญิงง่ายๆแต่ฉันก็ยังปลื้มเขาอยู่ดีจนสองอาทิตย์ก่อนเขาประกาศหมั้นกับเพื่อนที่ทำงานฉันยัยวิน่ะแกก็รู้ว่าฉันกับวิไม่ค่อยถูกกันฉันเลยยิ่งดูแย่และเลวในสายตาเขาอ่ะ”
นลินญาพูดระบายให้เพื่อนฟังอย่างอัดอั้นด้านคนฟังอย่างอริสาได้แต่ลูบหลัง หึ...คนนึงอกหักอีกคนถูกหักหลังอะไรจะขนาดนั้น
ส่วนคนแอบฟังถึงกับโมโหหึงที่เธอในดวงใจพูดว่าชอบชายคนอื่นจนรีบกระชากคอเสื้อพี่ชายเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะแกะมีน้องชายออกจากคอเสื้อ “ไอ้นี่เบาๆก็ได้คอจะขาด”
“ขอโทษมันโมโห” สีหราชเอ่ยบอกก่อนจะเดินไปร่วมกับกลุ่มเพื่อนที่รออยู่
“ในที่สุดก็ถึงภูเก็ตแล้วทริปนี่ไม่ล่มแน่ขุนแม่ขา”
ปริมาเอ่ยบอกหลังจากอริสากับนลินญาเดินมาร่วมวงด้วย
“นั่นนะสิโล่งเลยแก
นานแล้วนะเราไม่ได้มาด้วยกันครบทีม” แพนธีราเอ่ยบอกพลางนึกไปถึงระยะเวลาต่าง ๆหลังเริ่มทำงานแต่ละคนไม่ค่อยมีเวลาทีตรงกันสักเท่าไหร
เจอกันครบทีมครั้งล่าสุดก็เมื่อตอนงานแต่งงานของเธอซึ่งก็ผ่านมาตั้ง5ปีแล้ว
“นั่นสินะทำให้นึกถึงตอนเที่ยวด้วยกันครบทีมครั้งล่าสุด
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะคบกันมาได้นานขนาดนี้” ปรัชชาวีเอ่ยขึ้นนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆภูเก็ตเป็นสถานที่แรกที่ทุกคนมาเที่ยวด้วยกันทำให้นึกถึงเรื่องราวต่าง
ๆ
“นั้นสิไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะดึงยัยอลินกับไอ้เสืออยู่ในกลุ่มได้กว่า20ปี”
ตติยะเอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา
ความคิดเห็น