คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ปะทะอารมณ์
ในค่ำคืนที่มืดมิด...
สายลมพัดโชยเข้ามาอย่างแผ่วเบา ไอยรินทร์ค่อยๆก้าวเดินมาที่ลานหน้าบ้าน ที่เป็นสวนดอกไม้ เต็มไปด้วยกลิ่นดอกแก้วที่โชยหวนไปโดยทั่ว หญิงสาวค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ภายนอกบริเวณบ้านหลังใหญ่ พลางมองออกไปบนท้องฟ้าที่ไร้แสงดาวด้วยแววตาที่เศร้าสลดและเหน็ดเหนื่อยภายในหัวใจ
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ได้ดังและสั่นขึ้น ก่อนที่เธอจะค่อยๆคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา พร้อมกับกดรับ
“ไอ.. ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ทำไมบ้านของคุณถึงปิดมืดมิด อย่างกับไม่มีใครอยู่เลย”
เสียงของปวีร์ ชายหนุ่มเพื่อนสนิทกล่าวขึ้น ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายจากความเป็นห่วงไอยรินทร์ เพื่อนรักสาวคนนี้
“ไอไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนั้น อีกต่อไปแล้ว..ปวีร์”
“หมายความว่ายังไง..ไอ ..ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นด้วยความฉงนสงสัย ไอยรินทร์ได้แต่ทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนักอกหนักใจ กับการที่จะตอบคำถามชายหนุ่มออกไป
“ปวีร์ไม่ต้องเป็นห่วงไอน่ะ ..ตอนนี้ไอสบายดี.. ไว้ถ้าไอมีโอกาสได้เข้ากรุงเทพ ไอจะไปหาปวีร์เป็นคนแรกน่ะ”
“ไอ.. เดี๋ยวก่อนสิ ไอ...”
เสียงสัญญาณดังขึ้นบอกถึงการตัดสายของหญิงสาว ปวีร์ได้แต่มองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยแววตาที่สับสนและกระวนกระวาย เป็นห่วงสาวเจ้าอย่างที่สุด
“ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน… ผมก็จะตามหาคุณ ไอยรินทร์”
ปวีร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น เขารู้ตัวดีว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อสาวเจ้า ไม่ได้เป็นแค่เพียงความรู้สึกของเพื่อนที่คิดถึงกัน แต่นั่น คือความรู้สึกรัก และปรารถนาดีต่อหญิงสาวมาโดยตลอด
และเขาเองก็ตั้งใจที่จะตามหา และค้นหาความจริงว่าไอยรินทร์ ไปอยู่ที่ไหน…
..
“ไม่ทันจะได้ขึ้นหอ ก็โทรคุย คบชู้สู่ชายล่วงหน้าแล้วสิน่ะ..”
เสียงของทินกรดังขึ้นอย่างแข็งกร้าว ก่อนที่หญิงสาวที่มัวนั่งมองเหม่ออยู่จะรีบยืนขึ้นและหันมามองชายหนุ่มผู้เป็นต้นเสียงด้วยความตกใจ
ดวงตาที่ไม่เป็นมิตรของชายหนุ่ม สร้างความอึดอัดภายในหัวใจของหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง..
“ฉันคุยโทรศัพท์กับเพื่อน.. และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมากล่าวหาฉันแบบนั้น..”
“งั้นหรอ…”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย พลางสาวเท้าทั้งสองเข้ามาใกล้ชิดตรงหน้าหญิงสาว ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆก้าวถอยหลัง สายตาพลางมองชายหนุ่มด้วยความหวาดระแวง
“ผู้หญิง..ก็มีหลายร้อยเล่มเกวียน สารพัดมารยา ที่จะเอามาใช้ต่อรองกับผู้ชายที่เธอต้องการ..”
“คุณทินกร… การที่คุณกำลังดูถูกผู้หญิงอย่างไร้เหตุผลและความคิดอยู่แบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ใครต่อใครรู้สึกมองว่าคุณเป็นคนดีเลยน่ะค่ะ”
ไอยรินทร์มองชายหนุ่มด้วยแววตาเจ็บแค้น ก่อนจะกลั้นลมหายใจ เดินเลี่ยงชายหนุ่มไปอีกทาง แต่มืออันแข็งกร้าวของเขา กลับคว้าขมับจับเข้าที่ข้อมือของเธออย่างแน่น พร้อมกับส่งแววตาอันร้ายกาจมายังหญิงสาว
“แต่สิ่งที่ฉันเจอมา.. มันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ? ผู้หญิงทุกคน ต่างก็เข้ามาหาฉัน อ้างนั่นอ้างนี่ เพียงแค่ต้องการผลประโยชน์จากฉัน.. ฉันขอบอกเธอว่า ถ้าเธอจะอ้างคำสัญญาอะไรนั่น มันก็ไม่ได้ผลหรอกน่ะ..”
“คุณกำลังคิดว่า ฉันใช้สัญญานั่นมาเพื่อผลประโยชน์อย่างนั้นนะหรอ.. แต่ฉันจะบอกคุณให้น่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนประเภทไหน ในเมื่อฉันไม่ได้รักคุณอยู่แล้ว คุณก็ไม่ต้องกังวลไปหรอกว่าคุณจะสูญเสียผลประโยชน์ให้กับใคร.. เพราะฉันเองก็จะมาอยู่ ในฐานะลูกสาวคนหนึ่งของคุณป้า และดูแลตอบแทนพระคุณของคุณป้า ก็เพียงเท่านั้น … ไม่ได้มาในรูปแบบที่คุณเข้าใจ..”
หญิงสาวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เชือดเฉือนต่อความคิดอันร้ายกาจของชายหนุ่ม พลางก้มลงไปมองที่มือของเธอ ที่ถูกชายหนุ่มจับไว้แน่น หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม ที่ทำแววตาโหดร้ายและแข็งกร้าวใส่เธออย่างไม่ขยับ พลางยิ้มเยาะให้กับเขา
“เอามือของคุณ.. ออกไปจากข้อมือฉันได้ล่ะ..”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น พลางมองหญิงสาวด้วยดวงตาเจ็บแค้น พร้อมกับสะบัดมือของเธอออกอย่างแรง ไอยรินทร์รีบเอามืออีกข้างมาประคับประคองข้อมือของเธอด้วยความเจ็บปวด พลางมองชายหนุ่มที่แววตาร้ายๆบวกกับความเยาะเย้ยสมเพชเขาอยู่ภายในใจ
“ที่จริง… คุณเองก็ไม่ควรจะกล่าวหาผู้หญิงอยู่เพียงฝ่ายเดียวน่ะ.. เพราะตัวคุณเอง อาจจะเป็นผู้ชายที่ชอบหลอกลวงผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงหลายคนหลงกลคุณ ด้วยการกระทำแบบนี้อยู่ก็ได้”
“หยุดพูด…”
สิ้นเสียงชายหนุ่มก็รีบเอามืออันแข็งกร้าวทั้งสอง เข้ามาคว้าขมับที่ใบหน้าเธอ พลางโน้มลงจูบหญิงสาวด้วยความบันดาลโทสะอย่างกระหายและรุนแรง หญิงสาวพลางใช้มือทุบตีและขัดขืนการกระทำอันร้ายกาจและองอาจของชายหนุ่มอย่างสุดขีด ก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบผละจากการใช้ปากของเขาบดขยี้บนริมฝีปากของเธออย่างสะใจ พลางมองเธอด้วยแววตาแห่งความสะใจเป็นที่สุด แต่หญิงสาวกลับใช้มืออีกข้างขึ้นมาตบเขาเสียฉาดใหญ่ จนทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มสะบัดหันไปอีกทางตามแรงมือ หญิงสาวยืนมองชายหนุ่มคนร้ายกาจนั้นด้วยแววตาแห่งความเจ็บปวดและคับแค้น
“เลว… คุณมันก็ไม่ต่างจากผู้ชายที่ชอบทำตัวเป็นพวกเพล์บอย ชอบใช้ความรุนแรงข่มเหงรังแกผู้หญิง.. เลวที่สุด คุณทินกร..”
หญิงสาวพูดต่อว่าด่าเสียดทานเขาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว พร้อมกับรีบวิ่งออกไปจากตัวเขาอย่างสุดชีวิต ชายหนุ่มยืนมองหญิงสาวที่วิ่งออกมาด้วยความตกใจพลางอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของเธอ
หญิงสาวรีบวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับล็อคกลอนประตูอย่างหนาแน่น พลางเอ็นกายพิงประตู แล้วค่อยๆล้มตัวเองนั่งลงคุกเข้าร้องไห้อยู่ตรงนั้นอย่างเจ็บปวดหัวใจ
การที่เธอมาอยู่ที่นี่.. แม้เพียงคืนแรก เธอก็กลับถูกชายหนุ่มใจร้ายคนนั้น ข่มเหงรังแกจิตใจของเธอเสียแล้ว..
…
รุ่งเช้า ในห้องรับประทานอาหาร ขณะที่อัญชลี ทินกร และไอยรินทร์กำลังร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน
ชายหนุ่มชำเลืองมองหญิงสาว ที่รับประทานอาหารอย่างตั้งใจ แววตาของเธอดูไม่พอใจและไม่หันมาเหลียวมองแม้ใบหน้าของเขาแม้แต่น้อย อัญชลีชำเลืองมองทั้งสองด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่า? ทินกร”
ทินกรหันมามองมารดาที่เอ่ยถามขึ้นอย่างตกใจ
“เปล่าครับ..”
ชายหนุ่มตอบไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆ พลางใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากอย่างไม่สนใจต่อการกระทำและแววตาอันเฉยเมยของหญิงสาว
“วันนี้.. แม่จะให้ไอยรินทร์ ไปทำงานที่ไร่องุ่นช่วยลูกน่ะ”
“งั้นหรอครับแม่.. ดูท่าทาง จะไม่ค่อยสู้งานหนักสักเท่าไหร่น่ะครับ .. แต่ถ้างานอื่น ก็อาจจะไม่แน่..”
ชายหนุ่มชำเลืองมองหญิงสาวด้วยแววตาร้ายกาจแอบแฝงซึ่งความดูถูกเหยียดหยามต่อหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เจ็บปวดและคับแค้นภายในหัวใจ
“งานอื่นที่ว่า.. ทั้งสบาย ทั้งได้เงินง่าย .. แค่ใช้ตัวเข้าแลก ก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาอย่างง่ายดาย…”
“ทินกร… ทำไมลูกพูดแบบนี้..”
อัญชลีเอ่ยตวาดลูกชายของเขา พลางมองลูกชายหัวรั้นด้วยความไม่พอใจ แล้วหันมามองไอยรินทร์ที่นั่งนิ่งอยู่ ด้วยแววตาแห่งความไม่สบายใจ
“ก็ได้ครับ… ผมบอกไว้ก่อนว่า งานที่ไร่องุ่น กว่าจะได้องุ่นมาแต่ละลูกนั้น มันยากลำบากมาก.. ผมเองก็อยากจะรู้ ว่าผู้หญิงคนนี้ จะทนงานหนักไปได้นานสักแค่ไหน?”
ทินกรพูดจบพลางมองหญิงสาวด้วยท่าทางที่เหยียดหยามและเยาะเย้ย ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกไปจากห้องอาหาร ไอยรินทร์ได้แต่นั่งนิ่ง แววตาของเธอแอบแฝงด้วยความเจ็บใจและไม่สบอารมณ์ต่อคำพูดของชายหนุ่ม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ และหันมามองอัญชลีที่นั่งมองเธออยู่ด้วยความแคร์ความรู้สึกของเธอ
“หนูไอ.. ป้าขอโทษแทนลูกชายหัวรั้นคนนี้ด้วยน่ะลูก..”
“ไม่เป็นไรคะคุณป้า.. ไอจะไปทำงานที่ไร่ และไม่ว่างานที่ไร่จะเป็นงานที่หนักแค่ไหน แต่ไอก็จะลบคำสบประหม่าของผู้ชายคนนี้ให้ได้ .. คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงน่ะค่ะ ไอเข้าใจดี”
ไอยรินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พลางมองอัญชลีพร้อมกับยิ้มให้หญิงแก่ที่นั่งมองเธออย่างเป็นห่วง เธอต้องการที่จะฮึดสู้และเอาชนะต่อคำพูดและการกระทำอันดูถูกเหยียดหยามของชายหนุ่มให้ได้
…
ท่ามกลางบรรยากาศที่มีแดดสว่างจ้าในตอนกลางวัน พลางมีลมเย็นๆจากภูเขาที่ล้อมรอบ พัดเข้ามาแผ่วๆเพียงคลายความร้อนอบอ้าว คนงานของไร่ต่างถือตะกร้าและที่ตัดองุ่นคนละไม้ละมือ พร้อมกับเดินไปประจำจุดเพื่อเก็บองุ่นลูกที่สุกสีม่วงแดงตามภาระงานที่ได้รับหมอบหมาย
ทินกรเดินนำไอยรินทร์มาที่แถบองุ่นแถบหนึ่ง ซึ่งปลูกเป็นแถวยาวไปสุดลูกหูลูกตาของไร่ ไอยรินทร์ยืนมองเขาด้วยความฉงนสงสัย ก่อนที่ชายหนุ่มจะยิ้มเจ้าเล่ห์ผ่านทางมุมปากเบาๆ
“ป้าๆ.. มานี่สิ!!”
ชายหนุ่มเอ่ยเรียกคนงานคนหนึ่งที่กำลังตัดเก็บองุ่นอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่คนงานอายุคราวป้านั้นจะเดินออกมามองเจ้านายหนุ่มด้วยความสงสัย
“ป้าช่วยเอาตะกร้า พร้อมกับกรรไกรนี่ให้กับผู้หญิงคนนี้หน่อยสิ…”
ชายหนุ่มเอ่ยคำสั่งขึ้นต่อคนงาน พลางชำเลืองมองหญิงสาวยืนมองอยู่ด้านหลังด้วยแววตาที่ร้ายกาจ
“เธอเป็นคนงานของไร่นี้ …และช่วยสั่งคนงานทั้งแถบนี้ให้ไปทำการเก็บองุ่นที่แถบอื่น เพราะฉันจะยกหน้าที่ทั้งหมดแถบ ให้เธอคนนี้เก็บคนเดียว..”
“แต่… คุณทินกรค่ะ ถ้าให้เธอทำทั้งแถบนี้ ป้าว่ามันจะหนักไปน่ะค่ะ”
ทินกรไม่สนใจคำพูดของป้าคนงาน พลางหยิบตะกร้าที่มีกรรไกร โยนไปตรงหน้าของหญิงสาวอย่างร้ายกาจ
“ไอยรินทร์… คำสั่งคือ เธอต้องเก็บองุ่นลูกที่ดีที่สุดในแถบนี้ ภายในเวลาหนึ่งวัน… ห้ามให้ใคร ช่วยเหลือเธอเป็นอันขาด เพราะนี่ คือการฝึกคนงานใหม่ … ไร่ของฉันต้องการคนที่มีคุณภาพมาทำงาน ..ไม่ใช่ต้องการคนที่ชอบหวังผลประโยชน์ด้วยวิธีสบายมาทำงาน”
ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ก่อนจะรีบเดินหนีไปอีกทางอย่างไม่หันกลับมาเหลียวแล ป้าคนงานมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกเป็นห่วง ก่อนจะเดินไปทำงานที่แถบอื่น
ไอยรินทร์ก้มลงมองตะกร้าที่มีกรรไกรตัดองุ่นอยู่ด้านใน พลางหันไปมองชายหนุ่มที่เดินออกไป แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ..
“ฉันไม่ใช่คนที่หวังผลประโยชน์ และความสบายอย่างที่คุณกล่าวหา.. ทินกร”
หญิงสาวพูดพึมพำขึ้นอย่างเจ็บใจ พลางมองออกไปที่ต้นองุ่นที่ถูกปลูกยาวเรียงเป็นแถบไปไกลสุดลูกหูลูกต่อ ก่อนที่เธอจะสะพายตะกร้า และหยิบกรรไกรขึ้น พร้อมกับเดินเข้าไปตัดองุ่นตามหน้าที่ที่ได้รับจากชายหนุ่ม
และไม่ว่านี่… จะเป็นการถูกกลั่นแกล้ง หรือเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะได้คนงานที่มีคุณภาพ แต่ไอยรินทร์ก็จะตั้งใจและพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด
เพื่อเอาชนะ… อคติของเขา..
กรรไกรในมือของหญิงสาว เริ่มเล็งและตัดองุ่นไปเรื่อยๆเพียงคนเดียว อย่างตั้งอกตั้งใจ…
….
ความคิดเห็น