คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : แต่งงานกับซาตานร้าย 50%
ตอนที่ 3
แต่งงานกับซาตานร้าย(บอบช้ำทั้งกายและใจ)
สองเดือนต่อมางานแต่งของปรเมศวร์กับฝ้ายลดาก็ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เพราะนั่นเป็นความต้องการของผู้เป็นเจ้าบ่าวที่ต้องการแต่งงานให้เงียบที่สุดและนั่นเป็นข้อเสนอที่คุณรัศมีต้องยอมรับถ้าต้องการให้เกิดงานนี้
หลังจากรับข้อเสนอของลูกชายมา คุณรัศมีก็อดสงสารฝ้ายลดาไม่ได้ ชีวิตการแต่งงานของลูกผู้หญิงเราใครบ้างไม่อยากจะจัดงานแต่งของตัวเองให้ใหญ่โต ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารหญิงสาวจับใจได้แต่ถอนหายใจยาวนางทราบดีว่าฝ้ายลดาคงไม่อะไรกับเรื่องนี้และก็ไม่ผิดจากที่นางคิดสักนิด
“หนูฝ้ายรับได้ใช่ไหม ไม่โกรธป้าใช่ไหมลูก?”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า ไม่ต้องวิตกไปนะคะ ดีเสียอีกค่ะเสียอีกค่ะเพราะฝ้ายเองก็ไม่ต้องการจะจัดงานแต่งที่มันใหญ่โตมากมายอะไร”
“ขอบใจหนูมากนะหนูฝ้าย”
แต่ไม่เพียงเท่านั้นที่นางอดสงสารว่าที่เจ้าสาวไม่ได้ เพราะลูกชายตัวดีของนางไม่ยอมไปลองชุดกับเธอ แม้ว่าผู้เป็นมารดาจะกำชับนัดแนะเอาไว้เสียดิบดีแล้วก็ตาม
“นี่! ตาเมศวร์ไม่ยอมไปลองชุดกับลูกหรือหนูฝ้าย? ป้าจะไปต่อว่าเสียหน่อยแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้า เรื่องแค่นี้เองพี่เค้าคงติดธุระน่ะค่ะ ฝ้ายไปคนเดียวได้ค่ะ”
“อดทนหน่อยนะลูก”
“ค่ะ ฝ้ายจะอดทนค่ะคุณป้า
เจ้าบ่าวรูปหล่อกับเจ้าสาวคนสวยที่อยู่ในชุดแต่งงานยืนเคียงข้างกันดูแล้วหล่อสวยสมกันมาก คุณรัศมีเห็นภาพนั้นพาลน้ำตาจะไหลด้วยความดีอกดีใจ ในที่สุดสิ่งที่นางหวังไว้ก็เป็นจริงเสียที ต่อไปก็คงจะต้องเป็นหน้าที่ของฝ้ายลดาที่จะทำให้ชายหนุ่มเห็นความดีของเธอและรักเธอได้ นางได้แต่คาดหวังว่าฝ้ายลดาคงจะทำได้อย่างแน่นอน
งานแต่งงานของทั้งคู่นั้นจะมีการทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระ จดทะเบียนสมรส โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักเขตเพื่อมาทำหน้าที่และเป็นสักขีพยานเท่านั้นและหลังจากนั้นก็จะเป็นพิธีเข้าห้องหอเพื่อรับพรจากญาติผู้ใหญ่
เรือนหอของปรเมศวร์และฝ้ายลดาเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่คุณรัศมีซื้อให้เพื่อมอบให้เป็นของขวัญให้กับทั้งคู่ในวันแต่งงาน ซึ่งก็อยู่คนละที่กับบ้านของนางแต่ก็ไม่ถึงกับไกลกันมากนักเพราะนางต้องการให้สะดวกในการไปมาหาสู่กันแถมยังให้แม่เนียมแม่บ้านที่รู้ใจมาคอยปรนนิบัติรับใช้ลูกชายกับลูกสะใภ้อีกด้วย
แล้วก็ถึงเวลาเข้าห้องหอญาติของฝ่ายชายทุกคนต่างก็มารวมตัวกันที่ห้องหอของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเพื่อให้พรแก่คนทั้งคู่ เจ้าสาวคนสวยแอบลอบชำเลืองมองหน้าเจ้าบ่าวข้างกายที่ตอนนี้หน้าตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆจนคนแอบมองรู้สึกเหน็บหนาวไปทั้งกายใจ แม้จะปวดแปลบเท่าใดก็ได้แต่ข่มและเก็บมันไว้สุดฤทธิ์ให้ลึกสุดใจแต่ได้กำลังใจจากแม่ของเจ้าบ่าวที่คอยจะส่งยิ้มมาให้กำลังใจเธอ
“ขอให้รักกันยืนยาวนะลูก” คุณรัศมีกล่าวอวยพรให้กับคู่บ่าวสาวที่ตอนนี้นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้า
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” ฝ้ายลดายิ้มแย้มขอบคุณนางก่อนเธอกราบลงเบื้องหน้าผู้สูงวัยพร้อมกับเจ้าบ่าวข้างกายที่วันนี้ทั้งวันกลายร่างเป็นหุ่นยนต์
“ยังจะเรียกป้าอีกเหรอลูก?” คุณรัศมีเอ็ดฝ้ายลดาที่มาถึงตรงนี้แล้วเธอยังคงเรียกนางว่าป้า แม้คนแก่จะทำเสียงดุแต่หน้าเปื้อนยิ้ม
“เอ่อ! ค่ะคุณแม่” คนถูกเอ็ดออกอาการเก้อเขิน
“มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจา ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันนะลูก” เสียงของคุณพิทักษ์กล่าวอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
“ขอให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเลยนะจ๊ะฝ้าย” ปณิตากล่าวอวยพรให้กับทั้งคู่
“ขอบคุณพี่แนนมากค่ะ”
“ยินดีด้วยนะครับน้องฝ้าย คุณเมศวร์” ทศพลกล่าวอวยพรทั้งคู่บ้าง
“ขอบคุณนะคะพี่ทศ” แต่ดูเหมือนจะมีแค่เธอคนเดียวที่ตอบรับกับคำอวยพรเหล่านั้น
“ขอให้มีเจ้าตัวเล็กไวๆนะคะพี่ฝ้าย” ติยดาหลานสาวคนสวยของปรเมศวร์ยิ้มสดใสให้กับเธอก่อนจะอวยพรให้เช่นกัน
“ขอบใจจ๊ะน้องติ๊” เธอยิ้มรับและกล่าวขอบคุณหลานสาวที่เธอนึกรักและเอ็นดู
“ยิ้มหน่อยสิคะ น้าเมศวร์” กล่าวอวยพรพี่สาวคนสวยเสร็จก็หันมาหาน้าเมศวร์ที่หน้าตึงไม่รับรู้ถึงคำอวยพรของใครเลย หลานสาวจึงอยากแหย่ให้น้าชายได้ยิ้มแย้มบ้าง
“วุ่นวายน่ายัยติ๊”
คำพูดที่ตอบกลับมาของปรเมศวร์ทำให้ใบหน้าทะเล้นเมื่อครู่นี้เปลี่ยนเป็นจ๋อยทันทีก่อนจะทำปากจู๋บ่งบอกว่างอนนิดๆแต่ปรเมศวร์ไม่มีอารมณ์มาใส่ใจอะไรในตอนนี้
เมื่อให้พรเจ้าบ่าวเจ้าสาวเสร็จแล้วทุกคนก็ต่างทยอยกันออกไปแล้วเพื่อให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง บรรยากาศรอบกายของฝ้ายลดาก็ตกอยู่ในความเงียบนานเสียจนหญิงสาวเริ่มอึดอัด
“พี่เมศวร์คะ” แม้จะรู้สึกตื่นกลัวเธอก็พยายามรวบรวมความกล้าเรียกชื่อเขา
“ฉันไม่เคยมีน้องสาว ฉันไม่ใช่พี่ชายเธอ” เสียงที่ตอบกลับมาแข็งกร้าวอย่างเห็นได้ชัดจนคนฟังเริ่มหวั่นกลัวแต่ก็พยายามข่มมันไว้เต็มที่ท่องไว้กับตัวเองว่าเธอต้องอดทนนี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น
“เอ่อ! ค่ะคุณเมศวร์จะอาบน้ำก่อนไหมคะ เดี๋ยวฝ้ายจะไปรองน้ำอุ่นให้อาบนะคะ” เธอพยายามทำใจดีสู้เสือ เมื่อชายหนุ่มไม่ต้องการให้เธอเรียกพี่หญิงสาวจึงเปลี่ยนสรรพนามเสียใหม่
“ไม่จำเป็นเพราะคืนนี้และทุกๆคืนฉันจะไปนอนที่ห้องข้างๆ” แต่เสียงที่ตอบกลับมาดูไร้เยื่อใยสิ้นดีพร้อมๆกับร่างใหญ่ที่ลุกขึ้นเพื่อเตรียมจะเดินออกไป
“เอ่อ! แต่ว่า……ค่ะ” หญิงสาวกำลังเอ่ยปากทักท้วง แต่เมื่อเห็นสายตาของปรเมศวร์ที่มองกลับมาก็ได้แต่มองสบตาอย่างหวาดๆและก้มหน้ายอมรับในสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการ
แล้วร่างสูงก็เดินออกไปอย่างไม่สนใจใยดีกับหญิงสาวตรงหน้าที่ตอนนี้ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มเดินผ่านเธอออกไปจากห้อง หญิงสาวหันกลับไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้เดินผ่านพ้นประตูได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างอย่างเศร้าสร้อย
ค่ำคืนในแต่ละคืนของฝ้ายลดาผ่านไปอย่างเดียวดาย ชีวิตการแต่งงานที่เต็มไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวแต่เธอบอกกับตัวเองเสมอว่าเธอทนได้แค่ได้เห็นหน้าในบางครั้งแค่ได้อยู่ใกล้กันในบางครามันก็ถือเป็นความสุขมากสำหรับเธอแล้ว
คืนนี้คงเป็นเหมือนกับทุกคืนที่เดียวดายเช่นกัน ในทุกวันปรเมศวร์จะออกไปทำงานแต่เช้าและกลับเข้ามาอีกครั้งในตอนดึกฝ้ายลดายังคงนั่งรอชายหนุ่มกลับมาจากทำงานเหมือนทุกวัน คืนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องได้ยินพบเจอกับคำพูดที่มันทิ่มแทงใจของเธออย่างไรบ้าง
“ถ้าฉันหาคนรักของฉันพบ ฉันต้องการหย่า เธอจะต้องหย่ากับฉันนะฝ้ายลดา”
“ถ้าฉันเจอคนรักเมื่อไหร่หวังว่าเธอคงจะหย่าให้ฉันนะ”
“ที่ฉันแต่งงานกับเธอเพราะอะไรเธอคงรู้ดี แต่มันคงไม่สามารถฉุดรั้งฉันไว้ได้ตลอดไปหรอกนะ แม้แต่ใบทะเบียนสมรส และเมื่อถึงวันที่คนรักของฉันกลับมาเมื่อไหร่หวังว่าเธอคงจะยอมเซ็นมันแต่โดยดีนะฝ้ายลดา”
ไม่มีสักครั้งที่ชายหนุ่มจะพูดดีกับเธอ คงมีแต่ถ้อยคำที่เสียดแทงหัวใจดวงน้อยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแต่คนรับฟังไม่ตอบโต้อะไร แค่รอวันหวังว่าสักวันเท่านั้นที่เขาจะเห็นใจและหันกลับมาคุยดีกับเธอบ้างสักวันฝ้ายลดาได้แต่แอบคิดเข้าข้างตัวเอง แล้วความคิดของเธอก็ต้องสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
โครม!!!!
ความคิดเห็น