ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปฏิญาณปาฏิหาริย์

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 สับสน

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 57


     รุ่งเช้าของวันหนึ่ง

              ปลาดาวค่อยๆฟื้นลืมตาขึ้นมาเบาๆ เธอจะลุกค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วมองดูที่ขาของเธอ ที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้ ปลาดาวเอามือลูบไปที่ผ้าพันแผลเบาๆก่อนจะอมยิ้มออกมาเบาๆ
              เธอค่อยๆลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อจะไปขอบคุณชายหนุ่มผู้แสนดี ที่คอยดูแลช่วยเหลือเธอ

              ก่อนจะพบว่า บนแคร่ไม้หน้าบ้าน มีข้าวต้มปลาร้อนๆ และผัดผักรวมมิตรที่วางอยู่ ปลาดาวมองดูอาหารเช้าที่วางไว้ด้วยรอยยิ้มปลาบปลื้ม ก่อนจะนั่งลงและลงมือรับประทานอาหารเช้าที่หาดได้ทำเอาไว้ให้เธอ

     

             ที่กลางทะเลอันกว้างใหญ่ สายลมจากคลื่นทะเลพัดโชย ซัดเรือหาปลาลำเล็กๆให้เคลื่อนไหวไปตามคลื่นเบาๆ

           หาดที่ยืนอยู่บนเรือ กำลังดึงแหอวนที่หาปลาขึ้นมาจากน้ำทะเล ก่อนจะทำการเก็บปลาที่ติดกับแหอวนมาใส่ในเข่งปลาที่ติดมากับเรือ

             หลังจากที่เขาเก็บปลาที่ติดกับร่างแหเสร็จ เขาก็ได้มองออกไปรอบๆทะเลอันกว้างใหญ่ ด้วยจิตใจที่รู้สึกเหว่ว้าและความรู้สึกแปลกๆในหัวใจของเขาตอนนี้ แววตาของหาดแอบแฝงด้วยนัยน์ตาที่สับสนและครุ่นคิด อยู่ในใบหน้าที่เข้มๆอันเย็นชาของเขา ไม่มีใครรู้ว่าเขาครุ่นคิดเรื่องอะไร และเก็บซ่อนสิ่งใดๆไว้ในหัวใจ ในเวลานี้

            
                 ขณะเดียวกัน ที่ริมชายหาดทะเล มีคลื่นน้ำทะเลซัดเข้าฝั่งเป็นระยะๆ และลมทะเลพัดโชยเข้ามาหาตัวปลาดาว ซึ่งกำลังเดินเท้าเปล่าลุยคลื่นน้ำทะเลที่ซัดเข้ามา แววตาของปลาดาวแฝงไปด้วยความสับสนและครุ่นคิด ก่อนที่เธอจะหยุดเดิน แล้วมองออกไปยังทะเลรอบๆ


    ปกรณ์… ฉันสับสนกับปัจจุบันเหลือเกิน…”

               ปลาดาวพึมพำออกมาด้วยแววตาที่อ่อนล้าและจิตใจที่ห่อเหี่ยว  

               จิตใจของปลาดาวในตอนนี้ เปรียบดั่งทะเลอันกว้างใหญ่ ที่ดูสับสนและวุ่นวาย ดั่งคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง และไม่เคยหยุดนิ่ง..

               เธอได้แต่คิดภาวนาถึงปาฏิหาริย์ แห่งคำปฏิญาณ จะช่วยให้ได้ปกรณ์คนเดิม กลับคืนมา

                     จะช่วยให้ความรัก ระหว่างเขาและเธอ กลับมาเป็นจริง อีกครั้ง..

               ปลาดาวสูดหายใจเอาลมทะเลที่พัดโชยมาหาตัวเธอ ก่อนที่เธอจะรู้สึกมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

    _______________________________

                ตกบ่าย

                หาดเอาเรือกลับเข้าฝั่ง เขาผูกเชือกเรือไว้กับหลักไม้ที่อยู่ริมฝั่ง ก่อนที่จะยกเข่งปลาลงมาจากเรือแล้วแบกใส่บ่า มาวางไว้ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน
                สายตาของเขาได้เหลือบไปเห็น จานข้าวผัดกุ้ง กับน้ำฝนที่ใส่ขันวางเตรียมไว้

     

     “อะไรว่ะ!”

                เขามองจานข้าวด้วยความโมโห ก่อนจะปัดจานข้าวทิ้งกระจัดกระจาย..
                ปลาดาวที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ข้างบ้านได้ยินเสียงก่อนจะตกใจ รีบวิ่งมาที่หน้าบ้าน แล้วมองจานข้าวที่กระจัดกระจายด้วยความมึนงง

                ปลาดาวหันไปมองหาด แววตาของเขาที่ดูโหดร้ายและน่ากลัวกำลังมองมาที่เธอ ปลาดาวสีหน้าเฉื่อยลงกลายเป็นซีด

     

    จำไว้ฉันไม่ชอบ ข้าวผัดกุ้ง!!!”

               ปกรณ์พูดจบก่อนจะรีบเดินขึ้นบ้านไปอย่างเสียอารมณ์
               ปลาดาวมองปกรณ์ด้วยแววตาที่เจ็บปวดจนมีน้ำใสๆซึมออกมาทางตา เธอก้มลงเก็บจานข้าวมาถือไว้ในมือ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเอาจานข้าวกับน้ำฝนที่เตรียมไว้ ไปล้างทำความสะอาด

                

              ในเวลาพลบค่ำ..

                หาดเดินลงมาจากบ้าน ก่อนที่จะมองไปรอบๆบ้าน แต่กลับไม่พบปลาดาวอยู่ในบริเวณบ้านเลย
                 หาดรู้สึกใจคอไม่ดี จึงเร่งจุดตะเกียงเจ้าพายุ และรีบออกตามหาตัวปลาดาวในทันที

                หาดเดินตามริมชายหาดมาเรื่อยๆ โดยมีแสงไฟจากตะเกียงเจ้าพายุคอยนำทาง
                ทันใดนั้นก็ได้ลมพัดโชยมาเร็วและแรง หาดมองออกไปทางทะเล ก็พบว่ากลุ่มเมฆก้อนใหญ่ได้ก่อตัวและกำลังจะเกิดฝนพายุขึ้น หาดจิตใจไม่ดี แววตาของเขาดูเป็นห่วงปลาดาวมาก ก่อนจะรีบวิ่งออกตาหาตัวปลาดาว

     

      “ปลาดาว!! ปลาดาว!!”

              หาดตะโกนเรียกชื่อของปลาดาวไปรอบๆ
              ก่อนที่เขาสายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นปลาดาว ที่กำลังนั่งพิงโขดหินอยู่ด้วยแววตาที่เลื่อนลอย หาดหยุดวิ่งก่อนจะค่อยๆก้าวเดินเข้าไปหาปลาดาว

               เขาตกใจเมื่อได้เห็นแววตาของปลาดาว ที่จู่ๆก็มีน้ำตาไหลออกมา หาดมองปลาดาวด้วยความเป็นห่วง

     

    กลับบ้านกันเถอะ.. พายุกำลังจะเข้า

                    หาดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่ปลาดาวก็ไม่หันมามองแม้ใบหน้าของเขา แววตาของปลาดาวยังคงเลื่อนลอยอยู่เช่นเดิม

             

              ฉันนั่งรอเรือที่นี่ตั้งแต่ตอนบ่าย คอยตะโกนโบกมือให้เรือมาหาฉัน แต่.. ก็ไม่มีเรือสักลำ จะผ่านมาทางนี้เลย

                      ปลาดาวพูดก่อนที่น้ำตาจะไหลร่วงลงมาจากแววตาที่เลื่อนลอย หาดได้ยินปลาดาวพูดแบบนั้น จากสีหน้าที่แสดงความเปลี่ยนห่วงกลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่โหดเหี้ยมขึ้นมาทันที

     

    เชิญ.. ถ้าอยากจะรอเรือที่นี่ต่อไป ก็เชิญ..”

                หาดทิ้งตะเกียงเจ้าพายุลง ก่อนที่เขาจะเดินจากไปด้วยอารมณ์โทสะ
                     

              ทิ้งให้ปลาดาวนั่งพิงโขดหินท่ามกลางความมืดมิดรอบๆอยู่เพียงลำพัง ยิ่งหาดทำแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้หัวใจของปลาดาวเจ็บปวดรวดร้าว
              ปลาดาวสุดจะเก็บความเจ็บเอาไว้ในใจแทบไม่ไหว ปล่อยให้ความเจ็บไหลล้นออกมาทางแววตาคู่ที่เลื่อนลอย

                     

              เสียงของท้องฟ้าคำรามอย่างหน้ากลัว จู่ๆลมพายุก็ได้พัดเข้าฝั่งมาอย่างแรง พร้อมกับฝนที่ตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว
              ปลาดาวเอามือทั้งสองขึ้นมากอดตัวเองที่เปียกปอนไปทั้งตัวด้วยความเจ็บปวดรวดเร็ว พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะทน

              

              ชีวิตของเธอ จะต้องทนอยู่กับความอ้างว้างเดียวดายภายในหัวใจแบบนี้ ไปอีกนานแค่ไหน..

               

              ปกรณ์… ชายหนุ่มผู้ที่เคยแสนดี เคยเข้าอกเข้าใจเธอ ไม่เคยทอดทิ้งเธอไป ไม่ว่าเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดๆ

                กับหาด… ผู้ชายที่โหดร้าย ป่าเถื่อน คอยแต่จะเหยียดหยามน้ำใจของเธออย่างไม่มีวันให้อภัย

                ปลาดาวเหมือนคนที่เดินอยู่ในทางหนทางที่มืดมน ไร้แสงสว่างในชีวิต ไร้เรี่ยวแรงที่จะสู้ต่อ

                ฝนซาลงมาอย่างหนัก สร้างความเหน็บหนาวให้กับปลาดาวที่ยังคงกอดตัวเองแน่น และร้องไห้อยู่

                

              ทันใดนั้น..ก็มีเท้าของคนคู่หนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับร่มที่ถืออยู่ในมือ..
               ปลาดาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า แววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

              หาดยืนมองปลาดาวด้วยแววตาแห่งความเย็นชา

              จู่ๆฟ้าก็ผ่าลงมา เสียงดังคำรามน่ากลัว ปลาดาวตกใจก่อนที่จะโผลเข้ากอดหาดด้วยความกลัว ทำให้ร่มที่อยู่ในมือหาดหลุดออกจากมือ หาดยืนแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้                

              แววตาของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความครุ่นคิดและสับสน แต่สมองกลับสั่งห้ามหัวใจเขาไว้ไม่ได้ ยิ่งเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของปลาดาว เขากลับยิ่งรู้สึกทรมานกับอารมณ์สับสนที่เกิดขึ้นภายในหัวใจ

                มือของเขากลับฝืนคำสั่งของสมอง เขาค่อยๆเอามือทั้งคู่ ขึ้นมาโอบกอดปลาดาวเบาๆ แววตาของหาดดูเศร้าลง ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปราย เขาทั้งสองคนยืนโอบกอดกันเปียกอยู่ท่ามกลางสายฝน

                ก่อนที่หาดจะผลักปลาดาวออก ปลาดาวยืนมองหาดด้วยแววตาที่แสดงถึงความเจ็บปวดรวดร้าว หาดมองปลาดาวด้วยแววตาที่เย็นชาไร้ชีวิต
                 ปลาดาวได้แต่ส่ายหน้าให้กับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เพื่อยอมรับความเจ็บปวดรวดร้าว ที่เธอ ไม่สามารถเอาปกรณ์คนเดิมกลับมาได้อีกแล้ว
                 
                 ความหวังของเธอได้หมดสิ้นแล้ว...

                ปลาดาวหันหลังเดินออกมาจากหาด โดยไม่สนใจว่าจะอยู่ในความมืดมิดของกลางคืน หรืออยู่ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก เสียงฟ้าร้องคำราม

                เธอรู้เพียงว่า… จะต้องเดินออกไปจากชีวิตของปกรณ์ เพราะคงไม่อาจทนความเจ็บปวดรวดร้าวครั้งนี้ได้

               

              บางที… เรื่องระหว่างเธอกับปกรณ์ อาจจะจบลงจริงๆแล้วก็ได้

                ปกรณ์อาจจะกำลังมีชีวิตใหม่ ที่มีความสุขมากกว่านี้ โดยที่ปราศจากคนอย่างเธอ...

                จู่ๆหาดก็มากระชากตัวปลาดาวเข้ามาไว้ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาจูบปลาดาว ปลาดาวอยู่ในอาการตกใจ ทำอะไรไม่ได้ ต้องตกอยู่ในห้วงภวังค์ของหาดอยู่อย่างนั้น

                ก่อนที่เขาจะค่อยๆผละออกมาจากจูบนั้น ก่อนที่เขาจะโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูปลาดาว ที่กำลังยืนแข็งเป็นท่อนไม้อยู่

     

            “ถ้าเธอไม่กลับไปกับฉัน.. อย่าหาว่าฉันไม่เตือน…”

                หาดพูดจบด้วยแววตาที่ร้ายกาจ ก่อนที่เขาจะคว้ามือของปลาดาวที่ยืนนิ่งอยู่ และจูงมือปลาดาวเดินกลับไปที่บ้านท่ามกลางสายฝนพรำ
                 ปลาดาวจำต้องเดินตามไปด้วยแววตาที่เหม่อลอย..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×