ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :: Ever Lasting Friends // นิทานของ E . L . F ....
,, ♥ Super Junior Forever ;>
. . . . . . . . . .
ในดวงดาวเล็ก ๆ ดวงหนึ่ง ซึ่งเป็นดวงดาวที่มีสีฟ้าอ่อน ๆ ดูแล้วสวยงามมาก เหล่าภูติตัวน้อยต่างอาศัยกันอยู่เป็นจำนวนมาก ภูติแต่ละตนเป็นมิตรต่อกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ไม่มีใครเอาเปรียบใคร มักจะแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ กันให้อยู่ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม
แต่มีอยู่อย่างหนึ่ง ที่เหล่าภูติตัวน้อยต่างพากันเป็นห่วงและรักใคร่อยู่เสมอ ใครสักคนหนึ่งที่อยู่บนเบื้องบนท้องฟ้าสีครามสดใสนั่น ภูติบางส่วนมีโอกาสได้เห็นตัวตนของคนเบื้องบน ภูติที่มีโอกาสนั้น ต่างพากันบอกถึงความรู้สึกของตนที่เฝ้ารอเค้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะนานสักเพียงใดก็ตาม
...แต่บางส่วน...ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นเค้าคนนั้น...
ในยามค่ำคืนที่มืดสนิท แต่มีแสงจากดวงดาวที่ทำให้ค่ำคืนนี้นั้นงดงามมากยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ภูติน้อยตนหนึ่งกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่เพียงคนเดียว ก่อนจะมานั่งพักที่ผืนหญ้าสีเขียวชอุ่มในที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ใบหน้าที่ดูแล้วเหมือนกับกำลังเป็นห่วงและคิดถึงใครสักคนหนึ่ง แต่ก็มีความเศร้านั้นแอบแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน
...ภูติตนนั้นมีนามว่า....“เอลฟ์”...
ภูติน้อยจดจ้องไปยังท้องฟ้าเบื้องบน ดวงตาที่ปกติมักจะเคยสดใสเสมอเมื่อไปเจอกับเพื่อน ๆ หรือคนสนิท ตอนนี้กลับดูเศร้าศร้อยจนน่าใจหาย ภูติน้อยแหงนหน้ามองต่อไปอย่างนั้นอย่าเหม่อลอย ไม่ได้สนใจกับสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่นิด...
...ทั้ง ๆ ที่แค่นั่งมองท้องฟ้าเฉย ๆ...
...แต่...น้ำตากลับไหลรินออกมาอย่างไม่ตัว...
ด้วยความตกใจที่เกิดความผิดปกติกับตัวเอง มือบางถูกเลื่อนมาเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เช็ดแล้ว...เช็ดอีก....แต่น้ำใส ๆ กลับไหลรินออกมาไม่หยุด สุดท้าย...เสียงสะอื้นก็ลอดออกมาจากลำคอของภูติน้อย ก่อนจะนั่งชันเข่าและซุกใบหน้าลงกับเข่าของตัวเอง
“ฮึก....ฮึก....” ทั้ง ๆ ที่อยู่เพียงคนเดียว แต่ก็จะพยายามจะกลั้นเสียงไว้ให้มากที่สุด ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน เล็บมือจิกที่ต้นแขนของตัวเองเพื่อระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้
...ทำไมน้ำตาต้องไหลออกมาด้วยน่ะ?...
...เรากับเค้า...ไม่ได้รู้จักกันซะหน่อย....
...ทำไมฉันจะต้องไปเสียน้ำตาให้เค้าด้วย?...
...แต่....พอคิดว่า....ตัวเองไม่อาจจะเจอเค้าได้...
...ไม่มีโอกาส....แค่จะเจอหน้าเค้า....ยังไม่มีโอกาสเจอเลย....
...น้ำตามันก็ไหลออกมาไม่หยุด....
...นี่ฉันรักเค้ามากเลยใช่มั้ย?....
“...ฮึก....ฉัน.....ฮึก.....ฉันจะมีโอกาส...ฮึก....ที่จะบินไปสู่ท้องฟ้า เบื้องบนนั่นบ้างมั้ย?....ฮือ...” เสียงร้องที่โศกเศร้าดังไปทั่ว ภูติน้อยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาอย่างไม่ปกปิด ภูติน้อยกัดริมฝีปากล่างแน่นจบแทบช้ำ
“ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน...ฮึก....ขอแค่....ให้ได้เห็นหน้าของเค้า.... ฮึก.....” ใบหน้ามนเงยขึ้นจากเข่า ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาจำนวนมาก ดวงตาที่เริ่มแดงก่ำเพราะการร้องไห้นั้นจ้องมองท้องฟ้าเช่นเดิม ไม่ใช่ว่าดูความสวยงามของยามราตรีคืนนี้.....แต่กลับมองหาใครบางคน....ใคร บางคนที่อยู่บนท้องฟ้านั่น...
(......)
“หืม?....” เสียงในลำคอดังขึ้นจากภูติน้อยด้วยความสงสัย เหมือนเมื่อกี้เขาได้ยินเสียงอะไรเข้าใช่มั้ย??
(..ไ....น.....มั้ย....)
“ใครน่ะ???” เสียงปริศนาที่ดังมาแผ่ว ๆ จากที่ไหนสักแห่ง ทำให้ภูติน้อยเริ่มหันซ้ายหันขวาหาต้นตอของเสียง แต่ไม่ว่าหันไปทางไหน ก็ไม่เห็นแม้วี่แววของใครสักคนเลยนอกจากตัวเอง
(เธอได้ยินเสียงของพวกเรามั้ย?) เสียงปริศนาดังชัดขึ้น ภูติน้อยตกใจยิ่งกว่าเดิม ในใจคิดว่าควรจะหนีไปจากที่นี่ แต่ร่างกายกลับไม่ทำตามที่สั่ง ใบหน้ามนหันซ้ายขวามั่วไปหมด
แต่...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณของตัวเองรึเปล่า ภูติน้อยกลับเลือกที่จะแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า แทนที่จะหนีไปจากที่นี่ ดวงตาสีนิลกระพริบสองสามครั้ง พยายามมองสิ่งที่ดวงตาของตัวเองนั่นรับรู้
...ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง....หรือเป็นเพียงแค่ความฝัน....
...แต่....รู้สึกเหมือนกับว่า.....
...ตอนนี้....บนท้องฟ้า....กำลังมีคนโบกมือมาให้....
(ขอโทษนะ...ที่เราลงไปหาเธอไม่ได้นะ) เสียงทุ้มพูดขึ้น ภูติน้อยส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ตอนนี้ปากมันสั่นไปหมด เรียบเรียงคำพูดอะไรไม่ถูกแล้ว
(พวกเราขอบคุณจริง ๆ น่ะ...ที่พวกเธอนั้นรัก และเป็นห่วงพวกเราเสมอ) น้ำเสียงนั้นฟังดูอบอุ่น และอ่อนโยนอย่างประหลาด ร่างของภูติน้อยลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตายังคงจับจ้องไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่เช่นเดิม
(พวกเราอยากไปเจอพวกเธอมาก....อยากไปขอบคุณที่พวกเธอคอยให้ความรัก...คอย เป็นห่วง...คอยอยู่เคียงข้างพวกเราเสมอ แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้รู้จักชื่อกันก็ตาม....) สิ้นสุดประโยค วัตถุบางอย่างกำลังร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้า ๆ และลงมาอยู่ที่มือของภูติน้อยตนนั้น ลูกโป่งสีแซฟไฟร์บลูที่ดูสดใสและสวยงาม ภูติน้อยจดจ้องลูกโป่งนั้นด้วยความงุนงงปนตกใจ
(ขอโทษด้วย...ที่พวกเราทำได้เพียงแค่นี้...แต่พวกเรารักสี ๆ นี้มาก...สีเดียวกับดวงดาวของพวกเธอนั่นละ........แต่ว่าตอนนี้พวกเราคงต้อง ไปแล้วละ.....) เสียงที่เบาลงทุกที ๆ....ทำให้ภูติน้อยใจกระตุกวูบ น้ำตาหน่วงคลอเบ้าอย่างห้ามไม่อยู่
“ดะ....เดี๋ยวสิ!!!.....” ภูติน้อยพยายามตะโกนให้ดังที่สุด ถึงแม้จะรู้ว่าคงจะไร้ผลก็ตาม สองแขนโอบกอดลูกโป่งที่ได้รับมาไว้อย่างดี แอบหวังไว้ว่าเสียงที่ได้ยินนั้นจะยังไม่หายไป แต่.....ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียง กลับกลายเป็นว่า.....ดวงตาที่จ้องมองอยู่นั้นกลับเห็นสิ่งอื่นแทน....
....รอยยิ้ม.....
(..ขอบคุณนะ.....เธอคอยอยู่เคียงข้างพวกเราเสมอจริง ๆ ด้วย....แต่เราต้องไปจริง ๆ แล้วละ...) เสียงนั้นตอบกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นประโยคที่กำลังจะพูดกล่าวลา ก็เรียกรอยยิ้มจากภูติน้อยนั้นได้มากโขอยู่ทีเดียว
(ขอบคุณนะ.......พวกเรารักคุณนะ.....เอลฟ์.....)
เสียงปริศนานั้นเงียบไปนานพอสมควร แต่ภูติน้อยยังคงยืนกอดลูกโป่งสีแซฟไฟร์บลูที่ได้รับไว้อยู่เช่นเดิม บรรยากาศยามค่ำคืนที่ไร้ผู้คน ได้ยินแต่เสียงลมพัดผ่านไปเพียงอย่างเดียว ทำให้ดูแล้วเงียบเหงาอย่างมาก
หยดน้ำตกลงบนลูกโป่งในอ้อมแขน หยดน้ำ....ที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองของภูติน้อย น้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้เหตุผล...
...ร้องไห้....เพราะเขาจากไปงั้นหรือ?....
...ยิ้ม....เพราะได้ของจากเขางั้นหรือ?....
...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร....
...แต่ตอนนี้....ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว....
...เจ็บ....เศร้า...มีความสุข....
...ความรู้สึกทุก ๆ อย่างมันปนกันมั่วไปหมด.....
“ขอบคุณนะ....ที่คุณยังคงรักเอลฟ์อย่างพวกเรา.....” ภูติน้อยยิ้มทั้งน้ำตา พลางแหงนหน้ามองไปที่ท้องฟ้าอีกครั้ง คล้ายกับว่าจะเป็นการบอกลาคนที่อยู่บนนั้น ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังบ้านของตัวเองเช่นเดิม....
...ความรัก....มีทั้งด้านดีและด้านร้าย....
...มันทำให้เราสุข.....และทุกข์ทรมานไปพร้อม ๆ กัน....
...แต่....อย่ามัวแต่จมปลักกับด้านร้ายของความรัก....
...เราอาจจะเศร้า....ที่เผลอไปรัก....คนที่เราไม่อาจจะพบเจอเขาได้....
...เราอาจจะเศร้า....ที่บางครั้งหวังว่าจะได้เจอเขาคนนั้นสักครั้ง....
...แต่ก็รู้ตัว....ว่าความหวังนั้นมันไม่อาจเป็นไปได้....
...เราอาจจะอิจฉา....ที่คนอื่นได้เจอเขาคนนั้น.....แต่เรากลับไม่มีโอกาสนั้น....
...เราอาจจะน้อยใจ....ที่บางที....เขาคนนั้นพูดกับคนอื่น....ดีกว่าที่พูดกับเรา....
...แต่ควรคิดว่า.....ดีซะกว่า....ที่เราได้มอบความรักให้แก่คนอื่น...
...ควรจะดีใจ....ที่เราได้มอบรักของเรา....ให้กับคนที่เรารัก....
...ให้เขาได้รับรู้....ว่าอย่างน้อย ๆ....ก็มีคนที่คอยดูแล.....และเป็นห่วงเขาเสมอ....
...ให้เขาได้รับรู้....ว่าถ้าเขาเหนื่อย....เราจะคอยอยู่ข้าง ๆ เขา....
...และ.....เรา....จะอยู่เคียงข้างเขา....ตลอดไป...
THE END
Credit : http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=443255[/color]
. . . . . . . . . .
ในดวงดาวเล็ก ๆ ดวงหนึ่ง ซึ่งเป็นดวงดาวที่มีสีฟ้าอ่อน ๆ ดูแล้วสวยงามมาก เหล่าภูติตัวน้อยต่างอาศัยกันอยู่เป็นจำนวนมาก ภูติแต่ละตนเป็นมิตรต่อกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ไม่มีใครเอาเปรียบใคร มักจะแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ กันให้อยู่ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม
แต่มีอยู่อย่างหนึ่ง ที่เหล่าภูติตัวน้อยต่างพากันเป็นห่วงและรักใคร่อยู่เสมอ ใครสักคนหนึ่งที่อยู่บนเบื้องบนท้องฟ้าสีครามสดใสนั่น ภูติบางส่วนมีโอกาสได้เห็นตัวตนของคนเบื้องบน ภูติที่มีโอกาสนั้น ต่างพากันบอกถึงความรู้สึกของตนที่เฝ้ารอเค้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะนานสักเพียงใดก็ตาม
...แต่บางส่วน...ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นเค้าคนนั้น...
ในยามค่ำคืนที่มืดสนิท แต่มีแสงจากดวงดาวที่ทำให้ค่ำคืนนี้นั้นงดงามมากยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ภูติน้อยตนหนึ่งกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่เพียงคนเดียว ก่อนจะมานั่งพักที่ผืนหญ้าสีเขียวชอุ่มในที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ใบหน้าที่ดูแล้วเหมือนกับกำลังเป็นห่วงและคิดถึงใครสักคนหนึ่ง แต่ก็มีความเศร้านั้นแอบแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน
...ภูติตนนั้นมีนามว่า....“เอลฟ์”...
ภูติน้อยจดจ้องไปยังท้องฟ้าเบื้องบน ดวงตาที่ปกติมักจะเคยสดใสเสมอเมื่อไปเจอกับเพื่อน ๆ หรือคนสนิท ตอนนี้กลับดูเศร้าศร้อยจนน่าใจหาย ภูติน้อยแหงนหน้ามองต่อไปอย่างนั้นอย่าเหม่อลอย ไม่ได้สนใจกับสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่นิด...
...ทั้ง ๆ ที่แค่นั่งมองท้องฟ้าเฉย ๆ...
...แต่...น้ำตากลับไหลรินออกมาอย่างไม่ตัว...
ด้วยความตกใจที่เกิดความผิดปกติกับตัวเอง มือบางถูกเลื่อนมาเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เช็ดแล้ว...เช็ดอีก....แต่น้ำใส ๆ กลับไหลรินออกมาไม่หยุด สุดท้าย...เสียงสะอื้นก็ลอดออกมาจากลำคอของภูติน้อย ก่อนจะนั่งชันเข่าและซุกใบหน้าลงกับเข่าของตัวเอง
“ฮึก....ฮึก....” ทั้ง ๆ ที่อยู่เพียงคนเดียว แต่ก็จะพยายามจะกลั้นเสียงไว้ให้มากที่สุด ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน เล็บมือจิกที่ต้นแขนของตัวเองเพื่อระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้
...ทำไมน้ำตาต้องไหลออกมาด้วยน่ะ?...
...เรากับเค้า...ไม่ได้รู้จักกันซะหน่อย....
...ทำไมฉันจะต้องไปเสียน้ำตาให้เค้าด้วย?...
...แต่....พอคิดว่า....ตัวเองไม่อาจจะเจอเค้าได้...
...ไม่มีโอกาส....แค่จะเจอหน้าเค้า....ยังไม่มีโอกาสเจอเลย....
...น้ำตามันก็ไหลออกมาไม่หยุด....
...นี่ฉันรักเค้ามากเลยใช่มั้ย?....
“...ฮึก....ฉัน.....ฮึก.....ฉันจะมีโอกาส...ฮึก....ที่จะบินไปสู่ท้องฟ้า เบื้องบนนั่นบ้างมั้ย?....ฮือ...” เสียงร้องที่โศกเศร้าดังไปทั่ว ภูติน้อยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาอย่างไม่ปกปิด ภูติน้อยกัดริมฝีปากล่างแน่นจบแทบช้ำ
“ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน...ฮึก....ขอแค่....ให้ได้เห็นหน้าของเค้า.... ฮึก.....” ใบหน้ามนเงยขึ้นจากเข่า ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาจำนวนมาก ดวงตาที่เริ่มแดงก่ำเพราะการร้องไห้นั้นจ้องมองท้องฟ้าเช่นเดิม ไม่ใช่ว่าดูความสวยงามของยามราตรีคืนนี้.....แต่กลับมองหาใครบางคน....ใคร บางคนที่อยู่บนท้องฟ้านั่น...
(......)
“หืม?....” เสียงในลำคอดังขึ้นจากภูติน้อยด้วยความสงสัย เหมือนเมื่อกี้เขาได้ยินเสียงอะไรเข้าใช่มั้ย??
(..ไ....น.....มั้ย....)
“ใครน่ะ???” เสียงปริศนาที่ดังมาแผ่ว ๆ จากที่ไหนสักแห่ง ทำให้ภูติน้อยเริ่มหันซ้ายหันขวาหาต้นตอของเสียง แต่ไม่ว่าหันไปทางไหน ก็ไม่เห็นแม้วี่แววของใครสักคนเลยนอกจากตัวเอง
(เธอได้ยินเสียงของพวกเรามั้ย?) เสียงปริศนาดังชัดขึ้น ภูติน้อยตกใจยิ่งกว่าเดิม ในใจคิดว่าควรจะหนีไปจากที่นี่ แต่ร่างกายกลับไม่ทำตามที่สั่ง ใบหน้ามนหันซ้ายขวามั่วไปหมด
แต่...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณของตัวเองรึเปล่า ภูติน้อยกลับเลือกที่จะแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า แทนที่จะหนีไปจากที่นี่ ดวงตาสีนิลกระพริบสองสามครั้ง พยายามมองสิ่งที่ดวงตาของตัวเองนั่นรับรู้
...ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง....หรือเป็นเพียงแค่ความฝัน....
...แต่....รู้สึกเหมือนกับว่า.....
...ตอนนี้....บนท้องฟ้า....กำลังมีคนโบกมือมาให้....
(ขอโทษนะ...ที่เราลงไปหาเธอไม่ได้นะ) เสียงทุ้มพูดขึ้น ภูติน้อยส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ตอนนี้ปากมันสั่นไปหมด เรียบเรียงคำพูดอะไรไม่ถูกแล้ว
(พวกเราขอบคุณจริง ๆ น่ะ...ที่พวกเธอนั้นรัก และเป็นห่วงพวกเราเสมอ) น้ำเสียงนั้นฟังดูอบอุ่น และอ่อนโยนอย่างประหลาด ร่างของภูติน้อยลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตายังคงจับจ้องไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่เช่นเดิม
(พวกเราอยากไปเจอพวกเธอมาก....อยากไปขอบคุณที่พวกเธอคอยให้ความรัก...คอย เป็นห่วง...คอยอยู่เคียงข้างพวกเราเสมอ แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้รู้จักชื่อกันก็ตาม....) สิ้นสุดประโยค วัตถุบางอย่างกำลังร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้า ๆ และลงมาอยู่ที่มือของภูติน้อยตนนั้น ลูกโป่งสีแซฟไฟร์บลูที่ดูสดใสและสวยงาม ภูติน้อยจดจ้องลูกโป่งนั้นด้วยความงุนงงปนตกใจ
(ขอโทษด้วย...ที่พวกเราทำได้เพียงแค่นี้...แต่พวกเรารักสี ๆ นี้มาก...สีเดียวกับดวงดาวของพวกเธอนั่นละ........แต่ว่าตอนนี้พวกเราคงต้อง ไปแล้วละ.....) เสียงที่เบาลงทุกที ๆ....ทำให้ภูติน้อยใจกระตุกวูบ น้ำตาหน่วงคลอเบ้าอย่างห้ามไม่อยู่
“ดะ....เดี๋ยวสิ!!!.....” ภูติน้อยพยายามตะโกนให้ดังที่สุด ถึงแม้จะรู้ว่าคงจะไร้ผลก็ตาม สองแขนโอบกอดลูกโป่งที่ได้รับมาไว้อย่างดี แอบหวังไว้ว่าเสียงที่ได้ยินนั้นจะยังไม่หายไป แต่.....ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียง กลับกลายเป็นว่า.....ดวงตาที่จ้องมองอยู่นั้นกลับเห็นสิ่งอื่นแทน....
....รอยยิ้ม.....
(..ขอบคุณนะ.....เธอคอยอยู่เคียงข้างพวกเราเสมอจริง ๆ ด้วย....แต่เราต้องไปจริง ๆ แล้วละ...) เสียงนั้นตอบกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นประโยคที่กำลังจะพูดกล่าวลา ก็เรียกรอยยิ้มจากภูติน้อยนั้นได้มากโขอยู่ทีเดียว
(ขอบคุณนะ.......พวกเรารักคุณนะ.....เอลฟ์.....)
เสียงปริศนานั้นเงียบไปนานพอสมควร แต่ภูติน้อยยังคงยืนกอดลูกโป่งสีแซฟไฟร์บลูที่ได้รับไว้อยู่เช่นเดิม บรรยากาศยามค่ำคืนที่ไร้ผู้คน ได้ยินแต่เสียงลมพัดผ่านไปเพียงอย่างเดียว ทำให้ดูแล้วเงียบเหงาอย่างมาก
หยดน้ำตกลงบนลูกโป่งในอ้อมแขน หยดน้ำ....ที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองของภูติน้อย น้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้เหตุผล...
...ร้องไห้....เพราะเขาจากไปงั้นหรือ?....
...ยิ้ม....เพราะได้ของจากเขางั้นหรือ?....
...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร....
...แต่ตอนนี้....ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว....
...เจ็บ....เศร้า...มีความสุข....
...ความรู้สึกทุก ๆ อย่างมันปนกันมั่วไปหมด.....
“ขอบคุณนะ....ที่คุณยังคงรักเอลฟ์อย่างพวกเรา.....” ภูติน้อยยิ้มทั้งน้ำตา พลางแหงนหน้ามองไปที่ท้องฟ้าอีกครั้ง คล้ายกับว่าจะเป็นการบอกลาคนที่อยู่บนนั้น ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังบ้านของตัวเองเช่นเดิม....
...ความรัก....มีทั้งด้านดีและด้านร้าย....
...มันทำให้เราสุข.....และทุกข์ทรมานไปพร้อม ๆ กัน....
...แต่....อย่ามัวแต่จมปลักกับด้านร้ายของความรัก....
...เราอาจจะเศร้า....ที่เผลอไปรัก....คนที่เราไม่อาจจะพบเจอเขาได้....
...เราอาจจะเศร้า....ที่บางครั้งหวังว่าจะได้เจอเขาคนนั้นสักครั้ง....
...แต่ก็รู้ตัว....ว่าความหวังนั้นมันไม่อาจเป็นไปได้....
...เราอาจจะอิจฉา....ที่คนอื่นได้เจอเขาคนนั้น.....แต่เรากลับไม่มีโอกาสนั้น....
...เราอาจจะน้อยใจ....ที่บางที....เขาคนนั้นพูดกับคนอื่น....ดีกว่าที่พูดกับเรา....
...แต่ควรคิดว่า.....ดีซะกว่า....ที่เราได้มอบความรักให้แก่คนอื่น...
...ควรจะดีใจ....ที่เราได้มอบรักของเรา....ให้กับคนที่เรารัก....
...ให้เขาได้รับรู้....ว่าอย่างน้อย ๆ....ก็มีคนที่คอยดูแล.....และเป็นห่วงเขาเสมอ....
...ให้เขาได้รับรู้....ว่าถ้าเขาเหนื่อย....เราจะคอยอยู่ข้าง ๆ เขา....
...และ.....เรา....จะอยู่เคียงข้างเขา....ตลอดไป...
THE END
Credit : http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=443255[/color]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น