คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่10 ฟันแล้วทิ้งผู้หญิงก็ทำได้
บทที่10ฟันแล้วทิ้งผู้หญิงก็ทำได้
อริสาก้มลงจูบคนใต้ร่างอีกครั้งอย่างหนักหน่วง
แท้จริงแล้วหญิงสาวไม่ประสีประสาเรื่องอย่างนี้แม้แต่น้อยแต่เพราะฤทธิ์ของยาทำให้หญิงสาวทำสิ่ง
ๆ ไปโดยธรรมชาติ บวกกับสมองมีภาพของตฤณกันตและนภิตราที่เธอได้พบเห็นล่องลอยหลอกหลอนอยู่ทำให้ร่างกายแสดงออกมาเหมือนกับที่เห็นมา
ในตอนนี้สมองของเธอบอกว่าอยากรู้เหลือเกินว่าที่นภิตราและตฤณกันตทำลับหลังเธอมันสนุกนักหรือใบหน้าของคนทั้งคู่ในตอนนั้นจึงได้ดูมีความสุขนัก
และอะไรหลาย ๆ อย่างบอกเธอว่าถ้าอยากรู้ก็แค่ทำเหมือนกับที่สองคนนั้นทำเธอก็จะได้รู้
สมองสั่งมาอย่างนี้โดยไม่ได้สนใจว่าคนที่อยู่ใต้ร่างเป็นคนที่เธอเคยเพียรบอกตัวเองและคนอื่น
ๆ ว่าชาตินี้ทั้งชาติต่อให้เหลืออยู่เพียงคนเดียวในโลกเธอก็จะไม่เอามาทำพันธุ์
หญิงสาวซุกไซ้ลำคอแข็งแรง
หยอกล้อลูกกระเดือกของคนไม่สามารถขัดขืนได้มือบางพลางลูบไล้ไปตามหน้าอกแข็งแรง
อกแกร่งของศารทูลเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันเนื่องมาจากชายหนุ่มชื่นชอบการออกกำลังกายและเคยผ่านการฝึกหลักสูตรพิเศษมาไม่น้อยทำให้แลดูล่ำสัน
แข็งแรงน่าจับ
ศารทูลดูจะไร้ความสามารถไปชั่วขณะ
เขาไม่อาจจะขัดขืนหญิงสาวได้แม้แต่น้อย ให้ตายเถอะความจริงมันควรจะเป็นแบบนี้เหรอ
แม้จะคิดอย่างขัดออกขัดใจแต่ก็ได้แต่นอนให้อริสาที่แปลงร่างเป็นผู้หญิงซาดิสม์เพราะฤทธิ์ยาปู้ยี่ปู้ยำแบบถูก
ๆ ผิด ๆ ไปจนกระทั่งฤทธิ์ยาในตัวหญิงสาวอ่อนลงบ้างจึงได้เวลาของพยัคฆ์ได้สอนสิ่งที่ถูกต้องให้ยัยผู้หญิงซาดิสม์ได้รู้
เพราะฤทธิ์ของยาทำให้คนทั้งคู่หลงลืมความผิดชอบชั่วดี
ลืมเลือนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ทำให้เผลอไผลให้เกิดสิ่งที่ไม่ควรเกิดโดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นบ่วงที่ผูกมัดและดึงให้ทั้งคู่เข้ามาใกล้กัน
รวมถึงเปลี่ยนสถานะระหว่างกันและกันไปตลอดกาล...
2เดือนต่อมา...
“อุ๊ก แหวะ”
ห้องน้ำภายในห้องทำงานส่วนตัวของบก.สาวมีเพียงเสียงอาเจียนโอกอ้ากพร้อมกับเสียงน้ำที่ถูกเปิด
มือบางจับขอบอ้างล้างหน้าไว้แน่นขณะที่อาเจียนขับของเก่าออกเป็นรอบที่10ของวัน
อริสามองสิ่งอาหารเช้าที่สำรอกออกมาด้วยความหวาดวิตกพลางนึกไปถึงเรื่องราวชวนอับอายขึ้นมาจนขย่อนของเก่าออกมาอีกรอบ
2-3วันมานี้เธอมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจนไม่อยากจะมาทำงานแต่ก็ต้องแบกสังขารอันอ่อนล้ามาทำงานเพราะไม่อยากคิดถึงความผิดพลาดอันหน้าอับอาย
ให้ตายเถอะตลอด2เดือนหลังจากไปทริปกับเพื่อนเธอก็ต้องพบเจอกับภาพหลอนที่หลอกหลอนเธออยู่ทุกวี่วันย้ำเตือนว่าเธอขืนใจคู่อริของตัวเองอย่างไม่ปรานี
ข่มเหงเขาในแบบที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทำ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งอยากเอาหัวโม่งผนังฆ่าตัวตายหนีความอับอาย
นึกถึงเช้าวันนั้นที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำน่าอับอายและรอยข่วนและรอยแดงคล้ายถูกตีที่อยู่บนตัวศารทูลที่ย้ำเตือนว่าความทรงจำนั้นคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันก็ยิ่งพาให้หญิงสาวไม่กล้าสู้หน้าชายหนุ่มคู่อริ
เช้าวันนั้นเธอรีบแต่งตัวและกลับห้องตัวเองอย่างไว
พอถึงเวลาอาหารเช้ายังเลี่ยงบอกว่าไม่หิวทั้งที่ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดจากนั้นก็หลบหน้าหลบตาศารทูลและขอแยกกลับโดยไม่ได้พูดกับชายหนุ่มสักคำ
แต่เดาได้ล่ะว่าศารทูลคงบริภาษด่าทอเธอและโยนคำว่าผู้หญิงซาดิสม์ฟันแล้วทิ้งให้เธออย่างแน่นอน
อริสารู้สึกกลุ้มใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องในคืนนั้น
และ2-3วันมานี้ยิ่งกลุ้มหนักเพราะอาการป่วยแปลก ๆ ของเธอนี่ล่ะ มีไข้อยู่ตลอดเวลา
คลื่นไส้วิงเวียน เหม็นนั่นเหม็นนี่ไปหมด
เธอคงไม่ได้ท้องหรอกนะ....ไม่นะ!!!
ก๊อก ๆ ๆ
“พี่อลินคะ มีคนมาหาค่ะ”
ชริมาส่งเสียงบอกหลังจากที่เคาะประตูและเปิดเข้ามา
ร่างบางของใครคนหนึ่งที่อริสารู้สึกเคือง ๆ อยู่ไม่น้อยแทรกเข้ามาด้วยรอยยิ้มแหย ๆ
“หวัดดีเพื่อนรัก”
นลินญาส่งเสียงทักพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ ตั้งแต่กลับจากทริปนลินญาก็เหมือนจะหลบหน้าหลบตาเธอไม่ต่างจากที่เธอหลบหน้าหลบศารทูลเลยทีเดียว
แต่ในที่สุดยัยตัวดีก็ยอมโผล่มา
“ว่าไง?”
“แหะ ๆ” สาวแว่นหัวเราแห้ง ๆ
ก่อนจะขอให้ชริมาออกไปก่อน รุ่นน้องสาวที่รู้จักกันดีทำตามอย่างว่าง่ายก่อนที่นลินญาจะล็อคห้องและเดินมานั่ง
“คือฉันมีเรื่องจะสารภาพอะแก
คือวันนั้นฉันคิดจะวางยาถ่ายแก สิงห์ แล้วก็เสืออะ
แต่ยาที่ได้มาอะมันเป็นยาอีกอย่างอ่ะ” นลินญาสารภาพออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “คือฉันจะแกล้งยัยวิอะ
เลยให้พี่ที่รู้จักหายาถ่ายสูตรเด็ดให้ แต่พี่เขาคิดว่าฉันจะเอาไปใช้กับคุณภูเบศก็เลยสลับยาอะ
ฮือ ฉันขอโทษแก แกอย่าโกรธฉันนะ”
“แล้วตกลงมันยาอะไร?
แล้วไอ้พี่เขาที่ว่านั่นใคร บ้านอยู่ไหนฉันจะไปถล่มมัน” ใช่
เธอต้องไปเล่นงานไอ้บ้าที่สลับยาให้นลินญามา เพราะไอ้ยาอะไรก็ไม่รู้นั่นแท้ ๆ
ที่ทำให้เธอทำอะไรน่าอายแบบนั้นลงไป
“แกไปถล่มพี่เขาไม่ทันแล้วแก
เสือมันจับพี่เขายัดกรงขังไปแล้ว” นลินญาเอ่ยพร้อมกับกลืนน้ำลายเอือกใหญ่เมื่อนึกไปถึงการกระทำของศารทูล
หลังจากกลับกรุงเทพฯศารทูลก็มาหาเธอและให้เธอพาไปเจอคนที่เอายานั่นมาให้
พอพาไปเจอเท่านั้นแหละศารทูลก็ซัดพี่คนนั้นจนไม่เหลือดีก่อนจะสอบถามที่มาที่ไปของยา
พอได้ที่มาก็จับยัดพี่คนนั้นเข้าคุกข้อหาขายยาเสพติดมีโทษไปทันที
“นายนั่นเป็นตำรวจปส.นี่
จะไปจับคนมันต้องเกี่ยวข้องกับสายงานไม่ใช่เหรอ? นี่ พูดให้เคลียร์หน่อยได้มั้ย”
อริสาสอบถามด้วยความงุนงง แค่ได้ยินว่าศารทูลเข้าไปเกี่ยวข้องเธอก็รู้สึกร้อน ๆ
หนาว ๆ ไปทั้งตัวแล้ว ชื่อนี้มามีอิทธิพลกับเธอเสียแล้ว
นลินญาลอบกลืนน้ำลายอีกรอบก่อนจะเล่าให้เพื่อนสาวฟัง
“คืออย่างงี้แก ยานั่นน่ะมันเป็นยาปลุกเซ็กส์
ที่ทำให้มีความต้องการทางเพศมากกว่าปกติและจะคึกคักมีเรี่ยวแรงมากกว่าปกติ
แต่ที่สำคัญกว่าคือมันผสมยาอีทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ถ้าใช้เกิน3ครั้งจะติดเหมือนติดยาเสพติดนี่ล่ะ”
“ยาอี?”
จะบอกว่าเกินที่คาดเดาก็น่าจะใช่ อริสาไม่เคยคิดเลยว่าในยาจะผสมสารเสพติดแบบนั้นเข้าไปด้วย
“มะ หมายความว่านายนั่นกินเข้าไปแล้วรู้ว่าผสมยาอี
เลยให้แกพาไปหาคนที่ให้มาอย่างนั้นใช่มั้ย”
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิงอะ
คือเสือมันบอกว่าเพราะเป็นยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรงที่ถ้าใช้บ่อยจะทำให้ติดและมีผลคล้ายยาเสพติดทำให้ได้รับคำสั่งให้กวาดล้างไอ้ยาชนิดนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ก่อนนี้ไม่มีเบาะแสอะไรเลย
พอโดนกับตัวก็เลยคาดเดาว่าน่าจะใช้ก็เลยให้ฉันพาไปเจอพี่เขา เพราะพี่เขาขายอยู่แล้วด้วย”
“อย่างนี้เอง
แสดงว่าตอนนี้ก็กำลังสืบลึกไปและกวาดล้างให้หมดอยู่ล่ะสิ” อริสาคาดเดา
มิน่าล่ะถึงไม่มีทีท่าจะมาเอาโทษเธอ
“รู้แบบนี้แล้ว?”
“ฉันไม่โกรธแกก็ได้
แต่แกต้องตอบก่อนว่าทำไมถึงคิดจะวางยาถ่ายฉันกับสองแฝด” อริสาเอ่ยพร้อมกับขมวดคิ้ว
จะว่าไปเธอก็คิดไม่ออกว่าทำไมนลินญาถึงต้องมาแกล้งเธอกับอีกสองคนด้วย
นลินญายิ้มแหยก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกอยากแกล้งขึ้นมาอริสา สีหราช
และศารทูลก็คงไม่ต้องทรมานกับฤทธิ์ยาแบบนี้
อริสาฟังอย่างตั้งใจก่อนจะถอนใจพรืด เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านลินญาก็ชอบพอสีหราชเช่นกัน
นี่ถ้ารู้นะเธอจะยุให้จีบกันตั้งแต่มัธยมแล้วแต่คนที่แย่ที่สุดก็ไม่พ้นศารทูล
นายนั่นรู้ทั้งรู้ว่าเขาชอบกันทำถึงอมพำอยู่จนเรื่องเลยเถิดมาถึงตอนนี้
ความจริงคือนายคนนั้นควรโดนหนักที่สุด
แต่ทำไมไอ้คนที่รับยาไปเต็ม ๆ
เป็นเธอเล่า เฮ้อ เหนื่อยกับโชคชะตา
พอคิดมาถึงตรงนี้ก็คิดเรื่องนึงขึ้นมาได้จนต้องจ้องร่างบอบบางของสาวแว่นอย่างสำรวจ
“ถึงวันนั้นฉันจะเมาแต่จำได้ว่าสิงห์ลากแกกลับเข้าบ้าน เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”
นลินญาส่ายหน้าหัวแทบหลุดทว่าแก้มกับแดงจนน่าสงสัยเข้าไปใหญ่
อริสาพยายามข่มความคลื่นไส้เดินเข้าไปใกล้สาวแว่น
“พูดความจริงมานะ
คืนนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?”
“ไม่มี อย่าลืมสิว่าเราเป็นวันแดงเดือดนะ”
นลินญายังคงปฏิเสธ อริสามองอย่างจับผิดก่อนจะลองคิดตามแล้วพยักหน้า
“แสดงว่าวันนั้นแกก็แยกกลับห้องไปก่อนไม่รู้ว่าหมอสิงห์มีอาการอะไรหรือไม่งั้นสิ”
อริสาคาดเดาทว่านลินญากลับส่ายหน้าเป็นการตอบกลับ
“อ้าว ไหนบอกไม่มี
ตกลงมันยังไงกันเนี่ย?”
“ก็ไม่มีอะไรลึกซึ้งเพราะเราเป็นวันนั้น
แต่ก็ต้องช่วยหมอสิงห์นิดหน่อย” พูดไปแล้วนลินญาก็เขินอายจนต้องยกมือปิดหน้า อริสาอ้าปากค้าง
ไอ้คำว่าช่วยนี่ถ้าไม่ขยายความเธอจะเข้าใจไปในทางทะลึ่งแล้วนะ
ไอ้ท่าทีเขินจนหน้าแดงแบบนี้อย่าบอกนะว่าเป็นอย่างที่เธอคิด
อริสาถามทางสายตา
นลินญาก็พยักหน้าแทนคำตอบสองสาวจึงได้แต่หน้าแดงใส่กัน
เพราะไม่อยากให้เพื่อนเขินจนตัวแตกไปก่อนเจ้าของห้องจึงรีบถามเปลี่ยนเรื่องหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบแผ่ปกคลุมมาสักพัก
“แล้วหลังจากนั้นเป็นไง แกกับหมอสิงห์ตอนนี้น่ะ...เป็นยังไง?”
“เป็นอะไรยังไงล่ะ ฉันหลบหน้าเขาตั้งแต่กลับกรุงเทพฯจนถึงตอนนี้เนี่ย
เจอแต่เสือไม่เจอสิงห์เลย ฉันกลัวเขาเกลียดอะแก”
“คิดมาก หมอสิงห์น่ะรักแกจะตายจะโกรธแกได้ไง” บก.สาวปลอบใจก่อนจะเสนอความคิดเห็น
“เอาอย่างนี้มั้ย อาทิตย์หน้าฉันมีวันหยุดเราแวะไปหาหมอสิงห์กัน
ทำทีเป็นไปเรื่องปวดท้องที่หมอสิงห์บอกให้ไปหาไงแล้วแกก็หาโอกาสขอโทษเขา ดีมั้ย”
“เป็นความคิดที่ดี วันไหนอ่ะ?”
“อืม อาทิตย์หน้าฉันว่างวันพฤหัสกับศุกร์
แกว่าไง” หญิงสาวถามพร้อมกับมองตารางงานที่ว่างแค่วันพฤหัสบดีและวันศุกร์หน้า
“เป็นวันศุกร์แล้วกันแก วันพฤหัสฉันมีนัดลูกค้า”
นลินญาเลือกวันที่เธอสะดวกที่สุดก่อนจะชวนอริสาออกไปทานอาหารเที่ยงด้วยกันเนื่องจากได้เวลาพักเที่ยงแล้ว
บอกแล้วว่าเฮียเสือเป็นผู้ถูกกระทำ555+ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างอาจจะมาช้า มาไม่ตเป็นเวลาบ้างนะคะ เชียร์เราหน่อย เม้นเรานิด แล้วสัญญาจะไม่ทิ้ง555+
ความคิดเห็น