ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K&J Friends(?) Forever... ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : K&J J&K [5] : I'm not angry, just.....

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 912
      4
      20 มี.ค. 53






                   
    ผมมองเคกับเชอรี่ที่นั่งคุยด้วยกันอย่างสนุก อืม...แล้วกูจะนั่งกินข้าวตรงไหนวะ? ผมมองหาที่ว่างๆ ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกวักมือเรียก... เรียกกูหรือเปล่า? ผมหันไปมองรอบๆ ก็มีแค่ผมที่ยืนคนเดียว สรุป...เรียกกูใช่ปะ ผมชี้ที่ตัวเอง เขาก็ยิ้มแล้วพยักหน้าครับ ผมว่าจะเดินไปนั่งกับเขา อย่างน้อยก็มีที่นั่งกินแหละน่า แต่สายตาเหลือบไปเห็นโต๊ะว่างพอดีเลย ก็เลยส่ายหน้าปฏิเสธไป แต่ก็ยิ้มให้เขาแทนคำขอบคุณ

     


                    แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน แต่เขาก็ยังใจดีกว่าคนบางคนเยอะ!!!

     


                    โต๊ะที่ว่างนี่ อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะผมสักเท่าไหร่ ผมมองจานข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า ทั้งๆที่เมื่อกี้หิวจนจะแทะแขนไอ้คนลืมเพื่อนได้ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกกินไม่ค่อยลง...

     


                    ทำหน้าเป็นหมาหงอยเลยนะมึง ผมเงยหน้ามองไอ้คนปากเสียที่มาทัก ก็หัวเราะน้อยๆ แม้มันจะพูดจาล่อตีนไปหน่อย แต่ดูก็รู้ว่ามันห่วงผม กูซึ้งว่ะ

     


                    มาคนเดียวหรือไง ไอ้ซีล่ะ?

     


                    นั่นไง ตามมาแล้ว ผมมองซีที่ยกชามก๋วยเตี๋ยวมาสองชาม ด้านหลังมีปอนเดินตามมาติดๆ

     


                    แม่ง! กูต้องโดนมดกัดตายแน่เลย! รู้สึกอนาถว่ะมาถึงคุณซีก็บ่นเลยครับ ผมมองชามก๋วยเตี๋ยวที่มันถือมา อืดได้ที่เลย.... ทำไมมันอืดอย่างนี้วะ?

     


                    พวกกูรอมึงไง ไม่ต้องมาทำซึ้ง แดกๆไปเลย!” อาร์พูดหน้าแดงเล็กน้อย คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากแก้เขิน อาร์...มาทำหน้าอย่างนี้เดี๋ยวก็เสร็จกูหรอก ถึงเป็นผู้ชายน่ารักขนาดนี้ใครจะปฏิเสธลง! (สงสัยบ้านเจจะไม่มีกระจก เลยไม่รู้สารรูปตัวเอง!)

     


                    ผัวะ!!

     


                    โอ๊ย! ตบหัวกูทำไมเนี่ย

     


                    มองเชี่ยอะไรล่ะมึง แดกข้าวไปเลย ผมหันไปค้อนใส่ไอ้ซีทีนึง ชิ! แค่มองอาร์ทำไมต้องตบหัวกูด้วยวะ! ผมมองซีกับอาร์สลับกัน...อ้อ!~ หึหึหึ กูมีเรื่องแกล้งมึงเวลาว่างแล้วว่ะซี หึหึหึ



                    นั่งไปได้พักหนึ่งฝาแฝดกับอ๊อดก็ตามมาครับ มาถึงก็บ่นแบบซีเลย เหอๆ ตายเพราะมดกัด... ชีวิตพวกมึงที่น่าสงสารจริงๆ ผมนั่งฟังไปหัวเราะไป แต่ลึกๆในใจ ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่เลย เป็นอะไรไปนะผม...

     


                    มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะครับ เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ผมนั่งสัปหงกฟังอาจารย์สอนเรื่องวรรณคดีอะไรสักอย่าง ไม่เข้าหูเลยสักนิด แรงสะกิดจากคนข้างตัวทำให้ผมหันไปเหลือบมอง ด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อย

     


                    เจโกรธเคหรอครับ คนถามทำหน้าจ๋อย หน้าตาสลดราวกับลูกหมาถูกทิ้ง ผมถอนหายใจอย่างเอือมๆ กูบอกมึงไปแปดล้านรอบแล้วมั้งเนี่ย

     


                    เจไม่ได้โกรธ เจบอกเคไปหลายครั้งแล้วนะ จะถามทำไมอีก ผมตอบเสียงห้วน ก่อนจะนอนฟุบลงไปเพื่อตัดบท ฝ่ายนั้นก็เงียบไม่ได้ยุ่งอะไรกับผมอีก

     


                    ผมรู้สึกตัวตื่นตอนได้ยินเสียงออดหมดคาบ ผมมองนาฬิกาก็ตกใจ นี่เลิกเรียนแล้วเรอะ!!! โอ้โห! สามารถว่ะเรา ผมมองที่นั่งข้างๆที่ไม่มีเจ้าของอยู่แล้วก็ถอนหายใจ ผมเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ครับ ตั้งแต่พักเที่ยงก็คุยกับมันแทบนับคำได้ ถ้าถามว่าโกรธหรอ? ผมไม่ได้โกรธครับ ก็แค่... ไม่รู้อะ-0- เหอๆ ท่าจะบ้านะกู

     


                    โอ้~เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้ว ผมตวัดตามองแบงค์ที่เดินแกว่งปากหาตีนอย่างหาเรื่อง มีเสียงหัวเราะของแฝดพี่เป็นคอรัส ใครเป็นเจ้าหญิงวะ!? แบงค์ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ เหอะ! เดี๋ยวได้เบอร์41 เป็นของว่างหรอกมึง!

     


                    ไอ้เคล่ะ ผมถามถึงคนที่หายไปอย่างไร้ล่องลอย ผมทำตัวไร้เหตุผลแบบนี้มันจะโกรธผมมั้ยนะ? ผมเม้มปากกแน่น ต่อว่าความงี่เง่าตัวเองในใจ มึงเป็นบ้าอะไรของมึงไอ้เจ!!

     


                    มันแจ้นไปหาสาวแล้วน่ะสิ เห็นวันนี้นัดกันไปเที่ยว เซ็งชะมัด เจ! ไปเที่ยวกันบ้างเปล่า บอยหันมากอดคอผมไว้ คอยคำตอบอย่างมีหวัง ผมหัวเราะแห้งๆก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธมันไป รู้สึกไม่ค่อยอยากเที่ยวสักเท่าไหร่

     


                    ไม่ว่ะ อยากกลับบ้านไปนอนมากกว่า ไว้วันหลังล่ะกัน กูกลับล่ะ ผมก้มหน้าก้มตาเก็บของ รู้สึกใจมันหวิวๆชอบกล หรือจะไปเที่ยวต่อดีหว่า? แต่บอกไม่ไปแล้วอะ กลัวเสียฟอร์ม...



                    เจไปเหอะ~ กลับบ้านไปก็ไม่มีไรทำ บ้านมึงไม่หนีไปไหนหรอกน่า ไม่ต้องอ้าปากบอกไม่เลยนะมึง กูไม่ได้ถาม กู-บัง-คับ!” อาร์มาจากไหนไม่รู้ครับ รัวใส่ผมเป็นชุด แล้วก็ลากคอผมออกไปเลย เหอๆ เอาวะ ไปก็ไป กลับห้องไปก็คิดมากอยู่ดี ไปเที่ยวให้หัวมันโล่งๆดีกว่า

     


                    เออๆ แต่กูขอไปเอามอร์ไซก่อน พวกมึงนั่งอัดแท็กซี่กันไปล่ะกัน เดี๋ยวกูขี่ตามไป เดี๋ยวก่อน...ขี่ตามไป โหยยย~ เปลืองน้ำมันสุดพลัง

     


                    เฮ้ยๆ กูขอเอามอร์ไซไปเก็บที่อพาร์ทเมนท์ก่อนดีกว่า พวกมึงนั่งแท็กซี่ตามมาล่ะกัน อ๊ะๆ อย่ามาแย้งกูนะ ไม่งั้นกูกลับบ้าน คิดว่าคนอย่างกูขู่คนไม่เป็นรึไง!! พูดจบพวกมึงก็ส่ายหน้าพรืด ผมหัวเราะกับท่าทางพวกมัน อะไรจะอยากให้ผมไปด้วยขนาดนั้น

     


                    เดี๋ยวกูไปกับมึงนะ เจ ผมมองปอนที่เดินมาอยู่ข้างผม

     


                    ถ้ามึงไปกับกูใครจะบอกทางพวกนั้นล่ะ ไม่เป็นไรหรอก กูขี่เองได้น่า  ผมยิ้มให้ปอนที่มองมาที่ผมอย่างเป็นห่วง เพื่อนคนนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ห่วงผมเสมอ ทั้งๆที่เพิ่งจะรู้จักกันแท้ๆ

     


    ซึ้งใจว่ะเพื่อนT^T

     


    ระหว่างทางไปอพาร์ทเมนท์ไม่ไกลมากครับ ผมขับสบายๆไม่รีบ แต่เพราะผมขับสบายเกินไปรึเปล่า เลยโดนรถด้านหลังบีบแตรให้เป็นของขวัญ สาด! กูขับของกูอยู่ดีๆ บีบแตรหาพ่องหรอครับ!?

     


    ไอ้รถคันนี้ขับขึ้นมาหมายจะแซงผม ผมก็เตรียมอ้าปากด่าเลยครับ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคนขับคือคนที่ทำให้ผมคิดมากจนแทบบ้า ข้างๆคนขับคือเพื่อนสาวสุดน่ารักของผม ท่าทางเคก็ชะงักไปเหมือนกัน แต่ก็ขับผ่านไป

     


    เร็วจังนะมึง... เพิ่งจะแนะนำให้รู้จักกันเมื่อวาน วันนี้ก็ไปเที่ยวกันสองต่อสองซะแล้ว

     


    แล้วผมเป็นอะไรเนี่ย จะรู้สึกหงุดหงิดไปทำไมนะ ผมควรจะดีใจกับเพื่อนไม่ใช่หรอ...



    พวกผมกำลังนั่งอัดกันในรถแท็กซี่อีกแล้ว! เพิ่งจะบ่นไปเมื่อวานว่าจะไม่นั่งแล้ว สุดท้ายก็เป็นแบบเดิม เซ็งจิตครับ! พอลงมาจากรถ ไอ้พวกนี้ก็หยิบแว่นดำกับหมวกแล้วก็ผ้าปิดปากมาใส่ เอ่อ...เขาจะให้มึงเข้าห้างมั้ยสาด ผมเดินห่างพวกมันประมาณ 100 เมตร ทำทีไม่รู้จักกันเพราะพวกนี้มันทำตัวมีพิรุธสุดๆ เดินหลบตามเสาตามหลืบ ด้านหลังมียามเดินตามอยู่ห่างๆครับ



     

    เหอๆ นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดที่มากับพวกมันนะ...

     


    จริงๆแล้วผมก็โดนพวกมันจับใส่นะครับ แต่ผมมีสติพอที่จะถอดไอ้อุปกรณ์น่าสงสัยทิ้งไป ผมไม่ถามมันหรอกนะครับว่า ทำเชี่ยอะไรกัน เพราะผมกลัวคุณยามมาลากผมไปเกี่ยวข้องด้วยน่ะสิครับ ผมเดินทอดน่องไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจพวกเพี้ยนด้านหลัง กวาดตามองไปเรื่อยๆ ก็สะดุดกับแผ่นหลังของคนสองคนที่ช่างคุ้นตา

     


    ผมกำลังเพ่งมองอย่างตั้งใจ แต่ก็โดนใครไม่รู้ฉุดเข้ามาในซอกหลืบ! ผมตกใจมากเลยครับ ดิ้นสุดแรงเกิดเลย แต่พอเห็นพวกเพี้ยนที่ยืนอยู่ก็ทำให้ผมหยุดดิ้น หันไปมองข้างหลังก็เป็นปอนครับที่มาฉุดผม

     


    เล่นเชี่ยอะไรวะ กูตกใจหมด!!!” พอปอนปล่อยมือจากปากผม ก็ด่ามันเลยครับ ถึงแม้จะเห็นว่าเป็นเพื่อน แต่ความตกใจที่มีอยู่ก็ทำให้ผมคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกว่าตัวสั่นน้อยๆ ก็กัดฟันพยายามคุมตัวเองให้อยู่ เพราะไอ้เรื่องบ้าๆนั่น เพราะมัน ทำให้ผมกลายเป็นแบบนี้

     


    เจ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ อย่าร้องไห้นะ ขอโทษษ อย่าร้องนะครับบ ปอนดึงผมเข้าไปกอดปลอบ นี่ผม...ร้องไห้งั้นหรอ ผมผลักปอนออกเบาๆ เช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะยิ้มให้มันเห็นว่าผมไม่เป็นอะไร

     


    กูขอโทษ กูไม่เป็นไร แค่ตกใจนิดหน่อย ทำหน้าจ๋อยกันทำไมวะ แล้วนี่แต่งตัวบ้าอะไรเนี่ย เห็นมั้ยว่า ยามเขาถือกระบองไว้แล้วนะเว้ย รีบถอดเหอะมึง

     

    ไม่ได้บ้านะเว้ย แต่ที่ทำแบบนี้เนี่ยสะกดรอยตามเค อ๊อดรีบพูดเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศ เออดี มีคนรับมุขกูทันด้วย พวกที่เหลือก็เริ่มเออ ออตามครับ

     


    เหอๆ แล้วจะตามมันทำไม ว่างนักหรอไง 

     


    น่าหมั่นไส้มันอะ! เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวาน วันนี้แม่งก็มากระหนุงกระหนิงกันแล้ว เห็นแล้วน่าหงุดหงิดว่ะ บอยพูดพลางกัดผ้าเช็ดหน้าอย่างสุดแค้น

     


    โอ๊ะ~ นี่ผมไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอยู่คนเดียวหรอเนี่ย ที่หงุดหงิดขนาดนี้เพราะหมั่นไส้มันสินะ!

     


    ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับบอย พวกมันเริ่มถอดแว่นและผ้าปิดปาก แล้วก็เก็บหมวกกันแล้วครับ เก็บช้าไปมั้ยพวกมึง! ไม่สิ มันไม่ควรจะใส่ตั้งแต่แรกแล้วว้อย!!!!

     


    มาถอดตอนนี้ช้าไปมั้ยวะ ผมด่าเข้าให้

     


    จุ๊ๆ เจน้อยช่างไม่เข้าใจอะไรซะเลย ถ้าพวกผมเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้ามามันก็เป็นจุดเด่นสิครับ แบงค์หันมาฉีกยิ้มหวาน คิดเข้าข้างตัวเองซะเต็มประดาว่า ไอ้ที่ปิดหน้าปิดตาเนี่ย มันไม่เด่น ไม่-เด่น-เลย!!!!

     


    ผมเบะปากอย่างไม่เห็นด้วยกับมัน พวกเราย้ายที่ออกจากซอกหลืบเดินตรงไปสเวนเซ่นที่ที่ไอ้คุณเคกำลังดี้ด๊าอย่างมีความสุข น่าหมั่นไส้จริงๆนั่นแหละ!

     


    ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วล่ะครับว่าพวกนี้เวลาไปไหนก็มักจะเด่นสะดุดตาเสมอ ไม่ใช่เพราะหน้าตาดีอย่างเดียว เสียงยังดังโหวกเหวกอีกต่างหาก และเคมันก็ต้องรู้ตัวแน่แหละครับ เพราะผมเห็นมันชะงัก แล้วก็กุมขมับ... เห็นแล้วเครียดแทนครับแต่...สะใจมากกว่า!!

     


    โอ้! เค บังเอิ๊ญ~บังเอิญ~จริงๆที่ได้มาเจอมึงที่นี่ เสียงที่สุดแสนจะเซอร์ไพรส์ของอ๊อดบวกกับท่าทางที่ดีใจสุดๆ ทำให้คนดูก็รู้ว่าเฟคสุดชีวิตเป็ด!


    ผมพวกฉีกยิ้มกว้าง โบกไม้โบกมือทักทายชายเคอย่างกับไม่ได้เจอกันมาสักชาติเศษ หึหึ ไอ้เพื่อนรัก! ใครจะยอมให้มึงมีความสุขอยู่คนเดียวละฟะ!? ฮ่าๆๆๆ ความสุขบนความทุกข์เพื่อนนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง!!!

     

    เชอรี่ก็หัวเราะกับการปรากฏตัวที่สุดแสนจะอลังการ?ของพวกผม อา...ช่างเป็นรอยยิ้มที่ทำให้โลกสดใสจริงๆ แต่ในความเป็นจริงเธอช่างรั่วสิ้นดี(ฮา) ไว้ค่อยแชร์วีรกรรมเธอหลังไมค์นะครับ: )


    พวกผมจัดการต่อโต๊ะเองเสร็จสรรพ ไม่สนใจว่าจะมีรังสีอาฆาตจากเคเลยแม้แต่น้อย เคโดนอ๊อดกับปอนลากไปนั่งหัวโต๊ะครับ ผมนั่งครงข้ามรี่ ถัดจากผมก็เป็นปอน ไอ้อ๊อดกะหม้อครับ นั่งข้างรี่อย่างไม่แคร์สื่อ ส่งยิ้มหวานให้เชอรี่ ก่อนจะทำหน้าล่อตีนใส่เค เหอๆ เดี๋ยวมึงก็ได้ของสมใจอยากหรอก! แล้วก็เหลือคู่ปาท่องโก๋ที่เข้าโลกส่วนตัวไปแล้ว (แต่ไม่ลืมที่จะหันมาย้ำกับเคว่า มึงต้องจ่าย) ผมว่าไอ้คู่นี้น่าหมั่นไส้มากกว่าเคกับรี่อีกนะครับ และปิดท้ายด้วยบีหนึ่งแล้วบีสอง ที่สั่งไม่เกรงใจเจ้ามือ

     

    ผมมองเคที่ทำปากขมุบขมิบด่าพวกผม ก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจสุดๆ! ก๊ากกกกก สมน้ำหน้า!!! กระเป๋าจงฉีกขาด! ขนหน้าแข้งจงร่วง! ธุรกิจมึงล้มละลายยยยย=[]=

     

    อยู่ๆไอ้ชายเคก็หยุดบ่นแล้วหันมาทำหน้าควายงงใส่ผมครับ อะไรของมึง?

     

    เจ... หายโกรธเคแล้วหรอ มันยังคงกลุ้มใจเรื่องนี้ต่อไป นี่ที่ตอบไปไม่ช่วยให้มันเข้าใจเลยใช่มั้ยเนี่ย? ผมกวักมือเรียกให้มันยื่นหน้ามาใกล้ๆ ไอ้นี่ก็เชื่องครับ ยื่นมาตามคำเชิญ ผมฉีกยิ้มกว้าง... เสร็จตูวววว!!!

     

    เพียะ!!!

     

    อย่าตกใจครับ!! ผมไม่ได้ตบมันครับ ผมดีดหน้าผากมันครับทุกคน รอยแดงเป็นปื้นเด่นบนหน้าผากเคเลยครับ เคงี้ร้องลั่นเลย มองผมอย่างไม่เข้าใจ ไอ้โง่ววววว

     

    ต้องให้กูอัดเสียงไว้ไหมว่า กู-ไม่-ได้-โกรธ-มึง’” ผมเน้นย้ำคำเผื่อมันจะฝังเข้าไปในสมองเคบ้าง

     

    แต่กูขอโทษที่หงุดหงิดใส่มึงนะ พอดีกูอารมณ์เสียนิดหน่อยว่ะเลยพาล แฮะๆ โทษทีว่ะ ผมพูดเสียงอ่อย ทำหน้าสำนึกผิดแบบสุดๆ (จริงๆแล้วไม่เลยสักนิด!) เคเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ผมยกมือห้ามไว้

     

    กูช่วยให้มึงรู้จักกับเชอรี่แล้วนะ มื้อนี้เลี้ยงกูด้วย อ้อ!ไม่ใช่แค่สเวนเซ่นอย่างเดียวนะ อย่าลืมสัญญานะครับคุณเค กระซิบบอกมันจบก็ฉีกยิ้มหวาน ไอ้เคก็ผลักหัวผม(อีกแล้ว!)

     

    อะไรกันสองหนุ่ม ซุบซิบอะไรกัน บอกรี่ได้รึเปล่า เชอรี่ยื่นหน้าเข้ามาครับ เล่นเอาผมสะดุ้งเล็กน้อย

     

    ความลับครับ เสียงของผมกับเคประสานขึ้นพร้อมกัน ผมรีบหยิกมันเลยครับ ตอนเด็กๆชอบเล่นกับแม่ครับ

     

    หยิกก่อนได้บุญว่ะ ไอ้เคมองรอยแดงที่แขน แยกเขี้ยวใส่ผม แล้วหยิกผมกลับครับ!

     

    โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย~ โคตรเจ็บ!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เล่นแรงชิบเลยครับ ผมไม่ได้หยิกมันแรงซะหน่อย!! แค่(เกือบ)เบาๆเองอะ!

     

    ผมมองรอยที่แดงกว่า น้ำตาแทบเล็ด มองไอ้เคอย่างเอาเรื่อง ไอ้นั่นก็ยิ้มหวานครับ ยักคิ้วแถมมาให้อีก เดี๋ยวมึงได้ตีนแถมไอติมแน่!

     

    เจไม่รู้อะไร หยิกทีหลังว่าที่แฟนน่ารักนะ! :)” แทบจะอ้วกใส่หน้ามุนเลยครับ ส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้รี่ที่นั่งอายม้วน ทุกคนในโต๊ะโห่อย่างหมั่นไส้ ทุกคนพร้อมใจกันสั่งเอิร์ธเควกมาอีกชามครับ

     

    เฮ้ย มัวแต่กัดกับเคเพลินลืมสั่งเลยอะ!

     

    มึงเอาเอิร์ธเพิ่มอีกหนึ่ง กูยังไม่ได้กินเลยนะ~” 

    TBC.~

    JUz Talk : มีคนเกลียดเชอรี่แล้ววว~ จริงๆพยายามเขียนไม่ให้เชอรี่โดนเกลียดนะคะ=_= ฮ่าๆๆ แต่ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายคนที่จะโดนเกลียดที่สุดคือ ไอ้ชายเค!!! ฮ่าๆๆๆ หมั่นไส้มันค่ะ

     

    ตอนหน้าหวานนนนนนรึป่าว? ฮ้าๆๆๆๆ

     

    ขอบคุณคอมเมนท์~ รักมายมาย ขอบคุณค่ะ:)

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×