ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธะรัก คู่ปรับร้าย

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่11 ซวยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 62



    บทที่11 ซวยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

    แม้จะบอกนลินญาว่าว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์หน้าแต่จริง ๆ แล้วบ่ายวันต่อมาก็เป็นวันว่างของอริสาแต่หญิงสาวกลับไม่บอกนลินญาเพราะอยากใช้วันว่างนี้ไปหาหมอ...ไมอที่ไม่ใช่สีหราช

    ด้วยอาการที่ฟ้องให้กังวลและอริสาเป็นคนไม่อยากจะรู้สึกค้างคาหรือกังวลหญิงสาวจึงอยากจะตรวจให้รู้ชัดไปเลยว่าท้องหรือไม่...จากนั้นเธอจะเอายังไงค่อยคิดอีกที

    ในตอนเช้าอริสามาทำงานปกติโดยไม่ได้บอกกับชริมาหรือแม้แต่แพนธีราว่าจะไปหาหมอ แน่นอนว่าเรื่องในคืนนั้นนอกจากเธอกับคู่ปรับแล้วไม่มีเพื่อนคนไหนรับรู้ เช่นเดียวกับเรื่องยาในชาที่รู้กันแค่4คนเท่านั้น แม้จะเป็นเพื่อนแต่เธอก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่จึงไม่ได้เล่าให้แพนธีราฟัง และเดาได้ว่าอีก3คนก็ไม่ต่างกัน

    “ช่วงบ่ายพี่ไม่เข้ามาใช่มั้ยคะ?” ชริมาสอบถาม

    “ใช่ พอดีมีธุระน่ะ ว่าแต่...สองคนนั้นออกไปแล้วใช่มั้ย?” อริสาตอบและถามกลับถึงบุคคล2คนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด ตฤณกันตและนภิตรา ที่ผ่านมาเพราะไม่อยากจะมีปัญหาและไม่อยากเสวนาเธอจึงหลบเลี่ยงคนทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง ก่อนเวลาพักจะต้องให้ชริมาไปดูให้เสมอว่าสองคนนั้นออกไปกันรึยัง วันนี้ก็เช่นกัน

    “ออกไปแล้วค่ะ ได้ยินว่านางมีนัดตรวจครรภ์ล่ะ” ชริมาตอบคำตอบของสาวรุ่นน้องทำให้อริสาถอนใจพรืด หลักฐานการนอกใจที่ขยายขึ้นมาทิ่มตาเธอเรื่อย ๆ นี่มันช่างทำให้ปวดใจจริง ๆ

    แม้ว่าตอนนี้เธอจะเริ่มจะไม่รู้สึกอะไรกับตฤณกันตแล้วแต่ก็จี๊ดขึ้นทุกครั้งที่หันไปเห็นนภิตราในชุดคลุมท้อง มันย้ำเตือนว่าเธอโง่ขนาดไหนอยู่เป็นประจำเลยล่ะ

    “ออกไปแล้วก็ดี พี่จะได้ไม่ต้องเจอ ฝากเคลียร์ห้องแล้วก็บอกแพนด้วยนะว่าบ่ายพี่ไม่เข้า” อริสาสั่งผู้ช่วยสาวก่อนจะลุกออกจากห้อง

    เวลาต่อมา...

    จะมีใครซวยแบบเธอมั้ย?...อริสาก็ได้แต่ถามตัวเอง อุตส่าห์แอบมาหาหมอดันมาเจอคนที่ไม่อยากเจอถึง4คน

    “พี่อลินมาหาหมอเหรอคะ?” น้ำเสียงดัดจริตของนภิตราผู้ใสซื่อถามมาด้วยน้ำเสียงคล้ายจะห่วงใยขณะที่คนข้างกายหญิงสาวอีกสองคนยังคงยืนนิ่ง

    หนึ่งคือตฤณกันตผู้นึกสงสัยแต่ก็ต้องวางมาดว่าไม่สนใจ ขณะที่อีกคนคือมารดาของชายหนุ่มที่ไม่ค่อยปลื้มเธอมาตั้งแต่แรกแต่ปลื้มอกปลื้มใจลูกสะใภ้ผู้ใสซื่อเงินหนา

    อริสาอยากจะอาละวาดใส่คนทั้ง3แต่ก็ทำได้แต่นิ่งเพื่อไม่ให้เสียลุคบก.สาวสุดสตรองต่อหน้าสาธารณะชน

    “มาโรงพยาบาลและเข้าคิวรอแบบนี้ไม่มาหาหมอก็คงมาพบตำรวจมั้ง” อริสาตอบไปในที่สุดก่อนจะมองอีกคนที่เข้าในข่ายไม่อยากเจอ

    จะบ้าตายเธออุตส่าห์หลบและกำชับกำชาพยาบาลว่าไม่ต้องการตรวจกับหมอสีหราชแต่ดันเจออีกฝ่ายเข้าจัง ๆ วันนี้เธอคงก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้างถึงได้ไม่เป็นดั่งหวังแบบนี้

    “พี่พยาบาลคะ บอกแล้วไงว่าไม่ตรวจกับหมอสิงห์” หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจนภิตราและครอบครัวแล้วหันไปกระซิบกับพยาบาลสาวที่จัดแจงให้เธอเข้ามารอในห้องตรวจและพบเข้ากับคนที่ไม่อยากเจอทั้ง4คน

    “พอดีหมอมิ้นลากิจกะทันหันน่ะค่ะ คนไข้ของหมอมิ้นเลยโอนมาให้หมอสิงห์” พยาบาลสาวกระซิบบอกก่อนจะยื่นประวัติคนไข้ทั้งสองรายให้กับคุณหมอ คนไข้รายแรกก็คือนภิตราที่ความจริงมีนัดตรวจครรภ์กับหมอผู้หญิงอีกคนแต่เพราะวันนี้หมอคนนั้นมีธุระกะทันหันและสีหราชก็ว่างและรับอาสาตรวจแทนให้ และอีกรายก็คืออริสา

    สีหราชรับประวัติของคนไข้ทั้งสองมาทว่ากลับไม่ได้อ่านรายละเอียดข้างในในทันที ดวงตาจดจ้องมาที่เพื่อนสาวด้วยความสงสัย “แกมาตรวจภายใน หรือมาทำอะไร ทำไมถึงเจาะจงไม่ตรวจกับฉัน?”

    “เอ่อ มาตรวจภายในน่ะ แต่คิดดูอีกที ไม่ตรวจแล้วดีกว่า กลับล่ะนะ” อริสาลนลานบอกก่อนจะออกจากห้องตรวจไปทันทีทิ้งไว้เพียงความสงสัยให้กับคุณหมอหนุ่มและอีก3คน

    ทว่าอริสาคงลืมไปว่าก่อนจะเข้ามาห้องตรวจได้แจ้งจุดประสงค์ให้กับพยาบาลไว้แล้วและจุดประสงค์ของหญิงสาวก็ถูกระบุชัดในระเบียนประวัติทันทีที่สีหราชเปิดดูก็รู้ได้ในทันที

    ตรวจการตั้งครรภ์งั้นเหรอ?  สีหราชได้แต่เก็บความสงสัยไว้และทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เสร็จงานแล้วค่อยสืบหาความจริงก็ยังไม่สาย

    ด้านอริสาที่ลนลานออกมาจากห้องตรวจได้แต่นั่งกลุ้ม ตรวจก็ไม่ได้ตรวจ แถมยังเจอคนที่ไม่อยากเจออีก  ไหนจะไปเผยพิรุจให้สีหราชสงสัยอีก นี่มันวันอะไรกันนะ

    “สารวัตรคะ คุณโอเคมั้ย?” ขณะที่กำลังคิดอย่างกลัดกลุ้มเสียงสนทนาหนึ่งก็ลอยเข้ามาในหูจนต้องให้ความสนใจเมื่อเสียงสนทนาตอบรับนั้นเป็นเสียงที่คุ้นหู

    “ผมโอเคครับซากิโกะ คุณล่ะเจ็บตรงไหนมั้ย”

    “ฉันโอเคค่ะสารวัตร ดีใจจังที่คุณเป็นห่วง” เสียงผู้หญิงที่ตอบโต้พูดด้วยสำเนียงเปร่ง ๆ บ่งบอกว่าไม่ใช่คนไทยขณะที่เสียงของผู้ชายนั้นแค่ฟังคำเดียวอริสาก็รู้สึกคุ้นจนต้องมองหาต้นเสียงและแอบลอบมอง

    เป็นเขาคนนั้นจริง ๆ ...เสียงที่คุ้นหูนั้นเป็นของศารทูลจริง ๆ

    ดวงตาคู่คมเฉียบลอบมองชายหนุ่มในชุดนอกเครื่องแบบมีผ้าพันแผลพันรอบฝ่ามือขวา ข้าง ๆ กันเป็นสาวที่สูงเกือบจะเท่าชายหนุ่มยืนอยู่ เธอคนนั้นผมยาวสลวย ใบหน้าบ่งบอกสัญชาติว่าไม่ใช่สาวไทยแต่เป็นสาวต่างชาติ ยิ่งก่อนที่ศารทูลเรียกเธอว่าซากิโกะ เดาได้ไม่ยากว่าสาวคนนี้เป็นสาวเจแปนนิสอย่างแน่นอน

    มันน่าหนักเชียวขณะที่เธอกำลังกลุ้มใจและรู้สึกผิดอีตานี้กลับมาจีบกับสาวเจแปนนิสภายในโรงพยาบาลโดยไม่แคร์สายตาใคร

    มือบางกำแน่นโดยไม่รู้ตัว อยู่ ๆ อริสาก็รู้สึกลมออกหูขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    “เราทำงานด้วยกัน และคงจะต้องร่วมงานกันไปอีกสักพัก ไม่เป็นห่วงกันไม่ได้หรอกครับ” ศารทูลตอบกลับสาวญี่ปุ่นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มโดยไม่รู้ถึงการมีตัวตนอยู่ใกล้ ๆ ของใครอีกคนแม้แต่น้อย ไม่รู้เลยด้วยว่าคน ๆ นั้นกำลังขุ่นเคืองไม่ใช่น้อย

    อริสาสะบัดหน้าเดินหนีทันทีที่เห็นรอยยิ้มของคนทั้งคู่ รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะอาวาดโรงพยาบาลโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

    หญิงสาวจากไปแล้วแต่ศารทูลและสาวญี่ปุ่นยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่นานก็มีใครอีกคนเดินเข้ามาหาทั้งคู่ คนมาใหม่เป็นหนุ่มสัญชาติเดียวกับหญิงสาวและมาประเทศไทยพร้อมกับหญิงสาว

    แท้จริงแล้วทั้งคู่คือตำรวจญี่ปุ่นที่ติดตามคนร้ายมาถึงประเทศไทย เมื่อมีการประสานงานเข้ามาและได้รับข้อมูลมาว่าคนร้ายคนนั้นเกี่ยวข้องกับคดีที่ศารทูลกำลังสืบอยู่ผู้ใหญ่จึงให้ศารทูลเป็นผู้ช่วยและร่วมมือกับทั้งคู่จับคนร้ายคนนั้นให้ได้

    “เฮ้สารวัตร เมื่อครู่ผมเดินชนกับคนหน้าตาเหมือนคุณแต่ใส่เสื้อกาวน์ด้วย” มิซาว่า เคนอิจิ สารวัตรหนุ่มจากกรุงโตเกียวเอ่ยบอกด้วยสีหน้าประหลาดใจ ทั้งตัวเขาและมัตสิมิ ซากิโกะ ที่มาด้วยกันต่างก็สื่อสารภาษาไทยได้เนื่องจากเคยร่ำเรียนมาบ้างจึงใช้ภาษาไทยสนทนากับศารทูลแทนการใช้ภาษาสากล

    “อ้อ ฝาแฝดของผมน่ะ เขาเป็นหมอสูติอยู่โรงพยาบาลนี้ล่ะ” ศารทูลชี้แจงก่อนจะเชิญชวนทั้งสองคน “ทำแผลเสร็จแล้วเราออกจากที่นี่กันเถอะ ผมไม่ค่อยอยากเจอน้องชายเท่าไหร่ ขืนเจ้านั่นเห็นผมได้แผลคงได้บ่นยับแน่”

    “โอเค” เคนอิจิตอบรับทว่าทั้ง3กลับไม่ทันได้ก้าวไปไหนสีหราชก็ร้องเรียกศารทูลเข้าเสียก่อน

    “จะรีบไปไหนไอ้เสือ ทำอย่างกับไม่อยากเจอฉันงั้นแหละ”

    “ก็ไม่อยากเจอน่ะสิ” ศารทูลตอบกลับพยายามซ่อนมือที่เจ็บไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็น

    ทว่าสีหราชกลับไม่สนใจแผลของแฝดผู้พี่มากไปกว่าการมองหา “เออ แกเห็นอลินมั้ย?”

    “อลิน? ยัยนั่นมาโรงพยาบาลเหรอ?” ได้ยินชื่ออริสาขึ้นมาศารทูลก็แทบบ้า หัวเสียไม่น้อยกับสิ่งที่อริสาทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าและหลบหน้าหลบตาไปในเช้าวันนั้น

    วันนั้นเขาตื่นมาเจอเพียงหยดเลือดแห้งกรังบนผ้าปูที่นอนและความว่างเปล่า...ใครว่าฟันแล้วทิ้งทำได้แค่ผู้ชายเล่า ผู้หญิงก็ทำได้เหมือนกัน ยัยนั่นได้เขาแล้วทิ้งอย่างไม่ใยดี หลบหน้าหลบตาไม่ยอมเปิดโอกาสเคลียร์แม้แต่น้อย มันน่าโมโหนัก

    “ก็เออสิ ยัยอลินมาหาหมอมิ้น แต่หมอมิ้นติดธุระเลยโอนคนไข้มาให้ฉัน แต่ยัยนั่นไม่ยอมตรวจกับฉันแล้วก็ขอตัวกลับ” สีหราชบอก “แต่คงกลับแล้วมั้ง ช่างเถอะ”

    ศารทูลมองน้องชายฝาแฝดที่พูดเหมือนจะตัดใจแล้วก็เดินหนีไปไม่สนใจอาการเจ็บของเขาสักนิด ไอ้น้องบ้านี่มันน้องเขาหรือน้องของอริสากันแน่ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ถ้าให้เลือกระหว่างเขากับอริสา เจ้านี่เลือกห่วงยัยนั่นมากกว่าเขาประจำ

    “เขาถามหาแฟนเขาเหรอคะ?” ซากิโกะแทรกขึ้น

    “เปล่า เพื่อนน่ะ” เพื่อนสนิทของสีหราชแต่เป็นยัยผู้หญิงไร้ความรับผิดชอบที่ได้เขาแล้วทิ้งน่ะ  คิดแล้วก็ได้แต่หงุดหงิดอยู่ลึก ๆ พร้อม ๆ กับสงสัยด้วยเช่นกันว่าหญิงสาวมาหาสูตินารีแพทย์ทำไม

    เธอป่วย? หรือว่า...




    หรือว่าาาาาาาาาา ว่าอะไรน๊า  ต้องตามติดกันจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×