ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Superstar is my love อุบัติรักดาราดัง

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดตัวหนุ่มเซ่อ

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 49


    บทที่1 เปิดตัวหนุ่มเซ่อ

                    ตอนเช้าวันที่อากาศสดใส ในอพาตเม้นเล็กๆ แห่งหนึ่งในยานที่พักอาศัยมักจะได้ยินเสียงโครมครามดังลอดออกมา จนคนที่อาศัยอยู่ข้างๆ เริ่มจะเคยชินแล้วนั้น รู้อยู่ว่าเสียงดังๆที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะมาอาศัยอยู่ได้เพียงเดือนเศษ เขาเป็นเด็กนักเรียน ม ปลาย ที่มักจะตื่นสายอยู่เป็นประจำ จึงได้รีบเร่งอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะไปให้ทันเวลาเรียน ตอน 9 โมงเช้าของทุกวัน

     

                    จินวูยังปรับตัวได้ไม่เก่งนักกับการที่ต้องตื่นเช้าขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อที่จะเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ทัน

              จ๊าก...เสื้อๆ กางเกง กระเป๋า รองเท้า อยู่ไหนบ้างละเนี๊ย

     

                    เสียงที่ดังออกมาบ่งบอกถึงความรีบร้อน ที่จะแต่งตัวให้เสร็จโดยเร็ว ชายหนุ่มรีบสวมกางเกงนักเรียน จดกระดุ่มเสื้ออย่างลวกๆ โดยไม่รู้ตัวว่าผิดข้าง จากนั้นก็คว้ากระเป้าหนักเรียนมาสะพายไหล่ไว้ ก็รีบมาที่ชั้นวางรองเท้าหยิบมาเพื่อจะใส่เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนออกจากห้อง

     

                    เอ๊ะ... ลืมอะไรอีกหว่า

     

                    เจ้าตัวหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองไปรอบๆห้องที่กำลังเละ ไปด้วยเสื้อผ้าที่ตกอยู่บนพื้น หนังสือการ์ตูนที่วางอยู่เรี่ยราด ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง มีแว่นตาทรงกลมกรอบใหญ่รูปร่างตลกพิลึกวางอยู่อันหนึ่ง

     

                    อ้อ...เจ้านี่เอง เกือบลืมแฮะ

     

                    จินวูหยิบมาสวมแล้วก็รีบปิดประตูห้อง จากนั้นก็วิ่งออกไปเพื่อจะไปขึ้นรถเมล์ให้ทันก่อนเวลา 8.30 น ระยะทางจากอพาตเม้นเล็กๆนี้จนถึงป้ายรถเมล์ห่างกันเพียง 500 เมตร แต่เพราะความที่รีบวิ่งมาก็ทำให้เหนื่อยจนเหงือไหลโทรม รถเมล์รอบนี้จอดรับผู้โดยสารคนสุดท้ายแล้วก็ปิดประตู เคลือนออกไป

     

                    จินวูตาเหลือกแทบหมดแรงรีบสูดอากาศหายใจก่อนจะตะโกนออกไป วิ่งมาตามท้ายรถ

     

                    หยุด..หยุด...หยุด...คอยก่อนครับ

     

                    คนขับเหลือบเห็นเด็กหนุ่มจากกระจกมองข้างที่วิ่งตามมาก็หยุดรถ เปิดประตูให้ จินวูรีบขึ้นไปทันทีกล่าวขอบคุณแล้วจ่ายเงินก็มองหาที่นั่ง ตอนนี้เขาเห็นคนทั้งรถหยุดมองมาเขาเป็นตาเดียวกัน สร้างความอับอายขึ้นมาทันที รีบก้มหน้าเดินไปข้างหลังแล้วนั่งลง ท่ามกล่างเสียงหัวเราะที่ดังขึ้น

     

                    โรงเรียนมัธยม ดงนัม ครับ

     

              คนขับตะโกนร้องบอกให้ผู้โดยสาร ที่เขาจำได้ให้ลงป้ายนี้ซึ่งก็หมายถึง จินวูแม้จะมีนักเรียนคนอื่นลงด้วยก็ตาม

     

                    ขอบคุณครับลุง

     

                    จินวูเคยขอร้องให้ คนขับช่วยบอกเขาเมล์มาจอดตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน เพราะมีอยู่หลายครั้งที่เขาลืมจนกระทั่งไม่ทันได้ลง จนต้องวิ่งย้อนกลับมาในตอนแรกที่มาโรงเรียน

     

                    เสียงเปานกหวีดดังขึ้น 3 ครั้ง เป็นสัญญาณว่าจะปิดประตูโรงเรียนภายใน สิบ วินาที โดยมีครูฝ่ายปกครองเฝ้าอยู่หน้าโรงเรียน และมีกรรมการนักเรียนคอยนับบอกเวลา

     

                    ...8 7 6 5 4...

     

                    เด็กนักเรียนที่อยู่หน้าโรงเรียนรีบวิ่งกรู่เข้ามาเหมือนคลื่นกระแทกเข้าสู่ฝั่งยังงัยยังงั้น จินวูรีบโกยสุดฝีเท้าอีกครั้ง เพราะไม่อยากจะทำลายสถิติโลกในการมาสายเป็นครั้งที่ 15 นับจากวันที่เขาได้ย้ายมาเข้าโรงเรียนแห่งนี้ ตอนนี้ชื่อของเขาขึ้นแบลกลิสของโรงเรียนไปแล้วว่า เป็นคนที่มาสายทุกวันจนต้องถูกทำโทษให้ยืนหน้าห้องเรียนบ้าง วิ่งรอบสนามบ้าง ตามแต่อาจารย์จะลงโทษ

     

                    คอยก่อนครับ คอยก่อน...

     

                    จินวูตะโกนออกมาสุดเสียงเมื่อนับมาถึง

     

                    3 2

     

                    ตอนนี้เขากำลังพลักประตูโรงเรียนไม่ให้ปิดเพื่อที่จะได้แทรกเข้าไปให้ได้ ก่อนที่จะนับ 1 และ 0 เป็นตัวสุดท้าย ด้วยพละกำลังที่มากกว่าคนที่ปิดประตู เขาพลักให้เด็กนักเรียนที่อยู่อีกด้านกระเด็นไปแล้วรีบแทรกตัวเข้าไปทันที

     

                    1 0 เย้

     

                    เธอ หยุดเดี๋ยวนี้นะ มาสายแล้วยังมาทำแบบนี้อีก

     

                    อาจาย์สาวฝ่ายปกครอง สั่งเสียงดัง กับการกระทำของจินวู พลางมองไปที่เด็กนักเรียนอีกคนที่กลิ่งลงไปเพราะโดนพลักล้มลงไป อย่างไม่ได้เรื่องอะไรสักนิด

     

                    จินวูหยุดร้องตะโกนลงทันที่

     

                    ผมไม่ได้มาสายครับ ผมมาก่อนอาจารย์จะนับ 0 เสียด้วยซ้ำไป

     

                    อาจารย์สาว จะเถียงแต่ก็เหมือนจะหาเหตุผลมาโต้แย้งไม่ได้ ตอนนี้เหล่านักเรียนที่มาก่อน ก็มุ่งล้อมมองมาที่เธอ และนักเรียนที่มาสายคนอื่นๆ ซึ่งอยู่อีกฝากของประตูก็มองมาเช่นกัน

     

                    เธอ ลุกขึ้นมาได้แล้ว รีบไปจัดการจดรายชื่อพวกที่มาสาย มาให้ฉันเร็ว

     

                    อาจารย์สาวสั่งให้เด็กที่คลุกฝุ่นอยู่ลุกขึ้นมา

     

                    ยังจะมารออะไรอีก ไปเข้าเรียนซิหา

     

                    จากนั้นเธอก็หันมาตะคอกใส่จินวูและนักเรียนที่ยืนอยู่ให้รีบไป

     

                    ครับ อาจารย์

     

                    จินวูไม่รอให้เธอบอกซ้ำสอง ก็วิ่งไปเข้าห้องเรียนทันที ตอนนี้เขาเป็นนักเรียน ม ปลายชั้นปีที่ 3 ห้อง เอ เพราะสามารถสอบเข้าห้องนี้ได้ จากวันแรกที่ย้ายเข้ามา ซึ่งปรกติแล้วเป็นจะไม่มีการรับนักเรียนใหม่เข้ามาแบบนี้แต่ก็เพราะผลการทดสอบความรู้ที่ได้ทำไว้ตอนมาขอสมัครเข้าเรียน เขาสามารถทำได้ถึง 599 คะแนน พลาดไปเพียงคะแนนเดียวเนื่องจากสะกดตัวอักษรผิดไปเท่านั้น จินวูจึงได้เข้าเรียนที่นี่

     

                    หน้าห้อง ชั้นเรียนปีสามห้องเอ

     

                    ขออนุญาติครับ

     

                    จินวูมาถึงหน้าห้องเรียนพอดีกับที่ครูสอนกำลังเช็ครายชื่อ

     

                    เธอมาเกือบสายอีกแล้วนะ ไม่หัดมาเช้ากว่านี้เสียบ้าง

     

                    ขอโทษครับ

     

                    ไปนั่งที่ไป

     

                    ขอบคุณครับ

     

                    จินวูจึงได้รีบย้ายตัวเองมานั่งที่โต๊ะหลังห้องทันที เสียงหัวเราะคิกๆ ดังมาจากนักเรียนหญิงหลายคน และนักเรียนชายบางคน เขายังไม่รู้ตัวว่าอะไรถึงเป็นเหตุให้พวกนี้หัวเราะกัน

     

                    ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     

                    เสียงหัวเราะจากจุงโฮ เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ จินวูก็หัวเราะด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นสภาพของจินวูในเช้าวันนี้

     

                    นายหัวเราะอะไร ตลกมากเหรองัยหะ

     

                    จินวูไม่พอใจที่เพื่อนหัวเราะเยอะเอาเช่นนี้ พลางทำน่าเซ่งกับเหตุการณ์ในเช้าวันนี้ ต้องเป็นวันซวยอีกวันของเขาเป็นแน่

     

                    หยุดได้แล้วน่า หัวเราะอยู่ได้ เซ่งวุ้ย

     

                    ก็มันตลกนี่หว่า นายไม่มองดูตัวเองล่ะวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     

                    ฉัน เป็นอย่างงัย ก็ปกตินี่หว่า แล้วก็ไม่ใช่กระจกเว้ยจะได้ตัวเองได้

     

                    ก็นายนอกจาก ติดกระดุมผิดข้างแล้ว ซิบก็ไม่รูด แถมยังผมยุ่งเหมือนรังนกแบบนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกว่ะ

     

                    ว่างัยนะ

     

                    จินวูร้องออกมา รีบก้มลงมองตัวเอง ก็เห็นตามที่เพื่อนบอกทุกอย่าง เพราะความที่รีบมานั่งเองเลยไม่ได้สังเกตุว่าแต่งตัวเรียบร้อยหรือยัง จึงรีบติดกระดุ่มใหม่ รูดซิบกางเกง แล้วก็เอามือกางเหมือนหวีแล้วเสยผมให้ดูเป็นทรงไว้ก่อน

     

                    จุงโฮมองเพื่อนแล้วก็พยายามกลั้นหัวเราะ อึกๆๆ อยู่

     

                    พรืดดด อึก หึ หึ หึ

     

                    พอได้แล้ว ไอ้บ้า ฉันอายเพื่อนคนอื่นนะเว้ย

     

                    เขาจัดการตัวเองจนคิดว่าน่าจะดูดี พอดูได้ไปก่อน บอกเพื่อนเบาๆ เพราะไม่อยากจะเป็นที่สนใจของคนอื่นมากนัก

     

                    แล้วก็เหลือบตามองดูเพื่อนข้างๆ ซาจุงโฮ เป็นเพื่อนใหม่ที่เขาเพิ่งรู้จักเมื่อย้ายเข้ามาที่นี่ เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา ติดอันดับหนุ่มป๊อปของโรงเรียน มีแฟนคลับกลุ่มใหญ่ แล้วก็เป็นหัวหน้าห้องนี้ด้วย เมื่อย้ายข้ามาใหม่ๆ จึงได้รับคำแนะนำ ช่วยเหลือจากจุงโฮ จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนในกลุ่มของจุงโฮไป

     

                    ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ นายก็ยังมาสายเหมือนเดิมนะ เมื่อไหร่จะมาเช้าล่ะ จะได้ไม่กลายเป็นตัวตลก

     

                    จุงโฮบอกเพื่อนด้วยความหวังดี พลางสายหน้ากับนิสัยชอบมาโรงเรียนสาย จนขึ้นชื่อติดอันดับของโรงเรียน

     

                    ฉันก็ไม่อยากมาสายหรอก แต่มันตื่นไม่ทันเอง นาฬิกามันไม่ทำงานนะ

     

                    จินวูโทษว่าเป็นความผิดของนาฬิกา แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพราะเขารำคาญเสียงนาฬิกาปลุก จนเอามือไปกดปิดมันไว้ แล้วนอนต่อไปอีกต่างหาก

     

                    ฉันคงเชื่อนายหรอก ฉันว่านายปิดเสียงนาฬิกาต่างหากล่ะ

     

                    เอ่อ นั้นแหล่ะ ก็มันรำคาญนี่หว่า คนจะหลับจะนอน

     

                    นายก็เป็นซะแบบนี้ ก็มาโรงเรียนสายทุกวันนะสิ

     

                    เอาไว้ฉันมีแฟนเมื่อไหร่ แล้วจะมาโรงเรียนเช้าให้ดู

     

                    จุงโฮมองเพื่อนทันที ที่ได้ฟัง ไม่คาดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้

     

                    นายมาโรงเรียนเช้า กับ การมีแฟนมันเกี่ยวกันยังงัย

     

                    อะ ก็จะได้ให้แฟนฉันปลุกมาโรงเรียนนะสิว่ะ

     

                    จินวูยกเอาความเกี่ยวพันกันของ แฟนกับการมาเรียนมาอธิบายให้ฟัง

     

                    ฉันว่า ยากว่ะที่นายจะมาโรงเรียนเช้าได้เพราะแฟน

     

                    ทำไม่ล่ะ

     

                    จินวูทำหน้าสงสัย ว่าทำไมจะไม่ได้

     

                    ก็ดูนายตอนนี้ก่อนเซ่ แล้วจะมีใครมาเอานายเป็นแฟนเล่า

     

                    จุงโฮพูดแล้วก็มองมาที่เพื่อน พลางนึกสลดใจกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นตอนนี้ของเพื่อน มันจะมีทางไปมีแฟนได้อย่างไร จะมีผู้หญิงคนไหน คิดสั้นมาเอาเป็นแฟนล่ะว่ะ ใส่ตัวใหญ่โคร่งไม่เหมาะกับรูปร่าง แล้วยังกางเกงนักเรียนที่ขายาว ขอบกางเกงก็รัดเข็มขัดซะสูงจะถึงอก ผมก็ไม่ตัดให้เข้ารูป อีกทั้งยังส่วมแว่นตาตลกๆ นี่อีกด้วย เหมือนชาลี แชปปลิ้น ดาราตลกของอเมริกาคนหนึ่ง เพียงแค่นี้ผู้หญิงก็หนีกันไปไกลแล้ว

     

                    เขาอยากจะบอกเพื่อนถึงภาพที่เห็นออกไปตรงๆ แต่ก็กลัวว่าเพื่อนจะเสียใจ และหมดความมั่นใจไป ก็ได้แต่นึกปลง คิดว่า คงมีสักวันที่เขาจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเพื่อนให้ดูเท่ห์และทันสมัยกว่านี้

     

                    ทั้งสองแอบนั่งคุยกันอยู่หลังห้องเรียนโดยไม่ได้สนใจกับบทเรียนที่ครูสอนอยู่หน้าห้องแม้แต่น้อย ก็มันไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาทั้งสองเลยนะสิ จุงโฮเป็นคนเรียนเก่ง ตอนนี้เขาสอบได้เป็นที่หนึ่งของชั้นปี และตลอดสามปีมาก็ไม่เคยมีใครเอาชนะได้ หล่อ รวย เก่ง ครบสูตรหนุ่มป๊อปอันดับหนึ่งของโรงเรียน ดงนัม

     

                    ออด.........

     

                    เสียงสัญญาณพักกลางวันดังขึ้น หมดคาบเรียนช่วงเช้าแล้ว

     

                    เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ ไปพักกันได้

     

                    อาจารย์ผู้สอนบอกหลังจากปิดหนังสือลง

     

                    ทุกคนทำความเคารพ

     

                    จุงโฮลุกขึ้นยืนบอกเพื่อนรวมฉันให้ทำความเคารพอาจารย์

     

                    ความรู้เป็นสิ่งล้ำค่า ขอบคุณครับ

     

                    ทุกคนพูดพร้อมกัน เป็นข้อบังคับที่ทุกคนต้องพูดหลังเรียนจบทุกคาบ เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักในการศึกษา

     

                    สิ้นเสียงความวุ่นวายก็เริ่มเกิดขึ้น เสียงพูด เสียงตะโกน จ๊อกแจ๊ก จ่อแจ ก็ดังระงมขึ้นมาทันที

     

                    จุงโฮ มาทานข้าวด้วยกันไหม

     

                    ไปกับพวกเราดีกว่า

     

                    นี่เธอ ขยับไปสิ ไปกับฉันน้า

     

                    เสียงของแฟนคลับของจุงโฮ ที่ไม่รู้มาจากไหนกันบ้าง รีบมาล้อมโต๊ะ เป็นแบบนี้เกือบทุกวัน จนชักจะน่ารำคาญขึ้นทุกที

     

                    นี่ เงียบ ออกไปไกลๆ ฉันจะไปของฉันเอง

     

                    จุงโฮ ไปกับพวกเราเถอะนะ

     

                    เสียงตอแย่ ยังไม่เลิก จากพวกสาวๆ ที่มารุมล้อม จินวูเฝ้ามองว่าจุงโฮจะจัดการอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้ ที่น่ารำคาญซะเหลือทน

     

                    เลิกตอแย่ ฉันซะทีน่า ฉันเบื่อพวกเธอเต็มทนแล้ว

     

                    เสียงโกระเคืองของจุงโฮ ทำให้วงล้อมของสาวๆ ขยับถอยห่างออกไป ไม่กล้าจะเข้ามาไกล้ๆ แต่ก็ไม่ยอมถอยออกไปไกล กลัวว่าคนอื่นจะได้โอกาส ออกไปกินข้าวกับจุงโฮก่อนตัวเอง

     

                    เพราะเธอที่เดียวเขาถึงรำคาญแบบนี้

     

                    เธอนั้นแหล่ะ

     

                    พวกแฟนคลับเริ่มโทษว่ากันเอง

     

                    จุงโฮ ไม่สนใจพวกนั้นอีก พยักหน้าเรียกจินวูให้ออกไปด้วยกัน

     

                    จินวู ไปกินข้าวกันดีกว่า รำคาญพวกนี้จริง

     

                    จุงโฮ มองหน้าของจินวูที่กำลังอมยิ้มกับอะไรสักอย่าง หมอนี้กวนพิลึก ยังจะยิ้มอยู่ได้ พวกผู้หญิงพวกนี้ก็ไม่น่ารักสักนิด สวยก็ไม่สวย

     

                    ไปสิ

     

                    จินวูรับคำแล้วก็เดินตาม จุงโฮออกไป ภาพของทั้งสองที่เดินออกไป ขัดกันอยู่มาก หนุ่มคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาหล่อ เท่ห์ เป็นที่สนใจของนักเรียนหญิง หนุ่มป๊อปอันดับหนึ่ง

     

                    แต่อีกหนึ่งหนุ่มแม้จะสูงกว่าเล็กน้อย แต่การแต่งกายผิดกันลิบลับแม้จะสวมชุดนักเรียนเหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน อย่างกับเจ้ากับคนรับใช้ที่คอยเดินตามเจ้านายซะอย่างนั้น

     

     

                   

     

                    โรงอาหารโรงเรียนมัธยมดังนัม

     

                    ใหญ่พอสำหรับนักเรียนเกือบพันคน ที่เข้ามาใช้บริการ และก็มีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทาน จุงโฮ กับ จินวู ต่างก็แยกกันไปซื้อ อาหารที่ตนชอบ แล้วก็มาเจอกันตรงที่ประจำ

     

                    เฮ้ ทางนี้ มานี่เร็วๆ

     

                    เสียงจากเพื่อนซี่ของ จุงโฮอีกสองคนที่อยู่ต่างห้องส่งเสียงเรียก จุงโฮและจินวู ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของจินวูไปแล้ว

     

                    พวกนายออกมาช้ากันจริงๆ ฉันสองคนเบื่อจะแย่แล้ว

     

                    ลีวาน พูดขึ้นเมื่อทั้งสองนักลงอีกด้านของโต๊ะ

     

                    หวัดดี ซึงฮยอง ลีวาน

     

                    จินวูทักทายเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะนั่งลงไป

     

                    จุงโฮ ลีวาน ซึงฮยองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้น แต่พอเข้า ม ปลาย ก็ถูกแยกกันไป อยู่คนละห้อง มาปีนี้ ลีวาน กับ ซึงฮยองอยู่ห้องเดียวกัน แต่จุงโฮ กับอยู่คนเดียว แต่พอได้จินวูที่เขารู้สึกถูกชะตาด้วย ก็กลายเป็นเพื่อนสนิท และถูกชักชวนให้เข้ามาร่วมกลุ่มด้วยกัน

     

                    ทั้งสาม ถือว่าเป็นกลุ่มหนุ่มฮอต แห่งดังนัม ถูกเรียกว่า สามเสือแห่งดังนัม นอกจากจะเป็นที่หมายปองของเด็กสาว แฟนคลับแล้ว ก็ยังมีชื่อเสียงในฐานะพี่ใหญ่ ที่ทุกคนให้ความเกรงใจ

     

                    การเข้ามาร่วมกลุ่มของ จินวูซึ่งแตกต่างจากเพื่อนทั้งสาม สร้างความไม่พอใจในกลุ่มนักเรียนชายอยู่บ้าง เพราะเขาดูไม่เด่นสะดุดตาแต่อย่างใด แต่เพราะได้เพื่อนๆคอยปกป้อง และยังไม่มีใครมาหาเรื่อง จินวูจึงยังอยู่ได้ในกลุ่ม แต่ถ้าเขาอยู่ห่างจากลุ่มเมื่อไหร่ นั่นก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะปลอดภัย

     

                    ซึ่งเพื่อนทั้งสามคนต่างก็รู้ดี แต่คนที่ทำหน้าตาซื่อ บ๊องแบ้ว เหมือนไม่รู้อะไรนี่กลับไม่สนใจ

     

                    มีอะไรกันหรืองัย

     

                    จุงโฮถามขึ้นมา

     

                    นายรู้หรือยังว่า ทางฝ่ายโรงเรียน เมียงดอง สงสารท้าการแข่งบาสประจำปีมาแล้วนะ

     

                    ซีงฮยองบอกออกมา ท่าทางหนักใจไม่น้อยกับการแข่งบาสในครั้งนี้

     

                    หรอ ส่งมาแล้วสินะ ฉันก็รออยู่ว่า ปีนี้เมื่อไหร่จะส่งมา ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้

     

                    จุงโฮ เป็นกัปตันทีมบาสของโรงเรียน เขาจึงรอสารท้าแข่งอยู่ แต่วันนี้ไม่ได้เข้าไปที่ชมรมจึงไม่ทราบเรื่อง ซีงฮยองเป็นรอง จึงรู้ก่อน

     

                    ตอนนี้พวกเก่งๆ ในโรงเรียนเราที่พอจะสู่กับโรงเรียน เมียงดองได้ ก็มีแต่พวกเราสามคนเท่านั้น

     

                    ลีวาน หวั่นวิตกไม่น้อย กับจำนวนผู้เล่นที่ดูเหมือนจะด้อยกว่าอีกฝ่าย

     

                    จุงโฮ เห็นด้วยว่า ตั้งแต่ปีที่แล้วที่พวกรุ่นพี่จบไป ฝ่ายเขา ที่เป็นตัวหลักในทีมบาส ก็เหลือกันแค่ สามคนคือ เขา ลีวาน และซึงฮยองเท่านั้น

     

                    พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน

     

                    จินวู ทานอาหารไปฟังเพื่อนคุยกันไป ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม่ต้องซีเรียสกันขนาดนี้

     

                    ลีวานเลยหันกลับมา เห็นจินวูทำหน้า งง ก็เลยอธิบายให้ฟังว่า

     

                    นายรู้จักโรงเรียนมัธยมปลาย เมียงดอง ที่อยู่ตรงข้าม โรงเรีนยมัธยม ดังนัมของเราใช่ไหม

     

                    อืม รู้จักสิ ก็อยู่ตรงข้ามกันนี้

     

                    จินวูพยักหน้าตอบว่ารู้จักก่อนตอบลีวาน

     

                    โรงเรียนดังนัมของเรา กับ โรงเรียน เมียงดอง นะ แข่งกันมาตลอด ตั้งแต่ เรื่อง การเรียน การกีฬา กิจกรรมอื่นๆ ไม่มีใครยอมน้อยหน้า หรือยอมแพ้ ปีนี้ การแข่งบาสก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องแข่งกัน เมียงดองเป็นเจ้าภาพ จึงต้องส่งสารท้าแข่งมาให้กับเรา

     

                    ลีวาน อธิบายให้จินวูฟังไปเรื่อยๆ

     

                    แล้วมันมีปัญหาอะไรล่ะ ก็ลงแข่งสิ

     

                    จินวูมองไม่เห็นปัญหา เพราะย้ายมาใหม่

     

                    ตอนนี้ นักบาสที่เก่งๆ ของเรา หลายคนที่เป็นรุ่นพี่นะ จบออกไปแล้ว เหลือแต่พวกฉันสามคนนี่ล่ะ จะแข่งตอนนี้ก็แพ้นะสิ

     

                    ซึ่งฮยอง แทรกก่อน เพื่อให้เข้าใจว่าทำไม

     

                    จินวูพยักหน้า  เมื่อเข้าใจในสถานการณ์ แล้วก็เสนอความเห็นขึ้นมา

     

                    พวกนายก็เปิดรับสมัครแล้วก็คัดตัวสิ ฉันว่า พวกปี 1 ที่เข้ามาใหม่ๆ น่าจะมีคนเก่งๆ เข้ามาบ้าง

     

                    เออ จริงสิ เรายังไม่ได้เปิดรับสมัครสมาชิกใหม่เลยนี่หว่า ตั้งแต่เปิดเทอม

     

                    เหมือนคนน้ำได้ หวงเกาะทำให้รอดชีวิต ลีวานและซึ่งหยอง ก็ทำท่าดีใจออกมา เมื่อคิดว่าจะแก้ปัญหาได้ แต่จุงโฮ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม

     

                    ถ้าไม่มีคนเก่งๆ ละ พวกเราแพ้ไม่ได้ด้วย

     

                    จุงโฮ ในฐานะกัปตันทีมยังวิตกกังวลอยู่

     

                    นายก็รีบเปิดรับสมัครแล้ว ก็รีบฝึกซ้อม ฉันว่ามันน่าจะทัน หรือพวกนายว่างัย ฝ่ายโน้นกำหนดวันแข่งวันไหนล่ะ

     

                    อีก สิบวัน ก็ถึงวันแข่งแล้ว

     

                    ซึ่งฮยองบอกออกมา

     

                    ไม่ลองก็ไม่รู้ เอาเถอะ เดี่ยวพวกเราค่อยมาวางแผนกันว่าจะเอายังงัยกับเรื่องนี้

     

                    จุงโฮ ตัดบท  ชักชวนเพื่อนให้รีบรับประทานอาหารให้เสร็จกันก่อนดีกว่า แล้วให้ไปคุยเรื่องนี้กันตอนเย็น เพื่อจะหาข้อสรุปกันให้ชัดเจนว่าจะจัดการกันอย่างไร

     

                    ทั้งจึงรีบรับประทานอาหรกันแล้วก็ออกไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×