ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ THE Vampire ; Brilliant ★

    ลำดับตอนที่ #1 : THE VAMPIRE BRILLIANT ; INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 55


     

    THE VAMPIRE BRILLIANT ; INTRO

     

     

     ตึก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟลิ้ววว ~

     

    ป่าทึบที่เต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดกลางหุบเขาที่กว้างใหญ่ มีเมฆปกคลุมอยู่ทั่วทั้งเขา แต่ยังพอมีแดดจากพระอาทิตย์สอดส่องเข้ามาบ้างเป็นบางจุด จึงทำให้พอมองเห็นเงาคนนับสิบที่กำลังวิ่งไล่ล่ากันอยู่ ใบไม้ตามต้นไม้ร่วงหล่นเป็นทาง เสียงโหยหวนของสัตว์บางชนิดที่คอยส่งเสียงร้องตลอดเวลาทำให้รู้ว่าป่าแห่งนี้อันตรายขนาดไหน

     

    วิ่งยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก !!” หญิงสาวที่มีโฉมหน้างามยิ่งนัก ตะโกนบอกกับชายหนุ่มที่เธอกำลังวิ่งตามอยู่ สายตาทอดยาวไปทั้งทางพลางส่งสายตาหาสมุนที่วิ่งมาด้วยกันเหมือนพยายามบ่งบอกอะไรบางอย่าง

     

    ไม่นานนักทุกคนก็วิ่งมาจนสุดทาง ชายหนุ่มที่ไม่เห็นแม้แต่ทางออกว่าจะหนีอย่างไรต่อไป หน้าผาที่เต็มไปด้วยกลุ่มหมอกควันสีขาวจางล่องลอยปกคลุมทั่วบริเวณ มองลงไปสูงเป็นพัน ๆ เมตร น้ำทะเลที่กระทบฝั่งดังกลบความเงียบที่มีอยู่ขณะนั้น

     

    ทางตันแล้ว..เสียงหญิงสาวคนเดิมเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางเสียงของลมแรง ๆ พัดไปพัดมา ต้นไม้บริเวณนั้นเอนเอียงไปตามกระแสลม

     

    ฉันคงหนีไม่พ้นแล้วสินะ  ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง พลันหันหน้ามาเผชิญกับหญิงสาวนับสิบที่ยืนเรียงกัน ดูเหมือนเตรียมตัวที่จะต่อสู้

     

    เนี่ยนะหรอ ที่เขาบอกกันว่าแข็งแกร่ง ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ….”

    เสียชาติเกิดจริง ๆ ที่เกิดมาเป็นแวมไพร์หญิงสาวร่างบางยิ้มมุมปาก หน้าตาเยาะเย้ยชายตรงหน้า พร้อมกับเสียงหัวเราะของหญิงสาวอีกนับสิบที่ลายล้อมอยู่รอบข้าง

     

    ก็ยังดีกว่าพวกแม่มดเลือดสกปรกอย่างพวกแกชายหนุ่มร่างสูงสวนกลับไปด้วยคำพูดที่ทำให้แม่มดเหล่านั้นโกรธไม่น้อย สายตาเร้าร้อนของพวกแม่มด บ่งบอกให้รู้ถึงอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ข้างใน พร้อมที่จะระเบิดออกมาเต็มที่

     

    ปากดีจริงนะ ……. แต่ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย บอกลาโลกซะเถอะ หลังจากพูดจบ กลุ่มหมอกควันเริ่มกระจายออกไปจนทำให้เห็นคนตรงหน้าชัดขึ้น ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ใบไม้จากต้นไม้เริ่มหลุดปลิวทีละใบ นัยน์ตาของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกอย่างเห็นได้ชัด รังสีแห่งความร้ายกาจเริ่มปกคลุมแทนกลุ่มหมอกควัน ทุกอย่างที่บริเวณนั้นเริ่มกระจัดกระจายไปคนล่ะทิศล่ะทาง

     

    ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าจู่โจมหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเร็วที่แทบมองไม่ทัน แต่การกระทำนั้นต้องโดนหยุดด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น แวมไพร์หนุ่มลอยขึ้นเหนืออากาศ เขาทอดสายตามองไปโดยรอบด้วยความสงสัย พลันหันมองแม่มดใจมารที่ยืนอยู่ตรงหน้า หญิงสาวใช้เวทมนต์ที่ตัวเองมีอยู่ บังคับร่างกายของแวมไพร์หนุ่มให้ลอยเหนืออากาศ

    ก็เร็วดีนะ แต่ยังไม่พอ หญิงสาวชูมือข้างหนึ่งขึ้นเหนือหัว แบมือไปทางชายหนุ่มที่ลอยอยู่บนอากาศ ไม่นานแวมไพร์หนุ่มเริ่มรู้สึกปวดบริเวณอก เขารู้สึกเหมือนโดนบางอย่างบีบไว้ ชายหนุ่มร้องด้วยความทรมาน มือทั้งสองข้างมากำหน้าอกตัวเองไว้

     

    หญิงสาวยิ้มด้วยความสะใจ ที่เห็นคนตรงหน้าทรมานอย่างที่เขาอยากให้เป็น เธอเริ่มกำมือลงช้า ๆ แต่เสียงของชายหนุ่มมันยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด เหมือนร่างของเขาเองจะแตกสลายไปเต็มที

     

    แต่ไม่ทันที่แม่มดใจมารจะกำมือสนิท ก็มีร่างที่มองไม่เห็น วิ่งด้วยความว่องไวพุ่งมาชนหญิงสาวจนกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้บริเวณนั้น

     

    ทำให้แม่มดที่ยืนลายล้อมอยู่นั้นตกใจไปตาม ๆ กัน ที่เห็นเจ้านายตัวเองโดนทำร้าย ไม่นานนักร่างของเงาที่มองไม่เห็นก็ปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับฝูงหมาป่าและแวมไพร์ที่เดินตามหลังมาเรียงแถวเป็นแนวเดียวกัน ร่างของแวมไพร์หนุ่มที่ลอยตัวอยู่ตอนแรกหล่นลงสู่พื้นแล้วหมดสติไป แวมไพร์สาวในกลุ่มที่พึ่งมารีบวิ่งไปดูอาการของชายที่หมดสติอยู่

     

    หึหึ มากันทั้งตระกูลเลยหรอคำพูดของหญิงสาวดึงความสนใจของพวกหมาป่าและแวมไพร์ได้ไม่น้อย เธอพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับทอดสายตามองไปหากลุ่มตรงหน้า

     

     ไม่เจอกันนาน กลับมาคราวนี้ จะมาเอาชีวิตลูกข้าหรอ ชายหนุ่มผิวขาวรูปงามพูดขึ้น

     

     

    พวกคาเรว่า ตระกูลแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ หึ แต่การต่อสู้ของคนที่เกิดใหม่นี่ ไม่ได้เรื่องสายตาของหญิงสาวมองไปหาร่างชายหนุ่มที่หมดสติอยู่ตรงพื้น

     

    เจ้าก็เหมือนกันนะเดร์ซี่ แม่มดที่เก่งกาจที่สุดในเมืองนี้ ไม่ใช่สิ ในโลกนี้ตังหาก เก่งกาจที่สุด ……แต่ความโดดเดี่ยวก็มีมากที่สุดเหมือนกันแวมไพร์หนุ่มมองแม่มดที่ยืนเรียงกันอยู่นับสิบพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย

     

    แม่มดพวกนี้ก็คงเป็นแม่มดฝึกหัดเหมือนกันใช่ไหม ? ถ้าทางยังอ่อนต่อโลก อยากรู้จริง ๆ ว่าสู้ได้เก่งสักแค่ไหน

     

    ไม่รอช้า แวมไพร์หนุ่มวิ่งอย่างว่องไว ไปหักคอแม่มดทีละคนจนร่างแตกสลายกลายเป็นฝุ่นแล้วปลิวตามลมไป

     

    ใช่ว่าคนที่เกิดใหม่อย่างลูกข้า จะสู้ไม่ได้เรื่องเสมอไป สมุนแม่มดของเจ้านี่ ก็ใช่ว่าจะสู้ได้เรื่องเสมอไป

    และแล้วร่างของสมุนแม่มดแต่ละคน ก็สลายหายไปในที่สุด

     

    ทีนี้เจ้ายังคิดจะสู้อยู่อีกหรือไม่ ?ชายหนุ่มมองแม่มดสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

    หญิงสาวไม่ตอบอะไร ได้แต่ยืนมองร่างชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น

     

    ข้าไม่คิดจะสู้….”

     

    แต่จะฆ่าลูกของเจ้า !!” เมื่อจบประโยคแม่มดสาวชูมือทั้งสองอย่างเร็วไว ไม่นานนักกลุ่มหมอกควันเริ่มปกคลุมเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนมองเห็นภาพลาง ๆ เธอใช้เวทมนต์ผลักให้แวมไพร์สาวออกห่างจากตัวชายหนุ่มที่นอนอยู่ตรงพื้น และเธอก็วิ่งเข้าไปใกล้แวมไพร์หนุ่มนั่น แต่ต้องโดนขัดขวางด้วยหมาป่าตัวสีน้ำตาลทอง 

     

    อย่าคิดจะขวางข้าเลยนัยน์ตาแม่มดเริ่มเป็นสีแดงอีกครั้ง หมาป่าจู่โจมเข้ามาใกล้ตัวแม่มด แต่เธอใช้เพียงแค่มือข้างเดียว ในการหยุดการโจมตี แม่มดใช้จิตตัวเองในการผลักหมาป่าตัวนั้นกระเด็นไปอีกฝั่ง เธอหันกลับมาแล้วใช้เวทมนต์ผลักให้ร่างของแวมไพร์หนุ่มกระเด็นตกหน้าผาไปอย่างเร็วไว

     

    ซาวิดัส!!!!!!” แวมไพร์ผู้เป็นพ่อตะโกนตามลูกตัวเองไป เขาเห็นร่างของลูกตนเองตกจากหน้าผา ร่วงลงสู่ท้องทะเล ที่กว้างใหญ่

     

    เขาหันกลับมามองแม่มดตรงหน้าด้วยสายตาที่อาฆาต แวมไพร์หนุ่มวิ่งอย่างเร็วพุ่งตัวเองเข้าหาร่างของแม่มด แต่ไม่ทันที่จะได้แตะร่างนั้น หญิงสาวก็กระจายร่างกลายเป็นกลุ่มควันสีดำ และล่องลอยหายไปในอากาศ เหล่าแวมไพร์และหมาป่ามองตามกลุ่มควันนั้นไปจนสุดสายตา…………….

     

     

    ในห้องที่สว่างจ้าด้วยแสงจากหลอดไฟที่ติดอยู่บนเพดาน มีร่างของหญิงสาวสูงอายุกับชายหนุ่มอยู่กันสองคน เสียงของหนังสือเล่มใหญ่ได้ถูกปิดลงดังลั่น…….“และนี่ก็เป็นเรื่องราวของแวมไพร์เสียงของหญิงสาวสูงอายุบอกกับลูกชายตัวเองที่นอนอยู่บนเตียง

     

    แวมไพร์มีจริงไหมแม่ ??ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

     

    มันเป็นแค่เรื่องเล่านะลูก แวมไพร์ ไม่มีจริงหรอก

    เอาเป็นว่าคืนนี้ลูกรีบนอนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ก็เปิดเทอมวันแรก จริงๆนะเรา โตป่านนี้แล้ว ยังต้องให้แม่มานั่งเล่านิทานให้ฟังอีก หญิงสาวสูงอายุพูดพลางเอามือลูบหัวลูกชายตรงหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย ที่เห็นลูกของเขายังมีนิสัยเหมือนเด็กอยู่ (แค่เฉพาะเรื่องเล่านิทานเนี่ยแหละ เขาบอกว่าถ้าไม่ได้ฟังนิทานวันไหน จะนอนไม่หลับ - - นี่ก็อายุสิบหกและ ยังฟังนิทานก่อนนอนอยู่เลย)

     

    ฮ้ะ ผมจะรีบนอนเดี๋ยวนี้แหละชายหนุ่มรีบทำตามที่แม่ตัวเองบอกทันที เขาหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มร่างตัวเองไว้ ก่อนจะมองหน้าหญิงสาวสูงอายุและหลับตาลงไป

    ฝันดีนะลูกรักเธอเดินออกจากห้องพร้อมกับปิดไฟในห้องให้เหลือแต่แสงจากโคมไฟสีส้มอ่อน ๆ

     

    คาเรว่าหรอ …. นามสกุลเพราะดีนะร่างของเด็กน้อย (มั้ง =w=) พูดกับตัวเองก่อนจะนอนหลับไปในที่สุด  

     

     

     

    เป็นไงบ้างทุกคนนนน ?? สนุกกันป่าวเอ่ยยยย :X

    พึ่งแต่งเรื่องแรก แต่งเอง อ่านเอง งงเอง -..-

    อ่านแล้วรู้สึกยังไง บอกกันหน่อยเด้อออ จะได้ปรับปรุง

    ขอบคุณลีดเดอร์ทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคร้าบบบบ -/l\-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×