ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แรกเสน่หาซาตานร้าย

    ลำดับตอนที่ #6 : ทำตามหัวใจให้ได้ครอบครอง 100%

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58


         

    ทำตามหัวใจให้ได้ครอบครอง (ต่อจ้า)

                 
                     “อรครับ แม่ผมต้องการให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเลือก”
    เมื่อบทรักของทั้งคู่จบลง ปรเมศวร์ก็เล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ตนหงุดหงิดและเป็นกังวลให้คนรักฟัง แล้วมันก็ทำให้หล่อนตกใจจนแทบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ

                    “อะ..อะไรนะคะ เมื่อกี้นี้เมศวร์ว่าอะไรนะคะ?”  

                    “คุณแม่ผมต้องการให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนท่าน”

                    “ได้ยังไงกันล่ะคะ แล้วอรล่ะคุณจะเอาอรไปไว้ไหน?” พัศอรพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ นึกขัดใจมารดาของชายหนุ่มที่ลุกขึ้นมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องแต่งงานของเขา

                    “ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะอร ผมไม่มีทางยอมแต่งเด็ดขาด” ปรเมศวร์เอ่ยคำพูดที่ทำให้คนรักสบายใจ

                    “เมศวร์พูดจริงนะคะ?” หล่อนจึงถามย้ำอย่างดีอกดีใจ พลางนึกในใจอย่างสมใจและเป็นต่อ ‘ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังคงเป็นที่หนึ่งเสมอและเขาก็จะเลือกหล่อนไม่ใช่มารดาอย่างของเขาแน่นอน’

                    “ จริงสิครับ” ชายหนุ่มย้ำอย่างมั่นใจพลางยิ้มบาง

                    “รักเมศวร์ที่สุดเลยค่ะ” แล้วร่างอวบอิ่มของพัศอรกระโดดเข้าสวมกอดร่างแกร่งของปรเมศวร์ด้วยความพอใจ เพื่อประจบประแจงเอาใจ

                    ปรเมศวร์สวมกอดคนรักตอบชายหนุ่มอยากให้คนรักได้มั่นใจเพราะไม่ว่าอย่างไรคนอย่างเขาไม่มีวันยอมให้มารดามาบงการชีวิตอย่างแน่นอน

                     พัศอรลอบยิ้มอย่างสมใจหล่อนแน่ใจว่าอย่างไรเสีย ปรเมศวร์ไม่มีวันที่จะทิ้งหล่อนและยอมแต่งงานกับผู้หญิงอื่นโดยเด็ดขาด หล่อนไม่มีวันให้ขุมทรัพย์ของหล่อนขุมนี้หลุดลอยไปอย่างแน่นอนหลังจากหล่อนนั้นก็ปรนเปรอชายหนุ่มด้วยบทรักที่จะทำให้เขาไม่มีวันลืมและหลงใหลหล่อนตลอดไป

     

                    ณ ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางกรุง สถานที่ที่ผู้ดีไฮโซ ดารานางแบบชอบมาเดินกัน เพราะจะได้หลบหลีกผู้คนที่พลุกพล่านเพราะห้างนี้หากใครที่ไม่มีเงินทองล้นมือคงไม่เดินเข้ามาเฉียดใกล้เพราะของแต่ละชิ้นแบรนด์เนมส่งตรงมาจากต่างประเทศ ราคาที่คนธรรมดาๆไม่มีทางได้มาเป็นเจ้าของ

                    ไม่นานนักก็ปรากฏร่างอวบอิ่มของพัศอรที่กำลังเดินเฉิดฉายวางมาดเป็นผู้ดีไฮโซเข้าไปยังร้านกระเป๋าแบรนเนมที่หล่อนเข้าออกและเป็นลูกค้าประจำของที่นี่

                    “อุ๊ย! คุณอรขาสวัสดีค่ะ เชิญข้างในก่อนค่ะ” เจ้าของร้านที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจีบปากจีบคอกล่าวทักและเชิญชวนหล่อนเข้าร้าน

                    “สวัสดีค่ะ พี่จิ๊บกระเป๋าใบที่อรมาดูคราวนั้นยังอยู่ใช่ไหมคะ?” พัศอรถามด้วยน้ำเสียงข่มพลางวางมาดผู้ดี

                    “ยังอยู่สิคะ พี่จะกล้าขายไปได้ยังไงในเมื่อน้องอรสั่งไว้แล้วนี่พี่เก็บไว้ให้น้องอรโดยเฉพาะเลยนะคะ” เจ้าของร้านพูดจาเอาอกเอาใจลูกค้าวีไอพี

                    “ดีค่ะ อย่างนี้สิคะถึงจะได้เป็นลูกค้ากันไปนานๆ”

                    “นี่! คร่า ใบนี้ใช่ไหมคะ?” พูดพลางรีบไปหยิบกระเป๋าใบนั้นส่งให้หล่อนตรวจดู

                    พัศอรพิศกระเป๋าใบนั้นกลับไปกลับมาด้วยความพอใจ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นกระเป๋าใบเดิมที่หล่อนอยากได้ไม่มีผิดเพี้ยนก็ควักกระเป๋าจ่ายเจ้าของร้านแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เมื่อได้กระเป๋าสมใจแล้วจึงพาร่างอวบอิ่มของตนเดินนวยนาดออกมาจากร้านท่ามกลางเสียงขอบคุณและเชิญใช้บริการครั้งต่อไปจากเจ้าของร้านหล่อนหันไปยิ้มให้เจ้าของร้านอย่างวางท่า แต่เมื่อหล่อนกำลังเดินออกเกือบจะพ้นร้านพลันเสียงโทรศัพท์มือถือราคาแพงของหล่อนก็ดังขึ้น

                    “ใครโทรมาเนี่ย เบอร์ไม่คุ้น” หล่อนบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดเมื่อมีสายเข้ามาและเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเลยสักนิด

                    “ฮัลโหล ฉันพัศอรพูด”

                    “คุณ!!?” แล้วก็ต้องตกใจตาเบิกโพลงเมื่อเสียงที่ตามสายมานั้นเป็นคนที่หล่อนไม่คาดคิด

                    “ได้ค่ะ ที่ไหน?” มือเรียวกดวางสายก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นอย่างครุ่นคิดว่าคนปลายสายต้องการสิ่งใด ก่อนจะบึ่งตรงไปยังที่นัดหมายกับคนปลายสายในทันที

     

                    ปรเมศวร์กลับไปที่คอนโดหรูซึ่งเป็นรังรักของเขาและพัศอรหลายวันมานี้ชายหนุ่มไม่ค่อยได้เข้ามาหาหล่อนนักเพราะกำลังยุ่งๆกับงานที่บริษัท เสาร์-อาทิตย์ก็ต้องเคลียร์งานจนไม่มีเวลา ชายหนุ่มเสียบคีย์การ์ดและเปิดประตูเข้าไปก็ให้รู้สึกแปลกใจกับความเงียบเชียบ หรือว่าคนรักของเขาจะออกไปข้างนอก คิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อนึกสงสัยซึ่งปกติเวลานี้หล่อนจะไม่ออกไปไหน เพราะมันเป็นเวลาที่ชายหนุ่มจะต้องมาหาหล่อน

                    ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องอย่างสำรวจตรวจตรามันเงียบผิดปกติจนเกิดความรู้สึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหล่อน ถึงแม้ว่าคอนโดที่นี่จะมีระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมก็ตาม แต่อีกใจหนึ่งก็พยายามปลุกปลอบตนเองว่าคนรักอาจจะมีธุระไปที่ไหนก็เป็นได้

                    ร่างสูงของปรเมศวร์เดินเข้าไปในห้องนอนของเขาและคนรัก แล้วสายตาคู่คมก็เหลือบไปมองเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนหัวโต๊ะข้างที่นอนชายหนุ่มหยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยมือสั่นเทาใจหายวาบ

                    เมศวร์คะ

                หากว่าคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้อรคงไม่อยู่แล้ว อรมาคิดๆดูแล้วค่ะ ว่าเราสองคนคงจะไม่มีทางที่จะลงเอยกันได้  อรเองก็ไม่อยากฝืนอีกต่อไปแล้วค่ะเมศวร์ อรรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน แม่ของคุณไม่เคยเปิดใจยอมรับอรเลย  ท่านไม่เคยให้โอกาสอรเลยมันทำให้อรเสียใจมากและต่อให้อรพยายามทำดีเท่าไหร่ก็คงไม่มีทางทำให้ท่านยอมรับในตัวของอรได้

                อรผิดเองค่ะ ผิดที่เกิดมาจน ท่านคงรับอรข้อนี้ไม่ได้ ดังนั้นอรจึงต้องขอไปตามทางของอร เมศวร์คะไม่ต้องตามหาอรนะคะ ขอให้อรได้ทำอะไรเพื่อเมศวร์บ้างนะคะ

                                                                                                                    รักเมศวร์ที่สุด

                                                                                                    พัศอร

                    “อรทำไมคุณต้องทำอย่างนี้” เสียงพึมพำถามคนรักอย่างเจ็บปวดเสียใจ กระดาษใบเดิมแทบจะร่วงหลุดจากมือแกร่งเมื่ออ่านจบ

                     ปรเมศวร์มือชาไปหมด ความรู้สึกของชายหนุ่มในตอนนี้แทบไม่อยากจะทำอะไรแล้วรู้สึกสงสารคนรักเป็นอย่างมากที่ต้องเป็นฝ่ายเสียสละที่เธอจากไปเป็นเพราะต้องการเปิดทางเพื่อให้ชายหนุ่มได้แต่งงานอย่างแน่นอนยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารคนรักจับใจ                         

                    ชายหนุ่มกลับเข้ามาบ้านด้วยความเสียใจร่างสูงเดินอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงก่อนจะหย่อนกายลงบนโซฟาตัวยาวอย่างหมดหมดอาลัยตายอยากนึกถึงการจากไปของคนรัก เขาบอกกับตัวเองว่าไม่ว่าจะอย่างไรเขาจะต้องออกตามหาคนรักของตนให้พบและจะไม่ยอมให้หล่อนจากไปอีกเป็นอันขาด จะปกป้องคนรักของเขาไม่ให้ต้องรู้สึกว่าตนต่ำต้อยที่เกิดมาจนทำให้คิดมากจนจากไป

     

                    อีกสองสัปดาห์ต่อมาคุณรัศมีก็ได้เข้ามาคุยเรื่องการแต่งงานกับปรเมศวร์อีกครั้ง ครานี้นางตั้งใจไว้แล้วว่าไม่ว่าจะยังไงนางต้องพูดให้ชายหนุ่มยอมรับในการตัดสินใจของนางในครั้งนี้ให้ได้ เพราะในเมื่อสิ่งที่เป็นปัญหาในเรื่องนี้ได้หมดไปแล้ว

                    ก๊อก!! ก๊อก!!

                    เสียงเคาะประตูห้องของปรเมศวร์ดังขึ้นด้วยฝีมือของผู้เป็นมารดา วันนี้เป็นวันหยุดของชายหนุ่มแต่ตั้งแต่เช้าแล้วปรเมศวร์ก็ยังคงขลุกอยู่แต่ในห้องของตนไม่ยอมลงมากินข้าวกินปลาจนมารดาต้องขึ้นมาถึงยังหน้าห้องนอนของลูกชาย

                    “ตาเมศวร์ตื่นหรือยัง? เปิดประตูให้แม่หน่อยสิลูก” เสียงคุณรัศมีเยถามพลางเคาะประตูเรียก

                    “คุณแม่มีอะไรหรือครับ?”

                     ปรเมศวร์เดินออกมาเปิดประตูให้กับมารดาด้วยใบหน้าเศร้าซึมทั้งอิดโรยเพราะเสียใจกับการจากไปของคนรัก แม้จะถามมารดาออกไปแต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าผู้เป็นมารดามาด้วยต้องการสิ่งใด

                    เมื่อผู้เป็นมารดามองเห็นใบหน้าอิดโรยของลูกชายความรู้สึกสงสารก็แวบขึ้นมาในความรู้สึกของนาง แต่อีกความรู้สึกหนึ่งคือนางจะถอดใจไม่ได้เพราะนางคิดว่าตนได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกชายแล้ว

                    “ลงไปทานข้าวก่อนสิลูก” น้ำเสียงแสดงความรู้สึกเป็นห่วง

                    “ไม่จำเป็นหรอกครับคุณแม่มีอะไรก็ว่ามาได้เลยครับ เพราะผมก็กำลังจะออกไปข้างนอก”

                    “แม่ต้องการจะคุยกับแกเรื่องแต่งงานกับหนูฝ้ายอีกครั้ง ตกลงแกจะว่ายังไง”  คุณรัศมีเข้าเรื่องและถามลูกชายในทันทีไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมอีกต่อไป

                    “ถ้าผมไม่แต่งล่ะครับ คุณแม่จะว่ายังไง” ชายหนุ่มกำลังลองเชิงมารดาว่านางจะเอ่ยอะไรกับเขาเพราะตอนนี้ตัวเขาเองก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว

                    “ตาเมศวร์ เลือกเอาว่าแกจะยอมแต่งงานหรือว่าจะยอมตัดขาดความเป็นแม่เป็นลูกกับฉัน”

                     เมื่อได้ยินคำพูดท้าทายของลูกชายคุณรัศมีก็ทิ้งไม้ตายให้กับลูกชายเช่นกัน นางคิดไว้แล้วเพราะไม่ว่ายังไงนางต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ปรเมศวร์ตกลงยอมแต่งงานกับฝ้ายลดา

                    “คุณแม่หมายความว่ายังไงกันครับ?” ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำตอบจากปากมารดาไม่คาดคิดว่านางจะกล้ายื่นคำขาดแบบนี้กับเขา

                    “ฉันรู้ว่าแกเข้าใจ ว่ายังไงตาเมศวร์ตกลงจะเอายังไง?”

                    “ก็ได้ครับ ผมจะแต่งกับเธอ แต่คุณแม่อย่าเข้าใจผิดนะครับว่าที่ผมแต่งเพราะกลัวคำขู่ของคุณแม่”

                    “จริงเหรอ ตาเมศวร์นี่ลูกพูดจริงนะ?”

                    “ครับ แต่ผมมีข้อแม้” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอขึ้นมาต่อรอง

                    “ ข้อแม้ ข้อแม้อะไร…..?” คุณรัศมีถามลูกชายออกไปให้หายเคลือบแคลงนางอยากรู้ว่าลูกชายมีข้อแม้อะไรแล้วปรเมศวร์ก็บอกข้อแม้ที่ว่านั้นออกไป

                    “ได้แม่ยอมขอแค่ให้ได้หนูฝ้ายมาเป็นลูกสะใภ้เท่านั้น”  

                    คุณรัศมีตอบตกลงทำตามข้อเสนอของลูกชายทันทีเพราะนางรักเพื่อนของนางมากจึงอยากได้ฝ้ายลดาที่นางรักและเอ็นดูมาเกี่ยวดองในฐานะลูกสะใภ้ อยากให้หลานที่เกิดมาเป็นเชื้อสายของนางและเพื่อนรักเท่านั้นส่วนเรื่องอื่นนางไม่สนใจและคิดว่าฝ้ายลดาเองก็คงยินยอม

                    “คุณแม่บังคับเธอด้วยเหรอครับ?”  ปรเมศวร์ถามมารดาขึ้นพลางนึกสงสารเธอเมื่อคิดว่านางคงจะใช้วิธีเดียวกันกับที่บังคับตนทำให้ฝ้ายลดาแต่งงานกับเขา

                    “หนูฝ้ายเค้ารักแก” คุณหญิงรัศมีเปิดเปลือยความรู้สึกของฝ้ายลดาให้ชายหนุ่มรับรู้

                    “คุณแม่ว่าไงนะครับ?!!” แต่คำบอกกล่าวที่ได้ยินมันทำให้ชายหนุ่มตกใจไม่น้อย

                    “หนูฝ้ายเขารักแกรักมานานแล้ว” เพราะคิดว่าหากบอกความจริงอาจจะทำให้ลูกชายนางเห็นใจฝ้ายลดาขึ้นมาบ้างนางจึงเปิดเผยความจริงให้ชายหนุ่มฟัง

                    “อ้อ! ก็เลยใช้คุณแม่มาบังคับผมใช่ไหมครับ? เลวมาก”  ประโยคสุดท้ายพูดพลางบดกรามด้วยความโกรธ เขาคิดว่าหากแต่งงานกับฝ้ายลดาไปเขาคงพูดคุยกับเธอให้เห็นใจเขาได้หากเมื่อเขาต้องการเลิกราหลังจากที่ชายหนุ่มตามหาพัศอรคนรักของเขาเจอและจะกลับไปหาหล่อน

                    แต่เมื่อรู้ว่าหญิงสาวรักตนเขากลับคิดไปว่าเป็นแผนของเธอและมารดาของเขาที่รวมหัวกัน มันทำให้ชายหนุ่มเริ่มไม่พอใจขึ้นมาแต่ที่ยังตอบตกลงแต่งงานเพื่อต้องการให้มารดาสบายใจไปก่อนในตอนนี้ให้นางคิดว่าเขาตัดใจและไม่คิดจะสืบเสาะตามหาพัศอร

                    “แกเข้าใจผิดแล้วตาเมศวร์หนูฝ้ายไม่เคยใช้แม่แต่เป็นความต้องการของแม่เอง” เมื่อเห็นว่าลูกชายกำลังเข้าใจฝ้ายลดาผิดนางจึงพยายามอธิบายแต่เหมือนกับว่าชายหนุ่มจะไม่สนใจฟัง

                    “ก็ได้ครับ ในเมื่อเธออยากแต่งงานกับผม ผมก็จะแต่งแต่ผมก็ขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า เธอจะไม่มีวันมีความสุขอย่างแน่นอน” ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากไปทิ้งแต่ความหนักใจให้ผู้อยู่เบื้องหลัง


    **********************************************************************************************************************************************



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×