ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Me Mine >>> ก็นายเป็นของฉัน!! [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #7 : My Me Mine 5 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 406
      1
      7 มี.ค. 57

     

     
    My Me Mine 5

     

     

     

     

     

     

     

     

     











     

     

     “ หรอ? แล้วผมเป็นของคุณ ในฐานะอะไร? ” ประโยคเมื่อกี้หลุดออกจากปากของผม

     

     



     

     

    “ ... ” ไร้ซึ่งคำตอบจากปากของวินเธอร์

     

     








     

    หึ!  คุณคงตอบไม่ได้สินะ ผมมันบ้าไปเองที่ถามออกไปแบบนั้น

     

     

     

     






    “ ผมขอตัว.. ” พูดจบผมก็กำลังเปิดประตูรถออกไป

     

     

     

     






    “ อยู่กับฉัน เป็นของฉัน อย่าหนีฉันไปนะ ”

     

     

     







    ประโยคนั่น ทำให้หัวใจดวงเล็กๆของผมพองโตขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

     

     

     







    มันเต้นแรง ไร้ซึ่งจังหวะ เหมือนกำลังจะหลุดออกจากอก

     

     

     

     







    แล้วจูบที่อ่อนโยนก็ค่อยๆดูดซับคราบน้ำตาของผมอย่างแผ่วเบา

     

     

     







    จากเปลือกตามน

     

     

     







    สันจมูกโด่งๆ

     

     

     

     





    แก้มนิ่มๆ  

     

     

     







    จนมาหยุดตรงริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่

     

     

     

     






    ผมเผยริมฝีปากออกต้อนรับ ความอ่อนโยนที่วินเธอร์กำลังมอบให้

     

     

     






    ทุกอย่างของผมกำลังละลายกองอยู่ในอ้อมกอดของคนๆนี้

     

     









    ลิ้นชื้นๆ ไล้เลีย ฟันขาวอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ รับรสชาติความหวานจากโพรงปากของผม

     

     

     

     






    ผมตอบรับ สัมผัสนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม 











     NC จร้า ติดตามไฟล์กันได้ที่หน้าเพจนะจ๊ะ ^^ 












     














     

    ครืด.. ครืด..

     

     



     

     

     

    “ อื้ม.. ” ผมกดรับโทรศัพท์ขณะที่ยังนอนอยู่บนเตียงกับหวานใจ

     

     

     

     

     
     

    “ อะไรนะ ” ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้รับข่าวไม่ค่อยดีจากปลายสาย

     

     

     

     

     

     

    “ แล้วตอนนี้อยู่ไหน..อืม..พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ” ผมกดวางสาย ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัว

     

     

     

     

     



    “ ซัม..เดี๋ยวเอสมานะพอดีมีธุระด่วน จุ๊ฟ ” ผมกล่าวลาซัม หวานใจของผม

     

    โดยไม่ลืมจะจุมพิตไว้ที่หน้าผากมนๆ มองกี่ครั้งก็น่าหลงใหล เมียใครก็ไม่รู้ กอดกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

     

     

     

     

     

     

    อ่า..ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ผมเอสครับ เอสเพรสโซไง อยากรู้มั๊ยครับว่าใครโทรมา เดี๋ยวก็ได้รู้

     

    เพราะผมกำลังมาถึงที่คอนโดตัวเองแล้ว เป็นที่ ที่ผมนัดหมายกับปลายสายเมื่อครู่

     

     

     

     

     

     

     

    ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะเจอคนตัวเล็กๆ นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟารับแขกของชั้นล่าง




     

     

     

    ผมรีบเดินไปหาอย่างไม่เล็งเล ความรุ้สึกนี้มันอะไรกัน ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องคนๆนี้  

     

     





     

    “ พี่เอส.. ” เพียงใบหน้าสวยเงยขึ้นมาเจอผม ร่างเล็กๆนั้นก็โผลเข้ากอดผมอย่างทันที

     

     

     

     

     

    ผมกอดรับอย่างเต็มใจ ร่างเล็ก สั่นเทาเบา คงเจอเรื่องร้ายแรงมาสินะ

     

     

     

     

     




    “ พีช.. ” คนที่อยู่ในอ้อมกอดของผมคือลูกพีชเองครับ  แต่การพบกันในครั้งนี้ ช่างแตกต่าง ร่างกายที่แลดูบอบช้ำ

     







    ดวงตาบวมจากการร้องให้อย่างหนัก ใบหน้าที่หม่นหมองบ่งบอกถึงการเศร้าใจ






     

     

     

     

     

     

     

    “ พีชขอโทษนะ แต่พีชไม่รู้จะพึ่งใครจริงๆ ” พีชเอ่ยกับผมเสียงสั่น

     

     

     

     

     

    “ พี่ว่าเราไปคุยกันบนห้องพี่ดีกว่า ” ผมพาพีชขึ้นไปยังห้องเก่าของผมครับ คือที่จริงตอนนี้ผม

     

    ย้ายไปอยู่กับซัมที่คอนโดซัมครับ

     

     

     

     

     

     











    ห้องเอสเพรสโซ

     

     

     

     

     

     




     

    “ นั่งก่อนนะ ” ผมบอกให้พีชนั่งลง ก่อนจะไปหาอะไรมารับแขก ถึงผมจะไม่ได้อยู่แต่ก็มี

     

    แม่บ้านคอยดูแลให้เสมอ

     

     

     

     

     

     

     

     






    พีชนั่งลง ไม่พูดจาอะไร แปลก?

     

     

     

     

     





     

    “ พีชหน้าแดงๆนะ ตัวร้อนนิ่ ” ผมสังเกตเห็นก่อนจะถือวิสาสะเอามืออังที่หน้าผาก

     

     

     

     

     

     

     

     










    “ ... ” เงียบอีกแล้ว ไม่เหมือนพีชที่ผมเคยรู้จัก

     

     

     

     

    “ บอกพี่มานะ ใครทำให้พีชเป็นแบบนี้ ” ผมจับไหล่บางแล้วหมุนให้มาเผชิญหน้ากัน

     

     

     

     

     

     

     

    “ นี่มันรอยอะไร ” เสื้อถูกดึงลงจนเห็นรอยแดงๆ เป็นจ้ำ ที่บริเวณต้นคอ

     

     

     

     

     

     

    “ ขอโทษนะ แต่พี่ขอดูหน่อย ” ผมถลกเสื้อพีชขึ้นอย่างอดไม่ได้ ร่องรอยที่บ่งบอกถึง

     

    ความเป็นเจ้าของนั่น ทำเอาผมแทบบ้า

     

     

     

     

     

     

     

    “ พี่เอส.. ฮือ...ฮื้อ...” และพีชก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

     

     

     

     

     

     

     

    “ ใคร? บอกพี่มา ใครมันมาทำพีชแบบนี้ ” ถึงผมจะไม่เคยคิดอะไรกับพีช แต่ผมก็เอ็นดูพีช

     

    เหมือนน้องคนนึง เพราะตอนที่เราคบกัน พีชก็ไม่เคยทำเรื่องให้ผมเดือดร้อนใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    น้องทั้งคนจะไม่ให้ห่วงได้ยังไง

     

     

     

     

     

     

    “ ฮื้อ..อึก..ฮือ... ” พีชไม่ตอบ เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น ผมดึงตัวพีชเข้ามากอด

     

    หวังเพียงแต่จะปลอบให้คนในอ้อมกอดนั้น หยุดร้องไห้เสียที

     

     

     

     

     

     

     

    จากรอยนั่น บอกได้เลยว่าพีชต้องเป็นของมันแล้วแน่ๆ

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่อยากจะบอกว่าผมไม่เคยแม้แต่จะล่วงเกินพีช..

     

     

     

     

     

     

    เห็นผมแบบนี้ ผมก็ทะนุถนอมร่างบางๆ นี้เป็นอย่างดีนะครับ

     

     

     

     

     

     

    พีชร้องไห้ ในอ้อมกอดผมอยู่นาน จนเสียงสะอื้นเงียบไป ผมก้มมองก็พบว่า

     

     

     

     

    เจ้าตัวนั้นร้องไห้จนหลับไป ไข้ยังคงขึ้นสูงอยู่ ผมค่อยๆ อุ้มพีชไปนอนบนเตียงอย่างเบามือ

     

     

     

     

     

     

     

    ผมยกอ่างน้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ไปข้างเตียง ก่อนจะลงมือเช็ดตัวให้พีชอย่างนิ่มนวล

     

     

     

     

     

    ยิ่งเช็ดก็ยิ่งพบ รอยแดงๆนั่น

     

     

     

     

     

    ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

     

     

     

     

     

     

     




    ตอนนี้ก็เพียงแต่รอให้พีชตื่นขึ้นมา..








     

     

     

     

    10 นาทีผ่านไป

     

     

     










    30 นาทีผ่านไป

     

     










     

    1 ชั่วโมงผ่านไป

     

     

     

     






    เคร้ง!

     

     

     





    เสียงของตกทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากโซฟา เผลอหลับไปเหมือนกัน..

     

     

     

     






    พีชตื่นแล้ว?

     

     

     

     

     

    ผมรีบวิ่งไปดูก็พบว่าเจ้าตัวตื่นแล้วจริงๆ สภาพนี่แบบว่า..

     

     

     

     

     

     

    “ คือ..พีชขอโทษ พอดีไม่เห็นอ่ะ ” ดูจากอาการแล้วน่าจะดีขึ้นเยอะ ก็เล่นทำอ่างน้ำที่ผมลืมเก็บ ตกน่ะสิ

     

     

     

     

     

     

     

    “ เปียกหมดเลย รีบเปลี่ยนชุดซะ เดี๋ยวไข้ก็กลับอีกหรอก  ” ผมบอกก่อนจะหยิบเสื้อผ้าในตู้ของตนมาให้

     

     

     

     

     

     





    “ ขอบคุณฮะ ” ผมก็เลยต้องไปเอาผ้ามาถูห้องก่อนที่จะมีใครได้ลื่นอีก

     

     

     

     

     

     

     




    “ หิวมั๊ย พี่สั่งข้าวต้มไว้ให้น่ะ กินเสร็จจะได้กินยาด้วยเลย ” ผมถามหลังจากที่เห็นพีชเดินออกมาจากห้องนอน ไม่รู้ว่าผมตัวใหญ่ไม่ได้มาตฐาน หรือว่าพีชตัวเล็กกันแน่ พีชใส่ชุดผมแล้วมันดูโคร่งๆ

     

     

     

     

     

     

     




    “ ฮะ หิว หิวมากด้วย ” พีชพูดก่อนจะฉีกยิ้มให้กับผม แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย ฟื้นตัวเร็ว แถมยังฟื้นใจเร็วอีก

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ แล้วจะเล่าให้พี่ฟังได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น ” ผมถามขึ้นขณะนั่งมองพีชทานข้าว

     

     

     

     

     




    “ ข้าวต้มอร่อยจัง ” นั่นเบี่ยงประเด็นซะด้วย

     

     

     

     

     

     

     

    “ อ่ะ ง่ายๆ ขัดขืนหรือสมยอม ” ผมเลยป้อนตัวเลือกให้

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ แคกๆ ถามอะไรของพี่เอสเนี่ย ” ถึงกับสำลักเลยทีเดียว

     

     

     

     

     

     

     

    “ ก็ไม่ยอมเล่า พี่ก็เลยถามแทน ถ้าไม่บอกพี่จะทิ้งพีชไว้คนเดียวนะ ” ผมทำท่าจะลุกออกไป

     

     

     

     

     

     

     

     



    “ อ้า..บอกก็ได้ ” ได้ผลแฮะ

     




     

     

     

     

    “ สมยอมมั๊ง! ” พูดออกมาแบบเขินๆ เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ แล้วทำไม่ต้องร้องไห้เสียใจ ” แบบนี้มันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน

     

     

     

     

     




    “ ก็..ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก ” อะไรของพีชเนี่ย ผมชักจะงง

     

     

     

     

     

     

    “ รักเค้ารึป่าวล่ะ ” คำถามนี้เด็ด รับรองต้องเคลียร์แน่

     

     

     

     

     

     

    “ มันไม่เกี่ยวหรอก ว่ารักมั๊ย ประเด็นมันอยู่ที่ว่า รักไม่ได้ตังหากล่ะ ” โอ้พระเจ้า! มันแลดูเข้าใจยากจัง

     

     

     

     




     

    “ เกี่ยวสิ ถ้าพีชรักเค้า มันก็ห้ามกันไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึก ” คมมั๊ยครับ

     

    คงคาดไม่ถึงล่ะสิ ว่าผมจะมีมุมมองแบบนี้ ไม่อยากจะบอกว่าตั้งแต่ที่ผมคบกับซัม

     

    ผมก็เปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะ ^^

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ นั่นสินะ ห้าว..พีชง่วงแล้ว ขอนอนพักใจอีกหน่อยนะ แล้วจะกลับ ” ทำเป็นเมินผม และชิ่งเข้าห้องนอนซะงั้น ร้ายนะเรา!

     

     

     

     

     

     

     


    “ เดี๋ยวสิ..แล้วทำไมถึงรักไม่ได้ ” ผมตะโกนถาม คนตัวเล็กที่กำลังเดินเข้าห้องไป

     

     

     

     

     

     

     


     

    “ ก็เพราะว่าเป็นสามีของพี่สาวน่ะสิ ”




























     

    ก๊อกๆ

     

     

     

    “ พี่ปริง เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ ” ผมวิ่งขึ้นไปเคาะประตูห้องพี่ปริงแต่เช้าเลยครับ ก็มันมีเรื่องนี่หน่า เรื่องใหญ่ด้วยล่ะ

     

     

     

    “ อะไรของแกไอ้ซัม มาหาพี่แต่เช้าเชียว ” พี่ปริงเปิดประตูออกมาด้วยความงัวเงีย

     

     

     

     

    “ นี่ยังไม่ตื่นอีกหรอ? มีเรื่องใหญ่แล้วพี่ ”

     

     

     

    “ เรื่องอะไรของแกวะ ”

     

     

     

     

    “ ก็เรื่องที่พี่วินสุดที่รักของซัมจะแต่งงานไง ” นี่แหละเรื่องที่ว่า ใหญ่พอมั๊ย อีหน้าไหนไม่รู้นะจะมาแย่งพี่ชายสุดที่รักของผมไป

     

     

     

    “ อ่อ..นึกว่าเรื่องอะไร ทำเป็นตกอกตกใจไปได้ ” อะไรกัน นี่พี่ไม่สะทบสะท้านอะไรเลยหรอ

     

     

     

     

    “ นี่พี่ปริงรู้อยู่แล้วหรอ? ” น่าสงสัยจัง

     

     

     

     

    “ อื้ม..แกไปนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนไป พี่ขออาบน้ำแปบ ” นี่ไล่กันใช่ป่ะ

     

     

     

     

    “ ได้! เร็วๆนะ ซัมร้อนใจมากเลย ”

     

     

     

     

    10 นาทีผ่านไป

     

     

     

     

    “ โห..กว่าจะเสด็จลงมาได้นะ พี่ปริง รู้งี้บอกว่าไอ้แตมมาด้วยดีกว่า จะได้กะเตื้องมากกว่านี้ ” หงุดหงิดจังวันนี้ เหมือนจะมีเรื่องยังไงก็ไม่รู้

     

     

     

     

     

     

    “ น้องแตมมาหรอ..ไหน? ไหนอ่ะ ” นั่นไง นี่ขนาดได้ยินแต่ชื่อนะ บ้าจริง พี่ชายผม

     

     

     

     

    “ ไม่ได้มา..โว้ยยย ” หงุดหงิดอีกแล้ว

     

     

     

     

     

    “ แล้วไอ้เอสไม่มาด้วยหรอ เห็นตัวติดกันตลอดเลยนิ่ ”  เอส!’ นั่นสิ หรือที่หงุดหงิดจะเป็นเพราะเอส

     

     

     

     

     

    “ ไปทำธุระแต่เช้าแระ ซัมว่าเรามาเข้าเรื่องพี่วินกันดีกว่า ” ผมล่ะ อยากจะรู้จนตัวสั่นแล้ว

     

     

     

     

    “ คนที่ไอ้วินจะแต่งงานด้วย ชื่อ ลูกแพม สองคนนั่นพบรักกันที่อเมริกา แล้วเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านแพมก็กลับมา เพื่อจะมาสร้างครอบครัวกับไอ้วินที่นี่ ” ลูกแพมหรอ?

     

     

     

     

    “ ลูกแพม ผู้หญิงหรอ? ” ขนาดฟังแค่ชื่อ ผมถึงรู้สึกไม่ถูกชะตาซะแล้ว

     

     

     

     

    “ ใช่ผู้หญิง เธอเป็นนักธุรกิจใหญ่น่ะ ส่วนครอบครัวของเธอก็เห็นว่า เหลือน้องชายแค่คนเดียวมั๊ง อายุก็พอๆกับนาย ” น้องชายด้วย?

     

     

     

    “ น้องชื่อไรอ่ะ ”

     

     

     

    “ ไม่รู้สิ ซัมอยากรู้ก็โทรไปถามเจ้าตัวเองสิ ” นั่นสิ ทำไมผมไม่โทรไปหาพี่วินนะ

     

     

     

     

     

    “ พูดแล้วก็โทรเลยดีกว่า ขอบคุณนะพี่ปริง ” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วต่อสายตรงไปยังพี่ชายสุดที่รักทันที

     

     

     

     

    ตื้อ...  ตื้อ...

     

     

     

     

    “ ฮัลโหล.. ” เสียงงัวเงียเชียว

     

     

     

    “ พี่วิน..นี่ซัมนะฮะ ”

     

     

     

     

    “ ซัม! ซัมหรอ? ” ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนี้นะ

     

     

     

     

     

    “ มีอะไรรึป่าว แปบนะซัม ...หายไปไหนวะ ”

     

     

     

     

    “ มีอะไรรึป่าวพี่วิน  อะไรหายหรอ ” แลดูพี่วินจะวุ่นวายนะ

     

     

     

     

     

    “ อ่อ..ป่าวๆ ซัมมีอะไร ว่ามาเลย ”

     

     

     

     

    “ คือ..ซัมรู้มาว่าพี่วินจะแต่งงาน ทำไมพี่วินไม่บอกซัมซักนิดเลย รู้มั๊ยว่าซัมน่ะโกรธมากกกก มาง้อซัมเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นซัมจะ.. ”

     

     

     

     

    “ พอแล้วซัม ที่จริงวันนี้พี่ก็จะพาว่าที่ภรรยาพี่ไปแนะนำให้พวกเรารู้จักอยู่แล้วล่ะ ” อ่อ มันเป็นอย่างนั้นเอง

     

     

     

     

     

     

    “ พี่วินแปบนะ มีสายเข้า ” จู่ๆก็มีสายซ้อนเข้ามา

     

     

     

     

    “ สวัสดีครับ ” นี่มันเบอร์ของคนที่คอนโดเอสนิ่

     

     

     

     

    “ คุณซัมเมอร์ใช่มั๊ยครับ ” มีเรื่องอะไร รู้สึกไม่ดีเลย

     

     

     

     

    “ ใช่ครับ มีอะไรรึป่าวครับ ”

     

     

     

     

     

    “ คือที่คุณซัมเมอร์ให้คอยสอดส่องคุณเอสน่ะครับ วันนี้ผมเห็นคุณเอสพาใครก็ไม่รู้ขึ้นห้องไปครับ ” พาใครก็ไม่รู้ขึ้นห้องไปงั้นหรอ? กล้ามากนะเอส

     

     

     

     

     

    “ อ่อ..ขอบคุณฮะ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ” ผมกดวางสาย ก่อนจะเลิกพักสายพี่วิน

     

     

     

     

    “ พี่วิน ไว้ค่อยคุยกันนะ พอดีซัมงานเข้าน่ะ ”

     

     

     

    “ มีเรื่องอะไร ไอ้เชี่ยเอสหรอ? ” นั่นทำมาเป็นรู้ดีอีก

     

     

     

    “ ก็..ไม่เชิงหรอก ”

     

     

     

    “ งั้นซัมรอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะไปด้วย เผื่อจะได้ช่วยอะไร ”

     

     

     

     

     

     

    “ เอ่อ..คือพี่.วิน.. ”

     

     

     

     

     

     

    ตื้อ ตื้อ  สายโดนตัดไปแล้ว

     

     

     

     

    นี่สรุปผมต้องรอให้พี่วินมาถึงก่อนใช่มั๊ย

     

     

     

    ร้อนใจเหลือเกิน ลองโทรไปหาก่อนดีกว่า

     

     

     

    หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ

     

     

     

     

    อะไรกัน นี่สวรรค์กลั่นแกล้งผมหรอ บ้าจริง!

     

     

     

     

     

     

    20 นาทีผ่านไป รถคันหรูก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน

     

     

     

     

    ผมรีบวิ่งออกไปขึ้นรถทันที

     

     

     

     

     

    “ ด่วนเลยพี่วิน เดี๋ยวโจทย์จะหนีเสียก่อน ” ได้ตามคำสั่ง พี่วินออกรถเร็วเหนือแสง นั่นก็เว่อร์ไป แต่มันเร็วจริงๆนะ นี่ผัวใครกันแน่วะ ชักงง!

     

     

     

     

     

    ไม่เกิน 20 นาที เราก็มายืนอยู่หน้าห้องของเอสแล้ว

     

     

    “ เคาะประตูสิซัม ” เคาะหรอ? นี่ยังดีนะ ที่พี่วินยังคงเหลือความมีมารยาทอยู่บ้าง นึกว่าจะเลือดขึ้นหน้าซะอีก

     

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก

     

     

     

    ผมเคาะแล้วครับ ใจนึงก็ไม่อยากจะเคาะ กลัวจะรับความจริงไม่ได้

     

     

     

     

    ประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆ และผมก็พบว่า..ผิดห้อง เอ้ย ถูกแล้ว

     

     

     

    “ ซัม..ไอ้วิน ” เอสแลดูอึ้งไม่น้อยที่เห็นผมกับพี่วิน

     

     

     

    “ ไง..ไม่ได้เจอกันนานนะไอ้เชี่ยเอส ” คำทักทายแรกของพี่วิน นี่อย่าบอกนะว่าพี่วินยังไม่หาแค้นเอสอ่ะ ซวยกำลังสองแล้วไง ไม่น่าให้พี่วินมาด้วยเลย

     

     

     

     

     

     

    “ ซัม..มาทำไมไม่โทรหาเอสก่อนล่ะ ”

     

     

     

     

    “ โทรแล้ว ปิดเครื่อง ” เรื่องจริงนะ

     

     

     

    “ มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ซ่อนใครเอาไว้ เอาออกมาซะ ” ซ่อน ผมมองตามสายตาของพี่วิน ก็พบรองเท้าอีกคู่ที่ไม่ใช่ของเอส

     

     

     

     

    ไม่จริงน่ะ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเอสจะทำเรื่องแบบนี้กับผม

     

     

     

     

     

    นี่ผมกำลังโดนสวมเขางั้นหรอ

     

     

     

     

     

    “ ไหน มันอยู่ไหน ” พี่วินไม่รีรอ เดินเข้าไปในห้องเอสอย่างถือวิสาสะ

     

     

     

     

     

    “ พี่วิน เดี๋ยวสิ ” ผมรีบเดินตามไปห้ามพี่วินแบบติดๆ

     

     

     

     

     

     

    “ ใครมาหรอ? พี่เอส ” และคนที่เราตามหาก็โผล่มา ผมมองไปตามเสียงที่ออกมาจากห้องนอน

     

     

     

     

    เอสรีบวิ่งเข้าไปหาตัวการทันที ใครกันนะ

     

     

     

     

    และร่างเล็กๆ ก็ถูกเผลอออก

     

     

     

    “ ลูกพีช ” ผมเอ่ยชื่อคนที่เดินออกมาจากห้องนอนเอสอย่างแผ่วเบา รู้สึกเหมือนใจมันหวิวๆ  

    ปวดตรงหน้าอกข้างซ้าย

     

     

     

     

     

    “ วินเธอร์ ” แต่ลูกพีชกับตกใจที่ได้เจอกับพี่วิน แปลก? ไปรู้จักกันตอนไหน

     

     

     

     

    “ ทำไมมึงถึงได้ใส่เสื้อ.. ” นั่นมันเสื้อของเอสนิ่ ทำไมถึงได้ไปอยู่บนตัวมันนะ

     

     

     

     

    “ คือเอส..อธิบายได้นะ ”

     

     

     

     

     

    “ ได้แต่ต้องหลังจากนี้ ” เหมือนน้ำตามันจะไหล แต่ร่างกายกลับมีปฏิกิรกยามากกว่า ผมไม่รอช้าคันไม้คันมือมานานแระ งานนี้ต้องเละ

     

     

     

     

    “ เดี๋ยวซัม พี่จัดการเอง ” แต่ผมก็โดนพี่วินฉุดเอาไว้ก่อน

     

     

     

     

     

    “ พี่เอส ช่วยพีชด้วย พีชไม่อยากไปกับคนๆนี้ ” ลูกพีชเดินเข้าไปหลบอยู่หลังเอส เห็นแล้วมันน่าขยี้ให้แหลก

     

     

     

     

     

    “ หยุดนะ ไอ้วิน มึงไม่มีสิทธิ์จะเอาตัวพีชไป ” นี่เอสบ้าไปแล้วหรอ ทำไมจู่ๆ ไปปกป้องอีลูกพีชนั่น

     

     

     

     

    “ หึ! ทำไมกูจะไม่มีสิทธิ์ นายนั่นนะมันเป็นของฉัน ” ของพี่วินหรอ อะไรอ่ะ พี่วินพูดอะไรแปลกๆ

     

     

     

     

     

    “ นี่มึงพูดอะไรของมึงน่ะ ไอ้วินเธอร์ ” นั่นสิ พี่วินพูดอะไรหน้าปวดหัวจัง ไม่เข้าใจเลย

     

     

     

     

     

    “ นี่มึงยังไม่เข้าใจอีกหรอ..ก็ทั้ง ”

     

     

     

     

    “ หยุดนะ คุณจะพูดอะไรน่ะ ” ยังไม่ทันที่พี่วินจะพูดจบ ลูกพีชก็ขัดขึ้นเสียงดัง

     

     

     

     

    “ หึ..ก็จะบอกกับไอ้หน้าโง่นี่ไง ว่านายกับฉันXXX ” ว่าแล้วพี่วินผลักเอสจนล้มลง ก่อนจะกระชากลูกพีชออกมาแล้วก็กระซิบประโยคหลังที่รู้กันแค่สองคน

     

     

     

    “ ฉันขอตัวนายนี่ไปก่อนนะ ” ว่าแล้วพี่วินก็ลากตัวลูกพีชออกไป

     

     

     

     

    หลงเหลือไว้แต่ความงวยงง และความเสียใจของผม

     

     

     

    “ มีอะไรจะพูดมั๊ยเอส ” ผมเลือกที่จะใช้เหตุผลในการเจรจา

     

     

     

     

     

    “ มี เยอะด้วย ขึ้นอยู่กับว่าซัมจะเชื่อรึป่าว ” นี่ยังมีคิดจะมาต่อคำกับผมอีกทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนผิด

     

     

     

     

    “ ก็ลองเล่ามาก่อน จะเชื่อหรือไม่ ไว้หลังจากที่เล่าจบ ”

     

     

     

    และเอสก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

     

     

     

    ผมเชื่อนะ

     

     

     

     

    ผมไม่ได้ง่ายนะครับ แต่..คุณรู้จักคำว่า การเชื่อใจกันรึป่าว ถ้าเรารักกัน แต่ไม่เข้าใจกัน ไม่เชื่อใจกัน ชีวิตคู่มันจะรอดรึป่าวล่ะครับ

     

     

     

     

    ผมเชื่อในตัวเอส ว่าเค้าจะไม่หักหลังผม

     

     

     

     

     

    “ ซัมเชื่อ แต่อย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีกนะเอส ”

     

     

     

     

     

    “ จะ ที่รัก โหดแบบนี้ใครจะกล้าล่ะจ๊ะ ” แหม่ะ ปากหวานมาเชียว

     

     

     

     

    “ เรื่องเราก็เคลียร์แล้ว เหลือก็แต่เรื่องไอ้วินกับลูกพีช ” จู่ๆ เอสก็พูดประโยคนั้นขึ้นมา

     

     

     

     

    “ ทำไมหรอเอส ” แต่จริงๆ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน

     

     

     

     

    “ ไม่รู้สิ เอสว่าเราคงต้องเปลี่ยนจากสถานะคู่รักปกติมาเป็นคู่รักนักสืบแล้วล่ะ ” แน่ใจหรอ ว่าที่เราเป็นอยู่มันปกติ

     

     

     

     

    “ อื้ม..ซัมว่าวันนี้เราค้างที่นี่กันดีกว่า ”

     

     

     

    “ ก็ดีนะ ยิ่งตอนนี้เอสหิวแล้วด้วย ขอกินเลยได้มั๊ยอ่า ”  เอสพูดก่อนจะเดินเข้ามาหาผม..ไม่ค่อยจะหื่นเลยน้า บ้าจริง!!!









     

    ----------------------------- <






    Writer Talk >>>



    จากที่ไม่ได้อัพส์มานานแสนนาน



    ก็ทนเสียง ของการรอจากแฟนๆ ไม่ไหว



    จึงต้องกลับมาอัพส์ด้วยตัวเอง



    ก็น่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เพียงฝากไว้ว่า คงอัพส์นานๆ ครั้ง



    แต่จากใจของไรเตอร์คืออยากให้เรื่องนี้ จบ บริบูรณ์


    ขอบคุณสำหรับ ทุกคนที่ติดตามมาตลอดนะคะ




     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×