คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 พังทลาย
ณ หอประชุม สถาบันการวิจัยพันธุ์พืชแห่งหนึ่ง..
ภายในหอประชุมเต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ที่มาจากสถาบันต่างๆทั่วสารทิศ เพื่อมาดูการนำเสนอผลงานวิจัยใหม่ๆที่เกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์หนุ่มคนหนึ่งเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างสง่า ก่อนที่เขาจะได้กล่าวแนะนำตัว และนำเสนอผลงานการวิจัยของเขา
“จากงานวิจัยนี้ ผมได้เล็งเห็นความสำคัญการใช้ประโยชน์จากป่าชายเลน เพราะเห็นว่าชาวบ้านริมเกาะที่ใช้ชีวิตอยู่กับป่าชายเลน นอกจากจะใช้ป่าชายเลนในการเป็นแหล่งอาหารแล้ว ป่าชายเลนยังมีพืชสมุนไพรที่สามารถนำมารักษาโรคได้อีกด้วย ผมจึงได้เดินทางไปค้นคว้าทำวิจัยเกี่ยวกับพืชสมุนไพรป่าชายเลนชนิดหนึ่งที่จังหวัดระยอง นั่นก็คือต้นเหงือกปลาหมอ”
ชายหนุ่มใส่สูทรูปร่างสง่างาม หน้าตาสะอาดสะอ้าน ใส่แว่นตาสมกับเป็นนักวิทยาศาสตร์ ในนามดร.ปกรณ์ บุญลยวิทย์ กำลังขึ้นพรีเซนต์งานวิจัยของเขาให้กับนักวิจัยจากสถาบันต่างๆได้ชื่นชม
ในขณะเดียวกันก็ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นคนรักของเขา ดร.มีนา เจริญวัฒนากุล หรือปลาดาวเธอเป็นนักวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ กำลังมองเขาด้วยความชื่นชมในความสามารถ
“ต้นเหงือกปลาหมอ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Acanthus ebracteatus มักจะเจริญเติบโตอยู่ในบริเวณริมๆทะเล มีหนามแหลม และจัดว่าเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก อยู่ในวงศ์เดียวกับ ว่านหางจระเข้และทองพันชั่ง สรรพคุณทางของต้นเหงือกปลาหมอที่ชาวบ้านนิยมนำมาใช้รักษาโรคได้ คือ ต้นและรากนั้น สามารถนำมาต้มอาบแก้ไข้หวัด ผื่นคัน และโรคผิวหนังได้ เมื่อชาวบ้านมีอาการทางโรคผิวหนัง ลมพิษ หรือแม้กระทั่งฝีดาษ ก็จะนำเอาต้นเหงือกปลาหมอมาใช้ในการรักษาตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ"
ปกรณ์กดปุ่มเลื่อนสไลด์ต่อไป ก่อนจะพูดนำเสนอต่อ..
"ผมจึงได้นำต้นเหงือกปลาหมอมาสกัดเป็นสารสกัดออกมาเพื่อศึกษาองค์ประกอบทางยา และก็พบว่าองค์กระกอบต่างๆสามารถที่จำนำไปใช้เป็นสารประกอบในการรักษาโรคผิวหนังทั่วไปได้ และได้มีการทดลองในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 50 คนที่มีอาการผื่นคัน พบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ อาการผื่นคันเริ่มดีขึ้น ผมจึงได้เสนอโครงงานวิจัยนี้ขึ้นมาเพื่อให้มีการศึกษาต่ออย่างกว้างขวาง เพื่อที่ประเทศของเราจะได้ผลิตยาแก้โรคภูมิแพ้ตัวใหม่ขึ้นมาใช้เอง โดยไม่ต้องพึ่งตัวยาที่นำเข้าจากต่างชาติครับ อีกทั้งยังเป็นตัวยาที่ได้สารสกัดมาจากธรรมชาติ แลไม่มีผลร้ายแรงต่อสุขภาพครับ”
ปกรณ์ได้นำเสนอโครงงานวิจัยของตัวเองจนจบ ก่อนที่ทุกคนจะปรบมือให้ความชื่นชม ปกรณ์หันมาหาปลาดาวที่ยิ้มให้ด้วยความดีใจ
_________________________________________
ท่ามกลางขอบฟ้าสีส้มเหลืองอันกว้างใหญ่ ใกล้เวลาพลบค่ำที่พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าลงสู่ห้วงมหาสมุทรสีทอง
รถยนต์คันหนึ่งวิ่งไล่ไปตามถนนขอบของภูเขา ที่ติดกับทะเลอันกว้างขวาง ล้อรถได้หยุดการเคลื่อนที่ ที่ริมหน้าผาแห่งหนึ่ง ซึ่งไร้การเข้าถึงของผู้คน
ชายหนุ่มคนหนึ่งลงจากรถ ก่อนที่จะเดินมาเปิดประตูรถให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง
“นึกว่าจะเซอร์ไพรส์อะไรซ่ะอีกน่ะค่ะ ดอกเตอร์ปกรณ์”
ปกรณ์ยิ้ม ก่อนจะจับมือปลาดาวเดินมาที่ริมหน้าผา ปลาดาวมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกดี ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆเอาสายลมบริสุทธิ์ที่พัดผ่านมาเข้าไปในจมูก ปกรณ์มองปลาดาวแล้วยิ้มออกมาอย่างสุขใจ
“ตั้งแต่เรียนจบ ผมก็ยุ่งกับการทำงานและเรียนต่อ จนไม่มีเวลาที่จะพาคุณมาที่นี่เลยนะ”
ปกรณ์พูดขึ้น ปลาดาวหันมายิ้มให้กับปกรณ์
“ต่อให้คุณจะยุ่งสักแค่ไหน แต่ถ้าคุณได้สัญญาอะไรไว้กับปลาแล้ว ปลาเชื่อว่า สักวันหนึ่งคุณจะไม่ลืมมัน และคุณจะต้องทำตามสัญญานั้นให้เป็นจริงคะ”
ปกรณ์ยิ้มที่ได้ยินปลาดาวพูดแบบนั้น เป็นคำพูดที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นว่า ปลาดาวยังไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวเขาเสมอมา ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม
“จะกี่ครั้งๆที่มาที่นี่ ก็ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยน่ะครับ”
“เรื่องระหว่างเรา ที่ไม่ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนานแค่ไหน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรเปลี่ยนแปลง”
ปกรณ์กับปลาดาวหันมายิ้มให้กันอีกครั้ง
“ขอบคุณน่ะครับ ที่ทำให้คำปฏิญาณของเราในวันนั้น ยังศักดิ์สิทธิ์”
ปกรณ์พูดขึ้น ก่อนที่ทั้งสองจะยิ้มออกมาอย่างสุขใจและมองไปที่พระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าด้วยกัน
แล้วย้อนนึกถึงอดีต ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย...
"ปกรณ์! นายรู้จักที่นี่ได้ยังไง"
ปลาดาวก้าวขาลงจากรถมอเตอร์ไซต์ของปกรณ์ด้วยความตื่นเต้น แล้วเดินไปที่ริมหน้าผา มองไปรอบๆด้วยความสุขใจ
"ทะเล ขอบฟ้า กว้างใหญ่ สวยมากๆเลยน่ะ"
ปลาดาวพูดพลางหลับตากางแขนออกทั้งสองข้าง เพื่อรับลมที่พัดโชยเข้ามา ปกรณ์มองปลาดาวอยู่ห่างๆก่อนที่จะอมยิ้ม
"ชอบไหมละ?"
ปกรณ์เอ่ยถามปลาดาว ปลาดาวรีบหันมาตอบ
"ชอบสิ"
ปลาดาวตอบพลางยิ้มอย่างมีความสุข
"เธอเป็นคนแรกเลยน่ะ ที่เราพามาที่นี่"
ปกรณ์พูดขึ้น ปลาดาวมองปกรณ์ก่อนจะยิ้มเขินๆ
"แอบมาบ่อยคนเดียวอะดิ เลยไม่หลง"
ปลาดาวพูดแซวปกรณ์ ปกรณ์ขำเล็กน้อยที่ปลาดาวแซว
ปกรณ์เดินเข้าไปยืนข้างๆปลาดาว ก่อนจะค่อยๆโน้มมือตัวเองไปจับมือปลาดาว ปลาดาวหันมามองก่อนจะอมยิ้มเขินๆ ปกรณ์ยิ้มให้กับปลาดาว
"ผมขอปฏิญาณตน ต่อหน้าฟ้าดิน ทะเล ภูเขา และหน้าผา ณ ที่แห่งนี้ ว่าเธอจะเป็นรักเดียว และรักสุดท้ายในชีวิต"
ปกรณ์ตะโกนคำปฏิญาณตนขึ้น แล้วหันไปมองปลาดาว ปลาดาวหันมามองปกรณ์ด้วยแววตาที่แทนคำขอบคุณ
"ฉันก็ขอปฏิญาณตน ต่อหน้าฟ้าดิน ทะเล ภูเขา และหน้าผา ณ ที่แห่งนี้ ว่าเขาจะเป็นรักเดียว และรักสุดท้ายในชีวิตของฉัน"
ปลาดาวตะโกนออกไปเช่นกัน ทั้งสองหันมามองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มให้แก่กันและกัน
ภาพในอดีตได้แล่นผ่านไป แต่ทั้งสองคนก็ยังจดจำถึงคำปฏิญาณความรักนั้นได้เป็นอย่างดี...
_________________________________________
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง…
ปกรณ์เดินมาคนเดียวเรื่อยๆเพื่อตามหาร้านสร้อยเพชร เขาตั้งใจที่จะมาซื้อสร้อยเพชรเพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ปลาดาว
ปกรณ์เหลือบมองมาเห็นร้านๆหนึ่ง ซึ่งในอดีตเขาเคยมากับปลาดาวที่ร้านนี้
“สนใจสร้อยรูปแบบไหน สอบถามได้น่ะค่ะ”
เสียงของพนักงานขายเอ่ยขึ้น ขณะที่ปกรณ์กำลังก้มมองหาสร้อยเพชรที่ถูกใจ ที่เขาคิดว่าจะซื้อให้กับปลาดาว ปกรณ์มองหาสร้อยจนเจอ
สร้อยเส้นนั้นทำให้เขาจะนึกถึงความทรงจำครั้งที่เคยมากับปลาดาว...
“ปกรณ์ มานี่!”
“อะไรปลาดาว จะพาเราไปไหน..”
ปลาดาวจูงแขนปกรณ์มาที่ร้านสร้อยเพชร ก่อนจะชี้นิ้วไปที่สร้อยเพชรที่มีรูปจี้เป็นรูปปลาดาว
“สวยไหม?”
ปกรณ์มองดูสร้อยแล้วหันมามองปลาดาวที่กำลังมองดูสร้อยที่มีจี้รูปปลาดาวด้วยความสนใจ...
ปกรณ์นึกถึงก่อนจะอมยิ้มขึ้นมา
ในวันนี้ที่เขามีเงินและเพียบพร้อม เขาตั้งใจจะซื้อสร้อยเส้นนี้ไปให้ปลาดาว
“เส้นนี้ราคาเท่าไหร่ครับ?”
“ตัวนี้ราคาจะอยู่ที่ 3 ล้าน 5 แสนบาทค่ะ เป็นเพชรน้ำงามของแท้ สวยมาก และมีรูปแบบเดียวในร้านค่ะ”
ปกรณ์ยิ้ม ก่อนที่เขาจะเอากระเป๋าตังค์พร้อมยื่นบัตรเครดิตออกมา
"ช่วยใส่กล่องสีชมพูให้ผมด้วยน่ะครับ"
พนักงานขายยิ้มก่อนที่จะรับบัตรเครดิต และนำสร้อยออกมาใส่กล่องตลับสีชมพูตามที่เขาบอก
ถึงแม้ว่าราคาจะแพงแสนแพง แต่เขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่า จะซื้อให้ปลาดาวด้วยกำลังความสามารถของเขาเอง..
_________________________________________
รถยนต์ของปกรณ์ขับมายังบ้านของปลาดาว..
ขณะที่หน้าบ้านของปลาดาวก็มีรถยนต์หลายคันจอดอยู่ ปกรณ์มองด้วยความสงสัย ก่อนจะจอดรถตรงที่ว่างแถวๆนั้น ปกรณ์เดินลงจากรถ
ก่อนที่จะเปิดประตูรั้วแล้วเดินเข้าไปภายในตัวบ้านของปลาดาว
เมื่อปกรณ์เดินไปถึงประตูบ้าน เขากลับต้องหยุดชะงัก แล้วมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่เบิกโต
“อนุชิต สวมแหวนให้น้องสิลูก”
อนุชิตยิ้มก่อนที่จะเปิดกล่องแหวนเพชรออกมา แต่ทว่าปลาดาวกลับนั่งนิ่งเหมือนหุ่นไร้ชีวิต
ปกรณ์ยืนมองคนทั้งคู่ด้วยความเจ็บปวดภายในหัวใจ มองเห็นทุกคนที่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ป้ากับลุงของปลาดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาต่างก็ร่วมรู้เห็นเป็นใจกับว่าที่หลานเขย
นี่เป็นงานหมั้นระหว่างปลาดาวกับอนุชิต ที่ถูกจัดขึ้นอย่างกระทันหัน โดยที่ไม่มีใครรู้นอกจากญาติผู้ใหญ่ฝ่ายอนุชิตและฝ่ายปลาดาว
เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าคนรักสาวจะเข้าพิธีหมั้นกับชายหนุ่มคนอื่น..
"คำปฏิญาณ..งั้นหรอ?"
ปกรณ์พูดขึ้นเบาๆกับตัวเอง ด้วยใบหน้าที่เย็นชาแต่แอบแฝงด้วยความเจ็บปวดรวดเร็ว ความเจ็บปวดสะท้อนออกมาทางนัยตาของเขา ที่มีน้ำใสๆซึมออกมาทางตา
ปกรณ์แล้วค่อยๆถอยหลังเดินออกมาจากบ้านของปลาดาวด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและผิดหวัง
เขาเดินถือกล่องสร้อยสีชมพูแล้วหันหลังเดินออกมาจากบ้านปลาดาว อย่างไม่มีวันหันกลับ สายตาของเขากำลังข่มความเจ็บปวดรวดร้าวเอาไว้ ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
เรื่องระหว่างปกรณ์กับปลาดาว คงจะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ที่วันนี้...
เมื่อปลาดาวได้พบเจอกับคนที่ดีกว่า เพียบพร้อมกว่าเขาทุกอย่าง จนต้องเข้าพิธีหมั้นกับเขา โดยที่ไม่บอกให้กับคนรักอย่างปกรณ์ได้รับรู้สักคำ
เจ้าของกิจการไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ครอบครัวของปลาดาวไปมีหุ้นส่วนด้วย ที่ปลาดาวจะต้องตกไปเป็นของเขา ในอีกไม่ช้า...
ปกรณ์ขับรถออกไปจากจุดๆนั้นด้วยความเร็วสูง อย่างไม่มีวันหวนกลับ…
_________________________________________
ขณะที่อนุชิตกำลังจะสวมแหวนหมั้นให้กับปลาดาว...
ปลาดาวทนไม่ได้ที่จะต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง และฝืนต่อคำปฏิญาณที่ได้ให้ไว้กับปกรณ์ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นมาอย่างกระทันหันจนทำให้ทุกคนในงานต้องตกใจ
"ยัยปลา!! นั่งลง แกจะลุกขึ้นทำไม"
เสียงของไพจิตร ผู้เป็นป้ามองหลานสาวด้วยสายตาที่ข่มขู่ ปลาดาวหันมามองป้ากับลุงด้วยความรู้สึกผิด
“คุณลุงค่ะ คุณป้าค่ะ คุณอนุชิต … ปลาขอโทษน่ะค่ะ ปลาไม่สามารถจะหมั้น และแต่งงานกับคุณได้จริงๆ ปลามีคนที่ปลารักแล้ว ปลาขอโทษน่ะค่ะ”
ปลาดาวพูดจบก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากงาน..
“ปลาดาว น้องดาว!”
อนุชิตตะโกนเรียกปลาดาวอย่างร้อนรนใจ ท่ามกลางสายตาของทุกคนในงานที่มองดูอยู่ และซุบซิบกัน
ปลาดาวรีบวิ่งออกมาจากบ้าน จนถึงทางแยก ก่อนที่จะมาเจอกับรถของ พลอยไพลิน เพื่อนสนิทของปลาดาวที่ขับรถมาถึงพอดี
พลอยรีบจอดรถ ก่อนที่ปลาดาวจะรีบขึ้นรถแล้วหนีไปกับพลอย
“ยัยปลา.. นี่แกหนีอะไรมาฮ๊าา! แล้วนี่ทำไมแต่งตัวแบบนี้ เหมือนจะไปแต่งงานที่ไหนเลย?”
พลอยมองปลาดาวแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัยแกมเป็นห่วงเพื่อน ปลาดาวทำท่าร้อนรนก่อนจะตอบไป
“ขอฉันไปหลบที่คอนโดแกสักพักน่ะยัยพลอย แล้วฉันจะเล่าให้ฟัง”
พลอยพยักหน้าเออออ ก่อนจะรีบเร่งรถไปที่คอนโดของตัวเอง...
_________________________________________
ที่คอนโดของพลอย..
“หมายความว่า! คุณลุงกับคุณป้าแก กำลังจะจับแกคลุมถุงชนกับคุณอนุชิตกระทันหัน งั้นหรอ?”
พลอยเมื่อรู้ความจริงก็ตกใจ ปลาดาวพยักหน้าด้วยความเหนื่อยใจ
"ฉันเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย คุณอนุชิตมาพูดสู่ขอฉันกับคุณลุงคุณป้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันกลับบ้านไป คุณป้าก็จับฉันใส่ชุดนี้ แล้วก็ขังฉันไว้ในห้อง ไม่ให้ฉันออกไปไหน จนกระทั่งงานเริ่ม"
"โธ่เอ๊ย!!! ยัยปลา ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับแกด้วยน่ะ"
พลอยมองปลาดาวด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเข้าไปโอบกอดปลอบใจเพื่อน
“ที่ฉันหนีออกมาแบบนี้ คุณลุงคุณป้าคงไม่มีทางให้อภัยฉันแน่เลย เพราะคุณอนุชิตเป็นหุ้นส่วนสำคัญของทางบริษัทคุณลุงคุณป้า และพวกเขาก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน ฉันเหมือนคนที่เนรคุณท่านทั้งสองมากเลยใช่ไหม? แต่ฉันคงทำใจแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รักไม่ได้ ยัยพลอย! แกเข้าใจฉันมั้ย?”
ปลาดาวเอามือกุมศีรษะตัวเองด้วยความรู้สึกผิด พลอยมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“เข้าใจสิยัยปลา!! เรื่องของหัวใจ มันบังคับกันไม่ได้ ฉันเข้าใจแก ฉันยินดีจะช่วยเหลือแกน่ะเพื่อน”
ปลาดาวหันมามองหน้าพลอยด้วยสีหน้าขอบคุณ พลอยมองปลาดาวด้วยรอยยิ้ม
"แล้ว ปกรณ์เขารู้เรื่องนี้ไหม?"
ปลาดาวหันมามองหน้าพลอย ก่อนจะส่ายหน้า พลอยมองเพื่อนสาวด้วยสีหน้าที่รู้สึกเป็นห่วง..
_________________________________________
ที่ หน้าผาริมทะเลแห่งหนึ่ง ในเวลาพลบค่ำ...
ที่ๆเคยมีความทรงจำดีๆระหว่างปกรณ์กับปลาดาว
ปกรณ์เดินทางมาที่นี่อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินมาที่ริมหน้าผาอย่างช้าๆ เขามองออกไปรอบๆทะเลอันกว้างใหญ่ด้วยแววตาที่เย็นชาและไร้ชีวิต
สายลมพัดโชยเข้ามาอย่างแรง...
“วันสุดท้ายของฉัน”
ปกรณ์พูดขึ้นเบาๆ สายลมพัดเข้ามาหาตัวปกรณ์อย่างแรง
ก่อนที่ปกรณ์จะก้มหน้าลงไป มองข้างล่างหน้าผาที่สูงชัน ที่เต็มไปด้วยโขดหินและน้ำทะเลลึก ที่ดูมืดและน่ากลัว
“ผมขอให้คำปฏิญาณ จบลง ไปพร้อมกับชีวิตผม แต่เพียงเท่านี้ .... ลาก่อน”
ปกรณ์เอ่ยขึ้นเบาๆ เขาหลับตาลงอย่างอ่อนล้า
ก่อนที่ร่างของเขาจะปลิวดิ่งลงจากหน้าผา หายไปในความมืด ในที่สุด..
…
"ปกรณ์! ไม่!!"
ปลาดาวฟื้นขึ้นมาจากห้วงนิทรากะทันหัน ก่อนจะหายใจหอบเหนื่อย เธอตกใจกับฝันร้ายที่เกิดขึ้น หัวใจของปลาดาวเต้นแรง เร็วและสั่น ทำให้ปลาดาวรู้สึกใจคอไม่ดี และคิดถึงปกรณ์เป็นอย่างยิ่ง
________________________________________
ปลาดาวพยายามติดต่อปกรณ์หลายครั้ง พยายามเดินตามหาปกรณ์อยู่หลายๆสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่วัด ที่ท่าเรือ ที่สะพาน หรือที่ๆทั้งสองเคยไปด้วยกัน ปลาดาวเดินทางมาที่หน้าผาอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบปกรณ์เลย เธอได้รู้สึกไม่ดีนักเมื่อมายืนอยู่ที่ริมหน้าผาตรงนี้...
ปลาดาวพยายามติดต่อหาปกรณ์ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้เธอรู้สึกอ่อนล้า และท้อใจ พลอยเดินเข้ามาหาปลาดาว แล้วถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาว
“ลองไปดูที่สถาบันวิจัยดีมั้ย? เผื่อปกรณ์เขาอาจจะยุ่งงานอยู่ก็ได้”
ปลาดาวมองหน้าพลอยอย่างมีความหวัง ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางไปที่สถาบันวิจัยของปกรณ์
“เอ่อ..ขอโทษน่ะค่ะ.. ไม่ทราบว่า วันนี้คุณปกรณ์มาทำงานหรือเปล่าค่ะ?”
ปลาดาวเอ่ยถามพนักงานเลขาที่นั่งทำงานอยู่ภายในสถาบัน
“คุณปกรณ์ไม่ได้มาทำงานที่สถาบันหลายวันแล้วน่ะค่ะ เพราะคุณปกรณ์ได้ยื่นใบลาออกไว้เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เองคะ”
“ลาออก!!”
“ใช่ค่ะ คุณปกรณ์ลาออกจากการเป็นนักวิจัยที่นี่แล้ว ดิฉันเองก็ไม่ทราบสาเหตุเช่นกันคะ ว่าลาออกไปเพราะอะไร เห็นบอกว่า จะไม่กลับมาเป็นนักวิจัยแล้ว”
ปลาดาวเข่าแทบทรุด พลอยเห็นเพื่อนมีท่าทางอาการที่ไม่ดีนัก จึงรีบเข้าไปประคองก่อนจะพามานั่งพักที่โซฟา
“ใจเย็นน่ะยัยปลา คงไม่มีอะไรหรอก”
พลอยมองปลาดาวที่สีหน้าเศร้าและไร้กำลังใจด้วยความเป็นห่วง
ทันใดนั้น ก็มีสายตาของคนคู่หนึ่ง กำลังมองมาที่เขาทั้งสองอยู่ด้วยความเป็นห่วง...
_________________________________________
ความคิดเห็น