ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดหล่ออลวน คนแต่งนิยายอลเวง

    ลำดับตอนที่ #1 : การพบกันระหว่างพระเอกของเรื่องและคนแต่งนิยาย

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 49


    ในห้องพักส่วนตัวที่ดูทันสมัยสุดๆ เพราะว่ามันประกอบไปด้วย ทีวีจอแบบติดผนังขนาดใหญ่ รุ่นใหม่ล่าสุด เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่แพงที่สุด คอมพิวเตอร์ราคาหลายพันดอลล่าห์ เครื่องเล่นเกมส์เพลย์ และอีกมากมายจนขี้เกียจจะบอกนี่แระ รวมทั้งข้าวของอุปกรณ์ตกแต่งห้องที่สุดแสนจะแพงแบรนเนมทั้งหมดนี้ คงบอกได้ว่าเจ้าของนั้นร่ำรวยขนาดไหน

     

    ใช่แล้วที่นี่คือ คฤหาสต์วินสตาร์ ห้องๆนี้ก็เป็นของลูกชายเจ้าของคฤหาสต์วินสตาร์ คนที่กำลังนอนอย่างสุขสบายบนเตียงขนาดใหญ่ เข้าไปไกล้อีกนิดก็จะเห็นร่างของเด็กหนุ่มนอนคว่ำหันหน้ามาด้านขวาหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขไม่รู้ว่ากำลังฝันถึงอะไร แต่นี่ก็จะเที่ยงแล้วทำไมยังไม่ตื่นอีกล่ะ จะนอนไปถึงไหน คนอ่านกำลังอยากรู้จักอยู่นะ

     

    ถ้าเจ้าตัวไม่ตื่นมาเล่าเรื่องราว คนเขียนเล่าให้ฟังก็ได้ ก็เจ้าหมอนี้อะนะ เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ไปงานปาร์ตี้ฉลองที่เรียนจบการศึกษา เกรด 12 แล้ว และในงานก็ถูกเพื่อนมอมเหล้าขนาดหนัก เพราะความที่เป็นคนคออ่อนพอเมาแล้วจะชอบซุกตัวลงนอน ก็เลยต้องเดือดร้อนให้เพื่อนพามาส่งที่บ้านแล้วก็ถูกนำมาทิ้งไว้บนเตียงทั้งๆที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ซกมก สกปรกใช่มะ หึหึ แต่ผู้ชายก็แบบนี้ล่ะครับ จะให้สะอาดตลอดเวลาก็คงจะไม่ได้ เอาล่ะมานินทาต่อดีกว่า แต่เอะ ดูท่าว่า เจ้าหมอนี้กำลังจะตื่น

     

    ใครนินทากูว่ะ เสียงเบาๆที่ลอดออกมาจากริมฝีปากนั้น คงจะบ่งบอกอารมณ์คนที่กำลังตื่นได้ว่าเป็นแบบไหน

     

    เจ้าของคำพูดลืมตาลุกขึ้นมานั่งมองสบตามายังคนเขียนและก็คนอ่าน หึหึ ซึ่งคนเขียนไม่ได้โต้ตอบอะไรไป คนอ่านนะเหรอ ก็ได้แต่ดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนเขียนบรรเลงไปคนเดียว เพราะไปร่วมแจมด้วยไม่ได้

     

    เขียนนินทา ไอ ไปถึงไหนแล้ว ไหนดูสิ ว่าแล้วเจ้าตัวก็เหลือบสายตาไปทีล่ะบรรทัด

     

    ผมปล่อยให้หมอนี้อ่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้บังคับ กดขี่ ข่มเหงแต่ประการใด เพราะรู้ว่ายังไม่ได้ลงมือปลุกปล้ำ เอ้ย ปลุกป้ำให้ดำเนินเรื่องไปมากมายเท่าไหร่ แค่บทนำเรื่องมาสองย่อหน้าเอง และก็ไม่ได้ว่าร้ายอะไร มีแต่เล่าเรื่องเจ้าตัวไปได้นิดเดียวเท่านั้น

     

    ก็ใช้ได้ แต่ยังไม่ดีเท่าไหร่ ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่า เป็นนักเขียนมือใหม่ เขียนไม่จบสักเรื่อง แล้วนี่เอาเรื่องของฉันมาเขียนนะ จะเขียนได้จนจบเหร้อ

     

    ดูมันดูถูกผม ไม่ต้องมาตอกย้ำเฟ้ย ช่วยไม่ได้นี่หว่า ไม่มีพรสวรรค์นักเขียน แถมมันไม่มีอารมร์ และพล็อตเรื่องก็ห่วยอีกต่างหาก ช่วยไม่ได้ว่ะ ที่แต่ล่ะเรื่องมันเขียนไม่จบ และเรื่องนี้ก็อีกเหมือนกัน ถ้าเรื่องของนายมันไม่มันส์ ไม่สนุก ก็คงจะ คาๆ ขาดๆ ไม่เสร็จสม จบเรื่องอีกเหมือนกัลย์

     

    ผมโต้ตอบมันไป หน่อยแนะ มาดูถูกกันได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ แต่มันแสลงใจ ใครไม่เคยเขียนคงไม่รู้หรอกว่า มันยากแค่ไหนกว่าจะเขียนนิยายให้จบสักเรื่อง ไหนจะพล็อตเรื่อง ไหนจะตัวละคร อารมณ์ ความรู้สึก โอ้ย จิ ปา ถะ ร้อยแปดพันเจ็ด

     

    เอาล่ะ ไม่ต้องบ่น แค่นี้ทำบ่น แล้วมาเขียนเรื่องของ ไอ ทำไม ยู ก็อยู่เฉยๆ ดิ เป็นนักเขียนบ่นได้เร้อ เจ้าหมอนี้มันส่งเสียงดังใส่ผมมาอีก

     

    ไอ จะไปอาบน้ำล่ะ ตาสว่างแล้ว อย่ามาแอบดูนะเว้ย

     

    เหอะ ผมใช่ว่าอยากจะดูมันหรอก แต่หน้าที่มันก็เป็นหน้าที่ ถ้าไม่เขียนคนอ่านจะไปรู้ได้งัยว่า กำลังทำอะไรกันอยู่ แต่เอาเถอะ จะไม่ให้ขายหน้าก็แล้วกัน ผมก็มีจรรยาบรรณ พอตัวนะครับ

     

    เจ้าหมอนี้มันไม่ให้ผมแอบดู แต่มันก็เปิดโอกาสให้เห็น เพราะพอบอกว่าจะไปอาบน้ำ มันก็ถอดเสื้อผ้าออกหมด แม้แต่กางเกงในครับท่าน มันไม่อายผมเลย พับผ่าสิ แต่มันก็รู้ว่าผมไม่ได้สนใจของมันหรอก ก็ผมเป็นผู้ชายนิ จะไปสนของมันทำไม แต่ท่านผู้อ่านครับ ขอร้อง อย่าจินตนาการลึกมากนะครับ  แนะ ดูทำหน้าตาเข้า หื่นซะไม่มี แบบนี้ พระเอกของผมของเคืองหน้าดู

     

    อ้อ ผมลืมบอกไป เจ้าหมอนี้ชื่อวิน ชื่อจริงคือ วินเทอร์ เกิดฤดูหนาว หน้าตามันเป็นยังงัยนะเหรอครับ ผมว่าอย่าไปรู้เลย ผมไม่อยากเล่า อิจฉามันนะครับ ก็มันนะ หล่อเกินไป หล่อข้ามหน้าข้ามตาผม สูง 185 ทั้งๆที่อายุ แค่ 17 หุ่นดีเกินไป มันเฟอร์เฟค เกินคนครับ พอล่ะ ยิ่งพูดยิ่งเคือง

     

    นิสัยเจ้าวิน ก็โอเคนะ รักเพื่อน ไม่ดูถูกใคร ขี้เล่น ผู้หญิงติดกันเกลียว ยังกะ แมลงวันตอมขี้ นะแหล่ะครับ เกลียดมันฉิบเป่ง

     

    ดูเหมือนเจ้าวิน จะออกมาแล้ว เห็นมะผมไม่ได้ตามไปดูมันเลย รอมันออกมาอยู่นี้ ดูมันสิครับ จะออกมาทั้งทีจะเช็ดตัวให้แห้งหน่อยก็ไม่ได้ ออกมาทั้งๆที่ตัวยังเปียกอยู่ พันผ้าเช็ดตัวรอบเอว แบบหมิ่นๆ ว่าจะหลุดออกมา โชว์น้องชาย ยังงัยยังงั้น มือก็กำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็ก ซับผมที่เปียกอยู่ เซ็กซี่เกินไปว่ะ

     

    รีบๆ หน่อยเด่ รออยู่นะ จะได้ไปทำอะไรต่อ ช้าฉิบเป่งเลย ผมหวังว่ามันจะได้ยิน

     

    เออ รู้แล้ว ก็ไม่ได้ช้าอะไรนี่ ไอ ก็อาบน้ำแบบเดิม ใช้เวลาเท่าเดิม ทนดูไม่ได้เหรองัย อิจฉาละเส้ คนมันหล่ออะนะ เขียนถึงคนหล่อ ต้องทำใจ

     

    ดูมันหลงตัวเองซะแบบนี้ ไม่อยากจะเล่าเรื่องต่อเลยพับผ่าสิ เออ เร็วๆ แต่งตัวช้าจริงๆ

     

    เอาล่ะ รอมันสักนิดก็ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว รอมันมานานแล้ว ก็คงต้องรอกันต่อไป ดูมันแต่งตัวก็แล้วกัน เห็นไหมครับว่า เจ้าหมอนี้ แค่ใส่เสื้อ กับกางเกงธรรมดา เหมือนคนทั่วไป แค่เสื้อยี้ห้อดัง แบรนเนมสุดหรู เครื่องประดับก็นาฬิกาเรือนเดียว แต่ขอโทษ นั้นนะ เหยียบแสนนะครับ เอาเป็นว่า คนธรรมดาไม่มีเขาใส่กันแบบนี้ แต่มันรวยนี่นะ ต๋อมอิจฉา โผล่อีกแล้ว

     

    แปลกมากว่า พอเจ้านี้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว แทบจะมีประกายแสง ออร่า ออกมาจากตัวเลยนะนั้น เรียกได้ว่า โค ร ต หล่อเลยล่ะครับท่าน

     

    โอเค ไอ เรียบร้อยแล้ว ไปหาอะไรกินดีกว่า หิวมากกกกกกก เจ้าวินบอกมาพร้อมกับตบท้องให้ดูเบาๆ เป็นเครื่องหมายว่า หิวว้อยยยย

     

    ก็ไปดิ ใครจะไปห้ามนาย คุณแม่นะ รอนายตื่นนานแล้ว ดูเหมือนจะรอมาตั้งกะเช้าแล้วมั้ง

     

    ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เจ้าวิน ก็เดินออกไปเฉยเลย รอกันมั้งดิเว้ย เขียนตามไม่ทัน เสร็จแน่นายเอ้ย ฉันจะแต่งให้นายจ๋อยไปเลยคราวนี้ มาเจอคุณแม่มหาภัยหน่อยเป็นงัย

     

    ถึงเจ้าวินจะไม่ได้รอผม ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมย้ายฉากมารอที่ห้องอาหารเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับนายแม่ที่นั่งรออยู่ก่อน

     

    แหะๆ หวัดดีครับ คุณแม่ ผมต้องทักทายท่านก่อน เป็นมารยาทนะครับ เอาท่านมาเขียน ก็ต้องนอบน้อมเป็นพิเศษตามประสาเด็กดี (จริงเหรอเปล่าหว่า) คุณแม่รอสักครู่นะครับ เจ้าวินกำลังจะมาครับ ขอโทษที่ผมแต่งเรื่องช้าไปนิด ปล่อยให้คุณแม่รอ มาตั้งแต่เช้าอะครับ ขอโทษคร้าบบบบ ผมยกมือไหว้ คุณแม่ท่านอีกที พลางก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ไกล้ๆ แต่ไม่ได้อยู่ในระยะฝ่ามือ และฝ่าเท้าแต่อย่างใด ก็อะนะ ปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อว่าท่านไม่พอใจ หากจะลงมือลงไม้ ผมจะได้หนีทัน

     

    คุณแม่พยักหน้าตอบกลับมา ส่งรอยยิ้มมาให้ผมเล็กน้อย ตามแบบอย่างหญิงงาม ทุกอิริยาบทที่ไม่อาจจะติเตียนได้แม้แต่น้อย แต่ถึงกระนั้น ผมก็แอบเห็นแววตา อำมหิตไม่เงียบส่งมาให้ผมแว่บหนึ่งแล้วก็หายไป แค่นี้ก็สยองแล้วครับ บรื้อๆๆ ตัวใครตัวมันละเว้ย ผมนึกอยู่ในใจ เจ้าวินกะผมตายแน่ ที่ปล่อยให้คุณแม่นั่งรอมานานแบบนี้

     

    และแล้ว เจ้าวินพระเอกของผมก็โผล่หัวกับตัวมาแล้วครับ มาดงี้ คุณชายเนี้ยบนิ้งจริงๆ ต่างจากที่อยู่กะผมตามลำพังเมื่อครู่นี้ลิบลับ

     

    สวัสดีครับ คุณแม่ ยังสวย เหมือนเดิมเลยนะครับ คุณแม่น่ารักที่สุด ผมรักแม่ครับ เจ้าวินเข้ามาสวัสดีกับคุณแม่แล้วโปรยคำหวานออกมาเป็นระลอกคลื่น ซัดเข้าหาฝั่งแบบนี้ หินผาอย่างคุณแม่ ต้องละลายแน่นอน

     

    จ๊ะ ปากหวานจริงนะ ลูกแม่นี้ ตื่นซะสายเลยนะ หนึ่งดอกครับ ขอหาแรก

     

    ปล่อยให้แม่ต้องทานข้าวเช้าคนเดียว นี่ก็นึกว่าจะทานมื้อเที่ยงคนเดียวอีก ดอกที่สองครับท่าน

     

    ขอโทษฮะ เมื่อคืนผม เมามากไปหน่อย ก็ไปฉลองที่เรียนจบนี่ครับ คุณแม่ดีใจไหมครับ เจ้าวินแก้ตัวได้แย่มากเลยนะนี่ แต่มันมีทีเด็ดครับ พอรู้ว่าแก้ตัวได้ไม่ดี ก็ส่งรอยยิ้มมาให้คุณแม่ก่อน

     

    แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย ผมต้องยอมรับจริงๆ ว่าเจ้าวินมีไม้ตายที่รอยยิ้มนี้อีกอย่างนอกจากหน้าตา แค่รอยยิ้มที่ส่งมาให้นี้ ก็ละลายได้เลยครับ น่ารักเกินไป เห็นแล้วใจอ่อน เป็นขี้ผึ้งเลยทีเดียว

     

    จ๊ะ แม่ไม่ว่าอะไรก็ได้ นี่ลงมาตอนนี้ก็หิวแล้วละสิ ทานอะไรกันก่อน แล้วค่อยคุยกัน แม่มีอะไรจะบอกลูกอยู่เหมือนกันจ๊ะ คุณแม่ยอมลงให้กับลูกชายสุดที่รัก อย่างง่ายๆ แม่ลูกกันนี้นะ จะให้ใจร้าย ก็กระไรอยู่

     

    พอเห็นลูกชายสุดที่รักอ้อนเข้าหน่อย ก็ใจ่อ่อน ดูดิ เลื่อนจาน อาหาร น้ำ ให้ บอกให้ทานนู๊นนี้ ไม่หยุด เอาใจกันสุดๆ โอ้ยยยย เห็นแล้ว ไม่อยากจะดูเล้ย บ้านนี้ หวานเกินไปแล้ว พอกันทั้งแม่ทั้งลูก

     

    ผมเบื้อนหน้าหนี้ไปอีกทาง มองสองแม่ลูกนี้หยอกล้อ คุยกันไปอยู่ห่างๆ ไม่อาจจะเข้าไปร่วมวงได้ ก็ต้องปล่อยเขาไป แต่ก็แอบชื่นชมนิดๆไม่ได้ว่า ดูไปดูมาก็น่ารักจริงๆ เลย แม่บอกให้ลูกทานนู๊นนี้ไม่หยุด ส่วนคุณลูกก็ตอบรับอย่างดี ทานตามที่บอก แล้วชมว่าอะไร เอาใจเป็นอย่างดี เอาเข้าไป

     

    สี่สิบห้านาทีผ่านไป สำหรับอาหารมื้อนี้ ไม่นานเท่าไหร่ เอะหรือว่านาน สำหรับคนที่ชอบแดกด่วนอาจจะรู้สึกว่านานแต่หากสำหรับคนที่รู้ว่า การทานอาหารอย่างมีศิลปะ แค่นี้ไม่ถือว่านานเท่าไหร่ เพราะการทานอาหารให้มีความสุข ต้องค่อยๆ ทานและเคี้ยวให้ละเอียดไม่ใช่ รีบกลืน ยัดเข้าปากแล้วกลืนอะไรแบบนั้น

     

    การเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลื่นมีข้อดีก็คือ ช่วยให้ลำใส้ไม่ต้องออกแรงย่อยมากไป และไม่เป็นภาระกับระบบขับถ่าย

     

    อิ่มแล้วครับ อาหารวันนี้ อร่อยดีนะครับ ผมชอบจัง

    แม่ดีใจที่ลูกชอบนะ เพราะนี้แม่ก็สั่งให้แม่ครัวเขาทำแต่ที่ลูกชอบทั้งนั้น

    ขอบคุณครับ เออ เมื้อกี้คุณแม่บอกว่า มีอะไรจะบอกผมเหรอครับ

    ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งจ๊ะ แต่เราออกไปคุยกันที่ข้างนอกดีกว่านะ จะได้ให้แม่บ้านมาเก็บที่นี้ เห็นยืนรออยู่นานแล้ว

    ครับ

     

    ตามสองคนนี้ไปดีกว่าว่า มีเรื่องอะไรกัน อยากรู้ๆๆ วินเดินนำออกมา เปิดประตู้ห้องอาหารให้คุณแม่ออกไปก่อนแล้วค่อยเดินตามออกไป พลางส่งสายตาอย่างสงสัยมาให้ผม เหมือนจะถามว่า เล่นอะไรกันล่ะนี่

     

    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คุณแม่ท่านคิดอะไรอยู่ ถึงผมจะเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่ว่า ผมจะเที่ยวไปสอดรู้สอดเห็น ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสมองของตัวละครของผมได้หมดหรอกนะ บางอย่างผมก็ไม่รู้หรอก ผมไม่ได้เก่งระดับเทพนะจะบอกให้ เป็นมนุด ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ขอบอก

     

    ผมส่งสายตากลับไป พลางส่ายหัว ตอบไปว่า ไม่รู้ว่ะ เดินตามไปดิ เดี่ยวก็รู้เองหรอกนะ ไม่เห็นต้องมาถาม ฉันก็อยากรู้อยู่เหมือนกันว่า คุณแม่มีเรื่องอะไร

     

    ผมในฐานะคนแต่งนิยายเรื่องนี้ กับเจ้าวิน เดินตามคุณแม่ต๋อยๆๆ ออกไป จนกระทั้งมาถึงห้องนั่งเล่น คุณแม่ก็นั่งลง พลางพยักหน้าให้เจ้าวินนั่งลงที่เก้าอี้ตัวไกล้ๆ กัน  และแล้ว รังสีออร่าสีดำ ก็เปล่งออกมา (ไม่ได้เปล่งออกมาจริงๆนะ แต่แบบว่า มันเหมือนจะมีนะ) รังสีอำมหิต

     

    นั่งสิ แม่มีอะไรจะบอก น้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้บ่งบอกอะไร นำมาก่อน

    ครับ อะไรครับ เจ้าวิน ถาม รู้สึกตื่นเต้น ประมาณว่า เปิดประตู ตู้เสื้อผ้า เก่าๆ แล้วกลัวว่าจะมีผีโผล่ออกมา

    ลูกเรียนจบ เกรด 12 แล้ว ก็ต้องต่อ มหาวิทยาลัยใช่ไหมกลิ่นชักตุๆ แหะ

    ครับ วินตอบ

    งั้นก็ดีแล้ว แม่อยากให้วิน กลับไปเรียนต่อ มหาวิทยาลัย ที่เมืองไทย นี้งัยครับ คีย์เวริด ตัวสุดท้าย

    อะไรนะครับ วินตะโกนขึ้นมาสุดเสียง

    แม่อยากให้วิน ไปเรียนต่อ มหาวิทยาลัยในเมืองไทย คุณแม่ย้ำอีกที

    แต่ว่า.... ทำไมล่ะครับ วินถามหาเหตุผล

    ลูกไม่จำเป็นต้องรู้ว่าทำไม ทำตามที่แม่บอกก็พอ น้ำเสียงเฉียบขาด บอกออกมาให้รู้ว่า ตัดสินใจแล้วแน่นอน เปลี่ยนแปลงไม่ได้

    แต่ผม ไม่อยากไป ผมเรียนที่นี่ก็ได้ มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งติดต่อมาแล้วด้วย วิน พยายามอ้างเหตุผลที่ไม่ต้องไป

    ไม่มีแต่ และไม่ต้องอ้างอะไรทั้งนั้น ทำตามที่แม่บอกก็พอ คุณแม่ยั้งยื่นยันคำเดิม

    โธ่ คุณแม่ครับ เจ้าวินเริ่มใช้ไม้อ่อน อ้อน เพื่อที่จะให้คุณแม่เปลี่ยนใจ

     

    แต่คราวนี้ไม่ได้ผลครับ คุณแม่ท่าน ใจแข็งมาก ไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณลูกเหมือนทุกครั้ง เอาล่ะสิ ถ้าคุณแม่ใจแข็งแบบนี้ ผมก็ต้องมีเอี่ยวด้วยสิงานนี้ นั้นหมายความว่า นิยายที่ผมตั้งใจจะแต่งให้มีฉากที่อเมริกา เมืองศิวิลัย ที่มีแต่สาวๆ สวยๆ อึ่มๆ ต้องย้ายไปเป็นเมืองไทยเหรอนี้

     

    ผมจะทำยังงัยล่ะหว่า

     

    เออ คุณแม่คร้าบ ผมเห็นว่ามันจะลำลากกับคนแต่งนะครับ ผมไม่สันทัดอะไรกับเมืองไทยเลยนะ จะให้แต่งนิยายข้ามทวีปแบบนี้ ผมก็แย่สิครับ โอ้ยยย ตาย แน่ ตาย แน่ ตายแน่

     

    ผมโอ๊ดครวญให้คุณแม่ได้ยิน เพื่อที่ว่าท่านจะเปลี่ยนใจ แต่เสียงที่ได้ยินกลับมา

     

    เธอไม่ต้อง มาโอ๊ดครวญอะไร มีหน้าที่แต่งนิยายให้มันสนุก มันส์ ได้อารมณ์ และคนอ่านพอใจก็พอ และต้องทำตามที่ฉันสั่ง เข้าใจไหม

     

    ผมรีบปิดปาก เงียบทันที อ่าคุณแม่ ยื่นคำขาดเสียงแข็งกับผม ที่เป็นคนแต่งด้วยอย่างนี้ เจ้าวินก็ไม่รอดไปได้ เราสองคนสบตากัน อย่างปลอบใจว่า คราวนี้ เราสองคน คงต้องตกระกำลำบากอย่างที่สุดแสนจะหาอะไรมาเปรียบปาน ต้องระเห็จ ระเห เร่รอนไปต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่รู้ได้ว่า อยู่ส่วนไหนของแผ่นที่โลก

     

    ประเทศไทย อยู่ตรงไหนกันล่ะหว่าที่นี่ ใครจะช่วยเราได้มั้ง คนอ่านจะช่วยอะไรได้บ้าง และผมคนเขียนจะไปเอาข้อมูลอะไรที่ไหนมาแต่งกันล่ะที่นี้

     

    ซวยครับ มาแต่งนิยายแบบนี้ ที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขา โอ้ยยแย่ ที่ซู๊ด

     

    ผมพยายามหาแนวรวม มองออกไปรอบข้างตอนนี้ ก็ไม่มีใครอยู่ซะด้วย แถมมีธุระต้องไปทำต่อ นิยายเรื่องนี้ ตอนแรก ก็คงต้องจบไว้เพียงแค่นี้ก่อน คงต้องมาต่อตอนที่สองในวันถัดๆไป ซึ่งไม่รู้วันไหน ใครตามอ่าน ก็คงจะรู้วันนั้นล่ะว่า ตอนที่สองจะมาวันไหน จะมาบังคับผมไม่ได้นะ ถ้าอยากจะให้เรื่องเป็นแบบไหน ก็บอกมา

     

    ผมกับเจ้าวิน พระเอก  และคนแต่งนิยายเรื่องนี้อย่างผม จะพยายามทำตามที่บอกมา ให้ได้มากที่สุด งั้นวันนี้ก็คงจบเพียงแค่นี้ แล้วค่อยมาลุ้นกันต่อว่า ผมกับเจ้าวิน จะทำอย่างไร หากต้องไปเมืองไทย โอ้ยเมืองไทย ที่ไหนกันนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×