ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซราเซีย ภาค หีบพันธะสัญญา

    ลำดับตอนที่ #6 : การทดสอบ ขั้นที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.พ. 51


    รีบๆเดินเร็วๆเถอะอาเบล ข้าไม่ชอบเสียงดังเอะอะแถวนี้ เซรามพูดด้วยเสียงเบาๆแทบจะเป็นกระซิบ อาเบล พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปในตัวอาคารอย่างรวดเร็ว

     

    ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ เป็นที่รวมของผู้สมัครทั้งหลายที่แออัดยัดเยียดกันอยู่ภายในตัวอาคารเพื่อหนีจากความ

     

    วุ่นวายภายนอก เก้าอี้ไม้หยาบๆถูกจัดเรียงไว้เป็นแถวอย่างมีระเบียบ หากแต่ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้สมัคร

    ทำให้เซราม และใครอีกหลายๆคน ต้องยืนพิงกับกำแพงอิฐเย็นๆอย่างไม้สู้เต็มใจนัก

     

    ชายแก่ร่างท้วมนั่งหาวหวอดอยู่ที่หน้าโต๊ะไม้หนาดใหญ่สายตาจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาลูกตุ้มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็น

     

    ระยะๆ สักพัก ก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากช่องประตูด้านหลังซึ่งดูจากท่าทางและการแต่งกายด้วยชุดนักบวชสี

     

    ขาวแล้ว สามารถเดาได้ไม่ยากว่าเป็นนักเรียนที่นี่ ในมือถือกระดาษสีขาวปึกใหญ่ ชายคนนั้นค้อมตัวลงไปกระซิบ

     

    ข้างๆชายแก่ร่างท้วมและสนทนาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินลับไปในทางเดิม พร้อมกับกระดาษปึกใหญ่ที่ตอนนี้อยู่ในมือของชายแก่ร่างท่วมเสียแล้ว เขากระแอมไอ 2-3 ทีก่อนจะเริ่มต้นพูด

     

    เอาละตอนนี้ลายละเอียดของการรับสมัครก็อยู่ในมือของชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่เธอต้องทำคือต้องผ่านการทดสอบครั้งนี้ซะก่อน...และกติกาก็คือ. เราจะมีการแบ่งเป็นทีม ทีมละ 5 คนโดยแต่ละทีมจะได้รับธงทีมละ 1 อัน กรุณาจับกลุ่มกันให้ได้ห้าคน แล้วเดินมารับธงที่นี่สิ้นเสียงก็ดูเหมือนเกิดเหตุการณ์โกลาหลภายในห้องประชุมทันที เสียงเอะอะโวยวายทำเอาเซรามปวดหู คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด

     

    นี่ พวกเจ้าหน่ะเสียงแหลมเล็กดังขึ้นจากทางด้านหลังเรียกให้เซรามและอาเบลหันไปมอง เด็กสาวผมสั้นสีทองรูปร่างเล็กกำลังยืนโบกมือเรียกพวกเขาให้เข้าไปหา

     

    พวกเจ้านั่นแหละย้ำอีกทีให้แน่ใจ ชายหนุ่มทั้งสองจึงได้เดินสาวเท้าเข้าไปใกล้

     

    พวกเจ้ามีกลุ่มหรือยัง กลุ่มข้าขาดสองคนพอดี

     

    ยัง ข้าอยู่กลุ่มเจ้าก็ได้ หรือท่านจะว่ายังไงท่านเซรามหันไปถามความคิดเห็นของคนข้างๆ เซรามพยักหน้าเป็นเชิงตกลง ก่อนทั้งกลุ่มจะพากันเดินไปทางชายแก่ที่ประกาศเงื่อนไขคนนั้น

     

                    อาเบลปรายตามองไปยังสมาชิกในกลุ่มอย่างประเมินความสามารถ คนแรกก็คือเด็กสาวตัวเล็กที่ทักพวกเขา เธอคนนี้ดูท่าทางปราดเปรียวว่องไว ผิดกับชายหนุ่มตัวล่ำบึกข้างๆที่ดูหนักไปทางพละกำลังมากกว่า ส่วนคนสุดท้ายเป็นหญิงสาวท่าทางอ้อนแอ้นในชุดนักบวช จากสายตาของเขา หากมองผ่านๆเธอก็น่าจะเป็นคนไม่มีพิษสงอะไร ถ้าไม่ติดที่แผลเป็นประปรายบนร่างกายในส่วนที่เผยออกมาจากใต้ผ้านั่น .....รวมๆแล้ว ดูเธอจะมีฝีมือไม่น้อยทีเดียวหล่ะ....

     

    นี่ธงของพวกเจ้า เดินทะลุกำแพงนั่นไป.....ข้าบอกได้เท่านี้แหละชายชรายิ้มเล็กๆเป็นการให้กำลังใจ

     

    ไปเถอะ

     

                    เมื่อผ่านกำแพงนั้นเข้าไป ประตูสามประตูก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคนท่ามกลางความมืด เหมือนกับกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ

     

    อาเบล....เจ้าว่าประตูไหนเสียงเรียกของเซรามเรียกให้ชายหนุ่มที่กำลังพิศดูประตูทั้งสามหันไปดู

     

    ท่านไปประตูไหน ข้าก็ไปประตูนั้นแหละพูดแล้วยิ้มจางๆ เซรามเกาหัวเล็กก่อนจะมองไปยังประตูอีกครั้ง

     

                    ประตูแรกมีพื้นหลังสีขาวสะอาดตา ถูกวาดลวดลายเป็นสวนดอกไม้ในเทพนิยาย สวยงาม....ดูราวกับเป็นสวนอีเดนในสรวงสวรรค์ รอบๆประตูถูกพันด้วยดอกไม้หลากสีที่กำลังเบ่งบาน เห็นแล้วรู้สึกดี สบายตา

     

                    ประตูที่สองเป็นประตูสีเทาเรียบๆ ไม่มีแม้แต่ภาพหรือลวยลายใดๆมาตกแต่ง...เซรามมองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเบนสายตาไปยังประตูสุดท้าย เหยียดยิ้มออกมุมปากถูกยกขึ้นอย่างพอใจในสิ่งที่เห็นตรงหน้า

     

                    ประตูที่สามเป็นประตูสีดำ เพียงแค่เห็นก็ให้ความรู้สีกน่ากลัวเสียแล้ว อีกทั้งลวยลายสีแดงสดบนนั้นเรียกให้น่าขนลุกอยู่ทีเดียว ภาพของเทพเจ้าแห่งความตายกำลังลงโทษวิญญาณ กลับเรียกรอยยิ้มให้กับใครหลายๆคนได้ .....ประตูนี้สิ น่าสนใจ.....

     

    พวกเจ้าสองคนจะไปประตูไหนเด็กสาวผมสั้นถามขึ้น สายตาก็จับจ้องไปที่ประตูบานเดียวกัน

     

    ข้าจะไปประตูนี้ชี้ไปที่ประตูบานสุดท้ายแล้วแสยะยิ้ม เพื่อนร่วมทีมหันไปถามอีกสองคนก่อนจะได้คำตอบเดียวกัน

     

    งั้นไปประตูนี้แล้วกัน ดูท่าจะมีเรื่องสนุกๆรออยู่เยอะเลย จริงไหมเอลเดอร์หญิงสาวในชุดนักบวชกระตุกชายเสื้อชายร่างใหญ่ ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆแล้วเปิดประตูนั่นออก

     

    -

     

     

    -

     

     

    -

     

     

     

    -

     

     

    ที่ข้าเข้ามาเนี่ย ข้าไม่ได้หวังให้มีกระต่ายน่ารำคาญพวกนี้มาไล่ตามเอาธงหรอกนะ!” เซรามพูดก่อนจะหันไปปัดเจ้ากระต่ายสีขาวขนฟูที่กระโดดไล่ล่า? เอาธงจากพวกเขาตั้งแต่หน้าประตู โดยการกระโดดโหยงเหยงไปรอบๆพร้อมกับตะโกน ไม่สิ แหกปากถึงจะถูกว่า เอาธงมานะๆๆๆ เสียงแหลมๆเล็กๆน่ารำคาญนั้นทำให้เขาประสาทจะกิน

     

    ข้าก็ว่างั้น....ข้าคิดว่านี่คงเป็นบททดสอบที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอ...หรือว่าเรากำลังสมัครเข้าโรงเรียนอนุบาลหมีน้อยกันฟ่ะ เด็กสาวผมสั้นสบถอย่างหัวเสีย ท่าทางเธออยากจะเอาธงฟาดหน้าเจ้ากระต่ายพวกนั้นเสียแทบไม่ไหว

     

     

    นั่นสินะอุตส่าห์คิดว่าจะได้ยืดเส้นยืดสายกับพวกโทรล หรือ พวกอสูรกายโหดๆเสียหน่อย ว้าแย่จัง  เนอะเอลเดอร์ หญิงสาวในชุดนักบวชพูดพร้อมกับรอยยิ้ม(สยอง)บนใบหน้า ซึ่งไม่เข้ากับเข้าพูดคิขุอาโนเนะเมื่อครู่เสียเลย

     

     

    ในขณะเดียวกันขอตัดไปทางประตูอีกสองบานเสียหน่อย   เหล่าผู้โชคดี(?)หรืออีกนัยนึงเหล่าผู้(โครต)โชคร้ายที่เลือกประตูบานแรกนั้น พวกเขาคงคิดภาพฝันว่าจะเจอเทพธิดามาต้อนรับกระมัง แต่ทันทีที่ย่างก้าวสู่บานประตู กลิ่นที่โชยมาปะทะกับจมูกนั้นหอมหวนชวนอ้วกแตกเสียเหลือเกิน...หรืออีกนัยหนึ่งเหม็นเน่าราวซากศพ ที่เบื้องหน้ามีเจ้ายักษ์โทรลตัวเขียวยืนแสยะยิ้มต้อนรับ(?) สร้างความหวาดหวั่นแก่ผู้เคราะห์ร้ายตรงหน้า หากแต่เขาคิดกลับหลังก็ไม่ได้เสียแล้ว ทางเข้าที่พวกเขาเพิ่งผ่านเข้ามานั้นถูกปิดตายเสียแล้ว เจ้ายักษ์โทรลคำรามดังกึกก้องพร้อมกับเริ่มเดินตรงมาทางพวกเขาเสียแล้ว...............แล้วจะรอดไปได้มั้ยเนี่ย.....เสียงดังก้องในใจของหลายๆคน

    หากแต่มีเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากชายหนุ่มผมสีเพลิง รอยยิ้มบางๆผุดที่ใบหน้า แบบนี้ก็สวยสิเขาคิดในใจก่อนจะพาดดาบเล่มโต ไว้ที่หลังก่อนจะ เร่งฝีเท้าไปเบื้องหน้าอย่างไม่เกรงกลัว พร้อมกับเสียงหัวเราะ คิกๆ ที่ดังไปทั่ว

     

    ส่วนในประตูบานที่สองนั้น ภายนอกดูราบเรียบนั้นเมื่อประตูนั่นถูกผลักออกเผยเส้นทางด้านหน้าอย่างเด่นชัดประตูทางออกดูไม่ห่างจากที่ตรงนี้สักเท่าไหร่ พอมองเห็นแสงรำไรที่ปลายทาง หนทางเบื้องหน้าดูราบเรียบ ไม่มีอะไรที่จะต้องสงสัย หากแต่เมื่อพวกเขาย่างเท้าลงไป และเริ่มเดินประตูทางออกมันจะไกลๆขึ้นๆไปเรื่อยๆราวกับไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเวลาผ่านไปหลายคนเริ่มท้อแท้ พร้อมกับนั่งลงอย่าสิ้นหวัง หากแต่มีเสียงบ่นพึมพำบางอย่าง มันก็แค่ภาพลวงตา....ธรรมดาๆ ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มเล็กๆก่อนจะหลับตาลง ผมสีรัตติกาลที่ยาวประบ่าถูกรวบไว้อย่างลวกๆปอยผมบางส่วนตกลงมาปรกอยู่ที่ใบหน้า มือสีขาวซีดกำธงแน่นก่อนจะรวบรวมสมาธิและลืมตาขึ้นช้าๆ ทางออกปรากฏอยู่ตรงหน้า เขาหันหลังกลับไปยังเบื้องหลังเหลือบมองพวกที่เหลือที่เดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิม มันช่างน่าสมเพชเสียจริงเขาคิดในใจ

     

     

     

    > 

    > 

    > 

    > 

    มาต่อแล้วง๊าบหลังจากดองข้ามปีนิยายเรื่องนี้ที่แทบจะจำเนื้อเรื่องตอนต้นไม่ได้ถูกขุดขึ้นมาเขียนใหม่ ซึ่งมีแรงบรรดาลใจมาจากความฝัน เหมือนกับอยู่ดีๆเหมือนเห็นเซรามเดินมาถามว่า เมื่อไหร่จะเขียนต่อฟร่ะข้ารอจนจะแก่ตายอยู่มะรอมมะล่อแล้ว เหอๆ เรื่องนี้ก็ได้รับการร่วมด้วยช่วยกันของโจรน้อย เหอๆ

    ช่วงแรกๆของนิยายอาจจะน่าเบื่อไปบ้างแต่ยังไงก็ขอให้ติดตามต่อไปด้วย ขอความกรุณาด้วยขอรับ  m(_ _)m

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×