ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจหิน2 (หัวใจ..ทรนง)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 พันธะสัญญา

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 57


              อนุรักษ์เดินเข้ามาในบ้าน ตรงมายังโซฟาที่วาทิยากำลังนั่งอุ้มลูกและหยอกล้อลูกอย่างมีความสุขอยู่ วาทิยาเงยหน้าขึ้นมองอนุรักษ์ด้วยความสงสัย

     

    ใครมาค่ะ?

              อนุรักษ์มองวาทิยาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่สบายใจ.. ทันใดนั้น อัญชลีก็เดินเข้ามา วาทิยาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองตั้งแต่ร้องเท้ามาถึงใบหน้า ร้อยยิ้มของหญิงสาวพลางเจื่อนลง เมื่อได้พบกับอัญชลีที่ยืนมองวาทิยาด้วยแววตาที่ดีใจเมื่อได้พบกับเพื่อนรักอีกครั้ง

     

    วา…”

    อัญชลี

            อัญชลียืนมองวาทิยาเพื่อนรัก แววตาของเธอจู่ๆก็มีน้ำใสๆซึมออกมาอย่างปลาบปลื้ม วาทิยามองอัญชลีด้วยความตะลึงและตกใจ ไม่รู้ว่าอัญชลีจะมาพบเธอเพื่ออะไรอีก

              ทั้งสองออกมานั่งพูดคุยกันตามลำพังที่ศาลาริมสระน้ำ ที่อยู่ภายในตัวบ้านสวนของวาทิยา วาทิยาเดินนำอัญชลีมายังศาลาพลางไม่กล้าหันไปสบตากับอดีตเพื่อนรัก อัญชลีเดินตามวาทิยามาด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดและอ้อนวอน

     

    วา.. เธอ..สบายดี ใช่ไหม?

    อืม.. ฉันสบายดี

            วาทิยาตอบออกไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆพลางสั่นคลอ น้ำเสียงนั้นยิ่งทำให้อัญชลีตกอยู่ในความรู้สึกผิดมากขึ้น ก่อนที่วาทิยาจะตัดสินใจ หันหลังกลับมามองที่อัญชลีที่กำลังยืนมองเธอด้วยแววตาที่น่าสงสาร

     

    แล้วเธอละ..”

    ฉันสบายดี

    ก็นั่นสิน่ะ.. เธอได้มีชีวิตที่ดี กับ.. ผู้ชายที่เพียบพร้อม ก็น่าจะดีสำหรับเธอที่สุด ฉันยินดีด้วยน่ะ

    วา…”

              อัญชลีพูดขึ้นพลางเอามือสองมือเข้ามาจับมือวาทิยาที่ยืนมองเธออยู่ วาทิยามองมือของเธอที่ถูกอัญชลีคว้าเข้าไปกุมเอาไว้ ก่อนจะมองดวงตาอดีตเพื่อนรักด้วยความฉงนสงสัย ดวงตาของอัญชลีที่มีน้ำใสๆไหลซึมออกมาเบาๆ มองใบหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกผิด

     

    ฉันรู้สึกผิดต่อเธอ ต่อทุกคน ฉันอยากจะขอโทษเธอ ขอโทษเธอแทนคุณอลงกรณ์

    เธอไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอก .. ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว และฉันก็ลืมมันไปหมดแล้ว

    ต่อให้เธอจะลืม หรือไม่ลืมฉันก็ต้องมาขอโทษเธอ ฉันอยากขอโทษเธอ อยากให้เธอให้อภัย และกลับมาเป็นเพื่อนรักกันอีกครั้ง

              อัญชลีกล่าวคำขอโทษออกมาทั้งน้ำตา วาทิยาเข้าใจความรู้สึกของอัญชลีดี พร้อมกับเอามือทั้งสองมากุมมือของอัญชลีเอาไว้ และยิ้มให้กับเพื่อนสาวอย่างยินดี

     

    ฉันให้อภัยเธอเสมอ และเธอก็ยังเป็นเพื่อนรักของฉันเสมอน่ะ

              วาทิยากล่าวพร้อมกับยิ้มให้กับอัญชลี อัญชลีมองวาทิยาพร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา แล้วโผลเข้าโอบกอดเพื่อน

     

    ฉันขอบคุณเธอมากน่ะวา.. เธอดีกับฉันมามาก ฉันไม่ควรจะคิดร้ายกับเธอเลย ตอนนี้ฉันสำนึกแล้ว ฉันสำนึกแล้วจริงๆ ตลอดสองปีที่ฉันอยู่บ้านนั้น ฉันไม่มีความสุขเลย ฉันกล้ำกลืนและคิดถึงเธอมาตลอด

              อัญชลีพูดขึ้นอย่างอัดอั้นตันใจทั้งน้ำตา วาทิยาค่อยๆผละออกจากเพื่อนรัก แล้วประคองอัญชลีขึ้นนั่งบนที่นั่ง ก่อนจะค่อยๆนั่งลงข้างๆเพื่อนด้วยแววตาที่เป็นห่วง

     

    ทำไมละ? อัญชลี

    ตั้งแต่เกิดเรื่อง.. ฉันก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้น คุณอลงกรณ์ตัดสินใจรับผิดชอบชีวิตฉัน และยินยอมจดทะเบียนกับฉัน แต่เราไม่ได้จัดงานแต่งงานกันใหญ่โต ตลอดที่ผ่านมาที่ฉันอยู่กับเขา.. เขาเอาแต่เสียใจ และพร่ำเพ้อถึงเธอ ขณะที่ฉันท้องใกล้จะคลอด เขากลับไปเที่ยวเตร่ ทิ้งฉันไว้เพียงลำพัง จนฉันคลอดลูก.. คุณอลงกรณ์ก็ตัดสินใจ ยิงตัวเองตาย

    อะไรน่ะ….”

            วาทิยาทำสีหน้าที่ตกใจช็อคสุดขีดเมื่อได้ยินอัญชลีพูดขึ้น อัญชลีค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองวาทิยาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตา

     

    ตอนนี้ ฉันอยู่กับลูกในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง คุณอลงกรณ์ได้เขียนพินัยกรรมยกทุกอย่างให้กับลูกชายของเขา แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังไม่มีความสุข ฉันเฝ้าตามหาตัวเธอมาตลอดระยะเวลา 1 ปี หลังจากที่คุณอลงกรณ์เสียชีวิต อยากจะขอโทษเธอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง

    อัญชลี...

              วาทิยาค่อยๆเอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลรินบนใบหน้าอันงดงามของอัญชลี พร้อมกับเอามือโผลเข้าโอบกอดปลอบขวัญเพื่อนรักอย่างอ่อนโยน อัญชลีกอดวาทิยาแน่น พลางยิ้มออกมาทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ

     

    ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง? เธอยังเป็นเพื่อนรักของฉันเสมอน่ะ ฉันลืมทุกอย่าง และให้อภัยเธอเสมอ เธอไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว..อัญชลี

            ทั้งสองเพื่อนรักกอดกันอย่างสุดซึ้ง ก่อนที่อัญชลีจะค่อยๆผละออกจากวาทิยา และยิ้มให้แก่กันและกันอย่างมิตรภาพอีกครั้ง

     

    แต่ถึงยังไง? ฉันก็คงไม่มีวันให้อภัยตัวเอง ถ้าหากว่าฉันไม่ได้ทำสิ่งนี้

    คืออะไรหรอ? อัญชลี

              อัญชลีคว้าผ้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะยิ้มให้กับวาทิยา วาทิยามองอัญชลีด้วยความฉงนสงสัย

     

    ฉันอยากจะแก้ไขทุกอย่าง โดยที่ฉันจะขอหมั้นลูกสาวของเธอไว้ให้กับลูกชายของฉัน เธอและลูกสาวของเธอจะต้องได้ทุกอย่าง ฉันจะชดใช้ความผิดแก่เธอด้วยการทำแบบนี้ จะได้ไหม?

    แต่.. มันจะไม่เป็นการบังคับเด็กทั้งสองเกินไปหรอ? ฉันเองก็ไม่ต้องการอะไร ฉันขออยู่ใช้ชีวิตแบบนี้ กับคุณอนุรักษ์และลูกสาวของฉัน แค่นี้ ฉันก็มีความสุขมากแล้ว

    ไม่.. วาทิยา .. ฉันอยากให้เธอหรือแม้แต่ลูกของเธอมีชีวิตที่ดี ขอให้ฉันได้ทำสิ่งนี้เพื่อชดใช้ความผิดเถอะน่ะ ฉันคงนอนตายตาไม่หลับแน่ อีกอย่าง.. ฉันอยากให้ครอบครัวเราสองคน มีความเป็นมิตรและช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดไป .. ฉันสัญญาว่าจะเลี้ยงลูกชายของฉันให้เป็นคนดี และดูแลลูกสาวของเธอได้ ฉันขอได้ไหม? วาทิยา

              อัญชลีพูดขึ้นด้วยแววตาที่อ้อนวอนขอร้องคำตอบตกลงจากวาทิยา วาทิยาทำสีหน้าที่ลังเลกับคำขอร้องของเพื่อนสาว แววตาที่มองออกไปยังสระน้ำอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้กับเพื่อนสาว

     

    ก็ได้.. ฉันเองก็อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่ง ฉันและคุณอนุรักษ์ไม่อยู่ เธอกับลูกของเธอ ช่วยดูแลลูกสาวของฉันด้วยน่ะ

    เธออย่าพูดแบบนี้สิวาทิยา เธอพูดเหมือนกับว่า เธอกำลังจะไม่ได้อยู่กับลูกอีก

              อัญชลีมองวาทิยาด้วยความรู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจ วาทิยาเอามือเข้ามากุมมืออัญชลีก่อนจะยิ้มออกมาอย่างยินดี

     

    ฉันก็แค่คิดถึงอนาคตไปเรื่อยเปื่อย เอาเป็นว่าฉันตกลงที่จะยกลูกสาวให้กับลูกชายเธอ ในอนาคตน่ะ

    ขอบคุณน่ะวาทิยา.. ฉันสัญญา ฉันจะดูแลเธอ ครอบครัว และลูกของเธอเป็นอย่างดี ฉันจะรักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆของฉัน เขาจะต้องมีชีวิตที่ดี ฉันสัญญา ..”

              สองเพื่อนรักยิ้มให้แก่กันและกัน โดยมีอนุรักษ์ที่ยืนเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ อนุรักษ์ที่ยืนอุ้มลูกอยู่ได้แต่ยิ้มอย่างยินดี ที่เห็นวาทิยากับอัญชลีกลับมาเป็นเพื่อนรักที่แสนดีต่อกันอีกครั้ง

              พุทธศักราช 2550..

              ในบ้านสวนแห่งหนึ่งในเวลาพลบค่ำ หญิงสาวคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามายังประตูบ้าน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความดีใจ

     

    แม่ค่ะไอสัมภาษณ์งานผ่านแล้วน่ะค่ะแม่

            ไอยรินทร์ แต่งกายด้วยชุดสุภาพ หลังจากที่เธอไปสัมภาษณ์งานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง และในวันนี้เธอก็ผ่านการสัมภาษณ์ จะได้เข้าทำงานในธนาคารแห่งนั้นเร็วๆนี้

              แววตาที่ยินดีและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหญิงสาว ค่อยๆเจื่อนลง เมื่อพบว่ามารดาของเธอเป็นล้มพับอยู่หน้าทีวี และนอนสลบนิ่งอย่างไม่รู้สึกตัว

     

    แม่…”

              ไอยรินทร์รีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของมารดาขึ้นมาด้วยจิตใจที่กระสับกระส่าย กลัวว่าวาทิยาจะเป็นอะไรไป

     

    แม่แม่ตื่นสิค่ะ แม่..”

              ไอยรินทร์พยายามปลุกแม่ เสียงการรายงานข่าวทางโทรทัศน์ดังขึ้น ผู้ประกาศข่าวได้รายงานการเสียชีวิตของนายทหารที่ไปปฏิบัติภารกิจในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

     

    ขณะที่ได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ได้พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้เป็นทหารสองนาย คือ ร้อยโทอนุรักษ์ คุณดี และ จ่าสิบตรีอเนก

            ไอยรินทร์ค่อยๆหันไปมองที่หน้าจอโทรทัศน์ด้วยแววตาที่เบิกโพลง พลางมีน้ำใสๆค่อยๆไหลรินลงมาทางตา

     

    พ่อ…..”

              รูปของร้อยโทอนุรักษ์ พ่อของไอยรินทร์ได้ถูกโชว์ขึ้น ไอยรินทร์มองดูหน้าจอโทรทัศน์ด้วยความรู้สึกช็อคและเสียใจ ก่อนจะหันมามองแม่ที่นอนแน่นิ่งอยู่ และไม่ขยับตัว ไอยรินทร์ค่อยๆใช้มือปลุกสะกิดมารดาด้วยความรู้สึกกระสับกระส่าย กลัวมารดาจะเป็นอะไรไป

     

    แม่แม่ตื่นสิค่ะ แม่

              เสียงปลุกและการสะกิด ไม่ได้ช่วยมารดาที่นอนแน่นิ่งในอ้อมอกของเธอ ฟื้นขึ้นมาได้เลย ทันใดนั้นมือของมารดาก็ได้ตกลงสู่พื้นอย่างไร้ชีวิต ไอยรินทร์มองทั้งน้ำตา ก่อนจะค่อยๆเอามือเล็กๆที่สั่นไหว มาวางที่ปลายจมูก และเธอก็พบว่า มารดาของเธอได้สิ้นใจลงแล้ว

     

    แม่…… แม่…. อย่าไป แม่

            ไอยรินทร์โอบกอดร่างอันไร้วิญญาณของวาทิยาด้วยความทรมานและเสียใจอย่างที่สุด แล้วหันไปมองรูปของพ่อที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ทั้งน้ำตา

     

    พ่อทำไมทำไม.. พ่อกับแม่ ต้องทิ้งไอไปด้วย ฮือ…”

              ไอยรินทร์พูดออกมาทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่วันนี้ควรจะเป็นวันที่น่ายินดี แต่กลับกลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด ในชีวิตของเธอ..

              หญิงสาวได้แต่โอบกอดร่างของแม่ที่นอนแน่นิ่งอยู่ด้วยความเสียใจและเจ็บปวดรวดร้าว

              ตอนนี้พ่อกับแม่ ได้จากชีวิตเธอไปแล้ว

              งานศพของวาทิยากับอนุรักษ์ได้ผ่านพ้นไป ไอยรินทร์ยืนมองกลุ่มควันสีดำที่ลอยออกจากปล่องควันทั้งน้ำตา โดยมี ปวีร์ เพื่อนสนิท คอยโอบไหล่เธอเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวโอบกอดรูปพ่อกับแม่เอาไว้ในอ้อมอกทั้งน้ำตา

              ขณะเดียวกัน อัญชลี ที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมองกลุ่มควันสีดำที่ลอยส่งไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาที่เศร้าหมอง พลางหันมามองไอยรินทร์ที่ยืนร้องไห้อยู่ด้วยความสงสารและเห็นใจ

     

    วาทิยา.. อนุรักษ์.. ฉันสัญญา ว่าฉันจะดูแลลูกของเธอ ให้ดีที่สุด ขอให้เธอทั้งสอง ไปสู่สรวงสวรรค์เถอะน่ะ

              อัญชลีพูดขึ้นพลางยกมือไหว้ แล้วหันไปมองไอยรินทร์ด้วยแววตาที่เศร้าหมองและเห็นอกเห็นใจ..

              หลังจากที่งานศพ ผ่านพ้นไป..

              รถยนต์คันหรูได้วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านของไอยรินทร์ ขณะที่ไอยรินทร์เพิ่งกรวดน้ำทำบุญให้กับพ่อและแม่ของเธอเพิ่งเสร็จ ก่อนที่ใบหน้าอันเศร้าหมองจะค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองผู้หญิงรุ่นราวคราวป้าคนหนึ่งย่างกรายเข้ามาด้วยความสงสัย

              ไอยรินทร์มองหน้าคุณป้า ก่อนจะไหว้สวัสดีตามประสาเด็กที่อ่อนกว่า

     

    หนูคือ ไอยรินทร์ ลูกสาวของวาทิยาสิน่ะ

    คะ..”

              ไอยรินทร์พยักหน้าเบาๆ แววตาเธอยังคงเศร้าหมองไร้ชีวิตชีวาจากความเสียใจที่ได้สูญเสียคนที่รักที่สุดในชีวิตไป อัญชลีมองไอยรินทร์ด้วยแววตาที่เห็นอกเห็นใจ

              ไอยรินทร์ประคองอัญชลีเข้ามานั่งที่โซฟาภายในบ้าน ก่อนที่เธอจะไปหาน้ำออกมาต้อนรับ

     

    คุณป้า.. มีธุระกับหนู งั้นหรอค่ะ?

              อัญชลีพยักหน้าเบาๆพร้อมกับยิ้มกริ่มๆ ก่อนที่ไอยรินทร์จะนั่งลงบนโซฟาด้านข้างๆ

     

    หนูพร้อมที่จะไปอยู่กับป้าหรือยัง? ไอยรินทร์

    ไปอยู่กับคุณป้า.. หมายความว่าอย่างไรค่ะ?

              อัญชลียิ้มพร้อมกับหยิบซองจดหมายยื่นให้แก่ไอยรินทร์ที่มองเธออยู่ ไอยรินทร์ค่อยๆคว้าจดหมาย พร้อมกับเปิดซองอ่านข้อความภายในจดหมาย ทันทีที่ได้อ่าน แววตาที่ดูเศร้าก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ดูสับสนและครุ่นคิด

     

    ถึงไอยรินทร์ลูกรัก .. เมื่อหนูได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แม่กับพ่ออาจจะอยู่หรือไม่ได้อยู่กับหนู แต่แม่อยากให้หนูทำตามคำขอของแม่ คุณป้าอัญชลีกับแม่เป็นเพื่อนรักกัน และในเวลานี้ที่หนูกำลังเดือดร้อน แม่อยากให้หนูไปอยู่กับคุณป้า และคิดซ่ะว่าคุณป้าคือแม่คนที่สองที่จะดูแลหนูได้แทนแม่ แม่ไม่อยากให้หนูมีชีวิตที่ลำบาก และดิ้นรนอยู่เพียงลำพัง ขอให้หนูทำตามคำขอร้องของแม่เมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แม่รักหนูน่ะ

     

              หลังจากที่ไอยรินทร์ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองอัญชลีที่นั่งยิ้มให้กับไอยรินทร์อย่างเอ็นดู

     

    ไปอยู่กับป้าน่ะ.. ป้าจะดูแลหนู เหมือนเป็นลูกในไส้คนหนึ่ง จดหมายฉบับนี้เขียนจากวาทิยาจริงๆเมื่อ 24 ปีที่แล้ว ป้าอยากให้หนูทำตามคำขอของแม่หนูน่ะ

              ไอยรินทร์มองใบหน้าอัญชลีด้วยความรู้สึกเป็นมิตร อัญชลียิ้มก่อนที่จะเข้ามาโอบกอดหญิงสาวด้วยความเอ็นดู แต่จู่ๆน้ำตาของไอยรินทร์ก็หลั่งไหลออกมาทางตา

     

    “.. ถ้านี่คือสิ่งที่แม่ขอ หนูก็จะทำให้แม่คะ

              ไอยรินทร์ตอบตกลงไปตามคำขอร้องในจดหมาย อัญชลีผละออกพร้อมกับเอามือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่อยู่บนแก้มของไอยรินทร์ และมองเธอด้วยแววตาที่เอ็นดูดั่งลูก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×