ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธะรัก คู่ปรับร้าย

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่12 ปกปิด

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 62



    บทที่12 ปกปิด

    อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ทั้งชนิดแบบจุ่ม และแบบหยดที่ใช้แล้วมากกว่า5ชิ้นที่บ่งบอกไปในทิศทางเดียวกันถูกวางไว้บนโต๊ะโดยไม่มีวี่แววว่าคนที่ใช้มันจะหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง

    ดวงตาที่เคยเปล่งประกายความสงบและคมเฉียบหม่นลงทุกขณะเมื่อมองขีดสีแดงที่ปรากฏเด่นชัด2ขีดในชุดตรวจการตั้งครรภ์ทุกชิ้นที่ซื้อมาทดสอบ

    มีบางชิ้นที่เป็นขีดจาง ๆ แต่ก็เป็น2ขีด

    จะบ้าตาย เธออยากให้ชุดทดสอบพวกนี้มันเสียทั้งหมด จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่2ขีดเสียเหลือเกิน แต่...

    “นี่ฉันท้องเหรอเนี่ย?” เธอได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับมือที่เผลอลูบหน้าท้องของตัวเอง มันเป็นไปได้หรือที่แค่พลาดไปคืนเดียวเธอจะได้ของขวัญติดท้องมาแบบนี้...

    นี่ล่ะนะเขาถึงว่าเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้กับชีวิต เฮ้อ

    “เอาไงต่อล่ะเนี่ย ขืนปะป๊ารู้บ้านแตกแน่” คิดเรื่องความเอาแน่เอานอนของชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ก็มีอีกเรื่องมากวนใจ นั่คือปัญหาที่ใหญ่กว่าเธอท้องคือ...ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้เข้ามีหวังบ้านแตก

    แค่รู้ว่าเธอท้องก็คงสร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วได้ยิ่งถ้ารู้ว่าใครคือพ่อของลูกในท้องมีหวังบ้านแตก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีหวังสะท้านสะเทือน

    อริสารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที จะว่าไปแล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่บ้านรู้เข้าจะเป็นยังไงหรอก ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าวิตก ทั้งเรื่องว่าชีวิตต่อจากนี้ไปเธอจะเอายังต่อ ทั้งเรื่องต่อจากนี้เธอจะต้องดูแลตัวเองยังไง สารพัดความกังวล ไหนจะชื่อเสียงหน้าตาทางสังคมอีก เนื่องจากเธอเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลในฐานะของสาวเก่ง เป็นไอดอลของใครหลาย ๆ คน

    เป็นบรรณาธิการสาวชื่อดังที่ถูกขนานนามว่าเป็นตัวอย่างของสาวยุคใหม่  เป็นเพื่อนกับดารา เซเล็บหลายหลายคนในวงการบันเทิงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับนักข่าว

    ขืนมีข่าวออกไปว่าเธอท้องทั้งที่เพิ่งเลิกกับแฟนไม่นาน...ภาพลักษณ์อันดีงานที่สร้างมาก็พังทลายกันพอดี ชื่อเสียงตัวเองก็ทำให้เครียดพอแล้ว ยิ่งคิดไปถึงชื่อเสียงของครอบครัวอีก ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มกันไปใหญ่

    จริงอยู่ว่าสมัยนี้สังคมเปิดกว้าง การท้องก่อนแต่งเป็นอะไรที่ได้รับการยอบรับมากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นกับทุกคนถ้าเป็นคนธรรมดาอย่างมากก็แค่ถูกคนข้าง ๆ บ้านนินทา แต่ถ้ามีชื่อเสียงหน่อยก็ต้องมีการพูดถึงกันในวงกว้าง

    ตัวหญิงสาวเองมีชื่อเสียงในแวดวงสาวยุคใหม่และเพราะมีเพื่อนเป็นดาราหลายคนทำให้แฟนคลับของดาราคนดังเหล่านั้นรู้จักเธอค่อนข้างมาก ขณะที่ฝั่งผู้เป็นพ่อก็เป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เลื่องชื่อเรื่องการกวาดล้างขบวนการยาเสพติด เป็นตำรวจที่ถูกจับตามมอง ซ้ำยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่รักและสนิทสนมกันมานานกับพลตำรวจโทสัตยารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกยิ่งถูกจับจ้องไปใหญ่ ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งถูกจับตามองและคอยหาโอกาสเล่นงาน

    คาดเดาได้เลยว่าเรื่องของเธอจะถูกหยิบยกขึ้นมาเล่นงานผู้เป็นพ่อแน่ ๆ หนักไปกว่านั้นคือถ้าปะป๊าสุดหล่อของเธอสืบจนรู้เข้าว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้องเธอจนไปบังคับฝ่ายนั้นให้รับผิดชอบ(ในสิ่งที่เธอเองที่ผิด) มีหวังพลตำรวจโทสัตยาโดนหางเลขเล่นงานไปด้วยเป็นแน่ (ความจริงอีกคนที่จะถูกเล่นงานไปด้วยก็คือศารทูลนั่นล่ะแต่เธอไม่กังวลกับตานั่นหรอก)

    “โอ๊ย ทำไงดีเนี่ย” คนที่มั่นใจว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คนได้แต่คิดหนัก แว่บนึงหญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าควรปรึกษาเพื่อนสนิทอย่างแพนธีราและนลินญา แต่ก็ต้องลบความคิดนั้นไปเมื่อคิดได้ว่าแพนธีรารักความถูกต้อง ยัยคนนั้นคงจะต้องไปบอกศารทูลแน่ว่าเธอท้อง เรื่องนี้ไม่ควรให้แพนธีรารู้จะได้ไม่รู้ไปถึงหูศารทูล ยิ่งไม่ควรให้นลินญารับรู้ เพราะยัยคนนั้นล่ะซี้กับศารทูลที่สุด

    หลังจากนี้จะทำยังไงอริสายังไม่แน่ใจแต่มีอยู่อย่างนึงที่มั่นใจและไม่คิดเปลี่ยนความคิด นั่นคือเรื่องของศารทูล เธอจะไม่บอกเขาเรื่องลูก และไม่ต้องการความรับผิดชอบใด ๆ จากเขา

    จะพูดกันจริง ๆ แล้วถึงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาแต่ตัวเธอก็ผิด เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ศารทูลที่เริ่มก่อน เป็นตัวเธอเองที่เริ่มก่อน สมองสั่งการว่าไม่ควรมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ ดังนั้นแล้วศารทูลไม่ควรรู้เรื่องนี้

    อีกอย่างเธอกับศารทูลก็เปรียบอย่างขิงกับข่า ขมิ้นกับปูนมาแต่ไหนแต่ไหรแล้ว เธอไม่อยากจะให้ลูกเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันหรอกนะ

    การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด ถึงแม้ลูกเกิดมาอาจจะรู้สึกขาดพ่อไปบ้างแต่ย่อมดีกว่าต้องเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน

    อีกประการหนึ่ง จากที่เห็นวันนี้ดูเหมือนศารทูลจะมีคนรักอยู่แล้ว เธอไม่อยากไปทำลายความรักของใครหรอกนะ ยิ่งไปแทรกกลางเพราะท้องด้วยแล้วมันก็ไม่ต่างไปจากนภิตราน่ะสิ

    ไลน์

    เสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนที่วางอยู่ไม่ไกลเรียกความสนใจจากคนกำลังคนไม่ตกได้ดี หญิงสาวเบิกตากว้างหลังจากได้อ่านข้อความที่พันตรีอธิปไตยหรือผู้พันอธิป พี่ชายคนเดียวส่งมา

    Atip: ไปเอาเค้กวันเกิดเจ้าอินแทนพี่ที พี่ติดงาน

    ตายล่ะ เธอลืมเสียสนิทเลยว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของอินทัชหรืออินน้องชายคนเล็กผู้เป็นลูกหลงของบ้านที่อายุห่างจากพี่สาวอย่างเธอถึง10ปีและพี่ชายอย่างอธิปไตยถึง15ปี

    วันนี้เธอต้องกลับบ้าน!!!

    ไลน์

    Atip : เสร็จแล้วไปรับน้องอ้อมให้พี่ด้วยนะ

    Alin : ร้านน้องมีนใช่มั้ย

    Atip : ใช่...โรงเรียนน้องอ้อมเลิก3โมงครึ่ง พี่นัดรับเค้ก4โมง มีสองชิ้น ของเจ้าอิน แล้วก็ของน้องอ้อม

    Alin : OK.

    “ซวยแล้ว ๆ เลี่ยงก็ไม่ได้ด้วย” ตกลงกับพี่ชายเสร็จก็ต้องมาโวยวายคนเดียวอีกรอบก่อนจะเดินคอตกเข้าไปหาอาบน้ำอาบท่าเพราะใกล้เวลาเลิกเรียนของเด็กหญิงอินทิราหรือน้องอ้อมลูกสาววัย14ปีของอธิปไตยแล้ว

    แม้จะมั่นใจว่ารูปร่างของตัวเองยังคงผอมบางไม่คล้ายคนท้องแต่อริสาก็เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ตัวใหญ่ ๆ เพื่อปกปิดอยู่ที่ อันเนื่องมาจากคุณหญิงอารียาคุณย่าของเธอที่อยู่ที่บ้านนั้นช่างสังเกต เธอกลัวว่าคุณย่าจะสังเกตและเกิดความสงสัย

    ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมให้ครอบครัวรู้เรื่องนี้...ขอเวลาทำใจสักอาทิตย์ก่อนแล้วกัน

    บ้านที่อริสาอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ไกลจากบ้านของสองแฝดสีหราช ศารทูลนัก อยู่ในซอยเดียวกันและไปมาสะดวก ความจริงคืออยู่ตรงข้ามกันเลยเชียวล่ะ

    เพราะบ้านอยู่ตรงข้ามกันนี้เองพอมีงานมีการทำเธอจึงขอย้ายมาอยู่คอนโดฯแทนที่จะอยู่บ้านเพราะไม่อยากเจอกับใครบางคน แต่ก็กลับไปนอนที่บ้านเดือนละครั้งหรือในช่วงวันหยุด

    ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวค่อนข้างใหญ่ อยู่กันเป็นกลุ่ม บ้านใกล้เคียงกันก็จะเป็นของเครือญาติ ส่วนบ้านที่เธอเคยอยู่ก็เป็นบ้านที่พ่อได้รับสืบทอดจากคุณปู่มาอีกที ซึ่งจะถูกเครือญาติเรียกว่าบ้านใหญ่ ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมของตระกูล

    ปัจจุบันบ้านใหญ่เป็นของคุณพ่อของเธอที่เป็นลูกชายคนโตของคุณปู่และอีกไม่นานก็จะเป็นกรรมสิทธิ์ของอธิปไตยที่เป็นลูกชายคนโต

    ภายในบ้านใหญ่มีผู้อาศัยอยู่ตอนนี้ก็7คน มีคุณหญิงอารียาผู้เป็นย่าของเธอ พลตำรวจโทอาทิตย์ผู้เป็นพ่อ คุณตันหยงผู้เป็นแม่ เด็กหญิงอินทิราหลานสาว อินทัชน้องชาย อธิปไตยพี่ชายที่เยวไปเทียวมาไม่ได้อยู่ถาวรของเธอ และแก้วกานดา หลานสาวบุญธรรมของคุณหญิงอารียาที่ท่านกำลังจับคู่ให้ลงเอยกับอินทัชแต่ก็ไม่มีวี่แววสักที

    ความจริงแล้วหญิงสาวไม่ค่อยสนิทกับแก้วกานดานักเพราะตอนที่คุณหญิงอารียาพาแก้วกานดาเข้ามาในบ้านเธอก็เริ่มทำงานแล้วแต่ก็ไม่ได้มีอคติอะไรกับเด็กสาว ผิดกับอธิปไตยที่ต่อต้านและประกาศชัดว่าไม่พอใจแก้วกานดาเลยสักนิด

    และเพราะอธิปไตยบอกว่าไม่ชอบใจนี้เองทำให้แก้วกานดามักจะหายตัวไปเสมอในวันที่อธิปไตยอยู่บ้าน วันนี้ก็เช่นกัน ไม่มีวี่แววแก้วกานดาแม้แต่นิดทั้งที่อธิปไตยยังไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ

    “พี่แก้วคงกลัวปะป๊ากัดหัว” เด็กหญิงที่ใกล้จะไม่เด็กเข้าไปทุกทีอย่างอินทิราเอ่ยติดตลกเมื่อเดินตามอาสาวเข้ามาในบ้านแล้วไม่เจอแก้วกานดา

    “นี่ ๆ ยัยอ้อม ปะป๊าเราน่ะไม่ใช่ยักษ์ใช่มารนะ”

    “ก็มันจริงนี่คะคุณอา เวลาเจอหน้าพี่แก้วนะปะป๊าทำปั่นปึ่ง แยกเขี้ยวใส่ประจำเลย ไม่รู้เกลียดอะไรพี่แก้วนักหนา” หลานสาวพูดเสียงเบาก่อนจะชักชวนอาสาวเข้าไปในครัว ซึ่งเดาไม่ยากว่าคุณตันหยงไม่พ้นอยู่ที่นั่น

    ในครัวคือที่ที่คุณตันหยงและคุณหญิงอารียามักจะเข้าไปขลุกอยู่ในวันสำคัญ ๆ และวันนี้ก็เช่นกัน ทั้งคู่กำลังทำอาหารกันอย่างเมามัน ขณะที่เจ้าของวันเกิดอย่างอินทัชนั้นยังไม่กลับจากมหาวิทยาลัย อธิปไตยเองก็ติดงานคาดว่าจะมาช้าสักหน่อย ไม่ได้อยู่ในสิ่งไม่คาดคิด เพราะอธิปไตยมักจะติดงานเรื่อย ๆ อยู่แล้ว แต่ที่อริสาและทุกคนในบ้านไม่ได้คาดไว้ก็คือประมุขของบ้านอย่างพลตำรวจโทอาทิตย์นั่นล่ะ ทั้งที่เลิกงานมาสักพักแล้วแต่อีกฝ่ายยังกลับไม่ถึงบ้านทั้งที่ทุกครั้งที่ลูกสาวกลับบ้านจะต้องรีบบึ่งกลับมาก่อนลูกสาวจะถึงบ้านเสียอีก

    ไม่รู้วันนี้คุณพ่อสุดหล่อในสายตาของอริสาไปเถลไถลที่ไหนกันป่านนี้แล้วถึงยังไม่กลับแถมยังไม่มีโทรศัพท์มาบอกอีกต่างหาก ทำเอาอริสาและผู้เป็นแม่นั่งวิตกกันไปตาม ๆ กัน




    เอ พ่อเจ้แกไปเถลไถลที่ไหนน๊า อยู่กับลูกเขยรึเปล่า หึหึหึ ต้องตามต่อค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×