ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แรกเสน่หาซาตานร้าย

    ลำดับตอนที่ #9 : ผู้ที่เข้ามาเยือน 50%

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58


    ตอนที่ 4

                    ผู้ที่เข้ามาเยือน

                    ปรเมศวร์กับฝ้ายลดามางานเลี้ยงเปิดธุรกิจใหม่ของลูกสาวเพื่อนนักธุรกิจของบิดาตามที่ท่านได้คุยเอาไว้ในตอนที่ชายหนุ่มไปรับประทานอาหารที่บ้านในวันนั้น

                    ในงานนี้ทั้งคู่เป็นจุดสนใจมากเนื่องจากสาวสวยกับหนุ่มหล่อ ปรเมศวร์ในชุดสูทเท่ห์สมาร์ท ส่วนฝ้ายลดานั้นไม่ว่าเธอจะหยิบจับชุดไหนมาสวมใส่ก็ดูสวยเด่นเสมอ ทุกสายตาต่างก็หันมามองจับจ้องว่าผู้ที่กำลังเดินเคียงข้างกันเข้ามาในงานนี้คือใครก่อนจะหันมาซุบซิบคุยกัน เพราะต่างก็รู้จักกับปรเมศวร์ดีเพราะเคยเห็นชายหนุ่มในหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจมาบ้างแล้วแต่ฝ่ายหญิงกลับเป็นปริศนาว่าเธอคือใครซึ่งก็ดูสวยสง่าเหมาะสมกันดี

                    เมื่อเห็นว่าทุกสายตาต่างก็มองไปยังชายหญิงที่กำลังเดินเข้ามาอยู่สาวสวยนางหนึ่งซึ่งกำลังพูดคุยกับชายวัยกลางคนอย่างมีจริตก็หันมองด้วยความสนอกสนใจ สายตาของนางเพ่งมองผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามาเคียงข้างผู้ชายอีกคนก่อนจะเดินเข้าไปเมื่อแน่ใจอะไรบางอย่าง    

                    “พี่ฝ้ายหรือเปล่าคะ?”

                    เสียงใสทักขึ้นทำให้ฝ้ายลดาหันไปมองตามเสียงนั้นทันทีเพราะนึกแปลกใจว่าเป็นใครที่รู้จักเธอ

                    “เชอร์รี่!!!

                    “อุ๊ย!ใช่จริงๆด้วย สวัสดีค่ะแหมไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าจะมาเจอพี่ฝ้ายที่นี่ สงสัยดวงเราจะสมพงศ์กันว่าไหมคะ?”

                     นีรญาหรือที่ฝ้ายลดาเรียกว่าเชอร์รี่เข้ามาทักเธอด้วยความตื่นเต้นเด็กสาวรู้จักกับฝ้ายลดาสมัยที่หญิงสาวยังอยู่ที่อังกฤษ หล่อนเป็นรุ่นน้องของฝ้ายลดาที่มหาวิทยาลัย

                    แท้จริงแล้วนีรญาไม่ชอบฝ้ายลดาเป็นอย่างมากเพราะสมัยที่อยู่เมืองนอก เพราะผู้ชายที่หล่อนหมายปองไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือเอเชียต่างก็ชื่นชอบและชื่นชมฝ้ายลดาเมื่อได้รู้จักกับเธอมันจึงเป็นข้อหาที่ทำให้นีรญารู้สึกหมั่นไส้อิจฉาริษยาเธอ

                    ฝ้ายลดารู้ดีว่านีรญารู้สึกอย่างไรกับเธอแต่เธอพยายามที่จะไม่สนใจและไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใครและพยายามหลีกเลี่ยงเสมอ การมาเจอกับนีรญาในครั้งนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่คาดฝันและไม่คาดหวังเป็นอย่างยิ่ง

                    “อุ้ย!  แล้วนี่สุดหล่อคนนี้คือใครเหรอคะพี่ฝ้าย?” ถามหญิงสาวแต่กลับมองไปที่ชายหนุ่มก่อนจะส่งสายตาเจ้าชู้ไปให้ชายหนุ่มแต่ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของเธอ

                     นีรญาตื่นเต้นเมื่อเห็นใบหน้าปรเมศวร์อย่างชัดเจนอันที่จริงหล่อนรู้สึกถูกอกถูกใจชายหนุ่มตั้งแต่เห็นเดินเข้ามาพร้อมกับฝ้ายลดาแล้ว

                    “เอ่อ! นี่คุณเมศวร์จ๊ะ สามีของพี่เอง” ฝ้ายลดาจำใจต้องแนะนำนีรญาให้รู้จักกับปรเมศวร์

                    “อุ้ยนี่! พี่ฝ้ายแต่งงานแล้วเหรอคะ ? แหม.. สามีพี่ฝ้ายหล่อและเท่ห์จังเลยค่ะ” พูดพลางแอบริษยาฝ้ายลดาในใจ

                     นีรญาชื่นชมเขาอย่างออกหน้าออกตาไม่เกรงอกเกรงใจฝ้ายลดา หล่อนชอบในความหล่อเหลาของชายหนุ่มพลางให้ท่าอย่างเปิดเผยเคยชิน ปรเมศวร์เองก็ส่งสายตาพลางยกยิ้มผู้ชายที่เคยเป็นเสือผู้หญิงอย่างเขารึจะดูไม่ออกว่าเด็กสาวคนนี้สนใจในตัวเขา

                    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ…. พี่เมศวร์ ” หล่อนถือวิสาสะเรียกชายหนุ่มอย่างสนิทสนมซึ่งดูเหมือนชายหนุ่มเองก็ไม่คิดจะขัดข้อง

                    “ยินดีเช่นกันครับ”

                     นีรญาไม่ได้ยกมือไหว้อย่างที่ฝ้ายลดาคิดแต่กลับยื่นมือมาจับเขาเหมือนธรรมเนียมสากล แล้วใจดวงน้อยต้องเจ็บปวดเมื่อเหลือบไปเห็นสามีกับผู้มาใหม่ส่งสายตามีความหมายบางอย่างให้แก่กันต่อหน้าต่อตาโดยไม่เกรงใจสายตาของเธอเลยสักนิด

                    นีรญาพุดคุยกับเธอและปรเมศวร์สักพักก่อนจะขอตัวกลับไปคุยกับคนเดิมที่หล่อนกำลังคุยกับเขาอยู่ก่อนหน้านี้ ปรเมศวร์และฝ้ายลดาจึงจะเข้าไปแสดงความยินดีกับเจ้าของงานเลี้ยงและอวยพรให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง

                    เมื่องานเลี้ยงเลิกฝ้ายลดาออกมารอปรเมศวร์ที่หน้าโรงแรมตามที่ชายหนุ่มสั่ง จากนั้นสักพักร่างสูงของสามีของเธอก็เดินตรงมา ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้คนรอใจห่อเหี่ยว

                    “ฝ้ายลดาเธอนั่งแท็กซี่กลับไปก่อนแล้วกันนะ คืนนี้ฉันมีธุระ” ไม่มีคำถามใดหลุดออกมาจากปากบางที่เม้มแน่นของเธอจนกระทั่ง

                    “ค่ะ งั้นฝ้ายกลับแท็กซี่เองก็ได้ค่ะ ”

                     ยังไม่ทันจะจบประโยคดีร่างสูงก็ก้าวเท้ายาวเดินไปยังลานจอดรถที่ใช้จอดรถคันหรูของเขาในทันที ฝ้ายลดาได้แต่มองตามแผ่นหลังของสามีหนุ่มไปอย่างหงอยเหงา

     

                    ก๊อก!! ก๊อก!!

                    เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่มันจะถูกเปิดออกโดยเรือนร่างสมส่วนเย้ายวนที่อยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินเนื้อบางเบาชวนวาบหวิวชุดนอนที่ใส่แล้วไม่ได้นอนยิ้มอย่างเชิญชวนให้กับผู้มาเยือนพร้อมทั้งเอ่ยถามอย่างมีจริตยั่วเย้า

                    “หนีเมียมาหรือเปล่าคะนี่?”

                    “คนอย่างพี่ไม่จำเป็นต้องหนีเมียหรอกครับ อยากมาก็มา” คนตอบยิ้มกริ่มส่งสายตาเจ้าชู้

                    “ถ้าอย่างนั้นเข้ามาก่อนสิคะ” เจ้าบ้านเอ่ยเชิญชวนผู้มาเยือนที่ไม่มีท่าทีอิดออดเลยแม้แต่น้อย “ดื่มอะไรก่อนไหมคะ?” ชายหนุ่มยกยิ้มเขาไม่จำเป็นต้องดื่มเพื่อบิวต์อารมณ์เพราะคนอย่างเขาพร้อมทุกเวลาทุกสถานที่อยู่แล้ว

                    “ชวนพี่มาคงไม่ใช่ให้มาดื่มอย่างเดียวหรอกใช่ไหม?” ว่าพลางทำสายตากรุ้มกริ่ม

                    “เชอร์รี่ชอบพี่เมศวร์ค่ะ หล่อตรงสเป๊กเชอร์รี่ที่สุด” สาวไฟแรงตรงประเด็นไม่รีรอ

                    “แล้วยังไงครับ?”

                    “หน้าตาหล่อเหลาแต่ลีลาจะดีหรือเปล่าอันนี้ต้องพิสูจน์” คนพูดดูท้าทายทั้งเสียงและแววตา

                    “พี่ยินดีให้เชอร์รี่พิสูจน์”  น้ำเสียงท้าทายสายตากรุ้มกริ่ม

                    “งั้นจะมัวช้าอยู่ไยล่ะคะ” จบคำร่างอวบอัดก็โดนรวบเข้ามาปะทะร่างแกร่ง ริมฝีปากแลกลิ้นกันดุเดือดเหมือนกับทำสงครามแต่เป็นสงครามสวาทโดยที่ฝ้ายลดาไม่รู้เลยว่านี่คือธุระของสามี          

                     “ใจเย็นสิครับ” มือใหญ่คว้ามือของหล่อนเอาไว้

                    “อืม.. พี่เมศวร์ขาเชอร์รี่ไม่ไหวแล้วเร็วๆสิคะ” หล่อนทำเสียงออดอ้อนด้วยความเย้ายวนรัญจวนสุดอารมณ์ส่งสายตาร้องขอชายหนุ่ม เขานึกสมใจอยู่ไม่น้อยที่สาวน้อยไฟแรงแสดงความต้องการเขาออกมาอย่างมากมาย ก่อนจะเดินหน้าดำเนินตามสิ่งที่ถูกร้องขอและชายหนุ่มจะต้องทำให้หล่อนไม่กล้าสงสัยในลีลาของเขาเหมือนก่อนหน้านี้

                    “หึๆ งั้นเดี๋ยวพี่เมศวร์จัดให้”

                    พูดจบประโยคปากหนาก็บดเบียดกลีบปากเย้ายวนที่เคลือบด้วยลิปติกสีแดงสดอย่างดูดดื่ม มือหนาก็ปลดเปลื้องชุดนอนบางเบาของหล่อนออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับก้มลงไปขบเม้มดูดดุนทรวงอกอวบอย่างดูดดื่มเมามัน เรียกเสียงครางกระเส่าอย่างเสียวซ่านจากสาวไฟแรง

                     “เป็นยังไงลีลาพี่ถูกใจไหม?” ชายหนุ่มยิ้มกริ่มเสียงแหบพร่าเอ่ยถามพลางขยับเข้าใส่

                    “อืม..พี่เมศวร์สุดยอดไปเลยค่ะ”  หล่อนตอบเสียงออดอ้อนซ่านกระเส่ามองคนที่โถมกายกระแทกเข้าใส่ตนด้วยรอยยิ้มถูกใจ

                  แล้วร่างใหญ่ก็โถมกายเข้าใส่อย่างหนักหน่วงในช่วงจังหวะสุดท้ายพลางกระตุกเกร็งพร้อมด้วยเสียงหวีดร้องของคนใต้ร่างอย่างสุขสม

     

                    ฝ้ายลดาถึงบ้านนานแล้วแต่เธอยังนอนไม่หลับกระวนกระวายใจด้วยนึกเป็นห่วงชายหนุ่มกลัวว่าจะเมามายกลับมาจนเกิดเป็นอันตรายขึ้นอีก  ชั่งใจอยู่หลายรอบว่าจะโทรหาชายหนุ่มดีไหมจนแล้วจนรอดด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มมือบางก็คว้าโทรศัพท์กดหาชายหนุ่มทันที

                    เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจสวาทปรเมศวร์ขอตัวไปอาบน้ำล้างคราบไคลชายหนุ่มเข้าไปไม่นานนักเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น นีรญาเพียงแค่จะหยิบมาดูว่าเป็นชื่อใครแต่เมื่อเห็นชื่อที่โชว์เธอก็ยิ้มมุมปากอย่างสมใจก่อนจะกดรับ

                    “สวัสดีค่ะ พี่ฝ้าย” ฝ้ายลดาตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินเป็นเสียงผู้หญิงรับแถมยังพูดชื่อเธอเหมือนรู้จักเธอเป็นอย่างดี “ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะคะพี่ฝ้ายนี่เชอร์รี่เองค่ะ พี่เมศวร์อาบน้ำอยู่น่ะค่ะ คงจะเหน็ดเหนื่อยมากเพราะเมื่อสักครู่นี้เราหักโหมและรุนแรงกันมากไปหน่อยน่ะค่ะ” นีรญาพูดเบ้ปากอย่างสมใจและพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

                    “เธอหมายความว่ายังไง?!!!

                    “ก็หมายความว่าเมื่อครู่นี้เชอร์รี่กับพี่เมศวร์เพิ่งเล่นบทรักกันเสร็จน่ะสิคะพี่เมศวร์นี่เก่งและสุดยอดจริงๆค่ะ ทั้งเร่าร้อนอีกด้วยจนเชอร์รี่ร้อนเร่าไปทั้งตัวเลยล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่พี่ฝ้ายอุตส่าห์เผื่อแผ่มาให้เชอร์รี่”

                    หล่อนพูดจาเยาะเย้ยเพราะคิดว่าฝ้ายลดากับปรเมศวร์คงมีอะไรกันแล้ว มือบางกำมือถือแน่นพลางสั่นคำพูดของนีรญาเหมือนกระชากหัวใจของเธอไปขยี้ขยำ มันคงไม่มีอะไรเจ็บมากไปกว่ารักเขาข้างเดียวแต่เขาไม่เคยสนใจใยดีเลยอีกแล้ว เขาไม่เคยสนใจแถมยังทำร้ายจิตใจเธออีกด้วย มันเจ็บปวดทุกครั้งที่เขาทำท่าทางขยะแขยงเธอ

                    “เมื่อสักครู่นี้เมียพี่เมศวร์โทรมาตามค่ะ”

                    หลังจากที่ปรเมวร์ออกมาจากห้องน้ำหล่อนก็สารภาพแก่เขาทันทีเพราะกลัวมีความผิดถ้าหากชายหนุ่มจับได้คิดว่าฝ้ายลดาคงจะเข้ามาไตร่ถามและฟ้องชายหนุ่มแน่และกลัวความผิดที่ถือวิสาสะรับโทรศัพท์ของชายหนุ่มแต่หล่อนก็ได้คิดคำพูดเอาไว้แล้วพูดก่อนย่อมได้เปรียบแน่นอนต่อให้ฝ้ายลดาจะพูดกับชายหนุ่มว่ายังไงแต่หล่อนไม่ยอมรับเสียอย่างมันจะเป็นไรไป

                    “เธอว่าไงนะเชอร์รี่!!!

                    ชายหนุ่มหูผึ่งทันทีพร้อมเอ่ยถามเสียงเกรี้ยวกราดจนคนที่คิดคำพูดในตอนแรกถึงกับตกใจเขาไม่ค่อยสบอารมณ์นักแต่ไม่ใช่ว่าเพราะเชอร์รี่ถือวิสาสะรับโทรศัพท์เขาแต่ชายหนุ่มไม่พอใจที่ฝ้ายลดาโทรหาเขามากกว่า             

                    “อะเอ่อ! ชะ.. เชอร์รี่ขอโทษค่ะ” นีรญาขอโทษขอโพยชายหนุ่มปากคอสั่นคิดว่าเขาคงเอาเรื่องเธอแน่แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น

                    “ไม่เป็นไรพี่ไม่ถือและพี่จะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เมียพี่ พี่ไม่เต็มใจรับเธอเป็นเมีย”

                    “เอ๊ะ!! พี่เมศวร์หมายความว่ายังไงคะ?”

                    “ก็หมายความว่าเธอเป็นเมียที่พี่ไม่เคยยอมรับยังไงล่ะ ถ้าเธอไม่ใช่คนที่แม่ของพี่เลือกคงไม่มีวันที่พี่จะแต่งงานด้วยหรอกนะ”

                    “นี่! พี่เมศวร์แต่งงานเพราะถูกแม่พี่บังคับอย่างนั้นเหรอคะ?”

                    “ใช่ ทีนี้คงเข้าใจแล้วนะ”

                    ความรู้ใหม่ที่ได้ยินทำให้หล่อนยิ้มอย่างพอใจ ‘นี่! พี่ฝ้ายผู้แสนดีเป็นคนที่ใครๆต่างก็หลงรักเธอจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอนี่! หึ สะใจชะมัด

                    “ถ้าอย่างนั้นพี่เมศวร์ก็มาหาเชอร์รี่บ่อยๆนะคะ” แล้วหล่อนก็ไม่พลาดที่จะเปิดโอกาสให้เขาและพร้อมกับหาโอกาสให้กับตัวเองไปในคราวเดียวกัน

                    “แน่นอนครับ”

                    ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกริ่มก่อนจะคว้าร่างบางที่พยายามพูดจาออดอ้อนเข้ามาจุมพิตเจ้าหล่อนก็ไม่ขัดขืนแต่ประการใดแถมยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีอีกด้วย พลางคิดอย่างอารมณ์ดี ‘สงสัยคราวนี้เขาคงต้องอาบน้ำใหม่อีกครั้งซะแล้ว

     

                    ลังจากนั้นทั้งคู่ก็เสพสุมกับความสุขแห่งกามกิจร่วมกันเรื่อยมา ชายหนุ่มไปหาเธอที่คอนโดเกือบทุกวันโดยที่ไม่ยอมกลับไปนอนที่เรือนหอของเขาและเธอจะกลับไปบ้างเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น  โดยที่ฝ้ายลดารับรู้มาตลอดแต่เธอไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่เจ็บปวดใจ

                    แต่แม้จะพยายามไม่นึกไม่สนใจอะไรแต่ก็เหมือนกับสวรรค์จะคอยกลั่นแกล้งเธอ หรือไม่ก็อาจจะทดสอบความอดทนของเธอเป็นแน่แท้ เพราะในขณะที่ฝ้ายลดากับแม่เนียมแม่บ้านกำลังเดินดูของอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อจัดแจงซื้อของใช้ที่จำเป็นเข้าบ้านอยู่นั้น สายตาไม่รักดีของตัวเองก็ดันเหลือบไปมองเห็นร่างสองร่างที่คุ้นตากำลังควงแขนกันเดินผ่านสายตาเธอพอดี     

                    “คุณฝ้ายหยุดทำไมคะ?”

                    จากที่เดินอยู่นั้นฝ้ายลดาก็หยุดกึก ทำให้แม่เนียมแม่บ้านถามขึ้นด้วยความแปลกใจพร้อมกับมองหน้าเธอก่อนจะมองไปตามสายตาเศร้าคู่นั้นที่มองดูบางสิ่งบางอย่างก็เห็นว่าเหตุใดเจ้านายสาวถึงต้องหยุดชะงักพลางมือเหี่ยวย่นของตนจับบีบแขนเสลาของเธอเหมือนเป็นการปลุกปลอบ

                    “คุณฝ้ายคะ?”

                    “ฝ้ายไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า” หญิงสาวบอกแก่นางพลางฝืนยิ้ม

                    “คุณฝ้ายอดทนหน่อยนะคะ ป้าเชื่อว่าสักวันหนึ่งคุณเมศวร์จะต้องเห็นความดีของคุณฝ้ายและก็หันมารักคุณฝ้ายได้แน่นอนค่ะ ป้าเชื่ออย่างนั้นนะคะ” แม่เนียมพูดจาปลอบประโลมพลางนึกสงสารและเห็นใจหญิงสาวยิ่งนัก

                    “ขอบคุณนะคะป้า ฝ้ายจะอดทนค่ะ”

                    “ค่ะ ป้าขอให้คุณฝ้ายเข้มแข็งและผ่านมันไปให้ได้นะคะ” นางให้กำลังใจ

                    “ค่ะป้า เอ่อ! เดี๋ยวฝ้ายขอเดินไปดูครีมโกนหนวดให้คุณเมศวร์ก่อนนะคะป้า เมื่อวานฝ้ายเห็นว่ากำลังจะหมดแล้ว” เธอสูดหายใจเข้าพลางบอกกับตัวเองให้เข้มแข็งอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวกับแม่บ้านอย่างกระตือรือร้น

                    “ค่ะ” เมื่อแม่เนียมตอบรับ ฝ้ายลดาจึงเดินตรงไปยังแผนกสินค้าที่จัดวางผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายทันที

                    แม่เนียมอดสงสารนายสาวไม่ได้ถอนหายใจยาวเหยียด พลางมองตามหลังร่างบางกลมกลึงไป เห็นความเอาใจใส่ที่เธอมีให้กับชายหนุ่มแล้ว นางอยากให้ปรเมศวร์ได้มาเห็นสิ่งที่นางเห็น รับรู้ในสิ่งที่นางรับรู้มาโดยตลอดนางอยากจะดูซิว่านายหนุ่มยังจะใจแข็งอยู่ได้อีกหรือไม่ที่จะไม่เอนเอียงมาหาหญิงสาวบ้าง

                    “ป้าขอให้คุณฝ้ายชนะใจคุณเมศวร์ในสักวันนะคะ” แม่บ้านวัยกลางคนพึมพำอวยพรตามหลังร่างบางไปด้วยความจริงใจ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×